ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ۞ Amulet Classic ۞ [TaeYeon Yoona Tiffany Jessica]

    ลำดับตอนที่ #7 : ۞ Amulet Classic ۞ [Chapter VI]

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 55


     

    Chapter VI

     

    ปล.เขา=ผู้ชาย เค้า=ผู้หญิง นะคะ

     

     

     

     

     

    "โธ่เว่ยย!!กูอุตส่าพยามไม่ให้มันสองคนได้เจอกันแล้ว แล้วมันไปเจอกันได้ไงวะ"

    แทคยอนกร่นด่าด้วยอารมณ์เกรี้ยวโกรธเมื่อสิ่งที่พยามสร้างขึ้นมาเพื่อปิดกลั้นคนสองคนนั้น

    มันได้พังลงไปจนหมดแล้ว มือหนาทุบทำลายข้าวของทุกอย่างที่ขวางหน้าราวกับคนเสียสติ

    เวลานี้ทุกคนได้แต่เฝ้าดูอยู่ห่างๆเพราะไม่มีใครสู้แรงเขาได้ซักคนและยิ่งตอนที่เขาอาละวาดแบบนี้

    พละกำลังของเขาก็ยิ่งมีมากขึ้น ทุกคนจึงมีความคิดตรงกันว่าควรจะปล่อยให้เขาอาละวาดเสียให้พอ

     

    ส่วนคนอื่นๆก็ทำได้แค่มาคิดหาวิธีว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปเมื่อคนสองคนที่ไม่ควรจะได้พบเจอกันนั้นตอนนี้เค้าได้พบกันแล้ว

    "ถึงยังไงพวกเราก็ต้องพยามไม่ให้สองคนนั้นได้เจอกันอีกง่ายๆ

    แม้มันจะช่วยไม่ได้มากแล้วแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้พวกเค้าอยู่ข้างกัน"

    กาฮีหญิงสาวผู้เป็นที่เคารพอีกคนรองลงมาจากแทคยอนตามลำดับของกองบัญชาการแห่ง 'แทสซิท' เอ่ยขึ้นอย่างมีสติ

    แต่คนของแทสซิทส่วนใหญ่ดูจะให้ความเคารพต่อกาฮีมากกว่าแทคยอนเสียอีก

    คงเป็นเพราะว่าแทคยอนนั้นอารมณ์ร้อนแถมยังไม่ค่อยจะยอมรับฟังใครคล้ายๆว่าไม่ค่อยมีเหตุผลเสียมากกว่า

    แต่ถึงอย่างไรแล้วแทคยอนก็ยังคือบอสอยู่ดี

     

    ตามคำทำนายที่พวกเธอได้ทราบมาแล้วทำให้รู้สึกได้อย่างแน่ชัดเลยว่าคนสองคนนั้นไม่ควรจะได้พบเจอกันจริงๆ

    "ฉันว่าพวกเค้าไม่รู้หรอกนะคะว่าการที่พวกเค้าเพิ่งได้เจอกัน ทั้งๆที่พวกเค้าน่าจะเจอกันมาตั้งนานแล้วน่ะ

    เป็นเพราะพวกเราคอยปิดกั้นเค้าอยู่"

    ฮยอนอาเอ่ยต่อหลังจากประมวลสถานะการณ์ดูแล้วและทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย

    "เออนี่ฉันมีคนนึงเค้าน่าจะพอช่วยเราได้นะ" ลีทึกลองคิดๆตามที่กาฮีและฮยอนอาพูดจู่ๆก็นึกถึงคนๆนึงขึ้นมา

    เขาก็ไม่ได้เจอกับหญิงสาวคนนั้นมานานอยู่พอตัวแล้วล่ะ

    ถึงไม่แน่ใจว่าเค้าจะยอมช่วยหรือเปล่าแต่ก็น่าจะลองไปถามไถ่พบปะกันบ้างไม่เห็นจะเป็นไรนี่

    แต่ก่อนที่ทุกคนจะได้พูดอะไรต่อ แทคยอนก็เดินออกมาจากห้องของเขาที่ตอนนี้สภาพดูไม่ได้

     

    "กูจะไปฆ่ามัน!!!" เสียงแข็งกระด้างที่โกรธเกรี้ยวดังแหวกอากาศออกมาออกมาจากปากของชายหนุ่ม

    ที่ทั้งเจ็บใจปวดใจและแค้นเคืองที่หนึ่งในสองคนนั้นดันเป็นหญิงสาวที่เขาหลงรักไปจนหมดทั้งหัวใจ

    "มึงแน่ใจเหรอวะ ว่ามึงจะฆ่ามันได้ไม่ใช่ไปให้มันฆ่านะ" คังอินโพล่งขึ้นอันที่จริงไอ้สิ่งที่คังอินพูดน่ะก็ใช่ว่าจะไม่ถูก

    เพราะทุกคนก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นใครและมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะกำจัดทิ้งไปให้พ้นทาง

    และเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นพวกเขาจะต้องมาพยามเพื่อที่จะไม่ให้ทั้งคู่ได้เจอกันอยู่แบบนี้ทำไม

     

    แต่เพราะสถานการณ์ในตอนนี้มันพาให้สิ่งที่คังอินพูดออกมานั้นดูจะเป็นความผิดมหันต์ในความคิดของแทคยอน

    ร่างสูงใหญ่ก้าวเท้าหนักๆเข้ามาใกล้คังอินอย่างรวดเร็วจนทุกคนต้องช่วยกันปรามไว้

    "นี่..แค่ก็จะแตกคอกันแล้วหรือไง" กาฮีเอ่ยเชิงดุขึ้นทันทีพร้อมกับเอื้อมมือออกไปไปรั้งไหล่หนาๆของแทคยอนไว้อย่างเหนื่อยใจ

    เธอไม่อยากจะมีปัญหากับคนเอาแต่ใจและหัวแข็งอย่างนั้นหรอก ถ้าเขาจะไปทำอย่างที่เขาพูดเธอก็จะไม่รั้งไม่ห้ามอะไรปล่อยเขาไป

     

     

     

     

     

     

    ร่างบางนอนกลิ้งไปอยู่บนเตียงขนาดใหญ่สายตาก็เอาแต่จ้องมองกระดาษแผ่นเล็กๆในมือ

    ที่เจ้าของมันทำเอาเธอแทบกินไม่ได้นอนไม่หลับมาสามสี่วันแล้ว

    เสียงถอนหายใจยังคงดังอยู่เรื่อยๆทิฟฟานี่เองก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรกังวลอะไรอยู่

    ทั้งกังวนทั้งข้องใจแปลกใจจนเธอแทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้วทั้งๆที่ไม่เคยคิดมากกับเรื่องแค่นี้มาก่อน

    หรือเป็นเพราะครั้งนี้เค้าเป็นคนกำหนดทุกอย่างโดยที่เธอไม่สามารถรู้อะไรได้เลย

    บางทีเค้าก็ทำเหมือนสนใจเธอมาก แต่บางทีก็ทำเหมือนเธอเป็นเหมือนคนอื่นทั่วๆไปที่ไร้ตัวตนสำหรับเค้า

    เธอกำลังตามเกมส์เค้าไม่ทัน...

     

    มือเรียวหยิบไอโฟนที่สั่นครืดคราดขึ้นมาดูพอเห็นว่าเป็นใครที่ทักมาแทนที่จะรีบตอบกลับไปเช่นทุกครั้ง

    แต่คราวนี้เธอกลับรู้สึกแปลกๆคล้ายๆว่าลังเลที่จะตอบขึ้นมา

    แว๊บนึงเธอก็เห็นดวงตาสีฟ้าที่ฉายแววผิดหวังยามที่เค้ามองหน้าเธอ นี่เธอแคร์เค้างั้นเหรอ?

    บ้าน่ามันก็แค่สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจเท่านั้นเอง เธอจะทำอะไรตอนนี้เค้าจะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะ

    ร่างบางพ่นลมหายใจออกทางจมูกแรงๆไล่ความคิดบ้าๆออกไปจากสมองให้หมด ก่อนจะเข้าแตะปลายนิ้วลงยังหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆตรงหน้า

     

    หายไปเลยนะยะ

    ได้ข่าวว่าแทงกูชี้เรียกเธอเลยนี่

    มาเล่าสู่กันฟังหน่อยเด้น้องรัก

     

    จะให้เล่าอะไรล่ะพี่

    ให้ฉันเล่าว่าถูกเค้าจับได้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มหรือไง

    น่าอายชะมัด

     

    บ้าน่า อย่ามาอำเล่นแบบนี้ดิ

    ไม่ต่างจากแช่งตัวเองเลยนะเว่ย

     

    อำบ้าอำบออะไรล่ะ

    เรื่องแบบนี้มันน่าอำที่ไหน

    มีคนโทรมาบอกเค้า

     

    ทิฟฟานี่วีนใส่รุ่นพี่ตัวดีอย่างอดไม่ได้มีอย่างที่ไหนปล่อยให้ความลับแบบนั้นรั่วไหลได้แถมยังเร็วมากอีกด้วย

    เมื่อเดือนก่อนเธอก็ต้องหลบไปอยู่แอลเอตั้งพักใหญ่เพราะงานที่ทำให้ไอ้รุ่นพี่ตัวแสบเนี่ยแหละ

    พอกลับมาได้ไม่ทันถึงสามวันเธอก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอีกซะงั้น

    ร่างบางมองหน้าจอด้วยอารมณ์ขุ่นเล็กๆที่ไม่ว่าอะไรเธอก็ต้องเป็นคนรับอยู่คนเดียว

    นี่ถ้าเธอไม่หัวไวแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เธอคงไม่มีชีวิตอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้หรอก

    ถึงแม้ว่าครั้งนี้เธออาจจะไม่ได้ทำอะไรมากก็เถอะ ถึงยังไงชีวิตที่เฉียดตายไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งมันก็ยังเป็นชีวิตเธอคนเดียวทุกที

    ชายหนุ่มเงียบไปพักใหญ่

    จนทิฟฟานี่คิดว่าเขาคงจะไม่ตอบกลับมาแล้วจึงได้สลับไปยังอีกหน้าต่างนึงที่เหมือนจะมีแต่เธอที่คุยอยู่คนเดียว ...

    ยอมรับนะว่าก็มีบ้างแหละที่เธอแอบน้อยใจที่เค้าไม่ตอบอะไรกลับมาเลย ทั้งๆที่เค้าก็เป็นคนทิ้งเบอร์ไว้

    และก็บอกว่าถ้าโทรไปอาจจะไม่ค่อยรับให้ทักแชทไปจะดีกว่า เธอนั่งจ้องประโยคเดิมๆที่ทักเค้าไปซ้ำๆกัน

    แล้วก็ถอนหายใจ นี่เธอไม่เคยรู้สึกว่าจะมีใครเดาใจยากขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ

    ก่อนจะพยามรวบรวมความกล้าเพื่อจะพิมพ์ประโยคที่คล้ายกับความรู้สึกจริงๆออกไปเผื่อว่าเค้าจะได้รับรู้บ้าง

     

    ถ้าฉันบอกอะไรคุณไป

    ฉันขอให้คุณไม่โกรธฉันได้หรือเปล่าคะ

     

     

    แต่ยังไม่ทันที่ทิฟฟานี่จะได้พิมเนื้อหาใจความต่อไปรุ่นพี่ตัวดีของเธอก็ทักกลับมาซะงั้น

    และมันก็เด้งไปยังหน้าต่างนั้นอัตโนมัติไง พอเป็นแบบบในเมื่อมันเด้งมาแล้วเธอก็อ่านมันซะเลย

     

     

    นี่!! แล้วแทงกูทำอะไรเธอหรือเปล่า

    แล้วเธอรอดมาได้ไง

    รู้ไหมทุกคนที่ถูกจับได้ยัยนั่นมันเก็บทิ้งหมดเลยนะไม่มีใครรอดมาได้เลย

     

    ทิฟฟานี่นิ่งไปเมื่ออ่านสิ่งที่อีกฝ่ายบอกมาจริงๆแล้วก็ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ว่าแทงกูเคยเก็บสายสืบทิ้งไปหลายคน

    แต่เธอแค่เพิ่งรู้ว่าคนแรกที่รอดมาจะคือเธอเอง...

    ถ้าคิดแบบเข้าข้างตัวเองเธอคงจะบอกได้ว่า งั้นแทงกูก็ทำกับเธอ 'พิเศษ' กว่าทุกคนน่ะสิ

    แต่ถึงจะไม่คิดแบบนั้นมันก็ห้ามไม่ให้แอบรู้สึกไม่ได้อยู่ดี

    ไหนจะไม่มีวี่แววว่าเค้าจะโกรธเธอเลยแม้แต่นิด แถมยังถามเธอย้ำแล้วให้โอกาสเธอขนาดนั้น

    ไม่ทำร้ายเธอแม้แต่ปลายเล็บและทุกการเคลื่อนไหวมีแต่ความอ่อนโยนวาบหวามแล้วยังทิ้งเบอร์ไว้ให้อีก

    ยิ่งเป็นอย่างนี้ทิฟฟานี่ก็ยิ่งคิดหนักเพราะถ้าแทงกูจะมีใจให้เธอ ไม่สิแค่เค้าสนใจเธอจริงๆ

    เธอก็พอจะตัดสินใจอะไรได้ง่ายกว่านี้ แต่นี่เธอไม่อาจรู้ได้เลย

    ใบหน้าหวานที่เมื่อสองวิก่อนนั้นดูยุ่งไปหมดนั้น ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นเบิกตากว้างคิดว่าเรื่องที่ชายหนุ่มบอกมา

    ว่าช็อคแล้ว แต่ตอนนี้มันช็อคยิ่งกว่า เธอได้แต่กวาดสายตาซ้ำๆอยู่ที่ประโยคนั้นที่เพิ่งถูกอีกฝ่ายตอบกลับมา

     

    ถ้าฉันบอกอะไรคุณบางอย่างไป

    ฉันขอให้คุณไม่โกรธฉันได้หรือเปล่าคะ

     

    ก็บอกมาสิฉันรอนานแล้วนะ

     

    ทิฟฟานี่นั่งกรี๊ดใส่จอไอโฟนเครื่องหรูที่มันไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเธอด้วยเลย..อยู่พักใหญ่

    ดีใจเสียยิ่งกว่าตอนที่ทำงานสำเร็จ เธอแทบอยากจะลุกขึ้นมาเต้นท่าบ้าบออะไรก็ได้ให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย

     

    หมายความว่าไงคะรอนานแล้ว?

     

    มีความหมายอื่นอีกเหรอ

     

    คุณได้อ่านที่ฉันทักไปด้วยเหรอคะ

    แล้วก่อนหน้านี้ ได้อ่านหรือเปล่าคะ

     

    ก็อ่าน

     

    อ้าว..

    แล้วทำไมคุณไม่ตอบฉันบ้างเลยล่ะคะ

     

    ก็เธอถามอยู่นั่นแหละว่าว่างมั้ย

    แล้วพอดีฉันก็ไม่ได้ชอบทำอะไรแค่อย่างเดียวอยู่ด้วย

    ก็เลยไม่ตอบเพราะฉันถือว่าไม่ว่าง

     

    คุณนี่..

     

    ฉันทำไมเหรอ?

     

    เปล่าค่ะ

    คุณรู้มั้ยฉันแทบไม่ได้นอนเลยนะตั้งแต่คืนนั้นน่ะ

     

    ก็เพิ่งรู้เนี่ย

     

    โอ๊ยย คุณแทงกูคะอย่าแกล้งฉันแบบนี้สิ

    ฉันคิดถึงคุณจะตายอยู่แล้วนะ

    คุณมาทำของใส่ฉันหรือไงคะเนี่ย

     

    ฉันไม่ได้แกล้งเธอนี่

    คิดถึงฉันก็มาหาฉันสิ

     

    คุณก็รู้ว่าไม่มีใครรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน

    ฉันอยากเจอคุณจริงๆนะคะ

     

    เธอก็แค่หาฉันให้เจอ

     

    ทำไมคุณใจร้ายจัง

     

    เปล่าใจร้าย

    แต่ฉันไว้ใจใครไม่ได้

    รวมถึงเธอด้วย

     

    แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไงคะคุณถึงจะเชื่อใจฉัน

    ฉันจะยอมทำทุกอย่าง

     

    หาวิธีเอาเองสิ

     

    หลังจากนั้นไม่ว่าทิฟฟานี่จะตอบหรือถามอะไรไปแทงกูก็ไม่ตอบกลับมาอีกเลย

    เธอแทบอยากจะบ้าตายกับคนคนนี้จริงๆ แต่ถึงยังไงเธอก็ยังอยากจะเอาชนะเค้าอยู่นะ และเพราะแบบนั้ยเธอจะต้องทำทุกอย่างให้แนบเนียน

    ให้แทงกูตายใจว่าเธอยอมเค้าทุกๆอย่างแล้วจริงๆให้เค้าเชื่อใจเธอแบบที่เค้าไม่เคยเชื่อใจใคร..

    แต่ทำไมนะทำไมเค้าถึงได้ทำให้เธอต้องยอมขอร้องอ้อนวอนเค้าได้ขนาดนี้ ทั้งๆที่เธอก็ไม่เคยเป็นแบบนี้

    คิดๆอยู่ครู่ร่างบางก็จิ้มๆกลับไปคุยกับรุ่นพี่อยู่อีกเพียงครู่เดียวก็ยกยิ้มขึ้นมา

     

     

     

     

    ร่างสูงเพียวสาวเท้าเข้ามายังห้องอาหารส่วนตัวหลังจากที่เธอบอกให้อีกคนมารออยู่ที่นี่

    "ว่าไงบ้าง" น้ำเสียงติดจะขุ่นๆเอ่ยถามขึ้นห้วนๆอาจเป็นเพราะช่วงนี้มี่เรื่องวุ่นๆเข้ามาให้เธอต้องสะสาง

    ยูริทิ้งตัวนั้งลงข้างๆซอฮยอนที่กำลังสนใจอยู่หน้าจอโน็ตบุ๊ค

    "ตั้งแต่คืนที่พี่ยูลแข่งกับคุณแทงกูตอนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครเจอเลยนะคะ

    อ้อพี่รู้หรือยังคะว่ายุนอาถูกจับคู่กับคุณแทงกูนะคะ วันมะรืนนี้พี่จะไปด้วยหรือเปล่าคะ"

    ยูริขมวดคิ้วจ้องมองจอสี่เหลี่ยมอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไร

    นี่มันเรื่องอะไรกันวะเธอตะหงิดๆตั้งแต่รอบที่เธอแข่งกับแทงกูแล้วนะ แต่ก็พยามไม่ใส่ใจมาก

    แล้วนี่มาจับยุนอาไปแข่งกับแทงกูอีกเพื่ออะไรกันอยากให้ 'เยอน' กับ 'เทะริฟฟิค' ทะเลาะกันหรือไง

    "แล้วนี่ยุนอารู้หรือยังล่ะ ไม่ใช่มัวแต่ไปเที่ยวเล่นอยู่นะ เฮ้ออ"ในเวลานี้ยูริแทบอยากจะกระอักเลือดตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย

    ทำไมจู่ๆทุกอย่างที่เคยเหมาะสมดีแล้วกลับมาแปรเปลี่ยนไปอย่างนี้ได้กันนะ

    ตอนแรกที่เธอให้ความสำคัญกับเรื่องของทิฟฟานี่แต่ตอนนี้เธอขอทิ้งมันเอาไว้ก่อนแล้วกัน

    เพราะยังไงเธอก็ควรจะเคลียร์เรื่องบ้าๆพวกนี้ให้เรียบร้อยเสียก่อน

     

    "คิดว่าน่าจะรู้แล้วนะคะ เพราะเห็นว่าเพื่อนที่เค้าชอบไปหาบ่อยๆพักนี้ก็เป็นคนในเอเอ็มแอลเหมือนกัน"

    "ใคร ทำไมเพิ่งมาบอกฉัน นี่ถ้ามันเก็บน้องฉัน ฉันจะทำไงห๊ะ"

    "ก็ฉันเห็นว่าเป็นคุณเจสสิก้า คนของคุณแทงกูนี่คะฉันเลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร"

    ซอฮยอนตอบไปตามความรู้สึก เพราะทั้งหมดทั้งปวงแล้วถึงแม้ว่าแทงกูนั้นจะดูลึกลับจนไม่น่าไว้ใจ

    แต่เค้าก็มีสัจจะมากพอที่จะไม่เห็นชีวิตคนเป็นสิ่งไร้ค่าและประวัติเค้าก็ไม่เคยด่างพร้อยด้วย

    ทุกคนที่รู้จักแทงกูแทบทั้งหมดก็รู้ดีเค้าไม่ชอบมีปัญหากับใครโดยไร้เหตุผลหรือเห็นผลงี่เง่าก็เช่นกัน

    ยูริถึงจะโล่งใจไปบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับร้อยเปอร์เซนหรอก

    เพราะถ้าแทงกูเกิดไม่พอใจอะไรขึ้นมาคนคนนั้นก็ฆ่าไม่เลือกหน้าเช่นกันหรือถ้าไม่ฆ่าก็ต้องพิการไปส่วนใดส่วนนึงในร่างกายแหละ

    "ฉันว่าเราพยามผูกมิตรกับ 'เทะริฟฟิค' ไว้ก็น่าจะดีนะ" ยูริพูดจบรอยยิ้มร้ายก็ถูกเผยออกมาให้อีกคนได้เห็นทันที

    เมื่อนึกถึงสิ่งอย่างบางที่พวกนั้นอาจจะช่วยเธอได้ ซอฮยอนมองเพียงแว๊บเดียวก็พอจะรู้แล้วล่ะ

    ว่ายูริกำลังคิดอะไรอยู่และตอนนี้เธอก็ควรจะทำหน้าที่ของเธอตามที่ยูริบอก

     

     

     

     

    วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ยุนอามานั่งสิงห์อยู่ที่ร้านของแทยอนและเจสสิก้า หลังจากที่กลับมาจากมหาลัย

    เอาง่ายๆคือเกือบเดือนแล้วที่ร่างสูงนี้แทบจะมีคฤหาสน์ไว้ใช้แค่นอน แรกๆยูริก็บ่นหูแทบฉีก

    แต่พอหลังๆมานี้สงสัยเริ่มจะปลง 555+

    อีกส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะว่ายูริเข้าใจว่าเธอจีบเจสสิก้าด้วยหรือเปล่าไม่แน่ใจ

    เธอยังไม่อยากให้พี่สาวเธอเจอแทยอนสักเท่าไรหรอกเพราะเธอก็ยังไม่มั่นใจว่าคนตัวเล็กนั้นจะรักเธอบ้างหรือยัง...

    ทำไมเธอต้องกลัวอะไรขนาดนี้ด้วยนะ...

     

    "วันนี้เธอดูเงียบๆนะ เป็นอะไรเปล่า"

    แทยอนละสายตาจากหน้าสือขึ้นมองหน้าคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ยุนอาถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเอ่ยถาม

    "ค่ำนี้ยังไงพี่ก็ไม่ว่างใช่มั้ย"

    "มีอะไรหรือเปล่า"

    "ก็เรื่องแข่งน่ะแหละยุนแค่อยากให้พี่ไปด้วย" แทยอนเม้มปากแน่นเธอก็อยากจะไปเชียร์ยุนอานะแต่..

    "ไม่ใช่ว่าไม่อยากไปเชียร์เธอนะ แต่พี่ก็เลื่อนงานไม่ได้เหมือนกัน"

    แทยอนเอ่ยเสียงแผ่วมองใบหน้าที่ดูเหมือนไร้เรี่ยวแรงของคนตรงหน้าแล้วก็สงสารปนรู้สึกผิดยังไงชอบกล

    ถึงจะเคยบอกยุนอาไปก่อนแล้วครั้งนึงว่าเธอไม่ว่างจริงๆ แต่ก็ไม่คิดว่าร่างสูงจะดูหง่อยไปขนาดนี้

    ร่างเล็กลุกขึ้นเดินไปคว้าข้อมือเด็กตัวสูงเข้าไปหลังร้านเพราะมันเป็นที่ลับตาคน เธอคิดว่าแค่เรื่องนี้ก็ไม่ควรจะคุยในที่ที่คน้ยอะๆอยู่แล้ว

    มือเล็กยกขึ้นวางทาบขนาบใบหน้าดูดีไว้ทั้งสองข้าง

     

    "อย่าทำหน้าแบบนี้สิ พี่รู้ว่าเธอต้องทำได้"

    ยุนอาส่ายหน้าช้าๆพูดสวนกลับมาว่าไม่มีทางหรอก เธอไม่มีทางชนะคู่แข่งได้อยู่แล้ว

    พูดอยู่อย่างนั้นไม่ยอมหยุดจนแทยอนถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะรั้งใบหน้าของคนตัวสูงกว่าให้ใกล้เข้ามา

    ปิดเปลือกตาแล้วแนบสัมผัสกลีบปากเรียวลงกับส่วนเดียวกันของร่างสูงแผ่วเบา

    ยุนอาเบิกตากว้างพร้อมหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำมองใบหน้าใสในระยะประชิดที่กำลังปรือตาขึ้นมาสบตาเธอ

    ดวงตาสีน้ำตาลแอลม่อนที่เต็มไปด้วยความหนักแน่นยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกดูดพลังชีวิตไป

    เธอแทบจะละลายลงไปกองแทบเท้าคนตัวเล็กนี่อยู่แล้ว

    แทยอนผละออกมาช้าๆพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ เมื่อร่างสูงตั้งสติได้ก็โน้มใบหน้าตามเข้ามาอีก

    ร่างเล็กยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากของอีกคนไว้เชิงปราม

     

    "รู้ตัวหรือเปล่าเนี่ย"

    ถามออกไปเบาๆเชิงแซวคนตัวสูงกว่าดวงตาก็จ้องมองใบหน้าดูดีที่พยักหน้าช้าๆเป็นคำตอบ ก่อนจะดึงร่างสูงให้แนบชิดเข้ามา

    บดเบียดกลีบปากเข้ากับส่วนเดียวกันอีกครั้ง ขยับแลกจูบกันเนิบนาบโดยไร้การลุกล้ำใดๆ ..

     

    จนแทยอนค่อยๆผละออกมาอีกครั้ง

    "มีกำลังใจหรือยังคะหึ้ม"

    ยุนอายิ้มจนแก้มแทบปริพยักหน้ารับไป ก่อนที่เจสสิก้าจะเดินเข้ามาหลังจากที่ยืนดูมันจูบกันอยู่นาน

     

    "เธอก็รู้อยู่นี่ว่าพี่ต้องไปเหมือนกัน หรือเธอไม่รู้"

    เจสสิก้าเอียงคอถามเด็กตัวสูง รอบนี้เธอตั้งใจจะไปคุมไอ้เพื่อนตัวแสบให้ดี

    เห็นโบอาบอกว่าเมื่อรอบที่แล้วที่เธอไม่ได้ไปไอ้เพื่อนบ้านั่นมันก็เอาใครไปนั่งรถมันก็ไม่รู้

    แต่โบอาก็พูดเหมือนจะรู้จักผู้หญิงคนนั้นนะแต่ก็พูดแบบคลุมเครือยังไงไม่รู้ รอบนี้เธอเลยคิดว่าอาจจะได้เจอผู้หญิงคนนั้น

    เพราะถ้าคนอย่างแทงกูเปิดทางให้ขนาดนั้นแล้วคงไม่มีใครยอมเสียโอกาสที่จะได้เข้าหาแทงกูบ่อยๆเป็นแน่

     

    ร่างสูงถอนหายใจออกมาเบาๆทำไมยุนอาจะไม่รู้ล่ะแต่บางทีเธอก็อยากให้แทยอนไปด้วยนี่

    ถึงจะรู้ว่าตัวเองไม่มีทางชนะแทงกูได้ก็เถอะแต่เธอก็ไม่เคยแพ้คนอื่นเหมือนกัน

    "เออ...เดี๋ยวพี่ต้องไปแล้ว สู้ๆนะคะ ไปนะสิก้า" แทยอนเอ่ยพลางจุ๊บปากแดงๆของคนตัวสูงไปอีกที

    ก่อนจะเดินไปที่รถ ยุนอามองตามตาละห้อยจนรถของแทยอนหายลับตาไป

    "ไม่ได้พูดชื่อคนนั้นออกมาใช่มั้ย" เจสสิก้าถามต่อร่างสูงเลิกคิ้วเชิงไม่เข้าใจว่าร่างบางนั้นหมายถึงใคร

    จนเจสสิก้าต้องเข้ามากระซิบบอกเบาๆนั่นแหละยุนอาถึงได้ตอบไปว่าไม่ได้พูด

    "ชื่อนั้นพูดสุ่มสี่สุ่มห้าได้ที่ไหนอ่ะ..น่ากลัวจะตาย"

    เจสสิก้าได้ยินอย่างนั้นก็กะตุกมุมปากทันทีจนยุนอาสงสัยว่าเจสสิก้านั้นยิ้มอะไร

    พอกำลังจะถามสาวเจ้าก็หันไปจิ้มไอโฟนซะแล้ว

    จริงๆยุนอาก็ตื่นเต้นไม่น้อยเลยนะที่จะได้แข่งกับคนคนนั้น

    เพราะอย่างที่รู้กันแหลัว่าเธอเคยเจอเค้าครั้งนึงและมันก็เป็นความประทับใจแรกถึงแม้จะได้เห็นความโหดเหี้ยมของเค้า

    เธอไม่รู้หรอกว่าเค้าจะจำเธอได้หรือเปล่าแต่ที่แน่ๆเธอคงไม่มีวันลืมเค้าได้เลยล่ะ....คนที่เคยช่วยชีวิตเธอไว้...

     

     

     

    "ทำไมวันนี้แข่งที่'ไฮท์เฮล'ได้อ่ะ แทนที่หน้าจะสลับกับตอนที่แข่งกับยูริที่เฟิสเฮล"

    แทงกูหันไปถามหญิงสาวที่นั่งข้างๆ

    *เพราะไฮท์เฮลนั้นเป็นสนามที่ใหญ่และอันตรายมากกว่าเฟิสเฮลมากเพราะงั้นเธอถึงได้แปลกใจว่าทำไมถึงให้เธอกับยุนอามาแข่งที่สนามนี้

    เพราะดูแล้วความเหมาะสมมันน่าจะเป็นเธอกับยูริมากกว่าที่จะได้ใช้สนามที่เป็นภูเขาไฟแห่งนี้เพื่อแข่งกัน...

     

    "พี่กลัวว่ามันจะเป็นแผนของใครสักคนน่ะสิ แล้วได้ข้อความที่พี่ส่งไปเมื่อสามวันก่อนแล้วใช่ไหม"

    แทงกูพยักหน้าจะว่าไปเธอเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าจะเอาไงดีเรื่องในข้อความที่โบอาส่งมานั้นที่น่าสนใจนะ

    แต่เธอก็ยังไว้ใจไม่ได้มาก "พี่คิดว่าไงอ่ะ ฉันรู้สึกว่ามันแปลกๆอยู่นะ ตั้งนมตั้งนานก็ไม่เสนอมา"

    "ใช่มันแปลก พี่กำลังรู้สึกว่ายูริกำลังคิดจะทำอะไรเกินตัวอีกแน่ๆ"

    แต่สิ่งที่แทงกูอยากมั่นใจนั้นมีแค่เพียงยูริน่ะไว้ใจได้มากน้อยแค่ไหนกัน

     

     

     

    ร่างสูงเพรียวของผู้เป็นพี่สาวเท้าเดินเข้าไปยังร่างของผู้เป็นน้องและยกมือแตะไหล่อีกคนเบาๆ

    "อ้าว นึกว่าไม่มา ...เออพอดีเลยมานี่จะแนะนำให้รู้จักคนที่พี่คิดว่าฉันไปตามจีบเกือบเป็นเดือน"

    ยุนอาหันมาตามแรงสะกิดพอเห็นว่าเป็นพี่สาวเดินมากับผู้ช่วยคนสนิทจึงทักด้วยสีหน้างงๆ

    ปกติยูริไม่เคยมาหรอกเวลาเธอแข่งน่ะจะมีก็แต่ซอฮยอนนั่นแหละที่คอยตามดูแลเธอ

    ยุนอาเดินนำไปยังรถสปอตคันหรูที่จอดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเคาะกระจกสองสามทีแล้วยื่นหน้าเข้าไปคุยแว๊บเดียว

    เจ้าของรถก็เปิดประตูออกมาปรากฎตัวให้ผู้เป็นพี่ได้เห็น

    ยูริชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้เห็นหญิงสาวร่างเพียวบางที่ยืนอยู่ข้างๆน้องสาวเธอ...สวยว่ะ

     

    "ยินดีที่ได้พบค่ะคุณยูริ ฉันเจสสิก้าค่ะ" ร่างบางเอ่ยทักตามความน่าจะเป็นในเมื่อยูรินั้น

    อยู่แทบเท่ากับแทงกูนั่นก็หมายความว่าเธอควรเคารพเค้าด้วยรากฐานเค้าที่อยู่เหนือกว่า

    แม้ว่าเธอจะสนิทกับแทงกูมากเป็นพิเศษจนสามารถเล่นหัวเล่นหางกันได้ก็เถอะ

    "เช่นกันค่ะ แล้วนี้ผู้ช่วยคนสนิทฉัน ซอฮยอน"

    ทั้งสี่คนพูดคุยกันอยู่ไม่นานก็มีรถสปอตที่บลอนด์เงินก็ดรีฟกวนประสาทมาจอดใกล้ๆกับรถของเจสสิก้าอีกคัน

    พร้อมกับเสียงของเจสสิก้าที่กร่นด่าฉอดๆจนอีกสามคนผงะไป

    "เอ่อ..พี่ใจเย็นๆนั่นคุณแทงกูไม่ใช่เหรอ" ยุนอาพยามปรามไว้เธอพอจำรถของแทงกูได้

    แล้วเจสสิก้าก็ด่าซะไม่มีชิ้นดีตบท้ายด้วยการหันมาบอกเธอว่าก็เพราะเป็นมันไงถึงได้ด่า

    ไม่นานร่างเล็กก็ก้าวลงจากรถเดินมายังจุดที่ทั้งสี่คนยืนอยู่

     

    "สิก้าอยากกินแตงเหรอ" แทงกูเอ่ยติดตลกหลังจากที่เดินมาจากตัวรถแล้วก็หันไปทักทายกับยูริ

    "ชิส์ นี่แทงถอดแว่นได้ป๊ะเสียมรรยาท"

    ว่าแล้วก็บ่นเพื่อนตัวเล็กไปอีกที ไอ้นี่อยู่กับคนระดับเดียวกันยังจะมาทำตัวเสียมรรยาทแบบนี้อีก

    "เอ้ย..ไม่เป็นไรน่าคนกันเอง" ยูริรีบเอ่ยต่อ ก็แน่ล่ะเธอกำลังหว่านล้อมให้แทงกูตอบรับเป็นพันธ์มิตรด้วยอยู่นิ

    แต่ร่างเล็กนั้นก็ยอมแตะกรอบแว่นเพื่อให้เลนส์สีดำเงาเปิดออก

    อวดดวงตาเป็นประกายสีฟ้าครามให้ทุกคนได้เห็นแล้วชะงักไปตามๆกัน

    "นี่ที่ชอบใส่แว่นเพราะแบบนี้หรือเปล่าคะ" ยุนอาถามอย่างอึ้งๆแค่มองดวงตาเค้าเธอก็รู้สึกเหมือนโดนสะกดแล้ว

    แทงกูหันมายิ้มบางๆให้เธอหนึ่งทีก่อนจะตอบรับสั้นๆ

     

    "คุณรู้ไหมน้องฉันมันตื่นเต้นแทบนอนไม่หลับเลยนะตอนที่มันรู้ว่าได้แข่งกับคุณน่ะ"

    ยูริเผาน้องสาวตัวเองทันทีที่นึกขึ้นได้แทงกูจึงหันไปถามเจ้าตัวบ้างว่าจริงเหรอเพราะอะไรถึงตื่นเต้นล่ะ

    "อุ่ยให้ตอบโต้งๆมันก็เขินเหมือนกันนะคะ ถึงฉันจะรู้ว่ายังไงคุณก็ชนะแต่ฉันก็ยังตื่นเต้นที่ได้พบคุณ

    เพราะ...แอบปลื้มคุณมาก" ระดับเสียงที่เบาลงอย่างเห็นได้ชัดในประโยคสุดท้ายนั้น

    ทำเอาคนฟังยิ้มแก้มปริให้กับความน่าเอ็นดูของเด็กร่างสูงที่ยืนบิดไปบิดมาอยู่นั่น

    "ยูริคุณมีน้องน่ารักแบบนี้ไม่หวงเค้าบ้างเหรอคะ" แทงกูหันไปถามยูริบ้าง ก็ใช่ว่าเธอไม่เขินนะ

    ที่โดนเด็กบอกมาแบบนั้นแต่ก็พยามเก็บสีหน้าไว้ จริงๆแล้วในความรู้สึกเธอยุนอาก็น่ากินจะตายไป

    แต่ก็ไม่อยากทำใครลำบากใจทั้งตัวยุนอาเองแล้วก็ยูริอีก เพราะงั้นทำเฉยๆไปเนี่ยแหละดีแล้ว

     

    "โอ๊ยย เนี่ยไหนๆก็ไหนๆและบอกคุณเลยแล้วกันมันไปตามจีบคุณเจสสิก้าจนแทบไม่กลับบ้านเลยเนี่ย"

    ยูริขัดการเปิดปากเผาน้องตัวเองเต็มสตรีม นึกตะงิดๆอยู่ในใจว่าแอบเสียดาย

    ที่เธอไม่ได้เจอเจสสิก้าใกล้ๆแบบนี้มาก่อน จะเห็นก็แต่ตามในข่าวเหมือนที่เห็นแทงกูนั่นแหละ

    ไม่คิดว่าเจอใกล้ๆแล้วจะสวยขนาดนี้ คิดแล้วก็แอบเซ็ง

    "เฮ่ยยพี่ยูลบอกแล้วไงว่าไม่ได้จีบพี่สิก้า" ยุนอาโพล่งขึ้นทันทีก่อนจะสะกิดร่างบางข้างๆให้ช่วยยืนยัน

    มันไม่ได้เสียหายอะไรหรอกแต่เธอไม่ชอบให้ใครมาเข้าใจผิด โดยเฉพาะพี่สาวตัวดีของเธอเนี่ย

    เพราะมันชอบพูดไปเรื่อย เดี๋ยวสุดท้ายเจสสิก้าจะเป็นฝ่ายเสียหายเสียมากกว่า

    "น้องคุณน่ะไปจีบเพื่อนฉันค่ะไม่ได้จีบฉันหรอก"

    เจสสิก้าที่เพิ่งย้ายไปยืนอีกข้างของยุนอาเอ่ยขึ้นแอบเหลือบมองหน้าแทงกูที่ยืนอยู่อีกข้างเล็กน้อย

    เธอดูออกว่าสายตาของแทงกูน่ะคิดอะไรกับยุนอาอยู่และเธอก็ไม่แปลกใจหรอกที่แทงกูจะรู้สึกแบบนั้น

    ส่วนยุนอาพอเธอพูดจบก็รีบพยักหน้าเห็นด้วยทันทีเลย

     

    "งั้นว่างๆพาพี่ไปเจอหน่อยสิยุน แล้วแบบนี้ฉันจีบคุณแทนได้หรือเปล่าคะคุณเจสสิก้า อิอิ

    ...แล้วนี่แข่งเสร็จแล้วพอจะว่างไปต่อด้วยกันหน่อยได้หรือปเปล่าคะคุณแทงกูคุณเจสสิก้า"

    ยูริหันไปพูดให้ยุนอากลืนน้ำลายเอื๊อก ก่อนจะหันไปหยอดเจสสิก้าด้วยท่าทางไม่จริงจังมาก

    สาวเจ้าก็ยิ้มบางๆกลับมาแม่มสวยเป็นบ้าเลยเธอยิ้มตอบเค้าไปเล็กน้อย

    แล้วหันกลับไปพูดกับแทงกูต่อ แทงกูได้ยินคำชวนอย่างนั้นก็นิ่งครุ่นคิดอยู่แป๊บเดียวก็ตอบตกลง

    แบบนี้ถ้าเธอจะจีบเจสสิก้าก็คงไม่เป็นไรสินะ คิดแล้วก็อยากจีบติดเร็วๆหึหึ

    เธอนี่มัน...พลาดไปได้ไงวะสวยขนาดนี้หึ้ย แอบโลมเลียหน้าท้องเค้าอีกหน่อย

    แล้วทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง คงต้องรอกันอีกยาวเพราะยุนอาและแทงกูนั้นแข่งคู่สุดท้าย

    เช่นทุกครั้งที่มีรายชื่อแทงกูหรือยูริเธอทั้งสองคนก็จะถูกจับไปไว้คู่สุดท้ายทุกครั้ง

     

     

    "แน่ใจเหรอว่าจะไปน่ะ" เจสสิก้านั่งลงข้างๆเพื่อนสาวตัวเล็กเธอแน่ใจว่ายุนอาน่ะไม่หมกเม็ดแน่ๆ

    แต่บางทีเธอก็รู้สึกเหมือนยูริดูไม่น่าไว้ใจเท่าไร ยิ่งร่างสูงพูดออกมาแบบนั้นอีกแล้วสายตาเค้าน่ะ..อื้มม แอบรู้สึกหวั่นๆยังไงไม่รู้

    อีกอย่างประวัติยูริก็มีแต่ข่าวแบบว่า..ตลบหลัง ลากไปฟันอะไรแบบนั้นเยอะเสียด้วย

    แล้วยิ่งเค้ามาพูดหยอดใส่เธอแบบนั้นอีกไม่ให้ระแวงได้ไงล่ะ

    "ยังไงเราก็ไปทั้งสองคนน่า อย่าเพิ่งคิดมากสิยูริน่ะเพิ่งเสนอเป็นพันธมิตรมานะแต่ฉันยังไม่ได้ตอบไปหรอก"

    เจสสิก้าพยักหน้ารับรู้แบบนี้ก็พอวางใจได้บ้างส่วนนึง แต่ทำไมจู่ๆยูริถึงได้มาเสนอเป็นพันธมิตรได้ล่ะ

    เธอคงไม่เชื่อหรอกนะถ้าหากว่ายูริจะอ้างว่าเพิ่งรู้จักแทงกูน่ะ ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน

    ไม่นานแทงกูก็แตะกรอบแว่นให้เลนส์สีดำพลิกกลับมาบดบังดวงตาของตัวเองแล้วลุกไปทักทายแฟนๆเล็กน้อย

    เจสสิก้าก็ลุกขึ้นเดินตามไปห่างๆลอบมองแผ่นหลังของคู่ซี้

    เธอรู้ดีว่าแทงกูเป็นยังไงชอบอะไรแบบไหนหรือไม่ชอบอะไร เธอกล้ายืนยันเลยว่าไม่มีใครจะรู้ดีไปมากกว่าเธอแล้วล่ะ

    และการที่ทิ้งระยะห่างระหว่างเราไว้แบบนี้คือสิ่งที่แทงกูต้องการมากที่สุดไม่ว่าจะกับเธอหรือใครก็ตาม...

     

     

    แต่จู่ๆก็มีเสียงปืนดังขึ้นหลายครั้งติดกัน ผู้คนเริ่มตื่นตระหนกหวาดกลัวเจสสิก้ารีบเดินไปยืนข้างๆแทงกูทันที

    เผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยทัน แทงกูยังคงยืนนิ่งกวาดสายตาหาต้นเสียงอย่างไม่กลัวเกรง

    เช่นเดียวกับยูริที่เดินออกมาจากจุดพักเพื่อสอดส่องดูว่าใครที่มันกล้ามาป่วน

    แต่ไมาว่าจะกวาดสายตามองไปทางไหนร่างสูงก็ไม่เห็นแม้วี่แววของตัวต้นเสียงเลย

     

     

    ...ใครวะ

     

     

     

     

     

     

     

    From...Writer

     

    อู้ววว แป๊บๆผ่านไปจะเป็นเดือนแล้ว งิงิ

    แลดูบีมรีบมากเลยเนอะ 555+

    เอาแล้วสิถ้าแทงกูอยากกินยุนอาขึ้นมาจริงๆนี่....

    ไปแลกกันเจสสิก้าเลยก็ได้มั้ง #ห๊ะ!!

    บร้าา เค้าล้อเล่นหรอก ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวจะมีมาม่ามาเสริฟอย่างแน่นอน

    555+

    ถึงเวอร์ชั่นหื่นกระจายขายเอ็นซีจะไม่มีก็เถอะนะ งิงิ

    ว่าถึงเวอร์นั้นแล้วก็...ขอดองไปอีกไกลๆเลยนะคะ กร๊ากกก

    เวอร์นี้ไม่ใช่ไม่หื่นนะแต่บีมจะเกรียนปล่อยให้รีดเดอร์รอลุ้นกันต่อไป เอิ๊กสสส

    ไปดีกว่า......(ใครสงสัยหรือไม่เข้าใจตรงไหนถามได้นะคะแต่จะตอบได้มั้ยไม่รู้ แฮ่)

     

    ปล.สำหรับเรื่องคำผิดนะคะยังมีอยู่อีกเยอะแยะ 5555+ บางคำบีมก็ตั้งใจใช้วิบัติเพื่อสื่อถึงอารมณ์ตัวละคร

    แต่บางคำก็อาจจะพลั้งมือพิมพ์ผิดไป 555+ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ แฮ่

     

    ขอให้มีความสุขกับฟิคร่าา....เสพแล้วก็ขอกำลังใจให้ไรท์เตอร์ตัวเล็กๆคนนี้บ้างเถิ๊ดด


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×