ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Miracle Maker~~เทวดาตกสวรรค์~~

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 :วันแรกของการไปโรงเรียน

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 49



    “ข้ารักท่าน”

    ร่างโปร่ง บาง ในอ้อมกอด ถอยห่างออกเล็กน้อย ก่อนโน้มตัวเข้าไปอีกครั้ง ริมฝีปากสีชมพูสดเคลื่อนเข้ามาใกล้ ชายชุดขาวพริ้มตาหลับรอการจุมพิศจากหญิงสาว

    พลั๊ก..

    อ๊อก!! แค่กๆ

    “โอย หายใจ ม..ไม่ออก”

    “ดี นายจะได้ตายไปเลย ตายซะ ไอ้เทวดาจอมกะล่อน”

    ผมลืมตาขึ้นมาอีกทีนึงพบว่า ขณะนี้ผมอยู่ที่พื้น โดยที่ถูกคู่กรณีรัดคอมาจากด้านหลัง นี่แสดงว่าผมโดนเธอถีบลงจากเตียงแล้วมารัดคอผมอยู่แบบนี้ นี่มันยามไหนแล้วเนี่ย

    “นี่ เธอพอแล้ว มันยังมืดอยู่เลยนะ เธอลุกขึ้นมาทำร้ายฉันทำไมเนี่ยฮะ”

    “แค่นี้มันยังน้อยไป นี่ถ้าฉันไม่ปวดฉี่ขึ้นมา ฉันไม่โดนนายทำมิดีมีร้ายอยู่เหรอ”

    “ฉันทำอะไรเธอ”

    “นา ..นายกำลัง..โอ้ย! ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าอย่าขึ้นมานอนบนนี้เด็ดขาด”

    “แต่ว่า ฉันนอนที่พื้นแข็งๆ ไม่ได้ เธอไม่รู้เหรอว่า ทั้งเทวดา นางฟ้าน่ะ กระดูกเปราะบางมาก เรานอนหรือพักพิงบนพื้นแข็งๆ ได้ไม่นานหรอก”

    “ใครจะไปรู้เรื่องบนสวรรค์ของนายเล่า แต่นี่บนโลกมนุษย์นะ”

    “แต่ว่า ถ้าฉันเกิดเป็นอะไรไป ก่อนที่คำมั่นสัญญาของฉันสัมฤทธิ์ผล ฉันคงกลับไปหาแม่ไม่ได้อีก”

    ทำเสียงเศร้าๆ เข้าไว้ทัพฟ้า

    แขนที่รัดคอผมอยู่ ดูเหมือนว่าจะคลายลง ขอบคุณพระเจ้า นึกว่าจะตายซะแล้ว

    “เอ่อ เอาเป็นว่า นายนอนข้างบนแล้วกัน ฉันนอนข้างล่างเอง”

    “ไม่ได้ อย่างน้อยท่านแม่ก็เคยสอนว่า ผู้ชายจะต้องไม่เอาเปรียบผู้หญิง ฉะนั้น ฉันจะไม่ยอมให้เธอนอนข้างล่างเด็ดขาด”

    “แล้วนายจะให้ทำไงล่ะ”

    “เตียงเธอก็ออกกว้าง เราก็นอนด้วยกันนี่แหละ” ความคิดผมเข้าท่าไหมล่ะ

    “กว้างกะผี อ่ะสิ นี่มันเตียงแต่ 3 ฟุตครึ่งเองนะ นายจะบ้าเรอะ”

    “แหม ก็เมื่อกี้ยังนอนกันได้เลย”

    “ก็เมื่อกี้มัน..ฮึ่ย!! ก็ได้ๆ แค่คืนเดียวนะ พรุ่งนี้จะหาทางใหม่”

    สรุปว่าคืนนี้ผมได้นอนบนเตียง แต่รู้สึกว่าครั้งนี้ทำไมมันนอนอึดอัดนักล่ะ ก่อนยายนั่นจะตื่นมารัดคอผมมันนอนสบายกว่านี้นี่นา แต่ก็เอาเถอะ ดีกว่านอนบนพื้นเย็นๆก็แล้วกัน

    <<<<<Miracle Maker[เทวดาตกสวรรค์]>>>>>

    “ไอ้ต้นรัก เฮ้ย!! ไอ้ทัพฟ้า พวกแกทำอะไรกันน่ะ”

    เสียงเอะอะ โวยวายอะไรกันแต่เช้า ผมพยายามลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าตอนนี้ร่างเล็กๆของยายต้นรักกำลังหลับไหลอยู่ในอ้อมกอดของผม แน่นอนแม้ว่าจะรู้สึกอบอุ่นขนาดไหน คงไม่พ้นน้ำลายของยายนี่ที่ยืดใส่ผมอีกหน ผมขยับตัวเล็กน้อย เพื่อให้คนที่หลับสบายรู้สึกตัว

    ยายต้นรักงัวเงียตื่นขึ้นมา ขยี้ตา ปาดน้ำลาย ก่อนปรือตามองแขกทั้งสองคนที่เข้ามาในห้อง

    “เฮ้ย!!”

    “ไม่ต้องมา เฮ้ย เลยแก แกทำอะไรรู้มั่งป่ะ”

    “อะไรเหรอแก พวกแกมาทำไมแต่เช้าเนี่ย”

    “เอาเป็นว่าแกอาบน้ำ แต่งตัวก่อน วันนี้นัดสอบแก้ตัว ไอ้ภัทรมัน แล้วเรามีเรื่องต้องคุยกัน ไอ้ทัพฟ้าด้วย”

    หลังจากนั้น ระหว่างรอยายต้นรักอาบน้ำ ผมโดนนายนาวินเทศซะจนหูชา

    “แกก็เหมือนกัน ต้นรัก ถึงจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกันก็เถอะ มันไม่ดี แกรู้ป่ะ”

    “หือ ลูกพี่ลูกน้อง ใคร”

    ดูเหมือนว่าจะงงๆ ท่านทูตสวรรค์ส่งผมลงมานี่ในฐานะลูกพี่ลูกน้องของยายต้นรัก ลูกชายของพี่ชายพ่อยายนี่ที่อยู่นิวซีแลนด์ เพราะฉะนั้น ทุกคนเข้าใจแบบนี้ทั้งหมด ยกเว้นเจ้าตัว

    “โดนด่านิด บ่นหน่อยทำงงนะแก”

    “แต่ฉันไม่..”

    “นั่นสิ ก็ฉันเป็นลูกชายของลุงเธอที่อยู่นิวซีแลนด์ไง”

    ยายนี่ทำหน้าเอ๋อ ก่อนที่จะลากผมออกไปจากวงสนทนา

    “ลุงฉันไม่มีลูกใครๆ ก็รู้ พอนายกลับไปคนเขาจะว่ายังไง”

    “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า พอฉันกลับ ทุกคนรวมทั้งเธอ ก็จะลืมเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับฉัน”

    “งั้นก็ดีแล้ว ต่อไปจะได้ไม่ยุ่งยาก”

    “ชิ ขี้คร้านเธอจะร้องไห้ ไม่ให้ฉันกลับ”

    “ ให้ถึงวันนั้นก่อนเถอะ ฉันจะจุดธูปส่งนายให้ไปไกลๆเลย”

    สรุปว่า ผม ต้องมานั่งแหง่ว รอยายนภัทรที่สอบตกวิชาฟิสิกส์ อย่างเหนือความคาดหมาย ส่วนสองคนที่นั่งอยู่ข้างๆผมก็ถือว่าผ่านวิชานี้อย่างเหนือความคาดหมายเหมือนกัน ก็เล่นบนซะจริงจังขนาดนั้นอาจารย์เลยออกข้อสอบช่วยเหลือคนโง่ ส่วนพวกไอสไตน์อย่างนภัทรก็ต้องตกไปตามระเบียบ

    “วันนี้เราไปไหนต่อกันดีอ่ะ”

    “ไปซื้อเตียงใหม่ ฉันไม่อยากนอนกอดกะหมอนี่จนกระทั่งมีไอ้ตัวเล็กๆออกมาหรอกนะ”ยายต้นรักโพล้งขึ้นมา

    “โอเค เอาเป็นว่าเพื่อสวัสดิภาพของแกเราไปซื้อเตียงให้ไอ้ทัพฟ้าก่อนละกัน”

    เป็นอันตกลงว่าวันนี้ผมจะได้เตียงใหม่ คิดแล้วก็เสียตายเหมือนกัน การนอนเบียดๆกับยายต้นรัก มันทำให้ผมรู้ว่ายายนี่ตัวนิ่มขนาดไหน

    นาวินขับรถพาพวกเราไปยังตึกสูงๆ ผู้คนมากมาย ต้นรักกระซิบให้ผมรู้ว่า มันคือห้างสรรพสินค้า เป็นที่ที่มีสิ่งของทุกอย่าง ให้พวกมนุษย์เลือกซื้อ

    ต้นรักซื้อเตียงให้ผมขนาดเท่าของเธอ ดูเหมือนว่ามันจะสั้นตัวผมอีกนะเนี่ย แต่ก็เอาเถอะ บ่นมากไปเดี๋ยวยายโหดนั่นก็กลับลำไม่ซื้ออะไรให้ซักอย่าง

    “แล้วแกไม่คิดจะซื้อเสื้อผ้าให้เขาหน่อยเหรอ นายก็เหมือนกันไม่รู้จักเอาของตัวเองมาเลย”

    ยายนภัทรหันมาบ่นผม แล้วจะให้ผมบอกว่ายังไงล่ะครับ ท่านทูตสวรรค์ไม่ให้ผมมางั้นเหรอ เดี๋ยวก็หาว่าผมเป็นบ้าอีกหรอก

    “เออ นั่นดิ ลืมไป นี่ก็ของไอ้วิน”

    แล้วยายจอมยุ่งก็ลากผมเข้าซอกโน้น ออกทางนี้ ก่อนจะออกมาหาสองคนนั่นที่นั่งหมดแรงอยู่ที่เก้าอี้สำหรับคนนั่งพัก

    “เสร็จยัง”

    “ยัง ทีนี้เป็นหน้าที่ของแกแล้วไอ้วิน แกช่วยหน่อยเหอะ”

    นายนาวินทำหน้างงๆ ก่อนที่ที่โพล้งออกมา

    “อ๋อ กางเกงใน เออว่ะลืมไป ทำเป็นอ้ำอึ้งอยู่ได้นะแก”

    ผมพยายามรวบรวมความคิดของคำว่ากางเกงใน แล้วเมื่อนาวินพาผมไปซื้อไอ้เจ้านั่น

    “ใช้ไงเหรอ”

    “OoO”

    “นี่แกอย่าบอกนะทัพฟ้า ว่าใส่กางเกงในไม่เป็น”

    “อ่าๆ ล้อเล่นน่า”

    ผมพยายามประมวลความคิดว่าไอ้เจ้านั่นมันจะใช้ยังไง อย่างน้อยการมองไปรอบๆ ทำให้ผมรู้ว่าไอ้เจ้านี่ไม่ควรใส่ออกมาเดินเพ่นพ่านเป็นแน่

    หลังจากนั้น พวกเรากับมาต่อเจ้าเตียงนั่นกันที่ห้องของต้นรัก

    “เสร็จซักที พวกแกสองคนจะกินอะไรรึเปล่า ฉันเลี้ยง”

    “ไม่ต้องหรอก แกเก็บเงินไว้เลี้ยงหมอนี่เถอะ ฉันกับไอ้วินจะกลับล่ะ พรุ่งนี้ค่อยเจอกันที่โรงเรียนละกัน ทัพฟ้าด้วยนะ”

    “เอางั้นก็ได้” พอสองคนนั้นกลับ ยายนี่ก็ไม่เห็นจะสนใจผมมากกว่าที่เป็นอยู่เลย ผมอยากเป็นไอ้หนังสือนั่นจริงๆ ผมต้องหาทางเรียกร้องความสนใจซะแล้ว ผมหันซ้ายหันขวาไปสะดุดตากับตัวช่วยแล้วครับ แน่นอนมันเป็นสิ่งของอันใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในห้องของเราหยกๆ (ห้องของเรา ผมนี่ช่างแสดงความเป็นเจ้าของได้ดีจริงๆ)

    อย่างน้อยเสียงครืดคราดๆ มันทำให้เธอเงยหน้ามองผมบ้างล่ะน่า อ่าๆ ได้ผล เธอหันมาจริงๆด้วย พร้อมทั้งอ้าปากแหวผมซะดังลั่น

    “นายจะทำอะไรของนาย”

    “ก็จะลากเตียงของเราให้ชนกันไง”

    “ไอ้กะล่อน เอาที่นอนของนายออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นอย่าหวังเลยว่านายได้เสนอหน้าขาวๆของนายอยู่ในห้องนี้”

    “ครับๆ โหดชะมัดเลย แม่ฉันยังไม่โหดเท่านี้เลย” ผมบ่นอุบอิบ ขนาดว่ามาไม่ถึงวันผมยังติดนิสัยมนุษย์มาซะขนาดนี้เลย แล้วถ้าผมอยู่นานๆ ความเป็นมนุษย์ไม่กลืนกินผมไปซะเลยเหรอเนี่ย

    ผมค่อยๆลากเตียงใหม่ของผมมาอย่างช้าๆ แต่ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ผมใช้ความเร็วพอๆกับที่ผมใช้ไปไหนต่อไหนยามเมื่ออยู่บนสวรรค์ (ประมาณ 120 กม/ชั่วโมง) ลากเตียงไปชนกับเตียงข้างๆเหมือนเดิม

    ปึง...ตุบ!!

    คิดว่าเสียงตุบเมื่อสักครู่นั่นคืออะไร ผมจะเฉลยแล้วนะว่า มันคือร่างของผมที่โถมตัวลงบนที่นอน

    “เฮ้ย นั่นนายทำอะไรน่ะ ลงมาเดี๋ยวนี้นะ”

    เหอๆ ยายนั่นพยายามเต็มที่ที่จะลากผมออกมา แต่ใสเจีย เสียใจ ผมเกาะที่นอนแน่นไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหน ลุกให้โง่เรอะ

    “ไอ้ตุ๊กแก นายไม่อายมั่งรึไงฮะ ที่มานอนอยู่กับผู้หญิงแบบนี้”

    “ไม่ ฉันจะนอนอยู่แบบนี้แหละ เผื่อเรานอนใกล้กันแบบนี้เธอเกิดอยากจูบฉันขึ้นมา ก็ไม่ต้องลุกไปให้เสียอารมณ์ไง ฉันเองก็ได้กลับสวรรค์เร็วๆด้วย”

    “ไอ้ลามก ฉันอยากจะเอาอีโต้เลาะฟันนายแล้วก็ดึงลิ้นนายออกมาสับๆๆ ให้เละเลยจริงๆ”

    “น่า หยวนๆน่าเจ๊”

    “นายไปเอาคำพูดแบบนี้มาจากไหนฮะ”

    ผมยักไหล่ จะบอกให้ยายนี่หัวเราะเรอะ ว่าผมลอกคำพูดจากเด็กอายุไม่เกิน 5 ขวบ ที่เดินสวนกันตอนไปห้องน้ำ ซึ่งคิดว่าไอ้เด็กนั่นมันคงแอบดูพี่สาวมันเข้าห้องน้ำ เห็นพี่สาวมันเอ็ดตะโรซะลั่นหน้าห้องน้ำเลยทีเดียว

    “นี่ เจ๊ นอนเหอะ มืดแล้ว จะนั่งหลังขดหลังแข็งอยู่ทำไม”

    “ฉันไม่ยอมขึ้นไปนอนหรอกย่ะ จะขึ้นไปให้นายปล้ำฉันเหรอ”

    “ชิ อะไรจะมั่นใจขนาดนั้น หุ่นเธออ่ะ ขนาดไฟดับจนมองอะไรไม่เห็น ฉันก็ไม่แตะหรอก”

    “ฮึ้ย!!! นายมันแย่สุดๆ ปากเสีย มิน่าล่ะเขาถึงถีบลงมาให้อยู่บนโลกมนุษย์เนี่ย”

    “ถือเป็นคำชมละกันนะ ถ้าเธอไม่นอน ฉันนอนล่ะ ปิดไฟด้วยนะ” ผมทิ้งตัวลงนอน ไม่นอนนักผมก็รู้สึกว่ามีมือมาไหวๆ อยู่ตรงหน้า

    “ทัพฟ้า นายหลับแล้วเหรอ”

    จะบอกให้โง่เรอะ ว่าผมแกล้งหลับ

    หลังจากนั้น ไฟในห้องก็ดับลง ผมก็รู้สึกว่าเตียงข้างๆจะไหวๆ ก่อนร่างเล็กๆจะทิ้งตัวนอนลงข้างๆ ไม่วายยังเอาไอ้หมอนยาวๆ นั่นมากั้นซะอีก ท่าทีของเธอทำให้ผมอดอมยิ้มอยู่ในความมืดไม่ได้

    อากาศคืนนี้ค่อนข้างเย็น อาจเป็นเพราะตอนนี้บนโลกมนุษย์กำลังเข้าสู่ฤดูหนาว ถ้าเป็นบนสวรรค์ ป่านนี้แสงแดดคงสาดความอบอุ่นไปทั่ว ดอกไม้หลากสีกำลังผลิบาน ส่วนนางฟ้าคีตาก็คงจะนั่นดีดพิณ อยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้นั่น นี่คงครบรอบแล้วสินะ ที่ผมได้เจอกับนางฟ้าคีตาตั้งแต่ครั้งแรก

    ร่างเล็กๆค่อยๆซุกตัวเข้ามาหาความอบอุ่น ข้างๆผม ยายคนนี้ตัวเล็กซะจริงๆ ผมว่านางฟ้าคีตาก็ตัวเล็กกว่าผมเยอะแล้วนะ แต่ยายคนนี้ดูท่าว่าจะเล็กกว่านั้นอีกละมั้งเนี่ย มือเล็กๆนั้นกอดลำแขนของผมไว้แน่น สงสัยว่าคืนนี้คงจะหนาวจริงๆ

    <<<<<Miracle Maker [เทวดาตกสวรรค์]>>>>>

    “นี่เธอ ตื่นได้แล้วล่ะจะนอนไปถึงไหน เราต้องไปโรงเรียนนะ”

    ผมปลุกร่างที่คุดคู้อยู่ในอ้อมแขน อ๊ะๆ อย่าเข้าใจผิดว่าผมทำอะไรเธอนะ ยายนี่เข้ามาอาศัยพึ่งพิงผมต่างหากล่ะ ผมเมื่อยเหมือนกันนะเนี่ย

    “ม่ายอาวง่ะ ม่ายไปง่วงนอนอ่ะ มันหนาว”

    มันทำให้ผมรู้ว่ายายคนนี้สอบตกแล้วตกอีกอ่ะ เป็นเพราะอะไร

    “ไม่ได้ เธอต้องตื่น เพราะเธอต้องพาฉันไปโรงเรียน ฉันจำทางไม่ได้”

    ผมยื้อยุดฉุดกระชากยายขี้เซานี่ จนเหงื่อตก แต่ไม่มีทีท่าว่ายายนี่จะตื่นขึ้นมาเลยให้ตาย

    “ถ้าไม่ตื่นจะจูบนะ เชื่อเหอะฉันขโมยเฟิร์สคิส ของเธอแน่ คอยดูสิ ฉันจะนับล่ะนะ...หนึ...”

    “ตื่นแล้ว นายไปจัดการตัวนายเหอะ” ยายนั่นงัวเงียออกมาทั้งขี้หูขึ้ตา

    “ฉันจัดการตัวเองเร็วน่า เธอแหละเร็วๆหน่อย”

    สรุปว่ายกนี้ผมชนะ เพราะคู่กรณีเดินกระแทกเท้า ปิดประตูห้องน้ำปังใหญ่ ผมขอนอนอีกซักงีบดีกว่า เมื่อยชะมัด

    “โอ้ย!! เย็นเฟ้ย”

    อากาศหนาวๆแบบนี้ถ้าโดนน้ำเย็นๆรดตัวอีกล่ะก็มีหวังแข็งตาย และผมเองก็จะเป็นอย่างนั้น หยกๆนี่เอง ยายต้นรักเล่นเอาน้ำเย็นเจี๊ยบในตู้เย็นราดผมตั้งแต่หัวจดเท้า

    “เธอเอาน้ำเย็นแบบนี้มาราดฉันได้ไงฟะ”

    “อ้าว ฉันเรียกตั้งนานแล้วนายไม่ตื่นเองนี่หว่า ถึงเวลานายแล้วจัดการตัวเองซะ ให้ไว”

    ยายต้นรักซึ่งตอนนี้อยู่ในชุดนักเรียนแขนยาว ผูกเน็คไทสีเขียวอ่อน กับกระโปรง ลายสก๊อตเขียวอ่อน ขาว มัดผมหางกระรอก ยืนยิ้ม โชว์ฟันจนครบ 32 ซี่ ส่วนผมก็ยืนหน้ามุ่ย ให้ตายผมอยากล็อคคอยายนี่แล้วเอาหัวโขกกำแพงชะมัด มันน่าหมั่นไส้สุดๆ

    “อย่าลืมถอดคอนแทคเลนส์สีเขียวๆของนายซะด้วยล่ะ” ยายต้นรักตะโกนออกมาจากข้างนอก(ผมอยู่ในห้องน้ำ)

    “อะไร”

    “ก็ไอ้ตานายน่ะ โรงเรียนเขาไม่ว่าหรอกแต่มันเด่นเกินไป”

    “ยายโง่ นี่เธอดูไม่ออกเหรอว่ามันเป็นสีตาของฉันน่ะ ฉันเชื่อเลยว่าสมองเธอเนี่ยมันเท่าปลาหางนกยูงจริงๆ” ผมเดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวที่พันอยู่ท่อนล่าง

    “อ๋ายยยยย นั่นนายเอาผ้าเช็ดตัวฉันไปปิดไอ้ทัพฟ้าน้อยเหรอ”

    อะไรคือทัพฟ้าน้อย แต่เมื่อผมมองตาสายตาของยายนั่นลงมา...อะจึ๋ย!!!

    “งั้นเธอจะเอาคืนเหรอ ฉันถอดให้ก็ได้ ธ่อ กะอีแค่ผ้าเช็ดตัวทำเหนียว”

    ผมทำท่าจะแกะผ้าเช็ดตัวออก แต่ยายนั่นกลับร้องลั่น

    “หยุดเดี๋ยวนี้นะ ทำไมพระเจ้าถึงสร้างผู้ชายมาให้มีแต่ความลามก นะ ไม่ว่าโลกมนุษย์หรือสวรรค์ ผ้าเช็ดตัวผืนนั่นนายเอาไปเถอะ ฉันมีผืนอื่น แล้วอย่ามายุ่มย่ามของคนอื่นอีกเข้าใจไหม”

    ผมพยักหน้าอย่างไม่เข้าใจนัก แต่ช่างเหอะไม่ก็ไม่

    ตอนนี้ผมอยู่ในชุดนักเรียนของโรงเรียนยายต้นรัก ผมคิดว่าโชคดีที่อย่างน้อยโรงเรียนเขาให้ผู้ชายใส่เนคไทสีเดียวกับผู้หญิงแต่กางเกงขายาวสีดำ นี่ถ้ากางเกงสีเดียวกับกระโปรงมันคงตลกพิลึก

    นาวินขับรถมารับพวกเราหน้าอพาร์ทเมนต์ ในรถมีนภัทรนั่งอยู่แล้ว ครู่หนึ่งก็ไปถึงโรงเรียน ผมสังเกตว่าตอนนี้ที่โรงเรียนมองกลุ่มของพวกเราแล้วก็หันไปซุบซิบก่อนหันมามองอีกครั้งด้วยสายตาปิ๊งปั๊ง...

    “เขามองพวกเราทำไมเหรอ”ผมกระซิบถามนาวิน

    “ก็คนมันหน้าตาดีอ่ะ” นายนาวินเป็นคนเฉลยคำถาม

    “คืองี้นะ ปกติไอ้ต้นรักอ่ะ ถึงแม้ว่ามันโง่ฟิสิกส์ แต่มันก็เก่งอย่างอื่น หน้าตามันก็น่ารัก ขั้นนี้เขาไม่ถึงกับเรียกว่าสวยแต่โง่หรอก ถึงว่ามันห้าวไปหน่อยก็เหอะ ดีกรีปริ๊นเซสโรงเรียนเลยนะ พวกผู้ชายในโรงเรียนแล้วก็โรงเรียนข้างๆจีบมันตรึม รวมทั้งฉันด้วยอ่ะ”

    ประโยคสุดท้ายนายนาวินพูดเสียงอ่อนเบา ดูปลงๆนิดหน่อย

    “ส่วนไอ้นภัทร รายนั้นทั้งสวย ทั้งน่ารัก เรียนก็เก่ง แต่ไม่มีใครกล้าจีบหรอก มันสูงเกินไปประเภทว่า หมาเห่าเครื่องบินอ่ะ พวกเกรดโลว์ๆ อย่าหวัง”

    “นายไม่จีบล่ะ”

    “ก็น่าสนอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่ายายนั่นจะสนฉันรึเปล่านะสิ”

    “ส่วนฉันนายดูแล้วเป็นไง”

    “ก็เฉยๆ”

    “โด่ ไอ้ทัพฟ้า ทำไมแกตาถั่วงี้ฟะ นี่ปริ๊นซ์นาวินนะเฟ้ย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่”

    มันก็น่าเชื่อหรอกนะ หมอนี่หน้าตาดีไม่หยอก

    “ส่วนนายนะเฟ้ย บอกตรงๆฉันไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหน ดูดีเท่านายมาก่อนเลยอ่ะ อย่างกับพระเจ้าบรรจงเมคนายขึ้นมาเลยอ่ะ (ก็พระเจ้าสร้างมากับมือนี่ฟะ) ผมสีน้ำตาลอ่อน ดวงตาสีเขียวน้ำทะเล ผิวขาวอมชมพูเนียนละเอียด ขนาดฉันเห็นแล้วอดที่จะชอบนายไม่ได้เลยง่ะ แบบนี้หลอกฟันหญิงได้สบาย”

    “อะไรคือฟัน...”

    “นี่นายไม่รู้เหรอ..แสดงว่านายยังเวอร์อยู่  จริงเหรอฟะเนี่ย เอาไว้ว่างๆจะสอนให้ละกัน”

    “อือ”ผมตอบไปงั้นๆ เพราะผมไม่รู้ว่ามันคืออะไรจริงๆ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×