ไกรไวท์สโนทอง เดอะ คอเมดี้ - ไกรไวท์สโนทอง เดอะ คอเมดี้ นิยาย ไกรไวท์สโนทอง เดอะ คอเมดี้ : Dek-D.com - Writer

    ไกรไวท์สโนทอง เดอะ คอเมดี้

    ไกรทองมาเจอกะสโนไวท์จะเกิดอะไรขึ้น

    ผู้เข้าชมรวม

    201

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    201

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 พ.ย. 49 / 18:06 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ไกรไวท์สโนทอง เดอะ คอเมดี้
                 กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีราชินีแห่งเมืองเดมอสทรงพระสุบินนิมิตว่า"พระองค์ได้ทรงเย็บพระเขนยที่ขาดด้วยพระองค์เอง ท่ามกลางราตีในคืนหิมะตก แล้วพระองค์ก็ทอดพระเนตรออกไปที่สระน้ำหน้าพระราชวัง จู่ๆก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่ขาดคิดขึ้น มีสัตว์ประหลาดตัวใหญ่โผล่ขึ้นมาจากสระน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งแล้วคาบกวางลงไปในน้ำ1ตัว พระองค์ตกพระทัยมากพระหัตถ์กำเข็มแน่นจนปลายเมไปจิ้มโดนพระอังคุฐจนพระโลหิตสีแดงหลั่งไหลดังสายทารา"พระองค์ทรงสะดุ้งตื่นจากบรรทม รุ้งเช้าพระองค์ทรงมีรับสั่งให้โหลหลวงมาทำนาย โหลหลวงทำนายว่า"จะมีธิดาน้อยลงมาจุติยังครรภ์ของพระองค์ โดยพระธิดาองค์นี้จะมีสีผิวขาวดังหิมะปากแดงดังโลหิตผมดำสนิดดังท้องฟ้ายามราตี แต่เมื่อพระธิดาประสูติได้1ปีพระองค์จะเสด็จสวรรคต หลังจานั้นพระราช
      จะอภิเษกสมรสกับหญิงอื่นและต่อจากนันอีก2ปีพระราชาจะเสด็
      จสวรรคต หลังจากนั้น14ปีพระธิดาของพระองค์จะถูกเนรเทศออกจากเมืองพระพุทธเจ้าค่ะ" โหลหลวงทำนาย
      "มันจักเป็นอย่างนี้จริงหรือท่าน"ราชินีแห่งเมืองเดมอสตรัสเพื่อความแน้พระทัย"เป็นคามจริงพระพุทธเจ้าค่ะ"

                  หลังจากนั้นไม่นานพระองค์ก็ประสูติพระธิดาองค์น้อยตามคำทำนายนามว่า'เจ้าหญิง

      สโนไวท์'แต่หลังจากนั้น1ปีพระองค์ก็เสด็จสวรรคต แล้วพระราชาก็ทรงอภิเษกสมรสกับหญิงชาวนาผู้มีสิริโฉมงดงาม และหลังจากนัน2ปีพระราชาก็เสด็จสวรรคต

                  วันคืนเปลี่ยนหมุนไปสโนไวท์ยิ้งสวยขึ้นทุกวันๆจนราชินีใจร้ายยิ้งอิดฉาเจ้าหญิงสโนไวท์มากขึ้นทุกวัน

                  วันหนึ่งขณะที่เจ้าหญิงสโนไวท์มีพระชนมายุได้17พรรษา ราชินีใจร้ายได้ถามกับกระจกวิเศษว่า"โอม........เพี้ยง ......ด้วยอำนาจแห่งเวทมนตร์วิเศษของข้า กระจกวิเศษจ้า....จงบอกข้ามาสิว่าหญิงใด้งามเลิศที่สุดในปฐพีนี้"ราชินีใจร้ายถาม"โอ้~ราชินี ในทั้วท้องปฐพีนี้หามีผู้ใด้งามเกินกว่าพระองค์ไม่......แต่เดี๋ยวก่อน!ยังมีสาวงามอีกหนึ่ง นางมีผิวขาวดังหิมะปากแดงดังโลหิตผมดำสนิดดังท้องฟ้ายามค่ำคืน หญิงผู้นั้นหาใช้คนไกลตัวไม่ หญิงผู้นั้นคือ...เจ้าหญิงสโนไวท์"กระจกวิเศษตอบ"หา!นังสโนไวท์!" สิ้นเสียงนางจึงรีบเสด็จออกจากห้องใต้ดินแล้วตรงไปยังท้องพระโรง

      มีรับสังกับทหารนายหึ่งว่า"เจ้าจงฟังข้า เจ้าจงพาสโนไวท์ไปยังป่าแล้วก็ฆ่านางที้ง พอฆ่าเสร็จเจ้าจงนำหัวใจใส่กล้องนี้มา""พระพุทธเจ้าค่ะ"ทหารตอบแล้วรีบทำตามแต่โดยดี แต่ทหารเมื่อเห็น

      สโนไวท์จึงนึกสงสารเลยบอกให้นางหนีไปที่ไหนก็ได้ให้ไกลที่สุด แล้วทหารก็นนำหังใจหมูไปให้ราชินีใจร้ายแทน

                  สโนไวท์ระหกระเหินเดินทางไปเรื่ยๆอย่าไร้จุดหมายเป็ฯเวลา10วัน10คืนจนในที่สุดก็เห็นเมืองๆหนึ่งแด้วยความหิวกระหายนางจิงเป็นลมล้มไป ศรีษะของนางกระแทกอย่างแรงกับก้อนหินทำให้ความจำบ้างส่วนของนางหายไปแล้วเจ้าเมืองนำตัวนางไปเลี้ยงไว้เป็นบุตรบุญธรรมโดย

      ให้ชื่อนางใหม่ว่า'ตะเภาทอง'

                  ในเมืองนั้นมีถ้ำอยู่ในแม่น้ำแห่งหนึ่งและถ้ำนั้นก็เป็นถ้ำของจระเข้กล่าวกันว่าในถ้ำมีลูกแก้ววิเศษซึ่งส่องประกายแวววาวทำให้บริเวณถ้ำนั้นสว่างไสวอยู่เป็นนิตย์ ดุจเวลากลางวันเลยทีเดียว เมื่ออยู่ในถ้ำจระเข้ทุกตัวก็จะกลายร่างเป็นร่างเป็นมนุษย์ได้และจะไม่รู้สึกหิวอะไรเลย ภายในถ้ำมีพญาจระเข้ผู้เฒ่าอยู่ตัวหนึ่งชื่อว่า ท้าวรำไพ เป็นราชาแห่งจระเข้ที่ไม่ยอมกินสิ่งมีชีวิตและบำเพ็ญตนถือศีลมาเป็นเวลานาน จระเข้ผู้เฒ่านี้มีบุตรอยู่ตัวหนึ่งชื่อว่า ท้าวโคจร และท้าวโคจรเองก็มีบุตรตัวหนึ่งชื่อว่า ชาละวัน ในเวลาต่อมาท้าวโคจรเกิดทะเลาะวิวาทกับพญาจระเข้ด้วยกันชื่อ ท้าวพันตาและพญาพันวัง ทั้งสามต่อสู้กัน เพื่อชิงความเป็นใหญ่น้ำแต่ผลปรากฏว่า ทั้งสามต้องมาจบชีวิตลงจากบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้กันนั้น

      ดังนั้นพญาชาลาวัน จึงได้ครอบครองความเป็นใหญ่ในถ้ำโดยไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจหลังจากนั้นก็ได้นางจระเข้สองตัวเป็นภรรยา คือ นางวิมาลา และนางเลื่อมลายวรรณ โดยธรรมชาติของสัตว์กินเนื้อ ถึงแม้ว่ามันจะกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ก็ตามที พญาชาละวันก็ยังมีนิสัยดุร้าย และชอบกินเนื้อมนุษย์ไม่เหมือนกับจระเข้ที่เป็นปู่ของตน พญาจระเข้ตัวใหม่นี้ไม่รักษาศีลแต่อย่างใด

      วันหนึ่ง พญาชาละวันออกมาจากถ้ำเพื่อหาเนื้อมนุษย์กินเป็นอาหาร ได้ว่ายตามน้ำมาจนถึงท่าน้ำเมืองพิจิตรเวลานั้นสองสาว ตะเภาแก้วและตะเภาทอง ซึ้งตะเภาทองเป็นเพียงบุตรบุญธรรมของเจ้าเมืองพิจิตรเท่านั้น บุตรสาวของเจ้าเมืองพิจิตรกำลังลงเล่นน้ำอยู่ในแม่น้ำหน้าบ้านของตนอยู่พอดี สองพี่น้องห้อมล้อมด้วยบ่าวไพร่หลายคน

      ความงามของตะเภาทองเป็นที่ต้องตาต้องใจของชาละวันมาก มันเกิดความรักในมนุษย์ขึ้นมาในทันที เจ้าสัตว์ร้ายเปลี่ยนใจทันที จากความต้องการที่จะกิจเนื้อเหยื่อกลับกลายเป็นรักเหยื่อดังนั้นมันจึงว่ายน้ำตรงรี่เข้าไปหาหญิงสาวแล้วคาบนางไว้ท่ามกลางความตกตะลึงของบ่าวไพร่ ชาละวันคาบหญิงสาวผู้ไร้เดียงสาไปสู่ถ้ำของตนในทันที

      ในขณะที่ถูกคาบอยู่ในปากตะเภาทองสลบไสลไม่ได้สติ ชาละวันทำการรักษาจนนางฟื้น ครั้นลืมตาขึ้นนางก็ต้องตกใจที่ได้พบกับถ้ำอันวิจิตรตระการตายิ่งนัก เมื่อนางเห็นชาละวันผู้ซึ่งตอนนี้ได้กลายร่างเป็นมนุษย์แล้ว นางก็รู้สึกขวยเขินที่ได้เห็นชายหนุ่มรูปงาม ฝ่ายชาละวันก็จัดการเกี้ยวพาราสีนางจนกระทั่งนางหลงรักและตกเป็นภรรยาคนที่สามของชาละวันไป และนับจากนั้นมาก็เริ่มมีการทะเลาะวิวาทในระหว่างภรรยาทั้งสามของชาละวันอยู่เป็นประจำ

      ในขณะเดียวกัน หลังจากได้ทราบข่าวที่ทำให้ตกตะลึงนี้แล้ว เจ้าเมืองพิจิตรก็เกิดวิตกกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูกสาวตน และแค้นเคืองเจ้าสัตว์ร้าย เพื่อกำจัดเจ้าจระเข้ร้ายเสีย ท่านเจ้าเมืองจึงป่าวประกาศว่าผู้ใดก็ตามสามารถสังหารจระเข้ได้และสามารถนำลูกสาวของตนกลับมาในขณะมีชีวิต จะได้แต่งงานกับนางและได้ส่วนแบ่งในทรัพย์สมบัติของตน

      ขณะนั้นมีชายหนุ่มวัยแตกพานอายุ 18 ปี อยู่คนหนึ่งชื่อว่า "ไกรทอง" เป็นชาวจังหวัดนนทบุรีได้คุมเรือไปทำการค้าขายอยู่ที่เมืองพิจิตร และได้ถือโอกาสเล่าเรียนวิชาอาคมกับอาจารย์ที่นั่นเขามีความชำนาญในการปราบจระเข้และสามารถระเบิดน้ำเป็นทางเดินเข้าไปได้

      เมื่อไกรทองรู้ข่าวการประกาศให้รางวัล เขาก็อาสาปราบจระเข้โดยไม่รีรอ ก่อนอื่นเขาไปพบอาจารย์และเล่าให้ท่านฟังเกี่ยวกับการพจญภัยในครั้งนี้ อาจารย์ของเขาจึงได้ทำการตรวจดู ดวงชะตาราศีและตรวจดูฤกษ์ยามเห็นว่าไกรทองจะต้องมีชัยชนะในการพิชิตจระเข้ร้ายได้อย่างแน่นอน แต่เนื่องจากจระเข้ร้ายมีเขี้ยวแก้ว จึงไม่มีอาวุธใดที่จะระคายผิวของมันได้ อาจารย์จึงได้มอบของวิเศษ 3 อย่างให้ไกรทองไปซึ่งก็ได้แก่ เทียนชัย ใช้จุดระเบิดน้ำเป็นทางเดินไปจนถึงที่หมาย มีดหมอลงอาคม และหอกสัตตะโลหะ พร้อมให้พรให้ไกรทองประสบชัยชนะ

      ฝ่ายชาละวันหลังจากได้ตะเภาทองเป็นภรรยาคนที่สามแล้ว คืนวันหนึ่งได้ฝันว่าเกิดมีไฟไหม้ขึ้น และ มีเทวดาผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ใช้พระขรรค์ตัดคอตนขาดกระเด็น หลังจากตื่นขึ้นก็ตกใจรีบไปปรึกษาปู่ของตน คือท้าวรำไพผู้ซึ่งรู้ได้ทันทีว่าหลานของตนกำลังตกอยู่ในอันตราย จึงสั่งให้ชาละวันจำศีลอยู่ในถ้ำเป็นเวลา 7 วัน เพราะถ้าเขาขืนออกไปก็จะต้องประสบกับอันตรายอย่างแน่แท้ ชาละวันเกิดความกลัวจึงสั่งให้บริวารจระเข้นำหินมาปิดปากถ้ำไว้อย่างแน่นหนา และเริ่มถือศีลตามคำแนะนำของจระเข้ผู้เป็นปู่

      ในขณะเดียวกันหลังจากกล่าวลาผู้เป็นอาจารย์แล้ว ไกรทองก็ต่อแพลอยลงน้ำและประกอบพิธีเรียกราชาแห่งจระเข้มาต่อสู้กัน ชาวบ้านที่อยากดูเหตุการณ์เมื่อรู้ข่าวการล่าพญาจระเข้ทั้งอยู่ใกล้ไกลก็แห่กันมาดูเหตุการณ์อยู่บนฝั่งแม่น้ำอย่างใจจดใจจ่อและถึงแม้ว่าพญาชาละวันจะพยายามปกป้องชีวิตของตนอย่างดีที่สุดแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถหนีโชคชะตาไปได้ ดังนั้นพิธีของไกรทองจึงทำให้ชาละวันรู้สึกเร้าร้อนเหมือนถูกไฟเผา เมื่อสุดจะทนไหวแล้วชาละวันก็ลืมคำสั่งของผู้เป็นปู่เสียสนิท พญาชาละวันจึงแผลงฤทธิ์พังประตูถ้ำออกมาแล้วโผล่ขึ้นเหนือน้ำกลายเป็นจระเข้ใหญ่น่ากลัว แม่น้ำที่สงบเงียบก็ปั่นป่วยด้วยฤทธิ์ของสัตว์ร้าย ทันทีที่ทั้งคู่เผชิญหน้ากันก็เกิดการต่อสู้กันชุลมุนท้ายที่สุดไกรทองก็แทงสัตว์ร้ายเข้าที่ใต้ราวนมด้วยหอกสัตตะโลหะทันใดนั้นทั่วทั้งลำน้ำก็กลับกลายเป็นสีแดงฉานพร้อมทั้งกลิ่นคาวเลือด เพื่อปกป้องชีวิตของตนไว้ พญาชาละวันจึงหนีเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในถ้ำใต้น้ำ แต่ว่าไกรทองไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้นเขาตามคู่ต่อสู้ลงไปในถ้ำ โดยจุดเทียนชัยระเบิดน้ำเป็นทางลงไปใต้น้ำ

      เมื่อเข้าไปในถ้ำไกรทองเห็นวิมาลา ภรรยาของชาละวันก็แกล้งทำเป็นเข้าไปลวนลามเพื่อให้นางส่ง เสียงจะได้ยั่วให้สัตว์ร้ายที่กำลังได้รับบาดเจ็บออกมาที่ซ่อน ชาละวันเองเข้าไปหาปู่ของตนเพื่อให้ช่วยรักษาบาดแผลให้ แต่ว่าจระเข้เฒ่าไม่สามารถจะช่วยอะไรได้เพราะชาละวันไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้ เสียงหวีดร้องของภรรยาทำให้เจ้าสัตว์ร้ายเดือดดาลยิ่งนักถึงกับออกมาจากที่ซ่อนแต่ก็มาถูกแทงตายอยู่ตรงนั้นเอง ไกรทองสามารถช่วยตะเภาทองออกมาได้และนำนางขึ้นสู่เหนือผิวน้ำท่ามกลางเสียงโห่ร้องฝูงชน

      ด้วยความดีใจอย่างสุดซึ้ง ท่านเจ้าเมืองพิจิตรจึงมอบรางวัลให้ไกรทองตามสัญญาพร้อมกับยกลูกสาว อีกคนหนึ่งคือตะเภาแก้วให้เป็นภรรยาของไกรทองด้วย ดังนั้นไกรทองจึงได้สองพี่น้องเป็นภรรยาพร้อมกับสมบัติอีกส่วนหนึ่งจากท่านเจ้าเมือง ทั้งสามจึงใช้ชีวิตอยู่ในเมืองพิจิตรอย่างมีความสุข

      กล้าวถึงราชินีใจรายเมื่อรู้ว่าหัวใจที่ทหานให้มานั้นเป็นเพียงหัวใจของหมู่ป่า นางจึงโกรธทหานผู้นั้นเป็นอย่างมากนางหยิบปืนกระบอกหนึ่งขึ้นมาแล้วยิงเข้าที่หัวใจของทหานผู้นั้นตายทันที

      "โอม.......เพี้ยง ......ด้วยอำนาจแห่งเวทมนตร์วิเศษของข้า กระจกวิเศษจ้า....จงบอกข้ามาเถิดว่านังสโนไวท์อยู่ที่ใด"ราชินีใจร้ายถาม"โอ้ราชินี อันสโนไวท์นั้นหามีอยู่ในโลกนี้ไม่ หากแต่เหลือหยิงงามอีกคนหนึ่งที่มีทุกอย่างที่เหมือนกับสโนไวท์ ว่าเป็นสโนไวท์คนที่2เลยก็ได้ นางมีนามว่า'ตะเภาทอง'ซึ้งความจริงนางก็คือสโนไวท์นั้นเอง"กระจกวิเศษตอบ"แล้วนางอยู่ที่ใด""นางอยู่ในเมืองพิจิตร""พิจิตรหรอ~" ทันใดนันเองนางแปลงร้างเป็น 'ยายแก่แว่นหนาเตอะ สิวเขรอะเหล็กดัดฟัน'แล้วพายเรือไปยังเมืองพิจิตร

      กล้าวถึงท้าวรำไพ ผู้เป็นราชาแห่งจระเข้ เมือรู้ว่าตะเภาทองจะมีเคราะห์ จึงสังให้บริวารไปบอกกันตะเภาทองว่าจะมีเคราะห์ร้ายเกิดขึ้นให้ตะเภาทองรักษาศีลอยู่เป็นเวลา10วัน จึงจะพ้นเคราะห์

      ตะเภาทองรักษาศีลอยู่จนถึงวันที่9ตอนเช้า ขณะที่นางกำลังอาบน้ำอยู่ได้มียายแก่แว่นหนาเตอะ สิวเขรอะเหล็กดัดฟันมาขายทุเรียนให้ ตะเภาทองไม่ชอบจึงไม่ขอซื้อไว้แต่เมือยายแก่แว่นหนาเตอะ สิวเขรอะเหล็กดัดฟันบอกกับตะเภาทองว่าไกรทองชอบกีนทุเรียนเป็นที่สุด เมือนางจับลูดทุเรียนหนามของมันที่อาบน้ำแร่แช่ยาพิษของมันตำเข้าที่มือของตะเภาทอง ทำให้นางหลับไหลไป ร้างของนางกลิ้งตกลงไปในแม่น้ำ จระเข้น้อย7ตัวเห็นเข้าจึ้งนำนางไปถวายท้าวรำไพ

      ท้าวรำไพเมื่อเห็นตะเภาทองในชุดอาบน้ำจึงศีลแตก พอตะเภาทองฟื้นขึ้นมาท้าวรำไพจึงพูดจาเกี้ยวพาราสีนางจนกระทั่งนางหลงรักและตกเป็นภรรยาคนแรกของท้าวรำไพ ท้าวรำไพได้ให้พร1ประการแก่ตะเภาทองคือ ไม่มีศาสตราวุฒใดๆจะมาทำลายได้

                  เมื่อไกรทองรู้เข้าจึงคิดว่าตะเภาทองแอบมีชู้ หมายจะฆ่าด้วยการแผลงศรใส่แต่ด้วยความที่ไกรทองยิงธนูไม่เป็นจึงเปลี่ยนมาเป็ยยิงด้วยปืนแทน ลูกกระสุนกระแทกเขาที่ร้างของตะเภาทองแต่ตะเภาทองกลับเป็นเพียงสลบไปเพราะความตกใจเท่านั้นเท่านั้น ท้าวรำไพสำนึกผิดจึงมาขอโทษไกรทอง เมือไกรทองรู้จึงยกโทษให้

                  เวลาล่วงเลยไปนานวันตะเภาทองก็ไม่ฟื้นซักที ไกรทองจึงไปถามท้าวรำไพ ท้าวรำไพบอกให้ไกรทองจูบตะเภาทองหนึ่งครั้ง ถึงจะฟื้น

                  ท่ามกลางความอายของไกรทองปากกับปากประสานกัน จนเกิดปาฎิหาริย์3ประการคือ

      1.ตะเภาทองฟื้น 2.เกิดสุริยุปราคา 3.กบ30ตัวตายพร้อมกัน

      เมื่อราชินีใจร้ายรู้ว่าตะเภาทองฟื้นขึ้นมา นางจึงทำแบบเดิมแปลงร้างเป็น 'ยายแก่แว่นหนาเตอะ สิวเขรอะเหล็กดัดฟัน'แล้วพายเรือไปยังเมืองพิจิตร ท้าวรำไพรู้เข้าจึงสั่งให้บริวารไปขัดขวาง เมื่อบริวารเห็นยายแก่แว่นหนาเตอะ สิวเขรอะเหล็กดัดฟันจึเกิดอาการหิว จึงเขมิบยายแก่แว่นหนาเตอะ สิวเขรอะเหล็กดัดฟันเขาไปทันที่ ยายแก่แว่นหนาเตอะ สิวเขรอะเหล็กดัดฟันขาดใจตายคาที่
                                                                                                        
      จบบริบูรณ์
      นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
      เหนือฟ่ายังมีฟ้า เนนือซาลาเปายังมีจุดแดง

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×