ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกมรักเกมหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #1 : เผลอจนได้

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 56


                ตึก ๆ ๆ ๆ

    เสียงฝีเท้าที่กำลังวิ่งลงมาจากบันไดอย่างเร่งรีบโดยที่คนที่วิ่งนั้นรีบวิ่งโดยไม่คิดที่จะระมัดระวังตัวเองเลยแม้แต่น้อยทำให้ผู้หญิงที่กำลังทำกับข้าวอย่างเชี่ยวชาญต้องหันหลังกลับมาดู

                "ยัยปลาจะรีบไปไหนกันหนะลูก  นี่มันวันอาทิตย์นะ"

    หญิงสาวที่กำลังวิ่งอยู่นั้นต้องรีบตอบผู้เกลับไปที่ป็นแม่โดยไม่ยอมหยุดวิ่ง

              "หนูนัดเพื่อนไว้นะคะแม่  สอนนี้สายมากแล้วไปหนูก่อนนะคะแม่"  หญิงสาววิ่งไปพร้อมกับเสียงที่ลิบหรี่ลงเรื่อย ๆ

    หญิงสาวรีบวิ่งหน้าตั้งมาที่จุดหมายอย่างสุดกำลังเพราะกลัวจะไปสาย  เมื่อใกล้ถึงที่หมายแล้วเธอก็ยิ่งรีบเร่งฝีเท้าขึ้นไปอีกแต่สุดท้ายร่างกายก็ต้องยอมสิโรร่าให้กลับความเหนื่อยที่ต้องวิ่งมาสุดชีวิต  แม้ว่าร้านจะอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเธอสักเท่าไหร่

               "แฮ่ก ๆ ๆ ๆ พวก...พวกนั้น...จะมารึยังนะ"หญิงสาวรำพึงกับตัวเองที่กำลังก้มตัวลงเอามือจับที่เข่าเพราะอาการเหนื่อยหอบ

    เมื่อออาการเหนื่อยเริ่มคลายลงเธอก็รีบบึ่งไปที่หมายทันทีโดยที่ไม่ได่ดูเลยว่าที่ตรงนั้นเป็นหัวมุมพอดี

            โครมมมมมม  หญิงสาวล้มลงก้นจั้มมั้มกับพื้น  เธอรู้สึกเหมือนชนกับใครเข้าซักคนเข้า  เธอคิดในใจว่า  "ถ้าไม่มีเสียงแสดงว่าฉันล้มคนเดียวนะสิ"  เธอจึงเงยหน้ามองดูว่าเธอไปชนกับใครเข้า  แต่หญิงสาวก็ต้องตกใจเมื่อเธอเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาใบหน้าเรียว  จมูกเป็นสันโด่งได้รูป ตาสีน้ำตาลที่สุดแสนจะมีเสน่ห์  เธอกำลังนึกในใจว่าเคยเห็นผู้ชายคนนี้ที่ไหนแต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกซะที่  หญิงสาวจึงตัดสินใจที่จะขอโทษ  ในขณะที่หญิงสาวกำลังจะอ้าปากขอโทษคนที่เธอเดินชน  แต่ผู้ชายคนนั้นกลับมีท่าทีที่เฉยเมย มองลงมาที่เธอด้วยสายตาที่เรียบเฉยอย่างกับว่าเป็นคนที่ไร้ความรู้สึก และเขาก็เดินจากไปโดยที่ไม่พูดอะไรซักคำเดียว  ลูกปลาถึงกับอึ้งสุดขีดถึงกับอ้าปากค้างไว้อย่างนั้นพร้อมกับเหลียวตามผู้ชายคนนั้นไป

              "คนอะไรกันเนี้ย ทำฉันอึ้งเลยยยยย"  เธอตบหน้าตัวเองสองสสามครั้งพร้อมกับบ่นรำพึงกับตัวเอง

    พอตั้งสติได้ลูกปลาก็รีบรุดตรงไปที่ร้านทันที  แต่ในขณะที่กำลังลุกด้วยความทุลักทุเลนั้นสายตาก็ได้เหลือบไปเห็นแก๊งเพื่อนที่กำลังยืนมองดูเธอด้วยความสุนกสนานกับเรื่องที่เกิดขึ้น

               "โอ๊ยยย ซวยล่ะซิ  พวกนั้นต้องล้อฉันแหงแซะเลย" 

    คราวนี้หญิงสาวพูดด้วยความกังวลอย่างสุดซึ้ง  ก็จะไม่ให้กังวลได้ไงล่ะก็ในเมื่อเพื่อนแต่ละคนของฉันปากไม่ค่อยจะอยู่สุขกันเลยนี่  พอลุกได้หญิงสาวก็รีบเดินตรงดิ่งไปที่แก๊งเพื่อนทันที

               "ว่าไงจ้ะเพื่อนสาว"  เสียงทักจากหญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ่ม  น่ารักน่าเอ็นดูที่อยู่ในกลุ่มของผู้หญิงสามคนทักขึ้น  ใช่นั่นก็คือเสียงเพื่อนของลูกปลานั่นเองหรือก็คือแตงโมสาวฮ๊อตประจำกลุ่มเอ่ย

               "พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยเราไปที่ร้านกันเถอะ"  ลูกปลาพูดปัดเรื่องเพราะไม่อยากจะจะพูดถึงเรื่องที่ผ่านไปให้ได้วุ่นวายกันใหญ่เพราะเธอรู้จักเพื่อน ๆ ของเธอเป็นอย่างดี

              "ก็ได้ไปนั่งต่อในร้านกันดีกว่าจะได้เม้าสนุก ๆ หน่อยอิอิ"  หญิงสาวหน้าตาคมเข้มพูดขึ้น  แต่เสน่ห์ของเธอนั้นเหลือร้ายด้วยท่าทางที่ดูเจ้าชู้ของเธอนั้น และแน่นอนนั่นก็คือ "ญาญ่า" เพื่อนของลูกปลาอีกคน

            "ใช่ ๆ " หญิงสาวอีกคนที่หน้าตาท่าทางดูเป็นคุณหนูพูดขึ้นเสริมเพื่อของตน  และอีกเช่นเคยนี่คือดาวเพื่อนที่สนิทที่สุดของลูกปลา

    ในที่สุดทั้งสี่คนได้ก็ได้มาถึงที่หมาย  (มาถึงซักที)  ที่นี่เป็นร้านกาแฟที่ถูกตกแต่งให้เก๋ไก๋  สไตล์โมเดิลเลยทีเดียวที่ทั้งสี่คนชอบนัดมาพบปะกันเป็นประจำหรือจะเรียกอีกอย่างว่าร้านประจำเลยก็ว่าได้  ทั้งสี่คนมักจะมานุั่งอยู่ที่มุมประจำนั่นก็คือมุมที่ดีที่สุดของร้านที่สามารถมองเห็นบรรยากาศของสวนที่ถูกจัดตกแต่งอย่างสวยงามได้ชัดเจนที่สุด

             "มีอะไรจะสารภาพ ก็สารภาพมาซะดี ๆ" แตงโมเป็นคนเปิดประเด็นก่อนด้วยความอยากรู้อยากเห็น

             "ไม่มีอะไรทั้งนั้น  พวกเธอเลิกจับฉันคู่กับคนนั้นคนนี้ซักทีเถอะน่า"  หญิงสาวเจ้าของเรื่องพูดด้วยน้ำเสียงที่รู้สึกค่อนข้างเบื่อกับเรื่องที่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ  "แล้วก็นะคนอย่างฉันไม่มีใครเค้าสนใจหรอกนะ"  คำพูดนี้ค่อนข้างจะประชดประชันคนฟังอย่างมากโขเลยทีเดียว

             "นี่อย่าบอกนะว่าเธอไม่รู้จักผู้ชายที่เธอเดินชนเมื่อกี้นี่"  หญิงสาวพูดด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยจะตกเท่าไหร่เพราะเธอรู้จักเพื่อนตัวเองเป็นอย่างดีที่ไม่ค่อยจะสนใจใครอยู่แล้ว

              "แต่นี่ก็มากไปน่อยนะยัยปลาที่ไม่รู้จักหนุ่มฮ๊อตที่สุดของโรงเรียนน่ะ"  ญาญ่าพูดเสริมแตงโม

              "ใช่  ตอนแรกฉันก็คิดว่าเธอตั้งใจดักรอป่านเค้าซะอีก"  คราวนี้ดาวพูดเสริมบ้าง

    "ป่าน"  ลูกปลาพูดคำนี้อยู่หลายรอบด้วยท่าทางที่เหมือนจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้างแล้ว

              "หาาาาาาาาาาาาาาา  อย่าบอกน่ะว่า...ป่านที่ว่านี่คือ....."  หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความตกใจอย่างมาก  "ถึงว่าหน้าคุ้น ๆ"

              "ก็ใช่น่ะสิ"  เพื่อนทั้งสามคนของลูกปลาพูดออกมาพร้อมกัน

              "เดี๋ยวนะเมื่อกี้พูดว่าใครจะสารภาพรักนะ"  ลูกปลาพูดพรางนึกย้อนกลับไปคำที่เพื่อนสาวพูด

              "ไม่มีทางซะหรอก"  ลูกปลาพูดด้วยท่าทางของคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีของตน

              "ก็อย่างว่าแหละยัยปลาเค้าไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับชีวิต"  แตงโมพูดเปรยขึ้นมาด้วยสายตาที่ประชดประชันและท่าทีที่หน้าหมั่นไส้

              "ระวังจะขึ้นคานเข้าซักวันนะจ้ะ"  ญาญ่าเป็นฝ่ายพูดเสริมแตงโมบ้าง  คำพูดนี้เล่นเอาคนฟังถึงกับสะดุ้งโหยงเลยทีเดียว 

              "อย่างฉันนะไม่เห็นต้องไปจีบให้เสียเวลาแค่ดีดนิ้วเดียวนานั่นก็คลานมาหาฉันแล้ว"

              "นั่นสิถ้าเธอเป็นอย่างนี้ต่อไป...ฉันว่าคงได้ขั้นคานสมใจแน่เลย"  แตงโมยังคงพูดกวนน้ำโหของลูกปลาต่อไป

              "แตงโมแกพูดอย่างนี้ได้ยังไง  ฉันว่าที่ยัยปลาไม่เคยมีแฟนกะเค้าซะทีเนี้ยเป็นเพรายัยปลามันหาไม่ได้ตังหาก"  ญาญ่าพูดด้วยหน้าตาท่าทางที่เหยียดหยามคนฟังเต็มที่  ทำเอาคนฟังถึงกับตะบะแตกเลยทีเดียว

              "ใช่ซะที่ไหนล่ะ  พวกเธอคอยดูก็แล้วกันฉันจะสอยน่าป่านอะไรนั่นมาให้พวกเธอดูเป็นบุญตาฮึฮึ" 

    ลูกปลาพูดด้วยความมั่นอกมั่นใจโดยที่ไม่รู้เลยว่าภัยกำลังมาถึงตัวเองเพราะลูกปลาหรือปาริตาผู้หญิงที่สุดแสนจะธรรมดาจะว่าสวยรึก็ไม่แต่ก็ไม่ได้ถึงกับขี้เหร่แถมยังเป็นสาวแว่นซะด้วย  รูปร่างค่อนไปทางผอม ความสามารถพิเศษอะไรก็ไม่มีซักอย่าง เรียนก็อยู่ในระดับปานกลาง กีฬาก็เล่นไม่เป็นซักอย่าง แถมยังพูดน้อยอีกตังหาก เธอดูกลมกลืนไปกับทุกสิ่งจะหาจุดเด่นอะไรเลยก็ไม่มี  เธอจะไปมีปัญญาคว้าหนุ่มสุดฮ๊อตที่ท่าทางเคร่งขรึม น่ากลัว(ในสายตาของลูกปลา)  เก่งไปซะทุกอย่างได้ยังไงกัน

    การพนันในครั้งนี้ลูกปลาจะทำอย่างไรต่อไปจะมีวิธีอะไรมามัดใจชายคนนั้นได้รึเปล่าช่วยติดตามกันด้วยนะคะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×