ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 07:: ฤดูร้อน วันที่ 8
(จดหมายประจำวันนี้)
ถึง ดีแลน ลูกรัก
พ่อต้องขอโทษที่ไปร่วมงานเทศกาลเมื่อวานนี้ไม่ได้ รวมถึงวันนี้ด้วยทั้ง ๆอีกทั้งมันเป็นวันเกิดลูก พ่อต้องขอโทษ พ่อต้องขอโทษทั้งแม่แล้วก็ลูก จริง ๆ พ่อเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องใช่มั้ยล่ะ? พ่อไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้าลูกจะโกรธพ่อ
ตอนนี้ที่เกาะนกเงือกพวกพ่อหาปลามาได้มากพอควรแล้ว อีกไม่นานพ่อสัญญาเลยว่าจะรีบกลับไป และอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า
ป.ล.
ของขวัญที่ส่งไปพร้อมกับจดหมายฉบับนี้หวังว่าลูกจะได้รับ และ ชอบมันนะ
จาก
พ่อ
--------------------------------------------------------------------------------
ถึง เธอ ผู้ต้องการความช่วยเหลือ
ฉันเอาของไปวางตามจุดที่เธอต้องการแล้วนะ แล้วก็เป็นไปตามคาดหนึ่งในสามคนนั้นเจอเจ้าระฆังนี่จริง ๆ ด้วย ไม่รู้ว่าเพราะนั่นเป็นแค่เรื่องบังเอิญ หรือ เป็นการดลบันดาลของ 'ราชินีภูต' ที่เธอเคยพูดถึงก็ตาม ขนาดตัวฉันที่เชื่อในนิทานเรื่องนี้ยังต้องคิดว่านี่มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเลย
ป.ล.
ถ้ามีการเคลื่อนไหวอะไรเพิ่มเติมจะติดต่อมาทีหลัง อย่าลืมจัดการจดหมายนี่ด้วยล่ะ
จาก
ซินดร้า นักโบราณคดี
--------------------------------------------------------------------------------
ถึง โอรอน เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์
ฉันเบื่อที่จะต้องเดินลากสังขารตัวเอง ออกมาจากบ้านของฉันเอง เพื่อมาทวงเงินของฉันเองที่แกยืมไปเมื่อสี่เดือนก่อน ดีแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่คิดดอกเบี้ยเพิ่มเติมจากการยืมเงิน นี่เห็นแก่คนชราสองคนนั้นหรอกนะ ไม่งั้นคงไม่ได้รับสิทธิพิเศษอะไรแบบนี้หรอก
ฉันจะให้เวลาแกหาเงินมาใช้หนี้ฉันให้ได้ก่อนจะถึงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ แต่ถ้าแกไม่จ่ายก็ไม่รู้สินะว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสัตว์น้อยใหญ่ในฟาร์มของแก
ป.ล.
จ่ายสด งดซื้อ เบื่อทวง เข้าใจตรงกันนะ
จาก
เอเทล
--------------------------------------------------------------------------------
ปุ้ง! ปุ้ง! ปุ้ง!
"สุขสันต์วันเกิด!!" ริบบิ้นหลายสีปลิวว่อนไปทั่วห้องตามแรงลมอัดจากที่ยิงริบบิ้นสำหรับงานปาร์ตี้ ตามมาด้วยเสียงคำอวยพรสุขสันต์วันเกิดจากคนที่มางานเลี้ยงฉลองวันเกิดให้กับหนุ่มน้อยชาวประมง
"ขอบคุณนะทุกคน!!" ดีแลนฉีกยิ้มกว้างโชว์ฟันขาว วันนี้อาจนับได้ว่าเป็นวันที่เขารู้สึกมีความสุขที่สุด ไม่ว่าจะเป็นวันที่เขาได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ไปอีกปี ได้รับของขวัญจากเพื่อนบ้าน เพื่อนฝูง และจากคนที่ทำงาน ได้ทานเค้กฝีมือของยูอิจิที่เจ้าตัวนึกพิสดารเอาข้าวปั้นซูชิมาปั้นเป็นเค้กปอนด์ขนาด 5 ปอนด์แล้วนำเนื้อปลาเซลม่อนจากเเซลม่อนขนาดยักษ์ซึ่งพ่อของเขาส่งมาให้ของขวัญวันเกิดมามาแล่เป็นแผ่นบาง ๆ แล้ววางตกแต่งเค้กข้าวนั้นจนสีขาวของข้าวทั้งหมดถูกปิดทับด้วยสีส้มของเนื้อปลาแซลม่อน แต่เนื้อที่แล่ไว้ยังเหลืออีก อารอนจึงนำเนื้อพวกนั้นมาพับเป็นดอกกุหลาบประดับบนเค้กซูชิแซลม่อนนั้น
"เป็นเค้กที่ประหลาดที่สุดที่ฉันเคยเจอมาเลย..." เคิร์กพึมพำ
"ชิมก่อนแล้วค่อยพูดน่า!" แลนซ์ว่าแล้วตัดเค้กซูชิแซลม่อนอย่างคล่องแคล่วแบ่งใส่จานแล้วยื่นอัดแบบยัดเยียดให้กิน
"เฮ้อ...พอมาถึงตรงนี้ก็คงปฏิเสธไม่ได้สินะ" เขาถอนหายใจแล้วจึงตักเป็นคำเล็ก ๆ เข้าปากก่อนจะหลุดคำ ๆ นั้นออกมา "อร่อย..........."
"เดี๋ยวเถอะ! พวกเรายังไม่ได้ปักเทียนแล้วให้พี่ดีแลนเป่าเลยนะ!!" นีออนดุนักขุดเหมืองทั้งสอง แต่ท่าทีแบบนั้นไม่รู้ทำไมไม่ว่าท่าทางไหนเด็กก็คือเด็กในสายตาของแลนซ์เขากลับดูน่าเอ็นดูไปอีกแบบ
"อ๋า---ถูกดุซะแล้ว" แลนซ์ทำท่าเคาะหัวตัวเองเบา ๆ แล้วแลบลิ้น
"สติครับแลนซ์สติ" - เคิร์ก
"อะไรกันเล่า!!" - แลนซ์
"อ่า ฮะ ฮะ ฮะ พวกนักขุดเหมืองเนี่ยดูครึกครื้นสนิทสนมกันดีนะครับ" ยูอิจิเอ่ยเมื่อเห็นว่าทั้งสองจะเริ่มเปิดศึกโต้วาทีกันแบบไม่มีสาเหตุ(รึว่าเหตุไม่เป็นเหตุกันนะ?)แต่แบบนั้นมันก็ดูเป็นการแสดงความสนิทสนมไปอีกแบบในสายตาเขาล่ะนะ
"เอายังไงต่อล่ะดีแลน?เค้กถูกตัดไปแล้วนะ...จะให้ฉันไปปักเทียนให้มั้ย?" อารอนถาม
"อ๋อ ไม่ต้องหรอกครับคุณอารอน แค่ได้เห็นทุกคนอยู่กันพร้อมหน้ากันก็มีความสุขแล้วครับ การปักเทียนขอพรพวกนั้นก็ไม่จำเป็นหรอกครับ" เขาหันมาตอบพ่อครัวอดีตนักชิมจากเมืองหลวงแล้วยิ้มให้
"งั้นเหรอ?..." รอยยิ้มปรากฏบนหน้าของอารอนอย่างรู้สึกสนใจ "หึ ๆ ๆ ฉันชอบความคิดของเธอนะ การที่ได้มาอยู่พร้อมหน้ากันสินะ...." พอทวนคำพูดนี้แล้วก็หวนนึกถึงช่วงเวลาหนึ่งซึ่งมีเขา นีออน และ ผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดได้อยู่พร้อมหน้ากันในวันเกิดอายุครบ 4 ขวบของนีออน เป็นช่วงเวลาที่อบอุ่น และ มีความสุขที่สุดในชีวิตของเขาเลย
"คุณอารอนครับ คุณอารอน" เหมือนเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปดีแลนจึงส่งเสียงเรียกเขา
"อ๊ะ "
"มีอะไรรึเปล่าครับ? เห็นคุณเงียบไป" ดีแลนถามด้วยความเป็นห่วง
"ฮะ ๆ ไม่มีอะไรหรอก... แค่บังเอิญคิดถึงเรื่องเก่า ๆ ขึ้นมาซะได้" เขาหัวเราะกลบเกลื่อน
"เรื่องเก่า ๆ เหรอครับ?"
"ไม่มีอะไรหรอก เธอไปสนุกกับงานปาร์ตี้เถอะ เดี๋ยวฉันจะไปช่วยยูอิจิทำของหวานในห้องครัวมาเพิ่ม"
"อ่า ครับ"
อารอนแสดงให้ดีแลนเห็นว่าเขาไม่เป็นไร หลังจากนั้นก็เดินตรงดิ่งไปทางห้องครัว ก่อนจะเข้าไปเขาแอบเหลียวมองนีออนที่ดูเหมือนจะสนุกสนานกับงานเลี้ยงวันเกิดนี้อยู่(แม้จะไม่ใช่เจ้าของวันเกิดก็ตาม)
'นั่นสินะ...'
'ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว....ผมยังมีนีออน...'
'และผมก็ยังมีคุณอยู่ในใจของผมเสมอ...'
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ก็อก ก็อก ก็อก
ในขณะที่งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปก็มีเสียงเคาะอยู่ตรงหน้าประตู
"เดี๋ยวผมไปเปิดให้ฮะแม่!" เขาเอ่ยแล้วหลบเลี่ยงแขกที่มาอย่างแคล่วคล่องจนมาถึงหน้าประตู
แอ๊ดดด----(คาราบาว/โดนถีบ)(ดีแลน:ไรต์ไม่ควรเล่นแบบนี้นะครับ=^=....)
"สวัสดีจ้ะ ดีแลน" เจ้าของประโยคทักทายพร้อมด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจที่ต่อให้ไม่ได้พกของขวัญอะไรมาก็ทำให้หนุ่มน้อยชาวประมงรู้สึกได้ว่าได้รับของขวัญที่มีค่ามาก ๆ มาแล้ว "ไม่สายเกินไปสำหรับงานปาร์ตี้วันเกิดของนายใช่มั้ย?"
"อื้อ สวัสดีนะซีเปีย!" เขาสะกดอาการตื่นเต้นฉีกยิ้มออกมาตามปกติแล้วพูดต่อ "ไม่เลย ๆ เข้ามาสิทุกคนกำลังสนุกเลย"
หลังจากนั้นดีแลนก็นำซีเปียเดินเข้าไปจนถึงห้องที่จัดงาน ยูอิจิทำการตัดเค้กซูชิแซลม่อนแล้วยื่นให้ซีเปีย เธอก็รับมาโดยไม่มีท่าทีอะไรนอกจากยิ้มแล้วกล่าวขอบคุณ
เวลาผ่านไปซักพักแขกที่มาร่วมงานต่างก็เริ่มทยอยกลับแยกย้ายกันไปทำงานของตน มีบางส่วนช่วยดีแลน กับ แม่ของเขาเก็บกวาดสถานที่ให้เรียบร้อย
"ฮ่า----! วันนี้สนุกสุด ๆ ไปเลย!!" เคทพูดระหว่างที่กำลังช่วยแม่ดีแลนล้างจาน
"ช่าย! ทั้งสนุก และ ทั้งอิ่มท้องไปในตัวเป็นอะไรที่คุ้มสุด ๆ !!" ไครีย์ที่ช่วยเช็ดจานที่ล้างน้ำให้แห้งพูดเสริม
"ฮะ ๆ ได้ยินแบบนี้ป้าก็ดีใจ เชื่อว่าดีแลนลูกของป้าเองก็ดีใจเหมือนกันที่พวกหนูมาร่วมงานฉลองวันเกิดเขาด้วย" - แม่ของดีแลน
"จัดการเก็บขยะที่ห้องรับแขกเรียบร้อยแล้วครับแม่" ดีแลนเดินเข้ามารายงานตัวว่าภารกิจหน้าที่ของเขาเสร็จสิ้นแล้ว
"ดีมากจ้ะ ทางด้านจานเองก็ล้างเสร็จแล้วเหมือนกันต้องขอบคุณหนูเคท กับ หนูไครีย์ที่มาช่วยป้าล้างจานนะจ๊ะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ ยินดีช่วยเหลือกันเสมอค่ะ" ไครีย์ตอบ
"แหม ๆ เป็นเด็กดีจังเลยนะจ๊ะ"
"ไครีย์ไม่เด็กแล้วนะ!!"
และแล้วช่วงเวลานั้นก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอีกครั้ง จนเข้าสู่ช่วงบ่ายของวัน ดีแลนออกไปส่งเคท กับ ไครีย์ถึงหน้าประตูบ้านแทนแม่ของเขาที่บอกว่ารู้สึกเหนื่อยต้องการพักผ่อน
"จะว่าไปตั้งแต่เช้าจนถึงงานเลิกฉันยังไม่เห็นโมจิเลยนะ" อยู่ ๆ เคทก็ทักขึ้นมา
"อ้าว นี่เธอก็สังเกตเหมือนกันเหรอ?" เหมือนจะไม่ใช่แค่เคทเท่านั้นที่ไม่เห็นโมจิในงาน
"สงสัยคงจะนอนปวดขาจากการวิ่งไล่จับหนูเมื่อวานนี้ล่ะมั้ง?" ไครีย์ออกความเห็น
"ถ้าเป็นแบบนั้นจริง...เตรียมงดดื่มนมคืนนี้ได้เลยไครีย์" เคทเตรียมบทลงโทษให้กับน้องสาวของตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ไม่เอานะพี่เคท!! หนูยังต้องการแคลเซียมไปเสริมส่วนสูงของหนูนะ!!" ผู้เป็นน้องสาวโวยวาย เธอพยายามอย่างมากในการที่จะเติบโตให้ดูเหมือนผู้ใหญ่ และ เหมือนกับพี่สาว และก้าวแรกของการเป็นผู้ใหญ่ของเธอนั่นก็คือการเพิ่มส่วนสูงของตนเองให้ได้ซะก่อน แต่การที่พี่สาวของเธอสั่งงดดื่มนมนั่นเท่ากับการไม่ให้ปุ๋ยเพื่อทำให้เมล็ดส่วนสูงน้อย ๆ ของเธอเจริญเติบโต หรือ ทำให้โตช้าไปหน่อยหนึ่งของที่มันควรจะเป็น
ในขณะที่ไครีย์กำลังอ้อนวอนขอให้เคทคืนนมดื่มในส่วนของคืนนี้โดยมีดีแลน(ผู้ถูกบังคับ)ช่วยไกล่เกลี่ยให้เคทใจอ่อนอยู่นั้น....
"ประธานโทษนะ...แต่เหมือนมีคนต้องการให้ฉันมาอยูาตรงนี้สินะ?"
"พี่โมจิขาาาาา พี่โมจิก็มาแล้วหนูจะได้มีนมดื่มในคืนนี้" ดวงตาของไครีย์กลับมาเป็นประกายความหวังอีกครั้ง ไม่รั้งรอช้ารีบวิ่งเข้าไปหาเจ้าของประโยคก่อนหน้าอย่างดีอกดีใจ ในขณะที่ภูติน้อยฟินน์ซึ่งบินวนไปวนมายังถามแบบกระซิบว่า 'อะไรของเด็กคนนี้?' (แต่ยังไงก็ตามไครีย์ก็ยังมองไม่เห็นอยู่ดี)
"เธอติดหนี้ฉันแล้วนะยัยหนู" โมจิหรี่ตาก้มมองเด็กสาวที่ตัวเล็กกว่าแล้วยกยิ้มให้
"โมจิ!ดีใจที่เธอมานะ! แต่ปาร์ตี้วันเกิดดีแลนฉลองกันไปแล้ว... อ๊ะ! แต่ไม่ต้องห่วงนะ! ดีแลนน่ะเขาเก็บเค้กส่วนของเธอไว้ด้วยนะ!!" เคทเข้าใจว่าสาวชาวไร่ผู้นี้คงติดธุระไม่สามารถมาร่วมฉลองงานวันเกิดของดีแลนได้ทัน อีกทั้งห่อผ้าที่อีกฝ่ายถือมาด้วยดูเหมือนว่านั่นคงจะเป็นของขวัยที่อีกฝ่ายจะนำมาให้ดีแลนเป็นของขวัญจึงพยายามพูดไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกเสียใจ แต่ผลที่ได้ก็คือ....
"อ้าว?...นี่วันเกิดนายเหรอดีแลน? อ่า.... สุขสันต์วันเกิดนะ"
แป่ว!!!
'การตอบรับนี่มันอะไรกัน!!' เคทกรีดร้องอยู่ในใจ
"อ...อ้าว เอ๋?" ดีแลนเองก็รู้สึกงุนงงไม่แพ้กัน จะว่าไปเขาก็ไม่เคยบอกเรื่องวันเกิดให้โมจินี่นะ... แล้วก็นึกอีกว่าเคทจะบอกไปแล้วซะอีก...
"แล้วที่ถืออยู่นั่นไม่ใช่ของขวัญที่จะให้พี่ดีแลนเหรอคะ?" ไครีย์ชี้ไปที่ห่อผ้าที่อีกฝ่ายกำลังถืออยู่
"อ๋อ...นี่น่ะเหรอ?" มองไปยังของที่ตนถืออยู่แล้วพูดต่อ "ไม่ใช่หรอกนะแต่ว่าจะเอามาให้ดีแลน กับ พี่ของเธอนั่นแหละ"
"ให้พี่ดีแลนก็ไม่ต่างอะไรจากของขวัญหรอกน่า.....เอ๋!! เดี๋ยวสิ!! ให้พี่ดีแลน ให้พี่เคท แล้วทำไมถึงไม่ให้หนูด้วยล่ะ!!" รีบโพล่งทันทีที่เธอพูดเพื่อทวงความเป็นธรรมจากการได้รับของ
"ของที่ให้ฉนกับเคทเหรอ? หรือว่า!" ดีแลนเหมือนจะเริ่มนึกออก
พรึ่บ!!
โมจิเอาผ้าที่ห่อออกปรากฏให้เห็นวัตถุที่อยู่ด้สนในซึ่งก็คือระฆังที่เธอเจอเมื่อวานนี้นั่นเอง ทั้งขนาด รูปร่างลักษณะ ไปจนถึงวัสดุที่ใช้ทำแลดูละม้ายคล้ายคลึงกับระฆังสีแดงของภูตอลันไม่มีผิด หากแต่ระฆังนี้กลับดูผุพัง และ มีสีที่ดูคล้ำเศร้าหมองจนระบุสีที่แน่ชัดไม่ได้
"อะไรกัน? ก็แค่ระฆังเก่า ๆ ผุ ๆ พัง ๆ นี่นา?" ไครีย์ยู่ปากมองพิจารณาระฆังที่อยู่บนมือของโมจิ
"ปากดี! ระฆังนี่น่ะไม่ใช่ระฆังธรรมดา ๆ นะยัยหนู! ฉันที่เป็นภูติน่ะสัมผัสได้ถึงพลังของภูติที่ไหลเวียนอยู่ในรัฆังนี่เชียวนะ!! นี่จะต้องเป็นหนึ่งในระฆังที่พวกเรากำลังตามหาอยู่แน่ ๆ !!" และอีกสารพัดคำบ่นที่ออกจากปากฟินน์ยังคงดำเนินต่อไปโดยที่ไครีย์ไม่มีทางได้ยิน โมจิแสร้งมองเด้กสาวนิ่ง ๆ ในขณะที่ เคท และ ดีแลน ซึ่งยืนอยู่ด้านหลังของไครีย์อีกทีเพิ่งจะได้รับข้อมูลใหม่มาแอบมองหน้ามองตากันอย่างเลิ่กลั่ก ไม่รู้ว่าควรจะตกใจกับระฆังก่อน หรือ ควรจะตีสีหน้านิ่งตามโมจิไปดี?
บรรยากาศอบอวลไปด้วยความเงียบอีกครั้ง(ที่จริงก็ไม่เงียบหรอกเพราะฟินน์ก็ยังบ่นไครีย์ไม่หยุดหากแต่ไม่มีใครได้ยิน หรือ ทำเป็นไม่ได้ยินนั่นเอง)
"อ่า.. ฮะ ๆ ๆ อยู่ ๆ เคทก็หัวเราะออกมา ทำเอาฟินน์ถึงกับหยุดการบ่น ทุกสายตาในกลุ่มสนทนานี้จับจ้องไปที่เคท "นั่นสินะไครีย์ ก็แค่ระฆังเก่า ๆ ผุ ๆ พัง ๆ ก็เท่านั้นเอง"
"ใช่มั้ยล่ะ ๆ ?" ไครีย์พูดเสริมเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดนั้นถูก
"อื้อ ๆ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอกลับไปดูแลร้านก่อนนะ" ว่าแล้วก็ใช้มือทั้งองข้าวแปะไหล่น้องสาวตนดันให้เดินไปในทิศทางกลับบ้านของพวกตน แต่ก่อนไปก็ส่งซิกสัญญาณให้คนที่เหลือเป็นเชิงให้รู้ว่า 'ฝากจัดการที่เหลือด้วย'
"บ๊าย บาย มนุษย์สะสมของเก่า" น้องสาวเจ้าของร้านขายเมล็ดก็ไม่ลืมที่จะบอกลาตามแบบของเธอ
-------------------------------------------------------------------------------------------------
"แล้ว...จะเอายังไงต่อล่ะ?" ดีแลนถาม
"ต้องตามหาจุดที่อาบแสงดวงจันทร์ให้ได้มากที่สุดสามจุด" โมจิสามารถตอบได้ทันทีทำให้ดีแลนมองเธออย่างสงสัยเธอจึต้องพูดต่อ "ภูติที่อยู่ในระฆังสีเหลืองนี่บอกน่ะ...อ้อ แล้วเขาชื่อ คอลลิน " เห็นว่าฟินน์กำลังจะอ้าปากย้ำเรื่องชื่อเธอเลยชิงพูดซะก่อน
"คอลลินบอกว่าระฆังถูกเอาออกจากที่แขวนเข้ามาในป่าทึบซึ่งไม่ค่อยโดนแสงของพระจันทร์ในตอนกลางคืน ทำให้ตัวเขาอ่อนแอมากเพราะไม่ได้รับแสงจากพระจันทร์มาเป็นเวลานาน..." โมจิอธิบาย "แต่อย่าถามฉันนะว่าทำไมอยู่ ๆ ระฆังถึงได้ออกมาจากที่ของมันได้ เพราะฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน" และเธอก็ชิงพุดตัดบทของดีแลนอีกครั้ง
"อ้าว งั้นก็แสดงว่าเธอรู้วิธีที่จะช่วนระฆังนี่แล้วนี่?" - ดีแลน
"ฉันแค่รู้ ไม่ได้แปลว่าจะแก้ปัญหาได้หรอกนะเลยต้องมาหานายกับโมจินี่ไง ฉันที่เพิ่งย้ายมาเมื่อเดือนที่แล้วไม่รู้หรอกนะว่าส่วนไหนของหมู่บ้านเป็นจุดที่รับแสงจันทร์ได้ดีบ้าง? ก็เลยคิดว่าน่าจะให้คนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ช่วยในส่วนนี้จะดีกว่า" โมจิอธิบายจนกระจ่างพร้อมส่งระฆังนี่ให้ดีแลน "เพราะงั้นฝากด้วยก็แล้วกัน"
"เฮ้ ๆ เล่นใช้กันแบบนี้เลยเหรอ? แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าต่อให้ฉันเป็นคนถิ่นนี้ฉันก็รู้ไม่ค่อยละเอียดขนาดนั้นหรอก" ฝ่ายที่รับระฆังมาถึงกับยิ้มแหย แต่จะให้เขาช่วยก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะแต่แบบนี้มันก็ดูกระทันหันไปนะ
"ถ้างั้น...." โมจิลากเสียงอย่างใช้ความคิด "ต่างคนต่างแยกย้ายไปหาข้อมูลถ้ารู้อะไร หรือ ไม่เจออะไรเลยก็ตามก็มาเจอกันที่หน้าบ้านฉันหลังพระอาทิตย์ตกดินจะได้ลุยเอาระฆังรับแสงไปเรื่อย ๆ เลย....นายก็รู้ใช่มั้ยว่าบ้านของฉันอยู่ไหน? เดี๋ยวฉันจะเอาเรื่องนี้ไปบอกเคทด้วยส่วนระฆังขอฝากไว้ที่นายก่อนหวังว่านายจะไม่ทำหล่นหายที่ไหนนะ"
"ฉันไม่ทำหายหรอกน่า แล้วก็ตามที่เธอว่าก็แล้วกัน"
"ดี แยกย้ายกันได้"
และแล้วทั้งสองก็แยกย้ายกันไป.....
-------------------------------------------------------------------------------------------------
โปรดติดตามตอน(พิเศษ)ต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น