คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : FLIRT 4.
4
ผมเกลียดเช้าวันจันทร์..
ทำไมเราไม่เริ่มเรียนกันซัก 10 โมงนะ..
ตอนนี้เป็นเวลา 7.00 น. พอดีเป๊ะ ผมเดินสะลึมสะลือเข้ามาในห้องเรียนที่มีเพื่อนๆสิงสถิตย์กันอยู่ไม่ถึง 10 คน บ้างก็ลอกการบ้าน บ้างก็นอน นี่แหละครับอนาคตของชาติ
หันซ้ายหันขวามองหาเพื่อน ว่าจะหาคนไปทานเบรกฟาสต์ด้วย แต่ไอบ๊อบบี้กับไอยุนฮยองยังไม่มา..
“โย่วว! ว้อทซับบบ!? กู้ดมอนิ่งเอวรี่บอดี้!! อ้าวไอฮันบิน
ทำไมมาเช้าจังวะ” ทำไมตายยากจังวะ พูดถึงก็โผล่ฟันเหยินๆมาแต่ไกลเลย
ฟันเหยินขนาดนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอบ๊อบบี้ หรือ คิมจีวอน
“น้องกูมีงานที่โรงเรียนเลยต้องไปแต่เช้า แล้วมึงอ่ะ”
“กูจะมาลอกการบ้าน ยุนมายัง” ยุนที่ว่าคือยุนฮยอง แฟนบ๊อบบี้มันน่ะครับ พวกเรา 3 คนรู้จักกันมาตั้งแต่จำความได้แล้วครับเพราะพ่อแม่ของพวกเราสนิทกัน ตอนเข้าเรียนพวกเราก็เรียนที่เดียวกัน ย้ายโรงเรียนก็ย้ายมาด้วยกัน ตอนแรกก็สนิทกัน 3 คนอยู่ดีๆ แต่ไปๆมาๆไม่รู้ยุนฮยองกับไอบ๊อบบี้มันไปทำอีท่าไหนถึงเป็นแฟนกันได้ ผมยังจำได้ วันที่พวกมันมาบอกความจริงกับผมผมแทบเป็นลม ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอกครับเรื่องแค่นี้ แต่แค่งงมากกว่าว่าพวกมันเอาเวลาตอนไหนไปรักกัน ปกติก็อยู่ด้วยกัน 3 คนตลอด ถึงช่วงหลังๆมานี้ผมจะแอบหนีพวกมันไปหาพี่จินฮวานบ้าง แต่ก็ไม่น่าจะใช่เพราะเรื่องนี้ ถามพวกมันมันก็ไม่ยอมบอก ก็เลยปล่อยเลยตามเลย
..เห็นเพื่อนมีความสุขบินก็ดีใจ..
“ยัง มึงไปกินข้าวกับกูก่อนดิ กูหิวข้าว”
“เดี๋ยวก่อน กูขอลอกการบ้านก่อน เดี๋ยวยุนมาเห็นกูโดนบ่นอีก เห้ยมึงอ่ะ!
เออมึงนั่นแหละ เอาการบ้านมาลอกหน่อยดิ้!” ไอห่า จะลอกการบ้านยังต้องหลบๆซ่อนๆเมียอีก
ชีวิตมึงนี่น่าอดสูมากนะ เห็นไอบ๊อบบี้กวนตีนๆแบบนี้แต่มันกลัวยุนฮยองมากนะครับ
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าไอยุนมีอะไรน่ากลัว หน้าก็หวาน แถมปากยังอวบอิ่มไปด้วยลิปบาล์ม
อ๊ะๆๆ แต่ผมไม่ได้คิดอะไรกับมันนะ อย่ามองผมแบบนั้น อย่างไอยุนนี่ไม่ใช่สเป็ก
ของผมนี่ต้องแบบพี่จินฮวาน
“อ่ะ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง เอาไปแดกก่อน แดกเสร็จแล้วดูต้นทางให้กูด้วย” อ๋อนี่ติดสินบน
“เออๆๆ เร็วๆล่ะ 4ไม้นี่กูแดกแปปเดียวก็หมด” ไม่อยากรับหรอกครับแต่กลัวเพื่อนเสียน้ำใจ อีกอย่างไม่มีคนกินเดี๋ยวมันจะเสีย
“ต้นทางอะไรหรอ คิม จีวอน”ระหว่างที่ผมกำลังนั่งปั้นข้าวเหนียวให้เป็นก้อนกลมๆ
และไอบ๊อบบี้กำลังจรดปลายปากกาเขียนบรรทัดที่สอง ผมก็รู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้ยินเสียงคนที่ผมกับไอบ๊อบบี้เพิ่งพูดถึงเมื่อกี้ดังมาจากข้างหลังที่ผมสองคนนั่งอยู่
“ไอบิน เล่นเหี้ยไรปลอมซะเหมือน”
“ปลอมไรกูแดกหมูอยู่เนี่ยไม่เห็นหรอ”
“อย่ามาอำ”
“ไม่อำ”
“…..ไม่ใช่มึงหรอ?...”
“(- - )( - -)(- - )( - -)” ผมหันไปส่ายหน้าให้มัน ไอบ๊อบบี้ที่เหมือนจะเพิ่งรู้ตัวค่อยๆหันไปปิดสมุดการบ้านที่เพิ่งลอกไปได้สามบรรทัดเงียบๆ
นั่งทำใจอยู่สามวิแล้วหันหน้าไปเผชิญกับเจ้าของเสียงตัวจริงที่ยืนอยู่ข้างหลัง
กูว่าบรรยากาศไม่ดีละ หลบไปนั่งสังเกตการณ์(แดกข้าวเหนียวหมูปิ้ง)เงียบๆตรงนู้นดีกว่าเนอะ
..เรื่องนี้บินจะไม่ยุ่ง..
“แหะๆๆๆๆ ย..ยุนนน ยุนมาตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ.อ…”
“กูมาตั้งแต่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง - -” แม่งมาตั้งแต่ต้นเลยนี่หว่า
ไม่รอดแล้วมึงไอจีวอน
“แหะๆๆ แหะๆๆๆๆๆ ^.^;;” น่าสงสาร
“อยู่ม.5แล้วนะมึงอ่ะ ยังมานั่งลอกการบ้านแบบนี้อยู่อีก โตเป็นวัวเป็นควายขนาดนี้แล้วทำไมไม่รู้จักทำเอง!%^**)@f+*^&%($%#^)7=_”
น่าสงสารจริงๆ
ไอบ๊อบบี้หันมามองผมแล้วส่งสายตาขอความช่วยเหลือประมาณว่า ‘ไอเหี้ยบิน ช่วยกูด้วย’ แต่คนนอกอย่างผมจะไปทำอะไรได้ เรื่องครอบครัวแบบนี้บินไม่อยากยุ่ง..
คนนอกอย่างผมคงทำได้แต่นั่งกินข้าวเหนียวหมูปิ้งแล้วมองไอยุนฮยองกับไอบ๊อบบี้ทะเลาะกัน แต่จะว่าทะเลาะกันก็ไม่ถูก เพราะมีแต่ไอยุนที่เปิดปากด่า ส่วนไอบ๊อบบี้ก็นั่งก้มหน้าเงียบๆสำนึกผิด ผมบอกแล้วไงว่าไอบ๊อบบี้มันกลัวไอยุนฮยองจะตายไป
อ่าวหมูปิ้งหมดแล้ว…
ข้าวเหนียวกูยังเหลืออยู่เลยอ่ะ…
“บ๊อบบี้! มึงมีหมูปิ้งอีกป้ะวะ กูยังไม่อิ่มเลย” ผมตะโกนถามบ๊อบบี้ที่ตอนนี้กำลังนั่งคุกเข่าอ้อนวอนกอดขาไอยุนฮยองอยู่
เออ สู้ๆนะมึง
“มีห่าไรล่ะ! ไปหาแดกเองนู่น!!” ใจร้ายกับกูตลอด “ยุนน~ บ๊อบขอโทษ สัญญาว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย(ที่ยุนจะเห็น) บ๊อบสัญญาว่าจะไม่ลอกการบ้าน(ให้ยุนเห็น)อีก” ที่กับเมียนี่อ้อนเอาๆ
เบรื่ออ
แดกข้าวเหนียวเล่นก็ได้ แม่งงงง ไม่เข้าใจกูเลยว่ากูหิว แค่4ไม้นี่ไปกระตุ้นพยาธิในกระเพาะกูให้ตื่นชัดๆ อยากจะตะโกนบอกไอบ๊อบบี้อีกซักรอบว่าทีหลังอย่าซื้อมาแค่4ไม้ กูไม่อิ่ม แต่คิดไปคิดมา ไม่เอาดีกว่า กลัวว่าถ้าตะโกนออกไปรอบนี้อาจจะได้รองเท้ากลับมาแทนหมูปิ้ง
บางคนอาจจะคิดว่าทำไมผมไม่ไปห้ามเรื่องที่มัน2คนทะเลาะกัน
คำตอบก็เพราะพวกมัน2คนเป็นเพื่อนผมทั้งคู่น่ะสิ ถ้าไปห้ามตอนนี้ไอยุนฮยองก็จะหาว่าผมเข้าข้างไอบ๊อบบี้อีก
เดี๋ยวทีนี้เรื่องยาวเลย ปล่อยให้มันง้อกันเองนั่นแหละดีแล้ว อีกอย่างแม่งทะเลาะกันบ่อยจนผมชิน
เชื่อดิอีกไม่เกินชั่วโมงแม่งก็ดีกัน
“ถ้าครั้งหน้ากูเห็นมึงลอกอีกนะ เจอดีแน่! - -++” เห็นไหมล่ะ พูดยังไม่ทันขาดคำ นี่แม่งทะเลาะกันยังไม่ถึง10นาทีเลย สองคนนี้มันดีอย่างคือเวลาไม่พอใจอะไรก็พูดกันตรงๆ อาจเพราะเป็นเพื่อนกันมานานก็เลยรู้นิสัยใจคอกันหมด ถึงจะทะเลาะกันบ่อยแต่ก็ทะเลาะกันแต่เรื่องไร้สาระเรื่องปัญญาอ่อนทั้งนั้น อีกอย่างที่สำคัญคือเวลาทะเลาะกันทีไรก็เห็นไอบ๊อบบี้ยอมตลอด มันเคยบอกผมว่า ‘ก็ยุนเป็นคนใจร้อน ถ้ากูร้อนตามก็ชิบหายดิ ถ้ากูไม่ยอมป่านนี้เลิกกันตั้งแต่3วันแรกที่คบกันแล้ว เพราะกูรักหรอกกูถึงยอมมัน’ เออ ก็ซึ้งอยู่อ่ะ
“ไม่มีแล้ว บ๊อบไม่ทำแล้ว~”
“เสร็จกันแล้วใช่ไหมพวกมึง ไป ไปแดกข้าว กูหิวจะตายห่าอยู่แล้ว”
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จก็เป็นเวลาเข้าแถวหน้าเสาธง
ทุกโรงเรียนเป็นกันใช่ไหมครับ แดดก็ร้อนชิบหายแต่ด้วยนโยบายของสพฐ กฟผ กคข
หรืออะไรซักอย่าง
ที่ต้องการให้นักเรียนได้รับวิตามินดีเพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโตและแข็งแรง
ทางโรงเรียนเลยจัดให้เด็กน้อยตาดำๆแบบผมมายืนอยู่กลางสนามอย่างนี้
บางทีผมก็อยากจะเขียนจดหมายไปบอกผอ.นะ ว่าก่อนที่จะเด็กจะเติบโตและร่างกายแข็งแรง เด็กอาจจะเป็นมะเร็งผิวหนังตายไปก่อน
“ยุนร้อนไหมเดี๋ยวบ๊อบพัดให้” อากาศก็ร้อนขนาดนี้แล้วไอสองคนข้างหลังยังมีอารมณ์มาสวีทกันอีก หลังจากที่พวกมันทะเลาะกันเรื่องลอกการบ้านเมื่อเช้าเสร็จแม่งก็สวีทกันไม่หยุด ผมนี่ไม่เข้าใจพวกมันเลยจริงๆ
“ยุนไม่ร้อนกูนี่แหละร้อน เอาพัดมานี่!” ไอห่า หงุดหงิด!(อิจฉา) ชั่วโมงที่แล้วพวกมึงยังทะเลาะกันอยู่เลยตอนนี้ทำมาเป็นรักกัน หมั่นไส้!(อิจฉา) แล้วนี่พี่จินฮวานของกูไปไหนวะเนี่ย อย่าบอกนะว่ามาสายอีกแล้ว
ความจริงมันเป็นเรื่องปกติมากที่เวลามองไปที่แถวคนมาสายจะเห็นพี่จินฮวานกับจุนฮเวอยู่ในนั้น แต่จะว่าไปพูดว่าเห็นพี่จินฮวานก็ไม่ถูก ต้องพูดว่าผมเห็นไอจุนฮเวก่อนถึงจะมองหาพี่จินฮวานเจอ สองคนนี้มาสายประจำ เพราะกว่าไอจุนฮเวจะปลุกพี่จินฮวานได้ก็เกือบชั่วโมงแล้ว แล้วไหนจะอาบน้ำ แต่งตัว กินข้าวอีก กว่าจะเสร็จก็เกือบแปดโมงเช้าเข้าแถวพอดี
แต่ความจริงไอจุนฮเวไม่จำเป็นต้องมาสายทุกวันแบบนี้หรอก มันจะมาก่อนก็ได้ แต่เพราะมันเป็นห่วงพี่จินฮวานเลยต้องรอมาพร้อมกัน ผมก็เข้าใจอยู่นะว่าคนหวงพี่แบบมันคงไม่ปล่อยให้พี่ชายเดินทางมาโรงเรียนคนเดียวหรอก เพราะงั้นทุกวันนี้พี่น้องสองคนนี้ก็เลยมาโรงเรียนสายแบบนี้แหละ…
.
.
.
.
.
.
.
.
ตอนนี้เข้าแถวเสร็จแล้วครับ อาจารย์เพิ่งปล่อยให้นักเรียนขึ้นห้องไปฟังโฮมรูมคาบแรก ผมมองไปที่แถวคนมาสายก็เห็นอาจารย์ซึงรีที่สอนเลขม.4กำลังแหกปากตะโกนพูดอะไรสักอย่างกับนักเรียนอยู่ พูดไปตะโกนไปจนหน้าแดง น่าเห็นใจเค้านะครับ ไม่มีคนฟังเลย…
แต่ก็แน่ล่ะใครจะไปอยากฟัง ที่อาจารย์ซึงรีพูดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการทำโทษให้วิ่งรอบสนามเหมือนเดิม ที่โรงเรียนนี้มีกฎอยู่ว่าเด็กที่มาสายต้องวิ่งรอบสนามคนละ 1 รอบถึงจะเข้าเรียนคาบแรกได้ เหมือนจะเป็นการดัดนิสัยนะครับ แต่เด็กก็ยังมาสายอยู่ดี
“พวกมึงขึ้นกันไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามขึ้นไป”
“ไปไหนอ่ะ” บ๊อบบี้ ทำไมขี้เสือก
“ไปดูพี่จินฮวาน” ผมว่าผมคงต้องเดินไปดูพี่จินฮวานแล้วแหละ
คนอื่นเค้าวิ่งกันเสร็จหมดแล้วเหลือพี่จินฮวานอยู่คนเดียวตอนนี้
นี่ไม่คิดว่าขาสั้นแล้วจะวิ่งช้าขนาดนี้นะเนี่ย
..แต่คนอย่างผมต้องเข้าไปแบบมีชั้นเชิงหน่อย
แกล้งทำเป็นเดินผ่านแล้วกัน..
“ฮ..ฮ…ฮันบินน~ ฮันบินนน~~”
“พี่เรียกผมหรอ”
“ช..ช่วยด้วยยย ไม่ไหวแล้วว”
“วิ่งทุกวันแล้วยังไม่ชินอีกหรอพี่น่ะ” พี่เค้ามาสายทุกวันก็ต้องวิ่งทุกวันนั่นแหละครับ
“ไม่ชินหรอก วันนี้อาจารย์ให้ชั้นวิ่งตั้ง 3 รอบแหนะ อาจารย์บอกว่าชั้นมาสายทุกวันเลยให้วิ่งมากกว่าคนอื่นน~ ชั้นไม่มีแรงแล้ว ฮันบินช่วยไปส่งชั้นที่ห้องหน่อยสิ~~ (T.T)” น่าสงสารจังครับ พูดไปก็หอบไป หน้าเน่อนี่แดงไปหมดแล้ว
…แต่สภาพพี่จินฮวานตอนนี้กำลังน่ารักเลย ถ้าผมแกล้งต่ออีกหน่อยจะบาปไหมอ่ะ?
นานๆทีพี่เค้าจะอ้อนผมแบบนี้นะ
“แต่ผมรีบอ่ะ พี่เดินขึ้นไปเองก่อนได้ไหม แล้วนี่ไอจุนฮเวไปไหนแล้วอ่ะ”
“จุนฮเวมีสอบคาบแรก วิ่งเสร็จก็ขึ้นไปแล้ว…………………….ฮันบินจะไม่ไปส่งชั้นจริงๆหรอ~ (T.T)” ให้ตายเถอะ ส่งสายตาน่าสงสารมาขนาดนี้ผมรู้สึกเป็นคนบาปขึ้นมาทันทีเลย
“…..ไปก็ได้ ปะ ลุกขึ้น”
“จริงนะ”
“อือ”
“………งั้น….อุ้มหน่อยสิ”
“อะไรนะ?” เมื่อกี้พี่เค้าพูดว่าอะไรนะ
“อุ้มไง อุ้มมมมมมม~”
“อุ้ม? อุ้มทำไม? พี่เป็นอะไรน่ะ ขาหักหรอ ทำไมผมต้องอุ้มด้วย”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
“หัวเราะอะไร แกล้งกันใช่ไหมเนี่ย” ร้ายจริงนะพี่จินฮวาน
ผมก็อุตส่าห์เป็นห่วงนึกว่าจะเป็นอะไรเลยเดินมาดู ที่ไหนได้ไม่เป็นอะไรแถมยังมาแกล้งกันแบบนี้อีก
เดี๋ยวจะปล่อยทิ้งไว้ตรงนี้แล้วไม่คุยด้วยเลย ที่ผมเคยบอกว่าพี่จินฮวานใส่ซื่อนี่ลืมๆไปให้หมดนะครับ
คิดซะว่าผมไม่เคยพูดแล้วกัน
“ไม่ได้แกล้งซะหน่อย ชั้นเหนื่อยจริงๆนะ แต่พอเห็นฮันบินเดินมาอยู่ดีๆชั้นก็หายเลยล่ะ ^.^~” แถมเดี๋ยวนี้ยังปากหวานขึ้นอีก ไม่รู้ไปเอามาจากไหน ใครสั่งใครสอนให้พูดแล้วทำให้ผมใจเต้นแรงแบบนี้ก็ไม่รู้
“พูดอะไรของพี่น่ะ”
“จริงๆนะะะะ ^.^~” พูดอย่างเดียวก็ได้ ไม่ต้องเขยิบมาเกาะแขนแบบนี้หรอก คิดว่าผมจะใจอ่อนง่ายๆหรอ
“เดินขึ้นห้องไปเองเลยพี่น่ะ” ผมแงะแขนตัวเองออกจากการเกาะกุมของพี่จินฮวาน รีบลุกขึ้นแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น
ไม่ได้สนใจเสียงพี่จินฮวานที่ตะโกนเรียกอยู่ข้างหลัง
“ฮ..ฮันบินนนนนนนนนนนน! อย่าเพิ่งป๊ายยยยยย! รอก่อน!” พี่จินฮวานจากที่นั่งหมดแรงทำหน้าเหมือนคนใกล้ตายบนพื้นเมื่อกี้
อยู่ดีๆก็ดีดตัวลุกขึ้นวิ่งสี่คูณร้อยเข้ามาขวางทางผม ..ทีเมื่อกี้ยังทำเป็นไม่มีแรงอยู่เลยนะ..
“ยิ้มอะไรน่ะ”
ไม่ยิ้มก็ได้
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าๆๆๆๆๆ” ผมหัวเราะแทนเลยแล้วกัน
“ฮ..ฮ..ฮันบินแกล้งชั้นหรอ นี่นายแกล้งชั้นหรอ!”
พี่จินฮวานถลึงตาออกกว้าง
แขนสองข้างท้าวสะเอวทำหน้าหาเรื่อง มันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิด ตัวแค่นี้จะทำอะผมได้
เหมือนลูกแมวตัวเล็กๆกำลังขู่ฟ่อๆเพราะหิวนมมากกว่า
“ก็ทีพี่ยังแกล้งผมเลยอ่ะ ไม่ต้องมางอนเลย ผมไม่ง้อจริงๆแล้วนะคราวนี้
ไปเรียนกันได้แล้วเดี๋ยวผมเดินไปส่ง” ถ้าโอ้เอ้ไปมากกว่านี้ผมว่าเราสองคนคงเข้าเรียนคาบแรกไม่ทันแน่ๆ
“ยอมก็ได้ งั้นเดี๋ยวตอนเที่ยงชั้นไปหาฮันบินที่ห้องแล้วกันนะ จะได้ไปกินข้าวด้วยกัน โอเค๊!?”
“อือ..แล้วแต่พี่สิ”
“แล้วตอนเย็นก็รอด้วยนะ จะได้กลับบ้านพร้อมกัน โอเค๊!?”
“อือ..แล้วแต่พี่สิ”
“แล้วตอนกลางคืนก็รอด้วยนะ จะได้นอนพร้อมกัน โอเค๊!?”
“อือ..แล้วแต่พี่ เอ๊ะ!?”
“ตกลงแล้วน้าาาา อย่าลืมล่ะ เดี๋ยวคืนนี้ชั้นโทรไปหา ห้ามนอนก่อนนะ! ^.^~~”
…ร้ายจริงๆเลยนะ พี่จินฮวาน….
-------------------------------------------------------------------------------------
ความจริงคู่นี้เค้าก็พอๆกันแหละค่ะ แกล้งกันไปแกล้งกันมา 5555555555
ส่วนคู่บ๊อบกับยุน
เรื่องที่เค้าเป็นแฟนกันได้ยังไงยังคงเป็นปริศนาค่ะ (อาจจะมีเป็นตอนพิเศษ (ย้ำนะคะว่าอาจจะ ^^))
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ กราบบบบบบ ^/\^
อย่าลืมเม้นกันนะคะ กราบบบบบบ ^/\^
ปล.เรามีแท็กในทวิตนะคะ #จีบฮันบิน เผื่อใครอยากจะไปเล่น
ความคิดเห็น