คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่2 อดีตชาติของเด็กหญิง
มีเพียงความผิดพลาดสองครั้งในชีวิตที่เธอไม่สามารถลืมได้และไม่อาจลืม...
ครั้งแรกคือ การที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนที่ทำตัวน่าสมเพชและเป็นพวกไร้คุณภาพในสังคม
ครั้งที่สองคือ การฆ่าหนึ่งชีวิต
เธอเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้รวยล้นฟ้าอะไร เป็นฐานะปานกลางค่อนไม่ดี พ่อและแม่ต่างทำงานหาเช้ากินค่ำ...ทำให้เธอแทบไม่เห็นพวกเขา แต่เธอก็รับรู้ดีว่าพวกเขาต่างต้องทำงานเพื่อหาเงิน
หากแต่เป็นเธอเองที่ไม่ดี...
อาจเพราะพ่อแม่ไม่ค่อยมีเวลาให้เธอนัก....มีเพียงเงินที่วางบนโต๊ะไร้ซึ่งข้อความใดๆอันเป็นการบอกว่าพวกเขาจะไม่อยู่บ้าน
เป็นแบบนี้เสมอตั้งแต่เธอเป็นเด็ก....พวกเขาไม่เคยพาเธอไปเที่ยวเหมือนครอบครัวอื่นๆ
วันเกิดเป็นเพียงวันธรรมดาเท่านั้น ไม่มีของขวัญ ไม่มีเค้ก
หรือแม้แต่ตัวของพ่อแม่เองก็ตาม....ไม่มีใครอยู่บ้านเลยสักคน
เธอพยายามปลอบใจตัวเองว่าที่เขาทำอย่างนี้อาจเป็นเพราะอยากให้เธอดูแลตัวเองได้ตั้งแต่เล็กๆ
แต่เมื่อยิ่งโตก็ยิ่งรับรู้ถึงความจริงอันโหดร้าย...พวกเขาแค่ไม่สนใจเธอเท่านั้นเอง...
พ่อค่อนข้างติดสุราเมื่อเงินเดือนออก เขามักใช้เวลาอยู่กับเพื่อนที่ร่วมเหล้ามากกว่าครอบครัวอยู่แล้ว....ส่วนแม่ก็สนใจโทรศัพท์มากกว่าเธอ...แม่ใช้เวลาโทรหรือคุยแชทกับเพื่อนมากกว่าที่จะคุยกับเธอเสียอีก...
และนั่นก็ทำให้เธอกลายเป็นเด็กโหยหาความรัก
อาจเรียกว่าเป็นเด็กมีปัญหาก็ได้...
โดดเรียน เริ่มสูบบุหรี่และกินเหล้า
หาเพื่อนฝูงตลอดเวลา เที่ยวเล่นอย่างไร้สามัญสำนึก...
ทุกอย่างกลายเป็นสิ่งที่สร้างความสุขให้กับเธอในตอนนั้นโดยที่เมื่อมองย้อนกลับไป
เธอก็แค่เด็กตลาดล่างที่ไร้คุณภาพดีๆนั่นเอง...
ซึ่งต่อมาจุดเปลี่ยนแปลงที่สุดในชีวิตของเธอคงเป็นตอนที่เธอได้พบกับผู้ชายคนหนึ่ง...
เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนของเธอ...และเธอก็ชอบเขาอย่างจังในตอนนั้นคล้ายกับมีศรมาปักกลางใจ
กลายเป็นเพียงเด็กโง่ที่พึ่งรู้จักความรักครั้งแรก
เธอพยายามไล่ตามเขาและจีบเขาอย่างตรงไปตรงมาจนสุดท้ายเขาก็ยอมตกลงเป็นแฟนกับเธอเพียงหลังจากพบกันไม่กี่เดือน
ซึ่งหากมาคิดดูดีๆแล้ว
ที่เขายอมตกลงกับเธอเป็นเพราะเธอจีบเขาติดหรือเขามองเธอง่ายกันนะ?....ซึ่งมันก็น่าจะอย่างหลังเสียมากกว่า...
เพราะหากเขารักเธอจริง เขาคงไม่ทำอย่างนั้น...
ในตอนที่เธอและเขาเข้าสู่วัยรุ่น ความอยากรู้อยากลองนั้นก็ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน
จนสุดท้ายกลายเป็นความสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร
ซึ่งมันจะไม่มีอะไรนักหากเธอและเขารู้จักป้องกัน
ความจริงอันแสนเขลาคือ เมื่อเขาร้องขอการมีเพศสัมพันธ์อันไร้การป้องกันนั้น
เป็นเธอที่หน้ามืดตามัวในความรักแบบเด็กๆที่ยอมเขาทุกอย่างจนลืมฉุดคิดถึงสิ่งตามมาเพียงเพราะคิดว่าไม่เป็นไร
และช่วงเวลาความสุขล้นในตอนนั้นก็เป็นเพียงเวลาชั่วคราวที่จางหายไปอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับความทุกข์ที่ตามมา....เธอท้อง
คล้ายหน้าของเธอชา แขนขาไร้เรี่ยวแรง
พยายามซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจแล้วตรวจอีกเป็นสิบครั้งเพื่อคิดว่าจะมีความหวังว่ามันเป็นเรื่องผิดพลาด
หากแต่สุดท้ายมันคือความจริง...
เธอโทรหาเขาในทันทีและสิ่งที่ได้รับกลับมานั้นคือคำถามว่า’ใช่ลูกของเขาจริงๆเหรอ?’
หลังรับรู้ว่าตนท้อง ใบหน้าของเธอที่ว่าชาแล้ว
เมื่อได้ยินคำถามของเขานั้นกลับยิ่งชากว่า เธอร้องตะโกนด้วยความโกรธและเสียใจปะปนกันไป
นั่นคือครั้งแรกของเธอนะ!
เธอจะไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นได้ไง!
เขาคิดอย่างนั้นได้อย่างไง!
จนสุดท้ายที่สุดแล้วเขาจึงต้องจำยอมยอมรับเธอในที่สุด...
เขาจับมือของเธอและบอกกับเธอว่าเขาจะรับผิดชอบเองและจะดูแลเธอเอง...เพียงแค่ได้ยินคำนั้นเธอในตอนนั้นก็โล่งอกและสบายใจไม่ต่างอะไรจากเด็กโง่
เธอและเขาพยายามช่วยหางานกันทำอย่างแอบๆ
โดยที่เธอเองนั้นก็ยังไม่ได้บอกพ่อแม่ถึงเรื่องการท้องในตอนนั้นเพราะความกลัว
แต่ก็ยังเชื่อมั่นในตัวของผู้ชายคนนั้นว่าจะไปกันรอด...
แต่สุดท้ายเขาก็หนีเธอไป....เขาย้ายบ้านและตัดขาดการติดต่อกับเธอ...
เธอในตอนนั้นคล้ายโลกทั้งใบแตกสลายเมื่อคนที่คิดว่าจะอยู่ด้วยกันกลับทิ้งไป
เหลือแค่ตัวเธอคนเดียวที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหา
แต่เธอก็คิดจะต่อสู้ต่อไป เพราะคิดว่าตัวเองทนได้....
ท้องของเธอเริ่มใหญ่ขึ้นจนชุดนักเรียนไม่สามารถปกปิดได้แล้ว
เสียงนินทาจากเพื่อนๆที่เริ่มรับรู้เรื่องของเธอดังตลอดเวลาของชั้นเรียน
คุณครูเริ่มมองเธอด้วยสายตาเหยียดหยาม ชาวบ้านต่างชี้มาที่เธอและสอนเด็กเล็กๆว่าอย่าเป็นอย่างเธอ...
อับอาย....
เธออยากปิดใบหน้าของเธอในตอนนั้น
หากแต่มือของเธอกลับกุมท้องตลอด...
เวลาผ่านไปเกือบแปดเดือน...เธอเลือกที่จะไม่ไปโรงเรียน...แรงกดดันจากสิ่งต่างๆเริ่มบีบบังคับให้เธอจนตรอก ท้องที่เริ่มใหญ่จนปิดไม่มิดเป็นหลักฐานชั้นดีถึงการท้อง พ่อแม่รู้ข่าวและพวกเขาก็พบเธอ...
เธอสั่นราวกับโดนของ
แต่มือก็กุมท้องของตนแน่น...
อาจเป็นเพราะความกลัวก็เป็นได้ที่ทำให้ภาพของทุกอย่างที่เธอเห็นในห้องพร่ามัว
หูของตึงจนแยกไม่ออกว่าพวกเขากำลังพูดเรื่องอะไร
[ไปเอาลูกออก]
มีเพียงประโยคนี้ที่เธอได้ยินมันเต็มสองหู....จากคนเป็นพ่อ
และหลังจากนั้นไม่นาน...พ่อแม่ของเธอก็หันมาสนใจเธอเป็นครั้งแรกหลังจากที่เธอจำความได้...พวกเขาหาซื้อยาจากอินเทอร์เน็ตและบังคับให้เธอกิน
เธอร้องขอพวกเขา ขอชีวิตเด็กคนนี้ไว้....แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือคำพูด
“แกจะเก็บไว้ทำไม!?
หยุดสร้างปัญหาได้แล้ว! แค่นี้พวกฉันก็อายจะตายอยู่แล้ว!”
แต่การกินยาก็ไม่ได้ทำให้เธอดีขึ้นนัก....หนำซ้ำยังแย่ลง.....เธอตกเลือด...
สิ่งสุดท้ายที่เธอเห็นคือตัวเองที่ถูกขนส่งไปยังโรงพยาบาล....และห้องผ่าตัด....
และนั่นก็คือตอนจบของเธอ....
.
.
.
ความคิดเห็น