ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ۞ Amulet Classic ۞ [Chapter I ]
Chapter I
แสนแดดอ่อนๆของเช้าวันเสาร์แบบนี้มันช่างเหมาะแก่การออกไปขับรถเล่นยิ่งนัก
ร่างสูงกับมอเตอร์ไซคันโตสีขาวคู่ใจ ที่กำลังแล่นไปตามท้องถนนอย่างสบายใจ
วันนี้ไม่รู้อารมณ์อะไรชักนำให้คนแบบยุนอาตื่นเช้าแบบนี้ทั้งๆที่มันเป็นวันหยุด
ซึ่งปกติแล้วเธอก็จะนอนขึ้นอืดอยู่บ้านจนเกือบๆเที่ยง
"หือ..นั่นร้านอะไรน่ะ แถวนี้มีร้านแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย"
บนพึมพัมกับตัวเองเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นฝั่งตรงข้ามมีร้านอะไรไม่รู้แต่ดูโดยรวมแล้วหน้าจะเป็นร้านกาแฟนะ
ยุนอาพยามหาที่ยูเทิร์นรถเพื่อจะไปดูร้านที่ว่านั่นมองแล้วมันสะดุดตาจนอยากเข้าไปนั่งเล่นในนั้น
"หรือว่าเป็นเพราะปกติแล้วไม่ค่อยจะได้มาแถวนี้ก็เลยไม่เคยเห็นงั้นเหรอ หรือเค้าเพิ่งเปิด"
ร่างสูงยังคงแปลกใจทั้งๆที่ร้านนั่นมันก็ไม่ได้อยู่ไกลจากบ้านเธอเลย แต่เธอกลับไม่เคยรู้ว่ามีร้านสวยๆ(?)แบบนี้อยู่
ไม่นานยุนอาก็หาที่ยูเทิร์นรถได้ ไม่รอช้ารีบบิดมอเตอร์ไซคันโปรดด้วยความเร็วสูง
แล้วเลี้ยวเข้าไปจอดหน้าร้านนั้นทันที
เธอถอดหมวกกันน็อคแล้วกวาดสาตามองไปในร้านนั่นอย่างตื่นตาตื่นใจ ร้านที่มีกระจกใสล้อมไว้เพียง2ด้าน
แต่เอ๊ยย แล้วทำไมด้านนั้นมีครึ่งเดียว แถมทรงร้านยังแปลกๆอีก เหมือนส่วนที่ต่อจากกระจกครึ่งบานไปนั้น
จะหักทแยงมุมเยื้องออกมา นิ้วเรียวถูกยกขึ้นแตะริมฝีปากสวยครุ่นคิดไปกับความแปลกตา
หรือเอาง่ายๆว่าประหลาดมากกว่า
เหมือนจะดูคลาสสิคธรรมชาติๆเก่าๆเหมือนจะแต่งให้เป็นสไตล์ย้อนยุค แต่มันกลับดูโมเดิลไม่น้อย
ไม่สิต้องเรียกว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้มันมีทั้งแบบย้อนยุคและแบบโมเดิลมากกว่าแต่มันกลับดูเข้ากันได้ซะงั้นเลย
"Archer Coffe เหรอ ชื่อร้านเหรอเนี่ย คนคิดเขาคิดออกมาจากสมองส่วนไหนนะ ไม่เห็นมันจะดูเป็นเรื่องเดียวกันเลย"
ร่างสูงเงยหน้าขึ้นอ่านป้ายชื่อร้านซึ่งคาดว่าหน้าจะทำจากแก้วผ่านการใช้ฝีมือเปลี่ยนรูปร่างจนกลายเป็นตัวอักษร
และที่สะดุดตานั้นเห็นจะเป็นน้ำสีขาวขุ่นราวกับน้ำนมที่ไหลเวียนอยู่ในหลอดแก้วใส
เมื่อสำรวจหน้าร้านจนพอใจแล้วมือเรียวก็พลักประตูเข้าไปในร้าน
"สวัสดีค่ะ..เชิญค่ะ"
เสียงเล็กๆออกมาจากเค้าเตอร์ทรงกลมที่ตั้งอยู่กลางร้านแล้วรอบๆเค้าเตอร์นั้นก็มีเก้าอี้เดี่ยวให้นั่งเรียงรอบๆ
ร่างสูงเลือกที่จะนั่งแถวนั้นเพื่ออาจจะได้ถามอะไรที่เธออยากรู้เกี่ยวกับร้านแห่งนี้
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเพียง8โมงหน่อยๆแต่ก็มีคนมานั่งที่ร้านนี้หลายโต๊ะอยู่เหมือนกัน
พนักงานเสิร์ฟเดินไปมาคอยเทคแคร์ลูกค้าราวกับถูกอบรมมาอย่างดี
"รับอะไรดีคะ" หญิงสาวเอ่ยถามขึ้นเพราะเค้าคงเห็นว่าร่างสูงเดินเข้ามานั่งอยู่ครู่นึงแล้ว
หลังจากที่เธอกวาดสายตาดูเมนูที่มากมายจนตาลายแล้วก็ตัดสินเลือกสั่งช็อคโกแล็ตปั่น
เพราะมันน่าจะเป็นอะไรที่เธอชิมแล้วพอจะประเมินได้ว่ามันอร่อยมากน้อยแค่ไหนกับที่เคยชิมมา
"เอ่อ..โทษนะคะร้านนี้เปิดมานานแล้วเหรอคะ"
เอ่ยถามอีกฝ่ายที่เพิ่งยกแก้วช็อคโกแลตปั่นมาวางตรงหน้า
"ก็..สี่ปีกว่าเห็นจะได้แล้วล่ะค่ะ"
เสียงเล็กแหลมเอ่ยตอบคำพลางยิ้มหวานให้ผู้เป็นลูกค้า ยุนอาที่ได้รับคำตอบมาก็คิ้วพันกันเป็นปมใหญ่
เปิดมานานขนาดนี้แต่เธอดันเพิ่งมาเคยเห็นเนี่ยนะ แล้วร้านมันก็ออกจะตั้งอยู่เด่นหลางามสง่าขนาดนั้น
"ว้าว...นานเหมือนกันแหะ ว่าแต่พอจะถามอะไรเกี่ยวกับร้านนี้หน่อยได้ไหมคะ"
ยุนอาเอ่ยเสียงร่าเริงตามปกติพลางมองไปทั่วๆร้านอย่างสนใจไม่น้อย
"ได้สิคะ...ฉันยินดีตอบ" เสียงเล็กเอ่ยอย่างเป็นมิตรพร้อมยิ้มหวานตามปกติที่ทำทุกวันกับลูกค้า
"ได้แบบร้านมาจากไหนอ่ะคะ" คำถามแรกที่วิ่งวนอยู่ในสมองตั้งแต่แรกเห็นถูกถามออกไปอย่างไม่ลังเล
"เพื่อนฉันออกแบบเองค่ะ..อ๊ะ มาพอดีเลย...เตี้ยย"
เสียงแหลมๆเอ่ยก่อนจะหันไปเจอกับร่างของเพื่อนสาวตัวเล็กที่วันนี้ดันป่วย
เธอเลยจำต้องรีบตื่นมาเฝ้าร้านตอนเช้าแทน ว่าแล้วก็กวักมือเรียกมัน
"หือ..ว่าไงสิก้า" แทยอนเอ่ยเสียงแผ่วสั้นๆพลางเดินมานั่งลงข้างๆร่างบางของเจสสิก้า
ถึงอาการป่วยของเธอจะดีขึ้นบ้างแล้วแต่ใบหน้าใสนั้นก็ยังคงดูซีดเซียวกว่าปกติอยู่ดี
ดวงตาเรียวเบียนสายตาจากใบหน้าสวยของเพื่อนสาวไปยังลูกค้าหน้าตาดี
ที่นั่งจ้องหน้าเธออยู่ตั้งแต่ที่เธอเพิ่งจะเดินออกมาจากหลังร้านก่อนจะเลิกคิ้วแล้วหันกับไปมองหน้าเจสสิก้า
เชิงบอกให้สาวเจ้าอธิบายว่าเรียกเธอมาเพื่ออะไรวะคะ
"เอ่อ..คือ..ว่า..ฉัน..สนใจ..แบบร้านเนี่ยอ่ะค่ะ" ยุนอานิ่งไปเล็กน้อยหลังจากเห็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนออกแบบร้าน
ก็แทบช็อคพูดตะกุกตะกักเธอดูจะตกใจไม่น้อยเลยก็สาวร่างเล็กที่เพิ่งเดินมาน่ะสิ
หน้ายังกับเด็กมัธยมแถมตัวก็เล็กๆผิวขาวๆนั่นอีกจะไม่ให้เธอตกใจได้ยังไงล่ะ
อีกอย่างคือทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่าเค้าช่างบอบบางน่าถนุถนอมดูแลขนาดนี้นะแต่เค้าก็ดูน่ารักดีนะ
"อ่ออ..ค่ะฉันออกแบบและตกแต่งมันค่ะ " แทยอนเอ่ยพลางยิ้มบางๆให้กับร่างสูงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
"เอ่อ..ลืมไปเลยค่ะฉัน ยุนอา อิม ยุนอา นะคะยินดีที่ได้รู้จัก" ยุนอาพยักหน้ารับพร้อมส่งยิ้มหวานไปให้อีกฝ่าย
ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าควรจะทำความรู้จักกับคนในร้านนี้ไว้บ้างจึงรีบเอ่ยแนะนำตัวทันที
เพราะอาจจะได้ถามถึงสิ่งที่อยากรู้อีกมากมายเกี่ยวกับร้านแห่งนี้
"ฉันเจสสิก้า จอง เจสสิก้า ส่วนเพื่อนฉันนี่แทยอน คิม แทยอน ค่ะยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ"
เจสสิก้าเอ่ยแนะนำตัวเองบ้างโดยที่ไม่ลืมจะหันไปแนะนำเพื่อนตัวเล็กด้วย
แต่ก็อดตะงิดๆในใจไม่ได้ว่ายุนอานี่ใช่คนเดียวกับที่เธอพอจะรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเค้าหรือเปล่า
แต่เท่าที่เคยเห็นเค้าผ่านๆมันก็น่าจะคนเดียวกันสิ น่าแปลกที่เค้าทำราวกับว่าเค้าไม่รู้จักเธองั้นแหละ
ยุนอาขมวดคิ้วเล็กน้อยทันทีที่ได้ยินชื่อ คิม แทยอน เพราะรู้สึกว่าชื่อนี้มันคุ้นๆยังไงชอบกลนะ
ก็แค่รู้สึกว่าคุ้นเท่านั้นแหละไม่ได้คิดอะไรให้มากมาย
แต่เจสสิก้าเนี่ยสิคนเดียวกับเพื่อนสนิทของแทงกูแน่ๆเธอจำได้แม่นเลยล่ะตั้งแต่ครั้งนั้น
ที่แทงกูเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้เธอก็เห็นว่าเจสสิก้านั้นจะอยู่ข้างๆแทงกูตลอด
"ค่ะ..เอ่อ..ดูแล้วคุณ..2คนหน้าจะเป็นเจ้าของร้านใช่ไหมคะ"
ยุนอาเอ่ยถามพลางยกมือลูบคางมนเล็กน้อย จน2สาวที่นั่งฝั่งตรงข้ามพยักหน้าเบาๆพร้อมยิ้มหวานกลับมา
แทยอนหันไปบอกเพื่อนสาวสุดที่รักให้ชงกาแฟให้หน่อยแล้วก็หยิบหนังสือเล่มหนาขึ้นมาอ่าน
ยุนอาแอบเหลือบตามองเล็กน้อยอดอยากรู้ไม่ได้ว่าร่างเล็กนั้นอ่านหนังสืออะไร
แต่เมื่อได้รู้แล้วก็ต้องแอบงงอยู่ในใจไม่น้อยที่เห็นว่าคนตัวเล็กอ่านหนังสือประวัติศาสตร์เนี่ยนะ ให้ตายเถอะ
ออกอาการมึนๆกับตัวเองอยู่ครู่ร่างสูงก็กลับมาให้ความสำคัญกับการดูร้านอีกครั้ง
มุมนั้น..ทำไมกำแพงเหมือนโดบทุบเลยแหะ แต่ก็ดูเหมือนจะตั้งใจให้กำแพงมันเป็นช่องๆ
"แล้วคุณอยู่แถวนี้หรือเปล่าคะหรือว่าเพิ่งมาอยู่ใหม่ ไม่เคยเห็นผ่านมาแถวนี้เลย"
เจสสิก้าที่กำลังยืนหันหลังชงกาแฟอยู่อีกฝั่งของเค้าเตอร์หันกลับมาถามร่างสูง
ที่ยังคงนั่งกวาดสายตามองภายในร้านอย่างเพ้อๆอยู่ ความจริงแล้วเธอรู้ดีเลยแหละว่าบ้านเค้าอยู่ที่นี่ใกล้ๆนี้เอง
"ฉันแทบจะโตที่นี่เลยล่ะค่ะ บ้านฉันอยู่ใกล้ๆนี่เองเพียงแต่ฉันไม่ค่อยได้ผ่านถนนเส้นนี้น่ะค่ะ
ตอนแรกที่เห็นร้านนี้ก็แปลกใจอยู่ไม่น้อยเลยที่มีร้านสวยๆแบบนี้อยู่ใกล้ๆบ้าน"
ร่างสูงตอบยิ้มๆพลางใช้ความคิดเล็กน้อยว่าคนตัวเล็กที่นั่งตรงหน้าเธอนั้นจะอายุเท่าไร
แต่ถ้าให้เดาจากใบหน้าและรูปร่างเธอไม่สามารถมองให้เกินเด็กอายุ17 18ได้เลย
แล้วริมฝีปากบางๆนั้น ทำไมมองแล้วถึงได้รู้สึกว่าเหมือนเคยเห็นอยู่บ่อยๆนะ
ไม่นานแก้วเซรามิคสกีนรวดลายกราฟฟิคที่มีกาแฟร้อนๆอยู่ก็ถูกวางตรงหน้าแทยอน
ก่อนที่เจสสิก้าจะหย่อนตัวนั่งลงข้างๆร่างเล็กพร้อมกับแก้วกาแฟเย็นของตัวเอง
ร่างสูงเผลอสูดลมหายใจเข้าปอดแรงกว่าปกติเนื่องจากความหอมกรุ่นจากแก้วกาแฟ
ของหญิงสาวทั้ง2คนนั้นโชยมาเตะจมูกโด่งๆของเธอ
"ไม่ว่าจะดูตรงใหนยังไงคุณก็ออกแบบร้านได้เจ๋งมากๆเลยค่ะ...ฉันชอบมากๆเลย"
ยุนอาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้รู้สึกเหมือนตัวเองได้เจอร้านในฝันอะไรขนาดนี้
ไม่ว่าจะมองไปทางไหนมุมไหนมันก็ถูกใจเธอไปหมดเลย
จนเธอแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอหันไปหันมาจ้องทางไหนบ้างและนานเท่าไรแล้ว
"เอ่ออ..คุณคะ.." มือเล็กโบกไปมาเล็กน้อยเมื่อเธอรู้สึกว่าร่างสูงนั้นจ้องหน้าเธอนานเกินไปแล้ว
"อ่ะ..เอ่อ..ข..ขอโทษค่ะ พอดีคิดอะไรอยู่เพลินๆ"
เมื่อเรียกสติกลับมาได้ก็รีบขอโทษเป็นการใหญ่ที่ทำตัวเสียมรรยาท ไปจ้องหน้าเค้าซะขนาดนั้น
แต่ที่แปลกก็คือทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่าคนตัวเล็กตรงหน้านี้เค้าดูคุ้นตาเธอแบบนี้นะ
นี่เราเคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่านะ
"ทำไมคุณถึงสนใจแบบของฉันล่ะคะ...เชื่อมั้ยไม่เคยมีใครบอกแบบนี้เลย "
เสียงติดจะแหบๆเล็กน้อยเนื่องจากพิษไข้ เอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยความสงสัยไม่แพ้กัน
เพราะปกติแล้วก็จะมีแต่คนบอกว่าแปลกดี
มาชมว่าเธอเก่งอย่างนั้นอย่างนี้แต่ไม่ยักกะมีใครมาสนใจจริงๆจังๆแบบนี้เลยนะ
"คาดว่า...ฉันก็คงชอบที่มันแปลกเนี่ยแหละค่ะ จริงๆแล้วก็อยากถามเหมือนกันนะคะว่า
ได้แบบมายังไง คิดถึงอะไรตอนที่ออกแบบ"
คำตอบที่เหมือนเป็นคำถามของร่างสูงทำให้คนตัวเล็กนั้นแปลกใจไม่น้อย
เธอไม่เคยเจอใครถามลึกซึ้งถึงตอนที่ออกแบบอย่างนี้มาก่อนเลย
เฮ่ย..เดี๋ยว คิม แทยอน เหรอ...ริมฝีปากนั้นมัน..ชอบคิดทำอะไรแปลกๆแหวกแนว....!!!
ความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวนั้นพาให้ยุนอาสะบัดหน้าหันขวับกลับมองใบหน้าใสที่ตอนนี่ดูติดๆจะซีดเซียวเล็กน้อย
"เอ่อ..พ...พี่แท..เหรอ"
ยังไม่ทันที่จะมีใครได้พูดอะไรออกมาอีกจู่ๆร่างสูงก็เอ่ยออกมาลอยๆเสียงแผ่ว
เล่นเอาเจ้าของชื่อขมวดคิ้วเป็นปมใหญ่มองใบหน้าดูดีนั้นอย่างงงๆ
"อ่า..พี่แทยอนเคยมีเพื่อนชื่อยูลใช่มั้ยคะตอนเด็กๆน่ะ"
เมื่อได้สติร่างสูงก็รีบเอ่ยต่อ เพราะถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้
มีหวังคนตัวเล็กนี่ได้ปีนข้ามเค้าเตอร์มาหาเธอแน่ๆ ก็เล่นจ้องเธอซะขนาดนั้น
จนเธอแอบรู้สึกว่าก้อนเนื้อเล็กๆในอกข้างซ้ายของเธอนั้นมันเริ่มจะออกอาการเต้นผิดจังหวะขึ้นมา
แทยอนครุ่นคิดตามที่ยุนอาพูดอยู่ครู่ก็ชี้นิ้วไปที่หน้าของยุนอาเชิงจะพูดอะไร
"เธอ...ยุนอาา.....น้องยัยลิงดำนั่นเหรอ"
ร่างเล็กเอ่ยอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เจอกันอีก
สมัยเด็กๆที่ยังอยู่ซอนจู แทยอนกับยูริและยุนอาสนิทกันมากและชอบมาเล่นกันอยู่บ่อยๆ
เรียกว่าทุกวันเลยดีกว่าเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน ตอนนั้นเหมือนร่างเล็กจะอายุเพียงแปดขวบเองมั้ง
แต่อยู่มาวันนึงสองพี่น้องนี่ก็หายหน้าไปเลย ไม่คำร่ำลาไม่มีการบอกกล่าวร่วงหน้า
จู่ๆก็หายไปเสียเฉยๆแล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยและหลังจากนั้นมา
แทยอนก็กลายเป็นเด็กเก็บตัวไม่มีเพื่อนไม่เข้าหาใคร
คงคล้ายๆกับว่ามันเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจสำหรับเด็กวัยขนาดนั้นและเธอก็ทำใจยอมรับมันไม่ได้
จนอายุได้12ขวบแทยอนก็ย้ายมาอยู่โซลและก็ได้เจอกับเจสสิก้า
ตอนแรกแทยอนก็ไม่ติดจะคบหาหรือว่าพูดคุยด้วยเท่าไร
แต่เจสสิก้าก็ยังตามตื้อแทยอนอยู่เรื่อยๆจนสุดท้ายก็มาได้มาเป็นเพื่อนรักกันเนี่ยแหละ
"หุ๊ยย ช็อคอ๊ะพี่ดูเปลี่ยนจากเมื่อก่อนจนยุนเกือบจะจำไม่ได้เลยนะเนี่ย"
ยุนอาเองก็แทบไม่เชื่อว่ามันคือความจริง จนแทบจะโผเข้ากอดคนตัวเล็กตรงหน้านี้อยู่แล้ว
"อ้าว..นี่สรุปรู้จักกัน?"
เจสสิก้าเอ่ยถามขึ้นอย่างงงๆก็ตอนแรกยังเห็นคุยกันเรื่องร้านแล้วนี่มัน..เรื่องอะไรวะคะ
ยุนอาจึงเสนอเล่าเรื่องในอดีตให้เจสสิก้าฟัง ว่าเคยรู้จักกันเพราะอะไร
แต่เธอก็ไม่ได้บอกไปว่าทำไมตอนนั้นถึงได้ย้ายมาอยู่ที่โซลเพราะเธอเองก็ไม่อาจรู้เหตุผลที่แน่ชัดได้
"เออ..นี่โลกกลมหรือพรมลิขิตวะเนี่ย"
หลังจากที่เจสสิก้าได้ฟังเรื่องจากยุนอาแล้วก็หน้าแปลกจริงๆนั่นแหละที่ได้มาเจอกันอีก
"ไม่ได้..เรื่องนี้พี่ยูลรู้ไม่ได้เด็ดขาด" จู่ๆยุนอาพูดขึ้น แล้วก็ไม่พ้นถามคำว่าทำไมจากทั้ง2สาว
"โหย..ขืนยอมให้พี่ยูลมาเจอพี่แทยอนตอนนี้นะมีหวังมันไล่ตามจีบพี่จนไม่ได้ทำอะไรแน่"
ยุนอาเอ่ยเหตุผลอย่างมั่นใจ แต่ไม่รู้เพราะกลัวว่าแทยอนจะไม่ได้ทำอะไร
หรือเพราะหัวใจมันแอบกลัวอะไรไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้นะหึหึ
"เราเคยเป็นเพื่อนกัน ยูลมันคงไม่ทำแบบนั้นหรอก"
แทยอนเอ่ยไปตามเหตุผล จริงๆก็อยากเจอยูริอยู่เหมือนกันนะ
ถึงแม้ว่าจะยังเคืองไอ้เพื่อนตัวดำๆที่มันทิ้งเธอไว้ที่ชอนจูคนเดียวไม่บอกกล่าวก็เถอะ
และถึงแม้ว่าเธอจะมีน้องสาวอีกคนที่อายุห่างกันสามปีแต่มันก็ไม่เหมือเพื่อนที่อายุไล่เลี่ยกันนิจริงมั้ยล่ะ
แต่นี่มันก็ผ่านมาจะยี่สิบปีแล้วเธอไม่ควรกลับไปคิดเรื่องเก่าๆที่ทำร้ายความรู้สึกเธออีก
"ก็ตอนเด็กๆมันก็ชอบหวงพี่จนแทบไม่ให้ยุนเข้าใกล้พี่ขนาดนั้นแล้วดูตอนนี้ดิ
อย่าว่าแต่พี่ยูลเลย ยุนยังอยากจีบพี่เลย555"
ร่างสูงพยามเล่าถึงเรื่องที่เคยแอบน้อยใจพี่สาวตัวเองอยู่บ่อยๆ
แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นจะหยอดเองซะหน่อย ตามสไตล์คาสโนวี่เด็กๆอย่างเธอ
ก็แหมใครจะไปรู้ล่ะว่าโตมาจะทั้งดูดีน่ารักแถมยังเก่งอีก ใครไม่อยากได้ก็บ้าแล้ว
"เออ..งั้นจีบมันไปเลยมันว่าง โสดมาหลายปีและ คานทองจะถามหาแล้วมั้ง"
ว่าแล้วเจสสิก้าก็ยุยงทันทีพลางบอกสรรพคุณให้พร้อม55
จนแทยอนหันมาค้อนใส่วงโตนั่นแหละถึงได้รีบทำท่าเหมือนจะไปชงกาแฟให้ลูกค้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ได้ยินแบบนั้นยุนอาก็ตาเป็นประกายวาววับขึ้นมาทันที รายนี้ก็คงจะห้ามใจไม่อยู่เสียแล้ว
rrrrrr
มือเรียวรีบควานหาไอโฟนเจ้ากรรมที่ดันมาดังเอาตอนที่กำลังจะถามต่อ
ก่อนจะยกมันขึ้นมาดูเมื่อเห็นรายชื่อคนที่โทรเข้ามาร่างสูงก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา
พี่ยูลลิง
"นั่นไงมันโทรจิกแล้ว"
บ่นออกมางย่างระอา จ้องมองมันอยู่ครู่นึงก็ตัดสินใจรับสาย
"ว่าไงคะพี่"
"ง่า"
"อีกแล้ว"
"ไม่ไปไม่ได้เหรอ"
คุยไปอยู่พักนึงร่างสูงก็ทำสีหน้าอิดโรยทันทีก่อนจะเอ่ยขอตัวจากหญิงสาวเจ้าร้านทั้งคู่แล้วออกจากร้านไป
"อ่ะหืออ..ผู้หญิงอะไรวะขับมอเตอร์ไซคันใหญ่ซิบ"
เจสสิก้าบ่นออกมาเบาๆพลางทำตาโตเมื่อเห็นหญิงสาวร่างสูงตัวบางๆควบมอเตอร์ไซคันโตออกจากร้านไป
แทยอนได้ยิ้มส่ายหน้าเบาๆกับนิสัยน่ารักๆของเพื่อนสาว หน้านี่สวยกระชากใจแต่ปากนี่ไม่วายจะกระชากทีนอย่างแรง
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นร่างเล็กก็ยังมองว่ามันเป็นนิสัยน่ารักๆของเพื่อนสาวร่างบางนี่อยู่ดี
"นี่..ถ้าเย็นนี้ยังไม่หายป่วย ฉันจะลากเธอไปหาหมอแล้วนะ"
เห็นคนป่วยที่มันแอบนั่งขำอยู่ก็อดหมั่นไส้มันไม่ได้เจสสิก้าเอ่ยขึ้นมาเสียงแข็งเชิงบอกให้รู้ว่า ฉันเอาจริงนะยะ
แทยอนที่ได้ยินแบบนั้นก็เหวอไปเล็กน้อย ก็เธอไม่ชอบไปหาหมอนี่และนังเพื่อนสาวตัวแสบมันก็รู้ดีอยู่แก้ใจ
ว่าถึงแม้เธอจะป่วยบ่อยและหนักแค่ไหนถ้ายังมีสติอยู่ไม่มีทางที่เธอจะยอมแน่ๆ
"ไม่เอาอ่ะ" คนตัวเล็กทำเสียงเซ็งเป็ดใส่ก่อนจะหันกลับมาสนใจหน้าหนังสือต่อ
จริงๆแล้วเธอก็ไม่สนใจอะไรเรื่องประวัติศาสตร์นักหรอกก็แค่อยากรู้ไว้บ้างก็คงไม่ผิดอะไรจริงมั้ยล่ะ
"จะว่าไปดูๆแล้วยุนอาน่ะบางทีก็ออกจะดูเท่ห์ๆเซอร์ๆดีนะ"
ร่างบางเอ่ยต่อพลางคิดวิเคราะห์เล็กน้อยแต่ดูๆแล้วก็น่ารักน่ากินดีออก หึหึ
"ฉันก็เห็นพวกที่ชอบสนใจอะไรแปลกๆก็เป็นแบบนี้กันหมด"
แทยอนเอ่ยเรียบๆตามความรู้สึกน้ำเสียงที่เย็นชาตายซากอันเป็นเอกลักษณ์ของเพื่อนสาวร่างเล็กนั้นจะถูกนำมาใช้
แค่กับคนที่เธอสนิทและเชื่อใจเท่านั้น บางครั้งเจสสิก้าเองก็เคยรู้สึกนะ
ว่าเธอทนมีเพื่อนที่ดูพิลึกๆแบบแทยอนมาได้ไงตั้งหลายปี
แต่พออยู่ด้วยกันมาจนเริ่มจะมองข้ามอะไรที่เป็นเพียงแค่ผิวเปลือกด้านนอกได้ก็เริ่มเข้าใจ
และรู้ได้ว่าภายใต้ความแข็งกระด้างนั้นมันมีแต่ความอ่อนโยนและอบอุ่นที่ถูกส่งมาตรงๆต่างหากล่ะ
"เอ้า..แล้วแบบนี้เธอไม่ชอบเหรอแทยอน"
ร่างบางเอ่ยหยอกคนตัวเล็กต่ออย่างไม่ซีเรียสแต่ก็จะว่าไปที่ผ่านมาก็เห็นแต่แทยอนคบแต่ผู้หญิงลุคประมาณนี้
ไม่ก็ลุคแบบเปรี้ยวแซ่บจัดจ้านไปเลยเพราะร่างเล็กก็เคยพูดอยู่บ่อยๆ
ว่าไม่ชอบผู้หญิงที่ดูหวานๆคุณหนูๆอะไรแบบนั้นน่ะเห็นมันบอกว่าน่ารำคาญ
"เฮ้ออ..ไม่รู้อ่ะยังไม่ได้ใส่ใจ" สั้นห้วนตรงฉึกกคงไม่มีผู้หญิงคนไหนแล้วมั้ง
ที่จะเป็นแบบเพี่อนสาวร่างเล็กของเธอนี้ได้อีก คิดแล้วก็...ควรภูมิใจดีไหม..
"มองๆไว้บ้างก็ได้นะ เราก็ไม่ได้เด็กๆกันแล้ว เดี๋ยวคานทองจะถามหาเอาจริงๆนะ"
มือบางตีลงบนไหล่เล็กเชิงแนะนำ ใช่พวกเธอควรจะมีใครสักคนมาดูแลหัวใจได้แล้วอายุก็ไม่ใช่17-18แล้ว
ทั้งคู่ก็ ยี่สิบสี่จะยี่สิบห้าอยู่แล้ว ยังโสดสนิทกันอยู่แบบนี้คงไม่ดีเท่าไรมั้ง ^ ^"
"เธอมี?"
เมื่อได้ยินเพื่อนเพื่อนสาวทักมาแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถามเจ้าตัวกลับไปบ้าง
"ก็ไม่เชิงมีหรอก แค่มองๆอยู่คนนึงรู้จักกันมาไม่นานนี้เอง"
เจสสิก้าก็ตอบไปตามตรง ก็เมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนน่ะสิเธอก็ไปโซโล่เดินช็อปตามปกตินิสัยเธอ
ไปคนเดียวบ้างแต่ส่วนมากก็จะไปกับซันนี่เพื่อนสาวสมัยเรียนมหาลัย จริงๆแล้วทั้ง3ก็สนิทกันมากเลยล่ะ
เพียงแต่จบมาแล้วซันนี่ก็ต้องแยกไปทำงานในบริษัทตามคำบังคับบัญชาของท่านพ่อท่านแม่
เดินช็อปจนพอใจก็ไปนั่งพักจิบกาแฟก่อนจะกลับ
แล้วก็บังเอิญไปเจอผู้หญิงคนนึงในร้านกาแฟที่เธอเข้าไปนั่งเล่นหลังจากเดินช็อปจนสบายอารมณ์แล้วนั่นแหละ
ความรู้สึกแว๊บแรกที่เห็นหญิงสาวคนนั้นคือ...สวยยมากกก ดูดีมีสเน่ห์หน้าหลงใหล น่ากรี๊ดแตกเป็นที่สุด
ถึงแม้ว่าความรักมันอาจจะทำให้เธอต้องเจ็บแทบขาดใจอีกครั้งเธอก็ยินดี
แค่ให้เธอได้มีโอกาสได้สัมผัสหญิงสาวคนนี้สักครั้งก็ยังดี
ว่าแล้วก็ไม่รอช้าร่างบางรีบตรงปรี่เข้าไปทักทายเป้าหมายนั้นทันที
เพราะถ้าเจอคนที่สวยเริ่ดดูดีแถมเพอร์เฟคขนาดนี้แล้วปล่อยไปเฉยๆเธอคงตายตาไม่หลับ
"ไม่หน้าเชื่อ"
เอ่ยพลางหันกลับไปมองหน้าสวยๆของเพื่อนสาวเพื่อความแน่ใจว่าเธอไม่ได้โดนอำเล่น
ก็จะให้เชื่อง่ายๆได้ไงในเมื่อเพื่อนสาวเธอคนนี้เนี่ยตั้งแต่ผิดหวังโดนทิ้งมาอย่างไม่เหลือเยื่อใยจากรักครั้งเก่า
ไม่สิเรียกว่าถูกหลอกให้รักเลยนะจะโอเคกว่านะ
เมื่อสมัยปีหนึ่งที่ร่างบางนั้นปักหลักเทใจให้กับเค้าไปทั้งใจแล้วสุดท้ายก็โดนเขาขว้างทิ้งราวกับสิ่งของที่ไม่มีค่า
อาการเจ็บแสนสาหัสนั้นมันทำให้เพื่อนสาวเธอไม่คิดที่จะมีความรักอีกจนถึงตอนนี้...
"จริงๆ แค่ดูๆกันอยู่ยังไม่ได้คบกับสักหน่อย"
ร่างบางเอ่ย ยืนยันว่ามันคือเรื่องจริง แทยอนไม่ไดิตอบอะไร
เพียงแค่พยักหน้าเชิงรับรู้แล้วกลับไปสนใจกับหนังสือในมือต่อ
"เป็นไรของแกยะ ทำหน้าเป็นเสาร์ไฟฟ้าท้องอืดอยู่ได้"
เสียงหวานเอ่ยจิกแขวะเพื่อนตัวสูงของเพื่อนเล็กน้อยหลังจากเปิดประเดินเข้ามายังร้านน้ำปั่นเล็กๆในย่านตลาด
ซึ่งนั่นก็เป็นร้านเดียวที่เป็นร้านกระจกและติดแอร์ (นึกถึงบรรยากาศในเจเจไว้นะคะแดดเปรี้ยงๆอ่ะ555)
เป็นเหตุผลที่ร้านของซูยองนั้นคนแน่นอยู่ตลอดทั้งวันตั้งแต่เปิดร้านยันปิดร้าน
"เฮ้ออ..ฉันไม่เห็นหน้าเค้ามาหลายวันแล้วนะ"
ร่างสูงเอ่ยน้ำเสียงเนือยๆใช่เธอไม่ได้เห็นหน้าผู้หญิงร่างเล็กคนนั้นมาหลายวันแล้ว
ทั้งๆที่ปกติเธอก็จะเห็นเค้ามานั่งกินน้ำปั่นร้านเธอแทบทุกวัน
"ใครวะ.." ใบหน้าหวานดูแปลกใจไปเล็กน้อยเธอไม่เคยเห็นร่างสูงเพื่อนเธอดูนอยส์มากขนาดนี้มานานมากแล้ว
นี่ไอ่หยองมันมีแฟนแล้วหรือไงถึงได้มาเป็นแบบนี้อีกเนี่ย
"ชั้นไม่รู้จักชื่อเค้าหรอก..รู้แค่เค้าน่ารักมากๆเลย"
ซูยองพูดอย่างเพ้อๆออกมาทำเอาคิ้วเรียวของเพื่อนหน้าหวานขมวดเข้าหากันเป็นปมใหญ่ทันที
"แกป่วยป่ะซู ไม่รู้จักเค้าแล้วแกจะมานั้งเพ้อนั่งนอยส์แตกอยู่เพื่อ?"
เสียงติดจะวีนๆดังขึ้นหลังจากที่ได้ฟังสิ่งที่เพื่อนตัวสูงพูดออกมา ก็ดูสิมันพูดออกมาได้เต็มปากเต็มคำว่าไม่รู้จักเค้า
แต่มันกลับมานั่งๆยืนๆเดินไปเดินมาถอนหายใจเฮือกๆอยู่เนี่ย จนลูกค้าจะหนีไปหมดแล้วมั้ง
"ก็..ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" ร่างสูงคิดตามที่เพื่อนสาวหน้าหวานพูดก็ถอนหายใจฟิ้ววว
นั่นสิเธอจะมานั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ทำไมกันในเมื่อแค่รู้จักกันหรือเปล่าก็ไม่
รู้ก็แค่เสียงเล็กๆกับท่าทางน่ารักๆเวลาที่เค้าเดินมาสั่งน้ำปั่นใบหน้าน่ารักที่มีแต่รอยยิ้มประดับอยู่
ก็แค่มองแล้วอารมณ์ดีตามไปด้วย ก็แค่นั้น...
"เฮ้ออ..แกนี่นะไปๆออกไปเดินเล่นกันดีกว่านั่งอยู่แกก็ไม่ได้ทำไรอยู่ดี เด็กร้านแกจะมาเป็นเจ้าของร้านแทนแล้ว"
สเตฟานี่ก็ได้แต่ถอนหายใจตามเพื่อนแล้วก็ต้องลากมันออกไปเปิดหูเปิดตาซะบ้าง
ไม่ใช่เอาแต่นั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่แบบนั้นแทบจะเป็นอนุเสาวลีเสาร์ไฟฟ้าแล้วมั้งน่ะ
"เฮ่ย!! แก!! นั่นไงคนนั้น!!"
เดินออกมาได้สักพักคนตัวสูงก็ตวัดสายตาไปป๊ะเข้ากับร่างเล็กๆน่ารักนั่นพอดีเค้ายืนอยู่หน้าร้านเสื้อผ้าร้านนึง
ใบหน้าหวานตวัดสายตามองไปตามปลายนิ้วของเพื่อนสาวร่างสูงที่ชี้ไปยังร่างของใครอีกคน
"ฉันแนะนำนะ...ถ้าแกจะอาการหนักขนาดนี้ ไปทักเค้าเหอะ"
ไม่พูดเปล่ามือเรียวดันหลังให้เพื่อนร่างสูงเดินไปยังที่ที่คนตัวเล็กยืนน่ารักอยู่ทันที
"เธอๆ เพื่อนเราอยากรู้จักเธอน่ะ"
ไม่พอยังไปสะกิดไหล่เล็กๆนั่นพลางเอ่ยบอกเค้าไป จากนั้นก็เดินออกมาและปล่อยให้เค้าาทำความรู้จักกันเอง
นี่แหละคือสิ่งมีชีวิตที่ชื่อสเตฟานี่ไม่มีอะไรต้องอายมั่นไว้เป็นพอสวยซะอย่าง
ขาเรียวก้าวฉับๆแวะร้านนู้นเข้าร้านนี้ตามภาษาคนรักการช็อปร้านแถวนี้แทบจะไม่มีร้านไหนไม่รู้จักสเตฟานี่เลย
ก็สาวเจ้าออกสวยเริ่ดเชิ่ดซะขนาดนั้นใครๆก็ต้องอยากรู้จักอยู่แล้ว
แถมสาวเจ้าก็ยังมาเดินช็อปบ่อยๆอีกเพราะนางชอบมาสิงห์อยู่ในร้านซูยองแทบจะทุกวัน
เดินไปได้สักพักก็ก้มดูนาฬิกาข้อมือเมื่อเห็นว่ามันผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว
ก็รีบสาวเท้าเดินกลับไปยังร้านของเพื่อนสาวร่างสูงทันที
ช่วงเวลาแห่งความสุขเนี่ยมันช่างผ่านไปเร็วเสียจริงๆเลยให้ตายสิ
เมื่อเดินกลับมาถึงร้านที่ว่าและก็อดยกยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นร่างสูงนั้นนั่งป้อหญิงสาวร่างเล็กอยู่
จึงเดินเข้าร้างไปนั่งที่ประจำของตัวเองแทนเพราะไม่อยากไปขัดจังหวะเพื่อน
"ไอ้ยุน..แกไปไหนมาห๊ะ" ทันทีที่ยุนอาเหยียบบริเวณชายคาคฤหาสน์หลังงามเสียงเข้มๆนั้นก็เอ่ยทักขึ้นทันที
"ฉันจะไปไหนทำไมฉันต้องรายงานพี่ด้วยล่ะ" เสียงผู้เป็นน้องบ่นอุบอิบ
"ก็ถ้าไม่ห่วงก็คงไม่ถามหรอก" ถึงแม้ว่าเสียงเข้มๆนั้นจะอ่อนลงบ้างแต่ก็ยังเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองไม่น้อย
ก็ไอ้น้องบ้านี่หายออกไปไหนตั้งแต่เช้าไม่บอกไม่กล่าวตื่นมาไม่เห็นมันก็วิ่งหามันให้วุ่นจนต้องโทรไปตามมันเนี่ยล่ะ
"พี่อ่ะฉันไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ ปีนี้ฉันก็ยี่สิบสี่แล้วไม่ใช่สิบสอง"
เด็กร่างสูงโวยวายพี่สาวตัวเองอย่างไม่ชอบใจ ก็จริงนี่จะห่วงอะไรขนาดนั้นแหม
"ช่างเหอะ ไปกินข้าวกันดีกว่าฉันหิวแล้ว"
ยูริตัดบทคว้ากุญแจรถเดินออกไปทันทีเหมือนปกติทุกวัน2พี่น้องคู่นี้ก็มีเรื่องมากัดกันได้ทุกวัน
แต่จะอย่างนั้นทั้งคู่ก็รักกันมากเหมือนกัน ก็แน่ล่ะมีกันอยู่แค่2คน เพราะหลังจากที่ย้ายมาอยู่โซลแล้ว
และตั้งแต่ที่ยูริเข้ามหาลัยเธอก็ย้ายไปอยู่หอใกล้ๆม.แล้วส่วนยุนอาที่ตอนนั้นก็อยู่แค่เกรดสิบ
ก็เกิดคึกอยากจะใช้ชีวิตในหอบ้าง ทั้งพ่อและแม่ต่างก็รั้งไว้ไม่อยู่ จึงได้ส่งให้มาอยู่กับพี่สาวมันเนี่ยแหละ
แต่พอยูริเรียนจบก็ย้ายไปอยู่คอนโดใกล้ บริษัทที่ทำงานอยู่พักนึงก่อนจะมาดาวน์คฤหาสน์หลังที่อยู่ปจุบันเนี่ย
"เป็นอะไร..ทำไมทำหน้างั้น" ยูริถามขึ้นเมื่อสังเห็นใบหน้าดูดีของน้องสาวตัวเองดูยุ่งๆอยู่ไม่ขาด
ในระหว่างที่นั่งกินอาหารอยู่ในร้านที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านเท่าไร
"ทำไมบางทีก็เหมือนฉันลืมเรื่องของคนนั้นไปแล้ว แต่บางทีก็เหมือนยังทำใจรับมันไม่ได้"
ยุนอาเอ่ยเพียงแผ่วเบานานแล้วนะที่ผู้หญิงคนนั้นทิ้งเธอไป..
แต่ทุกครั้งที่เรื่องเก่าๆพวกนั้นแว๊บกลับเข้ามาในหัวมันก็มักจะส่งผลกระทบถึงหัวใจเธอทุกที
"นี่แกยังไม่ลืมมันอีกเหรอ..อิ..เฮ้ออ"
เห็นหน้าของน้องตัวเองแล้วก็ไม่อยากจะพูดชื่อผู้หญิงคนนั้นออกไปคนที่มันทำกับน้องเธอได้เจ็บแสบ
ปล่อยให้เด็กที่ยังไม่ทันได้ตั้งรับอะไรต้องนอนร้องไห้เป็นวักเป็นเวร
แค่คิดแล้วก็แค้นใจถ้าเจอตัวเมื่อไรนะจะทรมานมันให้เข็ดเลย
แต่ก็แปลกที่ตั้งแต่วันนั้นที่ยุนอาดูแปลกๆไปกลายเป็นเหมือนคนไร้สติและเหม่อลอย
ยูริเองก็ไม่ได้เห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นอีกเลย ราวกับตั้งใจจะหนีหน้าพวกเธออย่างนั้นแหละ
"ฉันหาสาวๆให้เอาไว้แก้เหงาไปก่อนดีมั้ย"
ผู้เป็นพี่เสนอทางเลือกให้อีกคน เธอรู้จักคนเยอะแถมยังมีคนรู้จักแทบทุกวัยตั้งสิบสี่ยันสี่สิบเลยก็ว่าได้
"ไม่เอาดีกว่าพี่ฉันไม่อยากให้ตัวเองดูแย่ไปมากกว่านี้"
ยุนอาเลือกที่จะปฏิเสธความหวังดีนั้นเมื่อเธอรู้สึกว่าสำหรับคนอื่นมันอาจจะช่วยได้นะ
แต่กับเธอแล้วไม่มีอะไรแทนที่กันได้ถ้าไม่ลืมมันไปเองจริงๆ หรือถ้ามีใครที่ทำให้ลืมได้คนคนนั้นก็คงจะเป็น...
From...Writer
แอร๊ยยยย ให้พี่ยุนสุดเท่ห์มาประเดิมแชปแรกหวังว่าคงจะถูกใจรีดเดอร์น๊า
อื้มม ตอนแรกก็คิดอยู่หลายรอบนะว่าจะเอาใครมาเปิดดี คริคริ แต่เป็นพี่ยุนเนี่ยแหละดีแล้ว เอิ๊กก
ใครสงสัยอดีตในอินโทรอยู่ขอให้ทำใจร่มๆไว้ก้อนเน้อวว คริคริ
http://lovetaeny.blogspot.com
ขอให้มีความสุขกับฟิคคร่า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น