คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : The first day in Thailand.
1
The first day in Thailand.
“ยอลมิน เธอฟังฉันอยู่มั้ย? -*-” คุณอึนฮเยพูดพลางส่งรังสีอำมหิตมาให้ฉัน
“ฟังอยู่ค่ะ” ฉันตอบก่อนจะละความสนใจจากเธอ ก็คุณอึนฮเยขี้บ่น ขี้โมโห ขี้หงุดหงิด มากเกินไป มันขัดเวลาฉันที่กำลังนั่งดูรูปพวกวง Divinty โอปาอยู่ คุณอึนฮเยจะรู้มั้ยการกระทำของเธอช่างทำลายสมาธิฉัน -o-
“เธอจะเริ่มงานในวันพรุ่งนี้แล้วนะ เตรียมตัวรึยัง? ”
“เตรียมแล้วค่ะ”
“นี่เธอจะไม่สนใจฉันจริงๆ ใช่มั้ย? -*- ก็ได้งั้นขอนิตยสารคืน! ” คุณอึนฮเยพูดจบก็ดึงนิตยสารที่ฉันดูอยู่ออกจากมือก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปเปิดประตูออกนอกห้องไป
“อะไรของเขา”
ฉันเบื่อคุณอึนฮเยจริงๆ เธอเหมือนคนวัยทองไม่มีผิด แค่นั่งดูรูปไม่สนใจเธอก็โกรธซะแล้ว =^=
“ยัยหื่นเป็นอะไรไป? ทำหน้าเหมือนใครห้ามเธอดูรูปผู้ชาย” ชียอลที่เดินลงบันไดมาถามฉันขึ้น
แล้วทำไมต้องเรียกฉันว่า ‘ยัยหื่น’ ด้วย =_=^
“เปล่า แค่เซ็งนิดหน่อย”
“ใครขโมยนิตยสารรูปผู้ชายถอดเสื้อของเธอไปเผาทิ้งล่ะ? ”
อะไรของเธอเนี่ย!! ชียอล!! จะยัดเยียดความหื่นมาให้ฉันถึงไหน!!! แค่นี้ก็หื่นจะตายอยู่แล้ว… ไม่สงสารกันบ้างหรอ T.,T (เธอยอมรับแล้วสินะ =_=;;)
“ออนนีเลิกแกล้งได้แล้ว =^=”
“ฮ่าๆๆๆ อย่างอนนะมักเน่ ฉันแค่ล้อเล่นเอง ^o^” เธอพูดแล้วเดินมาลูบหัวฉันหนึ่งทีก่อนจะเดินไปใส่รองเท้าหน้าประตู
เพิ่งสังเกตนะเนี่ยว่าวันนี้ชียอลแต่งตัวสวยเป็นพิเศษ O_O เพราะปกติเธอจะแต่งตัวโทรมๆ เหมือนซากปรักหักพัง สรุปคือเธอเป็นคนไม่ชอบแต่งตัว =_='' แต่วันนี้สงสัยจะออกไปเที่ยวกับชินซองโอปาถึงได้จัดเต็มขนาดนี้ >o< พอนึกถึงแล้วก็เขินแทนชียอล ชินซองโอปาทั้งน่ารัก ขี้เล่น ไม่อยากจะจินตนาการถึงตอนถอดเสื้อมันต้องงง >///< (เกี่ยวอะไร!! ยัยหื่น!! )
“เป็นอะไรยอลมิน? ยิ้มอยู่คนเดียว” ซังมีที่หอบหิ้วหนังสือจำนวนมหาศาลเดินลงบันไดมาถามฉันขึ้น
สมองของเธอต้องระเบิดออกมาแน่ถ้าอ่านหนังสือทั้งหมดนั่น ขนาดตอนสอบฉันยังไม่อ่านเลย -.-
“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร ซังมีเธอจะอ่านทั้งหมดนี่จริงๆ หรอ? ”
“ใช่ ถ้าฉันไม่อ่านหมด สอบตกแน่ๆ ยิ่งเรียนไม่ทันคนอื่นเขาอยู่ด้วย” ซังมีพูดก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาข้างๆ ฉันอย่างอ่อนแรง
ซังมีเป็นน้องเล็กสุดของวงและเป็นคนเดียวที่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลาย ก็ต้องเหนื่อยหน่อยนะเพราะเราไม่ค่อยมีเวลาว่างเดินสายงานไปทั่ว ยิ่งเพิ่งเดบิวต์แบบนี้ด้วย น่าสงสารซังมีที่ต้องเอาเวลาพักผ่อนซึ่งมีอยู่น้อยนิดมาอ่านหนังสือเตรียมสอบ พวกฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้นอกจากคอยให้กำลังใจ~
สู้ต่อไปนะ ซังมี ^_^
การไปทำงานครั้งนี้ฉันต้องเอาอะไรไปบ้าง…
ฉันกำลังจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าสัมภาระขนาดใหญ่ ไปไม่กี่วันทำไมของถึงได้เยอะขนาดนี้เนี่ย แล้วใครจะช่วยฉันขน =_=''
“ฉันต้องเอาเสื้อโค้ทไปมั้ยนะ” ฉันบ่นกับตัวเองพลางหยิบเสื้อโค้ทสีน้ำตาลที่วางอยู่บนเตียงขึ้นมามองอย่างชั่งใจ
ประเทศไทยคงไม่หนาวขนาดต้องใส่โค้ทหรอกมั้ง (_ _) ฉันคิดในใจก่อนจะวางเสื้อโค้ทไว้ที่เดิม แล้วล้มตัวนอนลงบนเตียง
ขี้เกียจมากกก ไปทำงานคนเดียวอีกแล้ว~ ฉันคงคิดถึงพวกเมมเบอร์ในวงน่าดูเลย อีกอย่างเป็นครั้งแรกที่ฉันไปประเทศไทย มันจะเป็นยังไงนะ…
ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนจะเปิดออกเผยให้เห็นบุคคลที่มาเยือน
“มักเน่เธอจัดของเสร็จหรือยัง? ” คุณอึนฮเยถามฉันขึ้น
“ใกล้แล้ว~” ฉันตอบก่อนจะพลิกตัวนอนคว่ำบนเตียงอย่างขี้เกียจ
ขี้เกียจทุกอย่างไม่อยากทำอะไรเลย~ ความจริงถ้างานนี้ไม่มีโฮซูมาร่วมงานด้วย ฉันคงไม่ไปหรอก อยู่นี่ถ่ายนิตยสารเล่นไปวันๆ ดีกว่า สบายกว่าเยอะ -3-
เพี๊ยะ!!
“โอ้ยยย เจ็บนะคุณอึนฮเย =^=” ฉันเงยหน้าจากหมอนแล้วมองคุณอึนฮเยอย่างเคืองๆ ใครใช้ให้เธอตีก้นฉันแรงเองอ่ะ ถ้าก้นอันนุ่มนิ่มและแสนบอบบางของฉันเป็นรอยช้ำขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ
“มาจัดของต่อได้แล้ว อย่ามัวแต่ขี้เกียจ ฉันไม่เคยเจอใครขี้เกียจได้เท่าเธอเลยจริงๆ นะยอลมิน พรุ่งนี้ฉันจะเอาเธอไปโยนทิ้งไว้ที่สนามบินตอนเช้า เพราะต้องรีบไปประชุมต่อ ดังนั้นเธอต้องจัดของให้เสร็จภายในวันนี้ พรุ่งนี้ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลารอเธอจัดของ เข้าใจมั้ย? ”
“เข้าใจ =^=”
“ฉันไม่มีอะไรแล้ว ไปก่อนนะ” เธอพูดจบก็ลุกจากเตียงเดินไปเปิดประตูออกไปข้างนอก
ถ้ายกเลิกงานนี้จะทันมั้ยนะ แต่ไปก็ดีเหมือนกันนะ *o* จะได้เจอโฮซูโอปาสุดหล่อ! >_< งานนี้ฉันได้ใกล้ชิดกับเขาอย่างจัง!! อ๊ากกก แทบอดทนรอไม่ไหวแล้วโฮซูโอปาจร้าาา (ต่อมความหื่นแตก =_=;;)
“ฮะ!!! ทำไมต้องเป็นผมด้วยอ่ะฮยอง -*-”
“นายนั่นแหละดีแล้ว อีกอย่างเขาก็ล็อกตัวนายไว้เรียบร้อย”
“แต่ฮยองครับ ผม… ”
“ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นนายเก็บกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางได้แล้วโฮซู พรุ่งนี้เช้าฉันจะมารับไปส่งที่สนามบิน”
“ครับๆ ” ผมตอบรับคำอย่างเซ็งๆ ในเมื่อปฏิเสธไม่ได้แล้วนี่
“ฉันไปแล้วนะ บาย~ ^_^” คุณจงอุนพูดจบก็ปิดประตูห้องผมทันที
ให้ตายเถอะ… ชีวิตผมในอนาคตจะเป็นยังไง จินตนาการไม่ออกเลย ผมต้องไปร่วมงานกับ ‘เธอ’ คนนั้น พระเจ้ากลั่นแกล้งกันชัดๆ
เธอคนนั้น… ที่ผมไม่เคยลืมตลอดสิบห้าปีที่ผ่านมา
“เธอจะจำฉันได้มั้ยนะ… ” ผมพูดกับตัวเองก่อนจะหยิบรูปที่ซ่อนไว้ในลิ้นชักออกมาดู
ผมสบตากับเด็กผู้หญิงในรูป เธอมีดวงตาสีดำสนิทตัดกับผิวสีขาวอมชมพู ใบหน้ารูปเรียวไข่ซึ่งมีรอยยิ้มแต้มอยู่เสมอ
ผมขอสารภาพว่าเธอคือรักแรกของผม ในตอนเด็กทุกคนอาจจะคิดว่ามันป็นแค่ความรักอย่างไม่จริงจัง แต่สำหรับผมมันไม่ใช่…
ก๊อกๆๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ผมตื่นจากภวังค์ ก่อนที่มาของต้นเสียงเมื่อกี้จะเปิดประตูเข้ามา
“ฮยอง~ ”
“นายช่วยเคาะประตูห้องฉันเบาๆ หน่อยได้มั้ย -*-” ผมพูดทำเสียงดุใส่ยูจอง ถ้าเคาะแรงกว่านี้หน่อย ผมเกรงว่าประตูมันจะพังเหมือนครั้งก่อนที่ฮวาซึลทำผมนอนตบยุงทั้งคืน ไม่พอนะยังมีหน้ามาหัวเราะเยาะผมอีก น่าเกลียดมาก -_-''
“ขอโทษฮะ =^=” ยูจองพูดพลางทำหน้าสำนึกผิด
“ช่างมันเถอะ นายมีอะไร? ” ผมพูดปัดๆ แล้วถามเข้าเรื่องทันที เพราะรำคาญกับสีหน้าสำนึกผิดของยูจอง
“ผมจะมาถามว่าพรุ่งนี้ฮยองจะไปประเทศไทยหรอฮะ *o*”
“ใช่ ฉันต้องไปทำงานนิดหน่อย”
“ว้าว *o*”
ผมไม่เข้าใจว่าการไปประเทศไทยมันน่าตื่นเต้นตรงไหน(?) ยูจองถึงได้ทำหน้าอย่างกับผมจะไปดูออโรร่าที่ขั้วโลกเหนือ -_-;;
“นายมีอะไรอีกมั้ย? ” ผมถามอีกรอบ ถ้าไม่มีจะได้ไปจัดสัมภาระต่อ ให้ตาย ยูจองทำผมเสียเวลา ข้าวก็ยังไม่ได้กิน น้ำก็ยังไม่ได้อาบ นี่ก็ปาไปสี่ทุ่มแล้วนะ สมแล้วที่วังซองชอบเรียกว่า ‘ไอ้จอบมารผจญ’ -_-^
“มีฮะ! >_<”
“แต่ฉันไม่มีเพราะฉะนั้นนายออกไปได้แล้ว” ผมพูดจบก็อันเชิญโดยการใช้เท้าถีบยูจองออกนอกห้องผมไป พอดีมือผมกำลังถืออากาศอยู่มันไม่ว่าง -.-
พอกำจัดตัวรบกวนออกไปได้ห้องผมก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง เหนื่อยใจจริงๆ เลย ผมบ่นในใจก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อจัดการยัดของใส่กระเป๋าสัมภาระใบใหญ่
“ใหญ่ไปป่ะเนี่ย” ผมเพิ่งเห็นว่ากระเป๋าที่คุณจงอุนเอามาให้มันใหญ่โตซะขนาดนี้ ไปทำงานนะ ไม่ใช่ย้ายบ้าน
ก๊อกๆ
และแล้ว… เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ใครอีกเนี่ย? -*- ผมบ่นในใจ
“ขอเข้าไปนะ” เสียงนุ่มๆ พูดขึ้นก่อนประตูจะเปิดออกเผยให้เห็นผู้ชายใบหน้าสวยหวานราวกับผู้หญิงในทรงผมสีบลอนยาวประบ่า
ตึกตักๆๆๆ
ให้ตาย… ซอนกิทำหัวใจผมเต้นผิดจังหวะอีกแล้ว ผมไม่ใช่เกย์นะ แต่ถ้าผู้ชายจะสวยได้ขนาดนี้… ก็ไม่ไหวนะ -///-
ผมละสายตาจากใบหน้าสวยๆ ของซอนกิมายัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าต่อก่อนจะถามขึ้น
“นายมีอะไร? ”
“ฉันคิดว่าฉันลืมน้ำยาทาเล็บไว้ในห้องฮยองน่ะ” ซอนกิพูดก่อนจะเดินตรงไปยังโต๊ะเขียนหนังสือของผม ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยกองเอกสารมากมายจนสูงท่วมหัว -_-;;
“ฉันว่าแล้ว” ซอนกิพูดพลางโชว์ขวดน้ำยาทาเล็บสีชมพูให้ดู
อยากจะบ้าตาย!! หน้าสวยไม่พอยังชอบทาเล็บ!!! นายจะทำให้ฮยองทั้งวงกลายเป็นเกย์นะ ให้ตายสิ…
“ผมไปล่ะ”
ปึก! พอสิ้นเสียงปิดประตูผมก็หันมาสนใจกับกองเสื้อผ้าที่เตรียมจะยัดใส่กระเป๋าสัมภาระต่อ
เราลืมอะไรรึเปล่า… ผมคิดในใจพลางกวาดสายตามองข้าวของที่กองอยู่รวมกันก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าลืมของสำคัญที่ติดตัวผมมาตลอดหลายปี ผมลุกจากพื้นแล้วเดินไปตรงลิ้นชักก่อนจะเปิดและหยิบรูปออกมา
เราไม่ได้เจอกันมานานมาก จนผมคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เจอเธออีก แต่สุดท้ายฟ้าก็ลิขิตทำให้ผมได้พบเธออีกครั้งด้วยความบังเอิญ ตอนนั้นเมเนเจอร์ประจำวงผมซึ่งก็คือคุณจงอุนรับงานถ่ายแบบโฆษณาน้ำหอม ใช่ เธอมาร่วมงานด้วย ผมไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีที่ได้พบเธอ…
เรื่องราวระหว่างเธอกับผมในอดีตมันมีอะไรหลายอย่างที่มันลึกซึ้ง…
ผมเก็บรูปเธอใส่กระเป๋าสัมภาระโดยไว้ด้านในสุด… มันเหมือนกับการที่ผมเก็บ ‘ความลับ’ บางอย่างไว้ภายในใจซึ่งไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร… นอกจากผม
ประเทศไทย
ผมลงจากรถตู้ซึ่งเป็นของทางโรงแรมส่งมารับที่สนามบิน ความจริงผมจินตนาการไว้ว่าจะต้องไปอยู่ตามป่าตามเขาใกล้ชิดติดธรรมชาติอะไรเทือกนี้ สงสัยผมคงคิดมากเกินไป ^_^;;
โรงแรมนี้ภายนอกตกแต่งสไตล์บาโรกทุกอย่างช่างลงตัวและสวยงามจับตา จนผมไม่สามารถละสายตาไปจากมันได้ ตัวอาคารเป็นสีขาวสะอาดถูกล้อมรอบด้วยดอกไม้นานาชนิด มีสนามหญ้าเล็กๆ ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยเด็กกำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน เห็นแล้วก็ทำให้ผมนึกถึงตอนเด็ก เธอกับผมมักจะมาวิ่งเล่นด้วยกันเสมอ…
“คุณโฮซูครับ”
คุณอินจุนซึ่งเป็นล่ามแปลภาษาที่บริษัทผมส่งให้ตามมาเรียกผมพร้อมกับยิ้มแห้งๆ
“ครับ? ”
“คือ… คุณยอลมินเธอ… ” คุณอินจุนพูดพลางชี้นิ้วเข้าไปรถ ผมจึงมองตามไปก็พบกับผู้หญิงขี้เซานอนหลับไม่ยอมตื่น ภาพที่เห็นทำให้ผมกระตุกยิ้มบางๆ ตรงมุมปาก
ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ…
ก่อนจะรีบเปลี่ยนสีหน้ากลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม แล้วหันไปพูดกับคุณอินจุนที่ยืนมองหน้าผมอยู่ ขอให้ไม่เห็นรอยยิ้มเมื่อกี้ละกัน…
“เดี๋ยวผมจัดการเองครับ ^_^”
ผมเดินขึ้นไปบนรถแล้วอุ้มยอลมินขึ้น เธอเป็นผู้หญิงที่ตัวเล็กแถมน้ำหนักเบามาก มีความรู้สึกเหมือนได้อุ้มเด็กเลย ^_^
ระหว่างทางตั้งแต่ประตูทางเข้าโรงแรมถึงประตูห้องพัก มีแต่คนมอง ก็แน่ล่ะ ผมเป็นบอยแบนด์ชื่อดังของเกาหลีนี่ แต่ที่ทุกคนให้ความสนใจมากกว่าคือ ผู้หญิงที่ผมอุ้มอยู่เนี่ยแหละ -_-;; เธอไม่มีความรู้สึกอะไรเลย หลับอย่างเดียว ถ้าเป็นคนอื่นเขารู้สึกตัวตั้งแต่อุ้มแล้ว
“ยัยต๊องเอ้ย” ผมพูดกับเธอเบาๆ จนเรียกได้ว่ากระซิบ ก่อนจะค่อยๆ วางเธอลงบนเตียงขนาดคิงไซส์สีมิดไนท์บลู
“เธอนี่มัน… ไม่ได้เรื่องเลย” ผมพูดกับร่างบางที่นอนหลับไม่รู้เรื่องพลางใช้มือลูบหัวเธออย่างแผ่วเบา เพราะกลัวเธอจะตื่น
“ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ ยอลมิน” เธอคงไม่ได้ยินเสียงผมหรอก แล้วผมก็ต้องการให้เป็นเช่นนั้น
การที่เธอไม่ได้รับรู้อะไร มันคือสิ่งที่ดีที่สุด ถ้าเธอรู้… เธออาจจะไม่ให้อภัยผม
ปล่อยให้ ‘ความลับ’ ยังเป็น ‘ความลับ’ ต่อไป ไม่ว่ายังไง เธอจะไม่มีวันได้รู้แน่ๆ ผมขอสัญญา…
ปึ้ง! เสียงประตูปิดลงพร้อมกับที่ฉันลืมตาขึ้น
“ประโยคนั้นหมายความว่าไง” ฉันพูดพรึมพรำก่อนจะใช้มือดันตัวเองลุกขึ้นนั่งบนเตียง
ประโยคคำพูดของเขายังวนเวียนอยู่ไหนหัวฉันพร้อมกับมีคำถามเต็มไปหมด การที่เขาพูดอย่างนั้นมันเหมือนว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน แต่ฉันพยายามคิดทบทวนหลายรอบแล้ว…
“ฉันไม่เคยรู้จักเขามาก่อนนี่” หรือฉันเคยรู้จักเขา? แต่จำไม่ได้! ไม่น่าจะใช่นะ!! ฉันเป็นคนที่มีความจำเป็นเลิศ ไม่มีทางลืมหรอก :(
“คุณเป็นใครกันแน่… โฮซูโอปา”
ตอนนี้สาบานเลยว่าสมองของฉันว่างเปล่ามาก!! คิดอะไรไม่ออก ชักจะเริ่มปวดหัว #_# ไปอาบน้ำดีกว่าเผื่อจะนึกออกบ้าง >_<
พอก้าวเท้าลงจากเตียงก็ถึงกับชักเท้ากลับเพราะไปเหยียบอะไรบางอย่างเย็นๆ เข้า ฉันจึงค่อยๆ โผล่หน้าไปดูก็พบกับสร้อยคอมีแหวนห้อยอยู่ด้วย
ฉันหยิบขึ้นมาสำรวจดู เผื่อจะมีบอกว่าเป็นของใคร แต่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย นอกจากตัวอักษรที่สลักอยู่ด้านในแหวน เป็นตัววาย
แล้วฉันจะรู้มั้ยเนี่ยว่าเป็นของใคร!! มาเล่นปริศนาคำใบ้กับฉันรึไง =^=
ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูทำให้ฉันได้สติ
“ใครมาเนี่ย ชิ! -*-” ฉันเดินบ่นกับตัวเองไปถึงหน้าประตูแล้วกระชากออกอย่างหัวเสีย ก่อนจะผงะจนเซถอยหลัง
ตายๆๆๆ ฉันจะล้มแล้ว!! >0<
“กรี๊ดดด!! ”
จู่ๆ ร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าประตูก็คว้าตัวฉันเอาไว้อย่างรวดเร็ว กลับกลายเป็นว่าเขากำลังกอดฉันอยู่!! ถ้าเป็นแบบนี้ฉันขอล้มหัวฟาดพื้นไปเลยดีกว่า!!! >///<
เขินนะ!! บ้าที่สุดเลย!!! แต่ชอบนะ(?) >//////////<
“ซุ่มซ่าม” โฮซูพูดกระซิบข้างหูฉัน ทำให้รู้สึกถึงไอร้อนจากปากเขา จั๊กจี๋~
ฉันชักจะยืนไม่ไหวแล้ววว รู้สึกขาไม่มีแรงเลย สงสัยเป็นเพราะโฮซูที่กอดฉันอยู่ -///- เขาเป็นผู้ชายที่มีอิทธิพลต่อฉันมากจริงๆ สูบเรี่ยวแรงไปหมดเลย ให้ตายเถอะ… อยากจะให้เขาปล่อย แต่ในใจลึกๆ ก็ไม่อยาก มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน!! ตอบฉันที!!!
“เป็นอะไรหน้าแดง? ร้อนหรอ? ก็ไม่นี่” เขาพูดก่อนจะปล่อยตัวฉันให้เป็นอิสระ แล้วใช้มือปิดประตู
ทำไมบรรยากาศมันดูแปลกๆ ร้อนๆ ชอบกล -///-
“เธอยังไม่ได้ตอบฉันเลย ว่าเป็นอะไร? ”
“ปะ… เปล่า -0-”
“แล้วทำไมเธอหน้าแดงล่ะ? ” เขาถามพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วก้าวเท้าเข้ามาประชิดตัวฉันอย่างรวดเร็ว
“ก็ไม่ได้เป็นอะไร -///-” ฉันหันหน้าไปอีกทางก่อนจะตอบ เพราะตอนนี้เราอยู่ใกล้กันมาก ชนิดฉันได้ยินเสียงลมหายใจของเขา อยากจะถอยหลังหนีแต่ทำไม่ได้ เขาเล่นต้อนฉันมาติดกำแพงแบบนี้ แถมใช้มือยันอีก สรุปฉันกำลังอยู่ในอ้อมแขนทั้งสองข้างของเขา
เขาเลื่อนใบหน้ามาอยู่บริเวณซอกคอฉันก่อนจะถามย้ำอีกครั้ง
“แน่ใจ? ”
“แน่ใจสิ -///-”
โอ้ย!! ออกไปสีกทีเถอะ!!! ฉันจะไม่ไหวแล้วนร้าาา คนบ้า! บ้าที่สุด!!
“หรอ งั้นก็ดี” แล้วเขาก็ผละออกจากฉันอย่างรวดเร็ว
ให้ตาย!! เขาทำฉันหายใจไม่ทั่วท้อง ถ้าขาดอากาศหายใจตาย ใครจะรับผิดชอบ!! -*- ฉันบ่นในใจพลางมองหน้าเขาที่กำลังยืนยิ้มสบายใจอยู่ข้างหน้าฉัน
“เป็นอะไร? หน้าหงิกเชียว ไม่น่ารักเลย ^_^”
ยังมีหน้ามาล้อฉันอีก โกรธจริงๆ นะ!! ชิ! ฉันเชิดหน้าใส่เขาก่อนจะเดินไปยืนตรงริมหน้าต่าง เพื่อสงบสติอารมณ์
น่าโมโห! มาล้อเล่นแบบนี้กับคนอื่นได้ไง!!
โฮซูเดินมายืนข้างๆ ฉันก่อนจะพูดขึ้น
“งอนหรอ? ”
ฉันหันไปมองหน้าเขาก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“เปล่า”
“แล้วทำไมต้องเดินหนี? ”
“ก็เปล่าไง!! โอปามีอะไรรึเปล่าคะ? ถ้าไม่มียอลมินขอเชิญโอปาออกไป ยอลมินอยากพักผ่อน”
“ไม่มีอะไรหรอก แค่จะมาดูว่าผมทำสร้อยคอตกไว้ที่นี่รึเปล่า”
“สร้อยคอ? ”
“ใช่”
“ถ้าเป็นสร้อยคอที่มีแหวนห้อยอยู่ด้วย ยอลมินเจอมันตกอยู่ข้างเตียงค่ะ” ฉันพูดพลางเดินไปหยิบสร้อยคอที่วางอยู่บนเตียง ชูขึ้นให้เขาดู
“นั่นแหละ ของผมครับ”
“ของโอปา? ทำไมแหวนถึงสลักเป็นตัววายล่ะคะ ทั้งๆ ที่น่าจะเป็นตัวเอช ในเมื่อโอปาชื่อโฮซู -0-”
“ไม่ต้องรู้หรอก ผมขอคืนนะครับ”
เขาพูดก่อนจะหยิบสร้อยคอจากมือฉัน แล้วเดินออกจากห้องไปเลย โดยไม่ตอบคำถามฉันสักคำ
“อะไรของเขา -*-”
“ย๊ากกก” ฉันบิดขึ้เกียจอีกหนึ่งทีก่อนจะลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวในตู้เสื้อผ้าเพื่อจะไปอาบน้ำ
เมื่อคืนฉันนอนคิดเรื่องโฮซูจนหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เช้าแล้ว แต่ทำไมฉันถึงคิดไม่ออกนะ ว่าเคยรู้จักเขารึเปล่า มันข้องใจ!! :(
ก๊อกๆ
ใครมารบกวนการแปรงฟันของฉันตั้งแต่เช้าเนี่ย -*- ฉันบ่นในใจพลางเดินออกจากห้องน้ำไปเปิดประตูห้องเพื่อดูว่าใครมา
แต่แล้วการปรากฏตัวของเขา ทำให้ฉันถึงกับตกใจ!!
“O0O โอ๊ะ! ” ฉันเผลออุทานออกมาทำให้ฟองจากยาสีฟันที่อยู่ในปากฉันพุ่งตรงดิ่งด้วยท่าทีที่สวยงามแถมเป็นละออง ไปเกาะบนใบหน้าเขาอย่างรวดเร็ว
ตายแล้ววว >0<
“นี่เธอ =_=*” เขาพูดพลางใช้มือปาดฟองยาสีฟันออกจากใบหน้าอย่างขยะแขยง
ฉันกำลังจะอ้าปากขอโทษเขา แต่เขาพูดขัดขึ้นมาก่อน
“เธออย่าพูดนะ! เดี๋ยวมันมาเลอะผมอีก =_=^”
“=^=” นี่เขาขยะแขยงยาสีฟันจากปากฉันขนาดนี้เลยหรอ งอนแล้ว!!
“ผมว่าเธอไปแปรงฟันให้เสร็จก่อนจะดีกว่า”
ฉันทำตามที่เขาบอกโดยเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำ ชิ! แค่ฟองยาสีฟันนิดหน่อยเอง(?) ทำเป็นขยะแขยง ปากฉันไม่ได้สกปรกนะ ออกจะหอม สะอาด~
“เธอใช้ห้องน้ำเสร็จรึยัง? ผมจะขอล้างหน้าและล้างมือหน่อย ฟองยาสีฟันของเธอมันเหนียวเต็มไปหมดเลย =_=;;”
“เสร็จแล้ว -*-” ฉันพูดก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วไปนั่งที่โซนห้องรับแขก
สักพักเขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้าที่มีหยดน้ำเกาะเต็มไปหมด จนฉันทนไม่ได้เลยหยิบผ้าขนหนูของทางโรงแรมส่งให้เขา แต่ถึงยังไงฉันผิดสินะ ที่ไปพ่นฟองยาสีฟันใส่หน้าเขา =^=
“ขอบคุณนะ” เขารับผ้าขนหนูจากฉันไปก่อนจะเช็ดหน้าทันที
“โอปาไม่กลัวคนอื่นเขาเข้าใจผิดหรอคะ? ”
“เรื่องอะไร? ”
“ก็โอปาชอบมาหาฉันที่ห้องอย่างนี้ ถ้าคนอื่นเห็นเขาจะเข้าใจผิดได้นะ -0-”
“ผมว่าเธอนั่นแหละที่น่าจะกลัวคนอื่นเขาเข้าใจผิด ไม่ใช่ผม อีกอย่างผมเป็นผู้ชายด้วย” เขาพูดพลางส่งยิ้มเยาะมาให้ฉัน
มันก็จริง… ฉันควรจะคิดสินะ ไม่ใช่เขา อายจัง -///-
“โอปามีอะไรหรอคะ? ถึงได้มาหายอลมินแต่เช้า” ฉันรีบพูดเปลี่ยนเรื่องทันทีก่อนที่เขาจะได้ล้อฉันอีกรอบ
“จะมาบอกว่าเดี๋ยวเก็บของใส่กระเป๋าได้แล้ว เพราะเราจะต้องเดินทางต่อ”
“เดินทางต่อ? อ้าว ยอลมินนึกว่าเรามาทำงานที่นี่ซะอีก -0-”
“ไม่ใช่ แต่ก็ไม่ไกลจากที่นี่สักเท่าไหร่ งั้นผมไม่รบกวนแล้ว ขอบคุณสำหรับผ้านะ” เขาพูดจบก็ยักคิ้วกวนประสาทให้ฉันหนึ่งทีแล้วเดินออกจากห้องไป
“บ้าที่สุด -///- ” ฉันบ่นกับตัวเองก่อนจะละความสนใจจากเขา
ผู้ชายบ้า… ชอบทำให้คนอื่นเขาเขินแล้วก็จากไป แต่แอบสงสัยว่าเราจะไปทำงานที่ไหนกันแน่ ทำไมต้องเก็บของด้วย
ช่างเถอะ ไปอาบน้ำดีกว่าเรา~ >_<
BY: SweetTy_Sunday
สวัสดีจร้า ไรเตอร์คัมแบ็คแล้วนร้าาา(คำพูดแลดูอลัง -_-'') หลังจากหนีไปกกดานอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่นาน TT_TT ก็ได้เวลากลับมาแต่งนิยายต่อ
จะอัพสลับกับเรื่อง Nail Up Story สืบรักเคลียร์หัวใจไขปริศนาลับ ที่ตอนนี้ก็กำลังแต่งอยู่ด้วยจร้า
อัพล่าสุดวันที่ 22/03/2013 >>> อัพต่อวันที่ 3/04/2013.
อัพเดตข่าวจร้าาาา ตอนนี้คอมไรเตอร์พัง ส่งซ่อมอยู่จร้าเลยไม่ได้อัพเนื้อเรื่องต้องขอโทษด้วยนะคะ Y_Y
ความคิดเห็น