คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER 2 : แรกพบสบตา
โอย อึดอัดชะมัด แถมยังลืมตาไม่ขึ้นอีก นี่ผมเป็นอะไรไปเนี่ย หวังว่าคงไม่ถูกผีอำหรอกนะ โอยๆๆ แน่นหน้าอกใครก็ได้ช่วยที
“กรี๊ดดดดดด!!!”
เฮ้อ!! เสียงนั่นทำให้ความอึดอัดของผมคลายลงเยอะ ไม่ว่าท่านจะเป็นใครผมก็ขอขอบคุณอย่างยิ่ง ที่ทำให้ผมนอนหลับด้วยความสบายอีกหน
“นี่ นายลุกนะ ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้”
“ท่านแม่ ให้ผมนอนต่ออีกหน่อยน่า”
“ท่านแม่ ท่านเม่ออะไรของนาย ตื่นเดี๋ยวนี้”
หลังจากนั้นผมก็รู้สึกว่า หลังผมกระแทกของแข็งตุบ เจ็บชะมัดเลยแฮะ จึงทำให้ตาของผมเผยอขึ้นเล็กน้อย แล้วก็กลับเบิกกว้างขึ้น
“เฮ้ย! เธอเป็นใครมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ฉันควรจะถามนายมากกว่าว่านายมาอยู่ในห้องฉันได้ยังไง”
“จะบ้าเหรอเธอ ฉันก็นอนของฉันอยู่ดีๆ”
“นี่ ตาบ้า นายลองแหกตาดูสิ ว่าที่มันห้องนายรึเปล่า”
ผมเริ่มมองไปรอบๆ ห้องสี่เหลี่ยมนี้ ทาด้วยฟ้าอ่อนเกือบขาว ข้างตู้เสื้อผ้าใบเล็กมีตู้หนังสือที่เต็มไปด้วยหนังสือรูปวาดสีสวยเรียงกันแน่น ต่ำลงมาเป็นโต๊ะเขียนหนังสือตัวเตี้ย ดูเหมือนว่าเจ้าของจะใช้เป็นโต๊ะอาหาร เพราะกระป๋องกระดาษที่มีรูปกุ้งตัวโตวางอยู่ เตียงกว้างปูด้วยรูปหมีสีเหลืองกับผองเพื่อน และตอนนี้มือของผมกำลังเกาะแน่นอยู่กับผ้าห่มผืนหนาลายเดียวกัน และเตียงตุ๊บ เมื่อสักครู่คงจะเป็นฝีมือของยายนี่ที่ลากผมลงมาข้างล่างพร้อมกับผ้าห่มนั่นเอง
“ที่นี่ที่ไหน โลกมนุษย์รึเปล่า”
“สวรรค์มั๊ง ขอร้องอย่าทำเนียนบอกมาว่านายมาอยู่ที่นี่ได้ไง”
“ฉันเป็นเทวดา มาจากสวรรค์”
“แบคทีเรียเท่านั้นแหละจะเชื่อนาย เทวดามีจริงที่ไหน บอกมา นายเป็นใคร”
“ก็บอกไปแล้วไง ทำไมไม่เชื่อ”
“งั้นนายไปคุยกับตำรวจดีกว่า”
“ตำรวจคือใคร พ่อเธอเหรอ”
“พ่อนายต่างหากย่ะ ลุกเดี๋ยวนี้นะ”
ยายนี่ยังตะโกนโหวกเหวกโวยวายใส่หูผม จะให้ผมไปยังไงเล่าก็ตอนนี้ผมไม่มีเสื้อใส่ มีแต่กางเกงตัวเดียวเท่านั้น ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าท่านทูตสวรรค์จะใจดำกับผมได้ถึงเพียงนี้ แม้แต่เสื้อก็ยังงก แถมตอนนี้หน้าอกผมยังเป็นรอยแดงขนาดหัวคน หรือว่าที่ผีอำเมื่อสักครู่คงเป็นเพราะยายนี่นอนทับผม แล้วได้คราบขาวๆแฉะๆ นี่มันอะไรกัน อย่าบอกนะว่า....
อ๋า..
ยายติงต๊องนี่ทำน้ำลายไหลใส่อกผม พระเจ้าซกมกชะมัด ผู้หญิงอะไรเนี่ย แหวะ!!!
เธอเริ่มถอนหายใจ
“เอาเป็นว่าฉันสำรวจตัวเองแล้วว่าฉันไม่ได้สึกหรอตรงไหน งั้นฉันไม่บอกตำรวจก็แล้วกัน แต่ว่าบ้านนายอยู่ไหน ฉันจะไปส่ง”
“ฉันไม่มีบ้าน”
“หือ นายว่าไงนะ ไม่มีบ้านงั้นเหรอ โกหกน่าหน้าตาผิวพรรณนายก็ดี ไม่อยากเชื่อว่านายจะเป็นขอทานหรอกนะ”
“ขอทานคืออะไร”
“พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นายมันโง่หรือบ้ากันแน่เนี่ย”
“ช่างเถอะ เอาเป็นว่าเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เธอเคยบนบานอะไรกับเทวดาบ้างหรือเปล่า” ผมลองเลียบเคียงถามดู แม้ว่าความหวังอันน้อยนิดที่ยายนี่จะตอบว่าใช่ แต่อย่างน้อยท่านทูตสวรรค์คงจะไม่ใจร้ายเกินไปที่จะทำให้ผมต้องเดินทางตามหาเจ้าของคำสัญญานั่น ทั้งๆที่มีเพียงกางเกงตัวเดียวติดร่างกายมาเท่านั้น
ดูเหมือนว่ายายนั่นทำท่าทางครุ่นคิดแล้วเหมือนว่านึกอะไรขึ้นมาได้
“ช่ายฉันเคยปากไว บนไว้จริงๆ แต่บ้า เทวดาที่ไหนมันจะมีในโลก”
“มี ก็ยืนหน้าตาดีอยู่ตรงหน้าเธอนี่ไง งั้นฉันอุตส่าห์เอาร่างกายมาประเคนให้เธอแก้บนถึงที่แล้วนะ ทีนี้เธอก็ถอดเสื้อผ้าแล้วก็รำถวายฉันซะ ฉันจะได้กลับสวรรค์ซักที”
“ไอ้บ้า ไอ้ลามก”
ผมไม่รู้หรอกว่ายายนี่โวยวายว่าอะไร แต่สงสัยว่าคงจะไม่ใช่คำชมให้ผมแน่ๆ
“แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะเนี่ย ถ้าเธอไม่ยอมทำในสิ่งที่เธอพูดไว้ เธอจะต้องจูบกับฉันแค่ 5 ครั้ง เท่านั้นก็เรียบร้อย เลือกเอาสักอย่าง ฉันให้เวลาเธอแค่ 12 ชั่วโมงเท่านั้นนะ”
“ถึง กี่ชั่วโมงก็ไม่เอาย่ะ ฉันไม่รับข้อเสนอบ้าๆของนายเป็นอันขาด”
“งั้นก็ตามใจ เอาเป็นว่าจนกว่าเธอจะคิดได้ ฉันจะอยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ”
“นายจะอยู่ที่นี่ได้ยังไง ฉันเป็นผู้หญิงนะ”
“แล้วไง”
“มันไม่ดี”
“เหรอ”
“นายกลับบ้านนายไปเถอะ”
“ไม่มี”
“...”
“...” ความเงียบเริ่มปกคลุมห้องสี่เหลี่ยมนั่น ผมใช้วิธีเอาความสงบสยบความเคลื่อนไหว อย่างที่ท่านแม่เคยทำ มันได้ผลจริงๆนะ ขอบอก แถมตบท้ายด้วยการทำตาละห้อยเรียกน้ำตาให้หยดแหมะ พร้อมกับเอ่ยวาจาที่น่าสงสาร
“ฉันไม่มีที่ไปจริงๆนะ แต่ถ้าเธอใจร้ายฉันก็จะไป”
ผมได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ (กว่ารอบที่แล้ว)
“โอเค ๆ นายอยู่ที่นี่ก็ได้”
เหอๆ สำมะเหร็ด ลูกอ้อนที่ผมเคยใช้กับท่านแม่ มันได้ผล วะฮ่าฮ่า
“ขอบคุณคร๊าบบบบ”
แล้วผมก็กระโดดขึ้นเตียงอีกหน ขอนอนหน่อยเถอะ อย่างน้อยการลงมาเยือนโลกมนุษย์ครั้งแรก ก็ขอผมนอนให้เต็มอิ่มหน่อยก็แล้วกัน.. แต่ยังไม่วายยายตัวแสบนั่นยังโวยวายเรียกผมอยู่ดี ช่างเถอะ ผมไม่สนหรอก
เทวดาในร่างมนุษย์ ผู้มีผมผิวขาวอมชมพูเนียนละเอียดสีน้ำตาลอ่อน กำลังนอนหลับตาพริ้ม ขนตางอนยาวเป็นแพราวปีกผีเสื้อ ปิดซ่อนดวงตาโตสีเขียว จมูกโด่งเป็นสัน ปากสีแดงสดปิดสนิท ทำให้สาวน้อยหน้าใส ดวงตาดำโต ไม่อาจละสายตาไปอย่างร่างที่หลับไหล ราวภาพวาดนั่นได้
“นายเป็นเทวดา จริงๆเหรอ”
“จริง”
“เฮ้ย!! ตาบ้า จะตื่นก็ไม่บอกตกใจหมด”
“ฉันตื่นตั้งแต่ เธอมานั่งจ้องฉันแล้วล่ะ ที่ไม่ลืมตาก็คิดว่าเธอจะนึกคึกจูบฉันขึ้นมา”
“ไอ้ลามก”
“หรือเธอจะแก้ผ้ารำถวายฉันล่ะ มาๆ ฉันพร้อมแล้ว แต่ว่าหุ่นอย่างเธออ่ะนะ เด็กอนุบาลยังดูเอ็กซ์กว่าเลย”
--พลั๊ก.กกก-
ทายซิ เสียงอะไรเอ่ย ใช่ครับ ผมโดนต่อย ที่ปลายคางพอดิบพอดี อูย...เจ็บชะมัด
“นายจะกินอะไรรึเปล่า”
โห ใจดีชะมัด นี่โลกมนุษย์เขาเรียกว่า ตบหัวด้วยฝ่ามือแล้วลูบหลังด้วยเท้าใช่รึเปล่าเนี่ย
“ขอบใจในความหวังดี ฉันอิ่มทิพย์”
“เออ อิ่มให้ตลอดเถอะ พ่อเทวดาตกสวรรค์ เออ ว่าแต่นายชื่ออะไรนะ”
“ทัพฟ้า”
“ทัพฟ้า เหรอ ฉันชื่อ..”
“ต้นรัก รู้แล้วน่า ไม่ต้องบอกหรอก”
“รู้ได้ไง อย่าบอกนะว่านายเป็นเทวดา ไม่งั้นฉันเตะนายแน่”
อ่าว แล้วจะให้ผมบอกว่าไงล่ะครับเนี่ย
“นี่เธอยังไม่เชื่ออีกเหรอเนี่ย ฮะ”
“ไม่ใช่ไม่เชื่อหรอก แต่มันมหัศจรรย์เกินไป ฉันไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับฉัน ฉันหยิกตัวเองก็แล้ว ตบหน้าก็แล้ว มันยังเจ็บ แสดงว่ามันคือเรื่องจริงใช่ไหมเนี่ย”
“ในจักรวาลนี้ มีอะไรที่เราไม่คาดคิดเสมอแหละ ถ้าเธออยู่กับฉันไปเรื่อยๆ เธอก็จะมีแต่เรื่องประหลาดใจ”
“นี่นายกะจะเกาะฉันกินไปจนเกิดใหม่รึไงยะ”
“...”
<<<<<Miracle Maker[เทวดาตกสวรรค์]>>>>>
“นี่ๆ ต้นรัก เธอไม่คิดจะหาเสื้อให้ฉันใส่บ้างรึไง มันหนาวนะเนี่ย”
“อ้าว เป็นเทวดาก็เสกออกมาเองสิ” ยายต้นรักพูดประชดผมโดยที่ตาของยายนั่น จ่ออยู่ที่หนังสือเล่มเล็กๆไม่มีแม้แต่จะเหลือบมองผม
“โห แค่ฉันโดนเนรเทศลงมาที่นี่มันก็เป็นบุญจะแย่อยู่แล้ว เธอจะให้ฉันมีพลังพอที่จะเสกของพวกนั้นได้อีกเหรอ”
“อ้าว เหรอ ฉันคิดว่าเทวดาทำได้ทุกอย่าง” นั่นไง ประชดอีกแล้ว
ยายนั่นหัวเราะคิกคัก ผมรู้สึกว่าเสียงหัวเราะของยายคนนี้ช่างสดใสเหมือนกับเสียงหัวเราะของคีตาเหลือเกิน แต่อารมณ์นี้ผมไม่ขำด้วยหรอก
“นี่ แม่คุณ เห็นใจกันหน่อย ไม่ใช่เรื่องขำ”
“โอเคๆ นายไปหาเอาในตู้นั่นละกัน คงรู้จักตู้นะ” คุณเธอชี้มั่วๆไป โชคดีที่ผมไม่โง่จนขนาดว่าอันไหนเป็นตู้
ผมเปิดตู้ออกมา ขอบอกยายต้นรักเนี่ย เต็มเปี่ยมไปด้วยมารยาทแห่งกุลสตรีซะจริงๆ ให้ตายเถอะ นี่มันตู้เสื้อผ้าหรือถังขยะเนี่ย เสื้ออยู่ทาง กางเกงอยู่ทาง พับขยุกๆไว้ ดีนะที่ยังไม่มีแมลงมาก่อกวน ผม (พยายาม)รื้อหาเสื้อตัวที่คิดว่าใหญ่ที่สุดของยายนี่มาใส่ แต่มันกลายเป็นรัดรูปผมทุกที คนอะไรฟะเกิดมาตัวเล็กชะมัด
“นี่เธอ ฉันใส่เสื้อเธอไม่ได้ มันเล็กไป”
ยายนั่นหันมาทางผม สาบานได้ว่าตอนนี้เธอกำลังกลั้นหัวเราะเต็มที่ เพราะเห็นผมในสภาพที่ทุเรศเต็มทน (ผมยังไม่กล้ามองตัวเองเลยอ่ะ)
“เหมือนกระเทยค วา ย เลยอ่ะ”พูดจบเธอก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น
ผมมาทำหน้าที่ทวงคำสัญญานะครับ ไม่ใช่มาเป็นตลกคาเฟ่ให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ หัวเราะซะดังลั่นขนาดนี้ โชคดีที่เธอยกไอ้เครื่องเล็กๆ ที่เป็นปุ่มตัวเลขขึ้นมา ก่อนที่เธอจะกรอกเสียงลงไป
“เออ ไอ้วินเหรอ ฉันเอง แกช่วยเอาเสื้อตัวใหญ่ๆของแกมาที่ห้องฉันที สักสองตัวก็ได้ เออ กางเกงด้วยนะ”
“เดี๋ยว ไอ้วินเพื่อนฉันมันจะเอาเสื้อมาให้นายประทังไปก่อน ฉันค่อยพานายออกไปซื้อ แต่นายต้องบอกมันว่านายเป็นลูกพี่ลูกน้องฉัน มาพักอยู่สองสามวันแล้วก็กลับ เข้าใจไหม”
ผมพยักหน้า ให้เธอ ก่อนที่แม่คุณจะหันไปสนใจกับเจ้าหนังสือบ้าบอคอแตกตรงหน้า ส่วนผมน่ะเหรอ ก็เดินสำรวจห้องไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะสะดุดกับภาพเล็กๆที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง ยายผู้หญิงผมยาวที่ยิ้มแฉ่งอยู่ในรูปเนี่ย ใช่ยายต้นรักจริงๆเหรอ น่ารักชะมัด...
“นี่เธอเหรอ”
“ไม่ใช่มั้ง”
ดูสิ หน้าสวยซะเปล่าพูดไม่เคยเข้าหูคนเลย
“ก็น่ารักดีอ่ะ เสียแต่ว่า ตัวจริงปากเสียและขี้โวยวายไปหน่อย”
วืดดดดดด..โป๊ก!!
“โอ้ย” เสียงผมจบลงพร้อมกับหนังสือที่อยู่ในมือยายนั่นเมื่อครู่นี้หล่นลงมาที่พื้นพอดี
“เจ็บนะเฟ้ย”
“ก็จะเขวี้ยงให้เจ็บอะดิ ไม่เจ็บแล้วจะเขวี้ยงทำไม”
“นี่เธอ...”
“ฮาโหล ฮ้า แกจะเอาเสื้อฉันไปทำเสน่ห์รึไงไอ้ต้นรัก”
เสียงนุ่ม แฝงรอยขี้เล่นดังมาก่อนตัว แต่พอร่างสูงโปร่งเข้ามา ผมเห็นว่าหมอนี่น่าตาดีทีเดียว ความสูงที่ไล่เลี่ยกับผม แถมผิวที่ขาวค่อนข้างซีด ตามแบบของคนที่มีเชื้อสายจีน ทำให้หมอนี่ดูดีไม่น้อยทีเดียว
“อ้าว ทัพฟ้า นายจะเอาเสื้อเหรอ แล้วก็ไม่บอก ฉันจะได้เอามาให้อีก”
“OoO”
งงล่ะสิ ทำไมนายนาวินถึงรู้ผม ก็บอกแล้วเทวดาอย่างผม มีอะไรให้เธอแปลกในอีกเยอะ เหอๆ ผมเลยหลิ่วตาให้ยายนั่นทีนึง เพื่อความสะจาย
โชคดีที่นาวินนั่งอยู่ไม่นาน ก็ขอตัวกลับไป ฝากคำถามไว้มากมายในสายตาของยายต้นรัก
“ขอร้องนะ ไม่ต้องถามขี้เกียจตอบ” ผมบอกยายต้นรัก เมื่อเธอจะพยายามอ้าปากถามผม ก่อนที่จะทิ้งตัวนอนลงบนที่นอน
“นี่นาย ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ นี่มันที่นอนฉันนะ”
“ขอนอนหน่อยน่า ขี้งกไปได้เธอน่ะ”
“ฉันไม่ชอบให้ผู้ชายมานอนที่นอนฉันนะ”
“เธอก็อย่าคิดว่าฉันเป็นผู้ชายสิ มันก็จบ”
“ฮึ๊ย นายมัน....”
แล้วผมก็ได้ยินเสียงโครมครามดังตามมา จากนั้นก็เงียบสนิท ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดท้องแปลกๆ แล้วทำให้พบว่า ร่างของผมถูกเคลื่อนย้ายลงมาบนพื้นเบื้องล่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนคนที่อยู่บนเตียงนั้นขณะนี้หลับตาพริ้มไปเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อยไปแล้ว
“นี่ นี่” ผมเข้าไปสะกิดหวังว่าแม่คุณจะยอมตื่นมั่ง แต่ว่า ยายนั่นปัดมือผมราวกับปัดยุงซะงั้น
“เธอๆ” ผมเริ่มรุกเข้าไปโดยการเขย่าตัวยายนั้น แต่ผมกลับมีสภาพที่ดีกว่ายุงนิดนึงคือผมเป็นแมลวตัวหนึ่งที่น่ารังเกียจซะงั้น
“ต้นรัก”ผมเข้าไปใกล้มากขึ้น
พลั๊ก!!
นั่นเป็นเสียงที่ท้องของผมโดนอวัยวะที่เรียกว่าเท้าของเธอเข้าพอดี พระเจ้าครับ ยายที่เท้าหนักชะมัดเลย โอย ท้องผมมันจะอยู่รอดภัยจนกลับสวรรค์รึเปล่าเนี่ย
“นายจะทำอะไรฉันน่ะ”
“ฉันจะทำอะไรเธอไหว นี่ก็ปวดท้องจะตายอยู่แล้ว”
“นายเป็นอะไรเหรอ”
“ไม่รู้สิ มันไม่เคยเป็นอ่ะ ปวดชะมัดเลย โอ้ย!!”
“นี่ นายอย่าเพิ่งตายนะ นายอะไรนะ”
ให้มันได้อย่างนี้สิ ยายนี่จำชื่อผมไม่ได้ แถมยังมาแช่งผมอีกแน่ะ
“ทาฟฟ้า”
โครก..คราก.. เอ๊ะ มันเสียงอะไรอ่ะ สาบานว่ามันออกมาจากตัวผมเอง
“วะ ฮ่า ฮ่า ฉันรู้แล้วล่ะว่านายเป็นอะไร นายทัพฟ้า เทวดาอิ่มทิพย์”
ยายนี่วิเคราะห์อาการของผม แล้วเข้าไปทำอะไรกอกแกกๆ พร้อมกับเอาถ้วยอะไรหอมๆออกมา มันทำให้น้ำลายในกระพุ้งแก้มของผมออกมาทำงานกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน อาการแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรนะ
“นายหิวน่ะ ถ้านายปวดท้องแปลว่านายหิว แต่ถ้านายเจ็บคอรู้สึกเหมือนคอแห้ง นายก็กินน้ำ เข้าใจไหม นี่มันโลกมนุษย์นะ”
ยายนั่นอธิบายผม แต่มันทำให้รู้สึกว่าเสียงนั่นกำลังขำผมอยู่เป็นแน่แท้
“กินเสร็จก็นอนซะ แต่กรุณาอย่าขึ้นมาบนที่นอนเด็ดขาด ไม่งั้นฉันตัดของนายแน่”
“ตัดอาไยเหยอ” ผมพูดทั้งๆเส้นอร่อยๆเต็มปาก
“เอ่อ ช่างฉันเถอะน่า แต่ฉันตัดแน่”
ถ้าผมมองไม่ผิด ผมเห็นยายนั่นกำลังหน้าแดง แล้วผมก็จัดการกับความหิวของผมซะก่อน จากนั้นผมก็ระเห็จขึ้นไปนอนบนเตียง ให้มันรู้ไปซี่ว่ายายนี่จะตัดอะไรผม..
<<<<<Miracle Maker [เทวดาตกสวรรค์]>>>>>
ความคิดเห็น