ตอนที่ 3 : BTSWEEKEND [W.38] : Taegi en Medellín
BTSWEEKEND[W.38] - Taegi en Medellín
มินยุนกิคนนี้รู้จักกับแทฮยองมาก็หลายปีแล้ว เขารู้จักเจ้าเด็ก ‘คิมแทฮยอง’ ตั้งแต่เจ้าตัวยังหนุ่มน้อยร่างผอมบาง จนปัจจุบันนี้แทฮยองตัวโตและสูงเกินเขาไปแล้วหลายเซน แต่ถึงจะรู้จักกันมานานทั้งคู่ก็ยังคงมีความคิดที่ไม่ลงรอยกันหลายเรื่องจนสุดท้ายแล้วก็ลงเอยด้วยการถกเถียงเล็กๆน้อยๆตลอด แต่ก็ต้องขอบคุณทริปฮาวายเมื่อปีที่แล้วที่ช่วยให้พวกเขาทั้งคู่สามารถปรับความเข้าใจและจูนกันติดมากขึ้น
รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นสถานะใหม่ของยุนกิและแทฮยอง
สถานะใหม่ที่เรียกว่า ‘คนรัก’
แม้ว่าตั้งแต่กลับมาจากฮาวายทั้งเขาและแทฮยองเริ่มที่จะเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อกันมากขึ้น แต่เอาเข้าจริงๆแล้วยุนกิรู้ดีว่าระหว่างเขาและแทฮยองก็ยังคงเหมือนมีกำแพงกั้นอยู่ อาจจะเป็นเพราะทัศนคติหลายอย่างที่แทบจะไม่ตรงกันเลย
มันก็เลยทำให้มีบางเวลาที่ทั้งคู่ยังคงรู้สึกอึดอัดต่อกัน
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแทฮยองก็เหมือนจะหยุดนิ่งไม่ได้สานสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นกว่าเดิมสักเท่าไร เพราะบังทันทั้งเจ็ดคนโหมทำงานกันอย่างหนักกันไม่เว้นวัน ทั้งถ่ายแบบ ถ่ายวาไรตี้และงานส่วนตัว ยิ่งต้นปี2018 ทุกคนตั้งใจซ้อมเตรียมทั้งคัมแบคทั้งคอนเสิร์ตเพื่อให้สมกับที่อาร์มี่ของพวกเขารอคอยและคาดหวัง แน่นอนว่าตารางชีวิตที่วุ่นวายในแต่ละวันทำให้เขากับแทฮยองแทบจะไม่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองตามลำพัง
พอยิ่งช่วงคัมแบคก็ยิ่งแล้วใหญ่ บางวันเขาแทบจะไม่ได้คุยกับแทฮยองเลยด้วยซ้ำ แล้วยุนกิดันเป็นบุคคลที่เปิดโหมดเซฟตี้พลังงานแทบตลอดเวลา หมายความว่าถ้าเขาโหมทำงานหนักมากๆ วันนั้นทั้งวันเขาแทบไม่อยากจะทำอะไรหรือพูดจากับใครเลย หากมีเวลาว่างแม้เพียงห้านาที ยุนกิคนนี้ก็พร้อมที่จะปลีกตัวเพื่อนอน
เมมเบอร์และแฟนคลับทุกคนก็รู้ดีว่ายุนกิน่ะนอนได้ทุกที่และทุกเวลา
แต่แล้วช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนก็มาถึงเมื่อฤดูกาลแห่งการโปรโมทเพลงใหม่สิ้นสุดลง ซึ่งรอบนี้พวกเขาทั้งเจ็ดคนได้เวลาชาร์จพลังงานถึงสิบสี่วันเต็มด้วยกัน ตอนที่พี่เมเนเจอร์ประจำวงประกาศให้ได้รับรู้พวกเขาทั้งเจ็ดคนแทบจะร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจ
สำหรับบางคนอาจจะแค่สองอาทิตย์แต่สำหรับบังทันผู้ขยันขันแข็งอยู่ตลอดเวลา มันเหมือนกับได้พักผ่อนหนึ่งเดือนเลยละ
คืนวันสุดท้ายของการโปรโมท ในขณะที่ทุกคนกำลังหลับใหลอยู่บนรถระหว่างเดินทางกลับหอพัก มีเพียงแทฮยองที่นั่งอยู่เบาะข้างๆยุนกิเท่านั้นที่ไม่ได้หลับไปพร้อมๆกับคนอื่น ใบหน้าหล่อเหลากำลังก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือในมืออย่างตั้งอกตั้งใจ
“ฮยอง”
“……”
“ยุนกิครับ”
“ยุนกิ”
เมื่อโดนรบกวนดวงตาคู่เล็กๆของยุนกิก็ค่อยๆลืมขึ้น
“หือ”
ขานรับตอบกลับไปอย่างงัวเงีย แล้วก็ค่อยๆพลิกร่างของตัวเองหนีอีกคนหันไปทางหน้าต่าง ในใจก็นึกรำคาญแฟนเด็กไม่น้อยที่มารบกวนเวลานอน(อันแสนล้ำค่า)ของตัวเอง
“ฮยองครับ เราไปเที่ยวกันเถอะ”
“อือออออออออ”
ยุนกิขานตอบรับไปอย่างไม่คิดอะไร ในตอนนั้นเขาคิดแค่ว่าตอบตกลงไปเพื่อให้แทฮยองเลิกกวนตอนเขานอนเท่านั้นละ แต่ใครจะไปคิดละว่าเจ้าแฟนเด็กของตัวเองจะเล่นใหญ่รัชดาลัย ยุนกิน่ะช็อคไปเลยตอนที่แทฮยองเอาตั๋วเครื่องบินมาให้เขา ครั้งแรกที่เห็นตั๋วเครื่องบินเขาคิดว่าแทฮยองคงอยากจะไปเที่ยวต่างจังหวัดอย่างเชจู หรือไกลสุดก็คงจะเป็นญี่ปุ่น
แทฮยองน่ะหลงใหลประเทศญี่ปุ่นมาก
แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ได้เป็นเหมือนที่ยุนกิคิด
“โคลอมเบีย!!!!”
“ใช่ครับ”
ริมฝีปากหนาของแทฮยองคลี่ยิ้มเป็นรูปสี่เหลี่ยมตามฉบับของเจ้าตัว พระเจ้า!!!ใครก็ได้ช่วยหยิกมินยุนกิทีว่านี่ไม่ใช่ความจริง จากที่เคยคิดว่าไปเที่ยวแค่สามสี่วันกลายเป็นเจ็ดวันหกคืน แถมยังบินไกลข้ามซีกโลกอีกต่างหาก
โอ๊ย !! แทฮยองแกคิดอะไรของแกเนี่ย
ได้แต่คิดบ่นในใจแต่ไม่กล้าบ่นน้อง เพราะดูจากแววตาของแทฮยองที่ฉายแววเป็นประกายตอนยื่นตั๋วเครื่องบินให้กัน ยุนกิก็รับรู้ได้เลยว่าแทฮยองคาดหวังและตั้งใจกับทริปครั้งนี้มากขนาดไหน มากถึงขั้นเจ้าแฟนเด็กตัวแสบยอมซื้อคู่มือสนทนาภาษาสเปนฉบับพกพามานั่งอ่าน แถมยังจัดการจองโรงแรมเสร็จสรรพ เรียกว่าเตรียมพร้อมอย่างดีกะไม่ให้ยุนกิกล้าปฎิเสธ
ก็นั่นละ! อย่างที่บอกสุดท้ายแล้วมินยุนกิก็ไม่กล้าว่าอะไรได้ นอกจากตามใจเจ้าแทฮยองและยอมขุดร่างตัวเองออกจากจีเนียสแลปเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เต็ม
“แทฮยองเก่งชะมัดเลย ลากยุนกิออกจากจีเนียสแลปได้”
คิมซอกจิน พี่ใหญ่พูดชื่นชมแทฮยองระหว่างที่ยุนกิและแทฮยองนั่งรอรถมารับไปสนามบินที่ห้องนั่งเล่นของหอพัก เจ้าคนน้องที่โดนพี่ใหญ่ของวงชมก็ยิ้มหน้าชื่นมื่นจนยุนกิอดหมั่นไส้ไม่ได้
“เที่ยวให้สนุกนะครับฮยอง แทฮยองอ่า”
จีมินอวยพรทั้งคู่ ในใจก็อดห่วงไม่ได้ที่ต้องปล่อยเมมเบอร์ทั้งสองคนไปผจญภัยทริปต่างแดนอันแสนไกลโพ้น ประเทศที่แตกต่างกับเกาหลีแทบจะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นภาษา วัฒนธรรม อาหารการกิน แถมยังไปกันสองคนแบบไม่มีทีมงาน ไม่มีแม้กระทั่งเมมเบอร์คนอื่นๆร่วมชะตากรรมลำบาก
จะรอดหรือปล่าวเนี่ย!? นางฟ้าของวงอย่างจีมินอดคิดไม่ได้
คนพี่ก็มึน
คนน้องก็อึน
สำหรับจีมินขอให้ทั้งคู่กลับมาถึงเกาหลีอย่างปลอดภัยก็พอแล้ว
“นี่อย่าลืมถ่ายรูปมาฝากเยอะๆนะ”
“คอยรายงานความเคลื่อนไหวให้ฮยองรู้ตลอดเวลานะรู้มั้ย”
“ยุนกิฮยอง แทฮยองฮยองอย่าลืมของฝากนะครับ”
หลังจากร่ำลาสมาชิกที่เหลือทั้งห้าคนเสร็จเรียบร้อยแล้ว คู่รักฮาวายก็มุ่งหน้าไปยังสนามบินอินชอนด้วยใจที่เต้นรัวและความรู้สึกหลายๆปะปนกันไปหมด
ทั้งประหม่าและตื่นเต้น
เพราะนี่คือทริปแรกของพวกเขาสองคนในฐานะคู่รัก
ระหว่างที่ทั้งคู่นั่งอยู่บนรถ มือของแทฮยองกอบกุมมือเล็กๆของแฟนตัวเองอย่างแนบแน่น ไอความเย็นที่ยุนกิสัมผัสได้จากฝ่ามือของแทฮยอง มันทำให้เขารู้ว่าแทฮยองเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน
“นี่ ทำไมต้องเป็นโคลอมเบียอ่ะ”
ยุนกิเอ่ยถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ
“ผมอยากพาฮยองไปดูขบวนดอกไม้ครับ”
“มันสวยขนาดนต้องบินไปดูเลยรึไงแทฮยองอ่า”
ยุนกิแอบบ่นออกมาไม่ได้ เพียงแค่เพราะอยากดูขบวนดอกไม้เนี่ยนะที่ทำให้แทฮยองถึงขั้นตัดสินใจบินข้ามซีกโลกจากเอเชียตะวันออกไปลาตินอเมริกาเลย
“ฮยองอ่ะไม่รู้อะไรซะแล้ว เทศกาลดอกไม้ที่เมเดยินน่ะเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดเลยนะครับ”
“ก็เพราะฮยองไม่รู้ไง ฮยองก็เลยถามนายเนี่ย!”
นี่ขนาดยังไม่ทันถึงสนามบิน ก็เปิดฉากเถียงกันแล้ว อย่างนี้จะรอดมั้ยนะคู่รักฮาวาย
= Taegientheworld =
ยุนกิและแทฮยองใช้เวลามากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงในการเดินทางจากกรุงโซลมายังเมืองเมเดยิน เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศโคลอมเบีย เมื่อมาถึงโรงแรมยุนกิก็หมดแรงล้มตัวลงนอนบนเตียง ตั้งใจว่าจะนอนเอาแรงสักสองสามชั่วโมงก่อน
แต่แทฮยองไม่เข้าใจ!!
แทฮยองเจ้าเด็กหนุ่มที่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานและความหิวคอยก่อกวนเขาทำเสียงดังไม่หยุดจนเขานอนไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องยอมลากสังขาร(แก่ๆ)ของตัวเองออกมาหาอะไรกินตามที่แทฮยองต้องการ
แทฮยองคนที่อาร์มี่บอกว่ากลัวยุนกิน่ะ …….. ไม่มีอยู่จริง!
แทฮยองคนนั้นหายไปตั้งแต่ทริปฮาวายแล้ว
ระหว่างที่ทั้งคู่เดินเคียงข้างกันบนฟุตบาธทางเดินเพื่อหาร้านอาหาร คอขาวระหงของคนพี่กลายเป็นที่วางไหล่ของคนน้องไปแล้ว ภาพของชายหนุ่มทั้งสองคนที่เดินกอดคอกันเรียกรอยยิ้มให้กับผู้พบเห็นได้อย่างดี แม้รูปลักษณ์ภายนอกของทั้งคู่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็นความสูง สีผิว หรือจะเป็นเครื่องหน้าคมเข้มกับใบหน้าหวานๆ
แต่มันกลับดูละมุนละไมและเข้ากันอย่างบอกไม่ถูกตอนที่ทั้งสองอยู่เคียงข้างกัน
มีบางคนตามท้องถนนหันมามองพวกเขา เพราะรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาคู่รักคู่นี้จากโทรทัศน์ แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาทักทาย
“ยุนกิดูสิ มีป้ายเทศกาลเต็มไปหมดเลย”
อีกแล้วนะเจ้าเด็กนี่ ! กล้าดียังไงเรียกแค่ชื่อของเขาโดยไม่มีคำว่าฮยอง
“นี่! ฉันเป็นฮยองนายนะแทฮยอง”
“ก็ใช่ครับ แต่มีใครเขาเรียกแฟนตัวเองบ้างฮยองบ้างอ่ะ”
ยุนกิเถียงต่อไม่ถูกเลยครับ เพราะว่าเขิน ไม่บ่อยครั้งที่เขาจะถูกแทฮยองหยอดกันแบบนี้ คู่รักฮาวายเดินทอดน่องเลือกร้านอาหารท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายของเมืองเมเดยินกันอยู่พักใหญ่
เพราะตกลงกันไม่ได้ว่าจะเข้าไปกินร้านไหนกัน!
แค่เรื่องเลือกร้านอาหารยังเถียงกันเป็นครึ่งชั่วโมง
สุดท้ายแล้วเขาทั้งคู่ก็ตกลงกันว่าจะเข้าร้านที่เขียนด้านล่างของป้ายชื่อร้านว่า los mejores burritos de Medellín
“กินร้านนี้กันละครับ เขาบอกอร่อยสุดในเมือง”
“ใครบอก?”
“ก็ป้ายร้านเขาไง กินร้านนี้ละ”
แทฮยอง(ผู้อยากจะ)โชว์ความเท่ของตัวเองให้แฟนที่อายุมากกว่ารับรู้ด้วยการแปลประโยคภาษาสเปนง่ายๆตรงป้ายหน้าร้าน แล้วคนอายุน้อยกว่าก็ตัดสินใจตามความพึงพอใจของตัวเองว่าจะกินร้านนี้ ฝ่ามือหนาจับบ่าเล็กๆทั้งสองข้างของยุนกิแน่นแล้วดันร่างเล็กเข้าไปในร้านโดยไม่ถงไม่ถามความสมัครใจของยุนกิเลยสักคำ
ทั้งคู่หย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาของโต๊ะไม้สไตล์ร้านอาหารแบบแม็กซิกัน รอไม่นานนักก็มีพนักงานมารับออเดอร์ สมุดเมนูถูกวางตรงหน้าของทั้งคู่ เมื่อยุนกิเปิดดูก็พบกับเมนูน่ากินหลากหลายอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
อยากจะกินไปหมดทุกอย่าง ติดตรงที่สั่งไม่ถูกนี่ละ
“ยุนกิอยากกินอะไรครับ”
“อันนี้อ่ะ”
ยุนกิชี้ไปที่รูปอาหารที่ตัวเองอยากกินให้แทฮยองดู
“เอ่อ ….. Burrito (บู-ริ-โต้)”
แทฮยองพยายามที่จะใช้ทักษะภาษาสเปน(อันน้อยนิด)ของตัวเองในการสั่งอาหารให้คนรัก
“pollo (โป-โย่ = ไก่)”
“Burrito de pollo”
พนักงานเจ้าถิ่นถามกลับมาเพื่อคอนเฟิร์มเมนู
“Sí , Dos (ซิ, โดส = ครับ สองชิ้น)”
แทฮยองในตอนนี้ขนทั้งทักษะภาษาพูดและภาษามือเข้ามาใช้เพื่อสื่อสารกับพนักงาน ยุนกิมองภาพแฟนหนุ่มตรงหน้าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
แล้วก็ด้วยความภูมิใจด้วย
เด็กหนุ่มที่เขาคอยดูแลมาตลอดตั้งแต่ก่อนเดบิวต์ตอนนี้กลับกลายมาเป็นคนที่ดูแลเขาแทนแล้ว หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อย ทั้งคู่ก็ยื่นสมุดเมนูกลับไปให้พนักงานรับออเดอร์ แต่พนักงานหนุ่มก็ยังคงยืนนิ่งแล้วก็พูดพ่นภาษาสเปนรัวใส่ยุนกิและแทฮยองที่นั่งอ้าปากหวอเพราะฟังไม่รู้เรื่อง
“¿ Son cantantes coreanos ?”
นักท่องเที่ยวหนุ่มชาวเกาหลีทั้งคู่จ้องหน้ากันด้วยความรู้สึกอยากจะร้องไห้ เพราะไม่สามารถสื่อสารกับคู่สนทนารู้เรื่อง แต่เหมือนโชคจะเข้าข้าง เพราะพนักงานชาวโคลอมเบียเหมือนจะรู้ว่าทั้งคู่ไม่สันทัดภาษาสเปนเท่าไรก็เลยงัดทักษะภาษาอังกฤษของตัวเองออกมาใช้บ้าง
“You are Korean singer, yes or no?”
และเพราะภาษาอังกฤษไม่ใช้ภาษาที่คนโคลอมเบียใช้สื่อสารกัน ดังนั้นบทสนทนาจึงออกมาเป็นภาษาอังกฤษแบบง่ายๆทำให้ยุนกิกับแทฮยองเข้าใจทันที
“Yes”
ยุนกิรีบตอบกลับไปด้วยความภูมิใจไม่น้อยที่พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารรู้จักตนเอง
“Foto?”
พนักงานหนุ่มหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาแล้วหลังจากนั้นยุนกิและแทฮยองก็ต้องโพสหน้าสดหล่อๆปั้นยิ้มส่งให้กล้องอย่างเคยชิน
“Gracias”
แทฮยองเอ่ยขอบคุณไปตามแบบฉบับมารยาททั่วไปของคนฝั่งเอเชียกับพนักงานที่เดินจากไป
“ว้าววว เท่ชะมัดเลยแทฮยองอ่า”
“…..”
“พูดสเปนได้ด้วย”
แฟนเด็กอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาด้วยความภูมิใจ เพราะมีไม่กี่ครั้งหรอกที่ยุนกิจะชมเขาออกมาตรงๆแบบนี้น่ะ รอไม่นานนักเมนูที่ทั้งคู่สั่งก็มาเสิร์ฟ นั่นก็คือ บูริโต้อาหารขึ้นชื่อของชาวเม็กซิกัน มันคืออาหารที่มีลักษณะคล้ายๆกับพัฟแต่จะห่อด้วยแป้งข้าวโพดเป็นวงกลม(พัฟห่อเพียงครึ่งเดียว)
“บูริโต้ที่โคลอมเบียต่างจากเม็กซิโกตรงที่ว่ามันมีเครื่องเคียงให้จิ้มแยก ถ้าเป็นที่เม็กซิโกกุ๊กเขาจะราดมาให้เลยน่ะครับ”
แทฮยองพูดขึ้นมาเมื่อพบว่าบูริโต้ที่เสิร์ฟอยู่บนโต๊ะค่อนข้างแตกต่างจากที่ตัวเองศึกษาจากในเน็ต
“อื้อออ อร่อยอ่ะ”
ตาของยุนกิโตขึ้นมาอย่างน่าตกใจ(?) เมื่อเจ้าตัวกัดบูริโต้ไปเกือบครึ่งในคำดียว แทฮยองยิ้มให้กับท่าทางที่เหมือนกับเด็กน้อยของแฟนตัวเอง แล้วค่อยๆยกมือหนาเอื้อมขึ้นมาเช็ดซอสที่เปื้อนอยู่ข้างแก้มเนียนใส แล้วหลังจากนั้นก็เอานิ้วที่เปื้อนซอสเข้าปากตัวเอง
“อร่อยจริงๆด้วยครับ”
แทฮยองยิ้มกว้างให้ยุนกิ แต่คนพี่ได้แต่ก้มหน้าก้มตากินต่อด้วยความรู้สึกเขินแปลกๆ
อ่า~~ ใครสั่งใครสอนให้เจ้าเด็กนี่ทำตัวแบบนี้นะ !
= Taegientheworld =
เช้าวันรุ่งขึ้นอันแสนสดใสยุนกิตื่นมาด้วยอารมณ์ดีอย่างขีดสุด เพราะได้พักผ่อนชาร์จพลังงามเต็มเปี่ยมเรียกได้ว่าเต็มที่ที่สุดในรอบปีเลยก็ว่าได้ แถมยังหลับสบายมากด้วย
เพราะมีหมอนข้างตัวใหญ่ให้กอดทั้งคืน
เป็นหมอนข้างที่พิเศษมากๆแล้วก็ไม่มีขายที่ไหนแถมเจ้าหมอนข้างตัวใหญ่ก็กอดตอบเขาได้ด้วย เจ้าหมอนข้างที่ชื่อ ‘คิม แทฮยอง’
“แทฮยองอ่า~~”
“ครับ”
“วันนี้เราจะไปไหนกันอ่ะ?”
ยุนกิที่ยังคงนอนขี้เกียจอยู่บนเตียงถามแทฮยองที่สวมใส่เพียงเสื้อคลุมอาบน้ำยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจก ศรีษะเล็กหนุนแขนตัวเองพลางจ้องมองด้านหลังแฟนหนุ่มอย่างไม่วางตา
เจ้าเด็กแทฮยองนี่ตัวหนาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ?
ยุนกิจ้องแผ่นหลังของแทฮยองที่ตอนนี้กว้างไม่แพ้จองกุกหรือซอกจินฮยองเลย ตั้งแต่ช่วงโปรโมท blood sweat & tears เป็นต้นมาแทฮยองก็ตัวโตแซงหน้ายุนกิจนเขาไม่สามารถไล่ตามได้ทัน เพราะแทฮยองต้องโชว์เรือนร่างและแผ่นหลังเวลาแสดงบนเวทีทำให้ต้องออกกำลังกายฟิตร่างกายเป็นพิเศษ แล้วนับตั้งแต่นั้นมาแทฮยองก็เปลี่ยนจากเด็กน้อยเป็นชายหนุ่มแสนหล่อเหลา แม้จะติดนิสัย4มิติในบางครั้ง แต่น่าแปลกที่เวลาอยู่ด้วยกัน ยุนกิกลับสัมผัสได้ว่าแทฮยองนั้นดูสงบนิ่งและเป็นผู้ใหญ่มากกว่าจะแปลงร่างเป็นแทฮยองเด็กดื้อเหมือนกับเวลาที่อยู่กับเมมเบอร์คนอื่น
“ยุนกิ ทำไมมองสายตาหื่นแบบนั้นละ”
หันมายิ้มกวนๆใส่เมื่อเห็นแฟนรุ่นพี่จ้องตัวเองไม่วางตา แล้วก็โยนผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่อยู่บนบ่าใส่หน้ายุนกิอีก นี่มันชักจะลามปามกันแล้วนะคิมแทฮยอง!
“ไปอาบน้ำได้ละครับ”
“เพราะว่าวันนี้เราจะไปดูขบวนดอกไม้กัน”
หลังจากจัดการกับธุระส่วนตัวตอนเช้าเสร็จเรียบร้อยแทฮยองก็พายุนกิมาดูขบวนดอกไม้ของเทศกาล Medellín Flower Festival หรือ La Feria de las Flores (ลา-เฟเรีย-เด-ลาส-ฟลิ-โอ-เรส) เป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของเมืองเมเดยิน ซึ่งจะจัดขึ้นช่วงปลายเดือนกรกฎาคมจนถึงต้นสิงหาคมเป็นประจำทุกปี เป็นเทศกาลดอกไม้ที่ยิ่งใหญ่ โดยไฮไลท์ของงานอยู่ที่ Silleteros (ซิเยเตโรส)
เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลท่องเที่ยวที่คึกคักและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก
ในตอนแรกนั้นทั้งยุนกิและแทฮยองยืนอยู่ด้านหลังปลายแถวของกลุ่มคนดูแต่เพราะคนเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆและแรงเบียดทำให้ตอนนี้คู่รักฮาวายถูกเบียดมาด้านหน้าสุดของแถวแล้ว แต่นั่นก็ดีแล้วละ เพราะมันทำให้คนตัวเล็กๆแบบยุนกิมองเห็นขบวนดอกไม้ได้ชัดแจ๋วโดยไม่ต้องเปลืองแรงเขย่ง
ยุนกิแค่ตัวเล็กไม่ได้เตี้ยนะครับ
ทุกคนอย่าเข้าใจผิดนะ
‘แช่ะ แช่ะ’
เสียงแฟลชรัวทุกทิศทุกทางทั้งจากกล้องโปรและโทรศัพท์มือถือ แต่ยุนกิเลือกที่จะยืนมองเฉยๆไม่ยกโทรศัพท์หรือกล้องขึ้นมาเหมือนกับคนอื่นๆ ตอนนี้เขาอยากจะเก็บทุกอย่างไว้ในความทรงจำมากกว่า แล้วปล่อยให้หน้าที่ถ่ายรูปตกเป็นของแฟนเด็กที่ยืนอยู่ด้านหลัง
แทฮยองแม้จะตั้งใจถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อให้เมมเบอร์ห้าคนที่เหลือดู แต่ร่างสูงก็คอยสังเกตคนตัวเล็กที่อยู่ด้านหน้าตัวเองตลอด ถ้าหากเขาเห็นว่าผู้คนเริ่มจะเบียดเข้ามา แทฮยองก็ปกป้องยุนกิจากการเบียดของฝูงชนด้วยการวางแขนแกร่งทั้งสองแขนขนาบร่างเล็กๆแล้วขังแฟนตัวเองไว้ในอ้อมกอด ขืนมีใครเข้ามากระแทกร่างเล็กของแฟนเขานะ แทฮยองมั่นใจว่ายุนกิปลิวไปตามลมแน่นอน
ยุนกิของแทฮยองน่ะบอบบางจะตาย เพราะฉะนั้นแทฮยองก็ต้องเป็นองครักษ์คอยดูแลเจ้าแฟนตัวเล็กคนนี้สิ
“แทฮยอง”
“ครับ”
“ขอบคุณนะ”
แค่ผู้ชายที่ชื่อมินยุนกิส่งยิ้มมาให้กัน แทฮยองก็ไม่หวั่นแม้ว่าแขนตัวเองจะโดนกระแทกอีกกี่ครั้งก็ตาม
“แทฮยอง!! ดูๆ!”
ยุนกิชี้ให้แทฮยองดูซิเยเตโรสที่หญิงสาววัยกลางคนแบกเข้ามาในขบวน แทฮยองหันไปมองตามทิศทางที่นิ้วเล็กๆของยุนกิชี้ก็พบว่ากระบะดอกไม้ที่ผู้หญิงคนนั้นแบกเข้ามาถูกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามเป็นรูปนกยูงด้วยดอกไม้หลากหลายสีสันนานาชนิด
“สวยมากเลยครับ”
แทฮยองก้มกระซิบข้างหูคนรักตัวเองแล้วทั้งคู่ก็ส่งยิ้มให้กัน จะว่าไปสองวันผ่านมานี้ยุนกิฮยองของเขายิ้มกว้างและบ่อยกว่าปกติ แถมยังใจดีกับแทฮยองมากๆด้วย นี่ละนะที่เขาบอกว่าการเดินทางท่องเที่ยวจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ของผู้คน คิดไม่ผิดจริงๆเลยที่พาคนตัวเล็กข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่นี่
ยุนกิในตอนนี้น่ะทั้งสดใสแล้วก็สวยงาม…..น่ามองไม่แพ้ดอกไม้สวยๆในขบวนเลย
คู่รักฮาวายยืนดูขบวนดอกไม้ต่างๆด้วยความตื่นตาตื่นใจ ขบวนชิเยเตโรสที่เจ้าของสวนดอกไม้ทั้งหลายขนเข้ามานั้น ช่างสวยงามและเต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่ บางอย่างที่พวกเขาต้องการจะสื่อสารนั้นก็ช่างเป็นไอเดียที่คนดูเองก็จินตนาการไม่ถึง รวมทั้งความประณีตในการจัดดอกไม้อีก
ทุกสิ่งทุกอย่างมันสื่อให้เห็นถึงความตั้งใจอกตั้งใจของเจ้าของผลงานได้เป็นอย่างดี
ยุนกิยอมรับว่าตอนแรกเขาแอบบ่นแทฮยองในใจว่าแค่อยากจะดูขบวนดอกไม้ทำไมถึงต้องลงทุนบินมาไกลถึงโคลอมเบีย ทั้งๆที่เกาหลีก็มีให้ดู
แต่ตอนนี้ยุนกิเข้าใจแล้ว
เพราะแต่ละที่
แต่ละประเทศ
แต่ละเทศกาล
มันก็มีความสวยงามและเสน่ห์เฉพาะตัวของมัน
= Taegientheworld =
หลังจากชื่นชมและเพลิดเพลินกับขบวนซิเยเตโรสเกือบตลอดทั้งวัน สูญเสียพลังงานในการยืนชมหลายชั่วโมง ในที่สุดทั้งสองก็ไม่สามารถอดทนกับความหิวโหยและความเมื่อยล้าที่มาเยือนได้ จึงพากันเบียดฝูงชนออกมาหาอะไรทานกันเพื่อประทังความหิว
“รีบๆทานนะครับ เรามีที่ที่จะต้องไปกันอีก”
แต่ยังไม่ทันจะเขมือบอาหารได้ถึงครึ่งกะเพราะ แทฮยองก็เร่งยุนกิแล้ว
“ฉันหิวจะตายแล้วนะแทฮยอง”
คนพี่ที่รู้สึกไม่พึงพอใจ บ่นออกมา
“นี่ฉันมาเที่ยวหรือโดนลงโทษกันแน่”
“แค่บอกให้รีบกินเองนะครับ หงุดหงิดไปได้”
แทฮยองส่งยิ้มให้แฟนของตัวเองแล้วใช้นิ้วชี้ถูปลายจมูกมนอย่างเอ็นดู แม้ว่าร่างเล็กตรงหน้าเขาตอนนี้จะหงุดหงิดใส่กันก็ตาม ยุนกิแยกเขี้ยวใส่แทฮยองขู่แฟนตัวเองเหมือนกับแมว ทำเอาแทฮยองอยากจะจับคนตรงหน้ามาฟัดแก้ม
เพราะสำหรับแทฮยองตอนที่ยุนกิฮยองขู่กันเพราะความหงุดหงิดน่ะ
มันน่ารัก
และน่าเอ็นดูสุดๆ
“รีบกินนะครับ เดี๋ยวเราจะไปไม่ทัน”
“ไปไหน?”
“ถ้าบอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ”
แทฮยองทิ้งปริศนาให้ยุนกิไว้แค่นั้น มันทำให้ยุนกิรีบเขมือบอาหารที่อยู่ด้านหน้าหมดภายในเวลาไม่กี่นาที
ไม่ได้อยากรู้นะ
ไม่เลยจริงจริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
สิ่งที่แทฮยองเตรียมไว้เซอร์ไพรส์มินยุนกิก็คือ ตั๋ว Metrocable (เม-โตร-กา-เบ) หรือรถกระเช้าลอยฟ้า ซึ่งแทฮยองแอบกระซิบบอกยุนกิว่ามีแค่ที่โคลอมเบียประเทศเดียวเท่านั้นที่ผู้คนในเมืองสัญจรด้วยกระเช้าไฟฟ้าเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจราจรแออัด
ตอนนี้ทั้งคู่ขึ้นมาบนรถกระเช้าลอยฟ้าเรียบร้อยแล้วโดยกระเช้าคันนี้มีจุดมุ่งหมายปลายทางคือ Parque Arví (ปรา-เก-อา-วี) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองเมเดยิน แทฮยองมองตามร่างเล็กที่เดินไปรอบกระเช้าเพื่อชมวิวด้านนอกกระจกด้วยความตื่นเต้น ท่าทีตื่นตาตื่นใจเหมือนเด็กน้อยได้เจอสิ่งใหม่ๆของยุนกิ มันเป็นอะไรที่ไม่ได้เห็นบ่อยนักและมันทำให้แทฮยองอดใจไม่ได้เลยที่จะยกกล้องในมือขึ้นมาชัตเตอร์ทุกกิริยาบทของแฟนตัวเอง
เมื่อถ่ายเสร็จแทฮยองก็ก้มมองผลงานในมือแล้วก็ยิ้มออกมาเพราะความน่ารักของยุนกิ แทฮยองคิดว่าเขาชักจะหลงแฟนของตัวเองมากเกินไปแล้ว
มากเกินไปจริงๆ
“โอ๊ะ”
ยุนกิเผลออุทานออกมาอย่างลืมตัวและสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกจู่โจมจากด้านหลัง เป็นแทฮยองที่เดินเข้ามากอดเขาไว้ในอ้อมแขน แทฮยองกุมมือหนาทั้งสองข้างไว้ด้วยกันแล้ววางไว้บนเอวบาง โอบกอดยุนกิอย่างหลวมๆเพื่อไม่ให้คนในอ้อมแขนตัวเองรู้สึกอึดอัดแล้วซบใบหน้าหล่อลงที่บ่าคนตัวเล็กอย่างออดอ้อน
หากยุนกิคือลูกแมวสำหรับแทฮยอง
แทฮยองก็คือเจ้าลูกหมาสำหรับยุนกิ
“ชอบมั้ยครับ?”
แทฮยองกระซิบถามข้างหูแฟนตัวเอง
“ชอบครับ ชอบมากๆด้วย”
ริมฝีปากอมชมพูพูดตอบโต้แทฮยองแทบจะทันที ไม่ต้องใช้เวลาในการประมวลผลคำตอบใดๆเลยเพราะทุกสิ่งที่ยุนกิพูดออกมามันคือความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองในตอนนี้
เมื่อแทฮยองก้มมองหน้าคนในอ้อมกอดของตัวเองก็พบว่าคนตัวเล็กจ้องตัวเองก่อนอยู่แล้ว และเหมือนบรรยากาศ จังหวะทุกๆอย่างต่างเป็นใจ แทฮยองค่อยๆเคลื่อนใบหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานของยุนกิเรื่อยๆจนในที่สุดริมฝีปากของทั้งสองก็แตะกัน
จูบอันแสนอ่อนหวาน นุ่ม ละมุนสำหรับพวกเขาทั้งสอง ลิ้นของแทฮยองเลียริมฝีปากล่างของยุนกิอย่างเอาใจเหมือนกับลูกหมาตัวน้อยที่กำลังออดอ้อนเจ้านาย นอกจากนี้ยังเป็นการขออนุญาตให้คนตัวเล็กเปิดโอกาสให้เขาเข้าไปกอบโกยความหวานได้มากขึ้น ยุนกิจึงค่อยๆเปิดปากเล็กของตัวเองเชิญชวนให้อีกฝ่ายมอบจูบอันแสนลึกซึ้งให้กันมากยิ่งขึ้น
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ริมฝีปากของทั้งสองคลอเคลียกันไม่ห่าง ทั้งสองรู้เพียงแค่ว่าตอนนี้พวกเขากำลังหลุดเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัว
โลกที่มีแค่แทฮยองและยุนกิ
โลกของแทกิ
“ขอบคุณนะแทฮยองอ่า”
เมื่อริมฝีปากผละออกจากกัน สิ่งแรกที่ยุนกิทำคือขอบคุณคนที่กอดตัวเองจากด้านหลัง
ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาดีๆ
ขอบคุณที่สร้างรอยยิ้มให้ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน
“วันหลังเรามาเที่ยวกันอีกนะครับ”
“อื้อออออออออออ”
หากใครได้เห็นภาพในตอนนี้ก็คงจะอดชื่นชมไม่ได้ว่ามันสวยงามขนาดไหน คนตัวเล็กในอ้อมกอดแฟนหนุ่มตัวโตบนกระเช้าลอยฟ้า สายตาทั้งสองคู่จ้องมองวิวท้องฟ้าที่เปลี่ยนจากสีฟ้าสดใสเป็นสีม่วงส้มสวยงามเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าราตรีกำลังคลืบคลานเข้ามา
ตลอดเวลาที่อยู่บนกระเช้าลอยฟ้ายุนกิและแทฮยองได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเสียงหัวเราะอย่างที่ไม่ได้ทำเกือบครึ่งปี เพราะตารางชีวิตที่แสนจะวุ่นวาย
ช่วงเวลาดีๆแบบนี้จะถูกบันทึกไว้ในความทรงจำของทั้งคู่ตลอดไป
= Taegientheworld =
“อ่าว ทำไมถึงมีแค่รูปยุนกิฮยองละ”
“นั่นสิ รูปขบวนดอกไม้ก็มีน้อยจัง”
“แทฮยองคนหลงแฟน!!”
ตอนนี้เมมเบอร์ห้าคนกำลังรุมบ่นแทฮยอง เหตุผลน่ะเหรอ? ก็เพราะรูปถ่ายที่กำลังโชว์อยู่บนหน้าจอโน๊ตบุ๊คยังไงละ ก่อนเดินทางแทฮยองรับปากกับทุกคนว่าจะเก็บรูปสวยๆมาฝาก ดังนั้นเมื่อกลับมาถึงเกาหลี แทฮยองก็รีบเอาไฟล์รูปลงคอมแล้วเรียกทุกคนรวมกันที่ห้องนั่งเล่นเพื่ออวดภาพที่ตัวเองถ่ายมา
แต่ในโฟลเดอร์กลับกลายเป็นรูปกิริยาบทต่างๆของยุนกิเกือบทั้งหมดแทนที่จะเป็นรูปวิว
“ฮยองอยากเห็นรูปเมืองเมเดยินมากกว่าหน้ายุนกิตอนกินเลอะนะ!”
ซอกจินพี่ใหญ่ของวงอดบ่นไม่ได้จริงๆ
“ถ้าฮยองอยากเห็นก็บินไปดูสิครับ”
แทฮยองตอบกลับไป แม้คำตอบเขาจะฟังดูเหมือนกวนแต่เขาหมายความว่าแบบนั้นจริงๆ
หากคุณมีเวลาและเงินมากพอที่จะไปเที่ยว คุณก็ควรจะหาโอกาสไป ไม่จำเป็นต้องเป็นต่างประเทศ อาจจะเป็นในประเทศก็ได้ การที่คุณได้ออกท่องเที่ยวไปที่ใดที่หนึ่งที่ตนเองไม่คุ้นชิน นอกจากจะเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนแล้ว การออกเดินทางก็คือช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ด้วยเช่นกัน
ทุกช่วงเวลาของการท่องเที่ยวคุณจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆกลับมาเสมอ
และที่สำคัญที่สุดการดินทางจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคุณและเพื่อนร่วมทาง
ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นเพื่อนหรือคนรักของคุณก็ตาม
ข้อนี้แทฮยองขอรับประกันครับ J
FIN
= Taegientheworld =
TALK W. ME
มาอัพแล้วค่า ตอนแรกไรต์คิดไม่ออกว่าจะแต่งเทศกาลไหนดี
สุดท้ายก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับเทศกาลนี้ก็เลยหยิบเอามาแต่ง
เพราะคิดว่าคงเป็นเทศกาลที่หลายคนน่าจะไม่ค่อยรู้จัก คือเอาจริงๆไม่น่าจะแค่เทศกาล
ประเทศโคลอมเบียก็ถือว่าเป็นประเทศที่คนไทยเราไม่ค่อยจะคุ้นเคยเท่าไร
และก็ไม่ค่อยมีใครรู้ว่านอกจากส่งออกมิสยูนิเวิร์สและนักฟุตบอล
โคลอมเบียยังเป็นประเทศที่ส่งออกดอกไม้มากที่สุดเป็นอันดับ2ของโลกนะคะ รองจากเนเธอร์แลนด์
ซึ่งแหล่งปลูกดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศก็คือ ‘เมืองเมเดยิน’ นี่ละค่ะ ^^
ไฮไลท์ของเทศกาลดอกไม้เมเดยิน ที่แตกต่างจากที่อื่นก็คือ ขบวน Silleteros หรือ ซิเยเตโรส
มีลักษณะเป็นกระบะดอกไม้ที่ตกแต่งอย่างสวยงามโดยเจ้าของฟาร์มดอกไม้ค่ะ
หลังจากนั้นก็จะแบกไว้บนหลังเข้ามาในงานค่ะ ซิเยเตโรสบางอันนี้หนักกว่า70กิโลเลย เล่นใหญ่มากๆ 555
ส่วนบูริโต้ ที่หนุ่มๆกินกันเป็นอาหารแม็กซิกันค่ะ ทำจากแป้งข้าวโพด
ถามว่าไรต์เคยกินมั้ยบอกเลยว่า ไม่ค่ะ 5555
อยากลองกินเหมือนกันอยากรู้ว่ารสชาติเป็นยังไง แต่อาหารแม็กซิกันหากินยากมาก TT
สุดท้ายนี้หวังว่าทุกคนจะสนุกกับฟิคนะคะ
ตามไปพูดคุยหวีดกันต่อหรือไปรีเควสSFได้ที่ #โลกของแทกิ ในทวิตนะคะ
อยากอ่านแนวไหนบอกมาได้เลยค่ะ
ขอบคุณที่คอยติดตามและให้กำลังใจกันนะคะ
**ซิเยเตโรส (Silleteros)
burritos mexicanos **บูริโต้้แบบชาวเมกซิกัน (ต้นฉบับ)
burritos colombianos **บูริโต้ของคนโคลอมเบีย สิ่งที่แตกต่างจากต้นฉบับ คือ ที่โคลอมเบียจะห่อมาเหมือนกับเครปแล้วก็มีเครื่องเคียง ซอสจิ้มแยก อันนี้ไม่ขอฟันธงนะคะว่าทุกร้านในโคลอมเบียเป็นแบบนี้รึปล่าวหรือเฉพาะบางร้าน
Metrocable en Medellín **รถกระเช้าลอยฟ้าในเมืองเมเดยินค่ะ
คำอ่านเป็นคำอ่านภาษาสเปนสำเนียงคนสเปนนะคะ บางคำอาจจะอ่านไม่เหมือนกับภาษาสเปนของชาวลาติน ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ :D
THEME CREDIT :
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น่ารักกกก
อยากไปรับประสบการณ์ต่างที่ ต่างวัฒนธรรมบ้างจังเลยค่ะ ฮื้อออ ทำงานเก็บเงินต่อไป
แล้วแบบ...ในฟิคเขียนได้โคตรเขิน มันน่ารักชนิดที่ว่าออร่าความรักมันฟุ้งไปหมด ได้กลิ่นความรักอันหอมหวล
(แถมข้อมูลโคตรแน่น)
อ่านไปฟินไป>< สองคนนี้เข้ากันเกินไปอ่าา ♡♡