ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มารู้จัก Gundam กันเถอะ

    ลำดับตอนที่ #3 : Mobile Suit Gundam 0083 : Stardust Memory

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 57


    เป็นเรื่องราวการต่อสู้หลังจากที่ซีออนพ่ายแพ้ในศึกที่ ป้อมปราการอวกาศ อาบาวคู และมีซีออนกลุ่มหนึ่งหนีออกจาก อาบาวคู ไปซ่อนตัวเพื่อรอเวลาแห่งการแก้แค้น และ เพื่อความหวังที่จะจุดประกายความหวังให้กับเหล่าทหารซีออน นั้นคือแผนการขโมยโมบิลสูทรุ่นใหม่ของพันธมิตร กันดั้มที่กำลังพัฒนาขึ้นโดยใช้คอนเซปต์ทางอาวุธของโมบิลอาร์มเมอร์ ในการสร้างโดยใช้ชื่อว่า GP (Gundam development Project) โดยมีอนาเวล กาโต้ ฉายา "ฝันร้ายแห่งโซโลมอน" เป็นหัวหอกให้แผนปฏิบัติการนี้เป้าหมายคือการขโมยกันดั้มเครื่องทดสอบ เครื่องที่2 GP-02 ซึ่งมีการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์นับเป็นการละเมิดสนธิสัญญาแอนตาร์กติก หากเขานำมันไปเปิดเผยแก่สายตาชาวโลกจะมีผลทางการเมืองที่จะเป็นประโยชณ์แก่ซีออน แต่ อุรากิ โค นักบินทดสอบได้เผชิญหน้ากับเขาระหว่างการขโมยกันดั้ม GP-02 และเข้าขัดขวางโดย โค อุรากิ นั้นขับโมบิลสูทกันดั้ม GP-01 (ซึ่งภายหลังได้อัพเกรดเป็น GP-01Fb (Full burner)) ในการเข้าต่อกรเพื่อการชิงกันดั้มกลับคืนมา หลังจากที่กันดั้มถูกขโมยไปได้นั้น โค อูรากิ ได้รู้ถึงความน่ากลัวของสงคราม และตัดสินใจเลือกที่จะเผชิญหน้าแทนการหนีจากความจริง

    กันดั้มโปรเจกต์ (GP)

    โมบิลสูทของกันดั้มโปรเจกต์นั้นได้รับการพัฒนาโดยบริษัทแอนาไฮม์อิเล็กทรอนิก โดยใช้ข้อมูลของ RX-78 และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆให้เหนือกว่าที่ใช้งานอยู่ในขณะนั้น หลังจากเนื้อเรื่องของกันดั้ม 0083 ซึ่งกันดั้มโปรเจกต์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายโดยกองกำลังของเอกิล ดีลาซ อดีตนายทหารแห่งอาณาจักรซีอ้อน จากเหตุการณ์นี้ นายพลจามิทอฟ ไฮแมนแห่งสหพันธ์โลกได้ฉวยโอกาสจากความวุ่นวายตั้งกองกำลังพิเศษ ทิทานส์ และปิดบังเรื่องของกันดั้มโปรเจกต์รวมถึงเทคโนโลยีที่พัฒนาระหว่างนั้นจาก สาธารณชน ทำให้โมบิลสูทในกันดั้มโปรเจกต์มีสมรรถนะที่สูงกว่าโมบิลสูทในช่วงเวลาต่อมา เสียอีก

    ชื่อของโมบิลสูทที่พัฒนาในแผนกันดั้มโปรเจกต์จะตั้งตามดอกไม้ชนิดต่างๆ

    RX-78 GP00 บลอสซัม
    เรียกสั้นๆว่า GP00
    RX-78GP00 กันดั้มบลอสซัมปรากฏตัวครั้งแรกในนิตยสารเด็นกิฮอบบี้แม็กกาซีนฉบับเดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2545
    เนื้อเรื่องประกอบของกันดั้มบลอสซัมระบุว่ากันดั้มบลอสซัมเป็นเครื่องทดสอบ ดั้งเดิมของกันดั้มโปรเจกต์ที่เตรียมใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีทั้งหมดใน เครื่องเดียว กันดั้มบลอสซัมสามารถประกอบกับยานคอร์บูสเตอร์ทูว์เพื่อใช้เพิ่มอัตราขับ เคลื่อนได้ ด้านอาวุธจะใช้บีมไรเฟิลขนาดใหญ่ที่มีพลังทำลายสูง กันดั้มบลอสซัมยังมีอุปกรณ์รูปร่างเหมือนจานเรดาร์ซึ่งเป็นระบบนำร่องด้วย อนุภาคไมนอฟสกี้ซึ่งเรียกว่า MPIWS (Minovsky-Particles Interference-Wave Searcher)

    เนื่องจากข้อจำกัดของเทคโนโลยีในขณะนั้น แผนการทดสอบเทคโนโลยีทั้งหมดในเครื่องเดียวจึงไม่ประสบความสำเร็จ บีมไรเฟิลซึ่งเป็นอาวุธหลักนั้นไม่สามารถยิงได้ต่อเนื่องและระบบนำร่อง MPIWS นั้นขาดความเที่ยงตรงในการค้นหาเป้าหมาย ระหว่างการทดสอบกันดั้มบลอสซัมได้ถูกทหารซีอ้อนที่เหลืออยู่โจมตีและถูก ทำลายในการต่อสู้ บริษัทแอนาไฮม์อิเล็กทรอนิกจึงเปลี่ยนแผนการเป็นการแยกพัฒนาโมบิลสูทสำหรับ เทคโนโลยีต่างๆโดยเฉพาะแทน

    RX-78 GP01 เซฟิรันธีส
    เรียกสั้นๆว่า GP01
    RX-78GP01 กันดั้มเซฟีรันเธสเป็นโมบิลสูทตัวเอกเครื่องแรกของกันดั้ม 0083 กันดั้มเซฟีรันเธสมีลักษณะเป็นโมบิลสูทแบบมาตรฐานและมีลักษณะใกล้เคียงกับ RX-78 มากที่สุด รวมถึงมีระบบคอร์บล็อกที่ใช้ยาน FF-XII คอร์ไฟเตอร์ทูว์ เป็นห้องควบคุม กันดั้มเซฟีรันเธสเป็นโมบิลสูทเครื่องแรกที่ใช้บีมไรเฟิลแบบใช้พลังงานจากเอ เนอจีแพ็คที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ระหว่างการต่อสู้และใช้โครงสร้างซึ่งในเวลา ต่อมาได้พัฒนาไปเป็นมูฟเอเบิ้ลเฟรมของ Gundam MK-II บีมเซเบอร์ของกันดั้มเซฟีรันเธสยังสามารถใช้เป็นบีมกันของยานคอร์ไฟเตอร์ทูว์ขณะที่บินแยกออกมาได้
    โค อุรากิ ตัวเอกของเรื่องได้ใช้กันดั้มเซฟีรันเธสเข้าต่อสู้กับอนาเวล กาโตของกองกำลังดีลาซที่ขโมยกันดั้มไฟซาลิสที่ฐานทัพโทรินตันและได้รับการ แต่งตั้งเป็นนักบินอย่างเป็นทางการในเวลาต่อมา หลังจากที่กันดั้มเซฟีรันเธสได้รับความเสียหายอย่างหนักในการต่อสู้กับซีมา การาฮาว เนื่องจากไม่ได้รับการปรับแต่งให้ใช้งานในอวกาศได้ จึงได้รับการซ่อมแซมและปรับปรุงเป็น RX-78GP01-Fb กันดั้มฟุลเวอเนียนเซฟีรันเธส เพื่อให้ต่อสู้ในอวกาศได้ ลักษณะที่แตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดก็คือบูสเตอร์ขนาดใหญ่ด้านหลังซึ่ง ทำให้กันดั้มฟุลเวอเนียนเซฟีรันเธสมีอัตราเร่งสูงกว่าเดิมเกือบสองเท่าและ ยังเป็นระบบขับเคลื่อนหลักของยาน FF-XII-Fb ฟุลเวอเนียนคอร์ไฟเตอร์ทูว์ เมื่อแยกออกมาแล้ว กันดั้มฟุลเวอเนียนเซฟีรันเธสถูกทำลายพร้อมกับกันดั้มไฟซาลิสในการต่อสู้ที่สถานีอวกาศดาวเคราะน้อย เกาะคอนเปย์

    RX-78 GP02 ไฟซาลิส
    เรียกสั้นๆว่า GP02
    เรียกสั้นๆว่า GP02 RX-78GP02A กันดั้มไฟซาลิสเป็นโมบิลสูทตัวร้ายเครื่องแรกของกันดั้ม 0083 กันดั้มไฟซาลิสได้รับการออกแบบมาสำหรับใช้งานแบบยุทธศาสตร์โดยการยิงหัวรบ นิวเคลียร์จากอตอมมิคบาซูก้า กันดั้มไฟซาลิสมีเกราะที่หนาเพื่อให้ทนแรงกระแทกจากระเบิดนิวเคลียร์ที่ยิง ออกไปได้และโล่ขนาดใหญ่ที่มีระบบหล่อเย็นซึ่งช่วยป้องกันความร้อนอีกชั้น หนึ่ง เนื่องจากออกแบบไว้ใช้กับยุทธศาสตร์จำเพาะจึงไม่ได้ติดตั้งอาวุธอื่นไว้ อีกนอกจากปืนวัลแคนและบีมเซเบอร์สำหรับป้องกันตัวในระยะประชิด กันดั้มไฟซาลิสยังมีท่อขับดันที่มีกำลังมากจึงสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยความ เร็วสูง ซึ่งท่อขับดันที่ไหล่จะสามารถปรับตำแหน่งได้
    ในขณะที่กันดั้มไฟซาลิสประจำการที่ฐานทัพโทรินตันเพื่อเตรียมการทดสอบนั้น อนาเวล กาโต้ นายทหารของกองกำลังเดลาซได้ขโมยกันดั้มไฟซาลิสไปด้วยความช่วยเหลือของสายลับ ซึ่งแฝงตัวในกลุ่มเจ้าหน้าที่ของแอนาไฮม์อิเล็กทรอนิก ซึ่งกาโต้และกันดั้มไฟซาลิสสามารถหนีการตามล่าของหน่วยอัลเบียนจนกระทั่งใช้ นิวเคลียร์ทำลายกองยานในพิธีแสดงแสนยานุภาพที่สถานีอวกาศดาวเคราะน้อย เกาะคอนเปย์ไปถึงสองในสาม ก่อนจะถูกทำลายในการต่อสู้กับกันดั้มเซฟีรันเธสของโค อุรากิ

    RX-78 GP03 เดนโดรเบียม
    เรียกสั้นๆว่า GP03
    กันดั้มเดนโดรเบียมประกอบด้วยส่วนประกอบสองส่วนคือ RX-78GP03S กันดั้มเดนโดรเบียมสเตเมนซึ่งเป็นโมบิลสูทแกนกลางและออร์คิสซึ่ง เป็นยูนิตอาวุธขนาดใหญ่สำหรับติดตั้งให้กันดั้มเดนโดรเบียมสเตเมน กันดั้มเดนโดรเบียมสเตเมนมีลักษณะเป็นโมบิลสูทแบบมาตรฐานซึ่งใช้เทคโนโลยี แบบเดียวกับกันดั้มเซฟีรันเธสแต่สามารถใช้งานในอวกาศได้ ห้องควบคุมของกันดั้มเดนโดรเบียมสเตเมนเป็นแบบพาโนรามิคที่แสดงภาพ 360 องศารอบตัว แต่สามารถเปลี่ยนไปใช้แบบคอร์ไฟเตอร์แทนได้เช่นกัน
    เมื่อติดตั้งยูนิตออร์คิสเป็น RX-78GP03 กันดั้มเดนโดรเบียมออร์คิส แล้ว กันดั้มเดนโดรเบียมจะกลายเป็นอาวุธขนาดใหญ่ที่มีความยาวถึง 140 เมตรที่มีกันดั้มเดนโดรเบียมสเตเมนควบคุมอยู่ตรงกลาง อาวุธหลักของยูนิตออร์คิสประกอบด้วยบีมเซเบอร์ขนาดใหญ่ซึ่งติดไว้กับแขนคีม จับด้านล่าง ปืนใหญ่เมก้าบีมแคนน่อน และมีเครื่องกำเนิดสนามพลัง I ฟิลด์ซึ่งสามารถสะท้อนลำแสงของอาวุธบีมได้ ยูนิตออร์คิสยังสามารถติดตั้งคอนเทนเนอร์ซึ่งใช้บรรจุอาวุธ เช่น ไมโครมิสไซล์หรือสายระเบิดได้ อาวุธทั้งหมดของกันดั้มเดนโดรเบียมออร์คิส มีอานุภาพที่สามารถทำลายยานรบได้ คอนเทนเนอร์อาวุธนี้ยังใช้เก็บอาวุธปืนของกันดั้มเดนโดรเบียมสเตเมน โดยที่แขนทั้งสองข้างของกันดั้มเดนโดรเบียมจะมีแขนกลสำหรับใช้ดึงอาวุธจาก คอนเทนเนอร์มาใช้งานขณะรวมกับยูนิตออร์คิส
    ในเนื้อเรื่องของ กันดั้มอีโวลฟ์ นั้นเป็นการทดสอบกันดั้มเดนโดรเบียมโดยมี เดบรา คาร์ เป็นนักบิน แต่ถูกยิงเสียชีวิตในตอนจบ เมื่อการพัฒนากันดั้มเดนโดรเบียมเสร็จสมบูรณ์ในกันดั้ม 0083 นั้น สหพันธ์โลกได้มีคำสั่งยกเลิกกันดั้มโปรเจกต์แล้ว แต่โค อุรากิ และลูกเรือของยานอัลเบียนได้ขโมยกันดั้มเดนโดรเบียมไปเพื่อหยุดยั้งการทิ้ง โคโลนีไอส์แลนด์อีสต์ลงสู่โลกโดยฝีมือของกองกำลังดีลาซ ซึ่งในที่สุดนั้น ยูนิตออร์คิสก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการต่อสู้กับโมบิลอาร์เมอร์ AMA-002 นอยเอซีล ของอนาเวล กาโต และถูกยิงด้วยลำแสงของโซลาร์ซิสเต็มทูว์

    RX-78 GP04G เกอร์เบร่า
    กันดั้มเกอร์เบร่าปรากฏตัวครั้งแรกในโมเดลคิทซีรีส์ กันดั้มเวพอนส์ ของนิตยสารฮอบบีเจแปนรายเดือน กันดั้มเกอร์เบร่าเป็นโมบิลสูทแบบใช้งานอเนกประสงค์เหมือนกันดั้มเซฟีรันเธส แต่สามารถใช้งานได้ทั้งบนโลกและในอวกาศ และสามารถติดตั้งสทรูมบูสเตอร์ที่ไหล่ทั้งสองข้างเพื่อให้มีความเร็วเทียบ ได้กับกันดั้มฟุลเวอเนียนเซฟีรันเธส อาวุธของกันดั้มเกอร์เบร่าประกอบด้วยบีมไรเฟิลกำลังสูงและบีมเซเบอร์ แต่เนื่องจากกันดั้มโปรเจกต์ถูกยกเลิกขณะที่กันดั้มเกอร์เบร่ายังไม่สมบูรณ์ แอนาไฮม์อิเล็กทรอนิกจึงดัดแปลงเป็น AGX-04 เกอเบร่าเตตร้าและขายให้ซีม่า การาฮาวไป
    เกอเบร่าเตตร้ามีลักษณะภายนอกที่แตกต่างจากแบบกันดั้มมากเพื่อปิดบังว่าเป็น ส่วนหนึ่งของกันดั้มโปรเจกต์และเปลี่ยนอาวุธปืนจากบีมไรเฟิลเป็นปืนกลบีมและ ปืนอัตโนมัติติดแขน ซีม่าได้ใช้เกอเบร่าเตตร้าในการต่อสู้ขณะที่กองกำลังเดลาซได้ทิ้งโคโลนีไอส์ แลนด์อีสต์ลงไปบนโลก และเสียชีวิตในการต่อสู้กับกันดั้มเดนโดรเบียมออร์คิสของโค อุรากิ





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×