คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่๒ องค์กรอสรพิษทมิฬ
บทที่๒ องค์กรอสรพิษทมิฬ
หลังจากที่คุโด้ถูกปล่อยตัวออกมา
(หน้าสถานีตำรวจ)
"เฮ้อ ทำไมเรามันดวง จวยอย่างนี้นี่ เฮ้อ...ว่าแต่ วันนี้ทำไมรถตำรวจเยอะจังน้า..."เด็กชายพูดพลางมองไปรอบๆซึ่งเต็มไปด้วยรถตำรวจและสัญญาณไซเรน
"วอร์หนึ่งเรียกวอร์สองเปลี่ยน"สัญญาณเมยเดยจากรถตำรวจคันหนึ่งดังขึ้นแต่ไม่มีผู้อยู่บนรถจึงไม่มีเสียงตอบกลับไป
"วอร์หนึ่งเรียกวอร์สองเปลี่ยน ตอนนี้สถานการณ์คับขัน ขอกำลังเสริมด่วน แก๊งโจรกลุ่มใหญ่กำลังตามไล่รถตำรวจ ๓ คันอยู่ ช่วยด้วย มีใครอยู่หมายยย " เสียงวอร์ดังออกมาจากเครื่องรับส่งสัญญาณในรถตำรวจ
"เอ๋!!! ขอความช่วยเหลือ งั้นเราไปนอนในกระโปรงหลังของรถดีกว่า เพื่อจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง
ว่าแล้วเจ้าคุโด้ก็ดันไปหลบในกระโปรงหลังของรถตำรวจ ซึ่งเต็มไปด้วยปืนขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่พร้อมทั้งระเบิดที่มีอานุภาพรุนแรง
"อะจึ๋ย!!! นี่มันอาวุธสงครามนี่ พวกเขาจะเอาไปทำอารายกันน้า เรารีบไปจากที่นี่ดีกว่า"คุโด้เอ่ยด้วยอาการตกใจแต่ว่า "เฮ้ย มันเปิดไม่ออก ทำไงดีอะ ช่วยด้วย!!!"
..........
"เหตุการณ์เป็นไงบ้าง หึหมวด"พัศดีถามกับผู้หมวด ลูกน้องของเธอพลางวิ่งไปที่รถตำรวจเพื่อไปช่วยเหลือเหล่าตำรวจที่ถูกล้อมโดยโจรไว้
"แย่มากครับ ตอนนี้พวกตำรวจมันกำลังมุ่งหน้าไปตรงทางที่มันตันอยู่ พวกมันก็จริงๆเล้ย เป็นตำรวจซะเปล่าวิ่งไปตรงทางตัน"หมวดกล่าวรายงานกับพัศดี
"เอาอย่างนี้นะ หมวดไปเอารถตำรวจพร้อมนายตำรวจที่ประจำการอยู่มาซัก๑๕นาย รถพยาบาลฉุกเฉิน ๒ คัน และ รถขนย้ายนักโทษ ๑ คัน" พัศดีตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่
"รับทราบ" ผู้หมวดขานตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ
ในตอนนั้นเองพัศดีก็ได้ขึ้นไปนั่งบนรถตำรวจที่เจ้าหนูน้อยถูกขังไว้ซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปที่ที่กลุ่มโจรกำลังหลบหนีทำให้เจ้าหนูน้อยถูกกระแทกด้วยอาวุธสงครามนานาชนิดทั้ง ปืน ระเบิด และอื่นๆอีกมากมาย
..........
"พัศดีครับ ตอนนี้หน่วยจู่โจมลำดับหนึ่งกำลังส่งตัวมาครับ คงจะถึงที่เกิดเหตุประมาณ เที่ยงวันพอดีครับผม"หมวดรายงานแก่พัศดีผู้นั้น
"แล้วฝ่ายโน้นล่ะ ถูกจับได้หรือยัง"
หมวดทำหน้าเศร้าก่อนจะหันมาตอบพัศดีว่า
"สถานการณ์ตอนนี้อันตรายมากครับเนื่องจาก นายตำรวจทั้งหมดถูกจับไปแล้วครับ แถมในนั้นยังมีผู้ใหญ่ชั้นพันตำรวจอยู่ด้วยครับ ท่านผู้บังคับบัญชาตั้งความหวังไว้กับพวกเรามากนะครับ ท่านพัศดีต้องปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จนะครับ"หมวดเจ้าของเสียงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
ขณะที่หมวดกับพัศดีกำลังซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ในพุ่มไม้ ตรงเชิงเขาซึ่งเป็นมุมอับ นายตำรวจผู้อื่นนั้นก็ถูกสั่งให้ไปซุ่ม ณ ที่ต่างๆ บ้างก็ไปหลบอยู่หลังเสาไฟฟ้า บ้างก็ต้องไปหลบในรถ และแล้วเจ้าหน่วยจู่โจมลำดับหนึ่งได้มารายงานตัวกับพัศดีเพื่อรับคำสั่ง
"หน่วยจู่โจมลำดับหนึ่ง พร้อมรายงานตัวครับ"หน่วยจู่โจมสามคนที่มีร่างกายกำยำ พร้อมอาวุธพร้อมมือ มารายงานตัวเพื่อรับภารกิจของเขา
("ช่วยด้วย ๆ ผมอยู่ในนี้ครับ)เสียงดังมาจากกระโปรงรถแต่ไม่มีใครสนใจเพราะเสียงถูกกลบด้วยเสียงปืนที่หน่วยจู่โจมยิงออกไป เนื่องจากพวกโจรได้ยินเสียง ทำให้พวกโจรต้องกราดยิงใส่สิ่งแวดล้อมต่างๆรอบๆเขา
"เอาอย่างนี้นะ ริก้า เธอคอยยิงสกัดให้ผม ส่วนเฟรส นายมากับผม จะได้ช่วยกันฝ่าเอาตัวประกันออกมา จำไว้นะ ต้องช่วยนายพันคนนั้นให้ได้ส่วนพวกที่เหลือก็ไม่จำเป็น"ดาริส แห่งหน่วยจู่โจมลำดับที่หนึ่งวางแผนการกับเพื่อนทั้งสาม
"รับทราบ"
"เอาล่ะ ลงมือปฏิบัติการ"ดาริสออกคำสั่ง
จังหวะนั้นเอง ริก้า สาวสวยคนเดียวในคณะจัดการขึ้นไปหลบตรงที่ที่อยู่บนเขาที่สูงพอที่จะทำให้เธอเห็นคณะโจรที่อยู่ข้างล่างและสอยพวกโจรได้อย่างแม่นยำถ้าเธอต้องการ
ส่วนดาริสและเฟรส ก่อนที่พวกเขาจะออกมาจากที่ซ่อนได้ซ่อนปืนพกไว้ที่เข็มขัดอย่างมิดชิดสองกระบอก จากนั้นจึงเดินออกมาจากที่ซ่อน
"พวกเราเป็นนักเดินทางผ่านมาแถวนี้ ไม่ทราบพอจะหลีกทางให้เราหน่อยได้ไหม"เฟรสเอ่ยถามเหล่าโจร(แหมโง่หรื่อไม่ฉลาดเนี่ย เห็นอยู่ว่าเป็นโจร ใครจะเปิดทางให้เนี่ย
ตอนนี้ดาริสได้สังเกตเห็นว่า แก๊งโจรนี้มีด้วยกัน สี่สิบกว่าคน และแต่ละคนร่างกายกำยำพอพอกับพวกเขาเลย โดยแก๊งโจรเหล่านี้มีใจกลางอยู่ที่รถลีมูซีน คันหนึ่งซึ่งมีหญิงสาวคนหนึ่งที่รูปโฉมงดงามมาก ด้วยตาสีชมพู เพียบพร้อมด้วยผมสีแดงยาวสลวย ที่ดูแล้วไม่อาจละสายตาได้ ข้างๆเธอนั้นก็มีเด็กชายผู้หนึ่งที่หน้าตาเอาเรื่องเหมือนกัน ถ้ากะด้วยสายตาแล้ว คงจะอายุประมาณ ๙ ปี ผมนั้นเป็นประกายสีดำสนิท แต่ดวงตาสีดำคู่นั้นกลับมีแววอำมหิตที่ยิ่งดูยิ่งเหมือนมันหยั่งลึกเข้าไปในหัวใจ ส่วนระหว่างคนทั้งสองนั้นมีนายตำรวจคนหนึ่งที่มีร่างกายไม่อ้วน ไม่ผอม และดูไม่ค่อยแข็งแรง ซึ่งเขาสันนิฐาน ได้เลยว่า นั่นละเป้าหมาย
ส่วนด้านหน้าของรถคันนั้นทางฝั่งพวงมาลัย มีคนขับ เป็นชายชราที่ร่างกายดูไม่ค่อยแข็งแรงนัก ถ้าดูจากหน้าตาคงจะอายุประมาณ เจ็ดสิบกว่าๆ เพราะผมที่ขาวโพรนไปหมดและผิวหนังที่เหี่ยวย่นจนเหมือนสุนัข(พันธุ์บูลด๊อก) ข้างๆเขานั้นมีเด็กผู้หญิงหน้าตาคล้ายๆตุ๊กตาเด็กเล่นนั่งอยู่ด้วย
"นี่ดาริส เฟรส นายเห็นแล้วใช่ไหม ตรงนั้นคือ ผู้พัน แฮมเมอร์ ส่วนที่ขนาบข้างนั้นเป็นหัวหน้ากลุ่มอสรพิษทมิฬนาม ท่านผู้หญิงกราเซียร่า ส่วนข้างๆเธอนั้นคือเป้าหมายภารกิจ และข้างๆผู้พันก็ คือ มังกรปราชญ์ ส่วนเด็กผู้หญิงคนนั้นก็ หงส์ภูผา แล้วเจ้าคนแก่ๆ นั้นน่ะ อย่าดูถูกเชียวนะ เขาคือ สมิงเวหา ผู้ที่เคยเหยียบนรกแล้วยังกลับมาโดยมีชีวิตอยู่ได้ จำไว้นะ สี่คนนี้พยายามหลีกเลี่ยงพวกเขาให้ได้ มิเช่นนั้นพวกนายจะไม่ไม่มีโอกาสได้สัมผัสแม้ปลายเนื้อของผู้พันแน่"เสียงริก้าพูดผ่านไมโครโฟนติดหูของพวกเขาเพื่อย้ำเตือนบุคคลอันตราย
"รู้แล้วล่ะน้า คิดว่าเราไม่ได้ศึกษามาเหรอว่าเจ้าพวกนั้นมีพรสวรรค์พิเศษ"เฟรสตอกกลับเพื่อไม่ให้เสียหน้าเหมือนมีคนมาสั่งสอน
"ข้าคงให้เจ้าผ่านไปไม่ได้หรอกนักเดินทาง แน่จริงลองฝ่าเข้ามาซะเลยสิ"กลุ่มโจรบอกเหล่านักเดินทาง (ปลอม!!!)
"รู้แล้วสินะ"ดาริสพึมพำก่อนส่งสัญญาณเตรียมพร้อมให้เจ้าเฟรสบุก
"พอเรานับ หนึ่งถึงสามนะ นายวิ่งไปที่รถนั่นนะ แต่อย่ายิง พยายามชิงตัวประกันออกมาก่อนเดี๋ยวพลาดเป้า ส่วนเราจะคอยจัดการส วะ รอบๆให้"เฟรสพูดกับเพื่อนอย่างเป็นกันเอง
"นี่หมวด พวกนั้นเขาจะทำได้ไหมเนี่ย"พัศดีเอ่ยอย่างหวั่นๆ
"ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ผมคิดว่าเราน่าจะเตรียมพร้อมไว้ก่อน"
พัศดีพยักหน้าให้ทีนึงอย่างรู้ว่าหมวดจะทำอะไรต่อไป ซึ่งนั่นเป็นผลให้ผู้หมวดหยิบเอาโทรศัพท์ออกมาเพื่อเรียกหน่วยจู่โจมกลุ่มไหมซึ่งจริงๆก็กะจะเรียกกลุ่มสองแต่
"หมวดเรียกกลุ่มAมาเลย ฉันว่าพวกเขาจำเป็นนะในสถานการณ์แบบนี้"พัศดีออกคำสั่ง
"แต่ว่า"หมวดเอ่ยมาอย่างหวั่นๆ
ใช่แล้ว หน่วยจู่โจมAเป็นหน่วยที่ปฏิบัติการได้อย่างยอดเยี่ยมแต่มีข้อเสียอยู่มากมาย เช่น พวกเขาจะไม่ใส่ใจต่อนาย
"หมวดไม่ต้องมาขัดคำสั่งหรอกนะ ฉันรู้ดีว่าพวกเขาเป็นยังไง แต่พวกโจรนั้นมีคนที่มีพรสวรรค์พิเศษอยู่ด้วยถ้าไม่เรียกพวกเดียวกันมาแล้วจะสู้ได้ไงละ หือ" พัศดีพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ขณะที่หมวดพับโทรศัพท์ลงเพื่อเก็บลงกระเป๋านั้น ฝ่ายหน่วยจู่โจมก็ได้บุกเข้าไปตามแผนการ ซึ่งพวกเขาในขณะนี้ได้เขามายืนบนรถลีมูซีนของกราเซียร่าซะแล้ว พวกเขาเอาหลังชนกัน ย่อเข่าลงพลางหยิบปืนพกที่มีกระสุนอยู่ออกมากราดยิง
"สอยให้หมดนะริกก้า"เฟรสเอ่ยขึ้นเพื่อให้ริกก้าช่วยตนทำลายศัตรู
"รับทราบ"เธอพูดพลางเริ่มกราดยิงจากด้านนอกของใจกลางรีมูซีนจนเข้ามาถึงข้างใน
ในขณะนั้นเอง ผู้อ่านคงยังไม่ลืมใช่ไหม....
"ช่วยด้วยๆ ผมอยู่ในนี้"เสียงร้องของคุโด้ยังดังอยู่แต่ก็ไม่มีใครสนใจ (แหม!น่าสงสาร)
"หนึ่ง...สอง...สาม...ห้า...หก เสร็จไปแล้ว ๗ คน เฟรสนายได้เท่าไหร่แล้วล่ะ"เสียงดาริสเอ่ยถาม พวกเขาคงคิดว่าการฆ่าคนเป็นเรื่องสนุกกระมัง
"สิบสอง เรานำแล้วนะ"เฟรสเอ่ยตอบ แต่ขณะนั้นเอง
แกร๊ก...แกร๊ก กระสุนหมด ตายอ่า ตู
เอาละสิทั้งดาริสและเฟรสดันลืมเอากระสุนสำรองออกมาจากกระเป๋านะสิ เฮ้อ!
"นี่เอาไงดี..."เฟรสถามดาริส
"เฮ้อ...จะทำไงล่ะ โกยสิวะ"ดาริสเอ่ยออกมาอย่างรวดเร็วจนทั้งสองต้องโกยขาให้เร็วเท่ากับคำพูด
..........
บนเชิงเขา
"เฮ่อ!ใช้ไม่ได้ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่า ไอ้เจ้านั่นมันพึ่งพาไม่ได้ ดูสิ พวกโจรปริมาณยังไม่ลดไปเลย แล้วพวกหน่วยAมากันหรือยังเนี่ย"พัศดีส่ายหน้าราวพัดลม
"โอะ!!! นั่น มาแล้วครับ"หมวดตอบ
หน่วยAที่พัศดีว่า มากันสี่คน พวกคุณเธอเป็นผู้หญิงกันทั้งนั้นใส่ชุดนี่แบบแปร้ดๆกันทั้งนั้นจนตำรวจบางคนไม่เชื่อว่า พวกนี้นะหรือหน่วยจู่โจมระดับAที่ทั้งขี้เกียจและไม่เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา
"นี่นะเหรอหน่วยAที่เธอว่านะ หมวดคงไม่ได้เรียกมาเต้นอาร์โกโก้ หรอกนะ"พัศดีแซวหมวดทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเมื่อกี้คุณเธอเป็นคนยืนยันการเรียกหน่วยนี้มาเอง
หมวดเริ่มขยี้ตา เพราะไม่เชื่อว่านี่เหรอคนที่พวกเขาคิดว่าเก่งที่สุด
"คำสั่งคือ ฆ่า"หัวหน้าหน่วย บริออน เอ่ยสั่งการลูกน้อง
"รับทราบค่ะ"หน่วยจู่โจมขานรับ
(ท่านผู้อ่านกรุณาเตรียมกระดาษทิชชู่ไว้ข้างๆท่านด้วย เพราะว่า...)
ทันใดนั้นเองพวกคุณเธอก็จัดแจงถอดชุดแปร้ดๆของพวกคุณเธอนั้นออก คงเหลือไว้เพียงชุดว่ายน้ำแบบทูพีซ และหน้าอกอันอวบอึ๋มของคุณเธอ
"หนุ่มๆขา... พวกฉันเอาพิซซ่ามาส่งค่ะ"ว่าเสร็จพวกคุณเธอก็ค่อยๆล้วงกล่องพิซซ่าออกมาจากกระเป๋าของเธอ (ซึ้ด!!!โอ๋ยเลือดกำดาวหยาย)
พวกกลุ่มโจรส่งคนมาคนนึงมารับพิซซ่า แล้วจับก้นของพวกเธอไปทีนึกก่อนกล่าวคำขอบคุณ ทันใดนั้นเอง
"อะแฮ่ม!!!ทำอะไรค่ะ"พวกคุณเธอโวยวาย(ตัวเองแต่งตัวมาล่อเขาเอง ทำบน เดี๋ยวบัดเหนี่ยวเลย)พลางควักปืนออกมาจากกระเป๋าแล้วกราดยิงพวกโจร
..........
"เห็นไหมฉันบอกแล้วว่าต้องเรียกพวกเธออกมา ดูสิไม่ทันไรเจ้าพวกโจรก็หายกันไปกว่าครึ่งและ"พัศดีเอ่ยกับตนเองอย่างพออกพอใจ
"แหม ทีเมื่อกี้ยังว่ามาผิดหน่วยอยู่เลย"หมวดพึมพำเบาๆกับตัวเองแต่มิอาจรอดพ้นหู(สุนัข)ของพัศดีไปได้
"แฮ่ม! พูดอะไรนะหมวด"พัศดีกระแอมออกมาพลางจ้องตาเขม็งมาที่หมวด
"ปะ...ปล่าวครับ"หมวดตอบเสียงสั่น
..........
"เสียงเอะอะโวยวายอะไรเนี่ย! สมิงเวหา เจ้าลงไปดูสิ
"ครับ"สมิงเวหาขานรับ
..........
"เสียงเอะอะอะไรกันฮึ รบกวนท่านกราเซียร่า จนท่านไม่พอใจแล้ว"สมิงเวหาออกมาพูดกับเจ้าลูกน้อง แม้เสียงปืนจะดังเพียงใดแต่ไอ้พวกที่อยู่บนรถกลับไม่ได้ยินอะไรเลย ทำเหมือนเป็นเพียงแค่เสียงนกกาเท่านั้น
"ขออภัยครับท่าน ตอนนี้มีผู้มีพรสวรรค์พิเศษปรากฏออกมาถึงสี่คน ทำให้การเดินทางล่าช้าครับ ต้องขออภัยจริงๆครับท่านหัวหน้า สมิงเวหา"รองหัวหน้าหน่วยสมิงเวหารายงานต่อหัวหน้าหน่วยของตน
"รีบๆจัดการให้สิ้นซากซะนะ เลาจน์ ข้าจะให้เวลาเจ้าจัดการ สิบ นาที รีบๆปฏิบัติให้เสร็จล่ะ"สมิงเวหา กล่าวต่อลูกน้องของตนอย่างตรงไปตรงมา
"รับทราบ...."รองหัวหน้ารับฟังก็กลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ เพราะการจะจัดการผู้มีพรสวรรค์พิเศษนั้นจัดการไม่ได้ง่ายๆเอาซะเลย
..........
"ได้ยินแล้วใช่ไหม คริสโตเฟอร์ ดีน่า โรเฟียส พวกนายจัดการให้เรียบร้อยใน ๘ นาทีนะ(ออกคำสั่งเวลาหายไปแล้ว สองนาที)"รองหัวหน้าหน่วยเอาคำสั่งจากหัวหน้ามาแพร่แก่ลูกน้อง
"รับทราบ..."
"พวกนายถอยออกมา!"คำสั่งประกาศิต พรั่งพรูออกมาจากปากของรองหัวหน้า พลางกระดิกนิ้วเป็นสัญญาณถอย
"เอาล่ะ ดีน่า โรเฟียสได้ยินแล้วใช่ไหม พวกนายไปจัดการสองคนนั้นนะ ส่วนฉันจะไปจัดการเจ้ารองหัวหน้านั่นเอง ส่วนหัวหน้าดูท่าจะเก่งที่สุด ไว้พวกเราสามคนค่อยมาร่วมมือกันฆ่าแล้วกัน"คริสโตเฟอร์ผู้เป็นนายออกคำสั่ง(สถาปนาตนเอง)
"อืม"ดีน่าและโรเฟียสขานรับ เมื่อรู้ว่าตัวเองถูกลดขั้นกลายเป็นลูกน้องไปแล้ว
"เอาล่ะพวกเรา ลุย...."
..........
..........
..........
ความคิดเห็น