Last time to home
ลองเข้ามาดูกันเป็นเรื่องสั้นที่ผมแต่งเล่นๆทิ้งไว้ หักมุมนิดๆเข้ามาดูกันนะครับ ^^
ผู้เข้าชมรวม
316
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
แสงสลัวสาดส่องผ่านช่องหน้าต่างเข้ามายังห้องสกปรกรกๆห้องหนึ่ง เสียงเอี๊ยดอ๊าดของโคมไฟที่ห้อยลงจากเพดานส่องแสงม่นๆเผยให้เห็นร่างของวัยรุ่น ท่าทางเจ้าเล่ห์ผู้หนึ่งกำลังง่วนอยู่กับเอกสารในมือ เสียงฝีเท้าหนักๆที่ไล่มาจากชั้นบนเป็นสัญญาณถึงผู้มาเยือน เสียงฝีเท้าเดินเร่งๆจนมาหยุดที่หน้าประตู "ปัง!"ความสงบถูกทำลายลงด้วยเสียงกระแทกประตูเปิดอย่างแรงจนฝุ่นที่จับหนา อยู่ตามประตูปลิ้วฟุ้งไปทั่วห้อง
“เฮ้ย ไอ้เสม บอกกี่ครั้งแล้ววะ ว่าให้เปิดประตูเบาๆ ทำยังกับเจอผีมาอย่างงั้นนะ”
“โทษทีพี่ ก็คนมันซวยนี่หว่า ตำรวจมาเร็วฉิบเป๋งเลยวันนี้”
เสมโวยวายตอบพร้อมกับหอบฮั่กๆด้วยอาการเหนื่อยอ่อนพลาง เอามือปาดเหงื่อที่เหนียวเนอะหนะออกจากใบหน้า จากนั้นจึงจ้ำไปที่ตู้เย็นหยิบน้ำเย็นขึ้นมาดื่มแก้กระหาย เมื่อตื่มนำเสร็จเขาก็สอดส่ายสายตาไปทั่วตู้เย็น
“โอโฮ้เว้ยเฮ้ย พี่ถูกหวยเหรอ ซื้อของกินมาเต็มตู้เลยเว้ย รวยแล้วไม่แบ่งน้า”
“หน้าอย่างพี่นะจะซื้อ พี่ก็นึกว่าเอ็งซื้อมาซะอีก”
“อะนั่นแน่ รวยแล้วทำปิด แนะ!รู้ใจผมซะด้วยเค้กช๊อคโกแลตก็มี ”
เสมรีบคว้าเอาเค้กช็อกโกแล๊ตของโปรดมาสวาปามอย่างว่องไว ปากก็พูดไปขณะที่เค้กก้อนโตยังเลอะเต็มคาปากอย่างนั้น
“เอ้าพี่! ช่วงนี้มีงานไรบ้าง แต่บอกก่อนนะอย่างงานคราวที่แล้วไม่เอานะพี่ มาเฟียดุฉิบ โดนมันลากขึ้นรถไปเกือบเอาตัวไม่รอด”
“เฮ้ย พี่จัดให้วะไอ้น้อง นี่งานนี่เลยง่ายๆขำๆ”
เอกสารชิ้นหนึ่งลอยลงตกบนหัวของเสมอย่างแม่นยำ เสมหยิบจึงขึ้นมาเปิดพิจารณาขณะที่มีเสียงลูกพี่ขั้นฉาก
“ยายแก่เนี่ย หลงจนเพี้ยน ตอนที่ข้าโทรไปหลอกแกนะ แกก็เชื่อซะเวอร์ว่าข้าเป็นเพื่อนกะหลานแกจริงๆ ขนาดข้ายังไม่ทันขอเงิน แกก็รีบบอกว่าจะให้เงิน ขอให้กลับบ้านมาเอาเงินไปท่าเดียว หน้าที่ของเอ็งคือไปรับเงินจากแกมา แล้วข้าจะแบ่งให้50/50เลยนะเว้ย”
เสมไม่ตอบแต่ยังคงนิ่งเงียบ คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน รูปของยายคนนั้นช่างดูคุ้นตาเสียเหลือเกิน ไล่สายตาลงดูประวัติที่ถูกเก็บมาอย่างละเอียดเหมือนทุกๆครั้งที่มีงานเข้ามา
“เสม” เสียงของเสมที่เปล่งออกมาแหบแห้งและสะท้อนก้องอยู่ในสมองของเขาเองเมื่อ ชื่อของหลานยายคนนั้นคือเสมเหมือนกับชื่อของเขา
“เออ ใช่ข้าก็ว่าแปลก แต่ก็ดีแล้วไงเอ็งจะได้แนบเนียนหน่อยละเว้ย 555”
บนรถทัวร์ที่ร้อนอบอ้าว ผู้คนพากันส่งเสียงเอะอะเพราะเป็นช่วงวันหยุดยาวที่คนจะเดินทางกลับไป เคารพบรรพบุรุษในช่วงตรุษจีน ทั้งเสียงเด็กร้อง เสียงเฮฮาของผู้ใหญ่ แต่เสมที่ออกเดินทางมายังบ้านของยายผู้นั้นกลับนั่งอย่างเหม่อลอยพร้อมทั้งคิดถึง ภาพของยายคนนั้นแล้วถอนใจอย่างเป็นกังวล “หน้าคุ้นชะมัดให้ตายสิ”
สายลมหนาวพัดกระหน่ำที่โล่งผืนหนี่งอย่างบ้าคลั่ง เสมกระชับเสื้อแล้วออกเดินต้านลมหนาวเพื่อมุ่งหน้าสู่บ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้แม้จะเก่าและดูวังเวง ออกเศร้าๆยังไงชอบกล แต่ก็บ่งบอกถึงฐานะของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี เพราะการตกแต่งและซ่อมแซมที่ดีเยี่ยมจนพอคาดเดาได้ว่าเจ้าของบ้าน ยินดีที่จะอนุรักษ์ความเก่านี้ไว้มากกว่าไม่มีทรัพย์สินที่จะซ่อมแซม
ออดหน้าบ้านดังขึ้นแทบจะพร้อมๆกับหมาในบ้านเริ่มคำรามเห่าหอน เสียงรีบร้อนวิ่งลงบันไดของหญิงชราผมสีไหมเงินทำให้เสมรู้สึกห่วงว่าแกจะตกบันได มันเป็นความรู้สึกที่ประหลาดเขาจะห่วงยายเฒ่าคนนี้ทำไมในเมื่อเขากำลังจะมาหลอกเงินแกอยู่เดี๋ยวนี้ เสียงกรงหมาปิดปังหร้อมกับหญิงชราเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าอิดโรย แต่เมื่อหล่อนเห็นหน้าผู้มาเยือน สีหน้าของหล่อนก็สดชื่น เบิกบานเหมือนดอกไม้ที่ได้รับนำสดชื่นจนผลิดอกออกผล บานสะพรั่ง
“เสม เอ็งมาจนได้ คิดว่าวันนี้จะไม่มาซะแล้ว โอ๋หลานรักของยาย ขอยายกอดหน่อยนะหลานเอ๋ย” แกโผตัวเข้ากอดเขาอย่างโหยหาและเสมเองก็แปลกใจที่รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกจนน้ำใสๆเริ่มคลอเบ้าตา เขาต้องรีบปาดนำตาทิ้งพร้อมระลึกว่านี่เป็นงานเท่านั้น ในขณะที่ทั้งสองกอดกันอยู่นั้นสายตาของเสมก็เหลือบไปเห็นชายร่างยักษ์ยืนอยู่หน้าประตูบ้านพร้อมจ้องเขม็งมาที่เขาจนเขาสะดุ้งสุดตัว
“ยาย...เออ..คุณยายครับ มีคนอยู่หน้าประตูครับ” ยายคลายมือลงและจ้องไปที่หน้าประตูเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ท่านเจ้าคะ ขอเวลาให้เราซักหน่อย เขาไม่เป็นไรหรอกเจ้าคะ” เสียงของยายดูสั่นเครือสะเทือนอารมณ์จนเสมต้องหันมาจ้องหน้ายายอย่างสงสัย ชายที่หน้าประตูยืนนิ่งก่อนที่เสมจะรู้สึกตัวอีกที ร่างนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
“ไปๆรีบเข้าบ้านก่อนไป ลมหนาวๆเดียวจะเป็นหวัดเอานะ”
“ไม่เป็นไรครับผมต้องรีบกลับครับ ต้องรีบไปส่งงานอาจารย์ ได้เงินแล้วผมจะรีบไปละครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก อยู่กินข้าวกับยายก่อนซักมื้อได้ไหมยายเตรียมกับข้าวรอไว้ทั้งวันเลยนะนี่นะ” ยายยิ้มด้วยสีหน้าเบิกบาน เกินกว่าที่เสมจะปฎิเสธได้ เขาจึงต้องจำใจเดินตามยายเข้าไปในตัวบ้าน
ที่ห้องรับแขกยายปล่อยให้เขานั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารซึ่งตกแต่งแบบจีนๆรับกับหน้าตาของเจ้าของบ้านมาก เขามองซ้ายมองขวาอย่างพินิจเพื่อจะขโมยอะไรซักอย่างติดไม้ติดมือไปฟรีๆ
เขาส่ายสายตาไปจนไปสะดุดกับหิ้งบูชาหิ้งหนึ่ง บนนั้นสูงเกินกว่าที่เขาจะมองเห็นได้แต่ก็พอสังเกตได้ว่ามีรูปคนตายอยู่บนนั้น ด้วยความอยากรู้เขาจึงหาเก้าอี้มาต่อขาเพื่อจะให้เห็นหน้าคนในรูป เขาเหยียบบนเก้าอี้แต่มันไม่สูงพอเขาจึงต้องเขย็งขาขึ้นเรื่อย...เรื่อย...เรื่อย อีกนิดเดียวเท่านั้นเขาก็จะเห็นแล้ว
“หลายรักทำอะไรอยู่นะหลาน” เสียงยายที่เดินมาพร้อมกับอาหารเต็มโต๊ะทำให้เขาแทบจะพลัดตกลงจากเก้าอี้ เพราะเมื่อซักครู่นี้ยังไม่เห็นอาหารแม้แต่จานเดียวบนโต๊ะเลย เมื่อตั้งสติได้เขาก็รีบลุกขึ้นมานั่งบนเก้าอี้เหมือนเดิม
“เออ ยายครับรูปนั้นรูปใครเหรอครับ” ยายสะอึกเล็กน้อยคำถามนี้ทำให้ยายอึกอักและทำสีหน้าลำบากใจจน เสมเลิกล้มความอยากรู้และเปลี่ยนเรื่องคุย
“โอโฮ อาหารนี้สุดยอดจริงๆนะยายของโปรดของผมทั้งนั้น เลย” เขาพูดพร้อมกับรีบหยิบเค้กช็อกโกแลตขึ้นมากัดกลบเกลี่อนแต่ก็ต้องเอะใจไปกับอาหารบนโต๊ะที่ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นของโปรดของเขาทั้งสิ้น “หลานรักของยาย เป็นยังไงบ้างจ๊ะ ของโปรดของหนูทุกอย่างเลยนะ”
“เออ..อร่อยมากครับ” เขาตอบไปทั้งๆที่ยังตะลึงไม่หาย นี่มันอะไรกันทำไมยายคนนี้ถึงได้รู้สิ่งที่เขาชอบหมดทุกๆอย่าง อาหารทุกอย่างเกลี้ยงจานทั้งๆที่เยอะมากขนาด 3 คนกินแต่เสมก็กินคนเดียวหมด
“คุณยายครับ ผมจะเอาเงินได้หรือยังครับนี้” คำพูดนี้ทำให้ยายหันมามองหน้าเขาด้วยสีหน้าละห้อย
“เออ..ผมต้องรีบไปอะครับ เดี๋ยวจะกลับไปโรงเรียนไม่ทันนะครับ ฮู!เดี๋ยวนี้รถติดจะตายยายก็รู้” ยายไม่พูดอะไรพร้อมกับหายไปที่หลังบ้านอีกครั้ง พร้อมกลับออกมากับเสื้อผ้าชุดเท่ห์1ชุด
“เอ้าใส่ซะหลาน หลานใส่ชุดเดิมๆทั้งปีเลย ไม่เบื่อแย่หรือไงกัน” ยายแซว อย่างกับไม่รับรู้ถึงสิ่งที่เขาพูดเมื่อซักครู่
แต่เสมกลับไม่รู้สึกโกรธและรับเสื้อผ้านั้นมาเปลี่ยนอย่างว่าง่าย
“เจ้าใส่แล้วขึ้นจริงๆเลย แหม!สมแล้วที่เป็นหลานยาย” ยายยิ้มแย้มอย่างใจดีแต่เสมเริ่มรู้สึกเศร้าอย่างไรบอกไม่ถูก ความคิดเรื่องเงินของเขาหายไปหลังจากที่ได้นอนบนตักของยายนอนดูท้องฟ้า บริเวณลานกว้างหน้าบ้านอย่างมีความสุข ยายคอยเอามือสางผมให้เขา จนเขาเผลอหลับไป
เขามารู้สึกตัวอีกที่ก็ใกล้รุ่งเสียแล้ว ยายเดินออกมาจากในบ้านพร้อมกับยื่นเงิน3-4ปึกให้เขาซึ่งคำนวณโดยสายตา ไม่น่าต่ำกว่า 4-5หมื่น “เอาไปซะหลานรัก ใช้ประหยัดๆนะ”
ยายก้มหน้ากลั้นอารมณ์ก่อนจะมองหน้าเสมอีกครั้งหนึ่งด้วยสายตาอาวรณ์แล้ว เดินหายไปในบ้านอีกครั้งพร้อมกับกลับมากับสมุดโน้ตเล่มหนึ่ง “อันนี้ให้เจ้าเอากลับไปอ่านที่บ้าน....แล้ว.... ขอบใจนะสำหรับทุกอย่างแต่ต่อไปไม่ต้องมาอีกแล้วละยายไม่เป็นไรแล้ว”
ยายพูดพร้อมกับดวงตาที่มีน้ำตารินไหลดั่งสายน้ำ เสมไม่รู้จะพูดว่าอย่างไรเพราะดวงตาของเขาพร่ามั่วไปด้วยน้ำตาเช่นกันได้แต ่กอดยายไว้แน่นซักครู่หนึ่งก่อนจะรีบผละจากไปเพื่อไม่ให้เศร้าไปกว่านี้
ยายเดินกลับเข้ามาในบ้านนั่งลงพร้อมกับดูรูปหลานรักอย่างอาวรณ์
“คุณแม่คะ อยู่รอเสมทั้งคืนอีกแล้วเหรอคะปีนี้” หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นเบาๆ
“ใช่” หญิงชราตอบแบบไม่ใส่ใจนัก
“พบเขาไหมคะคุณแม่”
“พบสิ ก็เหมือนทุกปีนั้นแหละแต่ปีหน้าเขาคงไม่มาแล้วละ”
“เอ๋ ทำไมละคะ”
ยายชราถอนหายใจเล็กน้อยก่อนเอ่ยด้วยนำ้เสียงสั่นเครือ
“ฉันคืนของของเขาไปแล้ว เราไม่ควรเห็นแก่ตัวฉุดรั้งเขาไว้อย่างนี้หรอกนะ จริงไหม”
หญิงชรามองท้องฟ้าแล้วยิ้มอย่างมีความสุขในขณะหญิงอีกคนยืนดูอย่างสงสารและเข้าใจในการกระทำของเธอ
เสมเปิดประตูบ้านแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆพลางโยนทุกอย่างไปไว้บนโต๊ะเว้นแต่สมุดโน้ตที่ยายให้มาเขาหยิบขึ้นมาพร้อมกับจะเปิดออกอ่าน ในขณะที่เขาแตะปกสมุดมือของเขาสั่นเทาอย่างตื่นเต้น เหงื่อเย็นๆไหลซึมออกจากฝ่ามือ เมื่อเขาเปิดออกพบว่าเป็นไดอารี่ของหลานของยายคนนั้นที่ชื่อเสม เขาเปิดไปเรื่อยจนมาหยุดที่
วันสุดท้ายที่ว่างไว้แต่มีแปะข่าวที่ตัดจากหนังสือพิมพ์แทน เขาค่อยๆอ่านข่าวนั้นด้วยสติที่แทบแข็งเป็นน้ำแข็ง ข่าวนั้นเป็นข่าวของเด็กหนุ่มวัยรุ่น2คนที่ไปต้มตุ๋นมาเฟียใหญ่จนโดยอุ้มไปถ่วงน้ำตายและหนึ่งในนั้นก็คือ เสม! ภาพมาเฟียพวกนั้นผุดเบียดเสียดเข้ามาในสมองของเขา ทั้งภาพตอนโดนอุ้มขึ้นรถ ทั้งตอนโดนพวกมันรุมซ้อมจนสุดท้ายจบลงที่แม่น้ำ
สายลมพัดผ่านนำเศษของกระดาษเงินกระดาษทองที่ถูกเผาปลิ้วว่อนไปตามลม อาหารบนโต๊ะของยายไม่มีร่องรอยการกินเกิดขึ้นแม้แต่น้อยคงเหลือแต่รอยยิ้มของยาย ที่นั่งอยู่ชานเรือน และยิ้มให้กับการจากไปของหลานชายสุดที่รักอย่างเงียบๆ
ผลงานอื่นๆ ของ Frost Feather ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Frost Feather
ความคิดเห็น