ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Harvest Moon:: Knight of Season

    ลำดับตอนที่ #4 : Cahpter 01:: ฤดูร้อน วันที่ 3

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 61


    (จดหมายประจำวันนี้)

       'ถึง เธอ ผู้ต้องการความช่วยเหลือ'
       ฉันได้ไปสืบหาข้อมูลตามที่เธอขอมาแล้ว ใช้เวลาอยู่นานพอสมควรจนแน่ใจจึงเขียนจดหมายมา 
    แทบไม่น่าเชื่อว่าตำนานเรื่องเล่าพวกนั้นจะมีอยู่จริง แม้ว่าฉันจะไม่สามารถรับรู้ถึงการมีอยู่เหมือนกับเธอเลยก็ตาม...
    ฉันเชื่อว่าเขาพยายามปิดบังเรื่องนี้กับเธอ แต่นั่นก็คงเพื่อตัวเธอเอง ฉันขอแสดงความเสียใจกับเธอด้วยนะ แต่อย่าได้กังวลไป ฉันจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้ความลับ

       ป.ล.
      หลังจากที่อ่านจดหมายนี่เสร็จ ฉันขอแนะนำว่าให้รีบจัดการกับเจ้าเศษกระดาษนี่ทันที แล้วก็ใช้ชีวิตของเธอตามปกติ

    ด้วยความหวังดี
    จาก          
    ซินดร้า  นักโบราณคดี


    -----------------------------------------------------

       'ถึง นักวิจัยทุกท่าน'
       ทางสายสืบได้ข้อมูลลับบางอย่างเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของทางกลุ่มนักโบราณคดี เห็นว่าจะมีการสำรวจพื้นที่ปิดตายต่าง ๆ ในหมู่บ้านแห่งนี้ เชื่อว่าจะเป็นการพิสูจน์ และ แสดงให้เห็นว่าสถานที่เหล่านั้น มีความเกี่ยวข้อง กับ นิทานความเชื่อที่แม้แต่วิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ความจริงได้  พวกเราซึ่งเป็นนักวิจัย และ ผู้พิสูจน์ความจริง โดยผ่านกระบวนการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์จะยอมให้ความเชื่อเหล่านี้มาทำให้ผู้คนในหมู่บ้านต้องเชื่อมั่น และ หวาดผวาในสิ่งที่ไม่มีตัวตน และ พิสูจน์ไม่ได้หรือ?

    ดิฉันจึงขอให้ทุกท่านกระจายกำลังกันออกไปสำรวจบริเวณพื้นที่ปิดตายต่าง ๆ ในหมู่บ้านแห่งนี้ โดยจดหมายของแต่ละท่านจะมีแผนที่แนบมาด้วย ภายในวันพรุ่งนี้ขอให้ทุกท่านเริ่มไปสำรวจในพื้นที่นั้น ๆ แล้วกลับมารายงานให้กับดิฉัน

    จึงแจ้งมาเพื่อให้ทุกท่านทราบ
    จาก                    
    วอร์สไปซ์  หัวหน้ากลุ่มหน่วยวิจัย

    -----------------------------------------------------

    'ถึง เคิร์ก เพื่อนรัก'
       ขอโทษที่ต้องมารบกวนอะไรกระทันหันแบบนี้ พอดีว่าฉันเผลอไปรับปากตกลงกับน้องสาวของฉัน และ พ่อหนุ่มนักโบราณคดีคนหนึ่งว่าจะพามาดูงานขุดเหมืองที่ปิดตายของพวกเรา แล้วเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าฉันเองก็รับปากเจ้าหนุ่มน้อยชาวประมงกับเพื่อน ๆ ของเขาด้วยเหมือนกัน นายไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ไปยืนรอที่หน้าเหมือง พอพวกเขามาก็นำทางพวกเขาเดินลงมาเรื่อย ๆ จนถึงชั้นที่พวกเราช่วยกันขุดถึงนั่นแหละ 

       ป.ล.
       ถ้นายทำสัญญาว่าจะเลี้ยงข้าวให้นายหนึ่งมื้อเป็นการตอบแทน

    กราบขอบพระคุณคุณเพื่อนล่วงหน้า(?)
    จาก                        
    แลนซ์ นักขุดเหมือง       

     -----------------------------------------------------

     "ผมไปก่อนนะครับ!"

    "ไปดีมาดีนะจ๊ะ แล้วก็อย่าไปก่อเรื่องที่ไหนล่ะ!"

    "โธ่ แม่อ่ะ!!"

     ดีแลน เด็กหนุ่มชาวประมงผู้มีอายุน้อยที่สุดของหมู่บ้านนี้ เจ้าของร่างสมส่วนผิวแทนจากการตากแดดตากลม และ เส้นเส้นผมสีน้ำตาเข้มเมื่อต้องเข้ากับแสงแดดในยามเช้าจึงทำให้ดูส่องประกาย วิ่งตัดชายหาดซึ่งเป็นเหมือนทางผ่านระหว่างบ้านเขา(ซึ่งอยู่แถวนั้น) กับ สถานที่ ๆ เขานัดกับคนกลุ่มหนึ่งเอาไว้ 


    แต่ในระหว่างนั้นเอง....


    แชะ !

    'อ๊ะ...!'
       พลันเสียงกดชัตเตอร์กล้องทำให้ร่างกายของหนุ่มน้อยชาวประมงต้องรีบหยุดชะงักแล้วหันไปหาที่มาของเสียงก็ปรากฏเข้ากับ....


       เขาแทบจะพูดอะไรไม่ออก แต่ไม่ผิดแน่...เลนส์จากกล้องโพลารอยด์สีดำได้จับโฟกัสมาที่เขา (ดูจากตำแหน่งที่ยืนของผู้ถ่ายคือบันไดหินซึ่งเป็นทางขึ้นจากชายหาดไปสู่ตลาดของหมู่บ้าน) จากนั้นไม่กี่อึดใจกระดาษที่เหมือนจะเป็นภาพถ่ายก็ค่อย ๆ เลื่อนออกมาจากช่องด้านล่างช้า ๆ มือเรียวของผู้เป็นเจ้าของกล้องรับรูปที่เลื่อนออกมานั้นแล้วมองไปที่ผลงานของตน ในช่วงเวลานั้นทำให้ดีแลนได้รู้ว่าคน ๆ นั้นคือใคร


    ซีเปีย เด็กสาวช่างถ่ายรูป และ คนขายกล้อง หากให้เขาเดาเธอก็คงจะมาถ่ายรูปวิวทิวทัศน์รอบ ๆ หมู่บ้านแห่งนี้เหมือนกับทุก ๆ วันราวกับงานอดิเรกก่อนเปิดร้าน ล่าสุดที่เขาเคยดูผลงานภาพถ่ายของเธอที่ติดอยู่ในบอร์ดประชาสัมพันธ์ของหมู่บ้านมักจะเกี่ยวกับการแนะนำพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของหมู่บ้าน งานเทศกาล หรือไม่ก็สินค้าใหม่(จากทั้งในเมือง และ ในหมู่บ้าน)  แต่นาน ๆ ครั้งเท่านั้นที่จะเห็นเธอมาถ่ายรูปบุคคล

    "........"  คงเพราะมองอีกฝ่ายนานมากเกินไป จนเจ้าตัวรับรู้ได้ถึงการถูกจ้องมองจึงละสายตาจากภาพถ่ายของตนแล้วมองสบตากลับไปที่อีกฝ่าย

      พลันดวงตาสีเขียวกลมโตของเขาสบตาเข้ากับดวงตาสองสีที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม (แต่ไม่ว่ายังไงก็ยังดูงดงามในสายตาของเขา) พลอยให้กล้ามเนื้อในอกซ้ายของเขาแอบดิ้นอย่างอยู่ไม่สุข แต่สุดท้ายสิ่งที่เขาได้แสดงออกมาคือการชูสองนิ้วแล้วฉีกยิ้มโชว์ฟันขาว 

        อีกฝ่ายเมื่อเห็นดังนั้นก็หัวเราะเบา ๆ เอ็นดูกับท่าทางของเขาแล้วจัดแจงถ่ายรูปให้ตามขอ(?)  ในตอนนั้นเองที่ตัวเขาแทบจะละลายไปกับท่าทางก่อนหน้านั้นของเธอ


       "โอ้ลั่ลล้า เหมือนเห็นคนกำลังเด็ดดอกฟ้าล่ะ"


    เปรี๊ยะ-------!!

        ราวกับสมอเรือหล่นระหว่างที่เรือกำลังแล่นฉิว ประโยคก่อนหน้าเหมือนมือขนาดยักษ์กระชากให้เขาหลุดออกจากภวังค์ รู้ตัวอีกทีตรงที่ซีเปียที่ยืนอยู่ก็ไม่มีใครซะแล้ว เขาซึ่งไม่มีทางเลือกจึงหันหลังกลับไปหาผู้ที่ทำให้เขาออกจากภวังค์ฝันหวานนั้น

       "เด็ดดอกฟ้าอะไรกันครับเจ๊? โสดแล้วพาลนะครับเนี่ย" หรี่ตามองผู้มาใหม่พร้อมด้วยความรู้สึกแอบหัวเสียเล็กน้อย
       "ตายจริง! คนเขาอุตส่าห์มาเตือนสติด้วยความหวังดีเชียวนะ" 

      อควา  เอ่ยหลังจากที่เธอได้ถอดหมวกรูปทรงประหลาดคล้ายหมวกของนักประดาน้ำออก เผยให้เห็นเรือนผมสีเขียวอ่อนรวบหางม้าสูง ผิวขาวอมชมพู และดวงตาสีม่วง และจริงอย่างที่เธอว่า ซีเปีย หรือ ก็คือเด็กสาวที่ถ่ายรูปดีแลนไปก่อหน้านี้นอกจากจะเป็นช่างถ่ายรูป และ คนขายกล้องแล้ว เธอยังเป็นถึงลูกสาวบุญธรรมของท่านนายกเทศมนตรีของหมู่บ้านนี้อีกต่างหาก(แต่ท่านเทศมนตรีก็รักราวกับเป็นลูกสาวแท้ ๆ เลยนะ) เมื่อเทียบกับเขาแล้วซึ่งเป็นลูกหลานชาวประมง แม้จะเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยเด็กจนในตอนนี้เขาเริ่มมีความรู้สึกที่พิเศษกับเธอที่มากกว่าคำว่าเพื่อน หากจะมองว่าเขาเด็ดดอกฟ้าก็คงไม่แปลก แต่เขารู้สึกไม่ค่อยชอบประโยคนี้เอาซะเลย

       "ว่าแต่การสำรวจทางทะเลเป็นยังไงบ้างครับ? พอจะมีปลาตัวใหญ่ ๆ ให้ผมจับในวันนี้มั้ย?" เมื่อเถียงอะไรไม่ได้ก็เปลี่ยนเรื่องแทน ดีแลนมักจะถามคำถามนี้เสมอทุกเช้าที่เห็นอควาโผล่ขึ้นมาจากน้ำ จนเหมือนหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของพวกเขาทั้งสองคน ที่คนหนึ่งซึ่งเป็นนักวิจัยทางทะเล ต้องมาคอยสำรวจสถานการณ์โลกใต้ทะเล แล้วก็ต้องมารายงานให้กับหนุ่มน้อยชาวประมงคนนี้ 

       "อืม...จริงอยู่ที่ระดับน้ำ อุณหภูมิ ความดันในน้ำ รวมไปถึง ความเค็มของน้ำยังปกติดี รวมไปถึง ไม่พบขยะเลยซักชิ้น แต่..." ถอนหายใจออกมาแล้วพูดต่อ "ขอโทษทีนะ แต่จำนวนของปลายังน้อยเท่ากับเมื่อวาน แถมยังตัวเล็กอีกต่างหาก คิดว่าช่วงนี้ยังไม่เหมาะกับการจับปลาจริง ๆ นั่นแหละ" 

       "งั้นเหรอครับ อ่า...น่าเสียดายจัง แบบนั้นก็ยิ่งต้องฝากความหวังให้กับพ่อ แล้วก็ทุกคนที่นั่งเรือไปตกปลาที่ไกล ๆ อีกน่ะสิ แบบนั้นไม่เอาด้วยหรอกนะ" สีหน้าของดีแลนดูหมองลง

       "ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอนะ...ว่าแต่.... วันนี้เธอมีนัดอะไรกับใครไว้รึเปล่า? ฉันเชื่อว่าเธอคงไม่ได้ออกมาแค่ให้คุณหนูซีเปียถ่ายรูปหรอกใช่มั้ย?" และนั่นก็ทำให้ดีแลนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ว่าเขาเองมีนัดกับคนอื่นอยู่!!

       "หวา!! จริงด้วย!! ถ้างั้นผมไปก่อนนะครับเจ๊! สายแล้ว ๆ!!"  พูดแล้ววิ่งหน้าตั้งออกไปอีกฝ่ายก็โบกมือให้เล็กน้อยจนร่างของเด็กหนุ่มได้ลับสายตาไป

       "เฮ้อ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ๆ ก็ยังคงเป็นเด็กเหมือนเดิมล่ะนะ" อควาเอ่ยอย่างเอ็นดู 


    'ซ่า...อควา...ซ่า...นี่เรนพูด...ได้ยินแล้วตอบด้วย....'

    เสียงจากเครื่องมือวิทยุสื่อสารดังขึ้น จากกระเป๋าเป้ที่ทำจากพลาสติกกันน้ำของอควา ผู้เป็นเจ้าของหยิบขึ้นมาแล้วทำการตอบกลับ

    "นี่อควาพูด...." เธอตอบกลับไป

    'ซ่า...การสำรวจทางทะเลเป็นยังไงบ้าง?...ซ่า' 

    "ก็ปกติ...ไม่มีอะไรที่ผิดสังเกต"

    'งั้นเหรอ...?'

    "ที่เหมืองเป็นยังไงบ้าง?..."

    'มีเรื่อง...ซ่า...กันนิดหน่อย'

    "ให้เดานะ...พวกนักโบราณคดีใช่มั้ย? จะให้ฉันไปเป็นกำลังเสริมให้มั้ย?"

    'ไม่ต้อง...ซ่า....ทางนี้สามารถรับมือได้...แล้วเจอกันที่ศูนย์วิจัย...ทราบแล้วเปลี่ยน...ซ่า'


    -----------------------------------------------------


       "นาย-มา-สาย!!" 

    โมจิ ตวาดอย่างหัวเสียใส่ดีแลนจนเจ้าตัวแทบจะหดหัว เธอเป็นสาวจากเมืองหลวงย้ายมาเพื่อที่จะมาดูแลฟาร์มต่อจากคุณปู่ของเธอที่เสียไปแล้วตามพินัยกรรม การที่ดีแลนเป็นคนนัดแนะเวลาแต่ดันมาสายซะเอง(ประมาณ 5 นาที)แล้วเธอก็ต้องมายืนตากแดดตบยุงแบบนี้ ต่อให้เขาขอโทษขอโพยแล้วก็ตามแต่เธอก็ขออบรมนิสัยเรื่องการมาตรงต่อเวลาเสียหน่อยเถอะ!

       "อ๋า ก็บอกว่าขอโทษแล้วไง! แบบว่ามันมีเหตุสุดวิสัยจริง ๆ นี่นา!" ดีแลนเอ่ย 
       
       "น่านะโมจิ ดีแลนเขาก็คงจะมีเหตุจำเป็นจริง ๆ นั่นแหละ เขาเองก็ไม่ได้อยากมาสายหรอกใช่มะ??" 

       "โธ่ เคท!ไม่ต้องไปช่วยพูดให้ตานี่เลย!"

    เคท เด็กสาวเจ้าของกิจการค้าขายเมล็ดพันธุ์พืช เป็นอีกคนที่ดีแลนได้นัดเอาไว้แต่เธอก็ไม่ได้มีท่าทีหงุดหงิดอะไรกับการมาสายของดีแลน ระหว่างรอเธอก็ฮัมเพลงไปเพลิน ๆ เลยไม่รู้สึกอะไรกับการรอมากนัก

      ในขณะที่ทั้งสามกำลังวุ่นวายกับการโต้วาที(อีกคนกำลังไกล่เกลี่ย)อยู่นั้น ก็มีเสียงหนึ่งขัดขึ้นมา

       "ถ้าพวกเธอยังมีเวลามัวแต่ทะเลาะกันล่ะก็ เอาเวลานั้นไปตามหาภูติของราชินีภูติดีกว่ามั้ย ห๊า!?" ฟินน์ หนึ่งในภูติรับใช้ของราชินีตะโกนออกมาอย่างสุดจะทน เขาได้รับหน้าที่ให้มาตามหาบุคคลที่ว่ากันว่ามีจิตใจที่บริสุทธิ์จนสามารถที่จะมองเห็นภูติอย่างเขาได้ และขอให้ช่วยกันตามหาภูติตนอื่น ๆ ที่หลับไหลตามที่ต่าง ๆ ในหมู่บ้านแห่งนี้ คนแรกที่มองเห็นเขาก็คือ โมจิ ต่อมาก็ เคท และคนสุดท้ายก็คือ ดีแลน ก่อนจะนำทั้งสามคนไปพบราชินีภูติ แรก ๆ ก็ดูเข้ากันดี ดูทำงานไปกันได้อยู่หรอก แต่พอถัดจากวันนั้นมาอีก สองสามวันก็เริ่มมีทะเลาะปากเสียงกันบ้าง จนบางครั้งเจ้าตัวก็อยากจะเอาขาเล็ก ๆ ของตนมาก่ายหน้าผากแล้วพร่ำเพ้อพรรณนาว่า 'รึว่านี่จะเป็นวิธีการแสดงความสนิมสนมมนุษย์กันนะ?' 


       หลังจากที่เสียเวลามาพอสมควรมนุษย์ทั้งสาม และ ภูติอีกหนึ่งตนก็ได้เดินมาถึงหน้าเหมืองซึ่งเป็นสถนที่ ที่คาดว่าอาจมีภูติของราชินีภูติสถิตอยู่ 

        "อ้อ...มาแล้วเหรอ? นี่คงจะเป็นกลุ่มของหนุ่มน้อยชาวประมงที่แลนซ์พูดถึงสินะ"  ชายหนุ่มผิวขาวใบหน้าเรียวยาวรับกับผมซอยสั้นสีแดง บวกกับรูปร่างสมส่วนมีกล้ามเนื้อเล็กน้อยชวนให้สาวน้อยใหญ่ต่างต้องใจลอยเอ่ย เขายืนอยู่ตรงหน้าเหมืองแล้วส่งยิ้มน้อย ๆ ให้กับพวกเขา

        'โอ้พระเจ้า เขาหล่อมาก!!'(ประโยคนั้นก้องสะท้อนอยู่ในหัวของโมจิ และ เคท) 

       "ครับ ผมชื่อดีแลน นี่โมจิ ส่วนนี่เคท พวกเราสามคนนัดคุณแลนซ์เอาไว้ว่าจะพาไปสำรวจเหมืองครับ คุณ เอ่อ..." ดีแลนเริ่มแนะนำตัวเขา และ เพื่อน ๆ ให้อีกฝ่าย 

       "สวัสดี ผมชื่อ เคิร์ก แลนซ์เป็นเพื่อนของผมเอง เจ้าตัวฝากให้ผมพาพวกคุณลงไปสำรวจเหมืองแทนเขาน่ะ"
      
       "คุณแลนซ์ติดธุระเหรอครับ?" ดีแลนถาม
     
       "ไม่เชิงติดธุระ แต่เหมือนจะเผลอรับปากคนบางคนซะมากกว่า..." 

       "เอ๋?...." ทั้งสามมองตาปริบ ๆ 

       "ช่างมันเถอะนะ เอาเป็นว่าผมจะพาพวกคุณทัวร์ดูงานขุดเหมืองที่พวกเราทำก็แล้วกัน พวกคุณพร้อมมั้ย?"

       "พร้อมค่า!/ครับ!"

    -----------------------------------------------------

      บรรยากาศภายในเหมืองที่ทั้งมืด และ ลึก หากแต่โชคยังดีที่เหล่านักขุดเหมืองหลังจากที่ขุดบริเวณไหนได้สำเร็จก็จะนำตะเกียงจุดไฟไปวางไว้ตามจุดต่าง ๆ เพื่อให้มองเห็นบริเวณโดยรอบได้อย่างชัดเจนจะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุอย่างหกล้ม หรือ ไปหยุดยืนในจุดที่ไม่ควรเป็นต้น 

        เคิร์กนำทางกลุ่มของดีแลนลงเหมืองมาเรื่อย ๆ ระหว่างนั้นก็ได้พูดคุยกับเขาไปด้วย ได้ความมาคร่าว ๆ ว่า ที่จริงเขาล่องเรือมาจากเมืองอื่นมาที่หมู่บ้านนี้เมื่อ 6 ปีก่อน(โมจิแอบเสียดายที่เขาไม่ได้มาจากเมืองหลวง) ในตอนแรกเขาแค่ขายพวกอัญมณี และ ของหายาก  แต่ต่อมาของเริ่มหมดเขาเลยมองหางานอื่นทำระหว่างนั้นด้วยนั่นก็คืองานขุดเหมือง ระหว่างขุด ก็เจอทั้งแร่ ทั้งอัญมณี พอขายก็ได้เงินเยอะพอสมควร จึงตัดสินใจอยู่ยาวจนถึงปัจจุบันนี้  จากนั้นก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับหมู่บ้านนี้มาเรื่อย ๆ จนถึงชั้นล่างสุดของเหมืองแล้วก็เจอเหตุการณ์บางอย่าง....


       "ด...เดี๋ยวสิ! นี่ใจคอคิดจะระเบิดทั้งเหมืองเลยรึไง!?" 

      แลนซ์ โวยวายออกมาเมื่อเห็นว่ากลุ่มนักวิจัยกำลังติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างที่พวกเขาเรียกว่า'ระเบิดตั้งเวลา' ไว้บริเวณหินก้อนใหญ่ขนาดมหึมาที่ขวางทางระหว่างพวกเขา และ อีกฟากหนึ่งซึ่งเป็นพื้นที่ ๆ เหล่านักขุดเหมืองยังขุดไปไม่ถึง

       "พี่คะหนูกลัว...." โรสน้องสาวของแลนซ์เธอหลบด้านหลังพี่สาวของเธอแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ 
       "แบบนั้นถ้าเกิดว่าอีกฝั่งมีโบราณสถานขึ้นมามันจะเสียหายเอานะครับ!!" วินเซนต์นักโบราณคดีพูด สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความจริงจัง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนอยู่อย่างนั้น เพราะถ้าหากผลีผลามเข้าไปอาจเกิดอุบัติเหตุ และ อาจส่งผลไม่ดีต่อทั้งสองฝ่ายก็ได้

       "ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ...ระเบิดนี่น่ะถูกสร้างมาด้วยส่วนผสมที่ชั่งตวงมาแล้วเป็นอย่างดี รวมไปถึงการคำนวณรัศมีของแรงระเบิด ซึ่งผมรับประกันได้ว่าจะไม่มีผลอะไรกับอีกฝั่งของก้อนหินนี่แน่นอนครับ"  เรน รองหัวหน้าหน่วยวิจัย เขาได้รับหน้าที่ให้มาสำรวจเหมือง ในตอนแรกเขาก็คิดว่าเขาน่าจะมาเร็วพอที่จะมาระเบิดก้อนหินก้อนใหญ่นี่เข้าไปสำรวจ แล้วก็เดินออกมา ก่อนที่กลุ่มนักขุดเหมืองจะเข้ามาทำงานต่อ แต่กลายเป็นว่า ดันถูกนักขุดเหมืองเจอตัว แถมพ่วงมาด้วยนักโบราณคดีอีกต่างหาก เลยกลายเป็นเรื่องวุ่นวายอย่างที่เห็นจนได้

       
        "เฮ้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? อธิบายมาให้ฉันเข้าใจเดี๋ยวนี้เลย" เคิร์กที่ในที่สุดก็นำพวกดีแลนเดินลงมาชั้นล่างสุด แล้วมาเห็นเหตุการณ์นี้พอดี มองไปรอบ ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเร็นซึ่งยังคงทำการติดตั้งระเบิดต่อ

       "ได้ข่าวว่าจะมาระเบิดหินนี่งั้นเหรอ?...ขอบใจ แต่โทษทีนะ คุณคงยังไม่ให้ชื่อของคุณอยู่ในหนังสือรายชื่อ'บุคคลต้องห้ามไม่ให้เข้าเหมือง'หรอกใช่มั้ย?" 

       "หึ..." เรนที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะในคอ ละมือจากการติดตั้งระเบิด แล้วหันกลับมาตอบ "แน่นอนผมไม่อยากมีชื่ออยู่ในนั้นหรอก แต่ถึงคุณจะไล่ผมได้ ก็ยังมีนักวิจัยคนอื่น ๆ ที่เขาก็ยังสามารถมาทำหน้าที่นี้แทนผมได้นะ" 

      "ถ้างั้นก็เพิ่มว่า 'นักวิจัยทุกคน' ซะเลยก็คงไม่เป็นไรสินะ" แลนซ์พูดเสริม

     "..........."
     "..........."
     "..........."

      ทุกอย่างถูกกลืนหายเข้าไปกับความเงียบ ฝ่ายนักโบราณคดี(รวมถึงแลนซ์ และ เคิร์ก) กับ เรน ต่างมองหน้ากันราวกับกำลังทำสงความทางจิตวิทยา พวกดีแลนก็ได้แต่มองหน้ากันเลิ่กลั่ก(เคทแอบเสนอให้ค่อย ๆ ถอยออกมาแล้วออกจะเหมืองแต่โมจิยังคงยืนกรานว่าให้จับตาดูต่อไป)


    จนกระทั่ง...

    'ซ่า....นี่วอร์สไปซ์พูด....ขอสายรองหัวหน้าเรน....'

    เสียงจากเครื่องวิทยุสื่อสารที่ห้อยอยู่ตรงเอวของเรนดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วตอบกลับ

    "นี่เรนพูดครับ"

    'การสำรวจ...ซ่า....เป็นยังไงบ้าง?....'

    "พบปัญหาเล็กน้อยครับ..."

    'ซ่า....งั้นเหรอ?....ถ้างั้นตอนนี้ให้กลับมาก่อน...ซ่า...ทราบแล้วเปลี่ยน'

      สิ้นเสียงของผู้เป็นหัวหน้าหน่วยวิจัย เรนก็ห้อยเครื่องมือสื่อสารกลับไปที่เอวของเขา ก่อนจะไปสบตาเข้ากับกลุ่มนักโบราณคดีอีกครั้ง

       "วันนี้พวกคุณถือว่าโชคดีไป...แต่ผมขอเตือนด้วยความหวังดีว่าอย่าไปยุ่งกับระเบิดนี่จะเป็นการดีที่สุด..." พูดแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นในช่วงเสี้ยววินาทีที่เดินผ่านพวกดีแลนดวงตาสีดำภายใต้กรอบแว่นได้สะท้อนภาพของพวกเขาทั้งสามอย่างชัดเจน เขาขยับแว่นเล็กน้อยก่อนจะเดินหายออกไปจากบริเวณนั้น

       ".........."  

      "นี่...เป็นอะไรรึเปล่าฟินน์?" โมจิถามเมื่อเห็นท่าทางของภูติที่มองนักวิจัยคนนั้นอย่างไม่วางตา

      "ไม่รู้สิ...ทำไมถึงคิดว่าหมอนี่กำลังจ้องมองมาที่ฉันกันนะ?"

     "จะเป็นไปได้ยังไงกัน? นอกจากพวกเราก็ไม่น่าจะมีใครแล้วนะ" ดีแลนเอ่ย

     "ใช่ ๆ แถมยังเป็นคนที่ดูไม่น่าไว้ใจแบบนั้นด้วย ดูไม่ใช่คนที่มีจิตใจบริสุทธิ์พอที่จะมองเห็นภูติได้เลย" เคทเสริม

      "ฉันว่ามันไม่เกี่ยวกันนะเคท" โมจิ

      "ก็ไม่น่าไว้ใจจริง ๆ นี่นา! ระเบิดอะไรกะระยะได้ด้วย มันก็มีแต่สร้างความเสียหายในวงกว้างเท่านั้นแหละ!" เคท


    -----------------------------------------------------

       หลังจากที่ใช้เวลาเกือบทั้งวันช่วยกันตรวจสอบให้แน่ใจแล้วว่ายังไม่มีความเสียหายอะไรในเหมือง นักขุดเหมืองทั้งสองก็พาผู้เยี่ยมชมเหมืองทั้งหมดออกมาจากเหมือง 

       "อ้าว แล้วพี่ไม่กลับไปด้วยกันเหรอคะ?" โรสถามแลนซ์เมื่อเห็นว่าพี่สาวของเธอกำลังจากฝากให้วินเซนต์ไปส่งเธอที่บ้านก่อน 

       "โทษทีน้า พอดีวไปสัญญาเอาไว้ว่าจะเลี้ยงข้าวหมอนี่น่ะ เพราะงั้นเธอกลับไปก่อนนะ แล้วก็ฝากน้องสาวของฉันด้วยนะวินเซนต์" ขยิบตามห้อีกฝ่าย

       "อ...เอ่อ ครับ" วินเซนต์อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่งแต่สุดท้ายก็ตอบตกลง 

      "พี่เนี่ยล่ะก็....."

    -----------------------------------------------------

      พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า สามหน่อผู้ในตอนแรกมีเป้าหมายว่าจะมาตามหาเบาะแสของภูติที่หายไป ต่างเดินกันอย่างหมดเรี่ยวหมดแรงระหว่างนั้นก็เกิดบทสนทนาขึ้น

      "เฮ้อ....สุดท้ายวันนี้ก็ไม่ได้อะไรเลย" โมจิบ่นออกมาพลางถอนหายใจ
     
     "พูดอะไรแบบนั้น เธอก็ได้คุยกับคุณเคิร์กไม่ใช่เหรอ?" ดีแลนแย้งแต่โมจิกลับมองว่านั่นคือการแซว
     
      "เงียบไปเลยดีแลน!!" เธอโวย

      "อ๊ะ ๆ โมจิหน้าแดงซะแล้ว โกหกตัวเองไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกนะโมจิ"  เคทเห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเสริม

      
    "พอกันเลยสองนี้!!!"

    -----------------------------------------------------

     ณ ศูนย์วิจัยซึ่งเป็นเหมือนที่ประชุมของกลุ่มนักวิจัยของหมู่บ้านี้ไปด้วยในตัว
         
       "นี่คือข้อมูลที่ผมไปสำรวจมาในพื้นที่ที่ผมพอจะเข้าถึงได้... ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถเข้าไปสำรวจพื้นที่อีกฝั่งของหินก้อนนั้นได้" เรนรายงานสิ่งที่เขาไปสำรวจมาพร้อมกับกล่าวขอโทษกับหัวหน้าของเขา

       "ไม่เป็นไรหรอก เท่านี้ก็น่าจะเป็นข้อมูลที่มากเพียงพอแล้วล่ะ" วอร์สไปซ์ หัวหน้าหน่วยวิจัยเอ่ย

       "มากเพียงพอแล้ว?....แต่!" เรนกำลังจะค้าน

       "เชื่อว่าการปรากฏตัวของนายในวันนี้พวกนักขุดเหมืองจะต้องเร่งมือจัดการกับหินตรงนั้นออกแน่ เขาคงไม่อยากให้เธอระเบิดมัน แต่ก็ดี...ถือว่าเป็นเหมือนการใส่สารเร่งโตเข้าไปในต้นไม้ล่ะนะ" เธอพูดแทรกขึ้นมาและนั่นก็ทำให้เรนเริ่มรู้ถึงแผนจริง 

       "หรือว่า...ที่ส่งผมเข้าไปติดตั้งระเบิดในวันนี้จะเป็นแผน?..."

       "ใช่ แต่ไม่ต้องกังวลไป หน้าที่เธอยังไม่หมดแค่นี้หรอกนะ" 

       ".........."

    -----------------------------------------------------

    โปรดติดตามตอนต่อไป

















       


       













    H
    a
    s
    h
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×