คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เริ่มฝึกซ้อม
Chapter 3
“หลังจากที่โฆษณาทั้ง 4 ตัวออกไป เรตติ้งของพวกนายก็พุ่งกระฉูด”
นายแบบหนุ่มทั้ง 4 คนยิ้มและพึงพอใจกับข่าวที่ได้รับ
ดวงตาสีดำส่อแววขี้เล่น พร้อมท่าทางทะเล้นกำลังเปลี่ยนบรรยากาศเป็นงานเป็นการในห้องให้กลายเป็นสนิทสนมและสบายๆ ซาซึกิถอนหายใจเบาๆ พร้อมกับยกมือยอมแพ้
พูดแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ เมื่อคนที่เป็นฝ่ายชนะทำตาโต มองซ้ายมองขวา แกล้งทำหน้าใสซื่อเหมือนกับว่าไม่เข้าใจสถานการณ์
แม้ว่าบางคนอาจคิดว่าเป็นการกระทำที่ไร้สาระ แต่ซาซึกิเข้าใจดีว่า นี่คือเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขา ถึงแม้ว่าหน้าตาจะสู้เพื่อนๆอีก 3 คนไม่ได้ แต่ลักษณะที่สดใสซุกซนของเขาก็สามารถทำให้เขาโดดเด่นได้เหมือนคนอื่นๆ ดูจากความนิยมของสาวๆก็เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ความทะเล้นของเขาเป็นเสน่ห์ที่แรงเกินคาดจริงๆ
“เอาน่าซาซึกิ หมอนี่ก็เป็นแบบนี้ทุกทีแหละ ชอบทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโต”
เจ้าของดวงหน้าสวยเอื้อมมือไปขยี้หัวไอ้คนไม่รู้จักโต พร้อมกับส่งสายตาดุ
“หัดทำตัวให้มันดูแมนซะมั่งซิ”
“แมนเหมือนนายเหรอ”
คนโดนว่าไม่ยอม หัดกลับไปเหน็บตอบ
“ใครอยากแมนเหมือนนายก็บ้าแล้ว ยังกับเกย์”
ไม่พูดอย่างเดียว แต่ทำหน้าล้อเลียนกวนบาทาอย่างที่สุดในความคิดของคนถูกยียวน
“ถ้าฉันเป็นเกย์จริง ฉันจับพวกนายปล้ำเรียงตัวไปแล้วรู้ไว้ซะ แต่โชคดีของพวกนาย เผอิญว่าฉันไม่ใช่เกย์”
ตาสีฟ้าสวยฉายแววหงุดหงิด แต่เมื่อสบตากับซาซึกิที่มองอยู่ ริมฝีปากได้รูปก็แย้มยิ้มโปรยเสน่ห์ นี่ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นละก็คงเคลิบเคลิ้มกับรอยยิ้มนี้ไปหลายวัน แต่ใช้ไม่ได้ผลกับเธอหรอก
คำปรามได้ผล คู่กัดทั้ง 2 ผละออกจากกัน แต่ยังไม่วายแอบบ่นพึมพำ
“ค้างคืนที่นี่เหรอฮะ”
เสียงเล็กๆดังขึ้นหลังจากนั่งเงียบมาเป็นเวลานาน แววตาเป็นกังวลจ้องมองซาซึกิเหมือนจะขอความช่วยเหลือ
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“เอ่อ...เปล่า ไม่มีอะไรฮะ”
ดวงตาสีน้ำตาลหลุบลงต่ำ ไม่พูดจาอะไรออกไปอีก ซาซึกิก็ทำได้แต่รอให้คำปรึกษา แต่ในเมื่อเจ้าตัวไม่พูดออกมาใครละจะช่วยได้ เธอเองก็ไม่อยากบังคับให้เขาต้องพูด
“ถ้าอยากปรึกษาละก็ ได้ทุกเมื่อเลยนะ”
“ฮะ”
เจ้าของตาสีน้ำตาลยังคงไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตา
ชายหนุ่มผู้มีผมสีดำซอยประบ่าเอ่ยขึ้นมาหลังจากที่นิ่งฝังอยู่เป็นเวลานาน
“เธอจะมาค้างกับพวกเราด้วยหรือเปล่า”
คนถูกถามหน้าขึ้นสีในทันที ความโกรธพุ่งปรี๊ดขึ้นสมอง หลบตามองพื้นอย่างข่มอารมณ์ แต่ 3 หนุ่มที่เหลือต่างจ้องหน้าเธอตาไม่กระพริบ
“เฮ้...นับ 1 ถึง 10 มันจะพอเหรอ ฉันว่านับ 1 ถึง 100 ไปเลยดีกว่ามั้งจะได้ไม่ต้องวนหลายรอบ”
แววตาเจ้าเล่ห์ส่องประกายแข่งกับแววตาขุ่นเคืองแล้วความโกรธก็พุ่งขึ้นสูงก่อนจะถาโถมลงมาถลายความอดทนของเธอจนหมดสิ้น
“ไม่ค้างยะ!! ทำไมฉันต้องค้างกับพวกนายด้วย!!”
ว่าแล้วหญิงสาวเพียงคนเดียวในห้องก็รีบจากไปด้วยความเจ็บใจเป็นอย่างยิ่ง
“แล้วฉันจะรอนะ....”
เสียงกวนโมโหยังแว่วเข้ามาในหู
“ตาบ้า!!! ฉันจะฆ่านาย”
เธออดไม่ได้ที่จะหันกลับไปขู่อาฆาต ก่อนจะกระทืบเท้าเดินต่อไปอย่างไม่สบอารมณ์ โดยไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มเจ้าของผมและนัยน์ตาสีดำมากด้วยเล่ห์ กำลังจ้องมองด้านหลังของเธอด้วยความสนใจ
.................................................................................
“เฮ้! ซาซึกิ”
เสียงเรียกสดใสที่เมื่อเหลียวมองไปก็เห็นเจ้าของเสียงกำลังวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา พร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสยิ่งกว่า นัยน์ตาสีดำตัดกับผมสีน้ำตาลฉายแววดีใจเมื่อเห็นเธอ
“อ้าว! ไรกิ”
“เฮ้ย! เรียกกันตรงๆเลยเหรอ ไหนเธอบอกให้ปิดบังชื่อจริงไง”
หน้าที่เคยทะเล้นตามปกติแปรเปลี่ยนเป็นงุนงงและตกใจทันที
“แล้วจะให้ฉันเรียกนายว่ายังไงละ เอาแบบที่สาวๆเขาเรียกกันไหม เรด เมล่อนคุง ~ ”
ซาซึกิเรียกพร้อมกับทำหน้าเคลิบเคลิ้ม ทำเอาคนถูกเรียกหน้าขึ้นสีในทันที ก่อนจะส่ายหัวแรงๆพร้อมแววตาวิงวอน
“ขอร้องละซาซึกิจัง อย่าเรียกฉันอย่างนั้นเลยนะ ฟังแล้วมันขนลุก”
ว่าแล้วก็ตัวสั่น พร้อมลูบแขนซ้ายขวา ไม่รู้ว่าแกล้งทำหรือเปล่า แต่เอาเถอะ......
“ก็ได้ ไรกิไปกันได้แล้ว สายมากแล้วนะเนี่ย”
ที่บริษัทในขณะที่พนักงานกำลังเลิกงานและเดินทางกลับบ้าน พวกเขาทั้งสอง คนพยายามเดินฝ่าคลื่นฝูงชนเพื่อเข้าไปภายในตัวตึก เมื่อเข้ามาถึงข้างใน ทั้งสองต่างสะดุดตากับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า
ทั้งสองจึงได้สติกลับมา หลังจากโดนคนตรงหน้าร่ายมนต์เข้าใส่อย่างจัง
“เฮ้ ! มิลค์กี้ พิงค์”
คนทะเล้นเริ่มล้อเลียนคนตรงหน้า พร้อมที่จะเปิดศึกอีกรอบ แต่ดวงหน้าสวยบอกอย่างชัดเจนว่าไม่เล่นด้วย
“อ้าว นายไม่ชอบเหรอ ชื่อเหมือนลูกอมหวานๆน่ารักดีออก”
“แต่มันไม่ใช่ นี่มันชื่อสีลิปสติกที่ฉันถ่ายโฆษณา แต่ถ้านายชอบฉันก็ไม่ว่าอะไรนะ เรด เมล่อน”
รอยยิ้มเครียดปรากฏบนริฝีปากสวย คนล้อถึงกับทำหน้าเจื่อน ยิ้มแห้งๆก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง
“ฉันก็พึ่งมาถึง แต่รู้สึกเหนื่อยเลยขอนั่งพักซักแปบก่อนจะขึ้นไปเรียนน่ะ”
ซาซึกิมอง 2 นายแบบในสังกัดแล้วก็ปวดหัว ก่อนจะรวบรัดตัดบทแล้วเดินนำไป
อาคารบริษัทแห่งนี้ตั้งอยู่กลางใจเมือง แต่น่าแปลกที่ว่ายิ่งขึ้นไปอยู่ชั้นที่สูงมากขึ้นเท่าใด วิวทิวทัศน์กลับยิ่งสวยมากขึ้นเท่านั้น มองลงไปจะเห็นสีเขียวของต้นไม้เจือกับสีขาวของก้อนเมฆ ดูเป็นงานศิลปะที่น่าอัศจรรย์
ลูกสาวประธานบริษัทเดินแนะนำสถานที่ให้กับผู้ที่มาอยู่ใหม่ พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มเจ้าของผมและนัยน์ตาสีดำ กำลังยืนคุยอยู่กับใครบางคน
“ว่าไงจ๊ะ ซาซึกิจัง”
คนขี้แกล้งยังไม่เข็ด พยายามแกล้งเหยื่อรายต่อไป
แต่เหยื่อกลับทำเป็นหูทวนลม นัยน์ตาคมสีดำจับจ้องมายังซาซึกิ
“นี่ ซึซึรุยังไม่มาอีกเหรอ”
“นายเห็นหรือเปล่าละ ยูโตะ”
คนถูกถามย้อน แฝงด้วยความรู้สึกโกรธที่ค้างมาตั้งแต่เมื่อวาน แต่ผิดคาด เพราะ คนถูกย้อนไม่ยั่วโมโหเธอตามที่ควรจะเป็น แต่กลับทำหน้าครุ่นคิด จนเธออดสงสัยไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“ซึซึรุนัดฉันไว้ตั้งแต่เมื่อวานว่าจะมาเจอกันที่นี่ตอน 4 โมง แต่ 5 โมงแล้วเขาก็ยังไม่มา โทรเข้ามือถือก็ปิดเครื่อง โทรเข้าบ้านก็ไม่มีคนรับ พอโทรไปที่โรงเรียนทางนั้นเขาบอกว่าวันนี้ซึซึรุไม่ได้ไปเรียน ไม่รู้เขาหายไปไหน”
ซาซึกิมองคนตรงหน้าพลางคิด
คิดแล้วก็แอบอมยิ้ม ก่อนที่ความคิดดีๆจะแล่นผ่าน
สามนายแบบหันไปมองคนเจ้าความคิดด้วยแววตาสงสัย ก่อนคนเกิดไอเดียจะกล่าวกลั้วยิ้ม
“เราก็ต้องไปหาเขาที่บ้านไง”
สามหนุ่มทำท่าเหมือนพึ่งนึกขึ้นได้
“จริงสิ ถ้าอย่างนั้นฉันไปกับเธอด้วย”
ดวงหน้าที่เคยทะเล้นเปลี่ยนเป็นจริงจัง
“ฉันไปด้วย”
นัยน์ตาสีฟ้าฉายแววเป็นกังวล แต่ก่อนที่ซาซึกิจะตอบตกลงก็มีเสียงขัดขึ้นก่อน
หันไปตามต้นเสียงก็พบกับชายวัยกลางคน ที่ตอนนี้อยู่ในฐานะครูสอยการแสดง กำลังยืนเท้าเอว หน้าตาถมึงทึงอย่างไม่สบอารมณ์
“เธอสองคนพึ่งจะมาถึงและยังไม่ได้เข้าเรียน ยังกล้าคิดที่จะออกไปข้างนอกอีกเหรอ”
ยิ่งพูดเสียงยิ่งใหญ่ ยิ่งพูดยิ่งน่ากลัว
สองหนุ่มมองหน้ากันไปมา แต่ยังไม่ทันตั้งตัว ทั้งสองก็โดนคุณครูจับตัวลากเข้าห้องเรียน แต่ก็ยังไม่วายมีเสียงโหนหวนครวญออกมาตลอดทาง
นัยน์ตาสีดำคู่นั้นกลับมามากด้วยเล่ห์ ที่ถึงแม้ว่าซาซึกิจะพยายามมองคนตรงหน้าใหม่แต่มันก็ทำไม่ได้
เธอคิด แต่ก่อนที่พูดออกไป
แก้มและริมฝีปากของเขาก็โน้มเข้ามาใกล้ ก่อนจะกระซิบเบาๆข้างหู ฟังดูเซ็กซี่และเชิญชวนอย่างบอกไม่ถูก
“ไปกันสองคน เธอ...กับ...ฉัน”
ความคิดเห็น