คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่6 เรื่องสำคัญกว่า
ในท้ายที่สุดแล้วสงครามประสาทของเด็กชายและเด็กหญิงก็ดำเนินไปด้วยความเงียบโดยที่ยังไม่สามารถหาคำตอบใดๆได้
ขุนช้างเพียงจ้องมองเด็กหญิงนิ่งโดยไม่พูดอะไร ส่วนพิมพิลาไลยที่คราแรกนั้นใบหน้าประดับยิ้ม...ไม่เหลือเค้าเดิมมีเพียงแต่ใบหน้าที่นิ่งเฉยปรากฏ
พิมพิลาไลยไม่เคยคิดว่าการต้องมาต่อปากต่อคำกับเด็กนั้นจะทำให้นางรู้สึกกระทบอะไรเช่นนี้
อย่างว่าแหละนะ...ความจริงอย่างไงก็คือความจริง....
นางไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่ทำลงไปได้ว่าตัวเองนั้นขาดสามัญสำนึกของคนปกตินัก...หากเป็นคนปกติทั่วไปคงเลือกหลีกเลี่ยงเฉยๆแท้
แต่ตัวนางกลับคิดจะลบคนที่พึ่งเคยเจอหน้ากันแท้ๆได้ในทันทีแม้เขาจะยังไม่ทำอะไรนาง
คล้ายมีน็อตในสมองหล่นหายไปสักตัว...จนทำให้ความคิดของนางออกมาเป็นเช่นนี้
และหากน็อตนั่นจะหล่นหายไปในสักที่ก็คงเป็นห้องผ่านั่น...ภาพที่เห็นในตอนสุดท้ายช่างโหดร้ายไปหมดนัก
มันเละเทะเกินกว่าที่เด็กสาววัยสิบแปดปีจะรับได้...
“เจ้ากำลังทำให้ทุกอย่างมันวุ่นวายเพราะความต้องการของเจ้า”
ขุนข้างเพียงเอ่ยปรามเด็กหญิงตรงหน้า
เขาไม่รู้หรอกว่าเด็กหญิงผู้นี้รู้เรื่องอะไร หากแต่สิ่งที่นางได้กระทำโดยทางอ้อมนี้ลงไปคือการฆ่าคน
โทษของมันคือประหาร หากแต่เพราะเด็กหญิงตรงหน้าไม่ได้เป็นผู้กระทำโดยตรง
จึงไม่มีหลักฐานใดๆและไม่มีใครเชื่อหรอกว่าเด็กหญิงวัยเพียงห้าปีเศษเช่นนี้จะทำความเลวได้
แล้วเหตุใดนางจึงทำเช่นนี้กับเด็กนั่นกัน? เด็กนั่นไปทำอะไรให้นางกัน? พวกเราพึ่งเคยเจอกันมิใช่รึไง?
ข้อสงสัยมากมายผลุดขึ้นมาในสมองของขุนช้าง เขาคิดและวิเคราะห์กับสิ่งที่เด็กหญิงตรงหน้าทำ
“แต่ความวุ่นวายทั้งหมดจะจบลงเมื่อเด็กชายผู้นั้นหายตัวไปเช่นกัน”
พิมพิลาไลยกล่าวอย่างราบเรียบพลางโคลงหัวของตนเบาๆโดยไม่ใส่ใจสายตาเย็นยะเยือกของเด็กชายตรงหน้า
“พันศรโยธาผู้เป็นบิดาของเจ้าจะเสียมิตรสหายที่คอยช่วยเป็นเส้นสายทางการทหารให้อย่างขุนไกรพลพ่าย
เขาจะสูญเสียความรู้สึกดีๆและความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวของบิดาของเจ้าที่ดูแลบุตรชายของเขาไม่ดี
หนำซ้ำอาจมีข่าวลือถูกชาวบ้านนินทาในความสะเพร่าของบิดาเจ้าที่ปล่อยให้เด็กที่อยู่ในเรือนของตนหายตัวไปหรือตาย...”
พิมพิลาไลยแอบประหลาดใจไม่น้อยที่เด็กชายตรงหน้าคิดคำนึงถึงเรื่องแบบนี้ได้ในวัยเพียงเท่านี้
นางที่เพียงได้ฟังจึงเลิกคิ้วเล็กน้อยบ่งบอกความแปลกใจนี้....บางอย่างในโลกนี้ก็เกินความจริงไปมาก...ไม่มีทางที่เด็กตัวเท่านี้จะรู้เรื่องขนาดนี้ในวัยเพียงแค่นี้...แต่เอาเถอะ
โลกใบนี้ก็ไม่ใช่โลกเดิมของนางสักหน่อย...
“เจ้าอายุเท่าไหร่?”
พิมพิลาไลยเอ่ยถามโดยข้ามคำกล่าวก่อนหน้าของเด็กชายอย่างหน้าตาเฉย
แต่ขุนช้างก็ไม่ได้แสดงท่าทางโกรธเคืองแม้โดนเมินคำกล่าวเพียงตอบคำถามเด็กหญิงอย่างชั่งใจ
“หกปีเศษ”
ดูเหมือนจะอายุมากกว่านางในชาตินี้หนึ่งปีสินะ...เมื่อได้ฟังคำตอบพิมพิลาไลยจึงพยักหน้าเบาๆก่อนถอนหายเบาบางและกล่าวกับเด็กชายว่า
“เจ้าเป็นคนฉลาด...ไม่แปลกใจเลยที่ในอนาคตเจ้าจะสามารถสานต่องานของบิดาเจ้าได้เป็นอย่างดี...แต่ว่าบางครั้งความฉลาดของเจ้าที่ไม่ยอมเก็บไว้บ้างจะสร้างปัญหาให้กับตัวเจ้าเอง..."
คล้ายจะเป็นการสอน หากแต่มันคือคำขู่
ขุนช้างเป็นเด็กฉลาดที่เข้าใจทุกอย่างได้ดีในตอนนี้ หากแต่เพราะความเข้าใจดีของเขานั่นแหละที่อาจจะทำให้นางต้องคิดทำอะไรสักอย่างกับเขา
นางจะต้องปิดปากเขา...
คราแรกจะปล่อยขุนช้างไว้เพราะแต่เดิมก็เป็นตัวละครที่มิได้สร้างปัญหาให้นางเยี่ยงขุนแผนเท่าไหร่นัก
แต่เมื่อเขารู้ว่านางเป็นคนกระทำ หากเขาปากโป้งไปบอกใครคงลำบากแน่แท้
แม้จะมั่นใจว่าทุกคนจะไม่เชื่อก็ตาม แต่ในอนาคตข้างหน้าคนที่ฉลาดเยี่ยงเขานี่แหละที่อาจทำให้นางลำบากได้...
“หากเจ้าไม่รับรู้
พวกเราคงเป็นสหายที่ดีต่อกันได้ไปอีกยาวนานนัก…”
พิมพิลาไลยเอ่ยอย่างเสียดาย
หากขุนช้างซื่อกว่านี้นางก็คงตีสนิทหวังเป็นสหายได้
หากแต่เมื่ออีกฝ่ายรับรู้ถึงตัวตนของนางและดูท่าจะรังเกียจเสียด้วยก็คงไม่มีความหมายถึงจะพยายามตีสนิทก็ตาม
“ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของบิดาข้ากับขุนไกรพลพ่ายหรือแม้แต่คำนินทาของชาวบ้าน....ข้าไม่สนมันหรอกนะ”
นางกล่าวออกมาทั้งรอยยิ้ม ทำให้ขุนช้างที่ได้ฟังและเห็นรู้สึกได้ในทันทีว่าแท้จริงแล้วเด็กหญิงผู้นี้วิกลจริตไม่มากก็น้อยนัก
นางฆ่าคนที่พึ่งรู้จักกันทางอ้อมโดยง่ายๆทั้งๆที่ไม่มีเหตุผล
หนำซ้ำยังไม่สนใจความเป็นไปหรือชื่อเสียงของบิดาของตนอีก...เด็กหญิงผู้นี้เกินเยียวยา....
ซึ่งสำหรับพิมพิลาไลยแล้ว
นางไม่ได้ใส่ใจมันนักเพราะคำนินทานั้นอย่างไงก็เป็นแค่คำนินทามันไม่ได้อยู่คงกระพันสักวันก็จางหายไป
ส่วนความสัมพันธ์ของพันศรโยธากับขุนไกรพลพ่ายหรือแม้แต่ตัวของขุนศรีวิชัยเองนั้นก็ไม่ได้ยั่งยืนตั้งแต่แรกแล้ว
ในอีกหลายปีข้างหน้านับจากนี้ขุนไกรพลพ่ายจะถูกประหารชีวิต ขุนศรีวิชัยจะถูกโจรฆ่าตายเพื่อแย่งทรัพย์....
และสิ่งที่นางลำบากใจนัก....บิดาของนาง....จะป่วยหนักและสิ้นใจไป
นางไม่ได้รู้สึกกังวลกับเรื่องราวอื่นๆเท่ากับเรื่องของบิดาผู้นี้นัก...ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากจะมีสักคนที่นางรู้สึกดีด้วยอย่างแท้จริงก็คงมีเพียงพันศรโยธาผู้เป็นบิดาในชาตินี้เท่านั้น
เขาเลี้ยงดูและตามใจนางตั้งแต่เกิดเสมอมา...สายตาของเขาฉายความสุขกับการที่นางเกิดมาจริงๆ...หาใช่สายตาที่เย็นชืดอย่างที่ในอดีตชาติของนางเคยได้รับ
นางไม่อยากให้เขาตาย...
ซึ่งเรื่องบิดาของนางนั้นถูกจัดว่าสำคัญกว่าเรื่องความเป็นความตายของตัวละครอย่างขุนแผนกับขุนช้างเสียอีก
ดวงตาสีพิศวงละความสนใจจากทุกสิ่งแม้กระทั่งเด็กชายเบื้องหน้าไป
ดวงตาของนางเลื่อนลงไปจ้องมองบิดาของตนที่อยู่ด้านล่างด้วยแววตาที่คลุมเครือ
นางคงต้องทำอะไรสักอย่างหลังจากนี้อย่างจริงจัง...
.
.
.
ปล.มีเรื่องที่อยากย้ำเวลาอ่านนะคะ ตัวเอกของเรื่องค่อนข้างได้รับผลกระทบจากปัญหาชีวิตในอดีตชาติรวมถึงเรื่องการตายทำให้สะเทือนจิตใจค่อนข้างหนัก สภาพจิตบางส่วนของน้องเขาก็เลยค่อนข้างไม่ดีเท่าไหร่นะคะ การกระทำบางอย่างที่เกินไปของน้องเขาก็เป็นผลพวงจากสภาพจิตที่ไม่ปกติของน้องเขา น้องเขาอาจจะไม่ใช่ตัวละครที่ดีแต่ก็อยากให้ทุกคนช่วยเข้าใจนะคะ555
ความคิดเห็น