ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คุณลม(ที่)รัก

    ลำดับตอนที่ #5 : ปวดหัว.. กับเธอ

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 57


    ลีลาท่ามากได้ไม่นานสุดท้ายก็ต้องพาจับจูงมาถึงโต๊ะ ก็คุณเธอเล่นใส่รองเท้าส้นสูงปรี๊ด พื้นริมฟุตบาธที่ไม่เรียบมันเป็นอุปสรรคต่อการทรงตัว ก็ต้องเป็นเขาที่ต้องรับภาระให้เธอได้เกาะเกี่ยวนำทาง เก้าอี้พลาสติกสีแดงถูกเลื่อนออกมาเพื่อให้เธอได้นั่งแม้จะดูไม่เต็มใจสักเท่าไหร่ แต่ก็ยอมนั่งลงโดยดี ไม่กล้าออกฤทธิ์...คนหน้าแปลกๆคอยจ้องอยู่ ทำไงได้คนมันสวยโดดเด่น.. ดูสิพี่วินมองกันเกียว... ฮึ!
     
     เพียงไม่นานก๋วยเตี๋ยวร้อนๆก็ถูกนำมาวางตรงหน้า พร้อมกับที่ชายหนุ่มขอเพิ่มอีกชาม แล้วเลื่อนชามนี้มาให้เธอ แล้วหยิบช้อนตะเกียบออกมาเช็ดถูด้วยกระดาษทิสชูสีชมพูแล้วยื่นส่งมาให้เธออีกครั้ง
     
          "นี่ๆนายลม"ยกมือขึ้นมาข้างหนึ่งทำท่าป้องปากไม่อยากให้คนที่นั่งโต๊ะถัดไปได้ยิน
     
         "อะไรอีกลิตา"
     
         "ฉันไม่กินผัก เปลี่ยนใหม่ได้มั๊ย"
     
         "ลิตาจะไม่มีปัญหาสักเรื่องได้มั๊ย"พูดแล้วก็รู้สึกปวดหัว จนอยากจะพาเธอคนนี้กลับไปส่งให้ไอ้หน้าจืดนั้นเสียจริงๆ อยากรู้นัก!มันทนได้อย่างไร นี่แค่ยังไม่ถึงชั่วโมงเขาอยากจับเธอโยนทิ้งหรือไม่ก็หักคอให้หายประสาทเสียไม่รู้ตั้งกี่รอบแล้ว
     
        อะไร!แค่ไม่กินผักถึงกับต้องว่ามีปัญหา มันยากตรงไหนแค่ขอให้เปลี่ยน เรื่องแค่นี้ทำมาเป็นอารมณ์เสีย อุสาห์ยอมมานั่งเป็นเพื่อนด้วยก็ดีเท่าไหร่แล้ว ไม่ได้อยากกินเลย... ของข้างทางแบบนี้ ไม่กล้าบ่นดังมีแต่ริมฝีปากที่ทำบ่นมุบมิบมุบมิบอย่างขัดใจ
     
       ก๋วยเตี๋ยวถูกนำมาวางอีกชาม ชายหนุ่มจัดอุปกรณ์ให้ตัวเองแต่ยังมองคนตรงข้ามที่เริ่มใช้ตะเกียบเขี่ยผักไปมา หน้าตาไม่ต้องพูดถึงบูดบึ้งจนเกินงาม สุดท้ายก็ต้องยอม..ทุกทีเลย!
     
          "เอ้า!ไม่กินอะไรก็ตักมาใส่ชามนี่"เลื่อนชามไปใกล้ๆ จนคนหน้ามุ้ยเริ่มดีขึ้น
     
          "ลูกชิ้นถ้าไม่กินก็ตักใส่มา เส้นเล็กนั่นอีกใส่ลงมาเลย"
     
          "นี่!ถ้ายังงั้นนายก็ยกชามไปเลยมั๊ยแล้วก็สั่งให้ฉันใหม่ดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา" 
     
       มองคนตรงหน้าที่เริ่มทำหงิกงอเถียงฉอดๆแทบไม่เว้นช่วง บางครั้งเธอก็ทำนิสัยเหมือนเด็กๆที่ถูกขัดใจ เรื่องเถียงนี่ก็ต้องยกให้คงไม่มีใครเกินแล้วหล่ะพอเห็นความนิ่งเงียบ เขาเองกลับอยากกวนอารมณ์โมโหของเธอซะงั้น! คนตรงหน้าเริ่มลงมือกิน โดยที่เธอยังไม่ได้ปรุงอะไรสักอย่าง
     
           "ลิตา ไม่ปรุงก่อนเหรอ"
     
           "ไม่อ่ะ อร่อยแล้ว "ปกติก็กินแบบ มายังไงก็กินอย่างนั้น เพราะทุกที่ที่ไปกินเกินร้อยอร่อยหมดไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มแล้ว แต่ร้านแบบนี้ อื่ม.. อร่อยเกินคาด!
     
       อร่อยแล้ว..!นี่เธอละเมอเผลอพูดหรือว่าเขาหูเพี้ยนไป คุณหนูลิตากำลังบอกว่า อร่อย กว่าจะลงออกมานั่งได้ ไม่ง่ายเลยนะ สารพัดปัญหาที่เธอหยิบยกมา หรือว่าหิวจริงๆไม่พูดไม่จาตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว จนอดเผลอยิ้มไปกับเธอไม่ได้ บร๊ะ..บทจะง่ายก็ง่าย
     
       หืม..ยิ้มอะไร ยิ้มทำไม บ้าหรือเปล่า นั่งมองแล้วก็ยิ้ม แต่เอ๊ะ..! นายนี่ยิ้มแล้วดูดีแหะ ดีกว่าไอ้หน้าบึ้งๆนั่งบ่นเป็นตาแก่ตอนอยู่ในรถเสียอีก นี่ถ้าไม่ติดว่าปากเสียชอบกวนอารมณ์ แถมยังเป็นคู่แค้นที่จ้องจะแย้งความรักคุณย่าของเธอแล้วไม่แน่อาจจะได้เป็น....อะไรดีน๊า...?!
     
         "ไม่กินใช่มั๊ยลูกชิ้น งั้นขอ"ครีบมาใส่ปากทันที ให้ไม่ให้ไม่รู้..อยู่ในปากลิตาแล้ว
     
         "!!"  เห็นคนครีบลูกชิ้นเข้าปากเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อยจนต้องลุกออกเดินออกไปที่หน้าร้านเพื่อสั่งเพิ่มใหม่ เห็นไหม๊ พอไม่ดื้อ ไม่เกเร เขาก็แสนดีขนาดไหน.. 
     
       เล่นลุกออกไปไม่บอกไม่กล่าว เล่นเอาคนโขมยลูกชิ้นเข้าใจผิด แค่นี้ก็ต้องโมโหด้วยลูกชิ้นลูกเดียวทำเป็นหวง ไม่เคยแย่งใครกินมาก่อนเลยนะ มันเป็นเรื่องยากสำหรับลิตาที่จะมาทำอะไรๆแบบนี้ แต่ไม่รู้ทำไม..ตอนนี้กลับรู้สึกปลอดโปร่งไม่ต้องมีฟอร์มเหมือนตอนที่อยู่กับเพื่อนสองคนนั้น ไปใหนมาใหนต้องดูดีเลือกแต่ร้านอาหารดีๆแพงๆ ร้านแบบนี้เหรอ.. ต้องพิจารณาใหม่เสียแล้ว ลิตา!
     
          "ผมให้เขาลวกให้ใหม่"
     
        ชามลูกชิ้นถูกชายหนุ่มนำมาวางบนโต๊ะ ถึงกับทำให้หญิงสาวตาโตด้วยความดีใจ ตอนแรกนึกว่าโมโหที่ถูกแย่งลูกชิ้นไป แต่พอเห็นแบบนี้แล้ว นายลมนี่! แบบว่า..ลิตาชอบคนเอาใจ.. 
     
         "ทำไมไม่ถามก่อน"ขอซะหน่อย เดียวจะหาว่าหมดลายถ้ายอมง่ายๆก็ไม่ใช่ลิตาน่ะสิ!
     
         "จะกินมั๊ยลิตา ถ้าไม่กินก็ไม่ต้องพูดอะไร"
     
         "กิน!"
     
         "ก็เท่านั้น"
     
      เข้าใจความท่ามากของเธอ เห็นแล้วว่าดีใจขนาดใหนตอนที่ชามลูกชิ้นลวกถูกนำมาวางไว้ตรงหน้า แต่ก็คงอดจะยียวนกวน...อะไรสักอย่าง?!ให้มันขึ้นเล่น จะรู้ตัวมั๊ยกว่าจะมาถึงตรงจุดนี้ได้ ต้องใช่ความอดทนอดกลั้นขนาดไหน จะรู้ตัวบ้างไหมว่าเธอนี่ ร้าย... เหลือเกิน!
     
       อิ่มจนแน่น ไม่แคร์แล้วคำว่าอ้วน ยิ่งตอนคิดตังค์แล้วยิ่งน่าตกใจ ไม่ถึงร้อยห้าสิบ ถูกเวอร์จนอยากแชร์...  ให้ใครหล่ะ?!รู้บ้าง สองคนนั้นเหรอ คงจะหัวเราะเยาะเธอแบบเวอร์ๆ ตามประสาคนหัวสูง! อืม... ไม่เป็นไรเธอรู้คนเดียวก็ได้ คิดแล้วก็รู้สึกเหงาในหัวใจ ทำไงได้วีรกรรมเธอมันเยอะจนคนรอบข้างระอา ก็บอกแล้วไง! แค่เรียกร้องความสนใจไม่มีใครเข้าใจลิตาเล้ย! 
     
         เธอจะรู้ตัวมั๊ย เวลาที่ไม่พูดอะไรออกมาเธอน่ารักน่าชังมากเพียงใด หลังจากออกจากร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางแล้วต่างคนต่างอิ่มแน่นจนไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกเลย มีบ้างที่เขาจะแอบชำเลืองมองเธอบ้างเป็นระยะ เพียงแค่อยากรู้ว่าทำไมเงียบไป มันผิดวิสัยของ.. ลิตา นั่งกอดอกนิ่งจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือลิตาที่ทั้งดื้อ ทั้งรั้น เถียงฉอดๆจนไม่รู้ว่าเธอหายใจบ้างหรือเปล่าตอนเถียงหน่ะ แต่.. แต่เธอพูดออกมาเท่านั้นแหละ
     
         "เอ๊า.. เอาเงินไปเดียวจะมาลำเลิกบุญคุณกัน นี่!  ที่เหลือถือว่าเป็นทิป ค่าน้ำมัน ค่าพาไปนั่งกินของข้างทางนั่นอีก อ่ะ รับไปซิ" จะได้รู้ว่าเธอก็ไม่เคยเอาเปรียบใคร เห็นมั๊ย..  อย่างลิตาถ้าดีมาก็ดีไป ไม่ได้ร้ายอะไรซักหน่อย มือบางที่มีเงินติดมาถูกยื่นส่งมาให้ตรงหน้าอย่างภูมิใจกับความคิด 
     
      ความน่ารักน่าชังของเธอมันก็หายไปทันที จนต้องถอนหายใจเบื่อหน่ายในความเป็นเธอ..   เบื่อหน่ายในความเป็นคุณหนูลิตา.. ที่ไม่มีอะไรสามารถเปลี่ยนเธอได้..  จริงๆ
     
          "เก็บเงินของคุณไว้เถอะลิตา"
     
          "ทำไม มันน้อยไปเหรอ อ่ะ งั้นฉันเพิ่มให้"รีบเปิดกระเป๋าอย่างกระตือรือล้นแล้วหยิบแบงค์ที่เหลือขึ้นมาสมทบรวมกับครั้งแรก
     
       ก็เพราะเธอเป็นแบบนี้ เป็นคนใจดีงัย ไม่เคยเอาเปรียบใครด้วย เงินแค่นี้มันยังน้อยไปสำหรับคืนนี้อย่างน้อยนายลมก็พาเธอไปรู้จักร้านข้างทางแบบนั้น ร้านที่ดูแย่ในสายตาเธอและเพื่อนอีกสองคน ที่ไม่มีทางแตะหรือชิมเป็นอันขาด แต่ตอนนี้เธอเริ่มคิดใหม่.. ไม่รู้สิ ว่าทำไมต้องคิดใหม่ อาจเป็นเพราะเขาคนนี้ก็ได้ ตบรางวัลให้ซะเลย..
     
          "ลิตา ผมบอกว่าให้เก็บไปไง" เริ่มอีกแล้ว เธอกำลังเริ่มสร้างอารมณ์นั้นขึ้นมาอีกแล้ว ละมือออกจากพวงมาลัยกอดอกมองไปข้างหน้าอย่างหมดอารมณ์ที่จะพูดอะไรกับเธอ
     
         "นี่ๆ นายลม ฉันตั้งใจให้นายจริงๆนะ " ตั้งใจให้จริงๆสาบาน..  ไม่ได้คิดกวนโมโหยั่วประสาทอะไร กับเพื่อนสองคนนั้นเธอก็ให้แบบนี้มาตลอดไม่เห็นจะเป็นไรเลย ออกจะดีใจด้วยซ้ำ แต่นายคนนี้ดันมาทำหน้าบึ้งใส่ทำไม เงินไม่ใช่น้อยๆเลยนะ! 
     
         "ลิตา คำว่า 'ขอบคุณ' พูดเป็นมั๊ย?"
     
         "เป็น"
     
         "ถ้าเป็น ก็พูดแค่ 'ขอบคุณ' แล้วก็ยก 'มือไหว้' แค่นี้แหละ มันดีกว่าที่จะเอาเงินออกมาฟาดหัวขอบคุณกันแบบนี้ลิตา"
     
         "นายกำลังเริ่มหาเรื่องฉันอีกแล้วนะ "
     
         "ผมไม่ได้หาเรื่อง แต่กำลังบอกเรื่องที่ควรทำ"
     
         "จะอบรมฉัน ว่างั้นเถอะ"
     
         "ลิตา! ผมไม่น่าดึงคุณออกมาเลย เสียเวลาจริงๆอุสาห์หวังดีแท้ๆ"
     
          "หวังดีเหรอ.. ถ้าหวังดีกับฉันจริงๆนายคงไม่พูอบ้าๆบอๆให้เพื่อนฉันเข้าใจผิดหรอก นายรู้มั๊ยว่าฉันเสียจะหายขนาดไหน แล้วยังมีหน้ามาพูดว่าหวังดี"
     
          "เสียหายด้วยคำพูดของผม ดีกว่าเสียหายด้วยการกระทำของไอ้บ้านั้น คุณรู้มั๊ยไอ้คู่ขาคุณมันพูดโทรศัพท์ในห้องน้ำกับเพื่อนมันว่าวันนี้จะขอฟันคุณ ผมได้ยินแบบนั้นแล้วคุณจะให้ผมทำยังไงบอกมาซิลิตา"  ว่าจะไม่พูดไม่บอกเรื่องที่ได้ยินมาเพราะคิดว่าไม่มีความหมายอะไรกับเธอหรืออาจจะโมโหมากกว่าเดิมก็ได้ที่ไปขัดขวางเส้นทางความสุขที่เธอต้องการ "ถ้าเป็นคนอื่นผมก็ไม่สนใจหรอก แต่นี่เป็นคุณ! เป็นหลานของคุณย่า! ผมถึงปล่อยไปไม่ได้ จะด่าผมต่อก็ได้ผมมันเสือกเอง!"
     
      เผื่อสมองน้อยๆของเธอจะรับฟังบ้าง แต่ก็นะ..เรื่องพรรค์นี้มันเข้าใครออกใคร เขาเองอาจจะเป็นคนผิด ผิดที่ไม่บอกตั้งแรกแล้วให้เธอตัดสินใจเอาเองว่าต้องการจะอยู่หรือกลับมากับเขา แล้วคนอย่างเธอ.. จะคุยดีๆกับเขามั๊ยหล่ะ 
     
         "เออ! ก็รู้ตัวหนิ เรื่องของฉันกับพี่ท็อป ฉันตัดสินใจเองได้ ไม่ต้องมายุ่ง!" อาจจะเสียความรู้สึกเล็กน้อยที่ได้ยินจากปากของชายหนุ่ม แต่การยอมรับอะไรง่ายๆ ลิตา.. ทำไม่ได้! 
     
      ไม่มีทางเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะยอมคนอย่างนายท็อป รู้จักกันมานานมีทั้งข้อดีข้อเสียก็เหมือนกับเธอไม่ต่างกัน แต่จะให้เอามาเป็นแฟนนะหรือ ฝันไปเถอะ!  เธอไม่ใช่คนสิ้นคิดขนาดนั้น แล้วนายนี่หล่ะ! จะมายุ่งอะไรถ้านายท็อปจะขอฟันจริง เธอไม่ยอมซะอย่างจะมาทำอะไรเธอได้ มันง่ายจะตายที่ปฎิเสธ! 
     
       วันนี้ก็พอดูออกว่านายท็อปนั้นดูจะถึงเนื้อถึงตัวเธอเกินเหตุ แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไรคบมานานแค่นี้ถือว่าพอรับได้ เธอไม่ใช่คนปล่อยเนื้อปล่อยตัวกับใครง่ายๆคิดว่าอีกเดี๋ยวก็จะกลับแล้ว ก็อยากสนุกให้เต็มที่ไม่อยากสร้างเรื่องให้พากันเซ็ง ก็พอรู้ตัวอยู่บ้างหรอก.. บางที
     
         "เข้าใจคำว่าหวังดีไหมลิตา ผมอุสาห์พาคุณออกมา แล้วต้องมาทนกับความเรื่องมากไร้สาระ นี่!บุญเท่าไหร่แล้วผมไม่ทิ้งคุณลงข้างทาง"ไม่ต้องมายุ่ง! ได้ยินแล้วถึงกับทำให้หัวเสีย ที่ไอ้ความหวังดีของเขามันกลายเป็น ยุ่ง สำหรับเธอ 
     
          "นี่! นายพูดยังกับว่าฉันขอร้องนายให้มาส่ง ขอร้องให้นายพาไปกินของข้างทางแบบนั้น ทำไมนายไม่คิดบ้างเล่าว่า นาย.. บังคับฉัน ฉันอยู่กับเพื่อนฉันอยู่ดีๆนายก็ไปลากออกมา แล้วไงยังไม่ทันไร ดูซิ! นายก็มาลำเลิกบุญคุณเป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิด ฉันไม่น่าไว้ใจคนอย่างนายเลยเลยจริงๆ" เหอะ! คิดไว้ไม่ผิดสุดท้ายก็ลำเลิกบุญคุณ แล้วใครหล่ะที่เป็นคนลากเธอออกมาบังคับโน่นนี่นั้นอุสาห์ใจดีไม่แผลงฤทธิ์แล้วนะ หือ.. จริง! ไม่ได้แผลงฤทธิ์อะไรเลย
     
      พูดแล้วก็เริ่มโมโห เงินถ้าไม่อยากได้ก็ไม่เป็นไรแต่ทำไมต้องมาโมโหใส่เธอและยังจะพูดว่าหวังดีกับเธออีก ถ้าไม่ทวงบุญคุณแล้วเขาเรียกว่าอะไร?! อย่างเธอไม่ชอบมีอะไรติดค้างใครเงินแค่นี้ ไม่สะเทือนกระเป๋าลิตาหรอก..! 
     
         "เอาไป!" วางเงินไว้หน้ารถตามความแรงของอารมณ์สุดท้ายก็กระจัดกระจายออกกัน
     
         "ลิตามันจะมากไปแล้ว!"
     
      ถึงกับโมโหทันทีกับท่าทางเหมือนดูถูกเงิน ดูถูกคนอย่างเขา บุญคุณบ้าบออะไรนั้นไม่เคยคิดทวง แค่อยากให้เธอรู้จักการแสดงการขอบคุณ ใช้แค่คำพูดที่จริงใจก็ได้ ไม่ใช่คิดแต่จะเอาเงินออกมาขอบคุณใครต่อใคร มันใช้ไม่ได้กับทุกคนหรอก อย่างน้อยก็เขาคนหนึ่ง มือหนาคว้าขอมือของคนที่ชอบสร้างปัญหา จับยึดไว้อย่างแน่นหนา ไม่รอดแน่.. ถ้ายังไม่ได้ยินในสิ่งที่ต้องการออกจากปากของเธอ
     
       "คุณยังไม่ได้พูด ขอบคุณ ผม"
     
       "ก็นี่ไง มันก็เหมือนๆกันนะแหละ"  ยังไม่วายหมดฤทธิ์ นิ้วชี้จากมือที่ว่างจิ้มไปตามเงินที่กระจัดกระจายที่คอนโซลหน้ารถ
     
       "พูดว่า ขอบคุณ ไม่ใช่เอาเงินมาโยนให้แล้วคิดว่าผมจะดีใจ หัดทำอะไรอย่างที่คนปกติเขาทำบ้างลิตา"
     
       "ไอ้ลม! ที่ฉันให้เงินแกเพราะฉันอยากให้ เงินแค่นี้มันไม่ทำให้ฉันรู้สึกเสียดายหรอก แต่แกมีสิทธิ์อะไรมาด่าว่าฉันไม่ปกติ"
     
       "แล้วที่คุณทำอยู่มันเรียกว่าปกติไหมลิตา! "
     
       "ปกติ!! ฉันก็ทำแบบนี้มาตลอด ไม่เห็นมีใครจะเรื่องมากอย่างแกเลย อ๋อ..  หรือว่าต้องการมากกว่านี้ ได้! เดียวฉันออกไปหยิบมาให้ บอกมาตั้งแรกก็สิ้นเรื่อง" พอกันที!หลงดีใจว่า ไอ้บ้านี่!ยังพอคบกันได้ พอมาด่าว่ากันมากๆมันก็ไม่ไหวจะทน! เออ! เธอไม่ดี! เธอบ้า! เธอไม่ปกติ! พอใจหรือยัง ไอ้บ้าลม!
     
        "ลิตา!" ไม่ไหว.. ทนไม่ไหวแล้ว ลิตา! เถียงทุกคำทุกประโยคและยังจะดูถูกเขาเป็นคนเห็นแก่เงิน อะไรที่ทำให้เธอคิดแบบนี้ได้ ทำไงดี ทำไงดี หึ! โมโหจนทนไม่ไหว เผลอดึงเข้ามาจูบปิดปากอย่างไม่รู้ตัว ไม่ตัวจริงๆว่าทำไปได้อย่างไร แค่ไม่อยากได้ยินเสียงแว้ดๆของเธอที่ดังจนแสบแก้วหู แล้วยังจะเถียงจนแทบจะไม่หายใจหายคอกันเลย 
     
       เป็นงัย?! เงียบ... ดีมั๊ย  เอาสิ! ยิ่งทุบยิ่งกดแน่น  ยิ่งหยิกยิ่งข่วน.. ก็ยิ่งดูดเม้ม ยิ่งขัดขืนรึ.. อืมห์ กอดแน่นๆซะเลย เป็นงัยจะหมดฤทธิ์ได้หรือยัง? ยังไม่หมดใช่มั๊ย?! งั้นต่อ...  
     
      สองมือออกแรงทุบคนที่ใช้กำลังปล้นจูบเธออย่างไม่ปราณี รสชาดจูบแรกเป็นยังไงไม่รู้ รู้แต่ว่า ไอ้บ้านี่! มีสิทธิ์อะไรมาทำกับเธอแบบนี้ เอาสิ! ถ้ายอมให้จูบกันง่ายๆแบบละครหลังข่าวแล้ว คงไม่ใช่ลิตาแล้วหล่ะ! นี่แน่ะ! จิกดึงทึ้งผมมันซะเลยทนเจ็บได้ให้มันรู้ไปที่จะไม่ยอมเลิกถอนจูบจากปากเธอ แต่.. เจ็บอ่ะ
     
      ก็มันเริ่มเจ็บจริงนะซิ! แม่ตัวดีเล่นจิกหัวดึงผม จนต้องรวบมืออีกข้างที่ว่างเข้ามารวมไว้จนเผลอกดเม้มแรงไปหน่อย มันหมั่นเขี้ยวด้วยหนิ! ขนาดทั้งดื้อ ทั้งดิ้น สู้ตายสุดฤทธิ์.. ยังหอมหวานเกินห้ามใจจนหยุดตัวเองไม่ได้ แต่พอเริ่มได้รสชาดหวานประแล่มๆติดปลายลิ้นเพียงเท่านั้น "อุ๊ย" ลิตา! เขาเผลอขบเม้มแรงไปหน่อย ตามความร้อนแรงของคนในอ้อมกอด สุดท้ายมีหรือที่ผิวเนื้ออ่อนริมฝีปากล่างด้านในจะทนได้
     
        "ลิตา.. "
     
       "ไอ้บ้าลม! เจ็บนะ"
     
       รีบปล่อยมือทั้งสองข้างให้เป็นอิสระก่อน ก่อนประคองใบหน้าด้วยมือข้างหนึ่งส่วนอีกข้างจับลงบนคางมนได้รูปแล้วใช้ปลายนิ้วโป้งเปิดริมฝีปากล่างของคนเจ็บเพื่อดูด้านใน เห็นรอยแผลเล็กน้อยแต่ยังมีเลือดซึมออกมาให้เห็น ยิ่งเห็นหัวคิ้วขมวดยุ่งเพราะความเจ็บด้วยแล้ว... 
     
        "เจ็บมากมั๊ยลิตา?"
     
        "แกก็ลองปากแตกดูบ้างสิ จะได้รู้ว่าเจ็บมั๊ย"
     
      โห! ยังพูดได้ขนาดนี้คงไม่ต้องถามต่อให้เสียอารมณ์แล้ว..  แต่.. เห็นผิวแก้มเธอแดงระเรื่อจางๆ เธอกำลังเขิลเขาอยู่ใช่มั๊ย?! ลิตา..
     
        "ลิตา.. มองแบบนี้จะกัดคืนใช่มั๊ย? งั้นอ่ะ"ยื่นหน้าไปใกล้ๆ จนรู้สึกถึงลมหายใจของคนตรงหน้า แววตาสุกประกายกับการหยอกล้อยั่วคนเขิล.. แต่มีฟอร์ม
     
        "นี่งัย" กระเป๋าถือแบบครัทช์ถูกจับฟาดใส่คนตรงอย่างแรง ข้าวของในกระเป๋าที่มีแค่เครื่องสำอางค์ไม่กี่ชิ้นหล่นกระจัดกระจายคนละทิศคนละทาง
     
     เป็นไงจะได้รู้ฤทธิ์จริงๆซะที เธอไม่ง่ายอย่างที่คิด ดีแต่ว่าคนอื่นอยากจะฟันเธอ ไอ้ที่ทำอยู่มันต่างจากคนอื่นตรงไหน หึ!ยังมีหน้ามาทำกรุ่มกริ่มใส่อีกโดนแค่นี้มันยังน้อยไป!
     
        "พอได้แล้วลิตา" กระเป๋าอันนุ่มนิ่มมันไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับเขาเลยสักนิด แต่มันสร้างความหงุดหงิดที่ต้องค่อยไล่คว้าจับมือเธอ แล้วยังจะข้าวของข้างในกระเป๋าที่ไม่รู้มีอะไรบ้างหล่นกระจัดกระจายไปทั่วด้านในรถ
     
        "แกทำกับฉันแบบนี้ แค่นี้มันยังน้อยไป"
     
        "แล้วคิดว่าผมอยากจูบคุณให้ซวยปากผมเหรอลิตา"
     
        "ไอ้ลม!"
     
         "ลงไปได้แล้ว พรุ่งนี้ผมต้องตื่นแต่เช้า ไปหา... น้ำมนต์มาบ้วนปากล้างซวย!"เป็นไงเป็นกัน!ว่าจะอ่อนเข้าหาแล้วนะ แต่เธอก็.. อย่างที่เห็น ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้อยู่อีก มีหวังเขาซ้ำรอยเดิมแน่..! ก็ติดใจในความหวานนะสิ นายลมรัก.... 
     
          "บ้วนปากล้างซวยใช่มั๊ย นี่ๆๆๆๆ" รองเท้าส้นสูงถูกถอดออกมาข้างหนึ่งกระหน่ำฟาดคนปากเสียอย่างผิดหวัง เสียใจ โมโห ที่มาว่า ปากเธอซวย"นี่!"อีกครั้ง ส่งท้าย แล้วรีบเปิดประตูรถออกไปอย่างหัวเสียรองเท้าส้นสูงเพียงข้างเดียวที่ยังใส่ติดถูกถอดออกเขวี้ยงกระเดนไปไกล แล้ววิ่งเท้าเปล่าไปที่ประตูใหญ่อย่างหัวเสีย อย่ามาให้เห็นหน้ากันอีกนะ.. แล้วจะทำไม?! ไม่รู้.. ลิตาโกรธ..!
     
         มองอาการที่วิ่งออกไปแล้วต้องส่ายหน้า ยิ้มอย่างระอากับฤทธิ์เดชของเธอ นี่ถ้าใครได้ไปเป็นเมียนะ.. นรกชัดๆ ก่อนจะปลดปล่งมองดูข้าวของที่กระจายอย่างวิเคราะห์ นี่มันสงครามขนาดย่อมๆเลยนะนี่ แลัวยังรองเท้าส้นสูงที่เขวี้ยงใส่ก่อนออกไป มันยังค้างนิ่งบนพวงมาลัยรถอย่างสง่าผ่าเผย หืม..  ซินเดอลิตา!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×