ตอนที่ 8 : Special Part : #พยูนเกยเต้ EP18 [JOYLADA]
Special Part : พยูนเกยเต้ EP18
ผมเดินตามหลังเล็กพี่พยูนเข้ามาในห้อง สายตาของผมสอดส่องไปทั่วห้องด้วยความสนอกสนใจ เจ้ากาแฟเองก็เช่นกัน เจ้าหมาตัวเล็กวิ่งไปรอบห้องพี่พยูนอย่างมีความสุข สำรวจนู่นนี่ตามภาษา เจ้าตัวน้อยคงมีความสุขไม่น้อยที่มีบริเวณกว้างๆให้วิ่งเล่น ไม่เหมือนกับตอนที่เราพักอยู่ที่หอ
นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมได้มาห้องพี่พยูน หลังจากวันที่ผมกับไอกี้เมาเละผมก็ไม่เคยมาเหยียบที่นี่อีกเลย ผิดกับคนพี่ที่ไปหอผมแทบจะทุกอาทิตย์
“อ่า นั่นไม่ได้นะ”
พี่พยูนพูดปรามเจ้ากาแฟ เมื่อเจ้าตัวแสบพยายามจะคาบตุ๊กตาแมวตัวใหญ่ที่วางอยู่บนโซฟา มันทำให้ผมแอบแปลกใจไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าคนแสว๊กแบบพี่พยูนจะมีมุมหวงตุ๊กตาแบบนี้
อ่า !~~~ พี่คนนี้มีอะไรให้ประหลาดใจอยู่เรื่อยเลย
“เอาอันนี้ไปคาบแทนสิ”
“เฮ้ยพี่!!”
ผมจะไม่ห้ามเลย ถ้าสิ่งที่พี่พยูนโยนให้กาแฟไม่ใช่เสื้อแจ็คเก็ตที่ผมถอดวางไว้บนโซฟา พี่ตัวขาวทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาว ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจอะไรทั้งนั้น
พี่พยูนนี่น่าตีชะมัด !!
“เอากระเป๋าเข้าไปเก็บในห้องสิ”
“อ่า ครับ”
“เอาเสื้อไปเก็บด้วย อย่าวางเพล่นพล่าน มันรก”
“ครับ”
ผมขานตอบรับพี่เขาแล้วถือกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่ตัวเองแบกมาเดินเข้าไปในห้องนอน พี่พยูนเห็นสแว๊กๆห่ามๆอย่างงี้นะครับ รักสะอาดมาก แม้จะไม่ค่อยมีเวลาแต่ห้องพี่เขาไม่รกเลย ข้าวของทุกอย่างถูกแยกเป็นสัดส่วนและจัดอย่างเป็นระเบียบ
ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องที่ค่อนข้างจะคุ้นเคย พอเดินเข้ามาในสถานที่เกิดเหตุคืนวันที่ผมเมา วันที่ผมจูบกับเขาครั้งแรก มันก็พลอยทำให้หน้าแดงและรู้สึกเขินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“เต้หยิบโน๊ตบุ๊คบนโต๊ะทำงานพี่มาด้วยดิ”
เสียงนุ่มทุ้มของพี่พยูนตะโกนดังมาจากห้องนั่งเล่น
“ครับ”
ผมเดินออกมาจากห้องพร้อมกับโน๊ตบุ๊คตามคำสั่งของคนพี่ ส่วนเจ้าตัวน่ะเหรอครับ ก็นอนเอนหลังอยู่บนโซฟาอย่างสบายใจ แถมกระดิกนิ้วเท้าด้วย
สบายเหลือเกินพ่อคุณ
“อยากดูเรื่องอะไรอ่ะ”
“Kingman2 ม่ะพี่”
“อื้มได้”
ผมจัดการเปิดหนังเสร็จสรรพ ก่อนจะเดินไปนอนบนโซฟาตัวเดียวกับพี่พยูน แต่ทุกคนอย่าคิดไปไกลนะครับว่าผมจะเดินเข้าไปนอนกอดพี่เขาอย่างที่ชอบทำมาตลอด
ไม่ครับ !ผมไม่ทำแบบนั้นหรอก เพราะตอนนี้ผมยังงอนพี่พยูนอยู่
ไม่หายง่ายๆหรอกนะบอกเลย
ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะเดินไปอีกฟาหนึ่งของโซฟา ปล่อยให้พี่พยูนนอนกับเจ้ากาแฟตามลำพัง พี่คนตัวเล็กหันมามองผมด้วยแววตาไม่เข้าใจ คิ้วบางขมวดจนเกือบจะผูกปมตรงกลางหน้าผาก แต่เพียงเสี้ยววินาทีใบหน้าหวานก็เปลี่ยนจากแมวงงเป็นแมวน้อยจอมอ้อน ยอมรับว่าพี่พยูนน่ารักแต่ผมจะไม่ใจอ่อน ขืนหายงอนง่ายรอบหน้าพี่เขาก็จะยิ่งได้ใจ
“รังเกียจ?”
“เปล่าครับ”
“ไม่ขยับเข้ามาใกล้ๆละ”
“…………”
“ไหนบอกว่าคิดถึงกันไง”
โอเคครับ ผมยอมแพ้อย่างราบคาบ !!
ผมละไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆว่าทำไมต้องขยับร่างเข้าไปหาพี่พยูนด้วย
“ขี้งอนชิบหาย”
ริมฝีปากเล็กสีชมพูบ่นออกมาเมื่อผมเขยิบเข้าไปใกล้คนตัวเล็ก แม้จะหมั่นไส้กับความขี้บ่น ขี้งอน เหมือนเด็กสาวมีประจำเดือนแต่ผมก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรกับพี่เขา
ต้องนิ่ง
ต้องเข้ม
เดี๋ยวแมวดื้อมันจะได้ใจ
“อะไรครับ”
ผมแกล้งถามเสียงแข็งใส่เจ้าแมวขนดำ เอ่อ! หมายถึงผมสีดำน่ะครับ ก็เจ้าตัวเล่นนอนสะกิดแขนผมไม่หยุด ทุกคนอาจจะไม่รู้นะครับ ผมจะขอบอกทุกคนตรงนี้เลยละกันครับว่าพักหลังมานี้พี่พยูนของทุกคนน่ะขี้อ้อนเหลือเกิน อ้อนเก่ง เก่งชนิดที่ผมคาดไม่ถึงเลยละครับ ไม่คิดว่าคนแบบพี่เขาจะมีมุมน่ารักซ่อนไว้เยอะขนาดนี้
อยากจะพบหน้าพ่อแม่พี่พยูนจริงๆ เลี้ยงลูกยังไงให้น่ารักขนาดนี้
แม้จะอยากหันไปบีบแก้มกลมของแมวขี้อ้อนให้ช้ำเล่นจนใจแทบขาด แต่ผมก็เลือกที่จะนอนนิ่ง ที่นิ่งไม่ใช่อะไรนะครับ ข่มใจตัวเองอยู่
ข่มใจไม่ให้ฟัดเจ้าแมวทะเลตัวขาว !!
“พี่อย่ากวนได้มั้ย เต้ดูหนังไม่รู้เรื่อง”
“เออๆ ไม่กวนแล้วก็ได้”
คือคนที่งอนพี่เขาอยู่เป็นผมถูกมั้ยครับ??
แล้วทำไมผมกลับโดนงอนเองละเนี่ย !?
หลังจากที่ผมดุพี่พยูน พี่เขาก็นอนนิ่งไม่มากวนใจอะไรผมอีก ผมก็เลยเบนความสนใจไปยังภาพยนต์ที่ฉายอยู่บนจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ตรงหน้า แต่เมื่อเวลาผ่านไปพักใหญ่ ผมก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าทำไมพี่เขาถึงนิ่งไปได้นานขนาดนี้ เพราะปกติพี่พยูนเขาไม่เคยอยู่นิ่งได้เกินห้านาทีหรอกครับ
พี่เขาจะนิ่งเวลาเดียวเท่านั้นคือ เวลานอน
ผมเลยหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ แล้วภาพที่ปรากฎสู่สายตาก็ไม่ต่างจากสิ่งที่ผมคิดเลยสักนิด ดวงตาทั้งสองข้างของผมจับจ้องไปยังคนตัวเล็กข้างกายที่กำลังหลับตาปุ๋ยเข้าสู่ห้วงนิทรา เวลานอนอ่ะน่ารักน่าเอ็นดูชะมัด ดูไม่มีพิษไม่มีภัย แต่ทำไมเวลาตื่นละดุจัง
หมั่นเขี้ยวโว๊ยยยย
ผมยื่นมือไปบีบจมูกมนอย่างห้ามใจไม่อยู่ ลามมายังพวงแก้มใส ผมบีบซาลาเปาลูกเล็กอย่างไม่เบามือแต่ก็ไม่ได้หนักจนเกินไป ผมไม่อยากจะปลุกให้พี่พยูนตื่นขึ้นมา แค่อยากหยิกให้แก้มพี่เขาแต่งแต้มด้วยสีแดงจางๆ
เฮ่อออ ผมคิดว่าตัวเองเป็นโรคจิตชนิดหนึ่งครับ
“อื้อออออออออ”
มือขาวยกขึ้นมาปัดมือของผมที่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวแก้มกลมของเจ้าตัว แต่ดวงตาคู่เล็กยังคงหลับสนิทไม่ลืมขึ้น
ไอแมวขี้เซาเอ๊ย!!
แม้เจ้าตัวจะพยายามปัดป่ายไปทั่วเพราะความรำคาญ แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ ยังคงไม่ละความพยายามที่จะแกล้งคนที่นอนหลับสนิทอยู่ ก็คนมันทั้งหมั่นเขี้ยวและหมั่นไส้นี่ครับ เพราะพี่พยูนคนนี้น่ะทั้งน่ารัก น่าเอ็นดูแถมยังขี้ดื้อ ขี้งอแง เจ้าปัญหาอีกต่างหาก นี่รวมข้อหาไม่ยอมตั้งคบในเฟสด้วยนะ
ดื้อขนาดนี้ขอทำโทษหน่อยเหอะ
‘ฟอดดดดดดดดด’
ผมก้มลงไปสูดดมความหอมจากแก้มนิ่มเต็มปอดอย่างอดใจไม่ไหว นับวันพี่พยูนยิ่งมีอิทธิพลเหนือตัวผม นี่ขนาดตัวผมยังนอยยังงอนพี่เขาอยู่นะครับ ผมยังอดไม่ได้เลยที่จะฉวยโอกาสเก็บเล็กเก็บน้อยจากพี่ตัวขาวคนนี้ ผมกดจมูกตัวเองแช่ไว้บนพวงแก้มที่ขึ้นสีแดงจางๆจากแรงบีบของผมก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นก็ค่อยๆลากปลายจมูกโด่งของตัวเองไปมาบนเนื้อนิ่มด้วยความลุ่มหลง
ผมหลงผู้ชายคนหน้าจนแทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว
“ยะ ยะ อย่า”
“หือออออ”
ผมหยุดการกระทำของตัวเองเมื่อได้ริมฝีปากเล็กสีชมพูพยายามจะพูดบางอย่างกับผม
“อย่าแกล้ง”
“ง่วง”
ได้ยินแบบนั้นแล้วผมก็เลิกก่อกวนพี่พยูน ไม่ได้กลัวแฟนนะครับ ทุกคนอย่าเข้าใจผิด ผมแค่อยากปล่อยให้พี่เขาพักผ่อนต่างหาก
จริงๆนะ
= Taegientheworld =
หลังจากนอนดูหนังจนจบแล้ว ไม่สิ! ต้องพูดว่านอนให้หนังดูมากกว่า เพราะเราต่างก็นอนหลับหน้าทีวีกันทั้งคู่ พี่พยูนก็เข้ามาอาบน้ำในห้อง ส่วนผมก็นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงอย่างสบายใจอารมณ์แล้วปล่อยให้เจ้ากาแฟวิ่งเล่นอยู่ด้านนอกตามลำพัง
“คืนนี้ขอเวลาให้ป๊าใหญ่กับป๊าเล็กอยู่ด้วยกันก่อนนะ”
ผมแอบกระซิบบอกเจ้ากาแฟก่อนที่จะเดินเข้าห้องนอนตามหลังพี่พยูนไปติดๆ งงตัวเองเหมือนกันครับ งอนเขาแต่หาโอกาสใกล้ชิดเขาตลอด
ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ
‘แกร่ก’
เสียงเปิดประตูห้องน้ำที่ดังขึ้นทำให้ผมละสายตาจากโทรศัพท์ในมือไปมอง พี่ตัวขาวเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่งตัวเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งกับบ๊อกเซอร์ขาสั้น ชิวๆสบายๆ อวดเรียวขาและผิวขาวๆให้ใจผมเต้นแรง และดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวด้วย ว่าไอการแต่งตัวแบบนี้อยู่ด้วยกันสองต่อสองอ่ะ
แม่งโครตอันตรายเลยครับ
ผมต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการดึงความสนใจของตัวเองจากผิวขาวๆที่แสนยั่วยวนนั่น แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้อะไรเลย เพราะถ้ารู้พี่เขาคงไม่ก้มหน้าลงมามองกันแบบตอนนี้แน่ๆครับ ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาคู่เล็ก พยายามที่จะไม่ละสายตาไปมองอะไรที่มันต่ำกว่านั้น เพราะไม่อย่างนั้นผมอาจจะเลือดกำเดาไหล เพราะเสื้อยืดคอวีคว้านกว้างจนมองเห็นทะลุไปหมดทุกส่วน
“ไปอาบน้ำได้แล้ว”
“นอนบนเตียง น้ำก็ไม่ยอมอาบ สกปรก!!!”
จบครับ! อารมณ์หวาบหวิวทุกอย่างดับลงเมื่อริมฝีปากเล็กๆบ่นออกมา พี่พยูนนี่โครตชอบดับฟิวกับอารมณ์ของผมตลอด
เมื่อผมไม่ยอมขยับเขยื้อนนอนจ้องหน้าพี่เขานิ่งๆ เจ้าแมวตัวขาวขนฟูก็เริ่มใช้กำลังกระชากแขนให้ผมลุก พอสู้แรงผมไม่ได้ก็ฟาดมาที่อกผมเต็มแรง ผมนี่ชักจะสงสัยแล้วครับว่ามีแฟนเป็นพวกซาดิสหรือเปล่า
เอะอะก็ใช้กำลังตลอด
ยิ่งเวลาโดนผมแอบเก็บเศษเล็กเศษน้อย ยิ่งดุเป็นพิเศษ กางเล็บตะปบเข้าที่แขนจนเป็นรอยตลอด นี่ไม่ได้จะบอกกับทุกคนว่าพี่เขาเป็นแมวนะครับ
แค่เปรียบเทียบให้ฟังเฉยๆ
“ลุกเลยนะเต้!!!”
“นี่!”
‘เพลี๊ยะ’
“โอ๊ย !! ฟาดมาอยู่ได้เจ็บนะ”
เมื่อโดนตีหลายทีเข้า ผมก็เริ่มโวยวายขึ้นมาบ้าง ฟาดมาไม่ยั้งแบบนี้ก็เจ็บเหมือนกันนะเว้ย!
“ก็เราพูดไม่รู้เรื่องอ่ะ ไปอาบน้ำเลย”
“โอ๊ย รู้แล้วน่า”
“โอ๊ยพี่”
“พี่ค้าบบบบบบ”
“เลิกฟาดกันได้แล้ววววววววววว”
สงครามระหว่างเราในครั้งนี้ สุดท้ายเป็นผมที่เพลี่ยงพล้ำและเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป ผมยอมลุกขึ้นจากเตียงนอนอันแสนนุ่มจอมดูด เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวในกระเป๋าเป้ที่ตัวเองเอามาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ที่ยอมแฟน ไม่ได้กลัวนะครับ
แต่แค่เกรงใจ
ผมใช้เวลาทำธุระส่วนตัวอาบน้ำสระผมไม่นานนัก ก็เป็นผู้ชายนี่เนอะ ไม่ต้องพิถีพิถันอะไรมากมาย ผมเดินออกมาจากห้องน้ำพลางเช็ดผมของตัวเองไปด้วย พี่พยูนที่นอนอยู่บนเตียงหันมามองผมก่อนเจ้าตัวจะลุกขึ้นนั่งท่าชันเข่า อยากจะบอกพ่อคุณทูนหัวเหลือเกินว่า ท่านั่งแบบนี้มันไม่ดีต่อใจคนมองเลย
“มานี่สิ”
คนตัวเล็กกวักมือเรียกผมให้เดินเข้าไปหา ผมก็เดินเข้าไปหาพี่เขาอย่างว่าง่าย
แม่ผมสอนมาดีครับว่าเป็นเด็กเป็นเล็กต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่
มือขาวคว้าแขนผมให้นั่งลงบนเตียง
“ทำไมครับ?”
ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจกับการกระทำของเจ้าตัว เอ๊ะ ! หรือพี่พยูนจะทำอะไรผมหรือเปล่านะ? วันนี้ไม่ยอมง่ายๆหรอกเพราะว่าคนพี่ยังมีคดีติดตัวอยู่ ความคิดของผมตีกันผสมปนเปไปหมดในหัว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็นั่งลงบนเตียงตามความต้องการของพี่พยูน แล้วริมฝีปากผมก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อคนตัวเล็กเริ่มบรรจงเช็ดผมให้กัน
มีแฟนมันดีแบบนี้นี่เอง
“ผมยาวแล้วนะ”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบระหว่างเรา
“ก็ไม่ว่างไปตัดนี่นา”
“………………….”
“เต้ติดสอบ”
“เดี๋ยวพาไปตัด”
“ครับ”
ผมขานรับออกไปทั้งๆที่หลับตาพริ้ม มีคนมาเช็ดผมให้แบบนี้มันทั้งสบายหัวแล้วก็เคลิบเคลิ้มในเวลาเดียวกัน ยอมรับครับว่าเคลิ้มมาก มากจนไม่รู้ตัวเลยว่าแขนตัวเองไปรั้งเอวของคนพี่ตั้งแต่ตอนไหน
“สบายไปม่ะ?”
“อืมมมมมมมมมม”
ผมเลือกที่จะครางในลำคอแทนคำตอบ ก็มันสบายจริงๆนี่นา
“นี่ อย่าพึ่งรุ่มร่ามได้มั้ย”
พี่พยูนเอ่ยปากห้าม เมื่อมือของผมเริ่มจะอยู่ไม่สุข เก็บเล็กเก็บน้อยกับร่างกายคนตรงหน้า ก็เห็นผิวขาวๆ สัมผัสแล้วนุ่มลื่นมือแบบนี้ละมันห้ามใจไม่ไหวนี่นา
“ขอเช็ดผมให้เสร็จก่อนได้มั้ย!”
มือเล็กฟาดผ้าเช็ดตัวในมือลงมาบนหน้าผมเต็มๆ
“พี่ยูน เต้เจ็บนะ!”
“สมน้ำหน้า”
“พี่อ่ะ! ดุชิบหาย นี่มีเมียหรือมีแม่ว๊ะ”
“ปากดีเดี๋ยวเหอะ!”
“อย่าตีนะ ยอมแล้วๆ”
ผมรวบแขนเรียวเล็กทั้งสองข้างแล้วร้องห้ามเสียงหลงเมื่อเห็นคนพี่ง้างมือเตรียมจะฟาดลงมาอีกและปล่อยออกเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเริ่มจะอารมณ์เย็นลง
“เต้งอนพี่อยู่นะ ทำไมไม่คิดจะง้อกันบ้างรึไง?”
แขนของผมรั้งเอวบางเข้าหาตัวแล้วซบลงตรงแถวบริเวณหน้าท้องแบนราบอย่างออดอ้อน ตอนนี้ผมทั้งงอแงและตัดพ้อกับคนใจร้ายตรงหน้า
“ละใครบอกว่าไม่ได้งอน?”
“พี่อ่ะ!”
“เอ้า ก็เราบอกกับพี่เองอ่ะว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องง้อ”
ก็ตอนนั้นมันนอยด์หนักนี่เลยประชดออกไปแบบนั้น
“แต่ตอนนี้อยากให้ง้อแล้ว”
“…………..”
“ง้อเต้หน่อยสิ”
“นะนะ นะครับ”
พูดออดอ้อนพร้อมกับดึงคนตัวเล็กลงมานั่งบนตัก ถึงแม้พี่พยูนจะไม่ขัดขืนอะไรแต่หน้าหวานก็แสดงถึงความไม่เต็มใจ ทั้งบึ้ง ทั้งตึงแถมยังเบะปากใส่กันอีก
น่าตีชะมัด!
ผมฝังจมูกลงไปบนพวงแก้มใสจนเกิดเสียงดังและสูดดมความหอมจากผิวนิ่มจนเต็มปอด ทั้งหมดที่ทำไปนี่เพราะความหมั่นเขี้ยวล้วนๆครับไม่มีอะไรผสม ผมกดเน้นย้ำไม่ยอมผละออกจนคนตัวเล็กเริ่มมีปฎิกิริยาต่อต้าน ดิ้นขลุกขลิกบนตักผม
พาให้อะไร ‘ตื่น’ ไปหมด
“อย่าดิ้น”
ผมกระซิบข้างหูด้วยโทนเสียงต่ำกว่าปกติ และครั้งนี้คำขู่ของผมก็ได้ผลเพราะพี่พยูนหยุดนิ่งอย่างว่านอนสอนง่าย แล้วสติของผมก็เหมือนจะขาดหายไปเมื่อดวงตาเล็กช้อนขึ้นมาสบตากัน เราทั้งคู่จ้องหน้ากันนิ่งๆไม่มีใครเปล่งเสียงใดออกมา มีเพียงเสียงลมหายใจและเสียงแอร์เท่านั้นที่ดังในตอนนี้
แล้วคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักก็ทำสิ่งที่ผมคาดไม่ถึง ใจผมเต้นรัวราวกับมีคนตีกลองชุดอยู่ด้านใน เมื่อริมฝีปากสีชมพูนุ่มนิ่มประกบลงมา ผมใช้เวลาสักพักในการตั้งสติแล้วตอบรับสัมผัสหวาบหวามที่อีกฝ่ายมอบให้ เพราะมีไม่กี่ครั้งที่พี่ตัวเล็กจะเป็นคนเริ่มจู่โจมกันก่อนแบบนี้
พี่คนนี้มีอะไรให้แปลกใจอยู่เสมอ
หลังจากตั้งสติได้ ผมก็ค่อยๆเปลี่ยนจากฝ่ายตามเป็นฝ่ายชักนำแทน มือของผมกดท้ายทอยคนที่อยู่ด้านบนลงมาปรับองศาให้พอเหมาะ เมื่อพี่พยูนจะผละออกจากกันผมก็งับเข้าที่ริมฝีปากล่างไม่ยอมปล่อยจนอีกฝ่ายไม่สามารถที่จะถอนริมฝีปากออกไปได้
เขาไม่มีวันหนีผมพ้นถ้าผมไม่เป็นฝ่ายปล่อยให้เขาไป
และดูเหมือนว่าการกระทำของผมเมื่อกี้จะรุนแรงไม่น้อย เพราะผมได้กลิ่นคาวเลือดตอนที่เราจูบกัน ด้วยความสงสารคนพี่ผมเลยเป็นฝ่ายผละริมฝีปากออกมาเอง เมื่อเป็นอิสระพี่พยูนก็หอบหายใจโกยอากาศเข้าสู่ปอดเต็มอัตรา ผมจับใบหน้าหวานที่ตอนนี้ขึ้นสีชมพูจัดทั้งน่ามองและน่ารังแกในเวลาเดียวกัน
“อื้อ ไม่เอาแล้ว”
คนบนตักสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง เมื่อผมกำลังจะจู่โจมเจ้าพยูนตัวน้อยอีกครั้ง
ก็พี่พยูนน่ารังแก น่าขยี้อ่ะ
แถมมายั่วกันก่อนแบบนี้ใครจะอดใจไหว
“เริ่มเองนะ ไอแมวน้ำ!”
‘ฟอดดดดดดดดด’
เมื่อจู่โจมเยลลี่สีชมพูที่หมายตาไว้ไม่ได้ ผมก็เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นแก้มเนียนใสแทน ก่อนจะค่อยๆลากปลายจมูกโด่งของตัวเองลงต่ำลงมาจนถึงบริเวณสันกราม ไล่ลงเรื่อยๆจนถึงซอกคอสีขาวซีดที่แสนจะยั่วยวนและเชิญชวนให้ฝากรอยรัก รอยแสดงความเป็นเจ้าของ
“ยะ อย่า”
ปากบอกว่าอย่าแต่เอียงคอให้กัดได้ง่ายขึ้น นี่มันหมายความว่ายังไงครับ?
คำพูดสวนทางกับการกระทำนะครับคุณพยูน
ผมกอดลูกแมวที่นั่งตัวสั่นอยู่บนตักแน่นให้ร่างเราแนบชิดกันยิ่งขึ้นจนแทบไม่เหลือช่องว่างระหว่างเรา ผมกัดเม้มลำคอขาวระหงของคนพี่อย่างหลงใหล ตีตราแสดงความเป็นเจ้าของแทบทุกตารางนิ้ว
“อะ อ๊ะ อื้อ ตะ เต้”
เสียงที่เคยทุ้มต่ำในยามปกติ ตอนนี้กลับครางออกมาหวานหูสำหรับคนฟังอย่างผมเหลือเกิน เสียงครางมันยิ่งปลุกเร้าผม และตอนนี้สัมผัสได้ถึงความร้อนรุ่มที่กำลังปะทุขึ้นในร่างกายของตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จริงอยู่ที่ผมชอบหาโอกาสเก็บเล็กเก็บน้อยกับพี่คนตัวเล็กคนนี้ตลอด
แต่ไม่มีครั้งไหนที่ผมรู้สึกต้องการที่จะ ‘รัก’ เขามากขนาดนี้
อาจจะเป็นเพราะเราทั้งคู่ห่างหายไม่เจอหน้ากันมาพักใหญ่ พอได้ใกล้ชิดกันคราวนี้ อารมณ์อะไรๆมันก็เลยปะทุขึ้นง่ายกว่าปกติ ผมผละออกจากซอกคอขาวแล้วเอนหลังนอนลงบนเตียงนุ่มไซส์คิงโดยมีร่างเล็กเป็นฝ่ายคร่อมร่างผมไว้ มือของผมกดท้ายทอยของคนด้านบนลงมาประกบจูบ ผมบดริมฝีปากของตัวเองเข้ากับเยลลี่นุ่มของพี่พยูนอย่างหิวกระหาย ดูดเม้มกัดและชิมราวกับมันเป็นของหวานครั้งแล้วครั้งเล่า
สำหรับผมแล้วริมฝีปากของพี่พยูนเหมือนกับเยลลี่เคลือบด้วยยาเสพติด
มอมเมาผมจนแทบไม่เหลือความเป็นตัวเองทุกครั้งที่ได้ลิ้มลอง
‘อื้มมมมมมมมมมมม’
เสียงครางในลำคอของเราสองคนดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมอาจจะไม่ใช่คนที่เจนจัดหรือจูบเก่งนัก แต่หลังจากคบกับพี่พยูนมาเกือบหนึ่งเดือน ผมก็ค่อยๆเรียนรู้มันกับพี่เขาจนตอนนี้ผมกล้าพูดได้ว่าผมสามารถทำให้พี่เขาเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่ผมมอบให้
“อ๊ะ”
พี่พยูนร้องเสียงหลงเมื่อผมพลิกตัวขึ้นคร่อมเขาอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ริมฝีปากของเราผละออกจากกัน สายตาของผมก็บรรจบกับสายตาหยาดเยิ้มของคนที่นอนอยู่ใต้ร่าง
ให้ตายสิ ! ทำไมพี่ยูนขี้ยั่วแบบนี้ว๊ะ
“พี่ยูนครับ”
เสียงของผมที่เปล่งออกไปมันทำให้ผมอยากจะกัดลิ้นตัวเอง เพราะมันทั้งสั่นและกระเส่า บ่งบอกได้ถึงอารมณ์ความอยากของตัวผมได้เป็นอย่างดี
“คืนนี้เต้ขอ ‘กอด’ พี่ได้มั้ย”
“…………..”
คนใต้ร่างไม่ตอบอะไร แต่ผมรู้ดีว่าเขากำลังคิดหนักและกังวลกับสิ่งที่(อาจ)จะเกิดขึ้นต่อไป มือขาวกำเสื้อยืดของผมแน่น ริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่นจนผมต้องใช้นิ้วนวดวนเพื่อไม่ให้พี่ตัวเล็กเผลอกัดปากตัวเองจนเลือดออก
ไม่ผิดหรอกครับที่พี่เขาจะกังวลก็ก่อนหน้านี้พี่ยูนเขาเป็นรุกมาตลอดนี่นา แต่ตอนนี้พี่เขานิ่งไปเกือบสองนาทีแล้ว
นี่มันจะนิ่งเกินไปแล้วนะ
“พี่ยูน”
“มันจะไม่เจ็บใช่มั้ย?”
“ผมจะทำเบาๆนะ”
คำถามที่แสดงถึงไร้เดียงสามันเรียกรอยยิ้มจากคนฟังได้เป็นอย่างดี ผมพยายามพูดปลอบโยนคนด้านล่างทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องอย่างว่าเลยสักครั้ง แม้จะเป็นครั้งแรกของเราทั้งคู่ แต่ผมก็พร้อมที่จะเรียนรู้ไปพร้อมเขา
ก็แค่ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ
ทำตามที่ใจเราเรียกร้องก็พอ
“ตะ เต้”
เสียงทุ้มครางหวานหูในจังหวะที่ทุกอย่างกำลังเข้าจังหวะ มือขาวกำเสื้อยืดของผมแน่นจนยับยู่ยี่ ร่างเล็กสะดุ้งผวาคว้าร่างผมไปกอดแน่นตอนที่นิ้วยาวของผมเริ่มรุกล้ำช่องทางสีชมพูด้านหลังของเจ้าตัว
“จะ จะ เจ็บ”
ดวงตาเรียวเล็กชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำใสที่เรียกว่าน้ำตา ภาพตรงหน้าทำให้ผมหยุดการกระทำทุกอย่างของตัวเองไว้ เพราะผมไม่อยากเห็นเขาเจ็บ
“ทำต่อสิ พี่ไม่เป็นไร”
“ผมหยุดได้นะพี่”
ผมไม่อยากจะฝืนหากว่ากิจกรรมของเรามันไปต่อไม่ได้ แต่คนที่เจ็บจนน้ำตาไหลออกมากลับฝืนทน ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าเขาทนทำไม? ผมจ้องใบหน้าน่ารักนิ่งตอนที่มือขาวๆยกขึ้นมาแนบแก้มของผมไว้
“พี่อยากให้เต้เป็นคนแรกของพี่นะ”
เราสบตากัน ในขณะที่นิ้วชี้เกลี่ยที่แก้มของผมอย่างแผ่วเบา ความอ่อนโยนและความบอบบางของคนตรงหน้าที่ผมไม่เคยได้รับและไม่เคยสัมผัสมาก่อน มันทำให้ใจของผมเต้นรัวผิดปกติ ผมค่อยๆเคลื่อนใบหน้าลงไปป้อนจูบแสนหวานละมุนให้คนช่างอ้อน ดึงดูดความสนใจของคนตัวเล็กจากความเจ็บปวดที่กำลังจะเกิดขึ้น
“อ๊ะ โอ๊ยยยยยย”
จังหวะที่ผมเริ่มสอดใส่ความเป็นชายเข้าไป พี่พยูนถึงกับร้องลั่นออกมา ใบหน้าหวานส่ายไปมาบนเตียงอย่างทรมาน น้ำตาไหลลินมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ส่วนผมเองก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกันเพราะพี่พยูนเกร็งไม่ผ่อนคลายจนช่องทางของเขาฝืดและตอดรัดของผมแน่นจนเจ็บ
“พะ พี่”
ผมกัดกรามแน่นด้วยความอึดอัดและทรมาน ผมไม่สามารถดันแม้กระทั่งส่วนหัวของตัวเองเข้าไปได้ ยิ่งมองเห็นหยาดน้ำตาของคนรักมันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่
ขนาดผมยังทรมมานขนาดนี้
คนที่ต้องรองรับอารมณ์คงเจ็บปวดกว่าร้อยเท่า
“จะ จะ เจ็บ”
“ตะ ตะ เต้ อะ เอา ออกไป”
ยิ่งได้ยินเสียงทุ้มร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ความรู้สึกของผมยิ่งผสมปนเปและตีกันมั่วไปหมดในสมอง ทั้งอารมณ์หน่วง ทรมานจากช่องทางที่ตอดรัดกันแน่นจนเจ็บ อารมณ์สงสารพี่พยูนในตอนนี้มันมีมากกว่าอารมณ์ตัณหาและราคะ มันทำให้ผมตัดสินใจหยุดการกระทำทุกอย่างของตัวเองลง
พอแล้ว ไม่ฝืนแล้ว
ท้ายที่สุดผมยอมถอยตัวเองออกมา ล้มตัวนอนลงข้างกายคนตัวขาวที่นอนร้องไห้ไร้เสียง ผมคว้าเอวบางมากอดแน่น พรมจูบกลุ่มผมดำนุ่มเพื่อปลอบโยนคนพี่ ผมรู้ว่าเขารู้สึกแย่และได้รับความเจ็บปวดจากเหตุการณ์เมื่อกี้มากขนาดไหน
ครั้งแรกที่หวานและรู้สึกดีเหมือนในนิยายน่ะ
มันไม่จริงเลย
“ฮึก ขะ ขะ ขอโทษนะเต้”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ร้องนะ”
ผมพยายามกอดและพรมจูบไปทั่วหน้าผากเพื่อปลอบโยนคนในอ้อมแขนที่นอนร้องไห้จนตัวสั่น
“ขอโทษที่พี่ให้ความสุขเราไม่ได้”
“ไม่ร้องนะครับ”
ครั้งแรกของเรามันไม่ดีเลยจริงๆ
= Taegientheworld =
TALK W. ME
ฮืออออออออออ กลับมาแล้วค่ะ
มีใครคิดถึงพี่พยูนกับน้องเต้บ้างมั้ยคะเนี่ย?
เหตุการณ์ในพาร์ทบรรยายคือเกิดขึ้นก่อนฉากตัดEP18นะคะ
ก็คือเป็นเหตุการณ์หลังจากที่เต้ไปหาพี่พยูนที่ออฟฟิสค่ะ
ตอนนี้ยาวมาก ใช้เวลาแต่งนานมากเช่นกัน
รีดสมองเค้นกันสุดพลังเพราะแต่งยากมาก
เราอยากจะแต่งให้ทุกคนเห็นอีกด้านหนึ่งของประสบการณ์ครั้งแรกค่ะ
คือทุกคนอาจจะได้ยินมาตลอดว่าครั้งแรก ถ้าทำกับคนที่รักแล้วมันจะดี
แต่ในความจริงแล้วมันอาจจะไม่ดีก็ได้ค่ะ
ปล.ไม่ได้อิงมาจากประสบการณ์ตรงแต่อย่างใดนะคะ 555555555555
ใครมีอะไรอยากพูดคุยหรือคิดถึงพี่พยูนกับน้องเต้มากๆไปหวีดกันต่อได้ที่ #พยูนเกยเต้ นะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แง่ๆๆ เขินน
ขอบคุณเต้ที่รักพยูนขนาดนี้ ฮือ