ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมชอบเลี้ยงต้อย' [ YAOI ]

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ ๒

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 53


    2





    '' โห ๆ น่ารักว่ะพี่คี ''

    '' แหม ~ เดี๋ยวนี้หิ้วเด็กนะพี่ ! ''

    '' น่ารักจังเลยหว่ะเฮ้ยพี่คี ><!! ''

    '' ฮึ ๆ '' อัคคีไม่พูดอะไรเพียงแค่หัวเราะในลำคอและพยักหน้ารับลูกน้องบางคนที่รับไหว้เท่านั้น วงแขนแกร่งกระชับร่างนุ่มนิ่มในอ้อมอกไว้แน่น ก้าวขึ้นบรรไดไปชั้นบนของบ้าน เขาพาเจ้าตัวนุ่มนิ่มมาไกลมาก ๆ บ้านนี้อยู่ในป่าลึกถูกสร้างไว้เพื่องานแบบนี้โดยเฉพาะโชคดีที่ยังมีไฟฟ้า บ้านนี้เป็นบ้านไม้สองชั้น ชั้นล่างสำหรับลูกน้องของอัคคี ส่วนชั้นบนก็คือที่อยู่ของเหยื่อ และเขา ผู้ทำหน้าที่ดูแลเหยื่อ


    '' เอ็งไปซื้อข้าวมาดิ๊ ที่เหลือก็แล้วแต่เอ็งนะ '' อัคคียื่นแบงค์สีม่วงให้ลูกน้องที่ถือตะกร้าผ้าเดินผ่านหน้าห้อง คนรับแบงค์ทำตาเล็กตาน้อยใส่ลูกพี่ก่อนจะหันไปมองร่างอ้อนแอ้นที่นอนสลบไสลอยู่บนที่นอนนุ่ม

    '' อั๊นแน่ ! ทีพวกผมแล้วต้องหาแดกกันเอง ทีเด็กคนนี้ละต้องกินข้าวซื้อเชียวน๊า ~ '' อัคคีผลักหัวลูกน้องเบา ๆ เป็นเชิงหยอกล้อ ลูกน้องหัวเราะร่า พากันโห่แซวลูกพี่อย่างสนุกสนาน อัคคีส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะจัดแจงปิดประตูห้อง สืบเท้าเข้าไปหาร่างเล็ก อุ้มลำตัวผอมบางขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ไม้ หยิบเอาเชือกที่อยู่ในตู้ไม้ออกมาบรรจงมัดขาเล็ก ๆสองข้างติดกับขาเก้าอี้ จับมือเล็กไพร่หลังมัดอีกครั้ง ดวงตากลมโตปรือปรอยขึ้นมาเบา ๆ แสงอาทิตย์ยามสายทำให้ต้องหรี่ตาลงอีกครั้ง

    '' . . . '' อัคคีเหลือบมองเสี้ยวหน้าเล็กเงียบ ๆ มัดเชือกเสร็จเรียบร้อยจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มือหน้าตบแก้มเนียนเบา ๆ

    '' อือ ออ . . . อะ '' คงเป็นเพราะความง่วงงัน สันชาตญานของคนตัวเล็กจึงอยากจะยกมือขึ้นมาขยี้ดวงตา หากแต่มันไม่เป็นไปตามใจคิด ข้อมือ ข้อเท้า ถูกพันทนาการไปด้วยเชือกเส้นโต !

    '' . . . '' อัคคีไม่พูดอะไร เพียงแค่จ้องดวงหน้าหวานที่ละม้ายคล้ายเด็กหญิงเงียบ ๆ ตามนิสัยของตัวเองที่ไม่ชอบพูด ตัวเล็กจ้องสายตาคมปลาดกลับอย่างใสซื่อ

    '' ไม่ใช่บ้านผมนี่ . . . '' อัคคีพยักหน้าแทนคำตอบ

    '' ที่นี่ที่ไหนฮะพี่ . . . '' ตัวเล็กถามเสียงแผ่ว . . . เมื่อคืนเขาแค่ทะเลาะกับคุณพ่อคุณแม่ รู้ตัวดีว่าถูกทุกคนในบ้านเกลียดมากแค่ไหน . . .  แต่ทำไมครั้งนี้ถึงต้องพาเขามาอยู่ที่ไหนกับใครก็ไม่รู้

    '' บ้าน '' ตัวเล็กส่ายหน้ารัว

    '' ไม่ใช่บ้านผมฮะ '' อัคคีหลุดยิ้มออกมาเบา ๆ

    '' ก็ไม่ใช่บ้านเธอน่ะสิ '' อัคคีเสยผมเล็กน้อย ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงนุ่มตรงข้ามกับเด็กน้อย

    '' ผม . . . ผมอยากกลับบ้านฮะ '' น้ำตาเม็ดโตหยดเผาะลงทันทีที่พูดจบ อัคคีมองภาพตรงหน้าด้วยความเฉยชา ก็ถ้าฉันปล่อยเธอกลับบ้าน ฉันเองก็คงไม่ได้กลับบ้านอีกตลอดไป

    '' อย่าร้องน่า . . . เธอคงจะหิวข้าว '' อัคคีเลือกที่จะเดินออกไปจากห้องนี้ . . . เขาไม่ชอบน้ำตา เขาไม่ชอบคนขี้ร้อง . . . และเขาไม่ชอบเด็ก

    '' พี่คีเด็กนั่นดูคุณหนูนะ '' อัคคีนั่งลงกลางวงลูกน้องที่กำลังดูโทรทัศน์กันอยู่

    '' อืม . . . ลูกปลัด '' ด้วยท่าทีสุขุมเยือกเย็น สุภาพ และให้เกียรติลูกน้องของอัคคี ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับและเคารพของลูกน้องเป็นสิบได้อย่างไม่ต้องสงสัย

    '' โห . . . งี้ทางนู้นก็หาตัวกันให้วุ่นอ่ะดิ '' ลูกน้องคนสนิทถามเบา ๆ

    '' ไม่รู้สิ . . . '' อัคคีจ้องมองภาพคนร้ายในคดีปล้นฆ่าในทีวีเขม็ง ซักวันเขาคงจะต้องเป็นแบบนั้นละมั้ง

    '' อ๊า !!!!!! '' ลูกน้อง 7 คน หันมองหน้าอัคคีทันทีที่ได้ยินเสียงมาจากด้านบนมือของแต่ละคนกุมปืนพกไว้แทบจะทันที อัคคีเพียงแค่ยกมือปราม แล้วค่อย ๆลุกขึ้นไปหาต้นเสียงอย่างใจเย็น

    '' พี่คีแกเงียบโดนใจชิบหายเลยว่ะ '' ลูกน้องคนหนึ่งบอกเพ้อ ๆ ก่อนจะโดนอีก 6 คนโบกศีรษะคนละทีอย่างหมั่นไส้


    '' ฮือ ออ พี่ช่วยผมด้วยสิ !! '' ทันทีที่เปิดประตู ตัวเล็กก็ดิ้นขลุกขลัก ๆ จนเก้าอี้ล้ม อัคคีเดินเข้าไปยกเก้าอี้และเจ้าตัวนุ่มนิ่มขึ้นมาพลางทำสีหน้าปราม ๆ

    '' มีอะไร ? '' ตัวเล็กสะอื้นฮัก เค้นเสียงบอกอย่างยากลำบาก

    '' ตุ๊กแก '' ริมฝีปากอิ่มบุ้ยปากไปทางสิ่งมีชีวิตตัวเขื่องที่จ้องมองทั้งสองตาเขม็ง อัคคีทำหน้าเซ็ง ก่อนเดินไปตบ ๆ ฝาผนังให้ตุ๊กแกเจ้ากรรมออกไป อัคคีทำท่าจะเดินออกไปแต่เจ้าตัวนุ่มนิ่มกลับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง

    '' มีอะไรอีก ? '' เขาถามเสียงเย็น

    '' ผมอยากอาบน้ำ ''

    '' ไม่ ยังไม่ถึงเวลา '' ตัวเล็กยู่หน้ากับความเหนียวเหนอะหนะของตัวเอง . . . ที่นี่ไม่มีแอร์ ตัวเล็กเป็นคนขี้ร้อน

    ' เป็นแค่ลูกเลี้ยง ดัดจริตจะใช้แอร์ ! ได้แค่ฝันไปเถอะ !! '

    ดวงตากลมหลับลงเบา ๆ

    '' ผมขอโทษที่ทำให้รำคาญ '' อัคคีจ้องหน้าตัวเล็กไม่วาง . . . นี่โดนจับมาเรียกข้าไถ่ ทำตัวสุภาพเกินไปแล้ว

    '' เธอคงหิวข้าว '' เขาเลือกที่จะพูดคำนี้อีกครั้ง ช่วงขายาวก้าวออกนอกห้องอย่างไม่ลังเล

    '' ไม่เป็นไร ผมไม่หิวแล้วก็ได้ '' อัคคีขมวดคิ้วหากันอีกครั้ง . . . ไม่หิวแล้วก็ได้ . . . อะไรกันแน่

    '' เรื่องมากจริง ๆ '' เขาพึมพำ แล้วรับถุงข้าวมันไก่มาจากลูกน้อง

    '' หน้าบูดมาเชียวพี่ ทำไมอ่ะ เด็กมันงอแงเรอะ ? '' ถามด้วยความสงสัย อัคคีส่ายหน้าระอา

    '' มันแปลกคนต่างหาก ''



    '' ร้องทำไมอีก '' อัคคีเลื่อนโต๊ะไม้มาด้านหน้าเด็กตัวเล็ก วางข้าว วางน้ำ ไว้ตรงหน้า ส่วนตัวเขา ก็เตรียมจะป้อนข้าวเด็ก แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นหยดน้ำตาเม็ดโต ๆ ไหลลงมาไม่ขาดสาย

    '' ผมกินเองได้ '' หยิ่ง นี่คือคำแรกที่อัคคีนึกออก คงจะร้องเพราะมีคนป้อนข้าวแบบนั้นสินะ . . . คุณหนูก็คงเป็นแบบนี้หยิ่งในศักดิ์ศรีกว่าอะไรทั้งหมด อัคคีปล่อยช้อนโครม ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

    '' กินให้ดูสิ '' เขายืนกอดอกมองเด็กตัวเล็กนิ่ง ๆ เมื่อเด็กไม่ทำตามใจเอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด ความอดทนยิ่งยวดเริ่มหดหาย มือหนาหยิบผ้าขนหนูสีขาวที่แขวนอยู่ข้างเตียงมาอย่างหงุดหงิด จับใบหน้าของเด็กน้อยเช็ดน้ำตาให้อย่างรุนแรง มันคงไม่ใช่การเช็ดน้ำตา มันน่าจะเรียกว่าเอาผ้าถู ๆให้น้ำตาแห้งมากกว่า

    '' อื้อ ออ '' หัวเล็ก ๆส่ายไปตามแรงกระทำของคนตัวโต เสียงสะอื้นค่อย ๆเงียบลง อัคคีหยักยิ้มมุมปากเหน็บผ้าขนหนูที่กระเป๋ายีนส์ด้านหลัง

    '' กินสิ '' ตัวเล็กยู่หน้ามองข้าว อย่างพิจารณา . . . จะกินยังไงดี หิวก็หิว แต่มือถูกมัด จะก้มหน้าลงไปกินเลยดีมั้ย พี่ชายทำหน้าน่ากลัวชะมัด และอีกหลาย ๆความคิด ตัวเล็กถอนหายใจพรืด อัคคีคิ้วกระตุกคิดว่าเด็กตัวเล็กรังเกียจข้าว . . . ถึงกับขนาดถอนหายใจใส่ข้าว ปกติกินแต่ของหรู ๆรึไง ?!

    '' แล้ . . . '' อัคคีไม่ปล่อยให้เด็กตัวเล็กพูดจบ จับช้อนตักข้าวคำโต มืออีกข้างบีบปากเล็ก ก่อนจะยัดข้าวคำโตเข้าไปอย่างหมั่นไส้

    '' กินผัก จะได้โตไว ๆ '' คำพูดนุ่มละมุน แต่การกระทำตรงกันข้าม มือหนายัดแตงกวาเข้าปากเล็ก แก้มเนียนผุดผาดป่องออก คิ้วเล็ก ๆขมวดเข้าหากัน แต่ก็ยอมเคี้ยวแต่โดยดี

    '' อ๊า '' อัคคีที่หันไปสงบสติอารมณ์ก็ต้องหันกลับมาดู เมื่อเจ้าเด็กตัวเล็กอ้าปากรอข้าวเหมือนลูกนกรออาหารจากแม่นก . . . ทั้ง ๆที่เมื่อกี้ถูกยัดข้าวขนาดนั้นเนี่ยนะ

    '' . . . '' เขาตักข้าวคำโตอีกครั้ง ตัวเล็กรีบหุบปากทันที อัคคีหงุดหงิดอีกครั้ง . . . ไม่ใช่เพื่อนเล่นนะ !

    '' มันคำใหญ่ ผมเคี้ยวไม่ . . . '' อัคคียัดข้าวเข้าปากตัวเอง จ้องหน้าเด็กตัวเล็กนิ่ง ๆ

    '' เธอไม่กินฉันกินเอง '' อัคคีพูดทั้ง ๆที่ข้าวยังเต็มปาก เด็กตัวเล็กอ้าปากเหวอกระทืบเท้าเบา ๆ เพราะถ้ากระทืบแรงเก้าอี้จะล้ม - -

    '' ไม่เอานะ . . . คำใหญ่ผมก็กินได้ อ๊า '' อัคคีตักข้าวใส่ปากเด็กอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นคำเล็ก ธรรมดา ๆ แต่เขาก็ไม่ลืมยัดแตงกวาให้เด็กหรอก

    '' . . . '' อัคคีป้อนข้าวเด็กต่อไป ดวงตาคมปลาดจ้องไรผมชื้นเหงื่อ และเหงื่อบางส่วนที่ไหลลงมาตามเรียวหน้า-ซอกคอ เด็กคนนี้ขาวจั๊วะ แก้มแดงน่ารักน่าหยิก ดวงตาสีอ่อนฉายแววขี้เล่นตลอดเวลา

    '' พี่ชายไม่กินหรอ ? '' อัคคีตักข้าวเข้าปากตัวเองแทนคำตอบ ตักน้ำซุปให้เด็กตัวเล็กได้ซดให้โล่งคอ และยัดแตงกวาเข้าปากเล็ก ๆอีกครั้งหนึ่ง

    '' . . . '' อัคคีไม่พูดอะไร เขารู้สึกผ่อนคลาย . . . ให้ความรู้สึกเหมือนพ่อกับลูก พ่อกินคำ ลูกกินคำ . . . เจ้าเด็กคนนี้มักจะยิ้มเสมอเวลาที่เขาตักน้ำซุปให้กิน เรียวปากอวบอิ่มจะซดเสียงดังจนเขาต้องตีแขนเล็กปราม บางทีเขาอาจจะคิดผิดที่ว่าเด็กคนนี้หยิ่งยโส

    '' น้ำ ~ '' เด็กน้อยครางเบา ๆ อัคคีหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่มหนึ่งครั้งก่อนจะส่งให้เด็กตัวเล็กอีกที อัคคีตำหนิลูกน้องในใจเบา ๆ ว่าทำไมไม่ใส่หลอดมาด้วย ฟันซี่สวยกัดขอบแก้วไว้เบา ๆ รับน้ำเย็นลงคออย่างยากลำบาก น้ำบางส่วนไหลลงลำคอระหงส์ ซึ่งเจ้าเด็กตัวน้อยก็หัวเราะดิ้นพร่านทันที

    '' อะไร ? '' อัคคีถามงง ๆ เด็กคนนี้ใสซื่อมากที่สุด อัคคีแทบจะไม่รู้ตัวเลย ว่าเขาหลงไหลความบริสุทธิ์นี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่

    '' เย็น >< '' เด็กน้อยหัวเราะคิก ๆ เขาคางเล็กชิดอกบาง บ่งบอกว่าเย็นจริง ๆ อัคคีดึงผ้าขนหนูมาซับซอกคอนุ่มให้เบา ๆ ซับเรื่อยมาถึงแผ่นอกบาง เด็กน้อยครางเครือเมื่ออัคคีไล่นิ้วเบา ๆ สัมผัสนุ่มนวลและตึงเรียบ ดึงดูดเขาอย่างรุนแรงจนไม่อยากหยุดตัวเอง อัคคีโน้มใบหน้าเข้าไปหาดวงหน้าหวานที่ทำหน้าตื่นตระหนก พวงแก้มแดงซ่านเขินอายแบบเด็ก ๆ เขาจ้องริมฝีปากอวบอิ่มไม่วางตา และค่อย ๆ เลื่อนใบหน้าเข้าไปอีกหวังจะฉกฉวยริมฝีปาก ลมหายใจผะผ่าวส่งผ่านกันเบา ๆ หากแต่ร้อนรุ่มเสียจนทรมาน


    '' พี่คีท่านโทรมะ . . . เดี๋ยวค่อยคุยก้อล่ายย ย >//< ผมไม่เห็น ๆ '' อัคคีผละออกมาจากดวงหน้าหวานทันที เกาแก้มเบา ๆ รีบเดินออกจากห้องโดยที่ไม่มองเด็กน้อยตัวนุ่มนิ่มเลยแม้แต่นิดเดียว

    '' ชื่ออะไรล่ะเราหือ ? '' ลูกน้องคนสนิทถามเด็กน้อยเบา ๆ

    '' ชื่อ ตัวเล็กครับ '' เด็กน้อยตอบน้ำเสียงร่าเริงทำเอาลูกน้องคนสนิทที่กำลังยกน้ำยกจานข้าวหันมามองด้วยความเอ็นดูปนสงสัย

    '' อือ . . . พี่ชายคนนั้นเขาชื่อพี่คีนะ . . . เขาไม่ใจร้ายหรอก อย่าดื้อกับเขาแล้วกัน เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้วนะ '' เด็กน้อยคิ้วขมวด

    '' ผมไม่อยากกลับแล้ว . . . ผมชอบพี่คี . . . พี่ชายอย่าไปบอกพี่คีนะ ><''


    ----------------------- 100% ---------------
    มันชอบคิดสวนทางกันน่ะคะ - -*
    เลยแอบมีฉากจำเลยรักมาปน ๆอยู่บ้าง
    ขอบคุณทุก ๆคอมเม้นมากค่ะ ขอบคุณค่ะ :D

    ♥ รีดเดอร์จ๊ะ !
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×