คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่5 ความโสมมที่สร้างตัวตนของจอมมาร
[เรย์...จงจำไว้ ชีวิตของเจ้านั้นล้ำค่ายิ่งนัก จงอย่าปล่อยชีวิตนั้นไหลไปตามกระแสโชคชะตาเพียงเพราะเห็นว่าถูกกำหนดมา
ใช้ชีวิตที่อยากใช้เสียและข้าจะคอยปกป้องเจ้าเอง]
นั่นเป็นคำกล่าวเมื่อครั้งอดีตของจอมมารที่เอ่ยกับเธอ...ซึ่งจนกระทั่งตอนนี้มัวเรลล์ก็ไม่อาจเข้าใจความคิดของเขาได้ออกจริงๆเลย
คล้ายกับว่าตัวตนของเขานั้นซับซ้อนและลึกลับเกินไป
เขาจะได้อะไรจากการปกป้องเธอ? หากเพียงเพราะเธอเป็นดวงดาวแห่งหายนะ
ก็ไม่น่ามีค่าขนาดนั้น เขาแค่ครอบครองเธอก็พอแล้ว
จะกักขังหรือล่ามโซ่เฉกเช่นที่ฝั่งมนุษย์ทำก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ไม่จำเป็นต้องปกป้องใดๆเลยด้วยซ้ำ...
แต่หากที่เขาปกป้องเธอเป็นเพราะความหลงใหลล่ะก็
ความรู้สึกนั้นจะมีวันหมดลงหรือเปล่า? เป็นเหมือนดั่งตุ๊กตาที่เล่นแล้วเบื่อจึงทอดทิ้งมัน
มัวเรลล์ยอมรับว่าเธอเป็นคนที่ไม่อาจรับการกระทำดีๆจากผู้คนที่มอบให้แด่เธอได้อย่างบริสุทธิ์ใจ
เธอมักมีคำถามมากมายในหัวเสมอว่าสิ่งที่เขาทำนั้นต้องการอะไรจากเธอ นับเป็นความหวาดระแวงต่อผู้คนมาตั้งแต่สมัยอดีตของเธอ
หลายครั้งในอดีตที่เพื่อนของเธอเข้าหาเธอด้วยสีหน้าซื่อและคำตลกมากมาย....แต่พอลับหลังกลับกลายเป็นคำติฉินนินทาและการกดเธอให้ต่ำลง
มัวเรลล์ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือโกรธแค้นอะไรกับการกระทำของเหล่าคนที่ได้ชื่อว่าเพื่อนของตน
เพราะเธอยังต้องอยู่ในสังคมของงานและสังคมของผู้คนอีกมากมาย เธอเพียงแค่ต้องระวังเรื่องผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
‘เพราะอย่างนี้ไง...ถึงไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนกับเธอ
มัวแต่รักษาผลประโยชน์ตัวเอง ไม่เห็นใจคนอื่น เธอมันแค่คนเห็นแก่ตัวดีๆนั่นแหละ’
ครั้งหนึ่งเคยมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในชีวิตของเธอ
ปากบอกเป็นเพื่อนสนิท แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงแค่คนที่ต้องการผลประโยชน์จากเธอ...แล้วเป็นเช่นนี้เธอจะไม่รักษาผลประโยชน์ของตัวเองได้อย่างไง
เพราะในตอนสุดท้ายของเธอ....ก็มีแค่ตัวเธอคนเดียวที่อยู่
คุณเองก็ด้วย...’แม่’....ทิ้งเธอไป
ทั้งๆที่บอกให้เธอคิดถึงใจของแม่เองแท้ๆ
“เคียร์...ถ้าในตอนสุดท้าย...ถ้าเจ้าตาย
แล้วข้าทิ้งเจ้าเอาตัวรอด....เจ้าจะโกรธข้าไหม?”
มัวเรลล์เอ่ยขึ้นยามเมื่อสัมผัสได้ว่ามือหนากำลังลูบหัวของเธออยู่
แสงแดดยามเช้าตกกระทบที่ดวงตาของเธอ
หมอนใบใหญ่ที่นอนหนุนอยู่นั้นคล้ายมีผู้มาใช้อีกคน มือบางก็จับผ้าห่มของตนที่คลุมห่มอยู่เอื้อมไปห่มให้เขาด้วยโดยไม่พูดอะไร
“หืม?...อยู่ๆก็ถามแบบนี้
แต่เอาเถอะ...ข้าไม่โกรธเจ้าหรอก เจ้าจะเป็นคนสุดท้ายบนโลกที่ข้าจะโกรธ เรย์”
เคียร์เนย์ตอบกลับอย่างเรียบเฉยไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ เขานอนข้างๆเด็กหญิงผู้รักการนอนยิ่งที่แม้ตอนนี้จะเช้าแล้ว
แต่เจ้าตัวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลุกจากเตียง
ร่างสูงพลางขยับไปใกล้และกอดเด็กหญิงราวกับเป็นหมอนข้างและเอาคางเกยที่หัวของเธอเพราะระดับความสูงที่ไม่เท่ากัน
“ไหนๆจะนอนด้วยกันแล้ว ไปปิดผ้าม่านให้ก่อนทีสิ
แสงมันแยงตา...เคียร์”
มัวเรลล์กล่าวทั้งๆที่ดวงตาจะปิดลงอีกครั้ง เธอได้รับคำตอบจากเขาแล้ว
จึงไม่ได้สนใจอะไรและคิดจะนอนต่อ ซึ่งเคียร์เนย์ก็ไม่ได้กล่าวว่าอะไรพลางยกมือขึ้นและตวัดมือเบาๆ
สั่งสายลมให้เคลื่อนปิดผ้าม่านโดยง่าย
“ฝันดีนะ…เคียร์”
มัวเรลล์เอ่ยก่อนฝังใบหน้าลงที่ผ้าห่ม และเข้าสู่นินทราอีกครั้ง
ดวงตาสีเลือดจับจ้องท่าทางนั้นด้วยความขบขันก่อนจะปิดเปลือกตาของตนลงด้วยเช่นกัน
พลางนึกถึงคำถามของเด็กหญิงที่ช่างน่าตลก
โกรธนางอย่างนั้นเหรอ?....ไม่มีทาง เพราะนางจะไม่มีทางทิ้งเขาได้ตั้งแต่แรกแล้ว
จุดจบของเขาผู้เป็นจอมมารตามเนื้อเรื่องที่ชายผู้นั้นกำหนดมาคือความพ่ายแพ้
หากแต่ความพ่ายแพ้นั้นหาใช่เพราะเขาอ่อนแอหรือพวกมันแข็งแกร่งกว่า
แต่เป็นความตั้งใจของเขาตามเนื้อเรื่อง...
การสูญเสียเจ้าหญิงต้องคำสาป...เป็นเหตุที่ทำให้เขาสูญสิ้นเหตุผลที่จะชนะโลกใบนี้
เรื่องราวที่แท้จริงของโลกที่ชื่อว่าเกมส์นั้นเบื้องหลังของมันช่างโสมมไม่ต่างจากตัวเขา
.
.
.
“ไปไหนมาน่ะ? เคียร์เนย์…แม่อยากเจอลูกบ่อยๆแท้ๆนะ”
เป็นน้ำเสียงพิศวาสของสตรีโฉมงามที่เอ่ยขึ้นอย่างดีใจเมื่อพบกับบุตรชายสุดที่รักของตน
เรียกสายตาของเคียร์เนย์ที่หลังจากตื่นนอนกับเด็กหญิงขี้เซาแล้วจึงเดินทางกลับปราสาทของตน
หากแต่ไม่คิดว่ามารดาของตนจะดักรออยู่แล้ว
จอมมารหนุ่มเพียงถอนหายใจเบาๆกับบาปที่ตนได้ก่อไว้
พลางเหลือบมองสตรีผู้เป็นมารดาอย่างเรียบเฉย แม้จะอายุมากขึ้น แต่หากเมื่อเทียบกับตอนที่นางคลอดเขาแล้วก็ยังถือว่าเยาว์วัยมากนัก
จึงไม่แปลกที่อายุของนางจะไม่ได้แก่อะไร หากแต่ยังคงอยู่ในวัยผู้ใหญ่เท่านั้น
เรือนผมยาวสีดำดุจความมืดนั้นสมกับเจ้าหญิงจากทวีปมืดอย่างแท้จริงซึ่งมันมักโดดเด่นเหนือใครและดวงตาสีดำสนิทของนางก็ชวนดูลึกลับและเสน่ห์แพรวพราว
หากแต่ก็ซ่อนความวิปริตยากจะปกปิด ใบหน้างามล้ำที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนและชวนราคะนั้นคงมีเพียงแค่นางคนเดียวเท่านั้นในวังหลวงนี้
เพราะเมื่อพระสนมในวังหรือแม้กระทั่งราชินีก็ล้วนเป็นความงามที่ดูบริสุทธิ์ผุดผ่องดูขาวสะอาด
หาใช่เสน่ห์เย้ายวนเยี่ยงบาปของความลุ่มหลงเช่นมารดาของเขา
“อย่าเย็นชากับแม่นักสิ เคียร์เนย์”
สตรีโฉมงามค่อยๆเอื้อมมือบางของตนลูบไล้ใบหน้าอันหล่อเหลาซึ่งโดดเด่นกว่าพี่น้องคนใดของบุตรชาย
สายตาของนางเต็มไปด้วยความลุ่มหลงและหลงใหลจนทำให้ผู้ที่ได้มองขนลุก
“แม่คิดถึงลูกจังเลย...ลูกรัก”
คำพูดมากมายเอ่ยออกมาจากปากของผู้เป็นมารดา ในขณะที่มือไม้ของนางนั้นก็อยู่ไม่สุขด้วยเช่นกัน
มันค่อยๆละลาบละล้วงเขามากขึ้นเรื่อยๆจนดูเกินเลยกับคำว่ามารดาและบุตรอย่างน่าเกลียด
“ร้อนแรงจังเลยนะ
แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ด้วยสิ ทำไงดีนะ?”
เคียร์เนย์เอ่ยอย่างไม่แยแส พลางมองดูการกระทำของมารดาด้วยความเย้ยหยัน...ตอนนี้เขาเบื่อนางแล้วด้วยสิ
หนึ่งในบาปที่ยากจะให้อภัย...หนึ่งในความโสมมในตัวเขานั้นคือ
การมีความสัมพันธ์กับมารดาของตนอย่างผิดจารีตประเพณี...ผิดมนุษย์มนาปกติทำกัน
ถึงแม้เอาจริงๆเขาจะไม่ใช่คนที่เริ่มก่อนก็ตาม...เพราะเป็นมารดาต่างหากที่’ข่มขืน’เขาในครั้งอายุได้เพียงสิบสองปีและพอเวลาเนิ่นนานผ่านไป จากการขัดขืนกลายเป็นความสมยอม
จากความสมยอมแปลงเปลี่ยนเป็นความระเริง
เขาได้เรียนรู้ว่ามารดาจิตไม่ปกติของตนนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากหญิงโง่เขลา
เขาไม่ได้ตระหนักถึงความไม่ถูกต้องและเริ่มมองมารดาของตนเป็นที่ระบายของใคร่เท่านั้น
แต่พอโตขึ้นมาหน่อยก็พบว่าเรือนร่างที่เคยเห็นนั้นช่างน่าเบื่อหน่าย
เขาจึงถอยระยะห่างจากผู้เป็นมารดาและสรรหาหญิงสาวคนใหม่อีกมากมาย
ตัวตนของเขามันถูกบิดเบี้ยวตั้งแต่แรกแล้ว....
.
.
.
เรื่องนี้ขอย้ำว่าดารค์นะคะ5555 ตัวละครไม่ได้ขาวสะอาดอะไร โดยเฉพาะจอมมารค่ะเพราะหลายๆอย่างที่เขาเจอในวัยเด็กไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องและผิดศีลธรรมไม่ก็มนุษย์มนามาตั้งแต่เด็ก เลยทำให้จอมมารค่อนข้างมีความบิดเบี้ยวจากสภาพสังคมและสภาพแวดล้อมโดยรอบค่ะ
ปล.เรื่องนี้มีความผิดศีลธรรมหากใครรู้สึกไม่โอเคกับมัน ต้องขออภัยด้วยนะคะ แต่อย่างไงถ้าอ่านเรื่องนี้ก็ขอให้ทำใจนะคะ555 เพราะประวัติพี่จอมมารแกยังมีอีกมากค่ะ
ความคิดเห็น