คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : FLIRT 5.
5
กิจวัตรประจำวันของฮันบินในช่วงนี้นอกจากอาบน้ำกินข้าวและทำหน้าหล่อไปวันๆแล้ว ก็คือการนั่งรอสายโทรศัพท์จากจินฮวาน ตั้งแต่วันนั้น นี่ก็เป็นเวลาเกือบสองอาทิตย์แล้วที่พี่จินฮวานโทรมาคุยกับเขาทุกวัน
แล้ววันนี้เมื่อไหร่จะโทรมา..
ปกติพี่จินฮวานจะโทรหาเขาตอนสี่ทุ่ม แต่ตอนนี้ห้าทุ่มกว่าแล้วก็ยังไม่โทรมา ตอนนี้ฮันบินเริ่มหงุดหงิดแล้ว ไปไหนก็น่าจะบอกเขาบ้างนะ ไม่ใช่ปล่อยให้เขาเป็นห่วงแบบนี้..
“ฮัลโหล ไอเน่ พี่จินอยู่บ้านป้ะวะ” มันนานเกินไปแล้ว
พี่จินฮวานหายไปไหน
“อยู่ ทำไม มีไรอ่ะพี่?”
“ไม่มี แค่พี่จินฮวานไม่โทรหากูสักที กูเลยนึกว่าพี่จินฮวานออกไปไหน”
“โถ่ นึกว่าเรื่องอะไร แล้วทำไมพี่ไม่โทรถามพี่จินฮวานเองอ่ะ มาโทรหาผมทำไม”
“เออจริงของมึง งั้นแค่นี้นะ ขอบใจมาก ติ๊ด” ก็จริงของมัน
ผมจะโทรหาจุนฮเวทำไม ทำไมไมโทรหาพี่จินฮวานแต่แรก
ตู้ดดดดดด ตู้ดดดดดดด…
สายซ้อน
ดึกป่านนี้แล้วพี่จินฮวานคุยกับใคร..?
รอสักพักจินฮวานก็รับสาย แต่ดูเหมือนมันจะไม่ทันใจฮันบินเอาซะเลย ในหัวของฮันบินตอนนี้มีแต่ความสงสัย ว่าพี่จินฮวานของเขาคุยกับใคร
“ฮัลโหลลล ฮันบินเองหรอ ขอโทษทีวันนี้ชั้นคุยกับน้องเพลินไปหน่อย ลืมดูนาฬิกาเลย”
“น้อง? น้องไหน?” น้องคนไหนที่ทำให้พี่ลืมผมแบบนี้ ตอนแรกเขาก็แค่เป็นห่วง กลัวว่าพี่จินฮวานจะเป็นอะไรรึเปล่า แต่พอได้ยินว่าพี่จินฮวานคุยกับคนอื่นจนลืมกันแบบนี้ มันก็อดน้อยใจไม่ได้
“น้องในชมรมน่ะ ไม่มีอะไรหรอก เค้าแค่มาปรึกษาอะไรนิดหน่อย”
“…”
“…”
“น้องยูคยอมน่ะ ที่อยู่ม.4 ตัวสูงๆไง จำได้ไหม ที่ชั้นเคยชี้ให้ดูที่โรงอาหาร เค้าแค่โทรมาปรึกษาเรื่องมาร์คน่ะ ไม่มีอะไรหรอก เค้าไม่ได้โทรมาจีบชั้นหรอกนะฮันบินไม่ต้องหึงหรอก”
“หึง? อะไรใครหึงพี่!? ผมแค่คิดว่าถ้าไม่โทรมาก็น่าจะบอกกันบ้าง ผมจะได้นอน!”
“ฮ่าๆๆ ฮันบินจะบอกว่าฮันบินรออยู่ใช่ไหม พูดแบบนี้ชั้นดีใจนะ” อะไรวะ
ตอนแรกยังดราม่าอยู่เลย ทำไมมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ “แล้วที่โทรมาแบบนี้เพราะทนคิดถึงกันไม่ไหวอ่ะดิ
ใช่ม๊าาาา ฮ่าๆๆๆ”
“พี่หลงตัวเองไปแล้ว พอๆๆ หยุดหัวเราะเลย หยุดเดี๋ยวนี้เลย”
“ฮ่าๆๆ ไม่หัวเราะแล้วก็ได้”
“ห้ามยิ้มด้วย”
“ชั้นไม่ได้ยิ้ม ^.^”
“ผมฟังเสียงก็รู้แล้วว่าพี่ยิ้มอยู่”
“ฮันบินก็ยิ้มอยู่เหมือนกันนั่นแหละ”
“ผมไม่ได้ยิ้ม”
“อย่ามาโกหกกันสิ แค่ฟังเสียงฮันบินชั้นก็รู้เหมือนกันนั่นแหละว่านายกำลังยิ้มอยู่”
“มั่วหน่า ไปนอนได้แล้ว นี่จะเที่ยงคืนแล้ว เดี๋ยวก็ไม่สูงหรอก”
“บอกฝันดีกันก่อนสิ แล้วก็บอกว่าพี่จินฮวานน่ารักมากๆเป็นแฟนกับผมเถอะด้วย”
“ตลกหรอ แค่ฝันดีอย่างเดียวก็พอแล้ว”
“ฮ่าๆๆๆ ก็ได้ ฝันดีนะฮันบิน อย่าลืมฝันถึงชั้นล่ะ”
”อื้อ ฝันดีพี่จินฮวาน”
เช้าวันรุ่งขึ้น
วันนี้ฮันบินมีภารกิจอย่างนึงที่ต้องทำ
ในระหว่างที่กำลังพักรับประธานอาหารกลางวัน
“เห้ยไอยุน
มึงรู้จักเด็กม.4 ที่ชื่อยูคยอมป้ะวะ” ภารกิจในวันนี้ที่เขาต้องทำก็คือการสืบเรื่องของไอเด็กยูคยอมหัวโปกนั่น
มันบังอาจมากที่กล้าโทรหาพี่จินฮวานของเขาเมื่อคืนนี้
“รู้จัก ถามทำไม เดี๋ยวนี้มึงเปลี่ยนมาชอบไซต์ใหญ่ๆแทนแล้วหรอ”
“ไซต์ใหญ่เหี้ยไรไม่ใช่โว้ย ไอเด็กนั่นมันมายุ่งกับพี่จินฮวาน กูเลยจะให้มึงสืบให้หน่อยว่ามันคิดอะไรกับพี่จินฮวานรึเปล่า” ไม่ใช่ว่าฮันบินไม่เชื่อที่พี่จินฮวานพูด เขารู้ดีว่าคนอย่างพี่จินฮวานไม่มีทางคิดอะไรกับเด็กคนนั้นแน่ แต่ความคิดของยูคยอมนี่สิ ใครจะไปรู้
กันไว้ก่อนก็ดีกว่าไม่ใช่หรอ
“งั้นมึงไม่ต้องห่วง กูได้ยินมาว่าตอนนี้มันกำลังตามจีบพี่มาร์คอยู่ พี่มาร์คเพื่อนพี่จินฮวานอ่ะ มันไม่ได้ชอบพี่จินฮวานหรอก”
“มึงแน่ใจนะ”
“เออ มึงดูนู่นดิ ไอเด็กนั่นมันเดินตามพี่มาร์คอยู่อ่ะ” ฮันบิมมองไปตามมือที่ยุนฮยองชี้ เขาเห็นพี่มาร์คกำลังเดินถือจานข้าวกลับไปนั่งที่โต๊ะโดยมียูคยอมเดินตามอยู่ข้างหลัง หน้าของพี่มาร์คดูเหมือนไม่ชอบใจนัก ขัดกับใบหน้าของยูคยอมที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข
“ก็แล้วไป แล้วนี่ไอบ๊อบบี้หายหัวไปไหนอีกอ่ะ”
“ไปซื้อข้าว” ยุนฮยองพูดจบแล้วหยิบมือถือจากกระเป๋ามากดเล่นเกม
เป็นเรื่องปกติที่คนอย่างบ๊อบบี้จะโดนยุนฮยองสั่งไปซื้อข้าว
เหตุผลไม่มีอะไรมาก ยุนฮยองก็แค่ขี้เกียจ
“อ่ะ เอาไปจ่ะเมียรัก อันนี้ของเมีย” บ๊อบบี้วางจานข้าวตรงหน้ายุนฮยองแล้วหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ
“เมียรักพ่อง! ตบปากตัวเอง 3 ที ปฏิบัติ!”
“ใจร้ายยยยย แปะ แปะ แปะ” ถึงปากจะบ่นแต่ก็ทำตามคำสั่งของยุนฮยองเมียรักเป็นอย่างดี คิมฮันบินไม่เข้าใจเลย ทำไมคู่รักตรงหน้าเขาถึงได้ปัญญาอ่อนแบบนี้
“ฮันบินนน
วันนี้หลังเลิกเรียนไปเที่ยวกัน”
ในระหว่างที่เขากำลังสงสัยในความปัญญาอ่อนของคู่รักตรงหน้า
พี่จินฮวานที่เดินมาจากไหนไม่รู้ก็เดินมานั่งลงข้างๆเขาแล้วยิ้มตาหยีใส่
“ไม่ได้อ่ะ วันนี้ผมไม่ว่าง” เขาก็อยากไปด้วยนะ แต่วันนี้ไม่ว่างจริงๆ
“หรอ ว้าาา แย่จัง งั้นไม่..”
“ผมจะไปรับน้อง พี่จะไปด้วยป้ะล่ะ”
“ไปรับฮันบยอลหรอ ไปสิๆ ชั้นไม่ได้เจอน้องนายตั้งนานแล้ว เจอกันที่เดิมนะ ไปละ”
กริ๊งงงงง...
เสียงกริ่งของโรงเรียนดังขึ้น
บ่งบอกถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว เด็กนักเรียนต่างพากันเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเพื่อมุ่งหน้าไปทำภารกิจส่วนตัวกันก่อนจะกลับบ้าน
เช่นเดียวกับคิม ฮันบิน ตอนนี้เขากำลังจ้ำฝีเท้าเดินไปหน้าโรงเรียนเพื่อไปหาพี่จินฮวานในที่ที่นัดกันไว้
ฮันบินยืนรอเพียงไม่นานพี่จินฮวานก็มาถึง
“ปะ ไปกันเถอะ”
ใช้เวลาไม่นานทั้งสองคนก็เดินมาถึงโรงเรียนอนุบาลหมีYG ฮันบินพาจินฮวานเดินผ่านเข้าไปด้านในเพื่อไปรับน้องสาวตัวแสบของตัวเองกลับบ้าน
ภายในตัวตึกถูกแบ่งออกเป็นห้องต่างๆตามขนาดการใช้งาน
ในส่วนกลางของอาคารเป็นพื้นสนามหญ้าเปิดโล่งที่ถูกประดับตกแต่งไปด้วยของเล่นหลากสีสันนานาชนิดให้เด็กๆได้เล่นสนุกกันเพื่อรอเวลาที่ผู้ปกครองจะมารับกลับบ้าน
“ฮันบยอล พี่ชายมารับแล้วจ้ะ” เมื่อเดินเข้าไปถึง
คุณครูประจำชั้นที่คุ้นเคยกันดีก็หันไปเรียกฮันบยอลให้ ในด้านของฮันบยอลที่กำลังวิ่งเล่นไล่จับกับเพื่อนๆ
เมื่อได้ยินเสียงเรียกจากคุณครูก็รีบผละออกมาหาพี่ชายสุดหล่อทันที
“บินบินนน~”
“ว่ายังไงตัวแสบ ทำไมตัวมอมแมมแบบนี้คะ ไปซนมาอีกแน่ๆเลยใช่ไหม”
ฮันบินย่อตัวลงไปคุยกับน้องสาวที่วิ่งเข้ามาหาแล้วลูบหัวน้องเบาๆด้วยความรักใคร่
“ฮันบยอลไม่ได้ซนนะคะ เอ๊ะ จินจินก็มาด้วย สวัสดีค่ะ
ฮันบยอลคิดถึงจินจินจังเลยยย~” ฮันบยอลน้องสาวคนสวยเมื่อหันไปเห็นพี่จินฮวานก็เหมือนจะลืมพี่ชายตัวเองไปชั่วขณะ
จากที่ยืนคุยกับพี่ชายตัวเองอยู่ดีๆก็ผละออกไปหาพี่จินฮวานซะอย่างนั้น
บอกแล้วว่าสองคนนี้สนิทกันยิ่งกว่าพี่น้องแท้ๆอย่างคิม ฮันบินซะอีก
“จริงหรอคะ ปากหวานจังเลย แบบนี้ต้องให้รางวัลแล้วววว
ฟอดดด~”
“คิกคิกคิก ฟอดดด~” ฉากตรงหน้าของฮันบินตอนนี้คือเด็กผู้หญิงอายุ
5 ขวบกับเด็กผู้ชายม.ปลายตัวเล็กคนนึงกำลังยืนกอดรัดฟัดเหวี่ยงผลัดกันหอมแก้มกันไปมาจนเขารู้สึกตาลาย
บรรยากาศตรงหน้าเขาช่างเป็นสีชมพูเหลือเกิน ทำไมเขาถึงเหมือนเป็นส่วนเกินแบบนี้…
“อะแฮ่ม แฮ่มๆ พอได้แล้วค่ะ” ฮันบินที่ทนกันบรรยากาศตรงหน้าไม่ไหวจึงต้องจับสองคนนี้แยก
ตอนนี้เขากลายเป็นเด็กขี้อิจฉาไปแล้ว อิจฉาทั้งพี่จินฮวาน อิจฉาทั้งฮันบยอล
อยากจะเดินเข้าไปแทรกตรงกลางแล้วจับทั้งสองคนมาหอมแรงๆให้มันรู้แล้วรู้รอด
“คิกคิกคิก จินจินไปกินไอติมกันนะคะ”
“โอเคค่ะ ไปกินไอติมกันเนอะ” พูดเสร็จหนึ่งหนุ่มกับหนึ่งสาวตัวน้อยก็พากันเดินออกจากตรงนั้นทันที ฮันบินที่เมื่อกี้หันไปคุยกับคุณครูประจำชั้นสาว หันมาอีกทีก็เห็นสองคนนั้นเดินไปไกลแล้วจึงรีบกล่าวลาคุณครูประจำชั้นของฮันบยอลแล้วรีบวิ่งตามสองคนนั้นไป
ทำไมไวแบบนี้นะ
“ด..เดี๋ยวๆ เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหนกันน่ะ รอผมด้วยสิ”
“อ๊ะ ขอโทษที ฮันบยอลอยากกินไอติมอะไรดีคะ เอาวานิลลาไหม หรือเอาช็อกโกแลตชิพดี แต่สตรอเบอรี่ร้านนี้ก็อร่อยนะ” จินฮวานหันมาตอบฮันบินแล้วหันกลับไปคุยกับฮันบยอลอีกครั้ง
ทำไมฮันบินรู้สึกหัวตัวเองมันเหม็นๆยังไงก็ไม่รู้
“เอาวานิลลาค่ะ ฮันบยอลชอบกินวานิลลา เอา5ลูกเลยยยย”
“5 ลูกเลยหรอ กินเยอะๆเดี๋ยวปวดท้องนะคะ”
แล้วบทสนธนาระหว่างทางไปร้านไอศกรีมก็เต็มไปด้วยไอติม ไอติม และไอติม ไอติมมันดีกว่าพี่ตรงไหนหรอคะฮันบยอลลลล T______T
คิม ฮันบินผู้ชายสุดหล่อผู้ที่ไม่เคยโดนปฏิเสธจากใคร กลับมาโดนน้องสาวและคนที่ตัวเองแอบรักเมินพร้อมๆกันแบบนี้
รู้สึกทำใจไม่ได้เบาๆ T______T
ตอนนี้เขาสามคนมาถึงที่ร้านแล้ว ร้านนี้เป็นร้านของปาร์คบอมญาติของพี่จินฮวาน บรรยากาศภายในร้านถูกแต่งแต้มไปด้วยสีชมพู ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ ผนัง หรือโซฟาก็ล้วนแล้วแต่เป็นสีชมพู ให้ตายเถอะ คนแมนๆอย่างฮันบินไม่เคยเข้าร้านแบบนี้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะพี่จินฮวานกับฮันบยอลเขาสาบานว่าจะไม่พาตัวเองเข้ามาในร้านที่บรรยากาศชวนขนหัวลุกแบบนี้เป็นอันขาด
“เจ๊บม อันยองงงง” พี่จินฮวานเดินเข้าไปในร้านด้วยความคุ้นเคยแล้วเอ่ยทักผู้หญิงคนนึงที่กำลังก้มหน้ากินไอศกรีมอยู่หลังเคาท์เตอร์
เป็นเจ้าของร้านก็ดีแบบนี้แหละ..
“อ่าวจินฮวาน เป็นไงมาไงเนี่ย ไม่เจอกันตั้งนานทำไมยังตัวเท่าเดิมเลย”
“-_-”
“อ้าว แล้วนั่นพาใครมาด้วยน่ะ แกไปแอบไข่ทิ้งไว้หรอจินฮวาน”
“ไข่เข่ยไรล่ะเจ๊ นั่นฮันบยอลน้องฮันบิน ส่วนนี่ฮันบินน้องที่โรงเรียน”
พี่จินฮวานหันมาแนะนำเขากับน้องให้เจ๊บมรู้จัก เขายิ้มแล้วจับมือทักทายเจ๊บมกลับไปตามมารยาท
“น่ารักจัง”
“ใช่ไหมล่ะ เค้าก็ว่างั้นแหละ”
“มีเบอร์ไหมจ๊ะ”
“จะไปมีได้ไงล่ะเจ๊ น้องเพิ่งอยู่อนุบาลเอง”
“เปล่าย่ะ ชั้นไม่ได้หมายถึงน้องฮันบยอล ชั้นหมายถึงน้องฮันบิน”
“ฮะ!? อะไรนะ?” พี่จินฮวานถึงกับอุทานออกมาเสียงดังด้วยความงุนงง อยากบอกว่าไม่ใช่แค่พี่จินฮวานคนเดียวหรอกครับที่งง ผมเองก็งง ถึงผมจะคิดว่าเจ๊บมหน้าตาดีก็เถอะ แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่าเจ๊เค้าน่ากลัว T______________T
“แหมมม อย่าทำหน้าแบบนั้นสิจ๊ะน้องฮันบิน อายุเราก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่หรอก เกิดปีอะไรจ๊ะ เจ๊เกิด84”
“96ครับ” T_____T
“ครบรอบนึงพอดีเลย แหมฟ้าประทานมาให้เจ๊ชัดๆ โฮ๊ะๆๆๆๆ”
“ฮะ!? ประทานอะไรของเจ๊ เจ๊เมาตะขบหรอ”
“หยาบคายจริงจินฮวาน เดี๋ยวตีปาก เอาเถอะ ชั้นไม่แกล้งแล้วก็ได้ เจ๊ล้อเล่นนะจ๊ะฮันบิน ไม่ต้องทำหน้ากลัวเจ๊ขนาดนั้นก็ได้ โฮ๊ะๆๆๆ”
“เหอๆๆๆ ครับ” ผมจะพยายาม
ในระหว่างที่ทั้งสามคนกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน(?) เด็กน้อยฮันบยอลที่ไม่เข้าใจบทสนธนาตรงหน้าเลยแม้แต่น้อยหันมากระตุกชายเสื้อจินฮวานแล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ เรียกสายตาจากคนทั้งสามให้หันไปมอง
“จินจินขา ตะขบคืออะไร กินได้รึเปล่า”
.
.
.
.
.
.
.
“ฮ่าๆๆๆๆๆ/ฮ่าๆๆๆ/ฮ่าๆๆๆๆๆ” คำถามของฮันบยอลทำให้คนทั้งสามหัวเราะลั่น เด็กยังไงก็ยังคงเป็นเด็กอยู่วันยันค่ำสินะ ”ฮ่าๆๆ กินได้ค่ะ เดี๋ยววันหลังเอามาให้ชิมนะ แต่วันนี้ไปกินไอติมกันก่อนดีกว่า เนอะ^^”
“ค่ะ ฮันบยอลอยากกินไอติม ไปกินไอติมกัน ^.^”
ความคิดเห็น