คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ChapT9 ("First Love") ; นครแห่งฝน
29 October 2012 :: The illuminati invite KT. , Diana23 to the conversation.
The illuminati :: สวัสดีทุกคน
KT. :: สวัสดีครับพี่ริท แอน
Diana23 :: สวัสดีค่าทุกท่าน กรไม่อยู่หรอ
The illuminati :: นั่นสิครับ ผมเรียกก็เพราะมาถามเรื่องนี้แหละ กรหายไปหลายวันมากแล้ว น่าเป็นห่วงนะครับ
KT. :: เห...เกิดอะไรขึ้นกับกรหรอครับ ??
The illuminati :: เห็นว่าก่อนหน้านี้ทะเลาะกับแอนมาก่อนด้วย เลยอยากรู้จากปากแอนน่ะว่าเกิดอะไรขึ้น
Diana23 :: เหอะๆ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เราแค่เข้าใจผิดกันนิดหน่อย
KT. :: นิดหน่อยนี่ทำให้คนๆนึงเลิกเล่นเลยหรอแอน
Diana23 :: ก็ไม่มีอะไรมากหรอก กรมาบอกว่าชอบแอนน่ะ
The illuminati :: อย่างนั้นหรอกหรือครับ
KT. :: อะไรนะ! กรชอบแอน!
Diana23 :: อย่าย้ำได้ม้า...แอนขี้เกียจจะนึกถึงแล้ว -3-
The illuminati :: แล้วแอนบอกเขาไปว่าไงครับ?
Diana23 :: แอนบอกว่าเป็นเพื่อนกันดีกว่า แล้วอีกอย่างเราก็แค่รู้จักกันในเน็ตเท่านั้น แอนยังไม่อยากจริงจังกับใครที่ยังไม่เห็นหน้า
The illuminati :: เขาก็เลย?
Diana23 :: เขาก็เลยชวนแอนเปิดกล้องคุยกัน แต่ห้องของเขามืดๆน่ะค่ะแอนดูหน้าไม่ถนัด แอนเลยกดยกเลิกไปและไม่คุยกันต่อ
KT. :: โดนปฎิเสธสองต่อแบบนี้ เป็นใครใครก็เสียใจแหละ 5555555
The illuminati :: เรื่องธรรมดาน่ะครับ
Diana23 :: ก็จะให้แอนทำยังไงล่ะคะ กรก็นิสัยดีอยู่ แต่แอนไม่ได้ชอบกร รู้สึกแบบเป็นเพื่อนมากกว่าน่ะค่ะเข้าใจหรือเปล่า
KT. :: เข้าใจดิแอน แต่กรก็น่าเป็นห่วงนะ ถ้าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆเขาก็น่าจะออนบ้าง ไม่ได้หายไปแบบนี้
The illuminati :: จริงครับ หายไปเดือนนึงแบบไม่ล่ำลา ปกติกรก็ออนทุกวันด้วย อย่างกรณีที่ร้ายแรงที่สุดก็คือเขาคิดสั้น
Diana23 :: พี่ริทอย่าพูดให้แอนรู้สึกผิดได้มั้ยคะ
The illuminati :: เปล่า ผมพูดถึงกรณีที่ร้ายแรงที่สุดไง น่าจะเกิดขึ้นได้ยากกับคนอย่างกร แต่ไม่ได้แปลว่าจะเกิดไม่ได้เลย ผมเลยอยากให้ลองเคลียร์กันดูน่ะ ก่อนที่มันจะสายไป
KT. :: ผมก็ว่างั้นนะแอน แอนไม่รู้สึกว่ามันแปลกเลยหรอ
Diana23 :: รู้สึกสิ แอนรู้สึกเยอะกว่าทุกคนเลยด้วยแหละ แต่แอนเบื่อที่จะพูดเท่านั้นแหละค่ะ ขอตัวนะคะ
Diana23 has log off.
The illuminati :: อ้าว แอนนี่ไม่ไหวเลยนะครับ ออกไปก่อนซะงั้น
KT. :: นั่นสิ ตกลงเรื่องกรจะเอาไงกันดีเนี่ย
The illuminati :: เคทีช่วยอะไรผมหน่อยได้หรือเปล่าครับ
KT. :: ได้สิครับ มีอะไรว่ามาเลย
The illuminati :: เคทีช่วยเกลี้ยกล่อมแอนหน่อยได้มั้ย ให้เขาไปเคลียร์กับกรดีๆ
KT. :: ไอ้เกลี้ยกล่อมนี่ก็พูดได้ครับ แต่จะให้ไปคุยกับกรทางไหน
The illuminati :: ผมมีที่อยู่ครับ ดูเหมือนเขาจะอยู่ในกรุงเทพเหมือนพวกเรา ผมสืบเจอโดยบังเอิญ ที่ต้องทำแค่พาแอนไปหาเขาแล้วเคทีจะไปด้วยหรือไม่ก็แล้วแต่นะครับ
KT. :: เอ่อ...เอาจริงหรอครับ ให้ผมไปเจอสองคนนั้นน่ะหรอครับ ตัวเป็นๆเนี่ยนะครับ
The illuminati :: เข้าใจถูกแล้วครับ เตรียมตัวจดไว้นะครับ ผมจะให้เบอร์แอนกับที่อยู่ของกร เคทีโทรไปหาแอนเมื่อพร้อมนะ
เด็กสาวหน้าตาน่ารักวัย 16 ปีกำลังซุกใบหน้าที่เปรอะด้วยคราบน้ำตาลงบนหมอนหนุนสีขาวสะอาด เธอสะอื้นมาสักพักแล้วหลังจากจำใจต้องปิดคอมพิวเตอร์ลงเพราะเธอทนฟังความจริงบางอย่างไม่ได้ เธอจำเป็นต้องโกหก ไม่สิ เธอจำเป็นต้องเล่าความจริงไม่หมดเพื่อให้เธอไม่ต้องรับผิดชอบกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น
ใครกันจะกล้าสารภาพว่าเธอเป็นคนที่ทำให้กรต้องหายตัวไป ใช่เธอเป็นสาเหตุที่ทำให้กรต้องหายตัวไปอย่างแน่นอน แค่คิดก็ทำให้เธอต้องลุกขึ้นเพื่อไปล้างเอาคราบน้ำตาออกไปจากใบหน้า
เดินมาที่ห้องน้ำส่วนตัวสีชมพูหวานแวว เธอหยุดอยู่ตรงหน้ากระจกเงามองสภาพหน้าตาของเธอ แม้ตาจะบวมแดงและเหนียวเหนอะ แต่ก็ยังซ่อนความน่ารักของเด็กสาววัยรุ่นไว้ได้ไม่มิด ผมสีดำปรกหน้าตัดเป็นหน้าม้า ผมถูกรวบอย่างหลวมๆข้างหลังเป็นหางม้า ปากอวบอิ่มและแก้มสีอมชมพู เธอทั้งน่ารักและอัธยาศัยดีและเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ แต่เธอไม่เคยสนใจใคร ไม่เคยแม้กระทั่งจะคุยต่อเกินสามประโยค นั่นไม่ต้องพูดถึงการโดนสารภาพรักแบบสายฟ้าแลบของเพื่อนในอินเตอร์เน็ตแสนจะโรคจิต
โรคจิต...จะเรียกอย่างนั้นก็คงไม่ผิดกับสิ่งที่เธอเจอ เธอยังคงอกสั่นขวัญแขวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ แค่นึกมันก็ทำให้เธออยากจะกลับเข้าไปคลุมโปงอยู่บนเตียงอุ่นๆ
เหตุการณ์เมื่อตอนที่เธอกับกรเปิดกล้องสนทนากันยังคงตราตรึงอยู่ทุกๆวินาที แอนยังคงจำภาพที่เมื่อเธอพูดว่า ‘มองไม่เห็นภาพเลย มืดไปหมดแล้ว แอนขอตัวไปนอนได้มั้ยคะ’ แล้วอีกฝ่ายก็ตะคอกกลับมาด้วยเสียงที่เหมือนสัตว์ร้ายน่าตกใจว่า ‘แกกำลังทำให้ฉันหายไปตลอดกาล! แกรู้อะไรมั้ยแกคือนางมารร้าย! แกเกิดมาเพื่อสังหารทุกคนที่รักแก! โอ...และคนที่แกรักก็จะเจอกับสิ่งที่เลวร้ายเสียยิ่งกว่าความตาย จงจำไว้ ซาตานกำลังตามล่าแก!’
จบแค่นั้น แอนแก้ปัญหาเมื่อตอนนั้นอย่างทันท่วงทีโดยการชักปลั๊กออก เธอตัวสั่นมาร้องให้อยู่บนที่นอน ภาพเมื่อครั้งอดีตย้อนกลับมาทำร้ายอีกครั้ง ภาพของเพื่อนห้องเดียวกับเธอที่ลงทุนกรีดแขนตัวเองเป็นแผลฉกรรจ์เพื่อเรียกร้องความสนใจจากแอน ไปจนถึงรุ่นพี่ที่มาหลงรักเธอและทิ้งตัวลงมาจากชั้นสองของตึกจนอาการสาหัส ทั้งหมดเป็นเพราะเธอคนเดียว เธอเป็นตัวหายนะและเธอมองตัวเองเป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด โดยไม่โอ้อวด โดยไม่ทำให้ใครจะต้องมาหลงรักอีก เธอตัดสินใจคบคนอยากในอินเตอร์เน็ตเท่านั้น และอยู่ที่โรงเรียนเธอก็คบแค่เพื่อนผู้หญิง เธอคิดว่าถ้าแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้แล้วเรื่องพรรค์นั้นก็คงจบลง
แต่ทุกอย่างก็ผิดพลาดไปหมดเมื่อเพื่อนในเน็ตของเธอมาสารภาพรัก เธอกลัว และงุนงง เธอไม่รู้ว่าควรทำอะไร
แอนสะบัดความคิดในหัวแล้วเดินไปเปิดม่านในห้อง เผยให้เห็นทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครยามค่ำคืน แม้มันจะถูกปกคลุมด้วยเม็ดฝน ใช่แล้วฝนโปรยตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตานานกว่าหนึ่งเดือน มันเป็นอะไรที่น่ากลัวและแปลกประหลาดไม่แพ้กับเรื่องหิมะตกเมื่อเดือนที่แล้ว แอนรู้สึกขนลุกๆเล็กๆตอนที่ข่าวลือเรื่องผีตัวหักแวบเข้ามาในหัว แม้ตอนนี้จะซาไปแล้วแต่ก็ทำให้แอนรู้สึกขนลุกทุกทีที่นึกถึง
แอนจ้องมองสายฝนพรำลงมา แม้ใครจะเปลี่ยนชื่อกรุงเทพมหานครว่าเป็น “นครแห่งฝน” แอนก็ยังลงรักทิวทัศน์ของมันตอนกลางคืนอยู่ดี มันมักทำให้เธอผ่อนคลาย
“เป็นอะไรหรอแอน” เสียงหนึ่งทำให้แอนสะดุ้งโหยง ใครบางคนเปิดประตูเข้ามาโดยไม่ขออณุญาติ และคนๆเดียวที่ทำแบบนั้นได้โดยที่แอนไม่โกรธก็คือ จิตติ พี่ชายแสนดีของเธอ
แอนไม่เขินสักนิดแม้เขาจะอยู่ในสภาพที่ห่มผ้าครึ่งตัวเผยให้เห็นรูปร่างอันสมส่วนแบบนักกีฬาชนิดที่ว่าสาวที่เห็นมาเห็นก็ต้องสิโรราบ จิตติเป็นผู้ชายที่หล่อมาก หล่อเสียจนแอนรู้สึกรำคาญที่จะต้องถูกผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาต่อว่า ทั้งๆที่พวกนั้นไม่เคยเข้าใจเลยว่าเขาและเธอเป็นพี่น้องกันต่างหาก
ผมที่เปียกถูกสางให้ชี้ขึ้น คิ้วดกหล่อเหลา ผิวขาว หูข้างซ้ายมีต่างหูสีดำติดเอาไว้ เขาอายุ 18 และเป็นรุ่นพี่แอนสองปี
ทันทีที่แอนเห็นจิตติเข้ามาในห้อง เธอรู้สึกอยากจะทิ้งตัวลงในอ้อมกดอุ่นๆ และร้องให้ใส่ แต่เธอเติบโตเกินกว่าจะทำแบบนั้นแล้ว จึงได้แต่ยิ้มและยักไหล่ตอบ
“หมอนั่นมันมายุ่งกับแอนอีกหรือเปล่า” จิตติถามเครียดๆ
“ใครคะ!”
“ไอ้คนที่แอนเล่าว่ามันตะโกนใส่เมื่อวันนั้นน่ะ”
“อ่อ...ไม่หรอก เค้าหายไปเลย คงตัดใจแล้วล่ะ แบบนั้นก็ไม่เลวนะแอนก็สบายดีแหละ” แอนยิ้มหวานตอบไป แต่จิตติคงจับโกหกได้ เขาเดินมาหาแอนเอาผ้าขนหนูอีกตัววางไว้บนหัว เท้าเอวแล้วพูด
“ถ้ามันทำอะไรแอนบอกพี่ได้นะ โอเคมั้ย”
“ทำไมจะไปต่อยมันหรอ” แอนถามขำๆ รู้สึกตลกกับท่าที่เก๊กๆของพี่ชายตัวเอง
“อื้อ”
“ตลกแล้ว เที่ยวไปต่อยคนนู้นคนนี้เดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก” แอนว่า
“ไม่รู้สิ แค่พี่ไม่ชอบ” จิตติตอบเรียบๆแต่จริงจัง
“ไปนุ่งผ้าได้แล้วไป เดี๋ยวสาวที่ไหนมาเห็นเข้า” แอนไล่ ผลักหน้าท้องของพี่ตัวเองให้ถอยไป (ซึ่งแอนสูงแค่หัวไหล่และแตะถึงแค่นั้น)
“อื้อ” แล้วเขาก็ตอบสั้นๆแต่จริงใจอย่างทุกทีพร้อมเดินออกไปจากห้อง แอนเข้าใจว่าคำว่า “อื้อ” ของจิตติแปลว่า “ฉันเอาจริงแน่ๆ” แอนจึงรู้สึกดีอยู่นิดๆ
แอนรู้สึกว่าความเครียดพลันมลายหายไปทันทีที่เห็นหน้าพี่ชาย เขาเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวในโลกที่แอนรู้สึกกล้าที่จะรักและคุยด้วย อ้อ...รองมาจากพ่อที่ตายไปแล้วอะนะ
ตืดดดด ตืดดดดด! เสียงสั่นของโทรศัพท์ปลุกให้ออนตื่นจากภวังค์ เธอเข้าไปคว้ามันไว้และรับสายทันทีโดยไม่ดูว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา
“ฮัลโหลค่ะ”
‘เอ่อ...แอนใช่มั้ยครับ ผมขอโทษที่ต้องมารบกวนนะ ผมเคทียินดีที่ได้รู้จัก เรามีเรื่องต้องคุยกันนิดหน่อย อย่าเพิ่งตัดสายผมนะคะ’
หัวใจแอนเต้นโลด แอนเกือบจะลืมไปแล้วว่ายังมีเคทีอยู่ ใช่! เขาเป็นคนๆเดียวที่แอนเริ่มรู้สึกดีด้วย ทั้งวิธีการพูด นิสัย ความใจกว้าง และทุกตัวอักษรมันแทบทำให้แอนหลงรัก แอนอยากรู้ว่าเขาเป็นใคร หน้าตาเป็นยังไง แอนรู้สึกชอบเขาอย่างประหลาดมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว ความรู้สึกนี้ทำให้แอนรู้สึกว่าหัวใจกำลังจะกระโดดออกมา เคที เคที เคที เคที คำนี้ดังห้องในหัว คนๆเดียวที่แอนรู้สึกชอบ และตอนนี้เขาก็กำลังกระซิบอยู่ข้างหูของเธอแล้ว!
“อะ...อะค่ะ ได้ค่ะ”
อาจจะเป็นครั้งที่ร้อยที่แอนได้ยินคำว่า “หมอนั่นเป็นใคร” หรือ “หมอนั่นนัดมาทำไม” ทั้งๆที่แอนกำชับนักหนาว่าครั้งนี้เป็นเรื่องส่วนตัว แต่จิตติยืนกรานที่จะตามแอนมาให้ได้ แอนไม่เคยโกหกพี่ชายตัวเองได้สักครั้ง ยิ่งครั้งนี้เธอพยายามทำให้เนียนแล้วบอกว่า “จะมากินไอติมกับเพื่อน” แต่จิตติเดาออกว่าเพื่อนของแอนมักจะนัดกันที่ร้านกาแฟซึ่งเขาใช้จุดนั้นอ้างและตามแอน
จิตติยังคงนั่งอยู่ข้างๆอย่างร้อนรนในสภาพโชกเหงื่อ เสื้อบาสเปียกปอนไปหมด แอนรำคาญนิดๆที่จะต้องนั่งข้างๆคนที่ตัวเปียกเพราะการเล่นบาส แต่ก็โชคดีที่พี่ชายตัวเองกลิ่นตัวหอมกว่าที่คิด
“บานานา สปริทมั้ย” จิตติถามแบบนิ่งๆ
“ฮะฮะ ไม่อ่ะคะแอนไม่กินกล้วย”
“ฟองดูมั้ย จะได้อุ่นๆ เดี๋ยวจะหนาว”
“บอกตัวเองเถอะพี่ก็ ตัวเปียกเชียวไม่หาอะไรมาห่มหรอ”
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวก็ระเหย” จิตติว่าพลางถูแขน แอนขำนิดๆแล้วก้มหน้าดูเมนู “ดูมาตั้งนานแล้วไม่เลือกสักที”
“เดี๋ยวเพื่อนมาแอนก็ค่อยสั่งไง”
“เพื่อนที่ว่าเนี่ยไม่ใช่แฟนใช่มั้ย แม่ไม่ให้มีแฟนตอนนี้นะรู้ใช่มั้ย”
“เพื่อนค่ะเพื่อน พี่นี่ก็คิดมาก แอนไม่เคยชอบใครมาตั้งแต่อนุบาลสองแล้ว”
“ไม่นับไอ้เหยินตอนอนุบาลหนึ่งใช่มั้ย” จิตติพูด ทำเอาแอนเกือบสำลักน้ำลายตัวเอง
“จ...จำได้ด้วยหรอ!”
“ขอโทษนะครับ แอนใช่หรือเปล่าครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้น ทำให้แอนเลิกคิ้วขึ้น หัวใจเต้นรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มือเย็นเยียบโดนฉับพลัน คำว่าเคทีดังก้องอยู่ในหัว
เขาอยู่ตรงหน้าเรา เขาอยู่ตรงหน้าเรา!
สายตาทั้งสองสบกัน แอนมองเห็นเด็กผู้ชายที่น่าจะรุ่นราวคราวเดียวยืนอยู่ตรงหน้า ผมสีดำกระเซิง สายตามุ่งมั่นที่คล้ำและดำเหมือนคนนอนดึก คิ้วก็เหมือนจะขมวดและผูกติดกันตลอดเวลา คนตรงหน้าดูเหมือนคนที่จริงจังกับชีวิตและคิดอะไรอยู่ตลอด แต่เขากลับมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก เท่ห์ จริงจัง มุ่งมั่น และแทบไม่ต้องเดาเลยว่าทำไมเขาถึงตาคล้ำแบบนี้
“ค...เคทีหรอคะ”
คนตรงหน้ายิ้มทักทาย “ครับ เคทีเอง ยินดีที่ได้รู้จักนะแอน แล้วก็...คุณเอ่อ...แฟนแอน”
“ไม่ใช่แฟนค่ะ พี่ชายแอนน่ะ ชื่อจิตติ เคทีนั่งลงเลยก็ได้” อีกฝ่ายนั่งลงตามคำชวนและเริ่มแนะนำตัว
“ต่อไปนี้เรียกผมว่า คิมก็ได้ครับ จริงๆแล้วผมชื่อนี้น่ะ” คิมบอก แอนกระพริบตาปริบๆแล้วพยักหน้า
“งั้น...เคทีย่อมาจากอะไรหรอคะ”
“อ่อ...คิมหันต์ ทัตน์ทิวา น่ะครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกที Diana23” เขาเอื้อมมือมาตรงหน้า รอคอยให้แอนจับตอบ
แอนเอื้อมไปสัมผัสกับมือนุ่มๆของคิมอย่างลังเล และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่มือเธอกับเขาได้สัมผัสกัน เขาผู้ซึ่งเป็นคนแรกและคนเดียวที่แอนรู้สึกรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น!
ความคิดเห็น