ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แด่เธอผู้เป็นสตรีของจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #22 : บทที่22 ฝันหนึ่งตื่น

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ย. 64


     

    ----....ค...คือลูกจะโอเคหรือเปล่า ถ้าแม่กำลังแต่งงานใหม่อีกครั้ง

    ความกังวลแผ่ซ่านในน้ำเสียงอันอ่อนโยนของผู้เป็นมารดา ดวงตาถนอมใจคู่นั้นเลือกหลบเลี่ยงที่จะสบมองเธอราวหวาดกลัวการหักห้ามในคำตอบของบุตรสาว เมื่อความรักเริ่มพลีบานในฤดูใหม่ก็ยากจะสรรหาคำใดมาเอื้อนเอ่ย...แม้กระทั่งความรู้สึกของเด็กน้อยวัยเยาว์คนหนึ่ง

     

    หากเธอปฏิเสธ....มารดาจะยินยอมตามความปรารถนาของเธออย่างนั้นหรือ?’

     

    ปลายลิ้นของเธอรู้สึกขมขื่นคล้ายน้ำลายของตนมิอาจกลืนลงสู่ลำคอได้ หน้าอกเหมือนถูกบีบรัดอย่างน่าอึดอัดราวค้อนเหล็กตอกลงไป ใบหน้าเสแสร้งปั้นรอยยิ้มนักหนาตามคำบอกกล่าวหวังดีของมารดานั้นแข็งทื่อจนแปรเปลี่ยนเป็นความเรียบนิ่งโดยไม่รู้ตัว...

     

    ถ้าแม่มีความสุข....หนูก็มีความสุขค่ะ

    ปากเอ่ยคำโกหกออกมาอย่างง่ายดาย คำสาปแช่งปะปนความน้อยใจนั้นถูกทุบตีอยู่ในสมองของตนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ริมฝีปากแข็งเป็นรอยหยักเส้นตรงพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะประดับความยินดีอันจอมปลอมให้แก่มารดาบังเกิดเกล้า

     

    อย่างนั้นเหรอ....พ่อใหม่ลูกเองก็มีลูกติดเหมือนกัน เป็นพี่ชายลูกในอนาคต
    ด้วยอายุวัยเยาว์ยังไม่ขัดเกลามากมายในสังคม ความไม่สบอารมณ์ที่แม้พยายามแสร้งปกปิดของบุตรสาวนั้นจึงมีร่องรอยปรากฏ หากแต่คล้ายเป็นความเห็นแก่ตัวของมารดาผู้นี้จึงเลือกยอมรับคำโกหกที่รักษาใจตนมากกว่าแลมองข้ามความรู้สึกของบุตรสาวไป

     

    อา...ค่ะ

    ไม่มีผู้คนทั้งหลายที่อยากฟังเรื่องราวของบุคคลภายนอกซึ่งเข้ามาเสริมเติมแต่งครอบครัวของตนโดยไม่ยินดีหรอก คำบอกเล่าของมารดาคล้ายขยะที่พ่นออกมาราวสายน้ำไม่หยุดหย่อน ดวงตาสีดำสนิทเป็นหลุมลึกนั้นค่อยๆจ้องมองใบหน้าของผู้ให้กำเนิดอย่างเงียบๆ

     

    ดั่งการละเล่นของปีศาจวนเวียนอยู่ในหัวสมองของเธอให้แสดงความโกรธาขึ้นมาสักครา....บีบน้ำตาร้องไห้สักหน่อย....ตะโกนแลขว้างปาของเยี่ยงเด็กน้อยตามอายุที่ควรเป็นบ้าง....เช่นนั้นมารดาคงเห็นใจตน

     

    ทว่าน่าเสียดายนักเมื่อสมองน้อยๆของเธอขลาดกลัวเกินกว่าลงมือกระทำ....เธอหวาดกลัวว่าหากเธอทำเช่นนั้น มารดาจะทอดทิ้งเธอ เฉกเช่นเดียวกับตอนที่มารดาทิ้งบิดาของเธอไป ชีวิตของเธอไม่เหลืออะไรแล้วนอกจากสตรีผู้ให้กำเนิดคนนี้

     

    อย่างนั้นก็ดีเลย....อีกไม่นานพวกเขาจะมาบ้านเราแล้ว จะได้ทำความรู้จักกัน

    สิ้นคำกล่าวของมารดานั้นทำให้หัวใจดวงน้อยๆยิ่งตระหนักอย่างแท้จริงว่า ไม่ว่าเธอจะเอ่ยปฏิเสธไป...มารดาก็จะไม่ใส่ใจ เมื่อคำเอ่ยนัดพบนั้นเป็นสิ่งที่มีอยู่ก่อนแล้วหลังเอ่ยถามความรู้สึกของเธอ...

     

    ใบหน้าเรียบนิ่งรู้สึกชาราวแช่น้ำแข็งเย็น มืออันเล็กน้อยหากแต่แข็งกร้าวราวก้อนหินกำฝ่ามือของตนเบาๆคล้ายบอกตัวเองให้อดทนอ้อมๆ บางทีผู้ใหญ่ก็มักแสดงความเห็นของตนเป็นใหญ่และบอกว่าเด็กอย่างเธอไม่มีเหตุผลมากพอ..เสียงบรรยายคุณความดีว่าแก่คนรักใหม่ของมารดานั้นยังคงบรรเลงออกมาราวเครื่องดนตรีเพลงพังๆ เธอตัดสินใจเมินเฉยต่อทุกสิ่งและเลือกที่จะไม่รับฟังมากกว่านำมาใส่ใจให้รู้สึกขุ่นมัว...

     

    ฟังแม่อยู่หรือเปล่า…-----“

    เมื่อเห็นท่าทางไม่ยินดียินร้ายของบุตรสาวนั้นทำให้สตรีผู้เป็นมารดากังวลกับการปฏิบัติตนของเด็กน้อยที่อาจกระทำเสียมารยาทกับว่าที่สามีใหม่ จึงพยายามอย่างยิ่งที่จะพรรณนาความดีและกำชับความสำคัญของบุคคลภายนอกที่จะเข้ามาเป็นครอบครัวตนในเร็ววัน

     

    แลแน่นอนว่าคำกล่าวใดๆล้วนไม่เปิดรับเมื่อผู้ฟังมีอคติ เด็กน้อยมีเสี้ยวความคิดว่ามารดาของตนนั้นโง่เขลาหรืออย่างไร จึงมองไม่ออกเลยว่าเธอนั้นไม่อยากยุ่งเกี่ยว การพยายามดึงดันให้เธอไปมีส่วนร่วมโดยที่มีความรู้สึกไม่ชอบพอนั้นก็รังแต่จะสร้างความอึดอัดให้แก่ทั้งสองฝ่ายเท่านั้น...

     

    ภาษาอังกฤษของหนูยังไม่แข็งแรงเท่าไหร่....เพราะฉะนั้นให้หนูอยู่เงียบๆก็พอแล้วค่ะ

    แม้นเป็นเด็กน้อยวัยเยาว์ที่ความคิดอาจไม่ซับซ้อนมากมายนัก แต่เธอก็เรียนรู้ที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาหรือความวุ่นวายที่จะเกิดตามวิสัยเอาตัวรอด

     

    ลูกมาอยู่อเมริกาได้เนิ่นนานสักพักแล้วนะ

    คล้ายเป็นคำติเตียนอ้อมๆของมารดา คิ้วเรียวสวยขมวดเข้มระบายความไม่พอใจเล็กน้อย ปลายปากพร่ำบ่นรำพึงนักหนาว่าเสียเวลามากมายโดยเปล่าประโยชน์แล้ว ความผิดหวังอันเป็นเวทีแสดงความรู้สึกประดับบนใบหน้าของมารดานั้นยิ่งทำให้ความขุ่นมัวในใจของเด็กหญิงตัวน้อยจมดิ่งลึกลงไปคล้ายซากทะเล

     

    เพราะแทบไม่มีใครพูดคุยกับเธอเลยด้วยซ้ำ...แม้กระทั่งตัวของมารดาเองก็เถอะ

     

    ปิดปากของตัวเองให้สนิทเมื่อเส้นกั้นความอคติของมารดานั้นแสดงออกมาราวสัญชาตญาณ...แก้วหูรับฟังคำกล่าวทั้งหลายก่อนถ่ายเทมันออกมาเป็นเพียงลมปากอันเบาบาง แลเมื่อเวลาผ่านไปชั่วครู่เสียงสัญญาณกริ่งประตูดังขึ้นก็คล้ายหยุดความน่ารำคาญทั้งมวลในคราเดียว...

     

    ราวมนต์สะกดอันน่าประหลาดที่มารดาของเธอหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วรีบวิ่งออกไป...ช่างน่ายินดีจริงๆ ทว่าเพียงไม่นานนักความนิ่งสงบบนใบหน้าของเธอก็แตกกระจายลง...เมื่อปรากฏเป็นรูปร่างของบุรุษชาวนอร์ดิกอเมริกันชนสองคนตามแบบฉบับพิมพ์นิยมในหน้าหนังภาพยนตร์ทั้งหลายที่มองชมผ่านตา....ความคิดในแง่ลบของเธอได้ตระหนักว่าพวกเขานั่นแลคือกลุ่มคนที่เธอใคร่ปฏิเสธ...

     

    แลไม่ทันที่คำเอื้อนเอ่ยใดๆจากริมฝีปากบางที่ขบเม้มเข้าหากัน...ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลภายใต้กรอบแว่นสี่เหลี่ยมอันเทอะทะชวนคุ้นเคยนั้นก็กวาดสายตามาบรรจบ...รอยยิ้มแรกพบเปี่ยมความอ่อนโยนซึ่งอาบย้อมใจเธอราวแสงสว่างพร่ามัวนั้นเด่นชัด... ถึงรูปลักษณ์ของผู้ส่งสารคำสอนพระเจ้าที่ตราตรึงอยู่ในหัวสมองของเธอเสมอมา...

     

    บาทหลวง-----

     

    ตายจริง....รู้จักกันอย่างนั้นเหรอ?”

    คำอุทานของมารดายิ่งตอกย้ำความจริงอันน่าพิลึกลือลั่น ดวงตาสีดำสนิทยิ่งระบายความเย้ยยันราวกับว่าสิ่งที่เห็นเป็นเรื่องโง่เขลา เสียงหัวเราะอันเหือดแห้งจากลำคอเล็กคล้ายรีดเค้นออกมาอย่างวิกลในขณะเดียวกัน

     

    ครับ...แต่ดูเหมือนคุณหนูตัวน้อยจะเข้าใจผิดไปหน่อยน่ะครับ ผมเป็นอนุศาสนาจารย์ในนิกายโปรแตสแตนต์ ไม่ใช่บาทหลวงหรอกครับ

    เป็นน้ำเสียงที่นุ่มนวลเอ่ยตอบกลับอย่างเชื่องช้าด้วยความใจเย็น พลางเลื่อนสบมองกิริยาของเด็กน้อยราวขำขันประดุจลูกแกะตัวน้อยพบเจอหมาป่าก็ไม่ปาน

     

    นี่...อามิธ จะมาเป็นพี่ชายคนใหม่ของลูกนะ...

     

    ราวกับมีภูตพรายมากระซิบหยอกล้อ...เผยโฉมรอยยิ้มอันน่าแสนวิเศษของเทวดาผู้บริสุทธิ์อันเยื้องย่างลงมาบนพื้นโลกมนุษย์ แล้วชำระล้างโคลนโสมมเช่นตัวเธอในสักวัน...

     

    หากแต่แท้จริงแล้วคือกลลวงบาปจากพระเจ้า...ดั่งบททดสอบของโมเสสผู้แหวกข้ามทะเลแดงสู่แสงชัยอิสระ แลน่าเสียดายนัก....เมื่อมิใช่มนุษย์ทุกคนที่สามารถก้าวข้ามผ่านบททดสอบนี้ไปได้ รุกล้ำสู่ห้วงนรกอเวจี เฉลิมฉลองปราชัยเพื่อดื่มด่ำไวน์คราสุดท้ายก่อนบรรจงก้าวเท้าเต้นรำไปพร้อมกับซาตาน

     

    .

    .

    .

     

    พี่ชาย...อย่าร้องไห้นะคะ...

    เสียงไร้เดียงสาดุจแก้วใสชวนรู้สึกบอบบางยามแตกหักนั้นเอื้อนเอ่ยในภาษาต่างดินแดนที่เขาไม่คุ้นเคยนัก...ถึงเรือนผมสีดำสนิทเป็นพลอยนิล สบมองกับดวงตากลมคู่งามราวนัยน์กวาง แลมือไม้อันแสนเล็กน้อยที่กลับพยายามโอบล้อมความเจ็บปวดของเขาราวกับว่ามันสามารถปกป้องโลกทั้งใบได้ ซึ่งช่างน่าขัน....เมื่อความอบอุ่นเล็กๆนี้กลับรู้สึกปลอดภัยมากกว่าใต้แสงของรูปปั้นพระผู้เป็นเจ้าที่เขาอ้อนวอนเสียอีก

     

    แม้นภาษาต่างดินแดนจะมิได้มีความสำคัญอะไร เมื่อเทียบเท่ากับภาษาแม่ของเขาอันคล้ายคลึงความเป็นสากล หากแต่เพราะความใกล้ชิดและการดูแลซึ่งกันและกันเสมอมา ทำให้ทั้งสองเรียนรู้สิ่งต่างๆของอีกฝ่ายเพื่อยอมรับและเข้าใจกัน เขาจึงรับรู้ถึงความห่วงใยที่พยายามปกปิดจากผู้คนอื่นของเด็กหญิงตัวน้อยผ่านภาษาที่แตกต่าง

     

    พี่ไม่เป็นไร....----

    ร่องรอยแตกร้าวของกระจกแว่นนั้นมิอาจปกปิดหยดน้ำตาไหลรินอันมากล้นของเด็กหญิงตัวน้อยได้ เสียงด่าทอของบิดาบังเกิดเกล้าผสมเคล้าความเย็นชาราวไร้หัวใจของมารดาเลี้ยงที่แปลกประหลาดนั้นได้ทอดทิ้งพวกเขาหลังบานประตู ข้อมือของเขาถูกบิดพลิกจนผิดรูปลักษณ์ชวนน่าขนลุก เศษเลือดและก้อนเนื้อฉีกขาดบางส่วนเป็นดั่งของน่าขยะแขยงที่เผยโฉมออกมาจากร่างกายของเขาเป็นตราบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่า...

     

    หนูจะอยู่ข้างๆพี่เอง...เพราะฉะนั้นอย่าหวาดกลัวที่จะไม่มีใคร ต่อให้พระเจ้าที่พี่เชื่อจะไม่มีอยู่จริง

    เป็นคำกล่าวเรียบสงบที่ไร้ซึ่งการปรุงแต่งใดๆ แม้นโดยปกติแล้วเด็กหญิงตัวน้อยจะรับรู้ดีว่าเขาอาจไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อตนเอ่ยถึงพระเจ้าอย่างไร้ศรัทธา แลช่างน่าแปลก...เมื่อเขากลับไม่รู้สึกขุ่นเคืองอย่างที่เคยเป็นมาอีกแล้ว เพียงมือเล็กคู่นั้นกอบกุมฝ่ามือที่อัปลักษณ์ด้านชาของเขาอย่างอ่อนโยน ปัดเป่าซึ่งความเจ็บปวดทั้งหลายจากโลกความเป็นจริงที่โหดร้ายเหลือคณานัก อบอุ่นคล้ายเปลวไฟโชติช่วงท่ามกลางฤดูเหมันต์หนาวเหน็บ

     

    ก่อนมันจะกลายเป็นเพียงฝันหนึ่งตื่นในชั่วพริบตาของชีวิตมนุษย์คนหนึ่ง....

     

    นัยน์ตาสีโลหิตเลือดของมารร้ายลืมตาตื่นขึ้นอย่างเชื่องช้า....เรือนผมยาวสีดำกาทมิฬนั้นปกลงมาคลอเคลียบนใบหน้าเค้าคมอันเย้ายวนสตรีเพศ ก่อนที่ปลายนิ้วหนาจะยกเลื่อนขึ้นมาสูดดมฝ่ามือของตนราวหวนคำนึง....ถึงกลิ่นรัญจวนของความอ่อนโยนในเนรมิตวันวาน

     

    แม้นกำเนิดเจ็บตายกี่หมื่นอดีตชาติ พานพบผู้คนมามากมายล้วนไม่จีรัง....ใช่ว่าชีวิตในภพกาลก่อนของตนนั้นมิเคยมีคนเคียงคู่กายหรือไร้สิ้นพันธะใดมากมาย...จักนารีหรือบุรุษเพศ ก็ลิ้มลองความรู้สึกแลรสชาติเสพสังวาสเป็นอาจิณ หากเอ่ยถามว่ามีสตรีใดที่เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนกว่าเด็กหญิงตัวน้อยผู้นั้นหรือไม่...เขาย่อมตอบว่ามีอย่างแท้จริง...นิสัยหรือรูปลักษณ์ของนางนั้นมิได้หายากอะไรในผู้คนนับพันล้าน...

     

    ทว่าเพราะความโปรดปรานนั้นมิจำเป็นต้องเป็นสตรีที่งดงามที่สุดหรือดีเลิศประเสริฐอันเป็นหนึ่ง ความชอบคือความชอบ...ต่อให้มีดรุณีเพียบพร้อมซึ่งความอ่อนโยนมากมายกว่านางเพียงใด แต่เขากลับพึงใจปรารถนาซึ่งความอ่อนโยนแม้นเพียงน้อยนิดของนางเท่านั้น...ดั่งมีโซ่ตรวนมาตีตราให้มันคงรักพิมพ์แด่นางเพียงผู้เดียว ช่างขลาดเขลาราวสุนัขโง่งมในความภักดี

     

    คำสาปของความเป็นนิรันดรนั้นคือชีวิตที่เวียนว่ายตายเกิดโดยไม่อาจร้างลืม มารร้ายเฉกเช่นมันไม่สามารถใช้ชีวิตโดยแบกรับความรู้สึกและความทรงจำที่อาบย้อมไปด้วยความผูกพันทั้งมวลนับพันนับหมื่นอดีตชาติได้...จึงเลือกหลงลืมอดีตชาติเหล่านั้นไป...เพื่อรักษาตัวตนให้คงอยู่ มิให้เสียสติแลบิดเบี้ยวตัวตนของชีวิตตัวเองไปมากกว่านี้...ถึงเช่นนั้น เด็กหญิงตัวน้อยในวัยเยาว์กลับเป็นสิ่งเขาไม่อาจลบทิ้งในความทรงจำที่มากมายได้...

     

    ไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งใดๆที่ข้าส่งคนไปเผากรุงหลวงแห่งอาณาจักรมิลล์เทน...เพราะฉะนั้นอย่าทำอะไรไม่เข้าเรื่อง วาตินนอฟ.

     

    คำกล่าวด้วยความสัตย์จริงเพียงหนึ่งเดียวของคนบาปนั้นคือความไร้สัจจะ คำสัญญาอันเลือนลอยนั้นเป็นเพียงลมปากของมารร้าย ตัวตนเฉกเช่นมันคือความชั่วร้ายอันโดยชอบธรรมของโลกใบนี้ หาได้มีความคิดตื้นเขินกะหลั่วๆเหมือนดั่งตัวร้ายโง่งมที่ยังคงมีศีลธรรมความคิดของมนุษย์ในบทประพันธ์ทั้งหลาย

     

    ท่านเอื้อยเอ่ยคำสัญญาแด่ท่านหญิงน้อยไปแล้วมิใช่หรือพะยะค่ะ

     

    ปลายนิ้วเรียวหนาของจอมมารหนุ่มทิ้งเคาะพื้นโต๊ะเป็นจังหวะเล็กน้อยอย่างผิดมารยาท ปลายเท้าไขว่ห้างเป็นเยื้องย่างชวนยโสในกิริยา นัยน์ตาสีโลหิตเลื่อนสบไปมาราวครุ่นคิดไม่ขาดสาย ถึงตัวมันแด่ความฉิบหายแก่เผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหลายนั้นเป็นของคู่กัน  ดังนั้นหากเอ่ยมุสาเพียงเล็กน้อย กระทำตนเชิดหุ่นอยู่เบื้องหลังสักหน่อย ทั้งมวลย่อมเป็นเรื่องง่ายดายราวกลืนกินน้ำ

     

    หากคำโกหกนั้นเป็นเพียงคำหลอกลวงตั้งแต่เริ่มแรกแล้วจึงใยต้องใส่ใจ?”

     

    การมีชีวิตอยู่ของผู้กล้าตัวน้อยนั้นรังแต่จะสร้างความพินาศให้แก่เขาและนาง...ดาบศักดิ์สิทธิ์ของเทพีแห่งโชคชะตาทั้งสามนั้นหาได้เสียบลงมาทะลุหัวใจของมารร้ายเช่นมันเพียงผู้เดียวเท่านั้น....หนึ่งชีวิตอันบริสุทธิ์ที่มันโอบอุ้มนั้นจะกลายเป็นเครื่องสังเวยแด่คนบาปราวคำประกาศของพระผู้เป็นเจ้า ช่างน่าขันนัก....นี้หรือความถูกต้องที่เอาชนะความรู้สึกของมนุษย์ผู้หนึ่ง...

     

    หากพระผู้เป็นเจ้าเฉกเช่นชายผู้โง่เขลาคนนั้นประสงค์ให้นางจบชีวิตลงในบทสุดท้ายเพื่อความถูกต้อง...เคียร์เนย์นั้นแลที่จะต่อต้านมัน แล้วกระทำสิ่งบาปทั้งมวลบนโลกเพื่อตัวนาง

     

    ข้านั้นแตกต่างจากเจ้า....อามิธ

     

    .

    .

    .

     

    กลับมาแล้วค่าาา-----ขอโทษที่หายไปนานนะคะ เนื่องจากพยายามปรับตัวกับการเรียนมหาลัยอยู่ แล้วก็ปวดหลังหนักมากจนแทบทิ้งดิ่งบนเตียงเลยค่ะ555

    ปล.ถ้าคำบรรยายตรงไหนผิดหรือสำนวนตรงไหนอ่านไม่เข้าใจ ทักได้นะคะ ส่วนตัวก็ห่างจากงานเขียนมาสักพักเลยรู้สึกฝืดๆเวลาคิดคำหน่อยน่ะค่ะ

    ปล.ที่2 เนื้อเรื่องจะค่อยๆเฉลยปมแล้วค่ะ! 


    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×