คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Episode 2 - Olymtun
เกิดแสงสว่างเรืองรองทาบบนพื้นหินอ่อนก่อนที่ร่างของริคปรากฎลงบนนั้น รอบๆนี้มากไปด้วยผู้เล่นมากมาย ประกอบด้วยคนแก่ ผู้ใหญ่ ไปจนถึงเด็ก ทุกคนนี้เดินขวักไขว่กันไปพร้อมเสียงพูดคุยมากมาย บ้างก็ตะโกนโหวกเหวกขายของ บ้างก็คุยกันอย่างสนุกสนานจนไม่เกรงใจผู้เล่นบางคนที่ไม่คิดจะได้ยิน
เมืองหลวงที่แสนจะเจริญแห่งนี้ชื่อว่า “โอลิมตัน” ตลอดสองข้างทางที่ไม่นับซอยย่อยเล็กน้อยจะประกอบไปด้วยร้านรวงต่างๆ ตึกทรงกรีกขนาดย่อมๆที่ถูกสร้างขึ้นมาจากเสาแบบกรีกที่ดูคุ้นตา และไม่นึกว่าจะได้เห็นมันตราบเท่าที่เขายังมีชีวิต แต่แม้นี่จะถูกย้อนกลับมาในยุคโบราณในเมืองแห่งนี้ก็ยังมีให้เห็นถึงตึกร่วมสมัย แบบสองชั้น หรือแม้กระทั่งที่ทำการของร้านต่างๆที่ถูกตกแต่งแบบหรูหรา
มันงดงามและดูเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ราวกับนี่เป็นมากกว่าเกมส์ออนไลน์เหลือเกิน
ริคต้องตกใจกับสิ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง มันคือวิหารขนาดยักษ์ที่ใหญ่พอจะให้ยักษ์ไททันสองสามตัวเข้าไปนอนเล่นกันในนั้นได้สบาย แล้วที่นี่ก็ยังเป็นนครที่ลอยฟ้าอยู่ ใช่ มันลอยอยู่บนมหาสมุทรสีคราม ที่บัดนี้เป็นเวลาเช้าตรู่ที่อากาศดี ทุกที่น่าไปเยือนเสียหมดจนเขาเองไม่รู้ว่าจะไปที่ใดก่อนดี
ริคมัวแต่ตกตะลึงอยู่กับ โอลิมตัน จนลืมสนใจตัวเองไปเสียสนิท เขาสังเกตว่าเขาเข้ามาในเกมส์โดยที่ตัวเองเปลี่ยนโฉมไปนิดหน่อย เขากลายเป็นเด็กวัยรุ่นหน้าตาหล่อเหลาขึ้นมานิดๆ กับผมกระเซิงสีฟ้าสว่างดูเด่น เสื้อผ้าของเขาเป็นชุดสีขาวเรียบๆ ซึ่งมันคงเป็นชุดเริ่มต้นที่ไม่มีอะไรพิเศษมากนัก ในตัวของเขายังคงไร้อาวุธ และไม่รู้ว่าควรจะไปที่ใดต่อดี
“ตุ๊ง!” มีหน้าต่างข้อความเด้งมาตรงซ้ายมือของริค มันตั้งชื่อกระทู้ว่า “คู่มือสำหรับฮีโร่คนใหม่”
คู่มือสำหรับฮีโร่คนใหม่!
สวัสดีครับ! กระผมซองจดหมายแสนสุภาพแผ่นนึง ที่จะนำทางทุกคนเข้าไปสู่โลกที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ที่นี่แห่งนี้ โอลิมปัสนครแห่งเทพที่เต็มไปด้วยการผจญภัย เอาล่ะคับ พล่ามมากไปเดี๋ยวจำรำคาญเอา เอาเป็นว่าที่นี่คือเมืองโอลิมตัน เมืองของชาวมนุษย์ผู้มีเลเวลตั้งแต่ 1-20 ซึ่งระหว่างนี้คุณจะยังต้องค้นหาตัวเองไปในโลกที่กว้างใหญ่ จงทำตามวิธีต่อไปนี้ครับ
1.ตั้งชื่อตัวละครของคุณขึ้นมาโดยพิมพ์ลงในช่องต่อไปนี้
เกิดช่องกรอกข้อความขึ้นตรงหน้าริค ริคเอื้อมมือไปสัมผัสแล้วเริ่มลากมือเป็นตัวอักษรบนอากาศว่า RIKLAGUS
เป็นอันเสร็จสิ้น ตัวอักษรสีทองฉายเด่นอยู่บนหัวขอริคแล้วข้อความต่อมาก็ฉายให้อ่านอีก
2.เดินไปคุยกับ NPC มาดีส ที่เต้นท์โนวิซนะขอรับ และกระผมต้องขอตัวลาไปก่อน ไว้จะกลับมาอีกยามที่ถึงเวลา ลาก่อน
แล้วซองจดหมายก็จากริคไป เขาไม่รู้ว่า มาดีส คือใคร หน้าตาเป็นอย่างไร หรือว่าอยู่ที่ไหน เขารู้เพียงแค่สมองยังมึนๆ และเริ่มรู้สึกเมาผู้คน
ริคมองซ้ายมองขวาก่อนที่สายตาจะไปสบกับวิหารขนาดเล็กที่ผู้คนที่มีเลเวลหนึ่งเหมือนเค้าเริ่มหลั่งไหลกันเข้าไป บางทีที่นั่นอาจจะเป็นที่ที่เขาสมควรไป
ภายในวิหารทรงกรีกดูโอ่อ่าและเย็นสบายเพราะทำมาจากหินอ่อน เสียงฝีเท้าของแทนดังก้องเบาๆ เมื่อเขาเดินลากเท้าเข้าไปในคนประมาณสิบคนที่ยืนล้อมร่างของใครบางคนอยู่อย่างมีระเบียบ ริคพยายามเบียดตัวเข้าไปในวงด้วย แต่ก็โดนผู้เล่นคนอื่นตีสีหน้าเป็นอีโมติค่อนใส่ว่า - -“
แค่นั้นริคก็รู้สึกแล้วว่าตัวเองกำลังโดนไอเลเวลหนึ่งบางคนมันข่มอยู่ เขาจึงยืนชะเง้ออยู่ห่างๆ มองคนที่ถูกล้อมซึ่งน่าจะเป็น “มาดีส” เพราะบนหัวของเขามีชื่อนั้นเขียนเด่นเอาไว้
บางทีจะเรียกเค้าคนนี้ว่าคนก็ไม่เต็มปากเท่าไร เพราะร่างกายของเขาก็ดูเหมือนจะห่างไกลคำว่าคนพอสมควร เพราะเขาเป็นชายวัยหนุ่มที่มีเคราะแพะตรงคาง กับแววตาดูใจดี ผมสีน้ำตาลยาวประบ่าและกระเซิงไม่เป็นทรง ทั้งยังมีเขาแพะงอกออกมาโค้งงออย่างสวยงาม ท่อนล่างของเขาเป็นขาของสัตว์ที่มีกีบ เขาดูแปลกแต่ก็ใจดี ไม่มีแววน่ากลัวสักนิด นี่อาจจะเป็น NPC ที่เหมาะกับผู้เล่นใหม่โง่ๆโดยแท้
“เอาล่ะพวกเธอ คงจะมีกันแค่นี้ไม่มีใครมาอีกแล้วใช่มั้ย พวกเธอก็คงเป็นผู้เล่นที่มาที่นี่เป็นครั้งแรก ยินดีต้อนรับนะ พวกเธอที่เข้ามาที่นี่เป็นครั้งแรกคงไม่รู้ว่าควรต้องทำอย่างไรบ้าง ฉันนั้นจะสอนพวกเธอเอง
“ก่อนอื่น พวกเธอต้องเลือกว่าตัวเองจะทำอะไร เป็นอาชีพอะไร ซึ่งแน่นอนแต่ละอาชีพมีความสามารถที่แตกต่างกันไป ซึ่งอาชีพหลักๆบนโลกนี้แบ่งใหญ่ได้สามอาชีพ
“หนึ่งคือนักรบหรือ Warrior กลุ่มคนผู้มีความสามารถทางการรบสูงมาก ร่างกายแข็งแรงที่ถูกฝึกฝนมาอย่างหนักจะส่งผลให้เขาเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์ ซึ่งในกลุ่มนักรบก็มีอาชีพที่แตกต่างกันไป เช่น กลาดิเอเตอร์ นักดาบ นักธนู ผู้ใช้ปืน เป็นต้น หากใครสนใจจะเป็นตัวทำดราเมจของทีมหรือเป็นหัวหน้าทีมที่มีความสามารถก็เลือกอาชีพนี้เลย”
“อาชีพต่อไปคือ นักปราชญ์ หรือ Philosopher กลุ่มคนผู้เปี่ยมไปด้วยความรู้ แม้จะไม่มีความสามารถทางด้านร่างกายที่สูงส่งเหมือนนักรบ แต่ด้วยมันสมองและความสามารถที่ลับคมมาเป็นอย่างดี ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ เป็นได้ทั้งฝ่ายโจมตีและสนับสนุน อาชีพที่แยกย่อยมาจากอาชีพสายนี้ก็อย่างเช่น นักบวช คนธรรพ์ พ่อมด เป็นต้น หากใครสนใจจะทำหน้าที่เป็นตัวสนับสนุนและเป็นฝ่ายตั้งรับก็สามารถเลือกอาชีพสายนี้กันได้เหมือนกัน”
“และอาชีพสายสุดท้าย ฟีนีเชีย หรือ pheonicia พูดอย่างนี้เธอๆคงจะไม่เข้าใจกันล่ะสิใช่มั้ย แต่ถ้าพูดถึงพ่อค้าแม้ค้าพวกเธอต้องร้องอ๋อแน่ๆ ฟินิเชีย เป็นกลุ่มคนพิเศษที่มีความสามารถในการประกอบอาชีพสูงที่สุด พวกเขาสามารถใช้ความสามารถของตัวเองไม่ใช้แค่เก็บเลเวล แต่ยังสามารถสร้างรายได้ได้อีกด้วย อย่าเพิ่งเข้าใจว่าเฟล่าฟินิเชียนี้ไม่สามารถโจมตีใครได้เลย พวกเขาสามารถสร้างความเสียหายได้เทียบเท่าอาชีพทั้งสองที่กล่าวเข้ามา แต่จะไม่ดีเลิศเท่านักรบ อาชีพต่างๆที่แตกออกมาจากอาชีพนี้ได้แค่ คนสวน ช่างตีเหล็ก หมอ แม่ค้า นักล่าสัตว์ หากใครสนใจจะสร้างรายได้และมีความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ ก็ขอเชิญให้เลือกอาชีพนี้เพื่อความมั่งคั่งในอนาคต”
เกิดเสียงฮือฮาขึ้นในหมู่ผู้เล่นด้วยกัน แต่ละคนกระซิบกระทราบกันอย่างสนุกปาก บ้างก็หัวเราะคิกคัก บ้างก็พูดคุยด้วยกันอย่างเปี่ยมด้วยความเชื่อมั่น สำหรับริคแล้วมันน่าสนุกและท้าทายที่จะต้องเลือกอาชีพที่ดูๆไปแล้วก็น่าสนใจอยู่ทุกอาชีพ ซึ่งถ้าจะให้ตัดออกไปเป็นตัวเลือกแรกเขาก็คงตัดนักรบออกไปจากตัวเลือก ขมวดความคิดอยู่พักหนึ่งเขาก็รู้ตัวเองว่าอาชีพช่างตีเหล็กก็เป็นอะไรที่ไม่เลว มันทั้งสามารถสร้างรายได้ได้ เปี่ยมไปด้วยพลัง และเท่ห์ไม่หยอกอีกต่างหาก
แต่แล้วความคิดของเขาก็ถูกขัดซะสะดุดทันทีที่มีข้อความส่วนตัวเข้ามา ริคสะดุ้งออกจากห้วงความคิดแล้วลากสายตาหน่ายๆไปที่หน้าต่างข้อความที่ฉายลอยอยู่ตรงหน้า
From 3432341299918388379
ข้อความนี้จาก ไพธอส คุณคงประสบปัญหาทางความคิดในการเลือกสายอาชีพอยู่ในยขณะนี้ แต่ทางบริษัทเสียใจที่จะต้องแจ้งว่าทางเราประสงค์อย่างยิ่งให้คุณเลือกประกอบอาชีพเป็น นักปราชญ์ ผู้มีความสามารถในการพยากรณ์ หรือที่รู้จักกันดีในเกมส์ว่า นักพยากรณ์ ทั้งนี้เนื่องด้วยความเอื้ออำนวยในการปฏิบัติการในอนาคตสืบไป หากมีข้อสงสัยใดๆกรุณาเก็บไว้ในใจ เพราะข้อความนี้จะถูกทำลายลงในอีกห้าวินาที
ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ ไพธอส
ริคกะพริบตาอยู่สองสามปริบก่อนที่หน้าต่างนั้นจะเด้งวับหายไป ‘อะไรกันฟะนี่! แค่อาชีพชั้นยังต้องถูกบังคับให้เลือกเลย’
“พวกเธอทุกคน สามารถเลือกประกอบสายอาชีพได้ในสถานที่ที่ต่างออกไปดังนี้
ผู้ที่จะเป็นนักรบเชิญพบกันที่ “โคลอสเซี่ยม” ทางทิศะตะวันออกของเมือง
ส่วนผู้ที่สนใจอาชีพนักปราชญ์เชิญพบกันที่ “หอดดูดาว” ทางด้านทิศตะวันตกของเมือง
และสุดท้ายสำหรับผู้ฝักใฝ่ที่จะเป็น ฟิลิเชีย ขอเชิญที่ “สำเภาลอยฟ้า” ทางใต้ของเมือง
และขอให้พวกเธอโชคดี ถ้าได้รับอาชีพแล้วก็กลับมารับภารกิจกับชั้นอีกครั้งหนึ่ง”
เหล่าผู้เล่นทุกคนแยกย้ายกันออกจากวิหารขนาดย่อมนี้ไปคนละทิศคนละทาง ริคเองก็เช่นกัน เขาเดินอาดๆไปทางทิศตะวันตกของเมือง มุ่งสู่หอดูดาว แห่งนักปราชญ์อย่างคร้ามใจ
เขาพาตัวเองมาถึงหอดูดาวอย่างอายๆ มีผู้กล้าสองสามคนร่วมทางมากับเขาซึ่งคนเหล่านั้นพูดกันมาตลอดทาง บ้างก็บอกว่าตัวเองจะเป็นนักบวช บ้างก็ว่าตัวเองจะเป็นพ่อมด แม้กระทั่งอาชีพคนธรรพ์ก็ยังเป็นที่สนใจมากกว่านักพยากรณ์แสนประหลาดนี่ อาชีพนี้จะเป็นอย่างไร มันจะเอื้ออำนวยกับปฎิบัติการนี้สักเท่าไรกันเชียว
ริคมัวแต่สนใจคนรอบข้างจนลืมมองสิ่งก่อสร้างที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า มันเป็นหอคอยสีครีมที่ดูคล้ายๆกับหอเอนปิซา เพียงแต่ว่ามันไม่เอนและตั้งฉากกับพื้นโลกอย่างพอดิบพอดี บนยอดหอคอยมีลำกล้องสีทองแวววาวขนาดยักษ์ยื่นไปบนท้องฟ้า นั่นคงเป็นกล้องดูดาวกำลังขยายสุดตรีน ที่เอาไว้ดูดาวได้ไกลถึงกาแล็กซี่ข้างๆ ว่าแต่ในโลกแห่งเกมส์แบบนี้จะมีดวงดาวหรือเปล่าหนอ คำถามนี้ถูกเก็บไว้ในใจริคผู้ฉงน ก่อนที่เจ้าตัวจะลากตัวเองเข้าไปหอดูดาวหรูหรา
ในนี้พลุกพล่านไปด้วยเหล่านักปราชญ์ผู้ห่มชุดแต่งกายรุงรัง ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าคลุ่มงามสง่ายาวลากพื้น ในมือถือคทา บ้างก็พิณ แม้กระทั่งกล้องดูดาวก็ยังมี แล้วกลิ่นหนังสืออับๆก็โชยมาแตะจมูกริค มันทั้งเหม็นแต่ก็อุดมไปด้วยความรู้ ที่นี่เป็นเหมือนหอสมุดขนาดใหญ่ ที่มีชั้นหนังสือวางสูงกันไปจนสุดลูกหูลูกตา จำเป็นต้องใช้บันไดวนต่อขึ้นเพื่อไปเอาหนังสือชั้นสูงๆ
ข้างล่างมีเค้าเตอร์ตั้งอยู่ตรงกลาง มีตาแก่หน้าตามีความรู้หลายคนคอยตอบคำถามกับนักปราชญ์กันจ้าละหวั่น แล้วก็มีตาแก่อยู่คนนึงที่รองรับสำหรับผู้เล่นมือใหม่ คาดว่าคนนั้นคงจะพอให้คำชี้แนะได้
เหนือศีรษะที่ล้านมันวาว ปรากฏชื่อของ NPC ว่า โมร็อค
“โฮ่! พวกเธอผู้เล่นใหม่ สวัสดีๆ ชั้น โมร็อค คงรู้จักกันแล้วนะ มีอาชีพในใจรึยังล่ะฮึ” ผู้เล่นใหม่ต่างพากันพยักหน้า “เพื่อไม่ให้เป็นการรอช้า ต่อแถวแล้วลงทะเบียนกับชั้นเลย”
แถวตอนลึกถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยความที่ไม่ค่อยสู้ใคร ริคจึงถูกเบียดให้ไปอยู่ท้ายแถว ใช้เวลาสักนิดจนกระทั่งเขามายืนประจันหน้ากับ NPC เลือกอาชีพคนนี้
“แจ้ง Username ด้วยพ่อหนุ่ม”
“เอ่อ...Riklegus”
“อาชีพล่ะหือ...” NPC เลิกคิ้วขึ้น ริคยิ้มแห้งๆพยายามไม่ให้คนข้างๆได้ยินชื่ออาชีพที่เขาจะกล่าวต่อไปนี้
“นักพยากรณ์ครับ”
เงียบไปสักพัก ก่อนที่ NPC ชายแก่จะหัวเราะร่วน “โฮ่! ล้อข้าเล่นหรือเปล่าเนี่ย อาชีพนี้มีคนเลือกนับรายได้ ข้าดีใจนะที่เจ้าตาถึง เอ้าขอให้โชคดีล่ะ ตอนนี้เจ้าได้เป็นนักพยากรณ์แล้ว
เกิดตัวอักษรปรากฏอยู่ใต้ Username ของริค มันเป็นตัวอักษรสีขาวเขียนเอาไว้ว่า Prophet ที่แปลว่านักพยากรณ์ อาชีพสุดเห่ยถูกตีตาอยู่เหนือหัวเขาแล้ว ต่อจากนี้ชะตากรรมก็คงมีแต่คอยน้อมรับการปู้ยี่ปู้ยำจากคนอาชีพอื่นๆที่ดูจะมีความสามารถกว่า แต่เอาก็เอาวะ ตราบใดที่ยังไม่ลองก็ยังไม่รู้
พลั่ก! ร่างบางๆของริคล้มลงก้นจ้ำกับพื้น ทันทีที่ตัวของเขาไปชนเข้ากับร่างที่สูงกว่านิดหน่อยเข้า ร่างนั้นเซถอยไปนิดหน่อย และปราดมองกลับมาด้วยสีหน้าเรียบๆ
เขาเป็นเด็กหนุ่มผมสีเทาเรียบๆรุ่นราวคราวเดียวกับริค แต่ก็แฝงแววตานิ่งเฉยและดูมีพลัง เขาแต่งกายในชุดพ่อมดสีน้ำเงินเข้ม กระดุมและแขนเสื้อถูกประดับด้วยกระดุมรูปดาวห้าแฉกดูหรูหรา ในมือกำคทาที่ทำจากไม้สีดำขัดเหลาอย่างดี บนหัวคทายังมีผลึกแร่รูปดาวสีฟ้าเรืองรองอยู่ตลอดเวลา เพียงแค่มองมานิ่งๆโดยไม่กะพริบตา ริคก็รู้สึกเหมือนเป็นความผิดเขาทั้งหมดที่ไปเดินชนหมอนี่ เขาถูกป้ายความผิดใส่ตัวเองเพียงแค่สบกับสายตาเย็นชานั้น
‘อะไรกันฟะ เดินชนแล้วยังจะมามองตาขวาง มันน่านักไหมล่ะ’ ริคคงจะตะโกนไปเช่นนั้นแล้วถ้าไม่ใช่เพราะเขาเหลือบไปเห็นเลเวลที่ลอยอยู่เหนือหัวผู้เล่นคนนั้น
LV.20
‘ให้ตาย! ยังไงก็ปล่อยแกไปก่อนละกัน รอชั้นเวลเท่าแกก่อนเหอะ’
“นักพยากรณ์...” เสียงเรียบเปรยขึ้น “นึกว่าใครซะอีก”
ริคนิ่งค้างทำอะไรไม่ถูก เขาพยุงตัวลุกขึ้นแล้วปัดฝุ่นที่ก้น น้ำเสียงที่ไม่บอกแน่ชัดว่ากำลังดูถูกหรือสงสัย ทำให้ริคถึงกับฉุนจนตาขวาง
“ทำไม!”
อีกฝ่ายนิ่งเสียยิ่งกว่าหิน เขาแค่นหัวเราะในลำคอ แล้วเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ทิ้งให้ริคได้แต่สบถด่าหมอนั่นอย่างขุ่นเคือง จนข้อความอัตโนมัติเด้งมาเตือนอยู่สี่ห้าครั้งว่าไม่ควรพูดคำหยาบในเกมส์ออนไลน์
' © Tenpoints ! '
ความคิดเห็น