ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เอ๊ะ!!!!!..ผมเหรอ? [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : two = วันซวย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.11K
      11
      22 ธ.ค. 51

    ทำไมตอนนี้ผมถึงมายืนอยู่หน้าบ้านหลังนี้อีกแล้ว หน้าบ้านไอ้น้องเฟลท์เนี่ย 



    ทำม้าย ทำไม เวลามันผ่านไปโคดจะเร็ว เพิ่งจะล้มตัวนอนยังไม่ทันได้ฝันเลย ก็โดนนาฬิกาเจ้ากรรมส่งเสียงปลุกให้รีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวแล้วมาทำงานได้แล้ว งานบ้านที่แสนจะยากลำบากเมื่อในบ้านมีไอ้น้องเฟลท์ตัวเป็นๆอยู่ด้วย 



    “สงสัยยังไม่ตื่นแหงๆ” บ้านเงียบเชียวครับ ผมวางกระเป๋าใบเล๋กที่สะพายมาด้วยไว้ที่โต๊ะเตียมอาหารในครัว แล้วเดินเปิดหน้าต่างกับผ้าม่านทั่วบ้าน จนถึงชั้นบนชั้นที่มีห้องไอ้น้องเฟลท์อยู่ด้วย
     


    “เอาไงดีวะ” จะปลุกดีรึเปล่า ทำไมไอ้เด็กนี่ต้องทำให้ผมลำบากใจได้ขนาดนี้ นี่ผมยืนอยู่หน้าห้องมันมาจะครึ่งชั่วโมงแล้วนะ 



    “เอาวะ” จะไม่ปลุกก็ปาไปเก้าโมงเช้าแล้ว ผมเดินเข้าไปชิดประตูก่อนจะเงี่ยหูฟังความเป็นไปภายในห้อง เงียบกริบ ยังไม่ตื่นจริงๆด้วย 



    “เฟลท์ตื่นรึยัง ตื่นได้แล้วนะ ตอนเช้าจะกินอะไร เฟลท์!!!!!!!!” ส่งเสียงแปดหลอดเรียกไอ้น้องเฟลท์เอาละกัน ไม่อยากเคาะประตู 



    ผมเรียกไอ้น้องเฟลท์อยู่ประมาณห้านาที ประตูห้องก็เปิด แต่น่าจะเรียกว่าถูกกระชากให้เปิดมากกว่าอ่ะนะ
     


    “เสียงดังอะไรตั้งแต่เช้าเนี่ย” โอ้ คุณพระ!!!! นี่น้องสาวคนสวยยังไม่กลับบ้านกลับช่องอีกเหรอจ้ะ มายืนเซ็กซี่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยอะไรตรงหน้าพี่จ้ะเนี่ย
     


    “เก้าโมงจะสิบโมงอยู่แล้ว ยังไม่ตื่นกันอีกเหรอ” ข่มใจไว้ไอ้มีน ข่มใจไว้ ยังไงก็แฟนน้องแฟนนุ่ง 



    “นี่!!! ปิดเทอมทั้งทีจะตื่นเช้าเพื่ออะไร พักผ่อนน่ะเข้าใจมั้ย พักผ่อน” มาแล้วเจ้าตัวดี เดินใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวมาเลย ผมปั้นหน้านิ่งมองไปยังไอ้น้องเฟลท์แล้วกลับมามองน้องสาวที่ยังไม่รู้ชื่อ 



    “เมื่อคืนแม่เราโทรมาหาพี่” คำพูดประกาศิต พูดออกไปปุ๊บ ไอ้น้องเฟลท์หรี่ตามองผมปั๊บ
     


    “ว่าไงบ้าง” แล้วคิดว่าไงล่ะ คิดว่ากุจะฟ้องเรื่องเมิงมั้ยล่ะ ผมยักไหล่ก่อนจะหันหลังเดินกลับลงบันได 



    “เชิญนอนกันต่อตามสบายเลย” ชิ!!! เออพักผ่อน มีกุคนเดียวเนี่ยแหละที่เลือกมาทำงานบ้าๆแบบนี้แทนที่จะพักผ่อนให้สบายอ่ะ 



    “เดี๋ยว แม่โทรมาว่าไงบ้าง” ไอ้น้องเฟลท์มันวิ่งตามผมมาครับ ด้วยสารรูปสุดทุเรศ 



    “ไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วก็ลงมากินข้าว พี่ให้เวลา ครึ่งชั่วโมง อ่อ แล้วก็ให้น้องคนนั้นเค้ากลับบ้านไปด้วย อายุเท่าไหร่กันมาทำตัวแบบนี้ แย่จริงๆเลย” สั่งไอ้น้องเฟลท์เสร็จก็เดินบ่นลงไปเตรียมอาหารเช้าให้คุณท่าน ไม่นานน้องคนสวยก็เดินฉับๆลงมา มีหยุดค้อนให้ผมวงโตๆก่อนจะเดินออกจากบ้านอีกด้วย ตามมาด้วยไอ้น้องเฟลท์ที่เดินทำหน้าเซ็งๆตามลงมา 



    “จะบอกได้ยัง ว่าแม่โทรมาทำไม” ถามพลางนั่งลงที่โต๊ะในครัว ผมเดินเอาจานข้าวผัดมาวางไว้ตรงหน้าไอ้น้องเฟลท์แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร    ไอ้น้องเฟลท์มันก็เริ่มอีกแล้ว



    “ใครบอกว่าอยากกินข้าวผัด” อีกละ เริ่มหาเรื่องอีกละ
     


    “ไม่มี”
     


    “แล้วทำทำไม”
     


    “กินๆเข้าไปเถอะ วันหลังก็บอกละกันว่าอยากกินอะไร”
     


    “จะทำเป็นเร้อ” อ่าว ไอ้นี่ แล้วตกลงเมิงจะเอาไง กินมั้ยเพ็ดดีกรีน่ะ 



    “ทำไม่เป็นก็จะซื้อให้กิน” พูดจบแล้วก็มองดูไอ้น้องเฟลท์ที่กำลังเอาช้อนขึ้นมาเขี่ยๆดูข้าวผัดผม 



    “ตกลงแม่โทรมาว่าไง” 



    “บอกว่าห้ามให้เราเอาสาวเข้าบ้าน” 



    “บอกแม่เรื่องชมพู่เหรอ” ใครชมพู่ น้องคนนั้นเหรอ แล้วก็ไม่ต้องมาทำตาดุคาดคั้น กุไม่ขี้ฟ้องหรอก
     


    “เปล่า” จะทำหน้าไม่เชื่อก็ตามใจ ผมเดินไปล้างกระทะพลางเหล่มองไอ้น้องเฟลท์ว่ามันจะยอมกินข้าวผัดผมรึเปล่า และมันก็กินครับ เพราะผลที่ตามมาคือ 



    “เอ้ยยยยยยย ทำไมข้าวผัดมันเผ็ดแบบนี้ แหวะ ถุยๆ” ฮ่าๆๆๆๆๆ จะคายทิ้งตอนนี้ก็สายไปแล้วไอ้น้อง นั่นน่ะพริกขี้หนูทั้งหมดในตู้เย็นเลยขอบอก เห็นสีเขียวๆนึกว่าผักรึไง พริกอ่อนทั้งนั้นแหละ ฮ่าๆๆๆๆ
     


    “ฮ่าๆๆๆ กินเผ็ดไม่ได้เองรึเปล่า ข้าวผัดนี่สูตรเด็ดเลยนะ ใครๆก็บอกว่าอร่อย” หันมาหัวเราะไอ้น้องเฟลท์น้ำหูน้ำตาเล็ด หน้าแดงก่ำเลยเมิง แถมเริ่มไอค่อกๆแค่กๆแล้วนั่น
     


    “อ่ะ..แค่กๆๆๆ นี่ นี่เมิงแกล้งกุเหรอ” ใคร๊ ใครแกล้งเมิง กุกินรสนี้เว้ย เผ็ดตายไม่เอาเรื่องอ่ะ ใครจะคุณหนูแบบเมิง แล้วก็อย่าพูดกุเมิงสิ ไม่เพราะๆ 



    “เปล่าซะหน่อย แล้วมันก็ไม่ได้เผ็ดขนาดนั้น อย่ามาเวอร์” ไอ้น้องเฟลท์มันเวอร์มากๆเลยครับ มีการเอามือมาปิดหน้าปิดตาแล้วไอใหญ่เลย หน้างี้ก็แดงเชียว แดงมาถึงหูแล้วเนี่ย 



    “เฮ้ย!! เป็นจริงอ่ะ กินเผ็ดไม่ได้เหรอ” อย่าทำงี้ดิ กุเริ่มตกใจแล้วนะ ผมเดินมาหาไอ้น้องเฟลท์ที่ก้มหน้าลงต่ำ แต่ยังไอไม่หยุด
     


    “จริงดิเนี่ย นี่น้ำๆ กินน้ำก่อน” ยื่นแก้วน้ำให้มันที่รับไปดื่มแบบทุลักทุเล น้ำหกเปื้อนเสื้อไปหมด อ๋า ผมจะทำลูกเค้าตายมั้ยเนี่ย 



    “เป็นไงบ้าง ดีขึ้นมั้ย” อย่าตายนะเมิง เมิงตายกุจะทำยังไง ให้ทำใช้ให้ไหม่ไม่ไหวนะ จะออกมาเหมือนเดิมรึเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนี้อนุญาตให้พูดไม่เพราะได้นะขอแค่เมิงไม่ตายก็พอ T-T 



    ไอ้น้องเฟลท์มันเงยหน้าขึ้นมองผม น้ำตารื้นเลยอ่ะ หน้าก็แดงเชียว นี่เมิงกินเผ็ดไม่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ 



    “ขอโทษ ไม่รู้อ่ะว่ากินเผ็ดไม่ได้” บอกพลางหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดน้ำที่เปียกบนเสื้อให้ อย่ามองงั้นดิ ขอโทษจริงๆ 



    “ถ้ากุตายเมิงจะทำยังไง” ถามแบบเดียวกับที่คิดเลย 



    “ขอโทษจริงๆ คราวหน้าไม่ทำแล้ว พี่ขอโทษนะ” หน้าเศร้าเลยผม จากเมื่อกี๊เพิ่งหัวเราะเยาะมันไปหยกๆ แต่ตอนนี้ต้องมายืนสำนึกผิดเช็ดเสื้อให้ไอ้น้องเฟลท์ซะงั้น
     


    “หลีก กุจะไปเปลี่ยนเสื้อ” อ๋า ไอ้น้องเฟลท์ต้องโกรธผมมากแน่ๆเลย เดินขึ้นไปห้องไม่มองผมเลยอ่ะ แงงงง เค้าไม่ได้ตั้งใจน้า ก็แค่จะเอาคืนนิดเดียว ผมเอาจานข้าวผัดสูตรพิเศษไปเก็บจ๋อยๆ ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะเกือบทำคนตายเพราะกินเผ็ด ทำไมช่วงนี้ผมซวยๆวะ ไปทำบุญดีมั้ยเนี่ย 



    “นี่!!! ออกมาจากครัวได้แล้ว” เสียงดังๆของไอ้น้องเฟลท์ทำเอาผมรีบเดินออกไปหามันที่ยืนอยู่หน้าประตู เปลี่ยนเสื้อใหม่แล้ว หน้าเลิกเป็นสีแดงแล้วแต่ยังเป็นสีชมพูนิดๆ แต่ใส่หมวกแก๊บอยู่คนอื่นคงไม่สังเกตหรอกเนอะ 



    “มองอะไร กุหล่อมากหรือไง” =_= หล่อ แต่น้อยกว่ากุนิดนึง แล้วที่กุมองก็เพราะกุจะดูว่าเมิงเป็นยังไงบ้างแล้วต่างหาก 



    “เปล่า” ตอบแล้วก็สังเกตเห็นไอ้น้องเฟลท์มันควงกุญแจรถอยู่ 



    “จะออกไปข้างนอกเหรอ”
     


    “ทำไม” 



    “เปล่า” วันนี้คงจะเตือนไม่ได้ ไปทำกับมันเอาไว้แบบนั้นนี่หว่า เอาไว้วันหลังดีกว่า
     


    “งั้นเดี๋ยวจะเฝ้าบ้านให้ จะกลับตอนไหนล่ะ จะได้ทำกับข้าวไว้ให้” 



    “กุคงกล้ากินหรอก ออกไปข้างนอกด้วยกันเลย” พูดเสร็จไอ้น้องเฟลท์ก็เดินออกไปที่รถ ผมวิ่งไปคว้ากระเป๋าแล้วรีบวิ่งตามไป 



    “จะไปไหน” ให้รู้หน่อยได้มะ เดี๋ยวจะโทรบอกไอ้เบสไว้ไง ให้แจ้งตำรวจไว้ไรงี้ เมิงคงไม่เอากุไปฆ่าใช่มะ T^T 



    “เมิงทำให้กุไม่ได้กินข้าว ก็รับผิดชอบโดยการเลี้ยงข้าวสิ ขึ้นรถซะที ถามมากอยู่นั่น” เอ๋ จะให้กุไปเลี้ยงข้าวเหรอ เดี๋ยวนะขอนับเงินก่อน วันนี้เอามาเท่าไหร่วะ ร้อยนึงถึงมั้ยเนี่ย ผมขึ้นนั่งข้างไอ้น้องเฟลท์ที่ทำหน้าที่ขับรถไปพลาง ร้องเพลงคลอไปกับเพลงอะไรก็ไม่รู้ของมันที่ใช้ให้ผมเปิดให้ฟังไปพลาง ทำไมอารมณ์ดีแล้ววะ คงไม่กะถล่มกุหมดตัวหรอกใช่มะ
     


    ……………………….. 



    “เฟลท์จะกินอะไร” ผมถามขึ้นในระหว่างที่เราสองคนกำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้า ยังไม่เคยเดินข้างๆไอ้น้องเฟลท์มันใกล้ๆขนาดนี้สักที พอมายืนข้างๆแบบนี้แล้วรู้สึกตัวเองตัวเล็กมากๆ ทั้งๆที่ผมสูงตั้ง 170 cm นะครับ ยังสูงแค่หูไอ้น้องเฟลท์เอง
     


    “อยากกินก๊วยเตี๋ยวเรือ” ตอบแล้วก็หยิบแว่นสีชาขึ้นมาใส่ นี่มันคิดว่ามันเป็นนายแบบชื่อดังอยู่รึไง แค่มาเดินห้างต้องใส่ทั้งหมวกทั้งแว่นปกปิดแบบนี้ 



    “ที่นี่อร่อยเหรอ” มีก๊วยเตี๋ยวเรือในห้างมั้ยเนี่ยพี่น้อง
     


    “เปล่า มันไกล ขี้เกียจไป เลยแวะมากินข้าวที่นี่แทน” อ้าว แล้วจะพูดทำไมวะ ผมเดินตามไอ้น้องเฟลท์ไปก็คิดถึงเงินในกระเป๋าไปด้วย จนมาสังเกตได้ว่าพวกผมสองคนกำลังถูกผู้คนที่เดินผ่านไปมาหยุดดูบ้าง ชี้บ้าง แล้วมีกระซิบกันบ้าง บ้าเอ้ย อย่าบอกนะว่าเอาอีกแล้ว 



    “เดินซะห่างขนาดนั้นทำไม” ไอ้น้องเฟลท์ตะโกนกลับมาถาม เพราะอยู่ๆผมก็หยุดเดินทิ้งให้ไอ้น้องเฟลท์เดินห่างออกไปสักร้อยเมตรก่อนค่อยเดินตาม 



    “เมื่อยอ่ะ” ตอบไปส่งๆ แล้วก็เดินช้าๆ แต่ผิดแผนอีกแล้ว ไอ้น้องเฟลท์มันเดินกลับมาจับแขนผมแล้วยังถามอีกว่า 



    “จะให้อุ้มเดินไปรึไง รีบๆเดินได้แล้ว” อ๊ากกกกกกกกกกกกกก พูดซะดังขนาดนี้ฆ่ากุดีกว่า T^T 



    ผมมีปมด้อยครับ ปมด้อยมากๆ ปมด้อยที่ว่าผมมักจะถูกคนอื่นเข้าใจผิดอยู่เรื่อยว่าเป็นเกย์ ไอ้เป็นไม่เท่าไหร่ถ้าให้ผมรุก (-__-) แต่นี่ทุกคนเลยจะต้องคิดว่าผมรับอยู่ร่ำไป ทำไม ทั้งๆที่ผมออกจะมาดแมนขนาดนี้แท้ๆ ตอนอยู่ในมหาลัยผมก็อุตส่าห์เข้าชมรมฟุตบอล ได้เป็นตัวจริงตลอดด้วย แต่ก็ยังมีคนคิดแบบนี้มาตลอด ไอ้ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ เพราะแฟนไอ้เบสก็เป็นผู้ชาย แต่ไอ้เบสมันสวยอ่ะ ไม่เหมือนผมนะ แล้วนี่ยิ่งผมมาเดินกับไอ้น้องเฟลท์ที่ตัวสูงกว่าแบบนี้ ไอ้พวกที่ดูแล้วยิ้มมันต้องคิดอะไรแน่ๆเลย
     


    “เป็นอะไร รีบเดินสิ หิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย” ไอ้น้องเฟลท์ก้มลงมาถามผมที่ก้มหน้าเดินเร็วๆตามที่มันพูด และอาจจะเพราะผมไม่ตอบเอาแต่ก้มหน้าเดินจ้ำอ้าว    ไอ้น้องเฟลท์เลยหันไปมองรอบๆแทนว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วมันก็ยิ้มครับ แถมก้มหน้าลงมายิ้มให้ผมด้วย
     


    “หิวจะตายอยู่แล้วอ่ะ แต่ถ้าที่รักเมื่อยขนาดนั้นให้ผมอุ้มไปดีกว่าเนอะ จะได้ถึงเร็วๆ” อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไปขอประชาสัมพันธ์เค้าพูดประกาศเลยไป ถ้าเมิงจะเลือกพูดตอนคนเดินผ่านเป็นร้อยแบบนี้ นี่เมิงกำลังแก้แค้นกุใช่ม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย 


    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    อา...ตอนสุดท้ายของช่วงนี้ที่จะมาต่อให้ได้คับ   ต่อไปต้องสอบหนัก   แต่อาจมีแว้บมาต่อถ้าเบื่อๆท่องหนังสือ  แหะๆ

    ตอนนี้ดูเจ้ามีนเราจิตตกนิดๆเนอะ   แต่ผมชอบนายเอกแบบนี้อ่ะ   ดูตื่นๆดี 

    อ่านเม้นๆ  โอ้   มีคนรออ่านต่อด้วยอ้ะ   โย่วๆๆ  โคดจะดีจายยยยยที่มีคนชอบ  

    แล้วก็มีหลายคนเป็นนิยายเก่าด้วยอ่ะ   ตามาตั้งแต่เรื่องแรกๆ   ดีใจมากครับ

    ยังไงก็ผมสอบ  เหอเหอ   งั้นก็ต้องขอห่างหายไปบ้างอย่างที่บอกนะจ้ะ

    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน   แล้วก็มีเม้น   บ้างก็แอด  และก็โหวตให้ด้วย  ><  ขอบคุณมากค้าบบบบบบ

    เจอกันตอนหน้า   (ถ้าแวบมาต่อระหว่างสอบคงจะไม่นานเท่าไหร่แต่ถ้าไม่ก็หลังปีไหม่เลยจ้า  เพราะสอบเสร็จ 30 ธ.ค. โน่นเลย)

    บายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

    ปล.อิมเมจเอาไว้ก่อนเนอะ   ขี้เกียจหาอ่า (ง่ายๆเลยมัน)

    เข้ามาดิทแก้คำผิดแล้วนะคร้าบบบบ  เหลือตรงไหนป่ะเนี่ย   

    อ่อ   พรุ่งนี้จะมาต่อให้อีกตอนนะครับ  เพราะพรุ่งนี้ว่างทั้งวัน   น่าจะแวบจากการอ่านหนังสือมา   อิอิ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×