คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 8 มาแว้วจ้า~
แหม...ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคับ ชอบเหมือนๆ กันดีใจๆ ตอนนี้เราทำงานแล้วล่ะ ก็อายุไม่น้อยอ่ะนะ แต่งฟิคมาตั้งแต่สมัยม.ปลาย
ไม่ได้เชี่ยวอะไรนักหรอก ก็แต่งมันไปเรื่อยตามที่อยาก 555 เน้นแต่คู่แรร์มานานแล้วล่ะ ไอ้ที่ไม่ค่อยมีคนเค้าจิ้นกันน่ะ (พอดีทำงานแปลด้วย แต่ภาษาก็ยังไม่แข็งเท่าไหร่ แหะๆ)
แล้วเค้าก็เป็นปู๊ฉิงนะ ไม่งั้นจะชอบวายเหรอ ตะเองก็ถามได้...
ตอนนี้ติดเกมออนไลน์หนักมากคับ เล่นแทบไม่เป็นอันทำงาน FFXIV ARR สร้างตัวละครเหมือน Sasha แล้วเราก็ใช้ชื่อ Sasha Kozachenko ในเกมด้วยล่ะ สนุกมากเลย ซาช่าเป็นดรากูนแว้วววว กำลังปั่นอาชีพซัมมอนเนอร์ต่อ อิๆ
สนใจมาเล่นด้วยกันได้นะคับ หนุกมากกกกก
8
Chris’s Part
เพราะแรงระเบิดที่พวกศัตรูวางไว้ใต้ฐานตึกร้าง ทำให้ลีออนร่วงลงไปในทางใต้ดินและสัญญาณการติดต่อก็ขาดหาย คริสจึงติดต่อไปบอกฮันนิแกนให้ตามหาจากสัญญาณชีพ แต่ก็ไม่พบร่องรอย ผ่านไปนานเกือบ 2 วัน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจโทรบอกซาช่าให้รู้
“ไม่เป็นไรนะ เรายังมีความหวัง ฉันจะตามหาหมอนั่นให้เจอ ต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินก็ตาม” คริสบอกกับซาช่าที่ในตอนนั้นแทบไม่มีสติเหลืออยู่แล้ว เพราะช็อคจากคำแรกที่ได้ยิน แต่คริสก็พยายามย้ำอีกหลายครั้งก่อนจะตัดสายไปว่าจะหาให้เจอให้ได้
“คนอย่างลีออนไม่มีทาง...ง่ายๆ หรอก หมอนั่นอึดอย่างกับแมลงสาบ ผ่านร้อนหนาวมาตั้งไม่รู้เท่าไหร่แล้ว” คริสพูดติดตลกแต่กลับหัวเราะไม่ออกเลยสักนิด ตอนที่หาแม้กระทั่งสัญญาณชีพของลีออนไม่เจอ เขาก็ใจหายไปเหมือนกัน แต่ก็พยายามย้ำกับตัวเองว่าไม่มีอะไร ลีออนคงแค่ทำสัญญาณพังเท่านั้น หมอนั่นต้องเอาตัวรอดได้แน่
เพียร์สเห็นคริสทำหน้าเคร่งเครียดกว่าทุกครั้งก็เป็นกังวล เขารู้ดีว่าลีออนเป็นเพื่อนคนสำคัญพอๆ กับจิล แม้จะไม่ค่อยได้เจอกัน แต่ก็ผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาเหมือนกันและยังเคยช่วยเหลือน้องสาวของคริสไว้ด้วย
“คราวนี้ฉันจะช่วยหมอนั่นให้ได้” คริสว่าอย่างนั้นและออกตามหาลีออนต่อไปอย่างไม่ลดละ ภารกิจครั้งนี้ต้องจบลงโดยไม่มีใครตายทั้งนั้น
“คริส...” เพียร์สมองหน้าคริสที่เข้ามาตบบ่าเบาๆ ด้วยความเป็นห่วง
“ที่เหลือฝากนายด้วยนะ เพียร์ส”
“หมายความว่าไงครับ กัปตัน?” เพียร์สร้องถามสีหน้าตื่นตระหนก
“ฉันจะขอไปตามหาหมอนั่น ภารกิจที่เหลือจากนี้ฝากนายคุมทีมในฐานะกัปตันด้วย”
“ได้ไงครับ? คุณจะไปคนเดียวเนี่ยนะ ผมไม่ยอมหรอก” เพียร์สปัดมือของคริสบนบ่าออกและยืนกรานไม่ให้ไปคนเดียว จนกลายเป็นถกเถียงกันยาว
“เพียร์ส ใจเย็นๆ สิ ถ้านายไม่อยู่อีกคน ใครจะดูแลทีม นายต้องเข้มแข็ง คอยสั่งการแทนฉันและรอฉันกลับมา เข้าใจมั้ย?”
“คริส!” ดูเหมือนเพียร์สจะดื้อกว่าที่เขาคิดเสียอีก คริสถอนหายใจ
“ฟังนะ ฉันจะกลับมาพร้อมกับลีออนแน่นอน นายเชื่อใจฉันมั้ย?” คริสเอ่ยถามพร้อมกับบีบมือเพียร์สที่รั้งแขนเขาไว้ไม่ยอมปล่อย
“เชื่อใจฉันนะ...เพียร์ส” แววตาของคริสจริงจังอย่างที่สุด เพียร์สยอมปล่อยมือและพยักหน้ารับอย่างไม่สู้เต็มใจนัก
“เป็นเด็กดีนะ เพียร์ส” มือหนายื่นมาลูบหัวร่างเล็กกว่าตรงหน้าเบาๆ มือที่อบอุ่นของคริส เพียร์สกัดริมฝีปากและพยักหน้าอีกครั้ง
Leon’s Part
หลังจากที่ร่วงลงมาใต้ดินลึกไม่รู้กี่เมตรจนมองไม่เห็นหนทางเบื้องหน้า แถมขาก็ถูกเศษเหล็กเส้นทิ่มจนขยับตัวไปไหนไม่ไหว ลีออนก็ได้แต่นอนรออยู่เฉยๆ พลางนึกถึงใบหน้าของซาช่า
ถ้าให้มาเห็นตัวเขาในสภาพนี้ มีหวังซาช่าคงร้องไห้โฮออกมาแน่
ไม่อยากเห็นน้ำตาของซาช่าเลย...ไม่อยากให้ต้องเจ็บปวด
จะต้องมีชีวิตรอดไปจากที่นี่ให้ได้
พอคิดได้แบบนั้น ลีออนก็พยายามดึงเศษเหล็กเส้นยาวเหยียดออกจากต้นขาและทำแผลให้ตัวเองแบบลวกๆ พอจะห้ามเลือดไม่ให้ไหลออกมามากกว่าเดิมได้ แต่ความเจ็บปวดก็ยังคงรุมเร้า ทำให้เดินไปไหนไม่ไหวอยู่ดี
เครื่องมือสื่อสารก็พังไปหมดแล้ว ยาแก้ปวดและยาฉุกเฉิน รวมทั้งอาหารบางส่วนก็ถูกน้ำโสโครกด้านล่างพัดพาไปหมดแล้ว แต่ถึงจะเก็บกลับมา ก็กินไม่ได้อีก
เข้าวันที่ 4 แล้วที่ต้องนอนนิ่งไม่ได้กินอะไรเลยอยู่แบบนี้ แสงตะวันก็ไม่ได้เห็น ในท่อระบายน้ำนี่ทั้งอับชื้นและมืดมิด ไฟฉายก็ถ่านหมด
เขาเชื่อว่าคริสคงออกตามหาอยู่แน่นอน เพราะอย่างนั้นถึงยอมอยู่เฉยๆ รอให้ความช่วยเหลือมาถึง
“คริส...ฉันเชื่อใจนาย”
เขาถอนหายใจพลางนั่งพิงกำแพงที่เยียบเย็นด้านหลัง ขาข้างที่เจ็บมีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย แม้จะเจ็บปวดแค่ไหนก็จะพยายามประคองสติเอาไว้ให้ได้ จะต้องมีชีวิตต่อไปให้ได้
เพื่อจะได้กลับไปหานาย...และเฝ้ามองรอยยิ้มของนาย
...ซาช่า...
Sasha’s Part
หลังจากที่คริสติดต่อมา ซาช่าก็เฝ้ารอข่าวของลีออนอยู่ที่บ้านตลอดเวลา ถึงขนาดขอลาพักยาวจากงานพิเศษที่ทำอยู่ แม้ว่าเจ้าของร้านจะเสียดายที่ซาช่าขอพัก แต่ก็เข้าใจว่าเป็นห่วงคนรักจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว
ไม่ว่าจะนั่งหรือนอน ซาช่าก็ได้แต่คิดถึงลีออน กังวลจนแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับ
เขาฝันเห็นลีออนที่ติดอยู่ในที่แคบๆ มืดๆ ที่ไหนสักแห่ง แม้ว่าจะพยายามเอื้อมมือออกไปหา ก็ไปไม่ถึง
ได้แต่ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้อยู่ไกลๆ ด้วยความเจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้เลย
และพอตื่นมา น้ำตามันก็ไหลไม่ยอมหยุด
ได้แต่คิดว่า ทำไมตัวเขาถึงไร้พลังอย่างนี้ กลายเป็นคนธรรมดาที่แสนจะอ่อนแอ ไม่สามารถปกป้องหรือช่วยเหลือผู้คนที่ตัวเองรักได้เลย
เหมือนตอนนั้น...ที่สูญเสียทั้งอดีตคู่หมั้นและเพื่อนรักไป
“ลีออน...” เขาเอ่ยเรียกชื่อของคนที่ไม่อยู่ตรงหน้าแล้วอย่างเลื่อนลอยพลางยื่นมือไปลูบบนโซฟาที่ลีออนเคยนั่งอยู่เคียงข้าง
คิดถึงเหลือเกิน อยากให้นายกลับมาอยู่ตรงนี้เร็วๆ
ระหว่างที่คิดถึงลีออน เสียงออดหน้าประตูก็ดังขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทันรู้สึกตัว
ซาช่ารีบลุกไปกดอินเตอร์โฟนดูว่าใครมา ใจหนึ่งก็อยากให้เป็นคริสหรือใครสักคนที่มาแจ้งข่าวว่าพวกเขากลับมาพร้อมกับลีออน ที่อาจจะบาดเจ็บนอนยิ้มทะเล้นอยู่บนเตียงคนไข้ก็ได้
“ผมซื้อของกินมาฝากครับ” แต่คนที่มาก็คือสตีฟ เด็กหนุ่มยิ้มบางๆ พร้อมกับชูถุงอาหารที่ซื้อมาฝากให้ดู
ซาช่าจึงเปิดประตูให้สตีฟเข้าไปในห้อง พอสตีฟก้าวเท้าเข้ามา เจ้าเหมียวอ้วนลูกชายของลีออนก็ส่งเสียงร้องหง่าวๆ คล้ายจะไม่ถูกใจ
“มันคงไม่ชอบกลิ่นสุนัขที่ติดตัวผมจริงๆ ด้วยนะฮะ”
“ก็คงใช่...อืม ขอบใจนะที่อุตส่าห์แวะมาหา” ซาช่าว่าพลางเดินไปชงโกโก้ร้อนๆ มาเสิร์ฟให้ สตีฟนั่งลงบนโซฟาและหันไปมองเจ้าเหมียวอย่างหวาดๆ
“ฮะๆ คราวก่อนนายโดนมันข่วนเอานี่นะ”พอเห็นซาช่าหัวเราะได้ สตีฟก็ยิ้มอายๆ พลางรับแก้วโกโก้ร้อนมาดื่ม แต่สักพัก ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาก็กลับไปทำสีหน้าอมทุกข์เหมือนเดิม
“ยังไม่ได้ข่าวจากเขาเหรอครับ?” สตีฟเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“อื้อ” ซาช่าพยักหน้าและถอนหายใจ
สตีฟจ้องมองใบหน้าด้านข้างของซาช่าที่ดูอ่อนล้าและไร้ซึ่งรอยยิ้มอบอุ่นเหมือนเคย เขากำมือแน่น
อยากให้หมอนั่นหายไปซะ...ไม่ต้องกลับมาที่นี่อีกเลย
เพราะผมจะอยู่ข้างๆ คุณเอง
ผมต้องการคนคนนี้ ผมอยากได้รอยยิ้มของเขามาเป็นของผมคนเดียว
ลีออน...นายน่ะมันไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว
to be cont.9
ความคิดเห็น