ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic SHINee ยั่วรัก 2min jongkey onewและ....

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 255
      0
      25 ต.ค. 55

    บทนำ เรื่องยั่วรัก

     

              “ว้าว คุณพ่อฮะ คุณแม่ฮะ” ดูบ้านหลังนั้นสิฮะ ใหญ่มากๆเลย คนก็เยอะด้วย” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กชายตัวน้อยผู้น่ารัก นามว่าแทมิน เอ่ยเรียกพ่อแม่เสียงใสอย่างตื่นเต้น พร้อมกับปีนป่ายอยู่ที่กำแพงบ้านของตัวเอง ที่คั่นกลางระหว่างบ้านสองบ้าน ที่มีขนาดแต่แตกต่างกันมาก

              “หนูแทม ขึ้นไปแบบนั้นทำไมลูกลงมา เดี๋ยวตกลงมาแข้งขาหักเอานะลูก” ผู้เป็นแม่เอ่ยเตือนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมกับส่ายหน้าไปมา ในเรื่องความแสนซนของบุตรชายเพียงคนเดียว ที่ชอบปีนป่ายขึ้นไปนั่งมองบ้านข้างๆ ที่มีขนาดใหญ่โตราวกับพระราชวงศ์ก็ไม่ปราน

              “หนูแทมไม่ตกหรอกฮะ หนูแทมเก่งจะตายไป” แทมินเอ่ยตอบผู้เป็นแม่กลับไปด้วยรอยยิ้ม ที่โชว์ฟันขาวสะอาดเรียงตัวกันสวย รอยยิ้มหวานราวกับเทพธิดาน้อยๆ มากกว่าเทพบุตรที่หล่อเหลา

              “ลงมาเถอะลูก ไม่เบื่อหรือไงเรา ปีนขึ้นไปแอบมองบ้านข้างๆได้ทุกวี่ทุกวัน” คนเป็นพ่อเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม กับการกระทำของบุตรชายที่น่ารัก ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่เดือนหรือกี่ปี ก็ยังไม่รู้จักโต

              “ไม่เบื่อหรอกฮะ หนูแทมอยากเห็นจังฮะพ่อ ว่าใครกันที่ย้ายมาอยู่ข้างๆ บ้านของเรา บ้านใหญ่มาก เหมือนจะมีคนใช้ตั้งเยอะแยะแน่ะครับ” หนูแทมเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น ใช่เขาอยากที่จะเห็นเจ้าของบ้าน ว่าจะเป็นคนแบบไหน ทำไมถึงได้มีคนใช้มากมายขนาดนี้ ไหนจะรถยนต์ราคาแพงที่จอดอยู่ที่โรงรถอีกหลายคัน ซึ่งแต่ละคันเท่าที่รู้มา ราคาแพงอย่าได้บอกใครเชียว

              สองสามีภรรยามองไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่ ตามนิ้วมือของบุตรชายที่ชี้ให้ดู ก็พบว่าบ้านช่องใหญ่โต มีคนอยู่มากมาย ซึ่งเมื่อเทียบกับบ้านที่อาศัยอยู่นั้น เรียกว่าเทียบกันไม่ได้เลยสักนิดเดียว แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ บรรดาชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ สวมแว่นตาดำกันทุกคนนั้น ยิ่งทำให้สงสัยว่าบ้านข้างๆนั้นเป็นใครกัน ทำไมถึงได้มีคนเข้าออกภายในบ้านมากมายขนาดนั้น

              “ลงมาได้แล้วหนูแทม มันเสียมารยาทนะลูก” แม่ผู้ให้กำเนิดเอ่ยเตือนบุตรชายอีกครั้ง

              “ฮะ หนูแทมขออีก 5 นาทีนะฮะ แล้วจะรีบเข้าบ้าน นะฮะคุณพ่อ คุณแม่” หนูแทมต่อลองอีกครั้ง พร้อมกับสอดส่องสายตามองไปที่คฤหาสน์หลังงามอีกครั้งอย่างอยากรู้อยากเห็น

              ด้านบุพการีเมื่อเห็นว่าหนูแทมยังไม่ยอมลงมา และยังต่อลองเวลาแอบดูก็ได้แต่หันมายิ้มให้กัน ก่อนจะเดินเข้าไปภายในบ้านของตัวเอง

    หนูแทมเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของคฤหาสน์ตรงหน้าด้วยความสนใจ เพราะคนที่อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์หลังนั้นล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชายที่แต่งตัวเต็มยศ ไหนจะบรรดาผู้หญิงที่แต่งตัวเหมือนกัน ซึ่งเดาได้ไม่ยากนัก ว่าน่าจะเป็นสาวใช้ของบ้านนั่นเอง และเมื่อเวลาที่หนูแทมต่อลองเอาไว้หมดลง คนตัวลงก็ได้กระโดดลงจากกำแพงด้วยความรวดเร็ว

    ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เจ้าของบ้านร่างสูงโปร่งในชุดลำลองสีขาวสะอาดตา เดินออกมาจากภายในคฤหาสน์ พร้อมกับลูกพี่ลูกน้องอีกสองคน ที่ไม่ได้มีใบหน้าละม้ายคล้ายกันเลยสักนิด มีเพียงสีผิวที่ขาวเนียนลออราวกับผู้หญิงเท่านั้นที่เหมือนกัน

    ใบหน้าคมไร้รอยยิ้มทอดมองอาณาบริเวณอาณาจักรของตัวเองอย่างพึงพอใจ ตัวบ้านที่ใหญ่โตตามความต้องการ มีสนามหญ้าหน้าบ้านที่ถูกตกแต่งไว้อย่างเรียบร้อย

    “นายจะย้ายมาอยู่ที่นี่จริงๆเหรอมินโฮ”

    ชเว มินโฮ ชายหนุ่มรูปงามที่พกพาความสูงกว่า 185 เซนติเมตร ใบหน้าคร้ามจัดว่าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เป็นที่ต้องตาต้องใจของบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่มากมายที่พบเห็น แต่ทว่าชายหนุ่มกับไม่ถูกใจใครเลยสักคน จะมีบ้างที่ยอมควงสาวๆที่เข้ามาอ่อยเขา ยอมไปกินข้าวดูหนัง และสุดท้ายก็จบลงที่เตียงนอน อย่างเช่นทุกทีแต่ทว่าก็ไม่มีใครที่เรียกร้องให้เขารับผิดชอบ นั่นเป็นเพราะชื่อเสียงของมินโฮนั้น เป็นที่รู้กันดีว่าถ้าผู้หญิงคนไหนอยากจะคบด้วย จะต้องไม่เรียกร้องหรือแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ เพราะนั่นเท่ากับว่าจะไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดผู้ชายที่ชื่อชเว มินโฮอีกเลย

    “ใช่ ฉันจะมาอยู่ที่นี่ พี่ก็มาอยู่กับผมด้วยสิ” มินโฮตอบกลับไป พร้อมกับทั้งเอ่ยชวนพี่ต่างสายเลือดสองคนให้มาอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน

    “ฉันขอบายวะ ไม่อยากอยู่แบบชายโสดในบ้านหลังใหญ่ราวกับวังแบบนี้วะ” จงฮยอนรีบเอ่ยปฏิเสธออกมาทันที เพราะด้วยนิสัยของคิมจงฮยอนนั้นไม่ชอบอยู่กับบ้านสักเท่าไหร่นัก และที่สำคัญคือเขาชอบอยู่ที่คอนโดของตัวเองมากกว่า ได้พาคนโน้นคนนี้ไปกกกอด ดีว่ามานอนเหงาอยู่ในห้องขนาดใหญ่เพียงคนเดียวแบบนี้

    “แล้วพี่ล่ะ มาอยู่กับผมไหม” มินโฮเมื่อโดนพี่จงฮยอนปฏิเสธ ก็หันไปถามพี่ชายต่างสายเลือดอีกคนด้วยความหวัง

    “ฉันก็อยากมาอยู่เป็นเพื่อนนายนะมินโฮ” อนยูตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ตามแบบฉบับผู้ชายใจดีที่มีรอยยิ้มหวานละลายหัวใจของคนที่พบเห็น

    “อยากอยู่ แต่ไม่อยู่ใช่ไหมล่ะพี่” มินโฮตอบกลับไปอย่างรู้ทัน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเสียใจอะไร ในเมื่อเขาเองก็รู้สึกชินกับการอยู่คนเดียวมาตั้งแต่เด็กแล้ว นั่นเป็นเพราะธุรกิจของครอบครัว ที่มีอยู่หลายประเทศ ทำให้เขาต้องรับผิดชอบตัวเองมาตั้งแต่เด็ก และสำหรับการมาเมืองไทยครั้งนี้ ก็เพื่อดูแลธุรกิจโรงแรมที่เพิ่งขยายสาขามาที่ประเทศไทย

    “นายต้องเข้าใจพี่นะ พี่ต้องดูแลคลับ” อนยูตอบกลับไปอย่างมีเหตุผล เพราะเขาต้องดูแลคลับที่เพิ่งเปิดใหม่ไม่นาน ซึ่งคลับของเขานั้นเป็นคลับหรู ที่รับแต่ลูกค้าวีไอพีเท่านั้น

    “พี่ดูแลคลับหรือว่าดูแลใครที่เพิ่งรับเข้ามาทำงานกันแน่ครับ” จงฮยอนเอ่ยแซวอนยูด้วยรอยยิ้ม เพราะเขาเคยแอบเห็นพี่อนยูให้ความสนใจกับพนักงานต้อนรับบรรดาแขกที่มาเที่ยวที่ร้านคนหนึ่งมากเป็นพิเศษ

    “เงียบไปเลย” อนยูเมื่อเจอน้องชายแซวเอาให้แบบนี้ ก็ถึงกับหน้าขึ้นสีทันที เมื่อดันนึกไปถึงคนที่แสนจะคิดถึง ทั้งๆที่เพิ่งจะห่างกันไม่นาน จนต้องสั่งเงียบนิ่งให้คนเป็นน้องสงบปากสงบคำ

    “พี่มีอะไรปิดผมกันใช่ไหมเนี่ย” มินโฮเอ่ยถามอย่างสงสัย พร้อมกับส่งสายตาคมดุจพญาเหยี่ยวมองไปที่พี่ชายสองคนอย่างจับผิด

    “ไม่มีอะไร” เป็นอนยูที่เป็นฝ่ายตอบแทน ก่อนจะถลึงตาใส่จงฮยอนที่ชอบสร้างเรื่องขึ้นมา

     “เอาเป็นว่า ไว้ว่างพวกพี่จะมาค้างด้วยแล้วกัน วันนี้พี่ไปก่อนมีธุระต่อ” จงฮยอนเป็นฝ่ายเอ่ยออกมา เมื่อดูเวลาแล้วว่า น่าจะปล่อยให้น้องชายคนเล็กได้พักผ่อน

    เมื่ออนยูและจงฮยอนเดินทางกลับไป มินโฮก็เดินกลับเข้าไปภายในคฤหาสน์หลังงาม นัยน์ตาสีนิลมองไปรอบๆห้องรับแขกขนาดใหญ่ ที่มีเฟอร์นิเจอร์มากมายตั้งเรียงรายอยู่ ซึ่งแต่ละชิ้นนั้นล้วนแล้วแต่นำเข้าแทบทั้งสิน บรรดาสาวใช้ที่ช่วยกันทำความสะอาดตามคำสั่ง ทำกันอย่างขะมักเขม้น  จนคนตัวโตว่างใจก่อนจะเดินขึ้นยังห้องนอนของตัวเอง

    ขายาวก้าวขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าตูห้องนอน ที่มีไอเย็นๆของเครื่องปรับอากาศผ่านลอดออกมา และทันทีที่ประตูบานใหญ่เปิดออก คนตัวโตก็รีบเดินเข้าไปภายในห้องที่ถูกเปิดเครื่องปรับอากาศเสียเย็นยะเยือก กายหนาเดินมองรอบๆห้องของตัวเองอย่างพึงพอใจ เตียงนอนขนาดใหญ่ที่ถูกปูด้วยผ้าปูที่นอนเนื้อดีสีเทา ซึ่งเป็นสีโปรดของมินโฮ ข้าวของเครื่องใช้ของชายหนุ่ม ล้วนแล้วแต่เป็นสีเทาหรือไม่ก็สีดำแทบจะทั้งสิ้น

    ห้องนอนขนาดใหญ่ถูกออกแบบให้เป็นห้องนอนที่สามารถเชื่อมต่อกับทำงานด้วยประตูบานเดียว ห้องน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบตามความชอบส่วนตัว โดยจะไม่มีประตูห้องน้ำ มีเพียงกระจกใสกั้นระหว่างห้องนอนกันห้องน้ำเท่านั้น ทำให้สามารถที่จะมองเห็นทุกอย่างภายในห้องน้ำได้อย่างถนัดตา อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถลงไปได้สองคน ที่เขาเป็นคนสั่งนำเข้าจากฝรั่งเศส ยังไม่เคยได้ใช้เลยสักครั้ง เพราะมันเหมาะที่จะอาบสองคนมากกว่าคนเดียว

    นัยน์ตาคมจับจ้องมองไปที่ตู้เสื้อผ้าสำดำขนาดใหญ่ ที่ข้างในบรรจุเสื้อผ้าหลากหลายแบบไว้มากมาย ทุกตัวล้วนแล้วแต่เป็นเสื้อผ้าจากห้องเสื้อชื่อดังทั้งนั้น ซึ่งภายในตู้นอกจากเสื้อผ้าแล้ว ยังมีแว่นกันแดดหลากหลายแบบ ที่ถูกจัดเอาไว้ในลิ้นชักอย่างเป็นระเบียบ นาฬิกาเรือนหรูหลากหลายเรือน ที่ถูกจัดว่างไว้อย่างเรียบร้อยเช่นกัน

    เมื่อพึงพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ภายในห้องแล้ว มินโฮก็เดินออกไปที่ระเบียบห้อง ที่สามารถทอดมองไปยังรอบๆได้อย่างถนัดตา และทันที่ชายหนุ่มเดินออกไป ก็พลันได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กหนุ่มร่างเล็ก ที่ตอนนี้กำลังวิ่งเล่นกับเจ้าสุนัขตัวเล็กเหมือนเจ้าของอย่างสนุกสนาน

    ภาพที่เห็นนั้นทำให้คนที่ไม่ค่อยจะสนใจอะไรอย่างมินโฮ ถึงกับจับจ้องมองภาพของเด็กหนุ่มกับสุนัขอย่างเพลินเพลิน เสียงเจื้อยแจ้วทำให้เขาอยากที่จะเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มที่หันหลังให้จนไม่อาจละสายตาไปได้ แต่แล้วสิ่งที่ต้องการก็ไม่ได้เป็นดังหวัง เมื่อเด็กหนุ่มบ้านข้างๆ ไม่ยอมหันใบหน้ามาให้เขายลโฉมเสียที

    เมื่อความอดทนหมดลง คนตัวโตจึงได้หันหลังเดินกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่หนูแทมที่เล่นอยู่กับน้องจี้หันไปมองยังคฤหาสน์หลังงาม ทันได้เห็นร่างสูงที่มีแผ่นหลังกว้าง กำลังเดินหายเข้าไปภายในห้องขนาดใหญ่

    “ดูสิเจ้าจี้ เราไม่เห็นเจ้าของบ้านอีกแล้ว แต่ดูแล้วพี่เขาตัวสูงจังเลย อยากรู้จักพี่เขาจังเลยเนอะ” แทมินเอ่ยกับเจ้าสุนัขแสนรักอย่างแสนเสียดาย ที่ไม่สามารถเห็นใบหน้าของเจ้าของบ้านข้างๆอีกตามเคย ทั้งๆที่พยายามแอบเฝ้ามองมาหลายวันแล้วก็ตาม

     ฝากเรื่องยั่วรักด้วยนะคะ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×