ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    --Stars--

    ลำดับตอนที่ #4 : แก้ปัญหา ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 49



    Chapter 4

    นี่นายเดินห่างๆฉันหน่อยได้มั้ย

    .........

    นี่นายเดินห่างออกไปอีกนิดสิ  ฉันอึดอัด

    .........

    เฮ้!!! หัดฟังที่คนอื่นเขาพูดมั่งซิ

    ซาซึกิตะโกนใส่คนที่เดินเบียดเธอมาตลอดทางนับตั้งแต่เริ่มออกจากตึก  ยูโตะได้แต่ทำหน้าสงสัย  ก่อนจะดึงหูฟังเอ็มพี3ออกพร้อมเอ่ยคำถาม

    เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ

    เท่านั้นความอดทนของซาซึกิก็ถึงขีดสุด  คำด่าทอสบถสาบานต่างๆนานาแล่นเข้ามาในหัวสมอง  ซาซึกิได้แต่กัดปากตัวเองไว้อย่างข่มอารมณ์  ก่อนจะพูดอีกครั้งช้าๆชัดๆ

    ฉันบอกว่า  นายช่วยไปเดินห่างๆหน่อยได้ไหม  ฉันอึดอัด

    ชายหนุ่มรับฟังพร้อมกับสีหน้าที่บอกแน่ชัดว่าปฏิเสธ

    ไม่ได้เหรอ

    คนถูกปฏิเสธย้อนถาม  แต่คำตอบที่ได้มายังคงเป็นเหมือนเดิม  ซาซึกิลอบถอนหายใจเบาๆก่อนจะตั้งคำถามใหม่ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

    แล้วทำไมนายต้องเอามือมาจับสายกระเป๋าสะพายของฉันด้วย

    คนถูกถามจ้องมองมือของตนเองที่ตอนนี้กำลังจับสายกระเป๋าของหญิงสาวตรงหน้าอย่างแน่นและกระชับมือ ก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองพร้อมแววตาที่อ่อนลง

    ฉันไม่รู้ทางไปบ้านซึซึรุ  ถ้าฉันเดินห่างเธอแล้วเกิดพลัดหลงกันขึ้นมาก็แย่นะสิ

    ชายหนุ่มผมดำตอบกลับพร้อมรอยยิ้มแพรวพราว

     

    กะล่อน

    คำแรกและคำเดียวที่ฉายชัดในความคิดของเธอตอนนี้  แม้ว่าคนตรงหน้าคิดจะทำอะไร  จะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ก็ตาม  เขาก็มักจะมีเหตุผลที่ดีที่สุดมารองรับอยู่เสมอ  โดยสิ่งที่คนรับฟังสามารถทำได้ คือ เชื่อในเหตุผลที่เขายกมาอ้าง  แต่ในทางตรงกันข้าม  ถ้าไม่เชื่อก็ไม่สามารถยกข้อเหตุผลใดๆมาหักล้างกับข้ออ้างของเขาได้  แล้วเธอละจะทำได้อย่างไร

     

    คนแบบนี้เล่นยาก

    อีกหนึ่งความคิดที่แล่นเข้ามาในสมอง  และเป็นความคิดที่กำหนดการกระทำของเธอ  ให้หันหลังกลับแล้วเดินต่อไป  แต่แล้วก็รู้สึกเสียววาบขึ้นมา  เมื่อมือใหญ่ที่เคยจับแน่นอยู่ที่สายกระเป๋าเริ่มคลายออก  แล้วค่อยๆเลื่อนขึ้นมาจนถึงไหล่ของเธอ  ก่อนจะกระชับมือแน่นดึงร่างเธอให้โผเข้าหาอกของเขาดวงหน้าของเธอขึ้นสีเรื่อเมื่อสัมผัสกับอกของเขา  อกที่กว้างและอบอุ่น  พร้อมกลิ่นหอมละมุนแปลกจมูกที่ทำให้สติของเธอหลุดลอย  หลงเคลิ้มไปกับความอบอุ่นที่แผ่ซ่านแทรกซึมเข้าสู่ทุกอณูผิวสัมผัส  แต่แล้วความรู้สึกก็ต้องสะดุดลง  เมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าเธอกำลังอยู่ในอ้อมกอดของคนมากเล่ห์  คนๆนี้คงกำลังแกล้งป่วนอารมณ์ของเธอเป็นแน่  คิดแล้วก็พาลอารมณ์เสียที่ตัวเองหลงไปตกหลุมพรางของคนตรงหน้า  ก่อนจะดิ้นและดันตัวเองออกจากอ้อมกอดนั้น

     

    นี่นายแกล้งฉันเหรอ

    หญิงสาวจ้องหน้าชายหนุ่มด้วยแววตาหาเรื่องทั้งๆที่ดวงหน้ายังคงแดงเรื่อ  แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาอย่างสื่อความหมายของคนตรงหน้า  ดวงหน้าของเธอก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง  ก่อนตัดสินใจโบกมือเรียกแท็กซี่  พูดอะไรสองสามคำแล้วจึงกระโดดขึ้นไปนั่งข้างคนขับ  ทันทีที่ปิดประตูล้อรถก็เริ่มหมุนตามหน้าที่ พาตัวรถวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว  โดยไม่สนใจเสียงร้องเรียกให้หยุดของคนที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังเลยแม้แต่น้อย

    ...............................................................................

     

    ที่นี่ละ  บ้านของซึซึรุ

    บ้านเดี่ยวสองชั้นสไตล์โมเดิร์น  ล้อมรอบด้วยสวนสวยที่สะพรั่งไปด้วยดอกไม้หลากหลายขนาดทั้งเล็กและใหญ่หลากสีสัน  ส่งกลิ่นหอมไปทั่วอาณาบริเวณบ้านสร้างความรื่นรมย์ให้กับผู้มาเยือน  อีกทั้งสีเหลืองนวลของตัวบ้านยังให้ความรู้สึกอบอุ่น  อบอุ่นเหมือนครอบครัวที่อาศัยอยู่

     

    งั้นฉันเข้าไปก่อนนะ

    ยูโตะกล่าวเสียงเย็นพร้อมกับเดินผ่านรั้วบ้าน  ท่าทางและอารมณ์ที่สื่อออกมาของเขาทำให้ซาซึกิไม่สบายใจ  แต่ก็อดหมั่นไส้ไม่ได้  ก็รอยยิ้มที่ส่งออกมาตอนนั้นมันสื่อความหมายออกมาอย่างชัดเจนเลยว่า  ที่ดึงเธอเข้าไปกอดก็เพราะจงใจจะแกล้งให้เธอรู้สึกปั่นป่วน  แล้วตอนนี้มาทำเป็นงอน  แค่เธอแก้แค้นนิดหน่อยโดยไปบอกแท็กซี่ว่าออกรถได้เลยไม่ต้องรอ  เขาเลยต้องตะโกนเรียกแท็กซี่หลายต่อหลายครั้ง  แต่ก็นั่นละในที่สุดเธอก็บอกให้แท็กซี่วกรถกลับไปรับเขาอยู่ดี  ก็ถือได้ว่าเสมอกัน  แล้วทำไมต้องงอนด้วยละ  น่าหมั่นไส้เป็นบ้า

     ซาซึกิคิดพลางเดินตามเข้าไป  แต่แล้วก็ชนเข้ากับหลังของชายหนุ่มที่เดินนำหน้า  เขาเหลือบมองเธอด้วยหางตาเป็นเชิงคาดโทษ  ก่อนจะหันไปกดกริ่งหน้าประตูบ้าน

     เอ๊ะ!!  อะไรอีกละตานี่  อยู่ๆก็หยุดเดินไม่บอกไม่กล่าว  แล้วยังทำตาหาเรื่องใส่อีก  จะอะไรกันนักหนา !  ความโกรธ  ความหงุดหงิด  และความสับสนกำลังตีกันยุ่งวุ่นวายอยู่ภายในใจของซาซึกิ  จะพูดออกมาก็ไม่ได้  จะเก็บต่อไปก็ไม่ไหว  ผลสุดท้ายเลยทำให้เธอกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้วยังเรื่องปัญหาของซึซึรุที่ยังรอให้เธอแก้ไข  เธอจะทำได้อย่างไร  ในเมื่ออารมณ์ของเธอยังสับสนวุ่นวายอยู่แบบนี้  ยิ่งคิดก็ยิ่งฟุ้งซ่านกลุ้มใจหนักกว่าเก่า

     

    โครม !!  

    เสียงวัตถุหล่นกระทบพื้นดังสนั่น  ปลุกซาซึกิที่กำลังดำดิ่งอยู่ในห้วงแห่งความคิดให้ตื่นขึ้นมา  ก่อนจะสะบัดเบาๆไล่ความวิตกกังวลอันเกินกว่าเหตุออกไป  ก่อนจ้องมองซ้ายมองขวาหาต้นกำเนิดเสียงที่ดังสนั่นนั่น  แต่แล้วก็พลันสบสายตาเข้ากับนัยน์ตาคมสีดำ  ซึ่งตอนนี้ส่อแววสงสัยออกมาอย่างชัดเจน  แต่ยังไม่ทันจะได้ถามไถ่  เสียงฝีเท้าถี่และหนักก็แว่วเข้าโสตประสาท  พร้อมกับประตูบ้านที่เปิดออกอย่างรวดเร็ว 

    หญิงวัยกลางคนผู้มาเปิดประตูเหนื่อยหอบจนตัวโยน  แต่ก็ยังส่งยิ้มแลดูอบอุ่นให้กับบุคคลที่มาเยือน  ทำให้

    ทั้งสองรู้สึกได้ถึงความรักความเอ็นดูที่เธอส่งมาให้พวกเขาได้อย่างน่าประหลาด  ซาซึกิเปิดใจรับความรู้สึกดีๆนั้นอย่างไร้ข้อกังขา  ก่อนจะถามไถ่เรื่องธุระ

     

    พวกเราเป็นเพื่อนของซึซึรุค่ะ  ตอนนี้เขาอยู่ไหมคะ

    ซาซึกิเอ่ยถามกลั้วยิ้ม  แต่รอยยิ้มที่เคยอบอุ่นของคนตรงหน้าบัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเครียด  พร้อมกล่าวเป็นเชิงปฏิเสธ

    ซึซึรุอยู่ในห้องน่ะ  แต่ตอนนี้เขาไม่อยากพบใคร

    แต่คุณแม่ครับ  ซึซึรุเขาโทรหาผมบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษาให้มาหาเขาที่บ้าน  ขอผมเข้าไปพบเขาหน่อยเถอะครับ.......นะครับคุณแม่

    ยูโตะขอร้องด้วยน้ำเสียงและแววตาเจือกังวลและเป็นห่วงเป็นใย  อีกทั้งคำว่าคุณแม่เป็นสรรพนามที่มีแต่ซึซึรุเท่านั้นที่ใช้เรียกเธอ  แต่กลับหลุดออกมาจากปากของคนที่ไม่ใช่ลูกชาย  แสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมและมิตรภาพอันแน่นแฟ้นของชายหนุ่มทั้งสอง  และเมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าซึซึรุลูกชายของเธออาจต้องการเพื่อนที่ปรึกษาจริงๆก็เป็นได้  คิดแล้วก็ใจอ่อนยอมหลีกทางให้พวกเขาเข้าไปในบ้านแต่โดยดี

     

    นั่งพักตรงนี้ก่อนนะจ๊ะ  เดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้

    พูดพลางยิ้ม  ก่อนจะปลีกตัวเดินไป  ปล่อยให้ผู้มาเยือนทั้งสองนั่งจมอยู่กับความคิด  ความคิดฟุ้งซ่านที่ทรมานใจจนแทบระเบิด  เมื่อพยายามคิดเท่าไรก็คิดไม่ออกส่าซึซึรุมีปัญหาอะไรกันแน่  แต่ตามที่เห็นอยู่คงไม่ใช่เรื่องเล็กๆแน่นอน  แต่แล้วความคิดของซาซึกิก็สะดุดกับอะไรบางอย่าง

    เอ๊ะ ! เมื่อกี๊ยูโตะบอกว่าซึซึรุโทรหา

    ไวเท่าความคิดซาซึกิหันไปมองชายหนุ่มที่ตอนนี้กำลังนั่งมองสำรวจตรวจตราไปรอบห้องด้วยแววตาคาดคั้น  พร้อมกับตั้งคำถาม

    ซึซึรุเขาโทรหานายใช่ไหม

    คำตอบคือความเงียบและรอยยิ้มกวนๆบนริมฝีปาก  ซาซึกิรู้สึกฉุนขึ้นมาอีกครั้งแต่ก็พยายามสงบลง  ก่อนจะตั้งคำถามเสียงเครียด

    แล้วเขาบอกรึเปล่าว่าเขามีปัญหาอะไร

    รอยยิ้มกวนแย้มกว้างอย่างมีจุดประสงค์ชัดเจนที่จะยั่วอารมณ์คนตรงหน้า  ซาซึกิเองก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่เข้าใจจุดประสงค์ของรอยยิ้มที่ส่งมานี้  เธอรู้และเข้าใจเป็นอย่างดี  ดีมากจนเกินไป  มากเกินกว่าที่จะข่มอารมณ์ตัวเองให้สงบลงได้โดยง่าย  แต่เธอต้องการรู้คำตอบ  ต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายแบบหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูคนนี้

    ฉันขอถามนายอีกครั้ง  นายรู้ไหมว่าซึซึรุเขามีปัญหาอะไร

    นายแบบมากเล่ห์หันมาสบตาพร้อมที่จะกวนโมโหคนตรงหน้าเล่น  แต่แล้วก็ต้องล้มเลิกความตั้งใจ เพราะ ตอนนี้ของเล่นของเขากำลังแผ่รังสีอำมหิตพร้อมประกายขู่อาฆาตเข้าใส่เขาตลอดเวลา

    ปัญหาของซึซึรุ  ฉันเองก็ไม่รู้หรอก

    ยูโตะทำเสียงเข้มและท่าทางจริงจังขึ้นมาในทันที

    นายไม่รู้จริงๆเหรอ  นายคุยกับซึซึรุแล้วนี่  บอกฉันมาเถอะ  ฉันเป็นผู้ดูแลพวกนายนะ

    ซาซึกิหรือผู้ควบคุมดูแลโปรเจกต์ทำเสียงง้องอนพูดตัดพ้อ  พร้อมคาดหวังให้คนกะล่อนยอมอ่อนข้อบอกข้อมูลมาแต่โดนดี  แต่ชายหนุ่มยังคงนิ่งเฉย  แสร้งทำเป็นหูทวนลมจนเธออดหมั่นไส้ขึ้นมาอีกไม่ได้

    นี่นาย !!.......

    เธอรู้ไหมว่าการกระทำของคนเราจะเป็นผลดีเสมอถ้าเราใช้ถูกกาลเทศะ  ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ผิดก็เถอะ

    ยูโตะพูดตัดขึ้นมาลอยๆ  คนฟังได้แต่ทำหน้าเหรอหราอย่างตั้งตัวไม่ทัน  รู้แต่ว่านี่เป็นคำคม  คำคมชวนให้คิด  นี่เขาต้องการบอกอะไรกันแน่  ครุ่นคิดเพียงชั่วครู่ก็เริ่มเข้าใจ

    นายกำลังบอกว่าการที่เรามาช่วยแก้ปัญหาให้เพื่อนเนี่ย  เป็นการกระทำที่ผิดงั้นเหรอ

    ไม่หรอกนี่เป็นสิ่งที่ถูก  สิ่งที่ควรทำ

    หรือว่านายจะบอกว่า  เราควรหาหนทางอื่นแทนที่จะมาช่วยเขาที่บ้าน

    ซาซึกิยังคงถามด้วยความสงสัย

    ไม่ใช่หรอก  มาหาที่บ้านน่ะดีแล้วจะได้แก้ปัญหาให้จบลงง่ายๆ

    คนตอบคำถามยังคงนั่งนิ่งตอบคำถามอย่างไร้ความรู้สึก

    แล้วมันเรื่องอะไรกันละ

    คนถามคาดคั้นอยากรู้คำตอบ  แต่คนตอบกลับมีรอยยิ้มแพรวพราวพร้อมแววขบขัน

    นี่เธอไม่รู้จริงๆเหรอเนี่ย

    คนฟังหน้าขึ้นสีก่อนจะบ่นเคืองๆแก้เขินกลับไป

    ไม่รู้  ก็ฉันไม่รู้จริงๆนี่  ให้เดาอยู่ได้

     

    น่ารัก

    คือความรู้สึกแรกที่ยูโตะสามารถสัมผัสได้  เมื่อหญิงสาวตรงหน้าก้มหน้างุด  พยายามซ่อนดวงหน้าที่ขึ้นสีแดงเรื่อ  พร้อมปากก็บ่นอุบอิบออกมาเป็นถ้อยคำฟังดูน่ารักน่าเอ็นดู  เหมือนเด็กหญิงตัวน้อยที่คอยเถียงพี่ชาย  แต่เมื่อเถียงไม่ชนะก็กลับงอนน้อยอกน้อยใจ  อยากให้พี่ชายช่วยปลอบและช่วยบอกว่าตัวเองไม่ผิดเพียงแต่เหตุผลยังไม่ครบสมบูรณ์เท่านั้นเอง 

    คิดแล้วก็เกิดรู้สึกแปลกๆกับคนตรงหน้า  เป็นความรู้สึกที่หลากหลาย  บอกอย่างชัดเจนไม่ได้ว่ารู้สึกยังไง

    กันแน่  แต่ตอนนี้เพียงได้เห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นกำลังก้มหน้าก้มตาบ่นอุบอิบ  พร้อมกับซ่อนสีหน้าเขินอาย  เพียงแค่นี้ก็อยากจะเข้าไปกอดหอมแก้มปลอบใจ  เพียงแต่สถานที่และกาลเทศะไม่เอื้ออำนวย  คิดแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้  ก่อนจะตัดสินใจหยอกต่อไป

     

    นี่เธอเคยเรียนปรัชญามาบ้างรึเปล่า  แค่นี้ก็ตีความไม่ออก  ซื่อบื้อชะมัด

    คนโดนว่าหันขวับขึ้นมาจ้องหน้าคนปากเสีย

    เมื่อกี้...เมื่อกี้เขาว่า

    นายหาว่าฉัน....ฮึ้ย !”

    คนโดนว่าพยายามต่อความ  แต่ความหงุดหงิดก็เข้ามาทำให้ล้มเหลว  คนปากเสียยิ้มเหยียด  มองเธอด้วยนัยน์ตาคมสีดำที่ฉายแววพึงพอใจก่อนจะเฉลย

    นี่เธอเชื่อฉันจริงๆเหรอ  เรื่องที่ฉันบอกว่าซึซึรุโทรมาหาน่ะ

    เอ๊ะ....ไม่ใช่เหรอ

    ซาซึกิยังคงทำตาโตจ้องหน้าชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่วางตา  ก่อนจะถามคาดคั้น

    ถ้าไม่เป็นแบบนั้นแล้วความจริงเป็นยังไง

    นัยน์ตาสีดำฉายประกายวาวอย่างขบขันสุดจะทน  ประสานสายตากับแววตาดุๆออกแนวคาดคั้น  แต่แล้ประกายขบขันก็ค่อยๆจางหายไป  ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ  พร้อมกับยกมือยอมแพ้  ก่อนจะยอมเปิดปากชี้แจงอีกรอบ

    คือว่า  ฉันกับซึซึรุไม่เคยโทรศัพท์หากัน  แล้วเขาก็ไม่เคยบอกฉันว่าเขามีปัญหาอะไรหรืออยากได้คำปรึกษาอะไรนั่นเลย  ฉันกุเรื่องขึ้นมาเองทั้งหมด  ทีนี้เข้าใจหรือยัง

    ทำไมนายต้องทำแบบนั้นด้วยละ

    ซาซึกิตั้งคำถาม บอกได้อย่างชัดเจนว่ายังไม่เข้าใจ  นัยน์ตาสีดำฉายแววเอือมระอา

    ทำไมเธอถึงบื้อได้ขนาดนี้นะ

    ชายหนุ่มบ่นพร้อมกับส่ายหัวอย่างกลุ้มใจ

    ถ้าฉันไม่อ้างแบบนี้แล้วพวกเราจะได้เข้ามาในบ้านหลังนี้รึเปล่าละ

    แต่มันก็น่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้.......

    ชู่ว !!”

    ยูโตะเอามือจุ๊ปากตัวเอง  พร้อมกับมืออีกข้างที่ปิดปับเข้าให้ที่ปากของซาซึกิ  เป็นสัญญาณบอกให้เงียบ  ร่างบางของหญิงวัยกลางคนโผล่ออกมาจากห้องครัว  ในมือถือถาดใส่น้ำผลไม้และจานคุกกี้  หน้าตายิ้มแย้มอย่างสบายอารมณ์  ซาซึกิสะกิดเรียกยูโตะก่อนจะกระซิบเบาๆ

     

    นายแสดงฝีมือไปแล้ว  คราวนี้ขอฉันแสดงฝีมือบ้างละ  ฉัน...จัดการเอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×