ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ชายหนุ่มที่คิดว่าใช่
กลางเมืองหลวง ท่ามกลางผู้คนนับหมื่นเดินกันขวักไขว่บนท้องถนนอย่างรีบเร่ง มีหญิงสาวคนหนึ่งเธอกำลังมองซ้ายมองขวามาได้พักหนึ่งแล้ว เธอมองหาอะไรนะ แล้วจู่ๆเธอก็หยุดการมองซ้ายทีขวาทีดังแต่ก่อน แต่เธอกลับเพ่งไปยังชายหนุ่มร่างสูงคนนึงที่เดินตัดหน้าเธอไปอย่างรีบด่วน เขาหอบกองเอกสารตั้งเบ้อเร่อ ดูท่าทางจะหนักมากเชียว ไหล่ของเขากระทบไหล่ของหญิงสาวเบาๆ เขาไม่ทันได้สังเกตว่ากระดาษปึกหนึ่งร่วงลงสู่พื้นถนนขณะที่เขาชนเธอ เขาไม่ได้ปริปากพูดอะไรแต่กลับเดินเฉยผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"คนกรุงเทพนิสัยอย่างนี้กันหมดรึไงนะ" หญิงสาวฉุนเล็กน้อย บ่นออกมาอย่างไม่พอใจ
"ขอโทษครับ ช่วยเก็บกระดาษที่อยู่ตรงปลายเท้าคุณให้หน่อยได้มั้ยครับ" เขาเดินกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เป็นเพราะเขาเดินห่างไปไม่ไกลเนื่องจากคนแออัดกันไปหมด เขาจึงได้ยิน รึว่าเขาตั้งใจจะหันมาพูดอยู่แล้วนะ ฉันค่อยๆๆก้มลงไปหยิบกระดาษปึกหนึ่งที่ปลายเท้า แล้วนำมายื่นให้เขา เขายิ้มอีก โอ๊ย ฉันอยากจะร้องไห้ ทำไมเขายิ้มน่ารักอย่างนี้
"เมื่อตะกี้ขอโทษนะครับ" เขาพูด
"โธ่ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ" ฉันพูดอย่างอายๆ ก็เมื่อกี้เพิ่งจะบ่นออกไปแล้วตอนนี้ดันเผลอพูดออกไปได้ซะว่าไม่เป็นไร
เขาหัวเราะเบาๆโดนไม่ออกเสียง แล้วก็ก้มหัวก่อนจะเดินไปทางเดิมอีก
จะทำยังไงดีนะ ทั้งๆที่ได้เจอหนุ่มหล่ออย่างนี้แล้ว แย่จัง เค้าคงจะมีแฟนแล้วแน่ๆ โธ่ ทำไมผู้ชายหล่อๆถึงต้องมีแฟนกันหมดนะ แต่ มันก็อาจจะไม่แน่เสมอไปนี่นา ใช่สิ ถ้าไม่ลองถามแล้วจะรู้เหรอ ฉันตัดสินใจได้ ว่าจะถามเขาไป
"เอ่อ คุณมีแฟนรึยังคะ" ฉันถามออกไปอย่างหน้าไม่อาย ก็มัวแต่อายแล้วฉันจะได้มีแฟนซะทีมั้ยเนี่ย
"ยังครับ" เขาตอบสั้นๆแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงจะถามกลับมาอีกว่า ทำไมเหรอ
"งั้น คบกับชั้นนะ" ฉันถามอีก เขาดูงงไปเลย ก็คงจะงงอยู่หรอก อยู่ดีๆก็เจอผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาขอคบเป็นแฟน
"ผม ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว แต่ถ้าจะเป็นเพื่อนกันก็ไม่รังเกียจหรอกนะ" เขาตอบปฏิเสธมา ก็คงจะอยากเป็นเพื่อนกับฉันอยู่หรอก ฉันทั้งสวย ทั้งเก่งอย่างนี้ ใครที่ไหนจะไม่อยากเอาไว้ควงบ้างล่ะ ตอนนี้ฉันก็คงจะเป็นว่าที่แฟนหมายเลข ๑ ล่ะมั้ง ฉันคิดไปก็หัวเราะไป
"ไม่รังเกียจหรอกค่ะ นี่ค่ะ นามบัตรของชั้น เผื่อว่าการเป็นเพื่อนของเราจะได้เริ่มต้นซะทีไงล่ะคะ" ฉันบอกพร้อมกับยื่นนามบัตรไปให้ พลางพูดประชดเล็กน้อย เขาก็คงจะสังเกตทันหรอกนะ
"ครับ ขอบคุณครับ นี่ของผม" เขายื่นมือมารับไปพร้อมกับหยิบกระเป๋าตังค์ออกจากกระเป๋ากางเกงด้านหลัง แล้วเขาก็หยิบนามบัตรของเขาออกจากกระเป๋าตังค์ พร้อมกับยื่นมาให้ นี่เค้าไม่ได้สังเกตเลยเหรอเนี่ย
"ขอบคุณค่ะ ชั้นหวังว่าคุณจะติดต่อกลับมานะคะ" ฉันพูดทิ้งท้ายแล้วเดินจากมา จะเป็นยังไงบ้างนะ พูดอย่างนั้นออกไปแล้ว ถ้าเขาไม่ติดต่อกลับมาล่ะแย่เลย เอาเถอะ ถือว่าวันนี้โชคดีที่ได้เจอคนหล่อ แต่ อุ๊ย ชั้นลืมถามว่าเขาชื่ออะไรนี่นา ตายล่ะ แย่จริงๆเลยชั้น แต่เขาให้นามบัตรมานี่ แต่แหม น่าจะแนะนำตัวบ้างนี่นา ฉันคิดอย่างน้อยใจ
ฉันก้มมองดูนามบัตรเขาที่ถือติดมืออยู่ เขาชื่อเชษฐา กิตินนท์ เป็นผู้จัดการโรงละครกิตินนท์ชื่อดังนั่นน่ะเหรอ เฮ้อ ช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย หนุ่มหล่อก็ชอบสาวสวย หนุ่มหล่อก็มักรวย แย่จัง แล้วคนจนๆอย่างฉันล่ะ ใครจะมาชอบกัน ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินเข้าตึกไป ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นที่ทำงานของเธอ
+ + + + +
แง่ง ทุกคนที่เข้ามาอ่านก็จงเม้นท์ซะ จงเม้นท์... จงเม้นท์ ขอร้องล่ะค่ะ
ใครไม่เม้นท์ระวังโดนคำสาปแช่งจากทาคิไม่รู้ด้วยนะเอ้า (ขอบอกไว้ก่อนว่าคำสาปแช่งของทาคิมีผลเสมอมา หุหุ ล้อเล่นน่ะค่ะ) ทาคิรู้ดีว่าเรื่องของทาคิมันไม่ได้สนุกอะไรมากมาย (อาจจะไม่ได้เรื่องเลยก็ได้สำหรับใครบางคน) แต่สำหรับคนที่คิดว่ามันสนุกก็ช่วยๆกันเม้นท์นิดนึงนะคะ ถือว่าเป็นคำขอร้อง เพราะทาคิจะได้รู้ตัวเองสักที ว่าที่เข้ามาอ่านกันเนี่ย อ่านกันจริงรึเปล่า แล้วก็จะได้เป็นกำลังใจให้ทาคิแต่งตอนต่อไปด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาค่ะ แล้วก็ขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้ทาคิเสมอมาค่ะ ทาคิบอกแล้วว่าเรื่องนี้ทาคิใช้เวลาแต่งนานมากจริงๆ (ปกติถ้าเป็นเรื่องอื่นไม่กี่เดือนก็จบ) แต่สำหรับเรื่องนี้ ปีที่ 4 แล้วค่ะ เวลาที่ใช้ในการแต่งมากเหลือเกิน ถ้าเข้ามาช่วยเม้นท์ก็จะดีมากเลย จะด่าจะว่าจะตำหนิอะไรไม่ว่ากันค่ะ เราเป็นคนรุ่นใหม่รับฟังทุกเสียงค่ะ ขอให้ช่วยเม้นท์หน่อยเถอะนะคะ
"คนกรุงเทพนิสัยอย่างนี้กันหมดรึไงนะ" หญิงสาวฉุนเล็กน้อย บ่นออกมาอย่างไม่พอใจ
"ขอโทษครับ ช่วยเก็บกระดาษที่อยู่ตรงปลายเท้าคุณให้หน่อยได้มั้ยครับ" เขาเดินกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เป็นเพราะเขาเดินห่างไปไม่ไกลเนื่องจากคนแออัดกันไปหมด เขาจึงได้ยิน รึว่าเขาตั้งใจจะหันมาพูดอยู่แล้วนะ ฉันค่อยๆๆก้มลงไปหยิบกระดาษปึกหนึ่งที่ปลายเท้า แล้วนำมายื่นให้เขา เขายิ้มอีก โอ๊ย ฉันอยากจะร้องไห้ ทำไมเขายิ้มน่ารักอย่างนี้
"เมื่อตะกี้ขอโทษนะครับ" เขาพูด
"โธ่ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ" ฉันพูดอย่างอายๆ ก็เมื่อกี้เพิ่งจะบ่นออกไปแล้วตอนนี้ดันเผลอพูดออกไปได้ซะว่าไม่เป็นไร
เขาหัวเราะเบาๆโดนไม่ออกเสียง แล้วก็ก้มหัวก่อนจะเดินไปทางเดิมอีก
จะทำยังไงดีนะ ทั้งๆที่ได้เจอหนุ่มหล่ออย่างนี้แล้ว แย่จัง เค้าคงจะมีแฟนแล้วแน่ๆ โธ่ ทำไมผู้ชายหล่อๆถึงต้องมีแฟนกันหมดนะ แต่ มันก็อาจจะไม่แน่เสมอไปนี่นา ใช่สิ ถ้าไม่ลองถามแล้วจะรู้เหรอ ฉันตัดสินใจได้ ว่าจะถามเขาไป
"เอ่อ คุณมีแฟนรึยังคะ" ฉันถามออกไปอย่างหน้าไม่อาย ก็มัวแต่อายแล้วฉันจะได้มีแฟนซะทีมั้ยเนี่ย
"ยังครับ" เขาตอบสั้นๆแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงจะถามกลับมาอีกว่า ทำไมเหรอ
"งั้น คบกับชั้นนะ" ฉันถามอีก เขาดูงงไปเลย ก็คงจะงงอยู่หรอก อยู่ดีๆก็เจอผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาขอคบเป็นแฟน
"ผม ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว แต่ถ้าจะเป็นเพื่อนกันก็ไม่รังเกียจหรอกนะ" เขาตอบปฏิเสธมา ก็คงจะอยากเป็นเพื่อนกับฉันอยู่หรอก ฉันทั้งสวย ทั้งเก่งอย่างนี้ ใครที่ไหนจะไม่อยากเอาไว้ควงบ้างล่ะ ตอนนี้ฉันก็คงจะเป็นว่าที่แฟนหมายเลข ๑ ล่ะมั้ง ฉันคิดไปก็หัวเราะไป
"ไม่รังเกียจหรอกค่ะ นี่ค่ะ นามบัตรของชั้น เผื่อว่าการเป็นเพื่อนของเราจะได้เริ่มต้นซะทีไงล่ะคะ" ฉันบอกพร้อมกับยื่นนามบัตรไปให้ พลางพูดประชดเล็กน้อย เขาก็คงจะสังเกตทันหรอกนะ
"ครับ ขอบคุณครับ นี่ของผม" เขายื่นมือมารับไปพร้อมกับหยิบกระเป๋าตังค์ออกจากกระเป๋ากางเกงด้านหลัง แล้วเขาก็หยิบนามบัตรของเขาออกจากกระเป๋าตังค์ พร้อมกับยื่นมาให้ นี่เค้าไม่ได้สังเกตเลยเหรอเนี่ย
"ขอบคุณค่ะ ชั้นหวังว่าคุณจะติดต่อกลับมานะคะ" ฉันพูดทิ้งท้ายแล้วเดินจากมา จะเป็นยังไงบ้างนะ พูดอย่างนั้นออกไปแล้ว ถ้าเขาไม่ติดต่อกลับมาล่ะแย่เลย เอาเถอะ ถือว่าวันนี้โชคดีที่ได้เจอคนหล่อ แต่ อุ๊ย ชั้นลืมถามว่าเขาชื่ออะไรนี่นา ตายล่ะ แย่จริงๆเลยชั้น แต่เขาให้นามบัตรมานี่ แต่แหม น่าจะแนะนำตัวบ้างนี่นา ฉันคิดอย่างน้อยใจ
ฉันก้มมองดูนามบัตรเขาที่ถือติดมืออยู่ เขาชื่อเชษฐา กิตินนท์ เป็นผู้จัดการโรงละครกิตินนท์ชื่อดังนั่นน่ะเหรอ เฮ้อ ช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย หนุ่มหล่อก็ชอบสาวสวย หนุ่มหล่อก็มักรวย แย่จัง แล้วคนจนๆอย่างฉันล่ะ ใครจะมาชอบกัน ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินเข้าตึกไป ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นที่ทำงานของเธอ
+ + + + +
แง่ง ทุกคนที่เข้ามาอ่านก็จงเม้นท์ซะ จงเม้นท์... จงเม้นท์ ขอร้องล่ะค่ะ
ใครไม่เม้นท์ระวังโดนคำสาปแช่งจากทาคิไม่รู้ด้วยนะเอ้า (ขอบอกไว้ก่อนว่าคำสาปแช่งของทาคิมีผลเสมอมา หุหุ ล้อเล่นน่ะค่ะ) ทาคิรู้ดีว่าเรื่องของทาคิมันไม่ได้สนุกอะไรมากมาย (อาจจะไม่ได้เรื่องเลยก็ได้สำหรับใครบางคน) แต่สำหรับคนที่คิดว่ามันสนุกก็ช่วยๆกันเม้นท์นิดนึงนะคะ ถือว่าเป็นคำขอร้อง เพราะทาคิจะได้รู้ตัวเองสักที ว่าที่เข้ามาอ่านกันเนี่ย อ่านกันจริงรึเปล่า แล้วก็จะได้เป็นกำลังใจให้ทาคิแต่งตอนต่อไปด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาค่ะ แล้วก็ขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้ทาคิเสมอมาค่ะ ทาคิบอกแล้วว่าเรื่องนี้ทาคิใช้เวลาแต่งนานมากจริงๆ (ปกติถ้าเป็นเรื่องอื่นไม่กี่เดือนก็จบ) แต่สำหรับเรื่องนี้ ปีที่ 4 แล้วค่ะ เวลาที่ใช้ในการแต่งมากเหลือเกิน ถ้าเข้ามาช่วยเม้นท์ก็จะดีมากเลย จะด่าจะว่าจะตำหนิอะไรไม่ว่ากันค่ะ เราเป็นคนรุ่นใหม่รับฟังทุกเสียงค่ะ ขอให้ช่วยเม้นท์หน่อยเถอะนะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น