คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ۞ Amulet Classic ۞ [Chapter IX]
Chapter IX
ร่างบางเดินเข้ามายังคฤหาสแห่งหนึ่งซึ่งเป็นจุดบัญชาการใหญ่บอสของรุ่นพี่เธอได้นัดให้เธอมาพบ
ตอนแรกเธอก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้ไว้ใจให้เธอมาพบถึงที่นี่ ซึ่งไม่ต่างไปจากรังใหญ่ของพวกมาเฟียเลย
นี่ถ้าเธอแอบติดกับระเบิดไว้มันไม่จบเฮกันไปหมดเลยหรือไง
ปกติแล้วที่นี่ไม่ใช่ว่าใครจะเข้ามาก็เข้ามาได้ง่ายๆ ถ้าไม่ถูกเรียกพบโดยบอสของที่นี่หรือเป็นคนของที่นี่อยู่แล้วก็หมดสิทธ์
ตั้งแต่เดินเข้ามาไม่สิตั้งแต่เลี้ยวรถเข้ามาในรั้วคฤหาสได้เธอก็โดนประกบข้างตลอด โดยเขาให้เหตุผลว่าจะพาเดินเข้าไปต่อ
อย่างที่รุ่นพี่เธอบอกไว้นั่นแหละ แต่ก็แอบงงรถเธอพ้นรั้วปึ๊บมันก็ดักบอกให้เธอลงจากรถเลยเดี๋ยวมันเอารถเธอไปจอดให้
แอบคิดในใจแล้วมั่นใจได้ป้ะว่ารถเธอจะปลอดภัย ก็คิดไปด้วยความหมั่นไส้นั่นแหละ
จริงๆเธอก็ไม่ได้อยากมาหรอกแค่เขาอุตส่าห์นัดมาก็ไม่อยากจะทำตัวเหมือนตัวเองเหนือกว่าหยิ่งไม่มาอะไรแบบนั้น
ที่ไม่อยากมาเพราะรู้ไงว่ามันวุ่นวายแบบนี้เนี่ยนี่ตั้งแต่(โดนบังคับ)ลงจากรถเดินเข้ามาในตัวคฤหาสน์แล้วเธอยังไม่เห็นวี่แววของรุ่นพี่เธอเลย
เธอว่าที่นี่เหมือนถูกสร้างให้เป็นสำนนักงานเสียมากกว่าจะเป็นบ้านพักอยู่อาศัย มีเค้าเตอร์ติดต่อเหมือนโรมแรมห้าดาว
มียามและรปภเยอะกว่าธนาคารที่ถูกปล้นบ่อยๆสรุปง่ายๆในความคิดเธอมันดูคล้ายพระราชวังมากกว่าแล้วแหละ
"คุณแจจุง ทางนี้ครับ" โอ้นั่นรุ่นพี่เธอเพิ่งเดินออกมาจากรีบตรงมาที่เธอโดยมีลูกสมุนสองคนเดินนำมา
"เฮ้ คิดถึงแกจัง ...ไปกันบอสรออยู่"
แจจุงรวบร่างบางไปกอดแน่นจนคนโดนกอดชะงักไปเล็กน้อยไม่ต่างจากลูกสมุนของแจจุงที่ยืนทำหน้าเอ๋ออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
มันคงคิดแหละว่าอีนี่ใครเคยเห็นก็ไม่เคย เคยมามั้ยก็ไม่ มาถึงเจ้านายกูก็กอดมึงซะแน่น
ร่างบางเลยได้แต่หัวเราะแห้งๆปล่อยให้ชายหนุ่มจุงมือเธอเดินเข้ามาในลิฟท์ กดชั้นสูงสุด
เฮ่ยนี่ที่นี่มี18ชั้นเลยเหรอมองไกลๆไม่ยักกะรู้ว่ามันสูง ระหว่างยืนรออยู่ในลิฟท์แจจุงก็เอาแต่พูดไม่หยุดปาก
ทำยังกับเพิ่งได้ปลดปล่อยงั้นแหละ แต่ไอ้เรื่องที่เขาพูดมาเนี่ยมีแต่เรื่องเธอกับแทงกูทั้งนั้น คิดแล้วเหนื่อยใจทิฟฟานี่พอจะรู้อยู่ว่าคงถูกเรียกพบเรื่องนี้
แต่ถ้าใครไม่มาเป็นเธอคงไม่เข้าใจหรอก การที่โดนแทงกูจับได้ทุกครั้งที่เจอกันว่าเธอคิดไม่ซื่อเนี่ย มันยากนะกับการจะทำให้เค้าไว้ใจ
ประตูลิฟท์เปิดออกเมื่อถึงจุดหมายแจจุงยังคงจับข้อมือเธอเดินตรงไปตามทางเดิน ทั้งชั้นดูเหมือนจะมีอยู่แค่สี่ห้องนะ
ชายหนุ่มเปิดตูบานใหญ่โดยไม่ต้องเคาะประ อาจจะเป็นห้องส่วนตัวของแจจุงมั้ง แต่เดินเข้ามาก็แทบทำหน้าไม่ถูก
เมื่อได้เห็นร่างสูงที่คุ้นเคยนั้นอีกครั้งเธอไม่แปลกใจที่แจจุงไม่เคาะประตูหรอกเพราะนั่นบอสมันก็ผัวหรือเมียมันนั่นแหละ
"ไงไม่ได้เจอกันนาน เจ๋งเหมือนเดิมเลยนะ ทิฟฟานี่"
ชายหนุ่มยิ้มให้เธออย่างเป็นกันเองเช่นเคยร่างบางโค้งรับตามมรรยาท ชายหนุ่มเดินมาผายมือไปที่โซฟาข้างๆ
แต่เธอไม่ต้องทำอะไรหรอกแจจุงก็จัดการดึงร่างเธอให้นั่งลงข้างๆกันแล้วแหละ
"ขอบคุณค่ะ พี่ยุนโฮ เรียกฉันมาเพราะเรื่องแทงกูใช่ไหมคะ"
"อื้ม จะมีเรื่องไหนอีกล่ะ เธอเนี่ยช่างเป็นตัวสร้างปาฏิหาริย์เสียจริงๆเลย รู้ไหมตอนนี้พวกในบ่อนมันเอาเธอไปพนันกันให้สนุกเลยล่ะ"
ยุนโฮพูดกลั้วหัวเราะพลางหันจอแม็คบุ๊คมาทางเธอ เขาเปิดหน้าเว็บหน้าของเว็บเอเอ็มแอลและหน้าแรกในเว็บนั่นมัน!!!
ลงข่าว??ลงข่าวงั้นเหรอ นี่เรียกว่าข่าวหรือไงรูปผู้หญิงสองคนยืนกอดกันพิงรถสปอตอยู่และหนึ่งในนั้นเธอรู้ตัวว่าคือเธอแน่นอน
ส่วนอีกคนก็ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาแม้มองไม่เห็นหน้าก็เถอะออร่าออกขนาดนั้น จะใครล่ะก็แทงกูน่ะสิ
นี่เดี๋ยวนี้มันมีหมวดข่าวซุบซิบหมู่คนดังในเอเอ็มแอลแล้วหรือไง
"ฟานี่แกรู้ปะเด็กในบ่อนมันพนันกันว่าแกจะโดนแทงกูฆ่าทิ้งเมื่อไร"
"โหยรอดมาได้ก็แทบไม่เชื่อตัวเองแล้ว ฉันนึกว่าฉันจะตายตั้งแต่เค้ารู้ว่าฉันจะไปสืบเรื่องเค้าแล้ว"
"แล้วเค้ารู้ได้ไง"
"ก็คืนแรกมีคนโทรไปบอกเค้า แต่คืนที่สองฉันจะติดGPSแต่ยังไม่ทันจะได้ติดเค้าก็รู้ตัวก่อนแล้ว"
"คืนแรกที่บอกว่ามีคนโทรไปบอกเค้าเนี่ยไอ้คนโทรมันโทรไปตอนไหน"
"คืนนั้นแทงกูแข่งคู่สุดท้าย กว่าจะถึงโรงแรมก็ตีหนึ่งกว่าๆขึ้นห้องไปประมาณยี่สิบนาทีก็มีสายเข้ามาคงประมาณตีสองมั้งคะ"
"นี่เค้ารู้ก่อนได้ทำอะไรกันจริงๆเหรอ ฉันนึกว่าแกอำเล่นนะเนี่ย
เดี๋ยวแล้วสรุปคืนนั้นมีอะไรกับเค้าป่ะ เห็นสายบอกมาว่าเค้าออกมาส่งแกตอนเช้าด้วยนี่"
ทิฟฟานี่เบี่ยงสายตาออกมาจากใบหน้าของยุนโฮและแจจุง ...คืนนั้นน่ะเหรอ
"ทิฟฟานี่..มีคนส่งเธอมาใช่มั้ย..."
แทงกูเอ่ยเสียงแผ่วในดวงตาสีฟ้านั้นมีเพียงความผิดหวัง ทั้งๆที่มันควรจะเป็นโกรธเกรี้ยวโมโหโทสะเสียมากกว่า
และถ้าคนที่เธอเอ่ยปากถามอยู่ตรงหน้านี้ไม่ใช่ทิฟฟานี่ แทงกูคงจะฆ่าทิ้งไปแล้วโดยที่ไม่รอถามไถ่อะไร
ทิฟฟานี่ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่แทงกูถามมา เธอควรตอบเค้าว่าอย่างไรดีแล้วเค้ารู้ได้อย่างไร
ในเมื่อวันนี้มันไม่ได้มีเรื่องอะไรที่น่าสงสัยเลยนี่นา
เพราะเค้าเป็นคนเลือกเธอ และตั้งแต่แรกเธอยังไม่ได้หวังว่าจะมาแตะต้องเค้าเลยด้วยซ้ำ
ใบหน้าหวานพยามรั้งขึ้นมาแต่แทงกูก็ยกมืออีกข้างมาทาบใบหน้าเธอไว้เบาๆเชิงรั้งไม่ให้เธอผละขึ้นมา
"บอกความจริงแล้วฉันจะไม่ทำอะไรเธอ ทิฟฟานี่"
ทิฟฟานี่มองลึกลงไปในแววตาสีฟ้าของเค้า เธออยากจะโกหกเค้าว่ามันไม่ใช่แต่เธอก็รู้ดีว่าเค้าเลือดเย็นแค่ไหน
ยิ่งในเวลานี้เธอมีเพียงตัวเปล่าๆจะเอาอะไรไปสู้กับเค้าที่มีทุกอย่างทั้งอาวุธเครื่องมือสื่อสาร
หรือแม้แต่คนของที่นี่ก็ต้องช่วยเค้าอยู่แล้ว เธอไม่มีทางเลือกได้แต่หลบสายตาเค้าแล้วพยักหน้าเบาๆ
แทงกูถอนหายใจออกมาอีกครั้งเมื่อได้รับคำตอบ ..เข้าใจเลือกส่งคนมาให้เธอต้องลำบากใจได้นะ
แต่อย่างน้อยเธอก็ยังรู้สึกดีที่ทิฟฟานี่กล้ายอมรับไม่แถน้ำขุ่นๆ
"แต่คุณแทงกูคะ..คุณช่วยฟังเหตุผลฉันหน่อยได้หรือเปล่า" ทิฟฟานี่เห็นว่าแทงกูเงียบไปจึงค่อยพูดต่อเบาๆ
เค้าเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะขยับไปนั่งพิงหัวเตียงแล้วบอกให้เธอพูดต่อ
"จริงๆแล้วจะเรียกว่าฉันถูกส่งมาโดยตรงคงไม่ได้หรอกนะคะ
เพราะเค้าขอร้องให้ฉันมาสืบเรื่องคุณแต่อยู่ที่ฉันตัดสินใจว่าจะทำหรือเปล่านะคะ"
ตอนนี้ทิฟฟานี่กำลังเริ่มจะมั่นใจมากขึ้นแล้วว่าแทงกูคงไม่ทำอะไรเธอจริงๆ
แต่เธอเองก็ยังไม่ควรจะวู้วามทำอะไรให้เค้าไม่พอใจ แต่สิ่งที่เธอบอกเค้ามันก็เป็นความจริง
"ฉันอยากเชื่อเธอนะทิฟฟานี่ แต่เรื่องแบบนี้มันไม่มีอะไรมายืนยันได้"
"มันก็อยู่ที่คุณจะพิจารณาชีวิตฉันแค่นั้นเอง"
เอ่ยพลางขยับกายเข้าไปใกล้ให้เค้าได้รับรู้และมั่นใจว่าเธอจะยอมรับบทลงโทษของเค้าถ้า เค้าคิดจะฆ่าเธอละก็ เธอก็จะยอม
แทงกูสบลึกเข้าไปในดวงตาสีเทาเข้มที่ตอนนี้มันช่างดูหนักแน่นและมั่นคงยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
ใจจริงอยากจะถามร่างบางตรงหน้านี้จริงๆว่าถ้าเค้ามีโอกาสหนีไปเธอตอนนี้ เค้าจะหนีเธอไปหรือเปล่า
"แล้วเธอ ตัวเธอเองน่ะอยากได้อะไรจากฉันล่ะ"
แทงกูเลือกใช้คำถามกว้างๆพยามให้ทิฟฟานี่หลุดพ้น เธอยังไม่อยากยอมรับตอนนี้ว่าเธอพลาดที่เลือกเค้า..เป็นคนแรก
"ฉันไม่กล้าตอบหรอกค่ะมันมากเกินไป" ร่างบางหลุบตาลงต่ำจะให้เธอตอบแบบนั้นออกไปได้ยังไงกันล่ะ
เธอไม่กล้าหรอกนะแค่คิดก็อายตัวเองแล้ว แต่แทงกูก็ยังเคล้นให้เธอตอบ
จนสุดท้ายร่างบางก็ถอนหายใจเบาๆก่อนจะบอกเค้าไปทั้งๆที่ยังไม่กล้ามองหน้าเค้าด้วยซ้ำ
"คุณไงคะแทงกู..ที่ฉันอยากได้ทั้งตัวและหัวใจ"
"เธอจะเอาไปทำไมตัวฉันกับหัวใจฉันน่ะ" สิ้นเสียงของแทงกูทิฟฟานี่ก็ตวัดสายตามองหน้าคนตัวเล็กนั้นทันที
ทำไมดูเหมือนเค้าไม่โกรธอะไรเธอเลยล่ะ หน้าหวานไม่ได้ตอบอะไรออกไปอีก
เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงอยากได้เค้ามาเป็นของเธอ..ของเธอคนเดียว
อยากให้เค้าเป็นเจ้าของเธอและก็อยากจะมีโอกาสได้เป็นเจ้าของเค้า อยากเอาชนะคนคนนี้ให้ได้ แล้วที่สำคัญที่สุดเธอก็ไม่รู้ด้วย
ว่าเธอรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร ทั้งๆที่เจอหน้าเค้าแค่ไม่กี่ชั่วโมงพูดคุยกันแค่ไม่กี่ประโยคกับจูบอีกแค่จูบเดียว..
"ตัวฉันน่ะได้แต่หัวใจน่ะ..คงยาก ....แล้วนี่จะเอายังไงดีล่ะหึ๊มม บังเอิญว่าฉันก็อยากได้เธอเสียด้วยสิ"
แทงกูพูดจบก็โน้มตัวไปขโมยจุ๊บที่ริมฝีปากอวบไปหนึ่งที่เป็นการเปิดทางให้อีกคนนั้นขยับขึ้นมาบนตักอีกครั้ง
"อืม ก็ต่อกันนั่นแหละฉันยังตกใจเลยที่เค้าไม่ฆ่าฉัน"
ถึงตรงนี้ทั้งแจจุงและยุนโฮต่างก็เงียบไปเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่สีหน้าเคร่งเครียด เธอไม่รู้หรอกว่าสองคนนี้จะเรียกเธอมาถามเรื่องแทงกูทำไม
แต่เธอก็คงไม่ซื่อจนบอกเค้าไปหมดทุกอย่างหรอกนะ เธอรู้ว่ามันเป็นเรื่องแปลกมากถึงมากที่สุด
แต่เธอไม่รู้หรอกว่าเพราะอะไรแทงกูถึงทำแบบนั้นทั้งๆที่เค้าน่าจะฆ่าเธอทิ้งไปตั้งแต่ที่รู้แล้ว ไม่ต้องเสียเวลามาถามไถ่เธอแบบนั้น
"แล้วตอนนี้เธอต้องการอะไรจากแทงกูหรือเปล่า ทิฟฟานี่"
จู่ๆยุนโฮก็ถามอย่างนั้นทิฟฟานี่ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจก่อนจะขอคำอธิบายจากชายหนุ่ม
และคำอธิบายของเค้าก็ทำให้เธอรู้สึกหวั่นๆ เพราะตีความหมายออกมาได้ก็ไม่ต่างจากถามว่า
เธอจะตีสนิทแทงกูหรือไงหรือแค่จะสืบเรื่องเค้าแค่นั้น
เธอแกล้งถามกลั้วหัวเราะกลับไปว่าทำไมถึงถามเธอแบบนี้
"เธอก็น่าจะรู้ การที่เธอยืนยันด้วยตัวเองแบบนั้นว่าเป็นของเค้ามันเท่ากับเธอพยามจะผูกมัดตัวเองไว้ที่เค้า"
"ตอนนั้นฉันไม่มีทางเลือกนี่คะในเมื่อแทคยอนกล้าพูดเต็มปากว่าฉันเป็นของเค้าแบบนั้น ซึ่งมันไม่ใช่
และที่ฉันตอบกลับไปแบบนั้นก็เพราะฉันแขยงเขาเท่านั้นเอง
คนอื่นจะคิดว่าไงฉันไม่สนหรอกนะคะ แล้วที่ฉันต้องการจากแทงกูตอนนี้มีอย่างเดียวคือความไว้ใจ"
"แกจะยอมทนเป็นของเล่นเค้าหรือไงห๊ะ"
ทิฟฟานี่ไม่ตอบเพียงแค่ถอนหายใจออกมาเบาๆถ้าพูดแบบแทงใจดำก็คงแบบนั้นนั่นแหละ แต่เธอมีทางเลือกที่ไหนล่ะ
หาตัวเค้าก็หาไม่เจอแถมเค้ายังรู้ทันเธอหมดอีกมีชีวิตรอดมาได้ก็บุญแค่ไหนแล้วเนี่ย
แล้วอีกอย่างเธอเองก็ได้สัมผัสด้วยตัวเองแล้วว่าการที่จะยอมเป็นของแทงกูหรือเป็นสัตว์เลี้ยงของเค้า
ที่จะถูกเค้าเรียกให้ไปนอนด้วยเมื่อไรก็ได้นั้นมันก็ไม่ได้แย่มากเท่าไรเลยกับการที่จะมีอะไรกับแทงกู
เค้าทั้งอ่อนโยนนุ่มนวลกับเธอหากแต่เร่าร้อนประดุจเปลวเพลิงที่แผรดเผาร่างกายเธออยู่ทุกวินาทีที่เค้าเคลื่อนไหว
แต่ที่เธอแปลกใจนั่นก็คือแทงกูก็ไม่เห็นจะมีทีท่าว่าจะอยากนอนกับเธอบ่อยๆเลยนี่นาซึ่งมันก็มีผลดีกับเธออยู่อย่างคือเธอก็ไม่ต้องเปลืองตัวไปกับเค้ามาก
แต่ผลเสียก็คือมันทำให้เวลาของเธอที่จะได้อยู่เพื่อเรียนรู้แทงกูน้อยลง แล้วแบบนี้เมื่อไรเธอจะเอาชนะเค้าได้กันล่ะ
"นี่..ตอนแทงกูคุยกับเธอน่ะเค้าถอดแว่นหรือเปล่า ได้เห็นดวงตาจริงๆของเค้ามั้ย"
ยุนโฮถามออกมานิ่งๆ นั่นก็แสดงว่าเรื่องดวงตาของแทงกูเป็นเรื่องพิเศษอีกเรื่องนึงที่แทงกูทำกับเธอสินะ
ถึงว่าไม่มีใครเคยบอกว่าเค้าตาสีฟ้า ทิฟฟานี่เลือกจะตอบเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ
เธอคงไม่กล้าพูดหรอกว่าเธอได้เห็นชัดแค่ไหน..ชัดจนรู้ว่าเค้ารู้สึกอะไรอยู่
ชายหนุ่มทั้งสองชะงักแล้วมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อสายตา
"แทงกูไม่ฆ่าเธอหรอก เชื่อฉันสิ"
หลังจากคืนนั้นที่แทงกูและยุนอาแข่งจบก็ทั้งห้าคนไปต่อกันตามที่รับปากยูริไว้ที่ผลับหรูแห่งหนึ่งที่ดูแล้วก็เหมาะสำหรับคนระดับยูริและแทงกูนั่นล่ะ
นั่งคุยโน้นคุยนี่ก็ไปเรื่อยกว่าจะแยกย้ายกันก็เกือบสว่างและวันต่อมาที่กันตอนไปแบทเทิ้ลคิงแทงกูก็ตัดสินใจรับพันธมิตรจากยูริ
และมาวันนี้ยูริถึงได้ส่งแผนการมาให้โบอา แทงกูนั่งคิดวกไปวนมาจนหัวแทบระเบิด
เธอไม่รู้ว่ายูริเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมาถึงได้คิดจะเอาชีวิตไปเสี่ยงอย่างนั้น
คราวที่แล้วเธอก็ได้รู้ว่ามายูริไปท้าลีจุนดวนตัวต่อตัวจนตัวเองจะตายอยู่แล้ว แต่มีลูกดอกธนูยิงโดนลีจุนตายไปก่อนซะงั้นเลย
แทงกูไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากเพราะเธอคิดว่าคนอย่างลีจุนน่ะเก่งก็จริงแต่มันก็สมควรแล้วที่ตายไป
เพราะนิสัยแย่ๆที่ชอบกล่างชอบขมขู่คนที่ด้อยกว่าของลีจุนนั่้นแหละถึงได้ทำให้ลึกๆแล้วแทงกูก็ไม่ได้ชอบขี้หน้าหมอนั่นเท่าไร
หลังจากลีจุนตายไปเอเอ็มแอลในเกาหลีตอนนี้จุดสูงสุดก็คือ ยุนโฮ ซึ่งเมื่อก่อนเป็นพันธมิตรกับลีจุน
ฝั่งลีจุนที่ตอนแรกเหมือนจะยังไปสลายตัวแต่สุดท้ายก็อยู่ไม่รอดต้องแยกย้ายทางใครทางมัน
ยุนโฮจึงได้รับผลพลอยได้จากการเป็นพันธมิตรไปเต็มๆพวกลูกน้องลูกสมุนของลีจุนก็ไปรับใช้ยุนโฮแทนจากส่วนใหญ่
ดูแล้วพรรคพวกของยุนโฮหนาแน่นมากยิ่งกว่าลีจุนเสียอีก แล้วทำไมยูริถึงได้....
คิดจะรอบกัดยุนโฮแบบนั้นแทบจะเหมือนเอาชีวิตไปทิ้งเลยก็ว่าได้ ทั้งเจสสิก้าและโบอาก็รู้สึกไม่ต่างจากแทงกูเท่าไร
แต่เธอควรจะลองคุยกับยูริโดยตรงก่อน
การที่ได้คุยเป็นการส่วนตัวกับยูริที่ตอนแรกแทงกูคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ใช่นะทั้งคู่ไม่ได้มีปัญหากัน
แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่แทงกูไม่เข้าใจและไม่รู้ว่ายูริจะพูดวกไปวนมาจนเธอเริ่มจับต้นชนปลายไม่ถูกทำไม แถมยังพูดถึงทิฟฟานี่เป็นส่วนใหญ่อีก
และที่เธอไม่เข้าใจคือว่ายูริจะพูดถึงทิฟฟานี่ทำไมอีกในเมื่อวันนั้นทิฟฟานี่ยังกล้าคิดจะติดGPSเธออยู่เลย แล้วเค้าเป็นใครเธอก็ไม่รู้
มาจากไหนอยู่ฝั่งไหนก็ไม่แน่ใจ จู่ๆก็โผล่มาอยู่ด้วยกันไม่ถึงสามชั่วโมงก็บอกว่าอยากได้เธอแล้ว นี่เธอควรไว้ใจหรือไงผู้หญิงคนนั้นน่ะ
จนแล้วจนรอดคุยกับยูริจบไปแล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไรเธอได้เลย
แทงกูเลยเล่าให้โบอาและเจสสิก้าฟังจากที่พอจับใจความได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอยู่นานเหมือนกัน
สุดท้ายทั้งสามก็สรุปออกมาได้ว่า ทิฟฟานี่เก่งอยู่ในระดับที่เรียกว่าสูงพอสมควร
ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าสังกัดใครและมีสิทธ์เป็นไปได้ว่าจะไม่ได้เป็นสายให้ใคร แต่ก่อนหน้านั้นมาจากไหนไม่รู้
ยูริเคยทาบทามทิฟฟานี่อยู่พักใหญ่แต่ไม่เป็นผลสุดท้ายก็ตามตื้อจนนางรำคาญเลยไปวางระเบิดไว้รอบคฤหาสน์ (ขอหยุดขำตรงนี้แป๊บ)
และเค้าก็ไม่เคยรับไนท์ช็อต ทำไมมันมีแต่เรื่องทิฟฟานี่ล่ะเนี่ย ทั้งสามคนมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ
จนเจสสิก้าบอกว่าเดี๋ยวจะลองไปถามๆยุนอาดูบ้างเผื่อรายนั้นจะพูดให้เข้าใจได้
"แทง!! ยูริบอกเธอว่าทิฟฟานี่ไม่รับไนท์ช็อต? แล้วคืนนั้น..."
ร่างเล็กคิดตามที่โบอาพูดเธอลืมนึกไปเลยว่าถึงแม้ว่าจะถูกเรียกแต่ถ้าเป็นพวกไม่รับก็หน้าจะบอกกันสิ
"เธอได้มีอะไรกับเค้าหรือเปล่า"
เจสสิก้าถามเสียงแผ่ว ร่างเล็กพยักหน้าช้าๆเป็นคำตอบ โบอาเลยพูดต่อว่าไม่แน่นะจริงๆแล้วเค้าอาจจะอยากเป็นของเธอจริงๆก็ได้
แต่ก็อย่างว่าแหละแค่เรื่องบนเตียงเรายังไว้ใจใครมากไม่ได้ เพราะมันก็ไม่ได้จำเป็นว่าถ้าไม่รับแล้วจะไม่มีสิทธมีอะไรกับคนที่เลือกนิ
เพราะโบอาพอจะรู้เรื่องของทิฟฟานี่มาบ้างแต่ก็ไม่ได้มากมายจนสามารถยืนยันได้ว่าเค้าเป็นใครมาจากไหนไว้ใจได้หรือเปล่า
ก็คงไม่ต่างจากที่คนอื่นรู้เรื่องของแทงกูแค่ผิวเผินนั่นแหละ
แทงกูนั่งมองหน้าต่างแชทที่มีแต่อีกฝ่ายทักมาซะส่วนใหญ่ชั่งใจอยู่นาน
"คิดว่าฉันควรจะลองคุยกับทิฟฟานี่ดูมั้ย"
"เธอจะคุยกับเค้ายังไง"
แทงกูยื่นไอโฟนให้ทั้งคู่ดูแล้วก็บอกไปว่าหลังจากคืนนั้นเธอได้ให้เบอร์ทิฟฟานี่ไว้ แล้วนางก็...นั่นแหละคุยอยู่คนเดียว
ได้ยินโบอาบ่นๆอะไรไม่รู้จับใจความได้ประมาณว่ามีเบอร์เค้าทำไมไม่บอกอะไรแบบนั้นแทงกูเลยทิ้งไอโฟนไว้ปล่อยให้โบอาจัดการต่อไป
ส่วนร่างเล็ดก็เดินมาในห้องโถงกว้างซึ่งเคยใช้เป็นที่ฝึกซ้อมการต่อสู้และตอนนี้มันก็กลายเป็นที่ระบายอารมณ์และความเครียด
ร่างเล็กปล่อยหมัดใส่หุ่นฝึกไม่ยั้งปลดปล่อยความกดดันไปกับหมัดที่ส่งออกไปกระแทกกับหุ่นโลหะตรงหน้า
เจสสิก้าเดินตามคนตัวเล็กเข้ามาเงียบๆ ยืนมองแผ่นหลังที่เริ่มชุ่มเหงื่อโดยทิ้งระยะห่างไว้ไม่ให้แทงกูจับการเคลื่อนไหวได้
เธอรักษาบาดแผลได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะแผลใหญ่แผลเล็กหรือลึกตื้นหนาบาง
แต่สิ่งที่น่าเจ็บใจคือทำไมเธอไม่สามารถรักษาบาดแผลของหัวใจได้บ้าง...
"แทง..." ร่างบางก้าวช้าๆเข้าไปหาคนตัวเล็กเมื่อเค้าเริ่มหยุดและยืนหอบหายใจ โดยไม่ละสายตาออกมาจากหุ่นโลหะตรงหน้านั้น
"มาเมื่อไร"
แทงกูหันมาตามเสียงก็พบว่าร่างบางนั้นเดินเข้ามาซับหน้าซับเหงื่อให้เธอแล้ว เจสสิก้าคอยดูแลเอาใจใส่เธออยู่ตลอดไม่ว่าเมื่อไร
มือบางที่เคยยกขึ้นซับหน้าให้เธอเสร็จแล้วร่างบางก็ยื่นขวดน้ำให้ เธอก็รับมันมาอย่างว่าง่ายเปิดฝาออกแล้วกระดกขึ้นดื่มทันที
มือบางจับเอามือเล็กข้างที่ถือฝาขวดน้ำขึ้นมาช้าๆ ไล้ปลายนิ้วไปตามสันมือที่ขึ้นรอยช้ำแดงมีเลือดซิบออกมานิดหน่อยจนบาดแผลหายไปจนหมด
แทงกูก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซวร่างบางไป "ถ้าไม่มีเธอฉันคงตายไปนานแล้ว" พูดจบก็กระดกขวดน้ำขึ้นดื่มอีกครั้งจนหมด
เจสสิก้ายิ้มรับพลางตีไปที่ไหล่เล็กเบาๆก่อนจะตอบไป "ก็รู้นี่ว่าฉันไม่มีทางยอมให้เธอตายง่ายๆหรอก" แทงกูยักคิ้วกวนๆสองสามที
แล้วเดินไปอีกจุดนึงของห้องมือเล็กเอื้อมไปหยิบมีดมาคู่นึก แต่ก็ต้องชะงักไปพร้อมกับปะทะเบาๆที่แผ่นหลัง
"พอเถอะ เธอเหนื่อยมากแล้วนะ"
ร่างบางกอดเอวคนตัวเล็กไว้แน่นซุกใบหน้าลงกับไหล่เล็กที่ชื้นเหงื่อ แทงกูวางมีดลงกลับที่เดิมช้าๆแล้วพลิกตัวหันกลับมาโอบร่างบางตอบ
"เธอชอบทำให้ฉันอ่อนแอ"
เสียงงุงงิงดังเร็ดลอกออกมาจากใบหน้าที่ซุกอยู่กับลำคอระหง เจสสิก้าหัวเราะออกมาเบาๆ
ถึงเค้าจะพูดแบบนั้นหรือใครจะว่าเพื่อนตัวเล็กของเธออ่อนแอยังไงเธอไม่สนหรอก เพราะสำหรับเธอแล้วเค้าเข้มแข็งที่สุด
"ถ้าเธออ่อนแอ เธอคงแบกรับปัญหาที่มากมายขนาดนั้นไว้ไม่ได้หรอกนะ"
กำลังใจเล็กๆเพื่อนรักนั้นพาเอาคนที่ว่าเข้มแข็งนั้นถึงกับน้ำตาซึม
ผ่านไปชั่วโมงกว่าแทงกูและเจสสิก้าก็เดินกลับออกยังที่ที่โบอานั่งอยู่ หญิงสาวเห็นก็รีบกวักมือเรียกคุณน้องสุดที่รักทั้งสองคนให้มาดูที่จอโน๊ตบุ๊คด้วยกัน
สีหน้าทั้งสามคนดูเคร่งเครียดยิ่งเห็นก็แทบกุมขมับไปไปมามาแผนของยูริเริ่มไม่เหมือนเอาชีวิตไปทิ้งและมันเหมือนจุดไฟเผาตัวเองเลยมากกว่า
Rrrr
แทยอนละสายจากหนังสือตรงหน้าหันมามองลูกรักที่กำลังกรีดร้องให้เธอสนใจมันอยู่นั้น
พอได้เห็นรายชื่อว่าเป็นใครที่โทรเข้ามามุมปากก็กระตุกยกขึ้นสูงทันที
ไม่ปล่อยให้เสียเวลามือเล็กรีบคว้าเอาเจ้าไอโฟนเครื่องหรูขึ้นมาและกรอกเสียงหวานไปตามสายทันที
นั่งคุยกับคนในสายอยู่ครู่นึงก็จับใจความได้ว่าเค้าจะชวนออกไปกินข้าวเพราะเค้าเพิ่งเลิกเรียน
"ยุนอาโทรมาเหรอ ยิ้มแก้มปริเชียวนะ"
เจสสิก้าก็อดแซวไม่ได้เมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวเล็กของเธอนั้นคุยโทรศัพท์เสร็จก็นั้งอมยิ้มราวกับคนกำลังมีความรักอย่างนั้นแหละ
จะว่าไปเธอก็ไม่ได้เห็นแทยอนเป็นอย่างนี้มานานแล้วนะ
ก็ตั้งแต่ร่างเล็กเลิกรากับแฟนสาวคนล่าสุดเพราะเหตุผลบางอย่างที่เลี่ยงไม่ได้นั้นแทยอนก็แทบจะไม่สนใจใครที่ผ่านเข้ามาอีกเลย
อาจจะเป็นเพราะเราเอาแต่อยู่ด้วยกันสองคนด้วยหรือเปล่าไม่แน่ใจ
"อืม ชวนไปกินข้าว เอาอะไรเปล่า" แทยอนหันมาตอบยิ้มๆ เจสสิก้าส่ายหน้าเบาๆเชิงว่าไม่เอาอะไรหรอก
"อ่อ..นี่เธอคบกันหรือยังเนี่ย"
อดสงสัยไม่ได้เพราะเธอกับสเตฟานี่ยังไม่ดูจะหวานเยิ้มอะไรขนาดนี้เลย
คงเป็นเพราะยุนอานั้นคอยตามเอาใจแทยอนอยู่เรื่อยๆแทบจะทุกนาทีที่มีโอกาสด้วยล่ะมั้ง
ผิดกับเสเตฟานี่อยู่หน่อยเพราะรายนั้นเค้าจะดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าการเอาใจเลยดูจะเบี่ยงเบียนไปได้ทางหื่นๆซะส่วนใหญ่
แต่ถ้าคิดเล่นๆนะว่าสลับกันเป็นยุนอาจีบเธอแล้วแทยอนคบกับสเตฟานี่นะจะเป็นอะไรที่ลงตัวมากเลยล่ะ
เพราะจริงๆแล้วเธอชอบคนนิสัยแบบยุนอามากกว่า
เด็กๆซื่อๆน่ารักๆคอยตามเอาใจนั่นแหละแบบที่เธอชอบ
ซึ่งตรงข้ามกับแทยอนแว๊บเดียวเธอก็รู้แล้วว่าสเตฟานี่น่ะสเป็คแทยอนเต็มๆชัดๆเน้นๆเลยล่ะ
สวยๆดูผู้ใหญ่ๆหน่อยแต่คุยเก่งหื่นๆยั่วเก่งๆออกจะแรงๆบ้าง นั่นแหละสเป็คมันเลย
พอเธอถามมันไปแบบนั้นมันก็หันมาตอบหน้าตายกลับมาว่าไม่รู้ซะงั้นเลย แล้วยังจะมาหัวเราะอีกนั่น เธอรู้ว่าแทยอนมันไม่รีบหรอกเรื่องแบบนี้อ่ะ
เพราะเอาจริงๆแล้วที่มันคบๆมาแต่ละคนดูไม่เห็นจะเหมือนแฟนกันสักเท่าไรเลยเหมือนคู่ควงเล่นมากกว่าได้กันเบื่อแล้วก็เปลี่ยนคนอะไรแบบนั้น
แต่อย่าว่างั้นงี้เลยนั้นเห็นนังแทยอนมันเจ้าชู้หน้าม่อกระล่อนยังไงนะมันก็ไม่เคยทิ้งใครก่อนเลยนะมีแต่มันนั่นแหละที่โดนทิ้ง
"เออ ฉันว่าน้องมันก็ดูรักแทดีออก หายากนะเว่ยที่จะมีใครมาเข้าใจเธอแบบนี้ิอ่ะ"
"แรกๆก็งี้ทุกคน"
"เออว่ะ เอาเหอะๆ มันมาโน้นและ โทรมาทำไมวะ ไม่มาหาตั้งแต่แรก" เจสสิก้าตัดบทเมื่อเห็นร่างสูงที่กำลังจอดมอเตอร์ไซคันโตอยู่นั้น
"เออคิดอยู่" แทยอนก็แอบคิดอยู่แล้วแหละว่าจะมาหาเลยก็ได้ ไม่เห็นจะต้องโทรมาก่อนเลย
เพราะปกติยุนอาก็มาหาเธอทุกวันอยู่แล้วนิ
"นี่..ชวนสาวไปกินข้าว แต่เอามอเตอร์ไซมารับเนี่ยนะ"
แอบจิกแขวะเสียงแหลมทันทีเมื่อเหลือบเห็นว่าเด็กร่างสูงนั้นแว๊นมอเตอร์ไซคันโตมาหาเพื่อนสาวเธอที่ร้าน
"โหยพี่สิก้าเปลี่ยนบรรยากาศมั่งเหอะ ใช่ไหมคะที่รัก"
"หึ้มม ไม่อ่ะ ร้อน" แทยอนเบ้ปากใส่คนตัวสูงเล็กน้อยก่อนที่สองสาวจะพร้อมใจกันหัวเราะทิ้งท้าย
"โหยงั้นกลับไปเอารถยนต์ก็ได้ ชิส์"
ร่างสูงยู่ปากใส่สองสาวพลางหมุนตัวกำลังจะเดินออกไปจากร้าน แต่มือเล็กก็คว้าเอาข้อมือเธอไว้เสียก่อน
"ไม่ต้อง จะไปๆมาๆทำไม"
"เอ้า ก็เดี๋ยวพี่ไม่ไปด้วย"
"เอารถพี่ไปก็ได้"
"งั้นเดี๋ยวยุนขับให้นะ"
"ไม่ต้อง" พูดจบร่างเล็กก็สะบัดก้นเดินฉับๆออกไปที่รถโดยมีเด็กร่างสูงเดินตามต้อยๆ ก่อนที่รถคันหรูของแทยอนจะพุ่งไปด้วยความเร็วสูง
ระหว่างทางยุนอาก็เอาแต่บ่นว่าเมื่อไรแทยอนจะเลิกขับรถเร็วสักทีและบอกให้ขับช้าๆลงหน่อย
ไม่ใช่อะไรเธอแค่เป็นห่วงไม่ว่าจะขับคนเดียวหรือมีใครนั่งไปด้วยก็เถอะนะ
แต่มีเหรอคนอย่างแทยอนจะฟัง ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ นอกจากไม่ผ่อนความเร็วลงยังเหยียบคันเร่งให้จมลึกลงไปอีก ยุนอาจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ที่นี่แหละ" ยุนอาว่าพลางเปิดประตูก้าวลงจากรถ ก็ตอนที่โทไปชวนแทยอนน่ะเธอได้โม้เอาไว้ว่า อยากจะพามาร้านนี้
เพราะคิดว่าแทยอนน่าจะชอบมากแน่นอนเพราะตั้งแต่รูปร่างและบรรยากาศของร้านรวมไปจนถึงอาหารของที่นี่
"เหรอ พี่มาบ่อยนะเมื่อก่อน"
"ง่า..งั้นเปลี่ยนร้าน"
"ที่นี่แหละดีแล้ว"
ไม่รอให้คนตัวสูงได้พูดอะไรหรือถามอะไรออกมาอีก แทยอนก็เดินนำเข้าร้านไปทักทายกับเจ้าของร้านเล็กน้อย
ก่อนที่เจ้าของร้านนั้นจะเดินออกมาจากเค้าเตอร์เพื่อบริการสาวร่างเล็กด้วยตัวเอง ยุนอาก็เพียงแค่เดินตามทั้งคู่เข้าไปเงียบๆ
ไม่คิดว่าเจ้าของร้านอาหารหรูแห่งนี้จะสนิทสนมกับคนตัวเล็กขนาดนี้
เพราะฟังจากคำทักทายและประโยคที่ทั้งคู่คุยกันนั้นถ้าไม่สนิทกันจริงๆแทยอนคงไม่พอใจและเหวี่ยงใส่ไปแล้ว
ระหว่างที่นั่งรออาหารมาเสริฟหลังจากที่แทยอนได้ร่ายเมนูโปรดไปเสียยาวยืดแต่สุดท้ายก็เลือกแค่ไม่กี่อย่าง
เพราะแทยอนเองก็ใช่ว่าจะกินอะไรได้มากมายถึงแม้ว่าจะมียุนอาช่วยกินก็เถอะถ้าสั่งมาทั้งหมดที่ร่ายไปตอนแรกมีหวังคงได้เก็บกลับไปฝากพนักงานที่ร้านแน่ๆ
แทยอนและยุนอาก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยแต่ส่วนมากจะเป็นยุนอาถามะะะเรื่องที่ร่างเล็กนั้นสนิทกับเจ้าของร้านเสียมากกว่า
แล้วยุนอาก็ได้คำตอบว่าเป็นเพราะเมื่อก่อนแทยอนมากินข้าวที่นี่ประจำจนสนิทกับเจ้าของร้านที่เป็นแม่ของรุ่นน้องที่เคยสนิทสนมกันนั่นแหละ
แต่ก็หายหน้าไปไม่ได้มาอีกเพราะเหตุผลบางอย่างชึ่งแทยอนไม่ได้บอกมา และยุนอาก็ไม่ได้คิดจะซักไซร้อะไรให้คนตัวเล็กรำคาน
บทสนทนาของทั้งคู่ก็ต้องหยุดลงเมื่อจู่ๆแทยอนก็ชะงักนิ่งไปราวกับโดนสะกดให้กลายเป็นหินเสียอย่างนั้น
สายตาก็จ้องมองผ่านไหล่ของร่างสูงไปอย่างห้ามไม่ได้แถมแววตายังดูมีประกายบางอย่างอยู่ด้วย
จนยุนอาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามต้องหันไปมองบ้างเพราะอยากรู้ว่าแทยอนนั้นเห็นอะไรถึงได้นิ่งไปขนาดนั้น
และร่างสูงก็แทบจะชะงักตามเมื่อได้เห็นเรือนร่างระหงแสนคุ้นตาเดินนวยนาดเข้าร้านมา
เจ้าของใบหน้าสวยจัดนั้นเหลือบมองไปยังยุนอาและแทยอนเล็กน้อยภายใต้กรอบแว่นสีชาสุดหรู
คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างแปลกใจก่อนจะเดินตรงไปที่โต๊ะที่ทั้งคู่นั่งอยู่เพื่อทักทายตามประสาคนเคยสนิทกัน
"มาได้ไงเนี่ย" ยุนอาเอ่ยถามเจ้าร่างระหงที่เดินมาหยุดที่หน้าโต๊ะพลางโปรยรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์จนแทยอนถึงกับแอบกลืนน้ำลาย
แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่ยุนอาทักหญิงสาวคนนี้ราวกับสนิทสนมกัน หรือเคยไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างนั้นแหละ
"ฉันต้องถามเธอมากกว่ามั้ง...ว่าแต่..แฟนใหม่เหรอ" หญิงเอ่ยกลั้วหัวเราะเบาๆพลางหันมาส่งยิ้มหวานให้กับแทยอนหลังจากจบประโยค
"เป็นแฟนป่ะคะ ที่รัก"
ยุนอาเลยถือโอกาสนี้ถามคนตัวเล็กอีกครั้งซะเลยแต่แทยอนก็ไม่ได้ตอบอย่างชัดเจนเธอเพียงแค่ยิ้มบางๆกลับไป
สายตาก็ยังไม่ละออกจากใบหน้าเรียวนั้น แม้จะมีแว่นกันแดดขัดลูกหูลูกตาอยู่
แต่มันก็ไม่สามารถบดบังความสวยงามประดุจผลงานศิลปะชั้นเยี่ยมของใบหน้าเรียวนั้นได้มิด
"ฉัน ทิฟฟานี่ค่ะ แล้วคุณ..."
ร่างบางหันมายิ้มหวานให้แทยอนต้องพยามเก็บอาการ ..ทำไมเค้าช่างมีเสน่ห์ดึงดูดสายตาเธอแบบนี้นะ
เสียงหวานเอ่ยแนะนำตัวออกมาก่อนที่ร่างเล็กจะรีบตอบกลับไปทันควัน
"แทยอน ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" ไม่รอให้เสียเวลาเพราะต่อมคลาสโนวี่ที่เคยหลับไหลไปนาน
มันได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แทยอนรีบเอ่ยแนะนำตัวกลับทันที
พร้อมยื่นมือเล็กออกไปเพื่อแสดงความยินดีในแบบสากล เพื่อหวังจะได้จับมือเค้านั่นเองหรือเรียกง่ายๆว่าเป็นการเปิดทางให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าเธอกำลังสนใจเค้าอยู่
"เช่นกันค่ะ" ทิฟฟานี่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไรยื่นมือเรียวมาสอดเข้ากับมือเล็กของแทยอนไว้แนบชิดอย่างไม่รังเกียจมันอาจจะเป็นการจับมือที่ลึกซึ้งมากกว่าการยินดี
แต่ไม่มีทางที่ยุนอาจะรู้และเข้าใจเพราะร่างสูงนั้นไม่ได้เป็นคนรับสัมผัสที่แนบแน่นในฝ่ามือนั่นเอง
"ทานด้วยกันมั้ยคะ" ว่าแล้วก็พยามหาเรื่องให้ได้อยู่ใกล้คนสวยให้มากขึ้น
นัยน์ตาสีแอลม่อนก็พยามสบลึกเข้าไปในดวงตาเรียวสวยภายใต้กรอบแว่นสีชานั้นอย่าไม่ปิดบัง
"อ่อ..ม..ไม่ดีกว่าค่ะ พอดีฉันติดธุระน่ะค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ"
ทิฟฟานี่รีบปฏิเสธไปเธอไม่อาจมั่นใจได้ว่าแทยอนพยามจะสื่ออะไรทั้งสีหน้าแววตาท่าทางรวมไปถึงคำพูดเชิญชวนแบบนั้น
ถ้าคิดแบบเข้าข้างตัวเองก็คงไม่ต่างอะไรจากเค้าสนใจเธอ แต่จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไรกันแค่ดูก็รู้แล้วว่าแทยอนน่าจะคบหาอยู่กับยุนอา
แล้วเค้าจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไรกันล่ะ ...อยากจะเล่น'ชู้'กับเธองั้นเหรอ บ้าน่าแทยอนคงไม่คิดอะไรบ้าๆแบบนั้นหรอก
"แล้วนี่มาคนเดียวเหรอ" ยุนอาถามขึ้นพลางหันซ้ายหันขวามองดูว่าสาวเจ้านั้นมาคนเดียวแน่ๆหรือเปล่า
"อื้มมาคนเดียวสิแต่ต้องไปแล้วล่ะ ขอตัวก่อนนะคะแทยอน" ทิฟฟานี่เหลือบมองเวลาก่อนจะเอ่ยขอตัวออกมาทันที
แทยอนรับคำสั้นๆพลางยิ้มส่งหวาน ให้เค้าไปทีนึง แล้วตามแผ่นหลังของร่างบาง จนเค้าผลักประตูร้านให้เปิดออกและก้าวออกไปนั่นแหละ
"คนนี้ใครเหรอเพื่อนยูล?" ว่าแล้วก็หันกลับมาถามเด็กร่างสูงจากความสนใจส่วนตัวล้วนๆ
"อ่อ..เอ่อ..ฟ/พูดออกเมื่อไรเรียกนะ" เมื่อเห็นว่ายุนอาอั้มๆอึ้งๆจึงเอ่ยตัดบทไปก่อนเพราะเธอไม่อยากรอลุ้นมาก
"ฟ..แฟนเก่า"
พอได้รับคำตอบแทยอนก็เลิกคิ้วขึ้นสูงทันที แอบตกใจเบาๆยุนอาเคยมีแฟนสวยขนาดนั้นเลย.. ถึงจะอยากรู้ว่าเค้าไปคบกันได้ไง
แต่ก็คิดว่าไม่ถามน่าจะดีกว่า แล้วเปลี่ยนเป็นมาถามตัวเองว่าอย่างเธอจะเอาอะไรไปสวยสู้ทิฟฟานี่ได้ล่ะ
"สวยล่ะสิ พี่ยูลยังเกือบจีบเลยตอนแรกที่ยังไม่รู้อ่ะ"
"อืมก็สวยกว่าพี่อ่ะ" เธอยอมรับจากใจเลยแหละไม่ได้คิดจะประชดด้วยเพราะเธอเองก็ยังเผลอมองเค้าไปอย่างสนใจขนาดนั้น
และก็ไม่แปลกใจด้วยที่ยูริยังเกือบจะจีบเค้า แหมของสวยๆงามแบบนั้นใครเห็นก็อยากได้กันทั้งนั้นแหละ
"โหยย อย่าพูดอย่างนั้นสิพี่แทสวยกว่าเห็นๆ"
"เห็นอะไร พูดความจริงบ้างเหอะ"
"ความจริง..ยุนรักพี่ไง"
แทยอนนิ่งไปไม่รู้จะตอบยังไงต่อเลยได้แต่ยิ้มเขินๆส่งกลับไปให้ร่างสูง เค้าก็กัดปากตัวเองยิ้มๆพร้อมส่งสายตาวิบวับกลับมา
ทั้งๆที่สมองเธอกำลังคิดเรื่องแย่ๆแบบนั้นอยู่แต่ในขณะเดียวกันยุนอากลับบอกรักเธอเสียอย่างนั้น แบบนี้เธอจะไปไหนรอดล่ะ
นั่งเงียบไปจนอาหารมาเสิร์ฟนั่นแหละ ถึงได้มีคุยกันเรื่องอาหารบ้างนิดๆหน่อยๆ
From...Writer
แทงกูไม่ฆ่าเธอหรอก..เชื่อฉันสิ จำไว้ให้ขึ้นใจเลยนะทิฟฟานี่ 555
ใครว่าแทงกูเลือดเย็น...ทิฟฟานี่คนนึงแหละที่คิดว่าแทงกูใจดี(หรือเปล่า)
นั่นๆแทยอนออกลายแล้ววว หุหุ
อย่าๆคิดนะว่าจะมีใครเป็นคนดีได้ตลอดไปน่ะ แอร๊ยย
ปล.สำหรับเรื่องคำผิดนะคะยังมีอยู่อีกเยอะแยะ 5555+ บางคำบีมก็ตั้งใจใช้วิบัติเพื่อสื่อถึงอารมณ์ตัวละคร
แต่บางคำก็อาจจะพลั้งมือพิมพ์ผิดไป 555+ ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ แฮ่
ขอให้มีความสุขกับฟิคร่าา
ความคิดเห็น