แผ่นดินผู้กล้า - นิยาย แผ่นดินผู้กล้า : Dek-D.com - Writer
×

    แผ่นดินผู้กล้า

    นิยายแปลงประวัติศาสตร์ยุคเสียกรุงฯครั้งที่สอง เรื่องราวการต่อสู้เอาชีวิตรอด การรบ ความรัก ความเสียสละ บนลมหายใจของกรุงศรีอยุธยาที่เป็นดั่งเรือน้อยล่องลอยบนเกลียวคลื่นยักษ์

    ผู้เข้าชมรวม

    2,866

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    21

    ผู้เข้าชมรวม


    2.86K

    ความคิดเห็น


    18

    คนติดตาม


    8
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  29 เม.ย. 52 / 19:14 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    href="file:///C:\DOCUME~1\TRAITA~1.PA\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" />

    แผ่นดินผู้กล้า



    ลำดับเหตุการณ์สำคัญก่อนกรุงแตก

    (พ.ศ.)

     

    2300        - ปรากฏดาวหางฮัลเลย์ขึ้นบนฟ้า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศประชวรหนัก และสวรรคตลง

    2301        สมเด็จพระเจ้าอุทุมพรเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ

    - หลังจากนั้น ๒ เดือนสมเด็จพระเจ้าอุทุมพรสละราชสมบัติในปีเดียวกันให้กับสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ (พระเจ้าเอกทัศน์)

    2302        - พระเจ้าอลองพญาซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์พม่าได้ทราบข่าวความอ่อนแอของสยามในรัชกาลนี้ จึงเสด็จกรีธาทัพเข้ามาตีเมืองตะนาวศรี ทวาย และมะริดไว้ได้ และจึงยกทัพมาทางด่านสิงขร ตีหัวเมืองรายทางแตกทั้งหมด

    2303        - เหล่าขุนนางแม่ทัพล้วนแต่อ่อนแอและแตกความสามัคคีสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์เกรงจะเสียเมือง มีรับสั่งให้ไปกราบทูลเชิญสมเด็จพระอนุชาธิราช กรมขุนอุทุมพร ให้ลาผนวชมาช่วยศึกครั้งนี้

    - ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 5 สมเด็จพระเจ้าอุทุมพรได้เข้าบัญชาการรบอย่างเข้มแข็ง พม่าล้อมกรุงอยู่เป็นเวลานาน ตั้งปืนใหญ่ระดมยิงทั้งกลางวันและกลางคืน จนลูกปืนถูกยอดพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ยิงเข้ามาในพระนครทุกวัน แต่ก็ไม่สามารถจะตีพระนครให้แตกได้

    - พระเจ้าอลองพญาทรงเข้าบัญชาการยิงปืนใหญ่และจุดปืนใหญ่เอง ในที่สุดปืนใหญ่ระเบิดแตกต้องพระองค์บาดเจ็บสาหัส กองทัพพม่าจึงจำเป็นต้องถอยทัพกลับไป

    - พระเจ้าอลองพญาทรงทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสด็จสวรรคต ณ บริเวณตำบลเมาะกะโลก แขวงเมืองตาก เมื่อแรม 12 ค่ำ เดือน 6 ขณะมีพระชนมพรรษาได้ 45 พรรษา

    - สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าอุทุมพรไปหาถึงในพระที่ สมเด็จพระเจ้าอุทุมพรได้เห็นพระแสงดาบวางพาดอยู่บนพระเพลาทวงราชสมบัติคืน สมเด็จพระเจ้าอุทุมพรจึงออกผนวชอีกครั้ง

    2304        - สิ้นพระเจ้าอลองพญา พม่าเกิดสงครามภายในเพื่อแย่งชิงราชบัลลังค์ จนกระทั่งพระเจ้ามังลอกราชบุตรของพระเจ้าอลองพญาออกปราบปรามได้สำเร็จ

    2306        - พระเจ้ามังลอกประชวรหนักจนสิ้นพระชนม์พระเจ้ามังระพระอนุชาผู้นิยมการสงครามขึ้นเสวยราชสมบัติแทน

                    - พระเจ้ามังระตีเมืองมณีปุระได้สำเร็จแล้วจึงย้ายราชธานีกลับไปที่กรุงอังวะ

    2307        - พระเจ้ามังระแต่งตั้งให้มังมหานรธาเป็นแม่ทัพ ยกทัพไปตีเมืองทวายมังมหานรธาสังเกตเห็นกรุงศรีอยุธยากำลังอ่อนแอจึงตีไล่ขึ้นมาได้เรื่อยจนถึงเพชรบุรี

                    - พระเจ้ามังระแต่งตั้งให้เนเมียวสีหบดีเป็นแม่ทัพ บุกตีเข้ามาทางเมืองเชียงใหม่อีกทางหนึ่ง

    2309        - ทัพของเนเมียวสีหบดีต้องสะดุดที่อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ด้วยฝีมือของชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันต่อสู้อย่างเข้มแข็ง แม้ทัพพม่าจะส่งกองทัพเข้าโจมตีค่ายบางระจันถึง ๗ ครั้ง แต่ต้องประสบความล้มเหลวทุกครั้ง

                    - ในการโจมตีครั้งที่ ๘ เนเมียวสีหบดีแต่งตั้งสุกี้พระนายกองชาวมอญผู้อาศัยอยู่ในแผ่นดินไทยมานานและชำนาญพิชัยสงครามเป็นแม่ทัพ สุกี้เดินทัพด้วยความอดทนและไม่ประมาท ฝ่ายบางระจันสู้ไม่ได้จึงขอปืนใหญ่จากทางพระนครแต่ถูกปฏิเสธ จนในที่สุดค่ายบางระจันก็ถูกตีแตก ทัพเนเมียวสีบดีมาสมทบกับทัพของมังมหานรธา

                    - มังมหานรธาป่วยเสียชีวิต เนเมียวสีหบดีจึงรวบรวมกำลังทั้งสองทัพเข้าตีกรุงศรีอยุธยาหลังฤดูฝน

    2310        -กรุงศรีอยุธยาถูกตีแตกเสียเอกราชครั้งที่สอง เนเมียวสีหบดีหลังจากตีกรุงศรีฯได้ก็เผาทำลายเมือง และขนเอาทรัพย์สมบัติจำนวนมากกลับไปพม่า ทิ้งสุกี้พระนายกองคุมกองดูแลทรัพย์สินที่ค่ายโพธิ์สามต้น

     

    href="file:///C:\DOCUME~1\TRAITA~1.PA\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_filelist.xml" />บทนำ

    กำแพงรอบขอบคูก็ดูลึก                      ไม่น่าศึกอ้ายหม่าจะมาได้
    ยังให้มันข้ามเข้าเอาเวียงชัย                  โอ้อย่างไรเหมือนบุรีไม่มีชาย
    หรือธานินสิ้นเกณฑ์จึงเกิดยุค             ไพรีรุกรบได้ดังใจหมาย
    เหมือนทุกวันแล้วไม่คัณณาตาย          ให้ใจหายหวั่นหวั่นถึงจันทร์ดวง

                                                                                       

                                                                                        พระสุนทรโวหาร

     

    แผ่นดินกรุงศรีอยุธยาตอนปลายร้างสงครามมายาวนานถึง 92 ปี ชาวสยามอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขมาตลอดระยะเวลาอันยาวนาน แต่เมื่อบ้านเมืองปกครองด้วยกษัตริย์ไร้ความสามารถ ลุ่มหลงมัวเมาในความสำราญและอำนาจบาตรใหญ่ กอปรกับการทุจริตคดโกงของบรรดาขุนนางทำให้บ้านเมืองที่เคยรุ่งเรืองต้องอ่อนแอลงภายในเวลาอันรวดเร็ว ไม่นานข้าศึกก็ยกทัพบุกเข้าตี เกิดไฟสงครามไปทุกหย่อมหญ้า ชาวสยามสูญเสียทั้งบ้านเรือนที่อยู่อาศัย เสียไร่นาที่เคยเก็บเกี่ยว เสียทรัพย์สมบัติ บ้างก็เสียชีวิต เสียครอบครัวอันเป็นที่รัก ที่สำคัญคือเสียเอกราชให้แก่อริราชศัตรู ในยุคแห่งความวุ่นวายนี้ก่อกำเนิด วีรบุรุษ วีรสตรี มหาโจร คนเข้มแข็ง คนอ่อนแอ คนรักชาติ คนขายชาติ คนกล้าและคนขลาด ขึ้นมากมาย ทุกผู้คนต้องใช้ทั้งไหวพริบปฏิภาณ เล่ห์เหลี่ยมเพทุบาย รวมไปถึงพิชัยสงครามเข้าห้ำหั่นกันเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการหรือเพื่อรักษาอุดมการณ์เอาไว้ เรื่องราวเหล่านี้ได้รับการจดบันทึกให้ลูกหลานได้เรียนรู้ในเวลาต่อมา

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น