ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PLEASE

    ลำดับตอนที่ #3 : Please 3

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 58







    3 ;




    อย่างที่รู้กันในตารางงานว่าวันนี้เอมน้ำต้องเดินทางไปอุดร
    แฟนคลับต่างก็มารอส่งสองสาวขึ้นเครื่องอย่างหนาแน่น
    เอมน้ำลงมาจากรถตู้รับของจากแฟนคลับและอยู่พูดคุยถ่าย
    รูปอย่างที่เคยทำจนเออาร์เรียก

    “เราไม่ได้นั่งข้างเธอ”
    เอมที่เดินเกาะแขนน้ำทำหน้างอแง

    “ทำไมอ่ะ”

    “ก็ตรงนั้นมันเต็มอ่ะสิ แล้วทำไมต้องเป็นเราด้วยก็ไม่รู้เนี่ย”

    “เอาน่ะเอม”
    น้ำพูดกลั้วหัวเราะ ตลกเอมที่เดินเกาะแขนตนหน้า
    บึ้งตึงจนขึ้นเครื่อง 

    น้ำหันมามองเอมหลังจากที่เครื่องขึ้นอยู่ในระดับที่ปกติได้
    สักพักจึงชวนน้องมุกและศิลปินคนอื่นมาเซลฟี่อัพรูปลงไอจี
    แท็กไปแกล้งคนที่นั่งไกลสักหน่อย

    เพียงไม่นานเครื่องก็แลนดิ้งสู่สนามบินของจังหวัดอุดรทุกคน
    ต่างทยอยออกจากเครื่อง น้ำเลือกที่จะยืนรอเอมอยู่ตรงที่นั่ง
    เพื่อรอเดินไปพร้อมกัน จนออกมาเจอแฟนคลับจำนวนหนึ่งที่ตาม
    มารอรับ เอมน้ำนับถือความรักที่พวกเขามีให้กับเธอจริงๆจึงอยาก
    ใช้โอกาสที่มีทักทายกับแฟนคลับจนกว่าเออาร์จะเรียกให้ไปขึ้น
    รถตู้ที่จอดรอรับอยู่หน้าสนามบินเพื่อไปให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ
    แห่งหนึ่งก่อนจะเช็คอินเข้าโรงแรมรอเวลาไปร้องเพลงและแน่นอน
    ว่าเอมน้ำกับน้องมุกนอนห้องเดียวกัน สามสาวถือกระเป๋าของตัวเอง
    เข้ามายังห้องที่พนักงานของโรงแรมนำทางมา ก่อนจะเดินสำรวจห้องกัน

    “มุกนอนร่วมเตียงกับพี่และเอมได้ใช่ไหม”
    น้ำถามขึ้นเมื่อเห็นว่ามันเป็นเตียงขนาดคิงไซต์ไม่จำเป็นต้อง
    ขอเตียงเสริม เอมหัวเราะกับคำถามของน้ำ

    “ได้ค่ะ”

    “เดี๋ยวพี่นอนกลางเอง”
    น้ำพยักหน้าหงึกหงักกับคำบอกของเอมแล้วทิ้งตัวลงที่เตียง
    ด้วยความเมื่อยก่อนที่เอมจะล้มลงไปนอนทับจนน้ำต้องหน้า
    เหยเกเพราะหนัก ส่วนมุกก็นั่งพิงหัวเตียงเล่นโทรศัพท์ไปพลางๆ

    “หนัก”

    “อะไร”

    “หนัก”

    “ห๊ะ?”

    “หนักโว๊ย!
    เอมหัวเราะพร้อมกับหงายลงไปอยู่บนเตียงเมื่อน้ำออกแรงดัน

    “หิวอ่ะน้ำสั่งอะไรให้กินหน่อยดิ”
    เอมหันมาทำตาปริบๆใส่

    “ก็สั่งเองดิ”

    “เราขี้เกียจ” 

    “เดี๋ยวนะอะไรคือหิวแล้วขี้เกียจสั่ง”

    “เร็วน้ำ”

    “เอิ่มเอม”

    “แค่นี้ทำให้ไม่ได้ใช่ป่ะ”

    “มันยากตรงไหนล่ะเอม แค่โทรไปเนี่ย กดสิ เขารับแล้วก็สั่งๆๆๆ
    อยากกินไรก็พูดไป”
    น้ำลุกไปคว้าโทรศัพท์ของห้องยื่นให้เอม 

    “ส่งมาดิ”
    เอมยื่นมือไปรับโทรศัพท์จากน้ำ ซึ่งรู้ทั้ง
    รู้ว่าเอื้อมยังไงมันก็ำม่ถึง

    “สายมันไม่ถึงลุกมาโทรตรงนี้”
    เอมอิดออดทำเป็นลีลาน้ำส่ายหัวทำปากจิ๊จ๊ะแต่ก็อมยิ้มหน่อยๆ
    ก่อนจะยกมือขึ้นทำท่าว่าพอๆนอนอยู่ตรงนั้นแหละแล้วกดเบอร์
    ของรูมเซอร์วิส

    “จะกินอะไร”

    “หิ๊ออ โทรให้เค้าหรอน่ารักที่สุดเลย”

    “ถ้าไม่ติดว่านี่หิวเธอก็ไม่ได้กินหรอกเอม”

    “จริงหรอออออออ”

    “เออ เอาอะไรรีบสั่งมาเร็วๆ มุกเอาไหม”
    น้ำเร่งเอมเพราะตัวเองกดต่อสายไปแล้วก่อนเลื่อนสายตาไปถามมุก

    “ข้าวผัดกุ้ง”

    “เอาแบบพี่เอมก็ได้ค่ะ”
    น้ำพยักหน้าก่อนจะสั่งข้าวผัดกุ้งมาเหมือนกันสามจาน พนักงานมา
    เคาะประตูเรียกเพื่อนำอาหารมาส่งใช้เวลาเพียงไม่นานทั้งสามคน
    ก็กินกันหมดจานเพราะเออาร์ที่พักอยู่ข้างห้องโทรมาบอกให้เตรียมตัว

    เอมออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดใหม่ เดินมาหาน้ำที่นั่งแต่งหน้าแต่งตา
    อยู่หน้ากระจก

    “สั้นไปป่ะเอม”
    น้ำมองเอมตั้งแต่ปลายเท้าเลื่อยขึ้นไปยังต้นขา

    “สั้นตรงไหน ใส่กางเกงขาสั้นไม่เป็นไรหรอก”
    เอมก้มพิจารณาชุด

    “ก็ตรงเนี๊ย”
    น้ำแตะนิ้วชี้ลากตั้งแต่หน้าแข้งยันขาอ่อนเอมและมองหน้าเอม
    ด้วยสายตาเคืองๆ

    “จะใส่สั้นเวลานั่งก็นั่งให้มันหุบๆหน่อย นั่งถ่างขาไม่รู้จะแมน
    ไปไหน คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายรึไง เห็นมาหลายทีละ ถึงมันจะ
    มีกางเกงขาสั้นเวลาเธอนั่งแบบนั้นมันก็ไม่ได้ดูดีเลยนะเว่ย
    ผู้ชายก็เยอะแยะ”
    เอมไม่ตอบอะไรได้แต่อมยิ้มน้อยๆเมื่อรู้ว่าน้ำกำลังเป็นห่วง นั่งลงตรงเก้าอี้ข้างๆน้ำลงมือแต่งหน้าของตัวเองเพราะอีกสิบ
    ห้านาทีก็ต้องลงไปขึ้นรถเดินทางไปสถานที่จัดงานแล้ว




     

    ...




    เออาร์นำศิลปินไปยังห้องเก็บตัว ทุกคนต่างก็วอร์มเสียงกันนิด
    หน่อยก่อนจะนั่งรอเวลาขึ้นร้องเพลงของตัวเอง เอมน้ำนั่งตัวติด
    กันคุยกันมุ้งมิ้งตลอดจนน้องมุกเองยังแอบจิ้นตามแฟนคลับ 
    ผ่านไปจนจบเพลงนี้ก็ถึงคิวของน้ำ
    เอมนั่งฟังเสียงร้องเพลงของน้ำอยู่ที่ห้องเก็บตัวด้านหลังเวที
    ร้องคลอตามอย่างคล่องปาก แอบขำกับบางช่วงที่น้ำพูด ประหนึ่ง
    นั่งดูอยู่หน้าเวทีจนจบ ก่อนจะเช็กเสื้อผ้าหน้าผมเพราะน้ำร้องเพลง
    นี้จบก็ถึงคิวของเธอ เอมมายืนสแตนบายรอขึ้นเวทีตรงประตูทางออก
    ห้องเก็บตัว พูดขอเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับอยู่ที่เดิมหลังจากได้ยิน
    น้ำส่งช่วงมาให้เธอและเดินลงมาจากเวที น้ำเดินผ่านเอมเข้าไปในห้อง
    เก็บตัวแต่ก็ไม่วายทำให้เอมใจเต้นด้วยการสัมผัสจับมือให้กำลังใจแล้ว
    เดินเข้าห้องไปหน้าตาเฉยโดยไม่พูดไม่หันมาสบตา

    เมื่อการแสดงทุกอย่างจบลงพิธีกรก็เรียกศิลปินทั้งหมดขึ้นไปถ่ายรูปร่วม
    กันบนเวทีเสียงแฟนคลับจึงเริ่มกระหึ่มอีกครั้ง และเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟน
    คลับเอมน้ำไปอีกเมื่อเอมน้ำเอาน้องมุกมาร่วมสร้างโมเม้นท์

     


     

    ...




     

    เสร็จงานเออาร์ก็พาไปกินมื้อเย็นกลับมาถึงโรงแรมเวลาก็ล่วงเลยไปถึง
    สองทุ่มกว่าๆแล้ว น้องมุกขอตัวไปอาบน้ำส่วนเอมน้ำก็นอนเกยกันเล่น
    โทรศัพท์อยู่บนเตียง

    “เธอหึงเรากับมุกช่ะ”
    น้ำหันมาสบตาเจ้าเล่ห์ให้

    “อย่าหลงตัวเองน้ำ”

    “หึงก็บอกเหอะเอม”

    “ถ้าจะหึงเราไม่หึงเธอกับมุกหรอกป่ะ”
    เอมเหลือบตามองแต่อยู่ๆก็ถูกน้ำดึงเข้าไปกอดจนแน่น รัดจนเอมต้อง
    ส่งเสียงท้วงว่าอึดอัด


    น้ำแคร์เอมมาก มากจนเห็นหลายสายที่ไม่ได้รับจากแฟนหนุ่มที่โทร
    มาเมื่อช่วงทำงาน แต่เธอเพิ่งจะมาเห็นตอนที่หยิบโทรศัพท์มาเล่น
    ตอนถึงห้องเอง น้ำไม่คิดโทรกลับไม่อะไรทั้งนั้นเพราะไม่อยากให้เอม
    ต้องรู้สึกแย่กับเธอทุกวัน ไม่ได้อยากจะทำตัวให้เอมรักมากขึ้นแต่เธอ
    แค่รักษาความรู้สึกของคนที่รักเธอ


    “ได้ป่ะ เราหึงเธอกับแฟนเธอได้ใช่ป่ะ”
    เอมใช้นิ้วค่อยๆเกลี่ยผมน้ำที่นอนทับเธออยู่ไปทัดหูให้

    “ไม่ได้ไม่ให้หึง”

    “ทำไมอ่ะ”

    “ไม่รู้ งั่มๆ! บอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ งั่มๆ!
    น้ำพูดพลางจับผมเอมมางับทำเสียงงั่มๆ มันทำให้เอมหมั่นเขี้ยว
    เสียจริง ก่อนจะไล่น้ำไปอาบน้ำเมื่อเห็นน้องมุกออกมา แต่จะให้
    สั่งหมีเป็นภาษามนุษย์ก็คงยากเธอจึงต้องไปอาบก่อน


    น้ำบอกมุกว่าขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียงห้องเพราะทันทีที่
    เอมหายเข้าห้องน้ำไปแฟนของเธอก็โทรเข้ามา ถือว่าฟ้ายังเห็นใจ
    เธอและยังเห็นใจเอมอยู่บ้าง

    “มีอะไร” น้ำถามไปเสียงแข็ง

    “ก็ทำงานจะเอาเวลาไหนมานั่งจ้องโทรศัพท์ แล้วถ้ายังระงับอารมณ์
    ไม่ได้ก็อย่าเพิ่งโทรมา”
    คุยยังไม่ทันไรน้ำก็ตัดสายทิ้งเพราะเขายังคงงี่เง่าระแวงและขึ้น
    เสียงใส่เธอ แต่ก่อนยอมรับว่าทะเลาะกันน้อยมากๆแต่พอมาตอน
    นี้ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไปหมดน้ำเองก็เสียใจเสียความรู้สึกทั้งที่
    คุยกันก่อนเข้าบ้านเอเอฟแล้วว่าอาจจะมีเวลาให้กันน้อยลงไปมาก
    ตอนนั้นเขาเข้าใจดีทุกอย่าง แต่พอถึงเวลาจริงๆเขากับทำให้เธอ
    เหนื่อยใจที่ต้องมานั่งอธิบายถึงเรื่องงานการใช้ชีวิตใหม่ของเธอ
    ตลอด และส่วนหนึ่งมันคงเป็นเพราะเอม เพราะน้ำแคร์เอม  
    เวลาอยู่กับเอม มีบ่อยครั้งที่ไม่รับโทรศัพท์เขา


    “น้ำไปอาบน้ำได้แล้ว”
    เอมเลื่อนประตูออกมาเรียกน้ำที่ยืนเหม่ออยู่ตรงระเบียง น้ำพยักหน้าหงอยๆ
    เดินเข้าไปในห้องคว้าผ้าเช็ดตัวของโรงแรมเข้าห้องน้ำไป เอมมอง
    ตามอย่างรู้สึกได้ว่าต้องเกิดอะไรบางอย่างกับน้ำ แต่เธอก็เลือกที่
    จะไม่ถามไม่ก้าวก่ายทั้งที่ตอนนี้หัวใจเริ่มรู้สึกหนึบขึ้นมาอีกแล้ว


    เอมเล่นโทรศัพท์พูดคุยกับมุกไปเรื่อยไม่นานน้ำก็ออกมาจากห้องน้ำ
    เดินเอาผ้าเช็ดตัวไปแขวนทาครีมจนเสร็จสรรพก็เดินทิ้งตัวนอนคว่ำแขน
    ข้างนึงก่ายพาดที่เอวเอม

    “เป็นอะไร”

    “ป่าว”
    น้ำตอบเสียงอู้อี้เพราะหน้ากดอยู่กับหมอน

    “เรารู้ว่าเธอเป็นอะไรน้ำ”

    “อย่ามาทำเป็นรู้ดี”
    น้ำหันหน้าไปทางเอม มองคนที่กำลังเล่นเกมส์ใน
    โทรศัพท์ไม่วางตา

     “พี่น้ำโทรศัพท์พี่สั่นป่ะ”
    เสียงสั่นครืดทำให้มุกต้องชะเง้อหาเสียง ก่อนจะลุกไปหยิบโทรศัพท์
    ที่วางอยู่บนโต๊ะหน้ากระจกมายื่นผ่านหน้าเอมที่นอนอยู่ตรงกลางไป
    ให้น้ำ เอมทำเป็นเล่นเกมส์ไม่สนใจ

    “ฮัลโหล”
    น้ำรับสาย และถือสายโดยที่ไม่พูดอะไรต่ออีกเลย ได้แต่ฟังแฟนหนุ่มที่กำลังพูด
    ด้วยน้ำเสียงสะอื้นอยู่เงียบๆ ใช่เขากำลังร้องไห้

    เอมไม่สามารถเล่นเกมส์ต่อไปได้โดยไม่แพ้ เอมปิดมันและวาง
    โทรศัพท์ลงบนตัว สายตามองตรงไปยังกำแพงข้างหน้า ใจไม่
    แข็งพอจะหันไปหาน้ำที่กำลังนอนคุยโทรศัพท์กับแฟน
    ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ชินสักที

     

    “เราอยากให้เธอเลิกทำตัวแบบนี้สักที”
    เสียงน้ำเริ่มสั่น ใจอยากจะเดินออกไปคุยที่ระเบียงเหลือเกินแต่
    ก็กลัวที่จะทำตัวเป็นมีความลับกับเอม แต่การนอนคุยให้เอมได้
    ยินมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย จึงตัดสินใจลุกออกจากเตียงเดินไปยังระเบียง
    โดยที่ไม่หันมามองเอมที่ทำเป็นนอนหลับตา เอมลืมตาขึ้นเมื่อเสียง
    ประตูระเบียงปิดลง มองไปเห็นแผ่นหลังอีกคนกำลังสั่นเทา

    “สงสัยพี่น้ำทะเลาะกับแฟนแน่เลย”
    เอมรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอจนไม่สามารถที่จะพูด
    อะไรออกไปได้ ได้แต่มองแผ่นหลังของคนที่ระเบียงด้วยสายตา
    ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

    น้ำปล่อยแขนที่ถือโทรศัพท์ลงข้างลำตัวหลังจากวางสายจากเขา
    น้ำไม่รู้ว่าที่ร้องไห้ออกมานั้นเหตุผลหลักๆเพราะเขาหรือว่าเพราะใคร
    ในระหว่างที่ฟังเขาพร่ำคำขอโทษด้วยเสียงสะอื้นน้ำก็คิดถึงความรู้สึก
    ของเอมไปด้วยตลอด

    -ออกมาหาหน่อย

    น้ำส่งไลน์ไปบอกให้เอมออกมาที่ระเบียงเพราะไม่สะดวกที่จะคุยให้มุก
    ได้ยิน ไม่นานเอมก็ออกมายืนข้างๆกัน

    “มีอะไร”
    เอมถามเสียงแผ่ว สายตามองเหม่อไปบนท้องฟ้าที่มืดสนิทแต่
    ก็มีแสงจากดาวดวงน้อยๆส่องระยิบระยับคอยให้กำลังใจเธอ

    “เราขอโทษ”
    น้ำเริ่มเสียงสั่นอีกครั้ง

    “ขอโทษเรื่องอะไร”

    “ขอโทษที่เรามันไม่ดี ชอบทำร้ายความรู้สึกเธอ”

    “เราว่าเธอคิดมากไปแล้ว”

    “เรารู้เอม เรารู้ว่าเธอกำลังคิดแต่เธอไม่พูด”
    น้ำหันไปมองเอมที่หลุบตาต่ำพยายามไม่หันมาสบตา

    “ตอนนั้นเราอาจไม่เข้าใจเธอเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เราเข้าใจและ
    เราก็แคร์เธอ”

    “เธอก็แค่สงสารเราน้ำ”

    “เราถึงบอกให้เธอพยายามตัดใจไง”

    “ถ้ามันง่ายเราก็ทำไปนานแล้วป่ะวะ เลิกพูดเหอะน้ำ”

    “แล้วเราควรทำยังไง”

    “เราบอกเธอไม่รู้ตั้งกี่ครั้งว่าไม่ต้องพยายามทำให้เรารู้สึกดี
    เธอก็เป็นแบบที่เธอเป็นไปสิ”

    “แต่ทุกๆครั้งที่เราพยายามเธอก็เป็นแบบนี้ แล้วคิดดูถ้าเราไม่
    พยายามเลยเธอจะเป็นไปขนาดไหน”

    เอมก้มหน้าเงียบไปก่อนใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งกึงหัวตาทั้งสองข้างเพื่อ
    กดไม่ให้น้ำตามันใหลออกมา

    “เราจะทำทุกวันให้มันดีเอม”
    เอมไม่พูดอะไรแต่ส่ายหน้าไปมาช้าๆนิ้วก็กดหัวตาอยู่แบบนั้น จนน้ำ
    ต้องดึงมืออกมาเพื่อปล่อยให้น้ำตาเอมใหล น้ำจับนิ้วก้อยเอมมาเกี่ยว
    กับนิ้วก้อยของตัวเองว่านี่คือสัญญาจากเธอ แล้วดึงเอมที่สะอื้นเข้ามา
    กอดปลอบ น้ำไม่รู้ว่าเรื่องของเธอกับเอมจะสิ้นสุดลงตอนไหน แต่วันนี้
    และต่อๆไปตราบที่เอมยังมีความรู้สึกดีๆแบบนี้ให้เธอและเธอเองก็ยอม
    ที่จะรับผิดชอบต่อหัวใจเอม น้ำจะพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำเพื่อ
    คนๆนึงได้ น้ำไม่ต้องการเห็นน้ำตาของเอม ไม่ต้องการให้เอมเศร้าเพราะเธออีก 




     

    ... 




     

     






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×