ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยามเมื่อหิมะโปรยปรายและตัวข้าผู้กระหายอำนาจ

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่2 น้องชายผู้ไม่สมประกอบ

    • อัปเดตล่าสุด 2 ต.ค. 62



    และเมื่อฤดูหนาวหมุนเวียนผ่านไปสองคราหลังจากที่นางกำเนิด....นางก็ได้พบว่าตนได้มีน้องชายเสียแล้ว มารดาของนางดูจะดีใจกับเรื่องนี้อย่างมากและเป็นพิเศษเสียด้วยซ้ำ จนบางครานางก็ได้ยินเสียงเพลงกล่อมเด็กลอยมาจากตำหนักของผู้เป็นมารดา ทั้งที่มารดาไม่เคยร้องให้นางฟังเลยสักครั้งเดียว...

     

    ช่างลำเอียงจริงๆนะ มารดา...

     

    แม้แต่นามของนางก็ไม่เคยเรียก...หนำซ้ำนามที่ตั้งก็แทบไม่คิดอะไรนักเลย

     

    เสวี่ยเฟย...นั่นคือนามของนางในชาตินี้ ที่แปลว่าหิมะโปรยปรายบนท้องฟ้า ตามวันที่นางถือกำเนิดมา...

     

    “องค์หญิงเพคะ...วันนี้หม่อมฉันต้องขอตัวไปหาสหายที่ป่วยหนักในอีกตำหนักของพระสนมนะเพคะ....เพราะฉะนั้นหม่อมฉันคงจะไม่อาจอยู่ดูแลพระองค์ได้ ต้องขอประทานอภัยจริงๆนะเพคะ”

     

    เสียงของนางกำนัลที่ถูกส่งมาดูแลนางกล่าวขึ้นพลางแสร้งทำสีหน้าสลดน่าสงสาร...นางกำนัลที่ถูกส่งมาดูแลนางนั้นถือว่าน้อยมากนัก หนำซ้ำนางกำนัลเหล่านี้ก็หาเรื่องโดดงานไม่ดูแลนางที่ยังเป็นเพียงเด็กอายุเพียงสองหนาวเท่านั้นอีก...บัดซบโดยแท้ แต่นางก็ยังเด็กเกินกว่าจะตอบโต้และสถานะองค์หญิงก็เป็นเพียงแค่ปลายแถว จึงทำให้แทบไม่มีอำนาจใดๆเลยด้วยซ้ำไป...

     

    “อืม...”

    เสวี่ยเฟยเพียงได้แต่ตอบสั้นๆและพยักหน้าเบาๆอย่างเคยชิน เอาเถอะ ถึงร้องเรียนมารดาไปก็ไม่เคยช่วยอะไรอยู่แล้ว

     

    “งั้นอยู่เฉยๆในตำหนักนะเพคะ”

    ไม่แม้แต่จะหันมามองเด็กน้อยผู้นั่งลงที่เก้าอี้ไม้ นางกำนัลก็เดินออกไปอย่างไม่รีรอด้วยสีหน้าที่เก็บความสุขไม่มิด

     

    ทิ้งให้เด็กหญิงวัยเพียงสองหนาวอยู่เพียงลำพัง...

     

    เสวี่ยเฟยเพียงก้มหัวของตนลงไปนอนกับโต๊ะอย่างเงียบๆและหลับตาลงพลางฟังเสียงเพลงกล่อมเด็กที่ลอยมาจากตำหนักของผู้เป็นมารดา

     

    .

    .

    .

     

    วันเวลาได้ผ่านไปอีกครั้งหลังจากที่น้องชายของนางกำเนิดก็หกปีมาแล้ว...นางในยามนี้มีอายุได้แปดหนาวแล้ว ซึ่งหลังจากที่น้องชายของนางกำเนิดมาไม่กี่ปี มารดาก็ต้องพบกับความผิดหวังเช่นเดิม เมื่อน้องชายของนางนั้นป่วยเป็นโรคที่มีความผิดปกติทางสมอง...หากจะเรียกให้ถูกในภาษาของโลกก่อนคงเป็นออทิสติกไม่ก็สมองไม่โตตามวัยเท่าที่ควรอะไรประมาณนั้น นางเองก็ไม่ใช่หมอจึงอธิบายให้ชัดเจนไม่ได้นัก

     

    ส่วนสาเหตุที่ทำให้มารดาของนางคลอดน้องชายออกมาเป็นเช่นนี้ คงเพราะถูกวางยา....

     

    อย่างที่บอกมารดาของนางนั้นกระหายอำนาจและทะเยอทะยานอย่างมาก นางก็เหมือนนางสนมในนิยายทั่วไปที่คอยหาทางเหยียบย้ำคนอื่นให้ลงมาและตลบหลังเพื่อให้ตัวเองสูงขึ้น ซึ่งก็ไม่แปลกที่มารดาของนางจะถูกลอบกลับเช่นนี้บ้าง เป็นเรื่องปกติของสงครามที่เรายิงเขาได้แล้วจะมีหรือที่เราจะไม่โดนยิงบ้าง

     

    ที่รู้ๆหลังจากมารดาของนางได้รับรู้เรื่องนี้ก็หัวเสียอย่างหนัก นางมักได้ยินเสียงบ่นของมารดาเสมอยามเมื่อแอบลองไปตำหนักของมารดา

     

    บุตรคนแรกก็สตรี บุตรคนที่สองก็ปัญญาอ่อน....ไร้ประโยชน์ ไร้ประโยชน์จริงๆ....

     

    ถ้อยคำอันเย็นชาและไร้ซึ่งความรักที่มีต่อบุตรทั้งสองที่ตนให้กำเนิดมานั้นหลุดออกมาจากปากของผู้เป็นมารดา ซึ่งไม่ว่าฟังกี่คราก็ช่างน่าเจ็บปวดจริงๆ

     

    พี่สาว....พี่สาว....เล่นกัน....

    เสียงของน้องชายในวัยเพียงหกหนาวเอ่ยเรียกนาง มือน้อยๆจับชายผ้าของนางสะกิดเรียกอย่างใสซื่อ ดวงตากลมน้อยๆนั่นไม่รู้เลยว่าสิ่งที่มารดาของตนพูดนั้นคือเรื่องโหดร้ายเพียงใด

     

    เสวี่ยเฟยเพียงแสร้งยิ้มและก้มตัวลงเล็กน้อยให้สายตาของนางอยู่ในระดับเดียวกับน้องชายตัวน้อยก่อนจะเอื้อมมือของตนไปลูบหัวของเขาและเอ่ยว่า

    อืม ไปเล่นกัน…ตอนนี้มารดากำลังยุ่ง เพราะฉะนั้นเราไม่ควรเข้าไปใกล้ตำหนักมารดานัก...ไปเล่นที่สวนดีกว่านะ เสวี่ยหยาง

     

    การให้น้องชายมาได้ยินเสียงมารดาบ่นถึงการกำเนิดของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก แม้เขาจะไม่เข้าใจก็ตาม

     

    .

    .

    .




    P
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×