ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Cool Boy โฟกัสรักหนุ่มสุดคูล

    ลำดับตอนที่ #2 : 2 : THE BOY WITH CAMERA

    • อัปเดตล่าสุด 5 ต.ค. 56


    2

    THE BOY WITH CAMERA

    RJ HIGH SCHOOL GYM

    เคร้ง !!!

               ฉันทำไม้คทาตกมาเป็นร้อยรอบแล้วอ่ะ TT การเป็นดรัมเมเยอร์เนี่ยะโคตรยากโคตรลำบากแสนตรากตรำแก่ชีวิตปั้นสิบคนนี้มาก ไหนจะต้องเอาเวลาช่วงเย็นที่มีไปซ้อมอยู่กับไอไม้คทาบ้าบอ กลับบ้านไม่ทันดู We got married ที่โคตรติดเพราะแทมินโอปป้าของฉันน่ารักมาก พอแม่ฉันรู้เรื่องว่าฉันจะได้เป็นดรัมเมเยอร์นะก็ตื่นเต้นใหญ่ บอกจะไปดูฉันวันงานให้ได้ถึงขนาดยอมลางาน แม่นะแม่ลูกสาวจะมีชีวิตรอด ก่อนวันงานไหมยังไม่รู้เลย เพราะทุกวันนี้ชีวิตเสี่ยงตายกับไอไม้คทาที่ตกใส่หัวทุกวันจนปวดกบาลไปหมด

    เคร้ง !!!

    โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!

                มันตกใส่หัวฉันอีกแล้ว TT เจ็บจี้ดถึงสมองส่วนเซรีบรัม ฉันนั่งกุมหัวอย่างทรมานพาลโทษไอไม้คทาบ้าบอที่เป็นต้นเหตุให้ฉันหัวโน โอ้ยเจ็บจังเลย... มีใครเข้าใจฉันบ้างไหม

    “นี่...เธอเจ็บมากป่าว? ไม้ตกใส่หัวขนาดนั้น

    “หือ... 0.0” ฉันเงยหน้าขึ้นไปสบตากับผู้ชายตาสีอำพันที่กำลังจ้องหน้าฉัน เขามีผมสีน้ำตาลอ่อนที่เข้ากันกับดวงตาสีสวยที่ใครมองก็หลงใหล จมูกโด่งคมสันแบบหนุ่มลูกครึ่ง ผิวขาวสุขภาพดี หน้าที่เนียนใสมาก บวกกับริมฝีปากบางได้รูปแถมน่ากินนั้น...

    “ถ้ามองผมแล้วหายเจ็บ ผมให้มองต่อนานๆเลยก็ได้นะ :)

    -///-

    “หน้าแดงด้วย ปวดหัวมากเลยหรอ?” เขาเงื้อมมือมาสัมผัสหัวฉันเบาๆด้วยความสงสัย แล้วก็สำรวจหัวฉันว่ามีแผลอะไรไหม ฝ่ามือเขาร้อนมากเวลาสัมผัสฉันจนฉันลืมความเจ็บปวดไปหมด เพราะความอบอุ่นจากฝามือของเขาทำให้ฉันลืมไปว่าเห...เขาจับหัวฉัน!!

    “โอ้ยยยยย!” ด้วยความตกใจฉันเผลอสะบัดหัวหนีแต่ดันไปโดนแขนเขาซ้ำ หัวที่โนอยู่เลยเจ็บจี้ดขึ้นมาอีก

    “เธอจะตกใจไรเนี่ยะ (- -)? ฉันก็แค่จะดูแผลให้เผื่อหัวแตก”

    “ก็นายจับหัวฉันนี่... -///-

    “ก็ผมเห็นเธอหน้าแดงก็คิดว่าเจ็บเพราะหัวแตก แล้วถ้าหัวมันแตกผมจะได้ห้ามเลือดให้”

    “ก็ฉันตกใจนี้ อยู่ดีๆนายก็มาจับหัวถึงจะ...หวังดีก็เถอะ -///-

    “นี่ผมดูเหมือนคนที่จะหลอกแต๊ะอั้งคุณหรอ? คุณก็คิดมากไปนะ”  เขาตอบฉันยิ้มๆอย่างสุภาพ จริงๆเขาก็คงแค่ผ่านมาแล้วเห็นฉันโง่จนได้รับบาดเจ็บก็เลยเข้ามาดูด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ แต่ทำไมฉันต้องทำตัวไม่ถูก หรือว่าฉันสมองได้รับการกระทบกระเทือนเกินไป...

    แชะ!

    เห...อยู่ดีไม่ว่าดีนายหน้าหล่อนั้นก็แอบถ่ายรูปฉันตอนที่ฉันกำลังคิดอะไรอยู่ หน้าฉันต้องเอ๋อมากแน่เลยอ่ะ ฉันยิ่งไม่รู้ตัวด้วยเขาจะถ่ายรูปฉันไปทำอะไร หรือเอาไปแปะประกาศปั้นสิบดรัมเมเยอร์แสนโง่ไม้ตกใส่หัว หรือเอาไปลงข่าวในโรงเรียน...

    “นี่...ดูสิหน้าเธอในรูปสวยมากเลยนะ ดูเป็นธรรมชาติดีนะ” เขาอมยิ้มและเอากล้องถ่ายรูปที่มีรูปฉันที่เขาเป็นคนถ่ายมาให้ฉันดู พอฉันลองดูรูปนี้ฉันว่าสวยมากเลยอ่ะ ไม่ได้หลงตัวเองนะ ดูเป็นธรรมชาติจริงๆด้วย นี่เขาถ่ายมุมที่ไม่น่าจะสวยให้ออกมาดูดีได้ไม่เลวเลยนะ

    “ว้าว นายถ่ายรูปสวยอ่ะ ขนาดฉันหน้าเอ๋อ...” เพราะว่าสายคล้องกล้องอยู่ในคอเขา ตอนที่เขายื้นกล้องมาให้ฉันทำให้เราสองคนใกล้กันไม่รู้ตัว ฉันหันไปสบตาเขาที่ห่างกันไม่ถึงนิ้ว เขาสบตาฉันกลับ พอสติฉันกลับมาและฉันรู้ตัวว่าตอนนี้อยู่ในท่าล่อแหลมมากเพียงใด ฉันเลยดันเขาออกจนเขาก็ตกใจล้มไปเหมือนกัน

    “อุ้ย...ขอโทษนะ ฉันผลักนายแรงไปไหม? :( ”

    “ไม่เป็นไรหรอก ฮะฮ่ะ แล้วนี้เธอซ้อมไปเดินงานกีฬาสีหรอ?”

    “อืม...แต่ฉันก็ไม่อยากเป็นหรอกแต่ดันไปแพ้พนันเพื่อนน่ะสิ”

    “พนัน?”

    “ใช่ และฉันนะซุ่มซามจะตายเชื่อเถอะมีแต่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น (. .)”

    “ผมเชื่อว่าคุณซุ่มซาม... แต่คุณอย่าคิดว่าตัวเองจะทำความเดือดร้อนให้คนอื่นสิ คิดซะว่าสร้างความสนุกสนานให้คนรอบข้างไง :)”

    “นายนี่มองโลกในแง่ดีจังนะ”

    “แล้วถ้ามองในแง่ร้ายจะได้อะไรล่ะ ความทุกข์? ความกังวล? ผมว่าคนเราจมอยู่กับสิ่งที่ตัวเองคิดขึ้นเองทั้งนั้นแหละ ถ้าเราคิดว่ามันจะดีมันก็จะดี ถ้าเราคิดว่ามันจะแย่มันก็จะแย่” เขายิ้มแล้วมองมาที่ฉัน รอยยิ้มของเขาดูจริงใจและไม่แสแสร้ง รอยยิ้มที่สดใสที่ทำให้ทุกคนยิ้มตาม

    “...” ฉันนั่งก้มหน้าลงพื้น จะว่าไปสิ่งที่เขาพูดมันก็ถูก ฉันคงกังวลและดูถูกตัวเองมากเกินไปว่าจะทำไม่ได้ ทั้งที่ฉันพยายามมันแค่นิดเดียวเท่านั้น

    “คุณอยู่สีอะไรเหรอ?

    “บลูโอเชี่ยน”

    “ว้า...ผมอยู่พิ้งค์วันเดอร์ แต่ผมจะรอดูคุณนะ เอาไว้เดี๋ยวจะถ่ายรูปไว้ให้ :)”

    “อ่า...”

    “สู้สู้นะ ผมต้องไปแหละผมนัดกับเพื่อนไว้น่ะ” เขาก้มลงมองดูนาฬิกาก่อนจะลุกขึ้นยืนและหันเดินไปทางประตูพร้อมกับกล้องในมือที่กำลังเช็คดูรูปถ่ายที่ถ่ายไว้ ก่อนจะหันหลังกลับมาส่งยิ้มให้...

    “บาย”

    “บาย”

               เขาหันมาบอกลาฉันสั้นๆแต่ทำไมฉันรู้สึกดีใจเล็กๆนะ แต่อีกเรื่องที่แปลกคืออาการปวดหัวเจ็บจี้ดถึงเซรีบรัมหายไปแล้วอ่ะ  แต่ฉันยังไม่ได้ถามชื่อเขาเลยนี่นา วันหลังจะได้ซื้ออะไรไปขอบคุณเขา นี่เราอยู่คุยกันสักพักแต่ไม่ได้ถามชื่อกันเลยเนี่ยะนะ ปั้นสิบเชื่อเถอะว่านอกจากเธอจะซุ่มซามมากที่สุดแล้วเธอยังเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์แย่มากที่สุดอีก ฉันถอนหายใจให้กับตัวเองก่อนจะลุกไปหยิบไม้คทาและเริ่มซ้อมใหม่อีกครั้งด้วยความคิดและมุมมองใหม่

    เธอทำได้ปั้นสิบ เธอทำมันได้...

     

     

    ปั้นสิบสู้ๆๆๆ มาถึงตอนสองแล้วพิมพ์ไม่ได้หลับได้นอน ติดตามกันต่อไปนะคะ คอมเม้นท์ติชมกันได้นะคะ จะได้นำไปแก้ไขให้นิยายดีขึ้นค่ะ ขอบคุณผู้อ่านทุกคนค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×