ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณลม(ที่)รัก

    ลำดับตอนที่ #6 : สำหรับเธอคือความลับ..

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ค. 57


     ห้องเช่าราคาถูกแสนถูก สภาพแวดล้อมไม่ต้องพูดถึงช่างต่างกับการแต่งตัวของใครบางคนที่เช่าอาศัยอย่างไม่น่าเชื่อ สองชายหญิงที่กลับมาอย่างหัวเสียกับเรื่องราวในวันนี้ ทุกอย่างผิดแผนไปหมด ความรวยอยู่แค่เอื้อม..  ท็อป อนุชิต ทิ้งตัวลงบนเตียงนอนอย่างหัวเสีย อีนี่มันทำบุญมาด้วยอะไร?! แคล้วคลาดมาไม่รู้กี่หนต่อกี่หนวันนี้โอกาสแบบนี้.. มันยังเสือกรอดไปได้อีก
     
           "พี่ท็อป! พี่ท็อปคิดว่าผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกับลิตา"
     
          "ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ลิตาไม่เคยพูดให้ได้ยินเลยนะ ชื่ออะไรนะ ลม ชื่อลมใช่ม๊ะ"
     
           "อือ.. หล่อด้วย สเป็คบีบีเลยนะนั้น แต่ดูลิตาไม่ชอบหน้านายนั้นเลยนะ " บีบี สาวิกา สาวสวยด้วยเครื่องสำอาง ชนิดที่เรียกว่าเมคอัพเปลี่ยนชีวิตเลยก็ว่าได้
     
       แหม่.. ถ้าแผนการเชือดลิตาสำเร็จหล่ะก็... เธอจะสวยด้วยมือแพทย์แบบถาวร ไม่ต้องมาเสียเวลาแต่งหน้าแบบนี้หรอก ดูอย่างพี่ท็อปสิยังหล่อด้วยมีดหมอได้เลยแล้วบีบีทำไมจะสวยไม่ได้ เงินทีหามาได้ก่อนหน้านี้ก็ต้องเอาไปลงทุนให้พี่ท็อป เพื่อปูเส้นทาง... ในก้าวต่อๆไป
     
           "ไม่ชอบหน้าแล้วไงสุดท้ายแม่งก็ไปกับมัน วันนี้อุส่าวางแผนซะดิบดี แม่งโว้ย!!" 
     
           "ดีนะยังไม่ทันได้กินยา ไม่งั้นซวยกันแน่! ถ้าผัวมันรู้ว่าเราวางยาอีนั่น"
     
      ที่ชวนกันไปห้องน้ำเพื่อต้องการให้ชายหนุ่มมีจังหวะใส่ยาลงในแก้วน้ำของลิตา รอจังหวะและโอกาศแบบนี้มานานปกติลิตามาเที่ยวแบบนี้จะมีคนขับรถมาด้วย หญิงสาวจะอยู่ด้วยไม่นานมาแค่สนุกนิดๆหน่อยๆแล้วก็กลับ ชอบอ้างว่าไม่อยากให้ลุงคนขับรถรอนาน วันนี้มีโอกาศเพราะคนขับรถไม่สบายลิตาก็ไม่อยากมาอุส่าอ้อนหาข้ออ้างสารพัดจนเธอยอมใจอ่อนขับรถมาเอง โอกาสแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว แต่... ผัวดันมาตามนี่สิ ซวย!
     
            "เอ่อ.. ซิว่ะ!กะว่าประเดิมกล้องใหม่ซะหน่อยอยากรู้ว่าคมชัดจริงอย่างที่ไอ้คนขายบอกหรือเปล่า รูดบัตรอีกด้วยวงเงินเกือบไม่พอ"
     
       ถึงกับลงทุนซื้อกล้องใหม่เพื่อความคมชัดและไม่ผิดพลาดที่ต้องมาเดาว่าคนในภาพเป็นใคร เอาแบบชัด เห็นกันจะๆชนิดว่าดิ้นไม่หลุด โห่...  แค่คิด... เงินทั้งนั้น เป็นถึงหลานเขยมหาเศรษฐีเก่าอันดับต้นๆของเมืองไทย อะไรที่อยากได้ พ่อซื้อกวาดให้เรียบ
     
            "แล้วเราจะทำไงกันต่อพี่ท็อป"
     
            "หาใหม่ เล่นแผนเดิม แต่ลิตานี่.. ก็ยังพอหลอกแดกมันได้อยู่ แต่ต้องระวังผัวมันหน่อย เผื่อมันจำหน้าพี่ได้แล้วลิตามันก็รู้ชื่อเราสองคน พื่ไม่อยากเป็นข่าว" เหยื่อคนเก่าๆส่วนมากก็แค่พนักงานออฟฟิศทั่วไปเงินเดือนไม่เท่าไหร่ ส่วนมากก็มาติดเขาเพราะรูปร่างหน้าตานี่แหละ ถ้าพูดถึงเรื่องเงินและฐานะ ลิตานี่แหละของแท้ โคตร.. รวย!
     
            "จะมีเงินไปทำอยู่แล้วเชียว"
     
            "อือ.. รอไปก่อน"
     
            "พี่ท็อปพูดแบบนี้ทุกทีเลย บีบี เริ่มเบื่อแล้วนะ"
     
            "จะให้พี่ทำยังไงในเมื่ออีนั่นมันไปกับผัวมันแล้ว"
     
             "คราวหน้ายังมี บีบีไม่ปล่อยให้พลาดอีกแน่"
     
             "มีห่า!อะไร?! ผัวมันได้มายำกูนะซิชอบอะไรพูดโง่ๆ ถ้ามันรู้เรื่องขึ้นมามึงคิดหรือว่ามันจะปล่อยพวกเราไปง่ายๆเผลอๆแม่งโดนเก็บกันซะก่อน ผู้หญิงอย่างลิตายิ่งแม่งหายากรวย! พ่อแม่กันตายห่าหมด เหลือแต่อีย่าแก่ๆ ไอ้นั่นมันได้ไปแม่งคงสบายไปทั้งชาติแล้วหุ่นแม่งน่าฟัดชิบ..!พูดแล้วขึ้น"
     
      หวังไว้เต็มที่จะได้เมียเป็นเศรษฐียกฐานะตัวเองให้ดีกว่านี้ อุสาห์เช่าห้องราคาถูกๆเอาเงินมาลงทุนกับเสื้อผ้าหน้าผม เครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัยตามกระแส แม่ง!สุดท้ายก็มีผัว แถมท่าทางจะหวงและขี้หึงมากด้วย ถ้ามีเรื่องกันเขาสู้ไม่ได้แน่ ใหนจะหน้าตาที่ไว้ใช้หลอกเกาะผู้หญิงกิน หากว่าเกิดมีรอยแผลหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ใบหน้า มันจะทำให้ เสีย.. ราคา... 
     
             "มาบีบีช่วย"
     
             "มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว.."
     
       ชายหนุ่มยิ้มในหน้าอย่างรู้ทัน พร้อมกระดิกนิ้วชี้ให้เห็นถึงความต้องการอย่างเร่งด่วนสองร่างถาโถมเข้าหาอย่างรู้งานปรนเปรอกันเต็มที่ ในเมื่อวันนี้หาเหยื่อไม่ได้ ก็ต้องหันมาเล่นกันเองซิว่ะ.. มันจะไปยากอะไร?!

       โฟวิลสี่ประตูสีดำเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หรูในช่วงบ่ายแก่ๆ หลังจากทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มเดินตามแม่บ้านที่ออกมาต้อนรับและนำพาไปหาคุณศจีที่นั่งรออยู่ในห้องสมุดที่ดูเป็นส่วนตัวอยู่สักหน่อย พร้อมกับบอกแม่บ้านให้ล็อคประตูก่อนออกไป
     
          "เหนื่อยมั๊ยลม ดื่มน้ำเย็นสักหน่อยจะได้ชื่นใจ" คุณศจีบอกกล่าวหลังจากที่เห็นหน้าของชายหนุ่มที่ดูอิจโรยอยู่พอสมควร ชายหนุ่มว่าง่ายทำตามอย่างที่คุณศจีเข้าใจ ซองเอกสารสีน้ำตาลถูกหยิบออกมาวางลงบนโต๊ะอย่างต้องการให้ชายหนุ่มรับรู้ในเรื่องราวต่อไปหลังจากนี้
     
          "ย่ามีเรื่องขอร้องลม"
     
           "ครับ?"
     
          "เกี่ยวกับลิตา"
     
     ยังไม่กระจ่างชัดนักกับคำพูดของคุณศจี แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มนิ่งอย่างไม่เข้าใจว่าคุณย่าต้องการอะไรกันแน่
     
           "ลมอย่าเพิ่งถามอะไรขอย่าพูดให้จบก่อนนะ" เห็นคนตรงหน้านิ่งเงียบคล้ายจะมีคำถามมากมายตามมาแน่ จึงรีบบอกจุดประสงค์ไว้ก่อน ต้องเข้าใจคนแก่บางครั้งตามไม่ทันหากว่าถามมากเกินไป
     
           "ย่าแก่แล้วจะอยู่ได้อีกซักกี่ปีก็ไม่รู้"หญิงชราถ่ายทอดอารมณ์หม่นเศร้าออกมามองคนตรงหน้าเพื่อให้เข้าใจในเรื่องต่อที่จะพูดออกมา"ย่าห่วงลิตา ห่วงเหลือเกิน ถ้าย่าเป็นอะไรไปไม่รู้ว่าเขาจะเป็นอยู่อย่างไร ยิ่งเมื่อวานลิตาบอกจะขอตามย่าไปด้วย ย่าใจจะขาดเลยทีเดียวลม"คุณศจีหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตาที่เริ่มอ่อล้นออกมาเมื่อนึกถึงคำพูดของหลานสาว
     
       ภาพที่เห็นคุณย่าเช็ดน้ำตากับคำบอกเล่าของคนตรงหน้าสร้างความงุนงงให้กับชายหนุ่มอย่างไม่คาดคิด อย่างลิตานี่นะ!จะพูดอะไรแบบนั้น ไม่น่าเป็นไปได้..
     
            "ลิตาเขาชอบทำอะไรที่เรียกร้องความสนใจอาจจะทำไรไม่ดีไปบ้างพูดจาไม่ดีบ้างแต่เขาทำเพื่อปกปิดปมด้อยปกปิดความเจ็บปวดของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ลึกๆลงไปเขาก็ไม่มีความสุขอย่างที่เขาทำออกมาหรอกนะลม"
     
      ชายหนุ่มพยักหน้ารับกับคำพูดอธิบายเพื่อให้เข้าใจว่าเพราะอะไรทำไมลิตาถึงชอบทำอะไรที่เรียกว่ากร้าวร้าว
     
            "เรื่องเมื่อวานนี้ลิตาเขาพูดขอโทษกับย่าเองเขาไม่ได้ตั้งใจ ยอมรับเองว่ากลัวลมจะมาแย่งย่าไป กลัวย่าจะรักลมมากกว่า ลมอย่าโกรธน้องเลยนะ" 
     
       ได้ยินอย่างนี้แล้วถึงกับส่ายหน้าระบายรอยยิ้มกับความคิดอย่างเด็กขี้อิจฉา ทั้งๆที่โตเป็นสาวจนไม่น่าเชื่อว่ายังคิดอะไรแบบเด็กๆอีก จับมาตีซะทีดีมั๊ย.. หืม ลิตา
     
           "ลม.. ถ้าย่าเป็นอะไรไป ย่าฝากลิตาด้วยนะอย่าคิดว่าลิตาเป็นคนอื่น อย่าคิดว่าย่าขอแล้วลมต้องฝืนใจทนรับปากในเรื่องนี้ แต่ขอให้คิดเสียว่าลิตาเป็นน้องเป็นญาติคนหนึ่งที่ย่าไว้ใจฝากฝั่งดูแล" สายตาของคนที่ผ่านชีวิตมาเยอะ ย่อมดูออกว่าใครที่ใว้ใจได้มากที่สุด ทั้งพ่อทั้งแม่ของชายหนุ่มคนนี้ถึงแม้จะเคยเป็นแค่คนงานที่เคยทำงานในบ้านหลังนี้มาก่อนแต่คนทั้งคู่ทั้งซื่อสัตย์ เป็นคนดี ขยัน อดทน
     
        คุณนายศจีนึกถึงอดีต นายแสงคนขับรถคนเก่าที่ลาออกไปแต่งงานกับคนรับใช้ในบ้านที่อยู่ด้วยกันมานาน ทั้งสองได้ขอลาออกเพื่อไปทำสวนทำไร่ที่บ้านเกิดแทนพ่อแม่ที่เริ่มทำอะไรไม่ไหว ครอบครัวของนายแสงค่อนข้างร่ำรวยที่ดิน แต่ในสมัยนั้นราคาถูกกว่าทองคำแถมถนนยังเข้าไม่ถึงต้องเริ่มต้นกันใหม่ทุกอย่าง ตั้งแต่ถางพงหญ้า ขุดดินทำถนนกันเอง เงินทองที่สะสมตั้งแต่เริ่มทำงานเริ่มหร่อยหรอยังไม่ทันได้เห็นอะไรที่เป็นรูปเป็นร่าง
     
      คุณศจีพอรู้เรื่องมาจากแม่บ้านคนเก่าที่ยังพอติดต่อกันบ้าง เอ่ยปากออกเงินก้อนใหญ่ให้เป็นทุนเพราะเห็นเป็นคนขยันทั้งผัวทั้งเมีย แต่นายแสงไม่ยอมรับเพราะเกรงใจคุณนายศจี อีกอย่างตัวเองก็ลาออกมาแล้วไม่อยากให้เป็นกังวลกับเรื่องเงินๆทองๆ คุณนายศจีเลยให้ทนายทำสัญญาเรื่องการกู้ยืมแต่ไม่คิดดอกเบี้ยมีเมื่อไหร่ค่อยมาชำระ แล้วส่งไปให้นายแสงเซ็นรับถึงที่
     
      ครอบของนายแสงทุกคนทราบซึ้งใจกับคุณศจีจนหาสิ่งใดมาเปรียบไม่ได้ แม้หนี้สินจะชำระคืนให้จนหมดไปตั้งแต่ลูกชายยังเล็กก็ตาม แต่เรื่องบุญคุณ คุณงามความดีที่มีต่อครอบครัวนั้น นายแสงยังเล่าย้ำให้คนรุ่นลูกยังต้องจำใส่ใจจนถึงทุกวันนี้
     
     คุณศจีมองหน้าชายหนุ่มรุ่นหลาน ที่เห็นมาตั้งแต่เด็กเวลาที่นายแสงนำเงินมาส่งชำระและต้องมาด้วยตัวเองทุกครั้ง ให้โอนเข้าธนาคารก็ไม่ยอมต้องมาส่งให้ถึงมือทุกครั้งไป ผลไม้พืชผักจากสวนก็มักเต็มหลังรถมาด้วย และยังพาลูกชายคนเดียวที่มักเดินจูงมือพามากราบไหว้ทุกครั้งจนคุณศจีอนุญาตให้เรียกว่าย่าจนติดปากมาถึงทุกวันนี้
     
      ชายหนุ่มหน้าตาดี ผิวคล้ำไปบ้างเพราะงานไร่งานสวนที่ต้องอยู่กับแดดกับลมแต่ดูสะอาดอะอ้าน หากว่าทำงานในออฟฟิศก็คงขาวหมดจดเหมือนพ่อแม่ก่อนลาออกไปทำไร่ทำสวนกันอย่างจริงจัง
     
          "แต่.. คุณย่าครับ" ชายหนุ่มเริ่มไม่แน่ใจในสิ่งที่คุณศจีกำลังขอร้อง เขาเป็นใคร และลิตาเป็นใครเขารู้ดี ทั้งฐานะชาติตระกูลมันเป็นสิ่งชี้วัดกันได้ไม่ว่าจะยุคสมัยใหน
     
          "ลมฟังย่าก่อน ย่าคิดเรื่องนี้มานานแล้วไม่ใช่เมื่อวานหรือวันนี้ ย่าให้ทนายร่างเอกสารฉบับนี้มาเกือบสองปีแล้วลม ย่าแค่ต้องการให้ลมดูแลการใช้จ่าย ดูแลทุกอย่างไม่ว่าลิตาต้องซื้อหรือขายอะไรทุกอย่างต้องผ่านการพิจารณาจากลมเสียก่อน รวมทั้งเงินเบิกจ่ายนอกเหนือจากที่ต้องได้รับทุกเดือนถ้ามากกว่านั้น ลมต้องพิจารณาว่าเขาจะเอาไปทำอะไร? โลกภายนอกยังมีอะไรที่ลิตายังไม่รู้อีกมากมาย ใจคนอีกหล่ะ ยากนะลมที่จะไว้ใจใครได้" คำพูดของหญิงชราช่างเด็ดเดียวเสียจนคนฟังยังต้องลอบกลืนน้ำลายอย่างไม่น่าเชื่อ
     
      คุณศจีถึงจะแก่ชราแต่ด้วยผ่านร้อนผ่านหนาวมามากเจอคนมาหลากหลายรูปแบบ เพราะตัวเองทั้งปล่อยเงินกู้เก็บค่าเช่า ส่วนสามียังเป็นนายหน้าค่าที่ดินอีกเส้นทางชีวิตจึงค่อนข้างโชกโชนกับโลกภายนอกที่ขัดแย้งและฝ่าฟันกันมาพอสมควรกว่าจะมีวันนี้ได้
     
      แอบลอบมองชายหนุ่มตรงหน้าอยากฝากให้เป็นคู่ชีวิตเสียด้วยซ้ำแต่เรื่องแบบนี้บังคับกันไม่ได้ขอให้เป็นเรื่องของบุพเพสันนิวาสบุญกรรมชักนำพาไปก็แล้วกัน 
     
           "ตอนนี้ลิตาอายุ 22 ปี เรียนจบแล้วย่าถามแล้วจะเรียนต่อไหม เขาบอกว่าขอหยุดพักก่อน เพื่อนๆเขาไปเรียนต่อต่างประเทศกันหมดลิตาไม่อยากจากย่าไปไกล ย่าบอกให้เรียนที่เมืองไทยเขาก็เอาแต่ส่ายหน้า ก็ดีย่าอยากให้เขาอยู่แบบนี้เรื่องงานการก็คงไม่ให้ทำหรอกอย่างลิตาจะไปเป็นลูกน้องใครเขาได้จริงมั๊ยลม?"คุณศจีหันมองชายหนุ่มพร้อมกับหัวเราะออกมาด้วยรู้จักนิสัยหลานรักเป็นอย่างดี
     
           "ถ้าย่าเสียเมื่อไหร่ก็ตามลมก็เข้ามาดูแลเรื่องนี้ทันที จนกว่าลิตาจะอายุ35ปี อายุขนาดนี้ย่าว่าลิตาน่าจะรู้จักตัดสินใจอย่างมีสติได้แล้ว นานไปไหมลม? แต่ย่าก็ให้เงินเดือนลมนะ ถือว่าเป็นการทำงานให้ย่า"
     
          "ถ้าคุณย่าไว้ใจผมขนาดนี้ ผมยินดีที่จะดูแลอย่างที่คุณย่าต้องการ แต่เรื่องเงินเดือนผมขอไม่รับครับ สิ่งที่คุณย่าเคยมอบให้กับครอบครัวผมทำให้ลืมตาอ้าปากได้จนมาถึงทุกวันนี้ก็เป็นบุญคุณอย่างยิ่งแล้วครับ"
     
       หญิงชราลอบยิ้มอย่างภูมิใจ ไว้ใจไม่ผิดคนจริงๆ ยิ่งเห็นคนทั้งคู่ทะเลาะกันเมื่อวานนี้ ยิ่งมั่นใจว่าหลานชายนอกใส้คนนี้ไม่ทำให้ผิดหวังเป็นอันขาด คงไม่มีใครมาดูแลลิตาได้ดีเท่านี้อีกแล้ว เป็นคนอื่นก็คงยอมให้ไม่กล้าหื่ออือกับลิตา เพราะคำว่าหลานคุณย่าแล้วคำว่าเงินมันทำให้ใครๆก็ไม่กล้า นอกจากยอมรับแบบฝืนทน แต่กลับหลานชายคนนี้กล้ามาก กล้าที่จะว่ากล่าวตักเตือนอย่างมีเหตุมีผล มีความอดทนต่อคำด่าร้ายๆของลิตา เพียงเท่านี้ก็คงพอทำให้นอนตายตาหลับได้อย่างหมดห่วงเสียที

     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×