คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : :: once upon a time ::
นี่คือเรื่องราวของแบเก็ตส์และน้องชายของเขา
...สมิธ
สมิธเกิดในปีถัดจากแบเก็ตส์ ทว่าทั้งคู่กลับมีความแตกต่างกันอย่างมาก สมิธเป็นเด็กชายที่มีอุปนิสัยร่าเริง เข้ากับคนง่าย
ใบหน้าที่ได้รูป งดงามราวกับเทพบุตรน้อยๆ ต่างพาให้เหล่าผู้คนรอบกายหลงใหล เส้นผมสีทองสว่างขับนัยน์ตาสีเขียวอ่อนและริมฝีปาก
แดงให้โดดเด่นออกมา
ทว่าแบเก็ตส์...เขาช่างดูเหมือนเศษละอองธุลีในสายตาใครๆ เด็กชายผิวขาวซีดดูอมโรคและเบ้าตาลึกโหล เส้นผมสีหงอกขาว
โพลนทั้งหัวราวกับได้รับคำสาปแช่งให้รีบตายก็ไม่ปาน เขาเก็บตัว เงียบขรึม และไม่มีเพื่อน เป็นรอยด่างพร้อยของตระกูลที่ถ้าไร้
มนุษยธรรมกว่านี้อีกนิด เขาก็อาจจะไม่ได้ลืมตาเพื่อดูโลกอันโหดร้ายใบนี้อีกเลย
คุณและคุณนายบอร์ตัน พ่อแม่ของเด็กชายทั้งคู่ไม่ค่อยอยากเอ่ยถึงการมีตัวตนของแบเก็ตส์เท่าไหร่นัก ทั้งคู่มักแสร้งลืมว่ามี
บุตรชายสองคน
ในขณะที่สมิธดื่มกินอยู่ในงานเลี้ยงใหญ่โต แบเก็ตส์กำลังอยู่ไหนน่ะหรือ? ...มีอยู่ที่เดียวเท่านั้นแหละที่คนอย่างเขาจะอยู่ได้
ห้องใต้หลังคาที่ใหญ่โตของตระกูลน่ะสิ
เฟอร์นิเจอร์หรูหราและลายวอลเปเปอร์พวกนั้นไม่ได้ทำให้เด็กชายหดหู่น้อยลงเลยสักนิด แบเก็ตส์ในวัยสิบเอ็ดปีได้แต่จ้องมอง
ออกไปนอกหน้าต่าง มองละแวกบ้านของเหล่าคนรวยและเด็กๆ ที่วิ่งไล่กันอย่างสนุกสนานท่ามกลางหิมะขาวโพลนที่โปรยปราย
เด็กชายนึกอิจฉา ...ทว่าคงไม่มีใครอนุญาตให้เขาได้เหยียบย่างแม้แต่จะออกจากห้องนอน ด้วยเหตุผลอันสวยหรูว่าห่วงสุขภาพ
ของเขา
นิ้วเล็กๆ ขาวผอมของเขาเขี่ยฝากล่องดนตรีให้เปิดแล้วก็ปิดมันลง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า รูปตุ๊กตาคุณหมีในชุดสูทเล่นเปียโนนั่นน่ารักไม่
น้อย ทว่าคุณหมีกลับดูเหงาอย่างประหลาด...อยู่คนเดียว...เหมือนเขาเลย ใช่ไหมนะ คุณหมีจะเหงาเหมือนที่เขากำลังรู้สึกอยู่หรือเปล่า
เพราะไม่มีใครรักหรือเปล่าเลยต้องอยู่คนเดียว?
แบเก็ตส์ไอค่อกแค่กออกมาเพราะอุณหภูมิที่เย็นจัด ขยับผ้าพันคอสีเขียวเข้มให้กระชับแน่นขึ้น อ่า รู้สึกไม่มีแรงอีกแล้ว วันนี้หรือ
เปล่า...หรือจะพรุ่งนี้ ที่เขาจะตายได้
ทว่าคำอธิษฐานของเขาไม่เคยเป็นจริงอยู่แล้ว ไม่ว่าขออะไรก็ไม่เคยเป็นจริง ...เมื่อปีที่แล้วเขาเห็นสมิธได้ของเล่นใหม่ตามที่
อยากได้ ทั้งที่เขียนเหมือนกัน ก็เลยคิดว่าน่าจะได้แท้ๆ แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้กลับเป็นความว่างเปล่าแทน
เขาเคยได้ยินเสียงเอ็ดมันกับโรซี่เถียงกันว่าเด็กไม่ดีจะไม่ได้ของขวัญที่อยากได้ในวันคริสมาสต์ ...อาจจะจริงอย่างที่พวกนั้นพูด
เพราะเขาเป็นเด็กไม่ดี ทุกคนถึงได้รังเกียจเขา ไม่มีใครอยากเล่นด้วย ทุกคนรักแต่สมิธกันทั้งนั้น...ขนาดเขายังรักสมิธเลย
เขาเกิดมาทำไมกันนะ
เด็กชายนึกสงสัยหลายต่อหลายหน แต่ก็ไม่เคยถามอะไรออกไป คุณเอลล่าสั่งไม่ให้เขาถามอะไรไร้สาระ เธอเป็นหัวหน้าแม่บ้าน
วัยกลางคนที่เฮี้ยบขนาดแค่เห็นก็พาลให้รู้สึกกลัวจนตัวสั่นแล้ว รอยยับย่นบนหน้าที่เต็มไปความบูดบึ้งนั้นทำให้เขานึกแขยง และยิ้มริมฝี
ยามออกคำสั่งนั่น...อืม นับได้ว่าเป็นสิ่งเดียวที่แบเก็ตส์ชิน
ชีวิตของเขาช่างน่าเบื่อ จืดชืด และไร้สีสัน
กระทั่งในอีกไม่กี่เดือนถัดมา...
แบเก็ตส์จำได้ไม่แม่นนักว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ตอนไหน รู้แต่ว่าเมื่อเขารู้ตัวอีกทีคฤหาสน์ทั้งหลังก็ถูกลามเลียไปด้วยเปลวเพลิง
เด็กชายได้ออกจากบ้านเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีด้วยเหตุการณ์ที่น่าสลดใจ กองเพลิงที่สูงเสียดฟ้าช่างตัดกับหิมะขาวโพลนโดยรอบ
พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตในกองเพลิง ส่วนตัวเขาในตอนนั้นทำได้แค่เพียงกอดกล่องดนตรีไว้แนบอกและฟังเสียงร้องไห้ของคนอื่นๆ
...เขาควรที่จะเสียใจไหม ในเมื่อคนที่เรียกว่าพ่อแม่นั้น แบเก็ตส์ยังจำหน้าได้ไม่ชัดนัก
ทว่านั่นเป็นเรื่องในวัยเด็ก
หลายปีถัดมาเขาพบว่าตัวเองในตอนเด็กและวันเองในวันนี้ช่างต่างกันเสียเหลือเกิน
ความคิดไร้เดียงสาในวัยเยาว์ได้เดินจากเขาไปแล้ว สิ่งที่ได้ตอบแทนคือการยอมรับความจริง ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่
เท่านั้น
...แต่ใครจะคาดคิด เมื่อสุดท้ายสิ่งที่เขาต้องการกลับเป็นจริงในหลายปีหลังจากนั้น
สมิธในวัยสิบเจ็ดปีทำหน้าบูด รอยกระเล็กๆ บนใบหน้านั่นทำให้เขาดูเป็นไอ้งั่งที่ทำไม่ได้แม้กระทั่งจะตักข้าวข้าวปากเอง
ที่โต๊ะอาหารประกอบไปด้วยป้าและพี่ชายโง่ๆ อีกคนของเขา
“ผมเกลียดเบคอน” สมิธว่าพลางเบะปาก อีกมือก็จับจานเทอาหารลงถังขยะอย่างหยาบคาย
แบเก็ตส์ที่กำลังเล่นกับแมวเหลือบตามอง ‘คุณชาย’ แวบหนึ่งแล้วหันไปแหย่เจ้ามีมี่เล่นต่อ ส่วนป้าที่เคยชินกับพฤติกรรมเรียก
ร้องความสนใจนี้แล้วก็แค่หั่นเบคอนเข้าปากต่อไป
โอเค การไม่ได้รับความน่าสนใจมันน่าอับอาย แต่เชื่อเถอะ...แบเก็ตส์ชินกับสิ่งนั้นมาทั้งชีวิตสิบกว่าปีของเขาแล้ว แต่กับสมิธ
ไม่ใช่ เด็กหนุ่มชักสีหน้าบึ้งตึงหนักกว่าเก่าก่อนจะหันมาเตะเก้าอี้พี่ชายแล้วเดินจากไปด้วยเสียงตึงตังอย่างที่เด็กวัยนี้เขาไม่น่าจะทำกัน
แล้ว
หลังจากเกิดเหตุการณ์การสูญเสียครั้งใหญ่นั้นสมิธก็เปลี่ยนไป อุปนิสัยหลายอย่างดูบิดเบี้ยว...ซึ่งก็ไม่แปลกสำหรับคนที่ได้รับ
ความรักความเอาใจใส่ซะขนาดนั้น
“ขอโทษแทนด้วยฮะ” แบเก็ตส์พูด แล้วป้าดอว์น่าก็ทำเหมือนได้ยินเสียงลม
เด็กหนุ่มเองก็ไม่แคร์ เขานั่งเล่นกับเจ้าเหมียวขนฟูจนพอใจจึงได้เริ่มทานอาหารต่อ
ดอว์น่าเป็นพี่สาวของคุณบอร์ตันซึ่งปัจจุบันยังครองตัวเป็นโสด สาเหตุที่หล่อนรับเลี้ยงเด็กทั้งสองก็ล้วนมากจากความละโมบ
โลภมากอยากได้ทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลของผู้ที่จากไปเท่านั้น ความรักความเมตตาที่หล่อนมีให้คนทั้งคู่ก็แค่เท่าที่มนุษย์คนหนึ่งพึง
จะมีให้คนรู้จักเท่านั้น
“อ้อ ป้าฮะ เรื่องโรงเรียน...”
เธอเหลือบมองแบเก็ตส์ที่พูดถึงสัญญาที่เธอเคยให้ไว้
แต่อยู่ๆ ร่างของเด็กหนุ่มที่กำลังพูดกับเธอก็ร่วงผล็อยลงกระแทกกับโต๊ะอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เลือดสีแดงไหลซึมออกมาตามแนว
โต๊ะอาหาร
...พร้อมกับลมหายใจที่หยุดลง
........................................................................................................................................................................................................
::ขอความกรุณาวิจารณ์ด้วยน้า::
ถือว่าเป็นประโยชน์กับเรา ขอความกรุณาด้วยน้า (._.') จะได้เอาไปพัฒนาฝีมือ
ขอบคุณทุกความเห็นล่วงหน้านะ
ความคิดเห็น