ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ผู้กล้าที่มีแต่น้ำตาอีกครั้ง
คุณศจีมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูบานใหญ่พร้อมกับคนรับใช้ยืนถือพวงกุนแจรออยู่ห่างถัดไป มือที่เหี่ยวย่นออกแรงเคาะเรียกหาคนด้านให้เปิดประตูอยู่นาน จนเริ่มอ่อนใจ
ใครจะว่าคนแก่อย่างเขาตามใจหลานจนนิสัยเสียอย่างไรก็ไม่เคยสน จะมีสักกี่คนที่เข้าใจความรู้สึกของหลานสาวคนเดียวที่คนเป็นย่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกว่าเป็นอย่างไร หลายครั้งที่โดนตำหนิเรื่องนิสัยของหลานสาวที่เป็นแบบนี้ก็เพราะคนเป็นย่าคอยให้ท้าย..
"คุณท่านคะไขประตูดีกว่าคะ คงจะไม่ยอมเปิดง่ายๆเหมือนที่ผ่านมาแน่ๆเลยคะ"
คนรับใช้แสดงความคิดเห็นเพราะยืนเคาะเรียกอยู่นานจนคิดว่าไม่เปิดออกมาแน่ เพราะดูท่าทางแล้ว อาการ.. หนัก!
"ลิตาย่าบอกให้เปิดประตู ได้ยินมั๊ยลิตา ลิตา"คุณศจียังคงพยายามร้องเรียกอีกครั้ง "ย่าคิดว่าลิตาโตพอที่เราจะมาคุยกันด้วยเหตุแล้วซะอีก นี้อะไรยังทำตัวเป็นเด็กให้ย่าตามง้ออีกหรือ ย่าแก่แล้วนะจะตายเมื่อไหรก็ไม่รู้ เกลียดย่ามากหรืองัยถึงไม่ยอมเปิดประตู ลิตา"
ใครจะว่าคนแก่อย่างเขาตามใจหลานจนนิสัยเสียอย่างไรก็ไม่เคยสน จะมีสักกี่คนที่เข้าใจความรู้สึกของหลานสาวคนเดียวที่คนเป็นย่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกว่าเป็นอย่างไร หลายครั้งที่โดนตำหนิเรื่องนิสัยของหลานสาวที่เป็นแบบนี้ก็เพราะคนเป็นย่าคอยให้ท้าย..
พอสิ้นประโยคสุดท้ายเพียงเท่านั้นประตูห้องนอนบานใหญ่เปิดออกทันที พร้อมร่างบางที่ใบหน้าเปอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาสองแขนเรียวเข้าโอบรัดเอวของคนเป็นย่าอย่างหวงแหน
"คุณย่าขา...ลิตารักคุณย่า ลิตาไม่เคยเกลียดคุณย่าเลยสักครั้งคุณย่าเชื่อลิตานะค่ะ"
ร่างบางสั่นหวั่นตามแรงสะอื้นจนคนเป็นย่าต้องลูบหลังปลอบใจอย่างอ่อนโยน เป็นแบบนี้ทุกครั้งไปที่เห็นหน้าหลานสาวพูดจาออดอ้อนออกมา
"ถ้าลิตารักย่า ก็ต้องฟังย่าบ้าง เราเข้าไปคุยข้างในกันนะ"
หญิงสาวพยักหน้ารับ มือบางป้ายน้ำตาไม่ต่างอะไรกับเด็กๆ ที่ต้องยอมรับเงื่อนไข
คนรับใช้ปิดประตูออกไปเพราะดูแล้วคงจะโดนสวดหลายบท ก็น่าอยู่หรอก วันนี้แม่คุณหนูลิตาเธอเล่นบท ร้าย..ได้ใจ ไปกว่าทุกครั้ง
"ไปเกลียดอะไรพี่เขาหนักหนาลิตา ไหนลองบอกย่ามาซิ"
"ก็...ลิตากลัว กลัวคุณย่ารักมันมากกว่าลิตานิคะ" ลูกก็ไม่ใช่! หลานก็ยิ่งไม่ใช่! ไอ้บ้านนอกนี่มาทีไรคุณย่าก็เอาแต่สนใจมัน ถึงจะแม้ไม่เจอกันมานานก็เถอะ แต่ทุกครั้งที่มันมาคุณย่าก็มักเอาแต่พูดเรื่องของมันให้ฟัง แล้วงัย..?! ลิตาไม่ปลื้ม! ลิตาอิจฉา! ลิตายอมรับ..
คุณศจีฟังคำอธิบายกึ่งงอนเล็กๆ ของหลานสาวอย่างอ่อนใจ จนต้องอมยิ้มส่ายหัวออกมากับความคิดของคนที่เริ่มออดอ้อนอย่างรู้ทัน..ลิตากำลังเบี่ยงเบนความผิด
"ลิตาฟังย่านะ ไม่มีใครมาแย่งความรักของย่าที่มีต่อลิตาได้หรอกลูก พี่ลมเขาเป็นคนดีย่าเห็นเขามาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่พ่อกับแม่ลิตายังไม่เจอกันด้วยซ้ำ พ่อแม่ของพี่เขาก็เป็นคนดี ถึงจะแค่คนสวนคนขับรถในบ้านเรา ลิตาก็ไม่ควรจะไปดูถูกเขาแบบนั้นนะลูก"
"คะ..ลิตาทราบ แต่ตอนนั้นลิตาโมโหลิตาก็เลยพูดออกไปไม่ทันคิด"
เธอไม่เคยคิดดูถูกบุพการีของใคร เพราะพ่อแม่ใครใครก็รักแล้วยิ่งพ่อแม่ของนายนั่นคุณย่าเล่าความดีให้ฟังมาตลอดตนเองก็เคารพเลื่อมใสไม่ต่างกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่ฐานะเสมอกันถึงแม้จะเคยเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งก็ตาม
คุณศจีมองหน้าหลานสาวที่ยอมรับผิดอย่างนิ่งเงียบดวงหลุบต่ำลงอย่างคนสำนึกได้ คนเป็นย่าเข้าใจดีว่าเธอสำนึกผิดจริงหากไม่แล้วก็คงเถียงไม่หยุดหรือไม่ก็แสดงอาการปั้นปึ่งใส่
"ลิตาโตแล้วนะลูก ไม่ควรเรียกพี่เขาว่า ไอ้ หรือ มัน อีก พี่เขาก็มีชื่อเรียกทำไม่เรียกใหนลองเรียกว่า พี่ลม ซิย่าอยากฟัง" คุณศจีบอกหลานสาวอย่างใจเย็นเพราะรู้จักนิสัยความเอาแต่ใจของคนนั่งฟังที่เริ่มทำหน้ามุ้ยหลังจากให้เรียก พี่ลม
"ลิตาไม่เรียกหรอกคะ คนอย่างนายนั่นไม่เหมาะที่จะให้ลิตาเรียกว่าพี่หรอกคะคุณย่า"
ไม่จะอยากเล่า คนดีของคุณย่าเคยสร้างวีระกรรมอันเลวร้ายใส่เธอมาก่อน สมัยที่เป็นเด็กเธอชอบเรียกร้องให้พี่เลี้ยงคนสนิททำโน่นทำนี้สารพัด ไม่เคยมีใครกล้าพูดบ่นอะไรออกมา แต่ไอ้บ้านั่นดันบอกว่าเธอเหมือนคนเป็นหง่อย พิการทางสมอง จนพี่เลี้ยงที่ได้ยินยังเผลอหัวเราะออกมา ยิ่งเกลียดขี้หน้าอยู่แล้วพอมาพูดแบบนี้ใส่เธออีกอย่างหวังจะได้ญาติดีกันอีกเลย ไอ้ลม!
"ลิตา..ทำไมถึงพูดแบบนี้ ..นับวัน.. ย่าเริ่มผิดหวังในตัวลิตาลงไปทุกที"คุณศจีแสดงสีหน้าผิดหวังกับหลานสาวที่แสดงอาการแข็งกร้าวในเรื่องที่กำลังตักเตือน ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป อนาคตในภายภาคหน้าคนที่จะลำบากก็คือลิตาเอง
"คุณย่า..ทำไมค่ะ?! มันไม่ญาติพี่น้องอะไรกับลิตาแล้วจะให้ลิตาไปเรียกมันว่าพี่ทำไม?!"
"ลิตา!! จะใช่ญาติหรือไม่ใช่ญาติเราก็ควรเรียกพี่เขาให้ดีกว่านี้ ถ้าลิตาคิดแบบนี้ลิตาก็เรียกย่าว่า 'อี' อีกคนซิ"
หญิงสาวถึงกับหน้าเสียที่คนเป็นย่าออกรับแทนกันขนาดนี้และยังเอาตัวเองไปเป็นหลักให้เปรียบเทียบในการเรียกขานอีก
"คุณย่า..คุณย่าใม่รักลิตาแล้วหรือคะ ทำไมคุณย่าต้องปกป้องมันด้วย"น้ำตาเริ่มคลอหน่วยเตรียมหลั่งรินอีกครั้ง "คุณย่าก็เห็น มันเป็นลูกผู้ชายแท้ๆยังเอารองเท้าปาใส่หน้าลิตาเลย คนดีๆที่ใหนเขาไม่ทำหรอกคะ"
"หืม.. นั้นสิรองเท้าของตัวเองแท้ๆมันลอยมาจากพี่เขาได้อย่างไร? ถ้ามันไม่ถูกปาออกไปหาเขาก่อนจริงมั๊ยลิตา"
คุณศจีมองหน้าคนที่พูดเอาดีเข้าหาตัว คงไม่คิดว่าคนเป็นย่าเดินตามออกมาเพราะลืมบอกว่าให้ชายหนุ่มเข้ามาหาในวันพรุ่งนี้เพราะมีธุระบางอย่างที่ต้องการฝากฝังไว้ล่วงหน้า แต่ก็ดันมาเห็นแม่หลานสาวตัวดียืนหลบมุมเตรียมตัวเล่นงานอย่างเต็มที่
คนผิดเริ่มรู้ตัว ว่าทุกอย่างคงอยู่ในสายตาของคุณย่าแน่ๆ หากไม่เช่นนั้นคุณย่าต้องปล่อยเรื่องเลยตามเลยอย่างที่เคยๆทำมาแล้ว หากยิ่งเห็นน้ำตาของเธอแล้วคุณย่ามักจะรีบปลอบโยนแกล้งเข้าข้างเธออย่างที่เคยทำมาทุกครั้ง แต่ว่าในครั้งนี้.. คุณย่าเปลี่ยนไปคุณย่าไม่เข้าข้างเธอแล้วยังจะแก้ต่างให้ไอ้บ้านั้นอีก! คุณย่า.. คุณย่ากำลังเปลี่ยนไป..
"คุณย่าคงไม่ได้ยินที่มันว่าลิตาทำ นิ..สัย ต่ำ..ต่ำ ใช่มั๊ยค่ะ" พยายามบอกเล่าที่ถูกชายหนุ่มด่าออกมาแต่ก็เล่าออกมาไม่เต็มเสียงนักเพราะเริ่มรู้ตัวแล้วว่าต้อนนี้สีข้างของเธอเริ่มเป็นแผลถลอกจนแสบไปหมดทั้งตัวแล้ว ลิตา!
"ได้ยินสิ ย่าได้ยินทุกอย่าง ลิตาลองคิดดูนะถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ลมแต่เป็นคนอื่น ลิตาคิดว่าเขาจะทำแค่นั้นหรือลูก ขนาดย่าเป็นคนฟังย่ายังอยากจะลงไม้ลงมือที่ไปดูถูกเขาขนาดนั้น"
ถ้าเป็นผูัชายคนอื่นหรือใครก็ตามแต่ หลานสาวตัวดีคงได้ลงไปนอนสลบกับพื้นแล้วก็เป็นได้ ดันเล่นไปดูถูกกันถึงพ่อถึงแม่เขา ยังดีที่ว่าชายหนุ่มยังพอจะเข้าใจแม่หลานสาวตัวดีอยู่บ้าง โดนแค่นี้ถือว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ
คุณศจีลอบมองคนจนมุม มือเหี่ยวย่นขยับขึ้นลูบหัวอย่างรักใคร่เอ็นดูจะมีใครรู้ในความเอาแต่ใจตัวเอง หวีน เหวี่ยง ไร้เหตุผลของคนตรงหน้านี้ ลึกๆแล้วลงไปแล้ว เธอโหยหาความรักมากขนาดไหน นิสัยที่แสดงออกมาเพียงเพื่อปกปิดป่มด้อยในใจของตัวเอง หากได้สัมผัสตัวตนของเธอแล้วจะรู้ว่าเธออ่อนแอ เจ้าน้ำตา และยังจะขี้อ้อนมากเสียด้วย แต่จะมีใครรู้และสัมผัสมันได้เล่า.. นอกจากคนเป็นย่าของเธอ
"ลิตาโตแล้ว ย่าก็แก่ลงไปทุกวันจะอยู่กับลิตาไปได้นานขนาดใหน ลิตาต้องหัดเปิดใจคุมอารมณ์ตัวเองให้มากกว่านี้นะลูก"คุณศจีพยายามพูดเตือนสติหลานสาวด้วยรู้เนื้อแท้ของคนตรงหน้านั้นไม่ได้มีจิตใจที่เลวร้ายอะไร หากแต่ในบางครั้งขาดสติยั้งคิดด้วยเป็นเด็กที่เอาแต่ใจมานาน
"คุณย่าขาอย่าพูดแบบนี้ ลิตากลัว..ฮือ...ฮือ.. ถ้าไม่มีคุณย่าก็ไม่มีลิตาคะ คุณย่าได้ยินมั๊ยค่ะ" ใจจะขาดที่ได้ยินคุณย่าพูดเหมือนกำลังจะทิ้งเธอไปอีกคน ชีวิตนี้เธอไม่เหลือใครแล้ว แล้วจะอยู่ไปทำไมสู้ตายตามคุณย่าเสียดีกว่า ไม่มีคุณย่าก็ไม่มีลิตา
"ลิตา! หนูพูดอะไรออกมา" คุณศจีถึงกับหน้าถอดสีที่ได้ยินคำพูดของหลานรัก ไม่คิดเคยคิดเลยจริงๆว่าจะได้ยินประโยคนี้ออกมา
"คุณย่าขาลิตาอยู่ไม่ได้ถ้ามีคุณย่า คุณย่าได้ยินมั๊ยคะ..ฮือ..ลิตารักคุณย่าเหลือเกิน ชีวิตนี้ลิตาขาดคุณย่าไม่ได้ถ้าคุณย่าจะเป็นไรไปลิตาจะตามคุณย่าไปด้วย.."
"โธ่..หลานย่า"
คุณศจีถึงกลับกลั้นน้ำตาไม่อยู่พร้อมเข้าโอบกอดหลานรักจนปวดร้าวในอกพูดอะไรไม่ออกจนใจเหลือเกินที่นั่งพร่ำบ่นอะไรออกมาอีก นึกอดสู่กับโชคชะตาของหลานสาว ชีวิตที่เพียบพร้อมไปด้วยทรัพสมบัติมหาศาลที่ใครๆก็คิดว่าจะนำพาความสุขมาให้ในชีวิตอย่างที่ทุกคนต่างวาดหวัง แต่กับลิตาไม่เลย เธอต้องการแค่ความรักความอบอุ่นจากครอบครัว พร้อมหน้าพร้อมตาทั้งพ่อแม่ สำหรับลิตาแล้วเงินมากมายขนาดใหนเธอก็ไม่มีทางซื้อมันกลับคืนมาได้ หลานสาวที่ขาดทั้งพ่อทั้งแม่คุณศจีจึงทุ่มเททุกอย่างให้หลานอย่างเต็มที่ เพราะเป็นดั่งกล่องดวงใจดวงสุดท้ายในชีวิตที่เหลืออยู่
ครอบครัวคุณศจีเป็นเศรษฐีเก่า ในสมัยก่อนก็ปล่อยเงินกู้แล้วยังสามีที่ล่วงลับไปก่อนก็มีอาชีพเป็นนายหน้าค้าที่ดินและยังปลูกตึกแถวให้เช่าในย่านการค้าอีกมากมาย แค่เพียงลำพังค่าเช่าในแต่ละเดือนที่ได้รับอาจจะมากกว่าเงินเดือนของพนักงานหลายคนที่รวมกันทั้งปี
คุณศจีมีลูกชายเพียงคนเดียว หลังจากแต่งกันได้ไม่นานก็มีลิตาหลานสาวคนแรกที่ทั้งรักทั้งหลงกันทั้งบ้าน พอลิตาอายุเพียงหกขวบ ก็เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างไม่คาดคิด ทั้งลูกชายและลูกสะใภ้จะจากไปพร้อมกันแต่ลิตารอดอย่างปาฎิหาริย์แต่ก็ได้บาดเจ็บอยู่พอสมควรและนานกว่าจะได้ออกมาจากโรงพยาบาลแต่เพียงไม่นานเธอก็ต้องเข้าการบำบัดจิตอีกครั้งเพราะอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตของคนเป็นพ่อเป็นแม่ไปนั้น ได้ฝังลงจิตใจของเด็กหญิงแค่เพียงวัยหกขวบ
หลังกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้เพียงไม่นาน ลิตามักตื่นขึ้นมากรีดร้องในยามค่ำคืนหรือบางครั้งก็เศร้าซึมน้ำตาใหลโดยไม่มีเสียงสะอื้นใดๆออกมาแต่จะใหลมาไม่ขาดสาย จนต้องพาไปพบแพทย์และถูกแนะนำให้เข้ารับการบำบัดจิตเพราะอุบัติในครั้งนั้นลิตาไม่ได้สลบไป เด็กน้อยอย่างลิตาอาจเห็นหรือจำเหตุการณ์ในครั้งนั้นฝังใจมาตลอดและอาจเป็นภาพสุดท้ายของพ่อแม่ที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือด
แต่เด็กที่ขาดความอบอุ่นขาดความรักจากพ่อแม่มักทำให้เธอกร้าวร้าวเรียกร้องความสนใจ ถ้าไม่ได้ดั่งใจก็มักกรีดร้องลงนอนกับพื้น ถ้าขัดใจมากๆถึงขนาดชักตัวเกร่งจนต้องหามส่งโรงพยาบาลมาแล้ว คุณนายศจีกลัวว่าเสียหลานสาวไปอีกคน ถึงกับต้องบอกว่าไม่ว่าหลานสาวต้องการอะไรถ้าย่าหามาให้ได้ย่าจะรีบหามาให้ทุกอย่าง ขอแค่ ลิตาอย่าทิ้งย่า.....ย่ายอมแล้วลูก....
ความรักที่ทุ่มเทให้มากไปก็กลายเป็นเหมือนดาบสองคม ลิตารักและหวงย่ามากกลัวแต่ว่าจะมาแย่งความรักไป ยิ่งเรื่องเอาแต่ใจตัวเองจนคนรอบข้างระอา เพื่อนฝูงแทบจะไม่มีใครคบ ที่ทนคบกับลิตาส่วนมากก็เป็นพวกหวังผลประโยชน์เสียทั้งนั้น เรื่องรูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้เป็นสองรองใครเลย หากแรกพบใครๆก็มักสนใจตามจีบแต่เพียงไม่นานก็หายหน้ากันไปหมด ลิตาเองก็ไม่เคยให้ความสำคัญกับใครสักคน ยิ่งบางคนตื้อมากเธอก็อาระวาดแผลงฤทธิ์เสียเอง เจอเข้าไปแบบนี้แล้วใครจะทนไหวหากไม่แกร่งจริง...ทนจริง อย่าได้หวังจะมาคู่กับลิตาเลย..
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น