ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [โน่ริท] รักวุ่นๆของพี่เทคน้องเทค :)

    ลำดับตอนที่ #3 : รักวุ่นๆพี่เทคของผมน่ารัก

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 56


    CHAPTER 3

    รักวุ่นของพี่เทคน้องเทค

     

     

     
     

     

     

     

            “น้องๆครับ ยืนขึ้นแล้วหลับตาทุกคนเลยนะครับ” เสียงจากพวกรุ่นพี่ปีสอง ที่ยืนอยู่รอบๆตัวผมและก็เพื่อนผมก็ดังขึ้นมา ทำให้ทุกคนที่ยืนอยู่หลับตาตามคำสั่งรวมถึงผมด้วย

           

     







     

            หลังจากที่ผมเรียนมาทั้งวันพอตอนเย็นผมก็ต้องมาทำหน้าที่เข้าเชียรที่ทำประจำในตอนเย็นของทุกวัน นั่งซ้อมแหกปากร้องเพลง ต่อให้ไม่มีเสียงก็ยังคงต้องอ้าปากร้องอยู่ตลอดเวลา

     

            ผมยืนนิ่งแล้วหลับตาได้สักพักนึง ก็รู้สึกถึงเงาด้านหน้าพร้อมกับแรงสะกิดเล็กน้อยที่หัวไหล่ด้านซ้าย แต่ก็ไม่กล้าที่จะลืมตาและหันไปมอง สักพักเงาด้านหน้านั้นก็หายไปพร้อมกับแรงสะกิดนั้น

     





     

     

            “ลืมตาได้แล้วนะครับน้องๆทุกคน เมื่อกี้ใครที่รู้สึกเหมือนมีคนสะกิดที่ไหล่ เดินออกจากแถวและเดินไปที่ด้านหลังด้วยนะครับ” รุ่นพี่ด้านหน้าเอ่ยขึ้น ผมลืมตาและมองไปรอบๆ ยังเห็นรุ่นพี่ปีสองยืนล้อมรอบอยู่

     

     

     

            เมื่อกี้ผมโดนสะกิดสินะ แต่ไม่กล้าออกไป ไม่รู้จะโดนอะไรรึเปล่า

     

            “ไอ่เซน กูโดนสะกิดวะ ทำไงดีวะ ไม่อยากออกไปเลย” ผมหันไปคุยกับเพื่อนรักที่ยืนข้างๆผม

     

            “มึงก็โดนหรอ กูก็โดนเหมือนกัน ออกไปพร้อมกันแหละ” จากนั้นผมเลยโดนไอ่เซนกึ่งลากกึ่งเดินไปยังทางด้านหลังเพื่อนๆ

     






     

     

     

              ผมยืนเข้าแถวกับเพื่อนผม 10 คน ยืนเรียงเป็นสองแถวตอนลึก โดยที่ผมยืนคู่กับเซน มี ผู้ชาย 5 คนและผู้หญิงอีก 5 คน หนึ่งในนั้นคนที่ชื่อ แกรนด์ ซึ่งเป็นผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก ปากเล็ก จมูกหน่อย ใบหน้าได้รูป พร้อมผิวเนียนขาวใสทั้งใบหน้า แถมตัวยังเล็กอีกด้วย สเปกผมเลย >/////<

     

            “เดินตามพี่มานะครับ” รุ่นพี่ปีสอง พูดขึ้น พร้อมเดินไปข้างหน้า และพวกผมก็เดินตาม

     

     

     





     

     

            เราเดินไปอีกตึกหนึ่ง ข้างๆตึกที่ผมซ้อมเพลงเชียรเมื่อกี้ อ๊ะ!! พี่เทคของผม ยืนทำหน้าดุรอรับเลย ทำไมต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นด้วย ผมอยากถามมากว่าที่พี่เขาทำนี้เป็นหน้าที่หรือเป็นนิสัยของพี่เขากันแน่

     
     

            พวกเราเดินมาตั้งแถวต่อตรงหน้าไอ่พวกพี่ว้ากเลยครับ ที่ผมรู้จักก็มีสองคนแค่ไอ่พี่โน่ และก็พี่เก่งที่พยายามว้ากเท่าไหร่ผมก็ไม่เคยกลัวคงเพราะหน้าขาวๆนั้นไม่เหมาะกับการทำหน้าบูดหน้าบึ้งเลย

     




     

            “คุณ ผมบอกว่าไงเมื่อคืน” หลังจากที่ยืนเข้าแถวได้สักพัก พี่โน่ก็เดินมาข้างๆผมและกระซิบเบาๆที่หู บรึ๊ยยยย ขนลุกกันเลยทีเดียว แต่เอ๊ะ อะไรยังไง บอกเมื่อคืน บอกอะไร ฝันดีหรอ

     

              “...”

     

              “ที่ผมบอกว่าห้ามเป็นหลีดไง” อ้าว นี่เขาเลือกมาเป็นหลีดรึไง ใครจะไปรู้ละ ไม่เห็นมีใครบอกเลย เขาบอกแค่ให้เดินมา

     

    “ผะ..ผมไม่รู้” ผมหันไปมองหน้าเขาและก็ตอบออกไป

     

    “ไม่ต้องหันมา มองตรงป๊าย!! อยู่ดีดีเขาก็ว้ากผม ผมเลยรีบหันหน้ากลับแล้วมองตรงไป น่ากลัวชะมัด ผมจำได้เขาเหมือนมีกฎประมาณว่าห้ามมองหน้าพี่ปีสามส่วนปีสี่นี้ยังไม่เคยโผล่มาให้พวกผมเห็นหรอก และที่เดินไปมาในคณะก็ไม่รู้ด้วยว่าปีไหน เพราะมีหลายปี รวมถึงพวกที่ยังไม่ได้จบ 4 ปีด้วย

     

     

     



     

            เขาว้ากผมเสร็จก็เดินไปที่หน้าแถวเหมือนเดิม

     

            “พวกคุณรู้รึป่าว ว่าพวกผมเลือกพวกคุณมาทำไม!!” เขาเริ่มต้นตะโกนอีกครั้ง ถึงจะไม่ดังมาเท่าไหร่แต่ก็ทำให้ผมสะดุ้งเลยทีเดียว

     

            “เลือกมาเป็นตัวแทนสืบสานเพลงเชียรครับ” เพื่อนผมผู้ชายที่อยู่หัวแถวตอบ เหมือนจะชื่อต่อ

     

            “อื้มดีมาก ผมจะบอกพวกคุณว่า ตัวแทนสืบสานเพลงเชียรนี้มันไม่ได้ง่ายนะ มันอาจทำให้พวกคุณมีเวลาว่างน้อยลง หรือพูดง่ายๆคุณอาจจะมีเวลาไว้อ่านหนังสือน้อยกว่าคนอื่น คุณจะยอมรึป่าว!!” ไอ่พี่โน่ถามเสียงดัง

     

            “...”

     

            “เอ้า!! ตอบสิ จะยังยอมที่จะเป็นอยู่ไหม!!” ผมสะดุ้งอีกครั้ง ผมรู้สึกว่าพี่โน่มองมาที่ผม เป็นดวงตาที่เรียบคมมาก เหมือนจะพยายามบอกอะไรกับผม ซึ่งผมไม่รู้คืออะไร ถ้าอยากที่จะให้ผมปฏิเสธผมพูดเลยว่าไม่กล้าแน่นอน เพราะมีพี่ว้ากหรือพี่ปีสาม ยืนอยู่เยอะพอสมควร ซึ่งมีแต่น่าตาดีดีทั้งนั้น สงสัยเป็นพวกหลีดรุ่นพี่แน่ๆ

     

            “ยอมครับ/ค่ะ” พวกเพื่อนผมรวมทั้งผมตอบพร้อมกัน

     

            “หึ” พี่โน่หัวเราะในลำคอเบาๆพร้อมกับยื้มที่มุมปากเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกไป

           

     



     

     

     

            หลังจากที่พี่โน่เดินออกไปพวกปีสามก็เดินตามไปที่ผมรู้ว่ามีแต่พี่ปีสาม เพราะเนื่องจากเสื้อชอปนั้นจะมีรูปเกียรแต่ละรุ่นที่ต่างกัน ทำให้รู้ว่าพวกพี่เขาเป็นรุ่นไหนกันบ้าง จากนั้นพวกพี่ปีสองก็เข้ามาแทน

     

            “อ้า น้องๆนั่งลงกันก่อนนะคะ พี่ชื่อ พี่น้ำหวานนะ” รุ่นพี่ปีสองหน้าตาน่ารักคนนึงเดินมาหน้าแถว และพูดแนะนำตัว

     

            “ส่วนพี่ชื่อ มิ้น นะคะ น้องๆชื่ออะไรกันมั้ง” พวกผมผลัดกันแนะนำตัวไปเรื่อยๆ

     

            “ตั้งแต่วันนี้ไป พวกน้องไม่ต้องเข้าห้องเชียรแล้วนะค่ะ แต่ให้มาที่ตึกนี้เลย ตอนห้าโมงเย็นทุกวันเลยนะคะ” พี่น้ำหวานพูดขึ้น

     

            “เสาร์-อาทิตย์ ด้วยรึป่าวครับพี่” อันนี้คนข้างๆผมถามขึ้น หรือก็คือไอ่เซนนั้นเอง

     

            “ไว้วันศุกร์พี่จะบอกอีกทีและกัน ยังไงพุ่งนี้ก็มาห้าโมงนะ” วันนี้เพิ่งวันจันทร์เอง ผมคิดผิดป่าวเนี่ยที่ลุกเดินออกมาตรงนี้ ผมไม่ได้อยากเป็นเลย หลีดอะไรเนี่ย ผมอยากเป็นคนดูมากกว่า ถ้าผมเป็นผมก็ไม่ได้ดูและผมก็ต้องอดเห็น แกรนด์ เต้นสินะ ไหนจะหลีดคณะอื่นๆอีก โดยเฉพาะคณะมนุษย์ โอ๊ยยย!! ความฝันอันสูงสุดหลังจากเข้ามหาลัยของผมพังลงทันที T.T

     

            “อ่ะ วันนี้น้องกลับกันก่อนเลยละกัน เพราะอีกด้านนึงก็ปล่อยแล้ว” เสียงหวานๆของพี่มิ้นดังขึ้น อีกด้านนึงที่พี่เขาพูดถึงก็คงเป็นพวกเพื่อนผมที่เหลือที่ต้องซ้อมเพลงเชียรต่อนั้นเอง ผมไหว้ลาพวกพี่เขาและเดินออกมาจากตึกมาที่จอดรถด้านหลังคณะ

     





     

            เป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซด์นะครับ ผมซ้อนไอ่เซนมาเรียนทุกวัน เพราะผมไม่มีรถนั้นเอง วันไหนตื่นมาไม่ทันก็ต้องเดินมา เพราะหอผมอยู่ไม่ไกลจากคณะมากนั้น

     





     

              “เห้ย ไอ่เซนเมื่อคืนมึงหายไปไหนมาวะ และมึงกลับยังไง ถึงหอกี่โมง ทำไมโทรไปไม่รับปิด ไม่ตอบไลน์กู แล้วตอนเช้ากูถามไปรอบนึงมึงก็ไม่ตอบกู บอกมาเลยนะ” ผมถามไอ่เซนเป็นชุดในขณะที่เซนกำลังถอยมอเตอร์ไซด์ฟีโน่สีขาวออกจากที่จอดเพื่อให้ผมขึ้นได้ถนัด

     

            “กูควรตอบอันไหนก่อนดีละ” ไอ่เซนพูดไปพลางสตารท์รถฟีโน่คู่ใจมันไป

     

            “มึงกลับยังไงเมื่อคืน ตอบอันนี้ก่อน” ผมถามในขณะที่ผมกำลังยกขาและกำลังจะควบลงบนมอเตอร์ไซด์นั้น

     

     

     


     

            “นี่คุณ” แต่ยังไม่ทันที่เซนจะตอบและก็ยังไม่ทันที่ผมจะควบมอเตอร์ไซด์ลงไป เสียงทุ้มที่ผมคุ้นเคยดังขึ้น จะไม่คุ้นเคยได้ไง ก็ว้ากผมเกือบทุกวัน

     

            “ฮะ” ผมยกขากลับคืนมา ยืนตรงแล้วหันหลังไปหาคนที่เรียกผม หวังว่าเขาคงไม่ว้ากผมแล้วนะ

     

            “ผมขอตัวเพื่อนคุณนะ เดี๋ยวผมไปส่งเอง” ไอ่พี่มันหันไปพูดกับไอ่เซน และดึงผมออกมาจากที่ตรงนั้น

     

            “เห้ย เดี๋ยวผมคุยกับเพื่อนผมอยู่นะ” ผมโวยวายไปด้วยพร้อมกับโดนลากไปด้วย

     

            “หมดเวลาเชียรแล้ว จะมาพูดผมทำไม”

     

            “ที่พี่โน่ยังพูดเลย ผมๆ คุณๆ”

     

            “ผมต้องพูด คุณไม่ต้อง!!” แหนะ ไหนบออกเลิกเชียรแล้ว แล้วจะว้ากทำไมวะ

     

            “จะพาริทไปไหน แล้วมีอะไรจะคุยรึไง” เขาลากผมมาถึงรถบีเอมดับบิวสีดำคันหรูคันเดิม

     

              “ขึ้นรถก่อน” เขาพูดพลางเปิดประตูแล้วขึ้นไปนั่งบนรถ หลังจากนั้นผมก็เปิดประตูแล้วก็ขึ้นไปบนรถเช่นกัน

     

     






     

     

            “มีอะไรฮะ” หลังจากที่รถออกมาได้สักพัก ผมก็พูดขึ้น

     

            “ไหนคุณบอกจะไม่เป็นไง” ไม่เป็น ไม่เป็นอะไร ไอ่พี่โน่มันเป็นอะไร ทำไมมันพูดอะไรตรงๆออกมาไม่ได้ ทำไมต้องพูดให้มันเป็นเงื่อนงำด้วยวะ

           

    “...”

             

              “เรื่องหลีด ไหนคุณรับปากผมแล้วไง” กูไปรับปากตอนไหนวะ ผมจำได้ว่า มันไม่ให้ผมพูดอะไรเลย มันพูดเองเออเองแล้วก็วางไปเลย

     

            “ก็ ริทไม่รู้นิ ว่าเขาจะให้ไปเป็นหลีดอะ” ผมไม่รู้จริงๆ ถ้าผมรู้ผมจะแกล้งเนียน ไม่เดินออกกไปหรอก

     

            “อื้ม มันหนักนะ เหนื่อยด้วย ตัวเล็กๆอย่างคุณอ่ะ จะไหวหรอ” พี่โน่หันมาถามผม หลังจากที่รถติดไฟแดง

     

            “ริทไม่ได้ตัวเล็กนะ ห้ามว่าริทตัวเล็ก ริทอะมาตรฐาน คนอื่นเกิน” ผมไม่ยอมเด็ดขาดที่ไม่ว่าผมตัวเล็ก ไอ่พี่โน่มันสูงไปตังหาก

     

            “หึหึ” ไอ่พี่โน่ยิ้มและหัวเราะออกมาเล็กน้อย ก่อนที่ไฟจะเขียวและก็ขับรถออกไป

     

           





     

            หลังจากเงียบกันได้สักพัก ตอนนี้รถก็มาจอดอยู่ที่ร้านบะหมี่แถวๆหอผมเป็นร้านรถเข็นเล็กๆ

     

            “กินไหม” คนขับรถถามขึ้น

     

            “อื้ม” ผมตอบแล้วเปิดประตูเดินลงไป

     

     





     

     

            ผมมองหาที่นั่งแล้วนั่งลง พร้อมกับคนขับรถที่เดินตามผมและนั่งลงตรงข้ามผม

     

            “บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงไม่ผักพิเศษ แห้งนะครับ” ผมสั่งหลังจากที่มีพนักงานเดินมารับออเดอร์

     

            “ไม่กินผักหรอ...เอาบะหมี่เกี๊ยวกุ้งน้ำ” ประโยคแรกเหมือนพูดกับผมแต่ประโยคหลังหันไปสั่งกับพนักงานที่ไม่รับออเดอร์

     

            “ไม่ชอบมันขมอ่ะ” ผมตอบ กลัวพี่มันหน้าแตก หึหึ

     

            “ผักไม่กิน แถมกินเยอะอีกตังหาก ทำไมยังตัวเล็กอยู่อ่ะ” พี่มันพูดพลางยิ้มยิงฟันครบ 32 ซี่เลยมั้ง

     

            “บอกว่าไม่ได้ตัวเล็กไง” ผมทำหน้ายู่ใส่พี่มัน พี่มันเลยหัวเราะลั่นกลับมาให้ผมเลยทีเดียว

     

            “อย่ากินเยอะละ เดี๋ยวตอนเป็นหลีดใส่ชุดแล้วอ้วนนะ” พี่มันพูดหลังจากนั้นก็ถามหน้าเครียดๆ

     

            “พี่ ริทถามหน่อยทำไมถึงไม่อยากให้เป็นอ่ะ” ผมอยากรู้ ปกติพวกรุ่นพี่เขาต้องอยากให้รุ่นน้องอยากเป็นกันสิ จะได้ช่วยคณะ

     

            “มันหนัก ผมเห็นคุณตัวเล็ก กลัวคุณจะเป็นลมเอา” หึ ดูถูกผมรึไง

     

            “โหย ยิ่งพี่พูดงี้ ริทยิ่งอยากเป็นเลย คอยดูนะ ถึงยังงี้ริทก็แรงเยอะนะ” ผมพูดออกไป ไม่มีทางยอมหรอก มาว่าผมตัวเล็กได้ไง ถึงเห็นผมอย่างงี้ผมก็แรงเยอะนะ หึหึ

     

            “จิงหรอ ผมจะคอยดูนะ” เขาพูดแล้วก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง ผมรู้สึกว่าการที่เขาเป็นพี่ว้ากและทำหน้าเครียดๆ ทำให้เวลาพี่เขายิ้มนั้น ดูสดใสและก็น่าดูมากๆเลยทีเดียว อาจเป็นพอเห็นได้ยากละมั้ง

     

              หลังจากที่คุยเสร็จบะหมี่สองถ้วยก็มาวางบนโต๊ะ ผมรีบคว้ามากินอย่างรวดเร็ว หิวมาก อยากกินต่อสักสิบชามแต่ก็อยากเนื่องจากงบประมาณมีจำกัด กินให้อิ่มก็พอแล้ว ไม่ใช่กินให้หายอยาก

     

            “อ้าว ริท” ขนาดที่ผมกำลังโซ้ยบะหมี่อยู่ ก็ได้ยินเสียงหวานๆเรียกผม ทำให้ผมรับสูดมัน แล้วหันไปทันที

     

            “แกรนด์” แกรนด์นั้นเอง หญิงสาวตัวเล็กน่ารักที่ผมหมายปอง เขามากับเพื่อนผู้หญิงเขาอีกคน เหมือนจะเป็นหลีดด้วยกันด้วย ชื่อ เกรซ มั้งผมไม่แน่ใจแฮะ นี่ถือเป็นข้อดีที่ผมเป็นหลีดนะ เพราะถ้าให้ผมไปสอบจำชื่อเพื่อนที่ห้องเชียรชอบทำกัน ผมคงโดนทำโทษเละแน่ๆ เพราะผมจำชื่อใครไม่ค่อยได้เลย

     

            “ริท มากับใครนะ อ่าว พี่โน่นี่น่า” แกรนด์ พูดขึ้นแล้วทำน่าตกใจ ดูสิขนาดทำน่าตกใจยังน่ารักเลย ตาโตๆ กับปากที่อ้าออกเล็กๆ >/////<

     

              “สวัสดีค่ะ” แกรนด์กับเกรซยกมือไหว้แล้วพูดพร้อมกัน แต่อีกฝ่ายกลับไม่ตอบ ไม่หันไปมอง แถมยังสูดบะหมี่กินต่อไป หึ ทำเป็นเล่นตัว เป็นผมนะแทบจะเข้าไปกอดเลยด้วยซ้ำ

     

            “เอ่อ แกรนด์อยู่แถวนี้หรอ” สถานการณ์เงียบขรึม ผมเลยต้องทำลายมัน

     

            “อื้ม อยู่กับเกรซนะ ริทก็อยู่แถวนี้ร๋อ” แกรนด์ถามผมกลับ

     

            “นี้อ่ะ หอริท” ผมชี้ไปด้านหลังของร้านบะหมี่ซึ่งเป็นหอที่ผมอยู่นั้นเอง

     

            “อ่อ ของแกรนด์ เดินไปอีกหน่อยอ่ะ”

     

            “อ่าครับ” ผมพยักหน้าเล็กน้อย

     

            “ริท แกรนด์ของเบอร์หน่อยได้ไหม อยู่ใกล้ๆกันเผื่อมีอะไรไง” นี่ผมฝันไปรึป่าวเนี่ยมีผู้หญิงมาขอเบอร์ผมด้วย หึหึ ไอ่ริทมึงมีเสน่ห์เหมือนกันนะเนี่ย

     

            “ได้สิ” พอผมตอบแกรนด์ก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าถือสงสัยคงจะหยิบมือถือมาพิมเบอร์มั้ง

     

            “ผมอิ่มแล้ว ไปเถอะ” ยังไม่ทันที่แกรนด์จะหยิบมือถือขึ้นมา และยังไม่ทันที่ผมจะบอกเบอร์ไป เสียงทุ้มที่นั่งกินบะหมี่เงียบมาตั้งนานก็ดังขึ้น

     

            เขาลุกขึ้น หยิบเงินวางไว้บนโต๊ะ เป็นใบร้อยหนึ่งใบ พร้อมกับลากผมออกไปจากร้าน สงสัยผมจะตัวเล็กจริงๆสินะ วันนี้ผมเหมือนโดนลากตลอดเลย

     

            “เดี๋ยวสิ ริทยังไม่ได้บอกเบอร์แกรนด์เลยนะ” ผมยังคงโดนลากออกมาเรื่อยๆ พร้อมกับใบหน้าแกรนด์และเกรซที่ยืนทำหน้างงทั้งคู่

     







     

            ผมโดนลากมาที่ใต้หอของผม ที่อยู่ด้านหลังของร้านบะหมี่เมื่อกี้

     

            “พี่ลากผมมาทำไมเนี่ย โหยยย กำลังจะให้เบอร์สาวเลย” ผมโวยวายหลังจากที่พี่โน่ปล่อยมือผม เรายืนอยู่ที่ใต้หอผม

     

            “ชอบหรอ คนนั้นอ่ะ” คนนั้นคนไหน อีกแล้ว เงื่อนงำอีกแล้ว แต่ผมว่าผมเริ่มเก่งแล้วเริ่มรู้แล้วว่าพี่โน่หมายถึงอะไร

     

            “แกรนด์อะหรอ” ผมพูดขึ้น และพี่โน่ก็พยักหน้าเบาๆ ตอนนี้เรานั่งอยู่ที่โซฟาใต้หอผม

    “ชอบสิพี่ ตัวเล็กๆขาวๆ น่ารักจะตาย หรือพี่ไม่ชอบละ ตัวเล็กๆขาวๆนะ” ผมพูดแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ถามพี่เขากลับไป

     

    “ชอบ ตัวเล็กๆขาวๆ แต่..” หื้อ

     

    “แต่อะไร พี่” ผมเลิกคิ้วถามกลับไป

     

    “ป่าวๆ ช่างเหอะ ปีหนึ่งอยู่ ตั้งใจเรียนไปก่อนสิ อย่าเพิ่งไปมีแฟน” พี่โน่พูดออกมาเป็นชุดเลย

     

    “แฟนอะไรพี่ ริทแค่จะคุยเฉยๆ”

     

    “ไม่ต้องคุย เป็นหลีดก็หนักอยู่แล้ว เอาเวลาว่างไปอ่านหนังสือเหอะ ขึ้นห้องได้แล้ว ผมกลับแล้วนะ” พี่โน่พูดเสร็จก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากหอผม

     

     





     

    ผมสแกนนิ้วเปิดประตูแล้วเดินขึ้นหอมา พลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย สงสัยคงเป็นห่วงตามประสาพี่เทคสินะ เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ต้องคอยดูแลน้องเทค ผมเปิดประตูเข้าห้อง หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกระโจนขึ้นไปนอนบนเตียงทันที กดมือถือไปเรื่อยๆ เฮ้อ เบอร์สาวก็ไม่ได้ แถมไอ่เซนก็ยังคุยไม่รู้เรื่องเลย ชีวิตมหาลัยมันวุ่นวายขนาดนี้เลยรึไง

     

    ตือดึ้ง

     

     

    เสียงไลน์ดังขึ้น เป็นคนที่ผมเพิ่งแยกไปเมื่อกี้นี่เอง

     

    อย่าเอาเบอร์ไปให้ใครละ

    เอาเวลาไปอ่านหนังสือซะ

    อย่านอนดึก

    ฝันดี

     

    ส่งมาติดๆกันเลย ถึงคอนโดแล้วสินะ

     

    คร้าบบบ พี่เทคขี้สั่ง

    ขอบคุณที่เลี้ยงบะหมี่ ฝันดีครับ

     

     

            ผมพิมกลับไปพอขึ้นว่าอ่านแล้ว ผมรอสักพักก็ไม่มีข้อความอะไรกลับมา ผมเลยวางไว้บนหัวเตียง แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป เฮ้อ พี่เทคผมทำไมน่ารักจริงๆ ดูแลผมดีจังเลย : )






    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

            
    TBC ช่วยติชมกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×