ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Buried Alive

    ลำดับตอนที่ #1 : :: once upon a time ::

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ย. 57


    นี่คือเรื่องราวของแบเก็ตส์และน้องชายของเขา

                    ...สมิธ


                    สมิธเกิดในปีถัดจากแบเก็ตส์ ทว่าทั้งคู่กลับมีความแตกต่างกันอย่างมาก สมิธเป็นเด็กชายที่มีอุปนิสัยร่าเริง เข้ากับคนง่าย

    ใบหน้าที่ได้รูป งดงามราวกับเทพบุตรน้อยๆ ต่างพาให้เหล่าผู้คนรอบกายหลงใหล เส้นผมสีทองสว่างขับนัยน์ตาสีเขียวอ่อนและริมฝีปาก

    แดงให้โดดเด่นออกมา


                    ทว่าแบเก็ตส์...เขาช่างดูเหมือนเศษละอองธุลีในสายตาใครๆ เด็กชายผิวขาวซีดดูอมโรคและเบ้าตาลึกโหล เส้นผมสีหงอกขาว

    โพลนทั้งหัวราวกับได้รับคำสาปแช่งให้รีบตายก็ไม่ปาน เขาเก็บตัว เงียบขรึม และไม่มีเพื่อน เป็นรอยด่างพร้อยของตระกูลที่ถ้าไร้

    มนุษยธรรมกว่านี้อีกนิด เขาก็อาจจะไม่ได้ลืมตาเพื่อดูโลกอันโหดร้ายใบนี้อีกเลย


                    คุณและคุณนายบอร์ตัน พ่อแม่ของเด็กชายทั้งคู่ไม่ค่อยอยากเอ่ยถึงการมีตัวตนของแบเก็ตส์เท่าไหร่นัก ทั้งคู่มักแสร้งลืมว่ามี

    บุตรชายสองคน


                    ในขณะที่สมิธดื่มกินอยู่ในงานเลี้ยงใหญ่โต แบเก็ตส์กำลังอยู่ไหนน่ะหรือ? ...มีอยู่ที่เดียวเท่านั้นแหละที่คนอย่างเขาจะอยู่ได้

    ห้องใต้หลังคาที่ใหญ่โตของตระกูลน่ะสิ


                    เฟอร์นิเจอร์หรูหราและลายวอลเปเปอร์พวกนั้นไม่ได้ทำให้เด็กชายหดหู่น้อยลงเลยสักนิด แบเก็ตส์ในวัยสิบเอ็ดปีได้แต่จ้องมอง

    ออกไปนอกหน้าต่าง มองละแวกบ้านของเหล่าคนรวยและเด็กๆ ที่วิ่งไล่กันอย่างสนุกสนานท่ามกลางหิมะขาวโพลนที่โปรยปราย


                    เด็กชายนึกอิจฉา ...ทว่าคงไม่มีใครอนุญาตให้เขาได้เหยียบย่างแม้แต่จะออกจากห้องนอน ด้วยเหตุผลอันสวยหรูว่าห่วงสุขภาพ

    ของเขา


                    นิ้วเล็กๆ ขาวผอมของเขาเขี่ยฝากล่องดนตรีให้เปิดแล้วก็ปิดมันลง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า รูปตุ๊กตาคุณหมีในชุดสูทเล่นเปียโนนั่นน่ารักไม่

    น้อย ทว่าคุณหมีกลับดูเหงาอย่างประหลาด...อยู่คนเดียว...เหมือนเขาเลย ใช่ไหมนะ คุณหมีจะเหงาเหมือนที่เขากำลังรู้สึกอยู่หรือเปล่า


                    เพราะไม่มีใครรักหรือเปล่าเลยต้องอยู่คนเดียว?


                    แบเก็ตส์ไอค่อกแค่กออกมาเพราะอุณหภูมิที่เย็นจัด ขยับผ้าพันคอสีเขียวเข้มให้กระชับแน่นขึ้น อ่า รู้สึกไม่มีแรงอีกแล้ว วันนี้หรือ

    เปล่า...หรือจะพรุ่งนี้ ที่เขาจะตายได้


                    ทว่าคำอธิษฐานของเขาไม่เคยเป็นจริงอยู่แล้ว ไม่ว่าขออะไรก็ไม่เคยเป็นจริง ...เมื่อปีที่แล้วเขาเห็นสมิธได้ของเล่นใหม่ตามที่

    อยากได้ ทั้งที่เขียนเหมือนกัน ก็เลยคิดว่าน่าจะได้แท้ๆ แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้กลับเป็นความว่างเปล่าแทน


                    เขาเคยได้ยินเสียงเอ็ดมันกับโรซี่เถียงกันว่าเด็กไม่ดีจะไม่ได้ของขวัญที่อยากได้ในวันคริสมาสต์ ...อาจจะจริงอย่างที่พวกนั้นพูด

    เพราะเขาเป็นเด็กไม่ดี ทุกคนถึงได้รังเกียจเขา ไม่มีใครอยากเล่นด้วย ทุกคนรักแต่สมิธกันทั้งนั้น...ขนาดเขายังรักสมิธเลย


                    เขาเกิดมาทำไมกันนะ


                    เด็กชายนึกสงสัยหลายต่อหลายหน แต่ก็ไม่เคยถามอะไรออกไป คุณเอลล่าสั่งไม่ให้เขาถามอะไรไร้สาระ เธอเป็นหัวหน้าแม่บ้าน

    วัยกลางคนที่เฮี้ยบขนาดแค่เห็นก็พาลให้รู้สึกกลัวจนตัวสั่นแล้ว รอยยับย่นบนหน้าที่เต็มไปความบูดบึ้งนั้นทำให้เขานึกแขยง และยิ้มริมฝี

    ยามออกคำสั่งนั่น...อืม นับได้ว่าเป็นสิ่งเดียวที่แบเก็ตส์ชิน


                    ชีวิตของเขาช่างน่าเบื่อ จืดชืด และไร้สีสัน


                    กระทั่งในอีกไม่กี่เดือนถัดมา...


                    แบเก็ตส์จำได้ไม่แม่นนักว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ตอนไหน รู้แต่ว่าเมื่อเขารู้ตัวอีกทีคฤหาสน์ทั้งหลังก็ถูกลามเลียไปด้วยเปลวเพลิง

    เด็กชายได้ออกจากบ้านเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีด้วยเหตุการณ์ที่น่าสลดใจ กองเพลิงที่สูงเสียดฟ้าช่างตัดกับหิมะขาวโพลนโดยรอบ


                    พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตในกองเพลิง ส่วนตัวเขาในตอนนั้นทำได้แค่เพียงกอดกล่องดนตรีไว้แนบอกและฟังเสียงร้องไห้ของคนอื่นๆ

    ...เขาควรที่จะเสียใจไหม ในเมื่อคนที่เรียกว่าพ่อแม่นั้น แบเก็ตส์ยังจำหน้าได้ไม่ชัดนัก


                    ทว่านั่นเป็นเรื่องในวัยเด็ก


                    หลายปีถัดมาเขาพบว่าตัวเองในตอนเด็กและวันเองในวันนี้ช่างต่างกันเสียเหลือเกิน


                    ความคิดไร้เดียงสาในวัยเยาว์ได้เดินจากเขาไปแล้ว สิ่งที่ได้ตอบแทนคือการยอมรับความจริง ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่

    เท่านั้น


                    ...แต่ใครจะคาดคิด เมื่อสุดท้ายสิ่งที่เขาต้องการกลับเป็นจริงในหลายปีหลังจากนั้น


                    สมิธในวัยสิบเจ็ดปีทำหน้าบูด รอยกระเล็กๆ บนใบหน้านั่นทำให้เขาดูเป็นไอ้งั่งที่ทำไม่ได้แม้กระทั่งจะตักข้าวข้าวปากเอง


                    ที่โต๊ะอาหารประกอบไปด้วยป้าและพี่ชายโง่ๆ อีกคนของเขา


                    “ผมเกลียดเบคอน” สมิธว่าพลางเบะปาก อีกมือก็จับจานเทอาหารลงถังขยะอย่างหยาบคาย


                    แบเก็ตส์ที่กำลังเล่นกับแมวเหลือบตามอง คุณชายแวบหนึ่งแล้วหันไปแหย่เจ้ามีมี่เล่นต่อ ส่วนป้าที่เคยชินกับพฤติกรรมเรียก

    ร้องความสนใจนี้แล้วก็แค่หั่นเบคอนเข้าปากต่อไป


                    โอเค การไม่ได้รับความน่าสนใจมันน่าอับอาย แต่เชื่อเถอะ...แบเก็ตส์ชินกับสิ่งนั้นมาทั้งชีวิตสิบกว่าปีของเขาแล้ว แต่กับสมิธ

    ไม่ใช่ เด็กหนุ่มชักสีหน้าบึ้งตึงหนักกว่าเก่าก่อนจะหันมาเตะเก้าอี้พี่ชายแล้วเดินจากไปด้วยเสียงตึงตังอย่างที่เด็กวัยนี้เขาไม่น่าจะทำกัน

    แล้ว


                    หลังจากเกิดเหตุการณ์การสูญเสียครั้งใหญ่นั้นสมิธก็เปลี่ยนไป อุปนิสัยหลายอย่างดูบิดเบี้ยว...ซึ่งก็ไม่แปลกสำหรับคนที่ได้รับ

    ความรักความเอาใจใส่ซะขนาดนั้น


                    “ขอโทษแทนด้วยฮะ” แบเก็ตส์พูด แล้วป้าดอว์น่าก็ทำเหมือนได้ยินเสียงลม


                    เด็กหนุ่มเองก็ไม่แคร์ เขานั่งเล่นกับเจ้าเหมียวขนฟูจนพอใจจึงได้เริ่มทานอาหารต่อ


                    ดอว์น่าเป็นพี่สาวของคุณบอร์ตันซึ่งปัจจุบันยังครองตัวเป็นโสด สาเหตุที่หล่อนรับเลี้ยงเด็กทั้งสองก็ล้วนมากจากความละโมบ

    โลภมากอยากได้ทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลของผู้ที่จากไปเท่านั้น ความรักความเมตตาที่หล่อนมีให้คนทั้งคู่ก็แค่เท่าที่มนุษย์คนหนึ่งพึง

    จะมีให้คนรู้จักเท่านั้น  


                    “อ้อ ป้าฮะ เรื่องโรงเรียน...”


                    เธอเหลือบมองแบเก็ตส์ที่พูดถึงสัญญาที่เธอเคยให้ไว้


                    แต่อยู่ๆ ร่างของเด็กหนุ่มที่กำลังพูดกับเธอก็ร่วงผล็อยลงกระแทกกับโต๊ะอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เลือดสีแดงไหลซึมออกมาตามแนว

    โต๊ะอาหาร


                    ...พร้อมกับลมหายใจที่หยุดลง

    ........................................................................................................................................................................................................


    ::ขอความกรุณาวิจารณ์ด้วยน้า::

    ถือว่าเป็นประโยชน์กับเรา ขอความกรุณาด้วยน้า (._.') จะได้เอาไปพัฒนาฝีมือ 

    ขอบคุณทุกความเห็นล่วงหน้านะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×