'7 Days before love' [Fic :: SnsD Yuri]
ผู้เข้าชมรวม
1,761
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
'7 Days before Love'
Teayeon & Tiffany s Memories
เรื่องราวความรักที่ถูกถักทอขึ้นเมื่อแรกพบ
ใช้เพียงไม่กี่วัน จาก รักแรกพบ กลายเป็น รักแท้
เพราะโชคชะตาที่นำพาคนทั้งคู่มาบรรจบกันบนเส้นทางแห่งความรัก
ทำให้รักครั้งนี้ ถึงแม้จะรีบร้อนและไม่แน่ใจ
สุดท้ายก็กลับกลายเป็นสิ่งสวยงามที่ต้องรักษาไว้ให้มั่นคงตลอดกาล
ขอขอบคุณบีจีสวย ๆ จาก
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
2 March 2010
ทำไมฉันถึงได้มีความสุขอะไรอย่างนี้นะ เฮ้อ อยู่ตัวคนเดียว อยากไปที่ไหนก็ไปเหมือนสายลมพัดพาไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องคอยดูแลใคร ไม่แคร์ใคร ฉัน “คิม แทยอน” ชอบอะไรแบบนี้เสียจริง ตอนนี้ฉันกำลังเดินสูดอากาศสบาย ๆ อยู่ในย่านอินซาดง ตอนเช้า ๆ อย่างนี้ยังไม่มีใครเลย แถมร้านค้าแถวนี้ก็ยังไม่เปิดกันด้วย ฉันเดินสบาย ๆ ไปเรื่อย ๆ จนสายตาไปหยุดอยู่ที่ชุดแซกสีส้มพร้อมด้วยเครื่องประดับมุกสีขาวเข้าชุดกัน ร้านค้าที่ไม่น่าจะเปิดกลับเปิดแล้วอย่างไม่น่าเชื่อ
ชุดนั้นดึงความสนใจของฉันไปจนหมด ทำเอาฉันเกือบลืมธุระสำคัญของตนไปเสียสนิท เดี๋ยวค่อยกลับมาดูก็ได้ ว่าแล้วฉันตัดสินใจไปทำธุระให้เสร็จแล้วค่อยกลับมาดีกว่า
ธุระที่ว่านั้นคือ การส่งโปสการ์ดไปให้พี่ชายที่อยู่เมืองนอก ฉันเลือกโปสการ์ดรูปปราสาท ศิลปะแบบโบราณอย่างที่พี่ชอบแนบไปพร้อมกับจดหมาย 2 ฉบับ ฉันรีบจ่ายเงินค่าไปรษณีย์ ก่อนจะเดินออกจากที่ทำการไปรษณีย์ ดูเหมือนว่าฉับจะรีบมากจนเดินชนเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งพอดี เธอล้มลง ยังดีที่ฉันใช้ความเร็วรับตัวเธอไว้ได้ทัน ทำให้เธอคนนั้นไม่ล้มลงไป แต่คนที่ลงไปกองกับพื้นกลับเป็นฉันเอง ฉันเพ่งพิศใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นอยู่นาน เธอตัวสูงกว่าฉันเล็กน้อย ผิวขาวราวหิมะ ถึงอย่างนั้นฉันก็ขาวกว่านะ นัยน์ตาสีดำเป็นประกายน่าหลงใหล โอ้ ทำไมกัน ฉันถึงไม่อาจละสายตาไปจากใบหน้าหวานนี้ได้เลย
ไม่ได้การล่ะ จะมามัวทำอะไรอย่างนี้ได้ยังไง ฉันสะบัดหัวไล่ความมึนงงของตัวเองออกไป ขาเล็กเดินลัดเลาะเข้าสู่ย่านอินซาดงอีกครั้งหนึ่ง กวาดสายตามองหาร้านเสื้อผ้าอีกครั้ง จนในที่สุดฉันก็เจอร้านที่ฉันต้องการ แต่.... ชุดแซกที่ฉันหมายตาเอาไว้กลับหายไปแล้ว
“ไม่นะ” ฉันอุทานอย่างลืมตัว ชุดของฉัน ใครบังอาจชิงตัดหน้าคนอย่างคิม แทยอน ได้ ช่างกล้าเหลือเกิน
ฉันเดินไปมาอย่างหงุดหงิดอยู่ที่ย่านอินซาดงอยู่นาน ก่อนจะจบลงด้วยการนั่งดื่มกาแฟ และทานอาหารอร่อย ๆ แก้เซ็งไปแทน คิดในแง่ดีไว้สิ อย่างน้อยวันนี้เธอก็ได้เจอคนดี ๆ คนหนึ่งน่า
3 March 2010
ไม่รู้ลมอะไรหอบเอาคนอย่งฉันมาอยู่ที่นี่ได้อีกครั้ง ฉันคิดอะไรของฉันเนี่ยถึงได้มาเดินเล่นที่ย่านอินซาดง ทำไมในหัวของฉันถึงมีแต่ภาพของหญิงสาวที่เจอเมื่อวานนะ
“ฉันอยากรู้จักเธอจัง” ไม่ทันขาดคำ สายตาอันเฉียบคม(หรอ)ของฉันก็หันเห็นร่างโปร่งบางในชุดแซกสีส้มเหมือนที่เธอหมายตาไว้เมื่อวาน ผมที่เคยปล่อยสยายถูกรวบเกล้าขึ้นเป็นมวยดูน่ารักไปอีกแบบ ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกโมโหนะ ทั้ง ๆ ที่เธอตัดหน้าซื้อชุดนั่นไปแท้ ๆ
ตลอดทั้งวันฉันเอาแต่เฝ้ามองเธอคนนั้นตลอดเวลา ดูเหมือนเธอจะชอบมาเดินเที่ยวที่นี่และชอบร้านกาแฟตรงหัวมุมถนนนั่นมาก แถมยังชอบเดินเล่นที่สวนสาธารณะด้วย ว่าแต่เธอชื่ออะไรกัน ฉันอย่างรู้จักเธอจริง ๆ นะ ได้การล่ะ
4 March 2010
วันนี้ฉันมาดักรอเธอคนนั้นที่ย่านอินซาดงอีกครั้ง แล้วก็เป็นเหมือนอย่างเมื่อวาน เธอเข้ามาเดินเล่นแถวนี้สักพัก ก่อนจะเข้าไปนั่งดื่มกาแฟในร้านตรงหัวมุมถนน ฉันเดินตามเธอแจเลย หวังว่าเธอคงไม่สังเกตเห็นหรอกนะ
เธอสั่งลาเต้ร้อนพร้อมสตรอเบอรี่ชีสเค้ก ขณะที่คนที่แอบนั่งมองอยู่ห่าง ๆ อย่างฉันสั่งอเมริกันโน่กับแบล็กฟอเรสต์ ดูเหมือนว่าเราสองคนจะชอบอะไรต่างกันเอามาก ๆ เธอชอบหวาน แต่ฉันกลับชอบอะไรที่มันขม ๆ
หลังจากที่เรา (เหมารวมเอาเอง) กินเสร็จแล้ว เธอเดินออกจากร้าน แล้วตรงไปยังสวนสาธารณะเหมือนเดิม ฉันสังเกตจนแน่ใจว่าไม่มีใครรู้แน่ ๆ ว่าฉันกำลังสะกดรอยตามเธออยู่ ฉันจึงเดินตามเข้าแบบปกติที่สุด แต่...
“จะตามอีกนานมั้ย?...” เธอพูดเรียบ ๆ เหมือนว่าเธอกำลังโกรธอยู่ เธอหันกลับมาจ้องหน้าฉันตรง ๆ อย่างไม่หลบเลี่ยง มันทำให้ฉันได้แต่ยืนหน้าเสีย ก่อนจะยิ้มออก เมื่อได้ยินเธอพูดประโยคถัดมา
“มาเดินเล่นด้วยกันสิคะ คุณ....”
“แทยอน.... คิม แทยอนค่ะ” ฉันเอ่ยตอบด้วยความตื่นเต้น ช่างน่ารักอะไรอย่างนี้
“ฉันทิฟฟานี่ค่ะ” ว้าว รอยยิ้มนี้ทำใจฉันละลายหมดแล้ว อยากรู้จักเธอให้มากกว่านี้อีกแฮะ...
“คุณตามฉันมาทำไมเหรอคะ”
“เอ่อ..... อ่า” ฉันถึงกับพูดไม่ออก จะให้ตอบทิฟฟานี่ว่าอะไรดีหล่ะ บอกว่าฉันสนใจเธอเลยตามมางั้นเรอะ ว๊ากก ทำยังไงดี
“ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอกค่ะ เราไปนั่งเรือกันดีกว่านะคะ แทยอน”
“ค่ะคุณทิฟฟานี่”
“เรียกฟานี่เฉย ๆ ดีกว่าค่ะ”
“ก็ได้ค่ะ ฟานี่ ไปกันเถอะ” ฉันจูงมือเธอไปทางบ่อน้ำขนาดใหญ่ของสวนสาธารณะ เย่ ดีใจจริง ๆ เลย เธอให้ฉันเรียกแบบสนิทสนมได้ด้วยแหละ (ได้ข่าวว่าปกติเขาก็มักให้เรียกแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เรอะ คิมแท)
ทิฟฟานี่ลากฉันไปนั่งเรือเล่นกันเธอ พวกเราพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ ของกันและกันอย่างออกรส ฉันเลยได้รู้ว่าทิฟฟานี่โตที่อเมริกาเพิ่งกลับมาได้ไม่ถึง 2 ปี ครอบครัวเธอก็อยู่ที่นั่นกันหมด ทิฟฟานี่จึงอยู่หอพักคนเดียว
เราเดินเล่นริมน้ำด้วยกันสักพัก ก่อนที่ฉันและเธอจะขอตัวแยกย้ายกันกลับบ้าน นี่พระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว เฮ้อ วันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วจริง ๆ เลย
5 March 2010
ฉันตื่นแต่เช้าขึ้นมาเลือกชุดใส่ไปเที่ยวกับเธอ จะใส่ชุดไหนดีนะ ชุดนั่นจะดูดีไหม แล้วชุดนี้จะเชยไปไหม โว้ย...ใครก็ได้ช่วยเลือกเสื้อผ้าให้ฉันที
ฉันใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะเลือกเสื้อผ้าได้ถูกใจ เสื้อสีฟ้ากับกางเกงยีนตัวเก่ง ฉันขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินแล้วต้องต่อรถไปลงที่สวนสนุกลอตเต้ เวิล์ด นี่พึ่ง 9.00 น. เอง สวนสนุกเปิดตั้ง 10 โมง
ย้อนกลับไปเมื่อวานก่อนที่เราจะแยกกัน ฉันตัดสินใจชวนเธอไปลอตเต้ เวิล์ด ซึ่งเธอก็ตกลงทันที มันทำให้ฉันดีใจมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ฉันเดินไป ๆ มา ๆ อยู่หน้าสวนสนุก ฉันยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นเป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้ รู้แต่...ทำไมเวลามันผ่านไปช้าเหลือเกิน แต่แล้วสายตาของฉันก็เหลือบเห็นหญิงสาวในชุดเสื้อสีชมพูกับกางเกงยีนรัดรูปที่ทำให้ดูสดใสยิ่งขึ้น ยิ้มตาปิดของเธอถูกส่งมาให้ฉันได้แต่ใจเต้นแรงจนกลัวเธอที่เดินเข้ามาหาจะได้ยินเข้า
“สวัสดีแทยอน มานานแล้วหรอค่ะ”
“เอ่อ...ค่ะ” ตอบได้แค่นั้นจริงๆ ตอนนี้ฉันกำลังสั่น สั่นด้วยความตื่นเต้น ก็เธอน่ารักมากจริงๆ ฉันเริ่มจะรักเธอเสียแล้ว
“แทใส่สีฟ้าแล้วดูเข้านะ น่ารักดี” เธอพูดพร้อมยิ้มตาหยีจนฉันแทบจะลายลงไปกองกับพื้น อยู่กับเธอนานๆแล้วหัวใจฉันชักจะทำงานหนักขึ้นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“อืม เราไปกันเถอะ สวนสนุกเปิดแล้ว”
เมื่อเข้าไปในสวนสนุก มาสคอตตัวการ์ตูนทั้งหลายยืนรอให้เข้าไปถ่ายรูปด้วย ป้ายชื่อสวนสนุกประดับด้วยดอกไม้สวยงามดูร่มรื่น ทางเข้าของสวนสนุกเป็นประตูเหมือนทางเข้าปราสาทของเจ้าหญิง ฉันเดินไปซื้อบัตรให้ตัวเองกับทิฟฟานี่ เมื่อได้มาก็นำมาพันข้อมือแล้วเดินนำไปยังเครื่องเล่นต่างๆ
เครื่องเล่นแรกที่เราไปเยือนกัน แน่นอน! รถไฟเหาะ แค่เห็นฉันก็เสียวสันหลังแล้ว ทิฟฟานี่เขาคิดยังไงกันนะถึงเลือกอันนี้ก่อน ฉันกลัวความสูงซะด้วย แย่แล้ว... ทำไงดี ตายแน่เลยเรา
‘1
2...3.....9...10’ ฉันนับหนึ่งถึงสิบในใจ ก่อนจะเดินตามร่างบางไป ทุกย่างก้าวมันทำให้ฉันยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้น อย่าก้มหน้าลงไปมอง อย่าก้มมอง อย่างก้มมอง ท่องไว้แทยอน อย่าก้มมองเด็ดขาด
“แทยอน เป็นอะไรมั้ย เห็นดูมึน ๆ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” ทิฟฟานี่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนหัวใจดวงเล็กของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ ระยะทางมันช่างใกล้ชิดกันจนทำให้หน้าของฉันร้อนผ่าว ใบหน้าเราห่างกันไม่ถึงสองเซนต์ด้วยซ้ำ ยิ่งตอนนี้เธอยังเอาหน้าผากมาแนบกับหน้าฉันอีก คิดแล้วใจละลายเลย
“ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา” ทิฟฟานี่เอาหน้าออกไปแล้ว ฉันแอบเห็นด้วยนะว่าเธอก็หน้าแดงเหมือนกัน โอกาสของฉันมีมากขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วสินะ
“ไปกันเถอะ” หญิงสาวจับข้อมือแล้วลากฉันไปเข้าแถวยืนรอนั่งเล่นรถไฟเหาะ เฮือก! ลืมไปได้ยังไงเนี่ยว่าต้องขึ้นรถไฟเหาะ ฉันยืนรอไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำก็ได้ขึ้นแล้ว ทำไมคนอื่นที่เขาอยากเล่นถึงต้องรอเป็นชั่วโมง แต่กับฉันที่กลัวความสูงแบบนี้ถึงรอแค่ห้านาทีเองล่ะ พระเจ้า! ใครก็ได้ ช่วยลูกช้างด้วย
xxx --- ฉันขอเซ็นเซอร์ค่ะ ทุกคนคงไม่อยากเห็นสภาพของฉันบนรถไปเหาะหรอก สุดท้ายแล้วมันก็ออกมาเป็นแบบนี้
อย่างที่ทุกคนคิดนั่นแหละ
“อ้วกก---- “ ฉันอาเจียนข้าวที่กินเมื่อเช้าออกมาจนหมดแล้ว โอ้ย ดูไม่ได้ซะเลย เธอกำลังมาจีบผู้หญิงนะแทยอน สภาพแบบนี้เขาจะสนใจเธอมั้ย
“ไม่เป็นไรนะคะแทยอน ถ้าเล่นไม่ได้ทำไมถึงไม่บอก” ทิฟฟานี่ลูบหลังฉันอย่างเป็นห่วง ยิ้มของเธอที่ถูกส่งมาให้ทำให้ฉันมีกำลังใจขึ้นเยอะ หญิงสาวเลี้ยงน้ำผลไม้กับให้ฉันเป็นคนเลือกเครื่องเล่นต่อไปเป็นการตอยแทนที่เธอทำให้ฉันมีสภาพที่น่าอนาจเช่นนี้
“อันนั้น” ดวงตากลมสวยมองไล้ไปตามนิ้วของฉัน แววตาเธอดูกลัว ๆ ยังก็ไม่รู้ ฉันอดสงสัยไม่ได้เลยถามเธอออกไป
“กลัวหรอ”
“เปล่าสักหน่อย เราไปกันเถอะ”
อย่างนี้แสดงว่าเธอกำลังกลัวอยู่แน่ ๆ เลย ไม่มีทางพลาด เราสองคนเดินเข้าไปในบ้านผีสิงที่มันออกจะดูเหมือนปราสาทมากกว่าบ้าน มือบางจับแขนของฉันแน่น ถึงใบหน้าหวานจะทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฉันรู้ดีเลยล่ะว่าใบหน้าแบบนี้เป็นใบหน้าของคนที่กำลังกลัวอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะนัยน์ตาหวานซึ้งของเธอ มันสื่อออกมาได้ชัดเจนเลยล
ยิ่งย่างก้าวเข้าไปลึกเท่าไหร่ร่างบางก็ยิ่งสั่นมากขึ้นเท่านั้น ก่อนหน้านี้มีผีหลายชนิดโผล่มาจากด้านข้างบ้าง ด้านหน้าบ้าง ข้างบนบ้าง ซึ่งมันก็ทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัวไปหลายรอบเหมือนกัน จนฉันต้องกุมมือเธอไว้แน่น แผ่นหลังที่สั่นเทาของเธอทำให้ฉันรู้สึกกังวลยิ่งนัก
“กรี๊ดดดดดดดดด!!!.........” ร่างบางถลาเข้ามากอดฉันไว้แน่น มันรวดเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ทันด้วยซ้ำ อะไรกัน เธอกลัวขนาดนี้เชียวหรือ
“ฮึก ฮือ
”
เสียงสะอื้นไห้ที่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบางมันทำให้อ้อมกอดของฉันกระชับแน่นขึ้นไปหลายเท่าตัว ฉันใช้ความพยายามมากในการปลอบคนตรงหน้าให้หยุดร้องไห้แล้วพาเธอออกไปจากที่นี่
ฉันเอื้อมมือไปหมายจะซับน้ำตาบนใบหน้าหวาน แววตาที่ทิฟฟานี่มองมาเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว แล้วแววตาของฉันล่ะ แสดงอะไรออกไปให้เธอเห็นบ้างรึเปล่า ถ้าเธอรู้สิ่งที่อยู่ในใจของฉันตอนนี้แล้วล่ะก็ เธอจะยอมรับมันมั้ยนะ
“ขอโทษนะ ที่พาฟานี่เข้าไปในที่แบบนั้น” ฉันพูดออกไปอย่างละอายใจพร้อมกับหลบสายตาของเธอ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ ฉันผิดเองทีไม่บอกแท” ทิฟฟานี่เข้ามากอดฉันเหมือนกับจะให้ฉันเลิกโทษตัวเองเสียที มันทำให้ฉันหายกังวลเป็นปลิดทิ้งเลยล่ะ ว้าว ไม่อยากเชื่ออ้อมกอดของสาวน้อยจะนุ่มนิ่มแบบนี้
“งั้นพวกเราไปเล่นอย่างอื่นต่อกันเถอะ”
ตลอดทั้งวันเราใช้เวลาหมดไปกับเครื่องเล่นหลายชนิด ทิฟฟานี่ดูมีความสุขเอามาก ๆ ดีแล้วล่ะ ถ้าฉันเห็นเธอไม่มีความสุขแล้วล่ะก็ฉันคงกินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายวันเลย ตอนเย็นก่อนกลับบ้านฉันแวะพาทิฟฟานี่ไปทานไอศกรีมอร่อย ๆ ใกล้ ๆ กับสวนสนุก หลังจากนั้นฉันจึงอาสาขับรถ(ของทิฟฟานี่)ไปส่งเธอที่บ้าน
หญิงสาวหลับมาตลอดทางจนถึงหน้าคอนโด ฉันปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยออกก่อนจะเอี้ยวตัวมาหวังจะปลุกทิฟฟานี่ แต่
ใบหน้าหวานสวยที่ดึงดูดให้ฉันอยากลิ้มลองว่าริมฝีปากบางนั่นจะหวานเหมือนใบหน้าหรือเปล่านะ
ฉันโน้มตัวเข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อย ๆ จนจมูกเราสัมผัสกัน ริมฝีปากของฉันและเธอห่างกันไม่ถึงเซนต์ด้วยซ้ำ ใบหน้าของฉันร้อนผ่าวขึ้นเรื่อย ๆ และในวินาทีนั้นเอง
“ฮ้าววววววว
ถึงแล้วเหรอ” เกือบหัวใจวายตายแล้วมั้ยเล่า ถ้าชักหน้ากลับไม่ทันมันจะเป็นยังไงเนี่ย แทยอนนะ แทยอน ทำแบบนี้ได้ยังไง
“ขอบคุณนะคะแทยอนที่มาส่ง กลับบ้านดี ๆ นะ” ฉันส่งกุญแจรถของเธอคืนไป แล้วลงจากรถสปอร์ตสีดำคันสวย ฉันยืนมองจนกระทั่งรถคันนั้นหายเข้าไปในลานจอดรถของคอนโด
น่าเสียดายจริง ๆ
มันต้องหวานเหมือนหน้าของเธอแน่ ทิฟฟานี่
6 March 2010
‘โถ่โว้ย เมื่อวานเกือบจะได้ลักหลับแล้วแท้ ๆ ทำไมเธอถึงไม่รีบ ๆ ขโมยจูบมานะ’
‘แต่...ถ้าเธอทำอย่างนั้น เขาอาจจะไม่มองหน้าเธอก็ได้นะแทยอน’
‘มันน่าสัมผัสขนาดนั้น ใครจะอดใจไหว’
‘คิดหน่อยสิ ถ้าเขาไม่ได้คิดแบบเดียวกับเธอล่ะก็ มันจะแย่กว่าเก่านะ’
โอ้ย ๆ ๆ ตอนนี้นางฟ้ากับซาตานในหัวของฉันกำลังตีกันไม่หยุดหย่อนเลย ยิ่งคิดยิ่งกลุ้มใจ ไม่รู้ว่าเมื่อวานทิฟฟานี่จะรู้เรื่องที่เราเกือบลักหลับ(?)นั่นรึเปล่านะ ถ้าเธอรู้ล่ะ ทำไงดี โอ๊ย ตายแน่เลยแทยอน
“ตื๊ด... ตื๊ด... ติ๊ด...” เสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะความวุ่นวายในใจ ฉันเอื้อมมือไปหยิบมือถือขึ้นมาดู หน้าจอโทรศัพท์สีสวยปรากฎคำว่า ‘Honey ทิฟฟานี่’ เธอโทรเข้ามาแต่เช้า ฉันยังไม่หายกระวนกระวายเลยนะ ตายแล้วแทยอน
“ฮัลโหล” ฉันกรอกเสียงลงในโทรศัพท์ ถึงแม้ใจจะยังสั่นอยู่ก็เถอะ
“อรุณสวัสดิ์ ฮันนี่” เสียงหวานตอบกลับมา เอ่อ เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ ฮันนี่หรอ
“เอ่อ เมื่อกี้ฟานี่พูดว่าอะไรนะ” ฉันเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมาแล้วนะ เมื่อวานเธอรู้จริง ๆ หรอเนี่ย
“อ้อ ล้อเล่นค่ะ คือว่าวันนี้แทว่างมั้ย ฟานี่จะชวนไปเที่ยวที่ที่หนึ่งหน่อยค่ะ”
“ก...ก็ได้”
“ขอบคุณมากเลยค่ะแทยอน แล้วเจออันตอนบ่าย 3 โมงนะคะ” - - - ตื้ด ตื้ด ตื้ด มาเร็ว ขอเร็ว ไปเร็วจริง ๆ
เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ เธอไม่รู้เรื่องนี่ เย้ ๆ ๆ ๆ ดีล่ะ คราวนี้เราต้องลุยโลด ‘ปฏิบัติการขอเพื่อนผู้หญิงให้มาเป็นแฟนฉบับคิมแทยอน’
ก่อนอื่นตอนเด็ก ๆ ฉันเคยได้ยินพ่อพูดกับพี่ชายบ่อย ๆ ว่า “ผู้หญิงน่ะ ชอบเครื่องประดับสวย ๆ งาม ๆ เป็นส่วนใหญ่ แต่ยังไงซะร้อยทั้งร้อยก็ต้องอยากได้ของที่มาจากใจใช่มั้ยล่ะ”
ของที่มาจากใจอย่างนั้นหรอ
ตอนนี้ฉันต้องมานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถจำเป็นให้ทิฟฟานี่ ฉันคอยหันมองเธอเป็นระยะๆ เธอจะพาฉันไปไหนกันแน่
“เป็นอะไรไปค่ะ หันมามองอยู่ได้”หญิงสาวพูดพร้อมกับยิ้มตาหยีให้ฉันละลายเล่น...อีกแล้ว
“คือ ฟานี่จะพาฉันไปไหน”ฉันไม่ค่อยจะกล้าถามเท่าไหร่หรอกนะ แต่ก็ ฉันสงสัยจริงๆนี่
“เดี๋ยวก็รู้เอง รอได้ไหมคะ”
“ก็ได้”ตอบด้วยเสียงแกล้งงอนนิดๆ เผื่อร่างบางจะง้อแล้วยอมบอกเธอ แต่ก็...ไม่ได้ผล
“เป็นเด็กดีนะคะแท ไม่ดื้อกับฉันนะ”เธอพูดเหมือนฉันเป็นเด็กเลยอ่ะ ฉันแก่กว่าเธอนะทิฟฟานี่
ฉันมองไปยังเบื้องหน้า ทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตา ฉันมองอย่างตื่นเต้น พูดตรงๆ ฉันไม่เคยมาทะเลเลยสักครั้ง
“สวยไหมค่ะ”หญิงสาวร่างบางเอ่ยเพร้อมยิ้มตาหยี ให้ฉันใจเต้นแรง เธอน่ารักจริงๆ ฉันหยุดรักเธอไม่ได้แล้วนะ
“สวยมากเลยฟานี่”
“ฉันดีใจนะที่แทชอบ”
“ค่ะ...ว่าแต่ฟานี่มีอะไรหรือเปล่าค่ะ”ฉันถามด้วยความสงสัย ทำไมต้องพามาถึงทะเลด้วยหล่ะ มันก็ไกลจากโซลพอสมควรนะ
“แท...ฉันไม่รู้ว่าที่ผ่านมาเธอจะรู้สึกอะไรบ้างไหม”ทิฟฟานี่ก้มหน้าพูดพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ ทำไมมันดูเหมือน ฉันกำลังถูกบอกรักจัง
“แต่ฉันรู้สึกนะ...ฉันรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่แทอยู่ด้วย รู้สึกสบายใจเวลาที่ได้อยู่กับแท กอดของเธอเป็นกอดที่อบอุ่นที่สุดสำหรับฉันเลยรู้ไหมคะแท”เธอเงยหน้ามาสบตาฉันใบหน้าที่แดงก่ำยิ่งทำให้เธอดูน่ารักยิ่งขึ้น แต่คำพูดของเธอมันทำให้ฉันทำอะไรไม่ถูก ไม่ซิ...ควรเรียกว่าฉันช็อกไปแล้ว
“ฟ...ฟานี่”
“แทยอน ฉันรักเธอนะ”คำบอกรักที่ฉันยังไม่ทันตั้งตัว ทำฉันยืนอึ้ง เธอรักฉันงั้นหรอ?
“จ...จริงหรือเปล่า”
“จริงซิค่ะแท ฉันพูดจริงๆนะ”ไชโย!! เธอก็รักฉันเหมือนที่ฉันรักเธอ
“ฉันก็รักฟานี่เหมือนกัน ฟานี่...เป็นแฟนกับฉันนะ”เธอพยักทันที ฉันดีใจ ดีใจมากจริงๆ แทยอน ในที่สุดเธอก็ได้เป็นแฟนกับฟานี่แล้ว เย้!!
7 March 2010
เช้าวันใหม่ที่สดใสกว่าวันอื่นๆ เมื่อเช้าทิฟฟานี่ส่งข้อความมาหาฉันด้วยหล่ะ แน่นอนว่าฉันก็ละลายตั้งแต่เช้าเลย
‘อรุณสวัสดิ์นะMy Honey
ฉันไม่มีอะไรจะพูดหรอกนะ นอกจาก
I Luv U So Much My Taetae ><’
เห็นไหมว่าฟานี่ของฉันน่ารักขนาดไหน แต่คิดหรือว่าฉันจะยอม ฉันพิมพ์ข้อความอย่างรวดเร็วแล้วส่งกลับไปให้เธอ เนื้อหาของข้อความมันก็แค่
‘Pretty Dear,I Love U too.
วันนี้เราไปเดตกันดีมั้ย ><
Fr.Taetae ^^’
ไม่นานฉันก็ได้ข้อความของฟานี่ตอบกลับมา ฉันรีบกดเปิดอ่านทันที
‘My Honey ^^
เอาซิแทแท เดี๋ยว 10 โมง ฉันจะไปรับเธอนะ
เตรียมตัวสำหรับเดตแรกของเราดีๆนะค่ะ
I Love U More than everything ^^’
วันนี้เราสองคนพากันไปเดินเล่นในย่านอินซาดง ที่ๆทำให้พวกเราสองได้รู้จักกัน จากวันนั้นถึงวันนี้แม้มันจะพึ่งผ่านมาไม่กี่วัน แต่ความสัมพันธ์ของเรากลับมาได้ไกลขนาดนี้แล้ว
ฟานี่พาฉันเข้าออกร้านนู้นทีร้านนี้ที ก็อย่างที่รู้แหละ พวกผู้หญิงชอบช็อปปิ้ง แต่ก็เอาเถอะ วันนี้ฉันงบเยอะ คงพอเลี้ยงข้าวเธอได้...มั้ง
หลังจบมหกรรมช็อปสินค้าเพื่อชาติ(?) ก็ได้เวลาที่เราจะรับประทานอาหารกลางวัน แน่นอนเราเลือกร้านกาแฟเล็กๆที่เราเคยเข้าไปกินกาแฟตอนที่ฉันแอบตามเธออยู่
“ขอคลับแซนวิซด์ แล้วก็ลาเต้ร้อนแก้วนึงค่ะ”เธอสั่งพร้อมยิ้มให้กับพนักงานที่รับออเดอร์ ทำเอาฉันอดไม่ได้ที่จะ...หึงเธอ
“ฟานี่อ่า...ยิ้มทำไม”
“ทำไมค่ะแท”ดูเหมือนเธอจะยังไม่รู้ตัว แต่ก็ช่างมันเถอะ
“ไม่มีอะไรหรอก เอ่อ...ฉันขอแซนวิซด์แฮมแล้วก็อเมริกันโน่แก้วนึงค่ะ”พนักงานรีบรับออเดอร์แล้วเดินออกไป เพราะฉันมองเขาด้วยสายตาอาฆาต
“แทแทรู้ไหม ฉันรู้ตัวว่าถูกแทตามก็ตอนที่ตอนที่นั่งกินอยู่ร้านนี้ ตอนแรกนึกว่าแทเป็นโรคจิตซะอีก”
“ก็เป็นจริงๆไง”ฉันพูดเล่นๆ แต่ฉันก็ทำตัวแบบนั้นจริงๆแหละ
“ถ้าแทโรคจิตนะ หมอฟานี่คนนี้จะรักษาให้เอง”
“ใช้อะไรรักษาหล่ะค่ะ”
“ก็ใจไง” ละลาย...จะละลายมันเช้ากลางวันเย็นอยู่แล้ว!! ไม่คิดมาก่อนเลยว่าฟานี่ของฉันจะ...เลี่ยนได้ขนาดนี้
“เอ่อ...ขอโทษครับ รายการอาหารที่สั่งได้แล้ว”ขัดจังหวะจริงๆเลย ให้ตายซิ
หลังจากทานข้าวกันเสร็จ เราสองคนก็ตกลงกันว่าจะไปสวนสาธารณะที่ๆเราเคยคุยกันครั้งแรก บรรยากาศเก่าๆมันย้อนคืนมาให้ฉันรู้สึก...สมเพศตัวเอง
“แทแทค่ะ ได้เวลาบอกแล้วนะ แทตามฉันทำไม”
“ก็ฉันชอบฟานี่อ่ะ”ฉันพูดเบาๆ ก็มันหน้าอายไหมหล่ะ
“จะจีบว่างั้น”เธอยิ้มหวานให้ ฉันโชคดีจริงๆที่ได้เธอเป็นแฟน
“คงงั้นมั้ง”
“น่ารักที่สุดเลย แทแทของฉัน”
“น่ารักแล้วรักไหม”
“รักซิค่ะ”
8 March 2010
อีกไม่นานก็จะถึงวันเกิดของฉันแล้ว ไม่ใช่ต้องพูดว่าจะถึงวันพรุ่งนี้แล้วต่างหาก ฉันอยากชวนฟานี่ไปเที่ยวกันจริง ๆ เลย แต่ก่อนอื่น ฉันมีภารกิจลับต้องออกไปทำก่อน
เวลาช่างผ่านไปได้รวดเร็วทันตาจริง ๆ แปปเดียวก็จะบ่ายโมงแล้ว ฉันนัดกับทิฟฟานี่ไว้แถว ๆ สวนสาธารณใกล้คอนโดของเธอ ใช่แล้ววันนี้เราสองคนจะไปกินข้าวด้วยกัน
ฉันพาหญิงสาวเข้าไปในภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสอย่างที่เธอชอบ แล้วนั่งทานอาหารกันอย่างมีความสุข ภาพสาวน้อยร่างบางในชุดกระโปรงสีดำสนิทดูเซ็กซี่ขึ้นกว่าเดิมมากทีเดียว
พวกเราทานอาหารกันอยู่สักพัก ก่อนที่ฉันจะขึ้นไปส่งเธอถึงหน้าห้องพัก และขณะที่ฉันตัดสินใจจะกลับบ้านนั่นเอง....
“เดี๋ยวก่อนสิคะ...” เสียงหวานดังขัดหูพร้อมกับมือเรียวที่เกี่ยวแขนพลางดึงให้ฉันเข้าไปในห้องของเธอ
“มะ...มีอะไรเหรอ”
“ฉันมีของขวัญให้แทแทด้วยนะ” ร่างบางถือห่อของขวัญสีม่วงชมพู ริบบิ้นสีชมพูสดเป็นประกายสวยงามเข้ากับกระดาษห่อ ทิฟฟานี่ยื่นของขวัญเข้ามาในมือของฉันและใช้แรงที่เธอมีดันให้ฉันเข้าไปในห้องให้ได้
“แกะดูสิ”
ไม่ทันขาดคำ ห่อของขวัญสวยงามถูกแกะโดนฉันเอง ‘ไวน์สีกุหลาบ Lagrein Rosato’ ปรากฏให้เห็น ทำเอาคนคออ่อนอย่างฉันถึงกลับกลืนน้ำลาย นี่เธอให้ของขวัญเป็นไวน์อย่างนั้นเรอะ
”ไวน์ชั้นเลิศจากอิตาลีเชียวนะคะ เรามาดื่มฉลองวันเกิดให้แทแทกันเถอะ” ร่างบางหายตัวเข้าไปในครัวก่อนจะออกมาพร้อมกับแก้วไวน์สองแก้วและกล่องคุ้กกี้ยี่ห้อดัง
ทิฟฟานี่เปิดเพลงคลอเบา ๆ แล้วหันรินน้ำสีกุหลาบให้ฉัน เราชนแก้วก่อนจะเอามือไขว้กันแล้วดื่ม ใช้เวลาไม่นานไวน์หนึ่งขวดก็หมดลง ฉันเริ่มรู้สึกมึน ๆ ซะแล้วสิ แต่หญิงสาวยังคงหยิบไวน์ขวดใหม่ออกมาเรื่อย ๆ จาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 ขวด
จากเพลงคลาสสิกเริ่มหวานขึ้นกลายเพลงแจ๊ส อารมณ์ของฉันเริ่มคล้อยตามอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าหวานของทิฟฟานี่จ้องมองมาที่ฉัน เธอทำเอาฉันเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่ เพราะไวน์นี่แท้ ๆ เลย สติที่มีหลุดลอยไปกับสายลมเสียแล้ว
“เต้นรำกันอีกมั้ย....”
เสียงหวานดังมาพร้อมมือเรียวที่ยื่นออกมาตรงหน้าฉัน ฉันสบตากับทิฟฟานี่อยู่นานก่อนจะตอบตกลง หญิงสาวตรงไปเปิดประตูระเบียงออก ระเบียงคอนโดของเธอกว้างอย่างเหลือเชื่อ มันกว้างพอ ๆ กับสนามเด็กเล่นขนาดย่อมได้เลย เสียงเพลงหวานที่ดังออกมาถึงข้างนอกเพิ่มบรรยากาศให้กับเราสองคนยิ่งขึ้นไปอีก
ร่างของเราสองคนเคลื่อนไหวไปอย่างเอื่อย ๆ ตามจังหวะเพลง ใบหน้าของฉันก้มลงเล็กน้อยทำให้หน้าผากของเราชนกัน มือของฉันที่โอบรอบเอวบางกระชับแน่นขึ้น ทำให้หน้าสวยเริ่มแดงระเรื่อ นิ้วเรียวของเธอคลอเคลียอยู่บนคอ มันทำให้ฉันอยากสัมผัสหญิงสาวมากขึ้นทุกขณะ
ริมฝีปากบางที่เม้มแน่นเหมือนตั้งใจจะฝืนความรู้สึกของตัวเอง เร่งให้สติที่มีเหลืออยู่น้อยนิดขาดผึงในทันที
ฉันเข้าประชิดหญิงสาวด้วยความรวดเร็วจนเธอไม่ทันตั้งตัว มือเล็กกะชับอ้อมกอดแน่นขึ้นจนรู้สึกได้ก่อนจะไต่ไปตามแผ่นหลังมนอย่างหลงใหล ริมฝีปากอุ่นประกบเข้ากับริมฝีบางบาง เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ มันหวานอย่างที่ฉันคิดไว้แต่แรกจริง ๆ
หญิงสาวร่างบางขัดขืนเล็กน้อย ก่อนจะยอมรับแต่โดยดี สองมือกอดรัดเอวบางแน่น ฉันอยากกอดเธอ อยากเป็นเจ้าของหัวใจ อยากเป็นทุกอย่างในชีวิตของเธอ
“ฉันรักเธอ ทิฟฟานี่....”
“ฉันก็รักเธอ Taeyeon My Honey”
จากนี้ไปจะมีแต่ความรัก ความสุขที่เราทั้งสองมอบให้กันตลอดไป ใครว่าเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์แล้วล่ะก็ มันไม่ใช่สักนิด แต่นั่นคือความต้องการในส่วนลึกของจิตใจที่ปรารถนาอยากครอบครองทั้งหัวใจอย่างหญิงสาวคนนี้อย่างแท้จริง
มันหาใช่อารมณ์ชั่ววูบ หากเป็นความรู้สึกที่แท้จริงของฉัน คิมแทยอน
.................
.............
.......
...
ฉันรู้สึกว่าร่างกายยังคงเหนื่อยอ่อน เรี่ยวแรงที่มีหายไปหมด ฉันไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย แน่นอน ฉันไม่ได้ฝันไปจริง ๆ ฉันทอดมองเธอด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยความรัก ความห่วงใย มือเล็กลูบไล้เรือนผมสวยของทิฟฟานี่อย่างทะนุถนอม เรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความฝันจริง ๆ ด้วย
ฉันสะบัดหน้าเบา ๆ ปัดคาวมจริงที่เหมือนความฝันเหมือนคืนออกจากความคิด มือเล็กเอื้อมไปหยิบนาฟิกาปลุกของทิฟฟานี่อย่างลืมตัว เข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลข 11 นี่มันห้าทุ่มแล้ว อีกเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น
ฉันก้มลงจุมพิตเบา ๆ บนปากเรียว แล้วจัดให้ศีรษะของทิฟฟานี่ให้เข้าที่ มือเรียวที่โอบรอบตัวฉันกลายเป็นว่ากำลังกอดหมอนข้างอยู่อย่างนั้น ฉันถือวิสาสะเอาเสื้อคลุมอาบน้ำของเธอมาใช้
“อือ..... แทแท”
เสียงหวานเรียกให้ฉันหัไปมองทิฟฟานี่ที่ลุกจากเตียงอย่างงัวเงีย ฉันบอกให้เธอเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันก็ด้วย เราสองคนเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว ฉันยืมชุดของเธอใช้ก่อนชั่วคราว ก่อนฉันจะอาสาขับรถแล้วบึ่งออกไปด้วยความเร็วมหาศาลจนเธอยังต้องทึ่ง สองเท้าเหยียบแบบไม่มีเบรกทำให้เราใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงจุดหมาย
“ถึงแล้วล่ะ ฟานี่”
ฉันส่งมือให้เธอ หญิงสาวเองก็วางมือลงอย่างมั่นใจ ฉันรั้งให้เธอเดินตามจนมาหยุดอยู่ที่ที่หนึ่ง พื้นหญ้าที่ทอดยยาวจรดแม่น้ำสายสำคัญในโซล แสงไฟจากอาคารบ้านเรือนหลายหลังเพิ่มความสวยงามให้กับกรุงโซล สะพานถูกประดาประดาด้วยแสงไฟระยิบระยับ
เมื่อแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า กลับปรากฏสิ่งเหลือเชื่อดวงดาวระยิบระยับมากมายกำลังส่องสว่างแข่งกับแสงไฟบนถนน ดวงจันทร์สีนวลกลมโตทอแสงสวยงามตรึงอยู่ในสายตาของผู้คนทั่วโลก
“ว้าว........ ไม่อยากเชื่อเลย”
“ไม่อยากเชื่อว่าโซลจะสวยขนาดนีใช่มั้ยล่ะ” ฉันเอ่ยอย่างรู้ทัน พอตื่นขึ้นมาดูเหมือนทิฟฟานี่จะหลบตาฉันตลอดเลย เธออายหรือว่าสายตาของฉันจ้องจนจะทะลุเสื้อผ้าของเธออยู่แล้วกันแน่
ก็ช่วยไม่ได้นี่ ท่อนบนของเธอมีแค่เสื้อกล้ามตัวจิ๋วทับด้วยเสื้อกันหนาวสีสดปิดบังเรือนร่างเท่านั้นนี่นา เป็นใครก็ต้องอยากมองเป็นธรรมดา
ฉันล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ ควานหาของที่ฉันตั้งใจซื้อให้เธอ ฉันคุกเข่าลงกับพื้นหญ้า พลางกระชับมือเรียวไว้แน่น ฉันหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงสดวางไว้บนมือเธออย่างนุ่มนวลพร้อมคำพูดที่หนักแน่น จริงใจ
“แต่งงานกับฉันนะ”
สั้น ๆ ง่าย ๆ แต่กระชับ ทิฟฟานี่เบิกตากว้างขึ้นอย่างตกใจ หญิงสาวพยุงร่างของฉันขึ้นมา เธอกอดฉันแน่นจนฉันแทบจะละลายอยู่แล้ว มือเรียวหยิบกล่องกำมะหยี่สีฟ้าใบเล็กของเธอขึ้นมาเช่นกัน เธอเปิดฝากล่องพร้อมหยิบของข้างในออกมาโชว์ให้ฉันดู
แหวนสีเงินเรียบ ๆ หัวแหวนเป็นรูปหัวใจประดับคริสตัลสีฟ้าเหมือนของฉันไม่มีผิด เพียงแต่ของฉันเป็นสีชมพูเท่านั้น ด้านในของตัวถ้าไม่มองให้ดีก็จะไม่สังเกตเห็น ตัวอักษรที่สลักบนตัวเรือนของแหวน
‘Taeyeon Y Tiffany’
มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือพรมลิขิตกันแน่ เราสองคนยิ้มจนแก้มแทบปริ เธอไม่ต้องเอ่ยออกมาฉันก็รู้คำตบของเธอแล้ว ฉันสวมแหวนให้เธอ เธอก็สวมแหวนให้ฉัน
ไม่ต้องมีโบสถ์ ไม่ต้องมีบาทหลวง ไม่ต้องมีพิธีการใด ๆ ทั้งสิ้น ความรู้สึกของสองเราขณะนี้มีเพียงดวงจันทร์และดวงดาวที่พร้อมใจทอแสงสว่างราวกับฟ้าเป็นใจให้โชคชะตาพาเราสองคนมาบรรจบกันบนเส้นทางสายหนึ่งเป็นพยานเท่านั้น
ริมฝีปากอุ่นก้มจุมพิตบนริมฝีปากสวยได้รูปอยู่เนิ่นนาน จนทั้งสองล้มลงไปด้วยกันพื้นหญ้า ฉันรั้งให้เธอเข้ามานั่งใกล้ ๆ
“เดี๋ยวสิ แทแท นี่มันที่สาธารณะนะ”
“แล้วยังไงล่ะ” ฉันเงยหน้าขึ้นมาสบตากับทิฟฟานี่อีกครั้ง ก่อนจะจูบที่หน้าผากมนอย่างทะนุถนอม
“กะ..ก็มัน..” เธอเริ่มอายแล้ว ใบหน้าของเธอแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ขัดเลย เธอพยายามหลบตาฉันอีกแล้ว
“เธอยังไม่ได้ตอบเลยนะ ว่าจะตกลงแต่งงานกับฉันรึเปล่า”
“....” ไม่มีเสียงตอบรับมีเพียงแค่ใบหน้าสวยที่พยักหน้าเบา ๆ อย่างเขินอาย แต่ฉันกลับก้มลงบนซอกคอขาวนั่นอีกครั้ง
“อย่านะ แทแท”
“หืม เธอว่ายังไงนะ” ฉันชะงักไปชั่วครู่
“อืม”
“ฉันไม่ได้ยินเลย” ฉันยังคงทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“อืม”
“ว่าไงนะ”
“ตกลง!! ฉันจะแต่งงานกับเธอ” ทิฟฟานี่ตะโกนดังลั่น ฉันยิ้มอย่างมีชัย เราสองคนสบตากันอย่างลึกซี้ง คำพูดที่ไม่ต้องเอื้อนเอ่ย หากสัมผัสได้ด้วยหัวใจที่เชื่อมถึงกัน ดวงดาวส่องแสงเป็นพยานยืนยันความรู้สึกในใจของสองเรา
จากนี้จะมีเพียงแค่เราสองคน ....ตลอดกาล
ปล. หลังจากนั้นสองวัน ฉันก็เก็บข้าวของย้ายออกมาจากบ้านเช่าที่เคยอยู่มาอยู่ในคอนโดของทิฟฟานี่แทน เราสองคนเลือกห้องใหญ่ที่มีเตียงคู่แทนห้องเก่าของทิฟฟานี่ เลยทำให้ฉันมีเวลาอยู่กันเธอมากขึ้น
เห็นมั้ยล่ะ ถึงรักครั้งนี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงแค่ 7 วันเท่านั้น
แต่มันกลับตราตรึงในหัวใจราวกับผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน
มันไม่ใช่ความรักที่ค่อย ๆ สะสมจนเกิดเป็นความรัก ไม่ใช่ความรักที่เกิดจากความใกล้ชิด
หากเป็นรักแรกพบของทั้งคู่ที่นำพาให้เกิดความรักแสนบริสุทธิ์สั่งสมเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน
จนในที่สุด.......กลายเป็น รักชั่วนิรันดร์
7 DAYS before Love!!!
ความรักของแทยอน เป็นบทพิสูจน์ของความรักที่ว่า
“ถึงแม้เป็นรักแรกพบ เป็นรักที่เกิดจากความรีบร้อน แต่ถ้าคนทั้งคู่สามารถ
ประคับประคองจนตลอดรอดฝั่ง มันก็จะเติบใหญ่กลายเป็นความรักที่สวยงามและยิ่งใหญ่”
ผลงานอื่นๆ ของ taeny4ever ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ taeny4ever
ความคิดเห็น