ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KISMET LOVE; ลิขิตรักมังกร

    ลำดับตอนที่ #4 : Second Kismet; I'm kinda a bitch..but why not? l {Update: 10.25 PM} 100%

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 54


    BEAUTI' ful  
     

    Frigg Van Der Rohe
    -  Her shopping time!  :)  -











    Second Kismet; I’m kinda a bitch..but why not?  Part I

     

     

                    “ทำไมเสื้อผ้าฉันถึงเปียกแบบนี้! โอ้มายก็อด! นี่มันเดรสตัวโปรดของฉันนะย่ะ! แล้วนั่นแว่นตาหลุยส์ evidence ของฉัน! นี่! พี่เอลล่าไม่ได้กำชับหล่อนหรือไงว่าให้ดูแลของฉันให้ดีๆ น่ะ!”  ฟริกหันไปตวาดถามสาวใช้ที่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างหลังเธอในขณะที่เธอกำลังสำรวจของในกระเป๋าอยู่

     

                    “ฉันถามให้ตอบไม่ได้ถามให้เงียบ! จะไปไหนก็ไปเลยไป น่ารำคาญจริงๆ!” ฟริกตวาดอีกครั้งก่อนจะหันไปสนใจเสื้อผ้าในกระเป๋าอีกครั้ง..ถ้าเสื้อผ้าเธอเปียกแบบนี้แล้วเธอจะใส่อะไรล่ะ

     

                    เสื้อผ้าโบราณบ้านี่น่ะหรอ เฮอะ เร็วไปร้อยปี! เธอยอมแก้ผ้าเดินรอบเมืองยังดูเซ็กซี่กว่าอีก!’ หญิงสาวคิดก่อนจะคุ้ยหาเสื้อผ้าตัวที่เปียกน้อยที่สุดมาใส่โดยไม่ได้สนใจคนรอบข้างที่กำลังมองเธอด้วยความแปลกใจ

     

                    สำหรับเธอ..ที่มีชีวิตอยู่ศตวรรษที่ 20 ก็คงจะไม่แปลกประหลาดอะไร แต่สำหรับคนรอบกายเธอนั้นมีอายุมากกว่าเธอกว่าหลายพันปีและยังมีความคิดที่ว่านางแบบสาวนั้นเป็นพระสนมเอกในองค์ชายรัชทายาทนั้นยิ่งสงสัยในตัวพระสนมมากขึ้น

     

                    เกิดเรื่องอันใดกับพระสนม? ทำไมทุกอย่างจึงเปลี่ยนจากขาวเป็นดำไปได้ เมื่อก่อน..แม้ว่าพวกเธอจะทำงานไม่ถูกใจหรือไม่ถูกต้อง พระสนมไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยว่าพร้อมกับส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจให้ตลอดเวลา แต่ทว่า..หลังจากพระสนมฟื้นขึ้นมาทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป ไม่ได้เปลี่ยนไปเพียงแค่นิสัยแต่รูปร่างภายนอกก็เปลี่ยนไป หน้าตาอาจจะเหมือนเดิม แต่สีและทรงผม การแต่งตัว ท่าทางประหลาดๆ ล้วนแปลกไปทั้งสิ้น ราวกับคนละคน!

     

                    “เอ่อ..พระสนมเพคะ พระสนมถางอินเสด็จมาเยี่ยมพระสนมเพคะ” ขณะที่ฟริกกำลังเลือกเสื้ออยู่ จู่ๆ สาวใช้ของพี่เอลล่าก็คลานเข้ามาบอกเธอ

     

                    “เธอว่าอะไรนะ ฉันได้ยินไม่ถนัด” นางแบบสาวเอ่ยถามอีกครั้งขณะที่กำลังง่วนงุ่นอยู่กับการเลือกเสื้อผ้าอยู่

     

                    “พระสนมถางอินเพคะพระสนมเสด็จมาเยี่ยมเพราะได้ข่าวอาการป่วยของพระสนมเพคะ” ฟริกเงยหน้ามองสาวใช้ด้วยความสงสัย ถางอิน? ใครกัน? หรือว่าจะเป็นเอเจนซี่? แต่ถ้าเป็นเอเจนซี่ก็น่าจะผ่านพี่เอลล่าก่อนสิ อีกอย่าง..ตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ด้วยว่าเธอมาประเทศจีน แต่เมื่อคืนที่เธอเมาเหล้าที่บาร์นั่นก็น่าจะมีข่าวออกแล้วล่ะ ถึงยังไงเอเจนซี่ก็ไม่น่าจะมาหาเธอเร็วขนาดนี้

     

                    ถางอิน..หรือว่าจะเป็นชื่อยัยแองเจล่าภาษาจีนนะนางแบบสาวครุ่นคิดเพราะเธอก็จำชื่อภาษาจีนของเพื่อนเธอไม่ได้เพราะมันไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องจำอยู่แล้ว..อีกอย่าง คนใช้พวกนี้ก็คงจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ การจำคำว่า แองเจล่า มันคงจะยากเกินไป..อืม สงสัยจะใช่!

     

                    “งั้นไปบอกยัยแองเจล่านะว่าขอแต่งตัวแปบ เดี๋ยวออกไป ขอฉันเมคอัพความสวยก่อน” นางแบบสาวเอ่ยตอบก่อนจะคว้าชุดเดรสแบรนด์ดังและเดินตรงไปยังห้องน้ำ

     

                    “พระสนมถางอินเสด็จมาหรือเพ่ยเพ่ย” เสี่ยวเจีย สาวใช้คนที่ ฟริก เรียกใช้และโดนเธอตวาดบ่อยๆ เอ่ยถาม เพ่ยเพ่ย หรือสาวใช้อีกคนที่เพิ่งคลานเข้ามารายงานการมาของพระสนมถางอิน

     

                    “ใช่ เห็นว่าจะมาเยี่ยม..แต่ข้าว่า เป็นเพราะองค์ชายอยู่ที่นี่ตะหากล่ะ พระสนมถางอินถึงเสด็จมา! อีกอย่างคงอยากจะมาเยาะเย้ยพระสนมของเราเป็นแน่” เพ่ยเพ่ย เอ่ยตอบอย่างไม่พอใจ “ข้าเห็นแล้วหมันไส้นัก”

     

                    “ข้าว่าเจ้าออกไปถวายการรับใช้พระสนมถางอินกับองค์ชายเถิด..ไว้ข้าจะดูแลพระสนมเอง” เสี่ยวเจียเอ่ยบอกเพื่อนสาวก่อนที่เพ่ยเพ่ยจะค่อยๆ ลุกออกไปจากห้อง

     

    เสี่ยวเจียได้แต่หวังว่า..การมาของพระสนมถางอินในวันนี้ มิได้มาเพื่อระรานหรือพูดจาบริภาษพระสนมของเธอแบบที่เคยพระกระทำมาครั้งก่อนๆ เธอสงสารพระสนมเหลือเกิน

     

     

    = = = = = = = = = =  = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

     

                    “โอเค ฉันพร้อมแล้ว” ฟริก เอ่ยสาวใช้ที่นั่งอยู่ด้านข้างก่อนจะส่องกระจกเพื่อความเรียบร้อยบนใบหน้าเธออีกครั้ง..วันนี้เธอแค่รองพื้นบางๆ แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนบวกกับความสวยงามที่มีอยู่บนใบหน้าของเธอมาตั้งแต่เกิดแล้ว..บอกได้คำเดียวว่า Perfect!

     

                    “เอ่อ..พระสนมทำไมจึงแต่งตัวเยี่ยงนี่ล่ะเพคะ” เสี่ยวเจียเอ่ยถามพระสนมด้วยเสียงหวั่นๆ เธอแทบจะตกใจเมื่อเห็นพระสนมก้าวออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดที่แทบจะไม่ปกติอะไรเลย

     

                    วันนี้ ฟริกเลือกชุดเดรสแบรนด์ดังราคาครึ่งแสนซึ่งเป็นชุดเดรสไหล่เฉียงสีดำพร้อมกับรองเท้าส้นสูงแบรนด์เดียวกันที่เข้าชุด แต่งหน้ารองพื้นบางๆ พร้อมปล่อยผมที่เป็นลอนด์ยาวสยาย นางแบบสาวส่องกระจกอีกครั้งเพื่อความมั่นใจพร้อมกับรอยยิ้มที่ใครเห็นแล้วต้องละลาย

     

                    ในเมื่อฉันสวยขนาดนี้..จะเป็นไปได้ยังไงที่ฉันจะไม่เพอร์เฟ็กต์!’ หญิงสาวคิดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะหันไปหาสาวใช้ที่นั่งอยู่ข้างๆ

     

                    “เรื่องของฉันน่า อย่ามายุ่งมากได้ไหม! นำทางไปสิ ยัยแองเจล่ารออยู่ที่ไหน” นางแบบสาวเอ่ยบอกอีกครั้งก่อนที่สาวใช้คนนั้นจะค่อยๆ ทำความเคารพและเดินนำทางเธอไป..จะว่าไปเมดชุดนี้ก็ไม่เลวนะ ว่านอนสอนง่ายดี เอาไว้ถ้าทำตัวดีๆ เธออาจจะพิจารณาจ้างต่อก็ได้!

     

                    หญิงสาวหันไปส่องกระจกเพื่อมองความเพอร์เฟ็กต์ของตัวเองอีกครั้ง..แบบนี้จะไม่ให้เธอเป็นหญิงสาวที่โชคดีที่สุดในโลกได้อย่างไรในเมื่อเธอออกจะสวยขนาดนี้ แฟนของเธอก็สุดจะ…! เธอลืมคิดถึงเรื่องเมื่อวานไปเลย นางแบบสาวตาโตขึ้นอย่างตกใจ

     

                    หรือว่า..ยัยแองเจล่าจะมาหาเพราะเรื่องนี้!’ หญิงสาวคิดก่อนจะมองออกไปที่ประตูที่ตอนนี้สาวใช้ได้เปิดประตูรอให้เธอเดินออกไปอยู่..นักข่าวต้องรู้เรื่องที่เธอเลิกกับเอ็ดแล้วแน่ๆ เลย! ไอ้เกย์นั่นก็คงจะใส่ร้ายเธอจนเธอกลายเป็นนางมารร้ายตามลุคของเธอที่เป็นสาวเปรี้ยว มั่นใจและชอบปาร์ตี้สุดเหวี่ยง! นักข่าวก็คงจะคุ้ยข่าวไม่เลิก! ให้ตายเถอะ! เธอลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย!

     

                    “พระสนมเพคะเชิญเสด็จเพคะ” สาวใช้คนนั้นเอ่ยบอกเธออีกครั้ง นางแบบสาวหันไปมองก่อนจะมองกระจกเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา

     

                    คนที่มาหาเป็นยัยแองเจล่าไม่ใช่นักข่าวสักหน่อย เธอจะกลัวอะไรฟริก คิดอีกครั้งก่อนจะรวบรวมสมาธิและก้าวไปที่ประตูอย่างมั่นใจ! ต่อให้เป็นนักข่าว..เธอก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะต้องเดินถอยเพราะกลัวอยู่แล้ว ข่าวตบตีกับนางแบบรายวันของเธอเยอะแยะไป! แล้วไหนจะข่าวปาร์ตี้สุดเหวี่ยงที่นักข่าวชอบมาจุ้นเขียนอีก กะอีแค่ข่าวเลิกกับเอ็ด มันไม่ให้ทำให้อาชีพของเธอต้องสั่นคลอนหรอก!

     

                    ในเมื่อเธอสวย เริ่ด เชิด ไฮโซซะอย่าง! ผู้ชายเรียงต่อคิวมาให้เธอเลือกไม่เว้นแต่ละวัน! จะแคร์ทำไม! (ถึงแม้ว่าผู้ชายพวกนั้นจะขาดคุณสมบัติที่เป็นดยุคอย่างเอ็ดก็เถอะ!)

     

     

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =


                        อีก 40% ที่เหลือน้าาาา  :) 


                    “ไหนล่ะ ยัยแองเจล่าฉันไม่เห็นแม้แต่เงาเลย นี่เธอประสาทหรือเปล่า! บอกฉันว่ายัยแองเจล่ามาฉันก็อุตส่าห์แต่งตัว ไม่เห็นจะมีใครเลย” ฟริก หันไปถามสาวใช้ที่นั่งสงบอยู่ข้างๆ เธอ หลังจากที่เธอออกมาข้างนอกแล้วก็ไม่เห็นจะมีใคร นอกจากผู้ช่วยของพี่เอลล่าแล้วก็ผู้หญิงที่ไหนไม่รู้โบะหน้าซะวอกปากก็แดงๆ อันที่จริงเธอก็ชอบทาปากแดงนะ..ถึงเธอจะเกลียดสีแดงก็เถอะแต่มันทำให้ผู้หญิงมีเสน่ห์และดูเซ็กซี่ขึ้นเท่านั้นเอง แต่ทำไมยัยผู้หญิงตรงหน้าเธอช่างเป็นผู้หญิงที่ทาปากสีแดงได้อย่างเซ็กเสื่อมที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา!

     

                    “เอ่อ..หม่อมฉันไม่ทราบว่าพระสนมพูดถึงใครเพคะคนที่พระสนมเรียกหม่อมฉันไม่รู้จักเพคะ” เสี่ยวเจียตอยเสียงสั่นๆ

     

                    “อ้าว ไม่รู้จักแล้วมาบอกเป็นตุเป็นตะว่าแองเจล่ามาหาฉันได้ไงไม่ทราบ” ฟริกตวัดหน้าแล้วถามเสียงเขียว นี่ยัยเมดนี่นึกว่ามันเรื่องสนุกหรือไงนะที่กวนประสาทเธอน่ะ!

     

                    “เปล่าเพคะ..หม่อมฉันมิกล้า..หม่อมฉันทูลพระสนมว่า พระสนมถางอินเสด็จมาเยี่ยมเพคะ” เสี่ยวเจียเอ่ยตอบอีกครั้งอย่างรนๆ “นี่ไงเพคะ พระสนมถางอิน กับ องค์ชายรัชทายาทต้าเหว่ย พระสวามีของพระสนม”

     

                    หลังจากเสี่ยวเจียเอ่ยประโยคหลังทำให้นางแบบสาวหันขวับ! พระสวามีบ้าบออะไร ท่าทางยัยนี่จะประสาท สงสัยเธอจะเลิกพิจารณายัยเด็กบ้านี่แล้วล่ะ! ให้พี่เอลล่าไล่ออกไปเถอะ เด็กประสาทแบบนี้! กล้าดียังไงมาพูดซ้ำเติมเธอแบบนี้!

     

                    “นี่..ช่วยพูดให้ถูกหน่อยนะย่ะ! ใครพระสวามีใครไม่ทราบ! ฉันน่ะ โสดสนิท! โสดเพราะไอ้เอ็ดแฟนเก่าฉันมันเพิ่งให้เซอร์ไพร้ส์ด้วยการที่มันเป็นเกย์! เข้าใจไหม! ส่วนไอ้ผู้ชายที่เธอบอกเนี่ย..ไม่อยู่ในสเป็กฉันแม้แต่นิดเดียว! ขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะ! ฉันไม่เอาผู้ชายท่าทางหงิมๆ แบบนี้ทำพันธุ์หรอกย่ะ! และที่สำคัญนายเนี่ยยังเป็นคู่ขาพี่เอลล่าอีกตะหาก ฉันเพิ่งโดนเกย์ทิ้งมาเธอคงไม่คิดว่าฉันจะไปคว้าตุ๊ดมาทำพันธุ์หรอกนะ” ฟริก ตวาดใส่สาวใช้อีกครั้งก่อนจะหันไปมองหน้าคู่ขาพี่เอลล่าอย่างหงุดหงิด

     

                    “โอ้ย ให้มันได้อย่างนี้สิ! ให้มันได้อย่างนี้! ประสาทกลับบ้ากันไปใหญ่แล้ว! ไปตามพี่เอลล่ามาพบฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ! ฉันทนไม่ไหวแล้ว!” นางแบบสาวตะโกนขึ้นก่อนจะกระฟัดกระเฟียดเดินวนไปวนมา..นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย โดนเกย์ทิ้งยังมาเจอคนประสาทกลับอีก! มันอะไรกันนักกันหนาวะ!

     

                    “องค์ชายเพคะหม่อมฉันกลัวองค์ชายแน่ใจหรือเพคะว่าพระสนมจินหยู่มิได้มีอาการผิดปกติ หม่อมฉันเคยเห็นอาการแบบนี้นะเพคะ..อาการราวกับคนบ้าเสียสติ” ยังไม่ทันที่ถางอินจะพูดจบนางแบบสาวก็หันขวับพร้อมกับเดินตรงรี่ไปหาพระสนมถางอินและกระชากให้ลุกขึ้นมาอย่างเอาเรื่อง

     

                    “นี่ยัยหน้าวอก..ที่หล่อนพูดน่ะหมายถึงใครไม่ทราบ! ฉันยืนหัวโด่อยู่นี่ก็เดินมาบอกฉันสิ! แล้วฉันจะสอนให้นะ ถ้าอยากจะนินทาใครก็หัดไปให้มันไกลๆ หน่อย! ไม่ใช่มานินทาระยะเผาขนแบบนี้เพราะมันเสี่ยงแต่ท่าทางเธอคงไม่รู้สินะว่ามันเสี่ยงอะไร” นางแบบสาวตวาดใส่ก่อนยิ้มเยาะ “ฉันจะบอกให้เอาบุญก็ได้นะ! มันเสี่ยงโดนตบไงล่ะ!” นางแบบสาวตะคอกอีกครั้งก่อนจะผลักถางอินลงไปบนเก้าอี้ที่หล่อนนั่งอยู่ตอนแรกอย่างสะใจ ให้มันรู้ซะบ้าง..ว่าเล่นกับใคร!

     

                    “จินหยู่! เจ้าเป็นบ้าอะไร! แล้วเจ้าทำอะไรถางอิน! เจ้าเสียสติไปแล้วรึ!” องค์ชายต้าเหว่ยที่ทนพฤติกรรมของคนรักไม่ได้ลุกขึ้นต่อว่าด้วยความโกรธ!

     

                    “แกนั่นแหละเสียสติ ยัยหน้าวอกนี่ด้วยเสียสติ! บ้า บ้า บ้า บ้า บ้า! คนที่นี่บ้ากันไปใหญ่แล้ว! พี่เอลล่าพาคนบ้าที่ไหนมาเนี่ย! ฉันจะกลับปารีส! อะไรมันจะเฮงซวยขนาดนี้วะ! ประเทศนี่มันบ้าที่สุดเลย! นอกจากจะโดนเกย์ฟันฟรีแล้วยังต้องมาเจอคนบ้าอย่างพวกแกอีก! พอกันที!” ฟริก ตะโกนขึ้นอย่างขัดใจก่อนจะหันไปทำลายข้าวของในตำหนักเพื่อระบายอารมณ์!

     

                    “ฉันอุตส่าห์เลือกมัน! คบมัน! เพราเห็นว่ามันเป็นดยุคมีหน้ามีตา! ที่ฉันทุ่มไปทุกอย่างกลายเป็นว่าฉันเสียตัวให้ไอ้เกย์บ้านั่น แทนที่อะไรมันจะดีขึ้นเรื่องแย่ๆ ดันเข้ามาอีก! ถ้าไม่มีมันฉันก็ไม่เมาบ้าขาดสติแบบนั้น! แล้วฉันก็ไม่ต้องมาเจอพวกประหลาดแบบแก! บ้าที่สุดเลย!” นางแบบสาวยังคงเหวี่ยงข้าวของเพื่อระบายอารมณ์ก่อนจะกระทืบเท้าด้วยความโมโห!

     

                    “ถ้าชาตินี้ฉันไม่ได้แก้แค้นมันก็อย่ามาเรียกฉันว่า Frigg Van Der Rohe เลย!” หญิงสาวตะโกนขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องและคว้ากระเป๋าถือใบหรูของเธอเพื่อล้วงหากุญแจรถ! เธอจำไม่ได้หรอกว่าเมื่อคืนหลังจากเธอเมาแล้วเกิดอะไรขึ้น! เธอไม่รู้ว่าเธอไปจัดการไอ้เกย์บ้านั่นแล้วหรือยัง! แต่ที่เธอรู้ตอนนี้คือ เธอสติแตก! เธอสติแตกเพราะไอ้คนพวกนี้! และสาเหตุที่ทำให้เธอมาเจอพวกสติแตกพวกนี้คือ ไอ้เกย์เอ็ด!

     

                    “จินหยู่นั่นเจ้าจะไปโวยวายที่ไหน! หยุดทำกริยาต่ำๆ แบบนี้ได้แล้ว!” องค์ชายต้าเหว่ยเข้าไปรวบเอวของฟริกเอาไว้เพื่อรั้งไม่ให้เธอออกไปข้างนอกป่านนี้คนข้างนอกตำหนักคงเอ็ดโร่ไปฟ้องเสด็จแม่กับเสด็จย่าแล้วกระมัง..ถ้าเขาปล่อยจินหยู่ออกไปข้างนอกแล้วเธอแสดงกริยาแบบนี้ออกไป นางคงโดนโทษหนักเป็นแน่!

     

                    “ไอ้บ้า แกอย่ามาฉวยโอกาสกับฉันนะ! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ! ไม่ปล่อยใช่ไหม? ได้!” นางแบบสาวร้องโวยวายก่อนจะล้วงหยิบเครื่องช็อตไฟฟ้าในกระเป๋าออกมาและช็อตใส่องค์ชายหนุ่มทันทีพร้อมกับเด้งตัวออกมาจากอ้อมกอดสกปรกๆ นั่น ขยะแขยง!

     

                    “สมน้ำหน้า!” ฟริก หันมายิ้มเยาะก่อนหยิบแว่นตาดำมาใส่และก้าวฉับๆ ออกไปข้างนอกโดยไม่เหลียวหลังมามององค์ชายหนุ่มที่ทรุดอยู่เบื้องหลังแม้แต่น้อย

     

                    “องค์ชาย องค์ชาย องค์ชายเป็นอะไรหรือเพคะ องค์ชายไปเรียกหมอหลวงมาสินั่งบื้ออยู่ได้” พระสนมถางอินหันไปสั่งนางข้ารับใช้ข้างๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะโกลาหลไปหมด

     

                    พระสนมเอกจินหยู่เกิดคลั่งเสียสติทำลายข้าวของ อีกทั้งยังทำร้ายร่างกายองค์ชายรัชทายาทต้าเหว่ย! แล้วถ้าเธอใส่สีสักหน่อยว่า นอกจากนี้แล้วพระสนมยั่งคลุ้มคลั่งเกือบจะทำร้ายร่างกายเธอด้วย! หึ! หนทางการเป็นฮองเฮาของเธอก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วล่ะ!’ ถางอินคิดอย่างสะใจก่อนที่ริ้มฝีปากจะคลี่ยิ้มอย่างชั่วร้าย!

     

     

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =\

     

     

                    หลังจากที่ฟริกก้าวพ้นออกมาจากตำหนักแล้วภาพที่เธอเห็นตรงหน้าแทบจะทำให้เธออยากจะเป็นลมเลยทีเดียว! แต่..นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก! ประเด็นหลักของเธอคือ รถสปอร์ตคู่ใจของเธอหายไปไหนตะหาก!

     

                    “นี่มันเรื่องบ้าอะไรนักหนาวะเนี่ย!” หญิงสาวบ่นอย่างอารมณ์เสียก่อนจะก้าวลงบันไดไปอย่างรีบร้อนและเดินไปตามทางเดินพร้อมกับมองหารถสปอร์ตคู่ใจของเธอ นี่มันที่ไหนก็ไม่รู้ แถมมีแต่คนมองเธอแปลกๆ อะไรมันจะมีแต่เรื่องซวยๆ บ้าๆ แบบนี้!

     

                    “จับพระสนมจินหยู่! จับพระสนมไว้! พระสนมเสียสติทำร้ายองค์ชาย!” เสียงโวยวายขึ้นข้างหลังเธอทำให้เธอต้องหันไปมอง นางแบบสาวแทบอยากจะสิ้นสติอีกรอบเมื่อเห็นผู้ชายเป็นโขลงกำลังวิ่งตรงมาทางเธอแล้วท่าทางเหมือนกับว่าเป้าหมายจะอยู่ที่เธอด้วย! ทันใดนั้นสมองก็สั่งการให้นางแบบสาวออกตัววิ่งทันที!

     

                    หรือเป็นว่าฉันไปใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าช็อตไส่ไอ้บ้านั่นทำให้ยัยหน้าวอกโทรแจ้งตำรวจจับเธอกันนะ!’ หญิงสาวฉุกคิดพร้อมกับออกตัววิ่งพร้อมหาที่ซ่อนเพราะเธอรู้ว่า สภาพแบบนี้เธอหนีไปได้ไม่ไกลแน่! ส้นสูงห้านิ้วแบบนี้ใครประสาทวิ่งก็บ้าแล้ว ปากแตกตายพอดี!

     

                    นางแบบสาวมองหาที่ซ่อมก่อนจะพบกับก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ ทางเดินหญิงสาวรีบก้าวเลี้ยวไปทางนั้นพร้อมกันวิ่งไปทางนั้นและแอบอยู่หลังก้อนหิน เธอหอบด้วยความเหนื่อยหอบก่อนที่เธอจะฉุกคิดได้ หญิงสาวก้มถอดรองเท้าคู่ใจก่อนจะปาออกไปตรงทางเดิน

     

                    ไว้พวกมันไปหมดเมื่อไหร่แม่จะรีบไปเก็บมานะลูกหญิงสาวมองรองเท้าคู่โปรดพร้อมบอกในใจก่อนที่เธอจะหลบเข้ามุมเพื่อหลบซ่อนการติดตามของพวกผู้ชายบ้านั่น

     

                    นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! เรื่องมันเริ่มจะบ้ากันเข้าไปทุกที! ถ้าเธอจะบอกว่ายัยวอกนั่นโทรแจ้งตำรวจแล้วคนพวกนี้ที่วิ่งตามหล่อนมันใช่ตำรวจซะที่ไหนกันล่ะ! เป็นเหมือนพวกทหารยามในหนังที่พ่อเธอชอบเปิดดูบ่อยๆ! หรือว่าเธอโดนพวกมาเฟียลักพาตัวมา! เป็นไปได้! เพราะเธอจำได้ว่า..ครั้งที่แล้วที่เธอมาถ่ายแบบที่ฮ่องกงมีพวกมาเฟียมาตามตื้อให้เธอไปเป็นเมียเก็บพวกมัน! แค่คิดก็ขนลุกแล้ว! ยิ่งคิดก็ยิ่ง make sense!

     

                    “โอ้ย แล้วฉันจะทำยังไงดีเนี่ยย!” หญิงสาวกุมขมับด้วยความปวดหัวที่ทวีความแรงขึ้น! ตอนแรกก็ปวดหัวเพราะแฮงก์อยู่แล้ว ยังต้องมาปวดหัวเพราะคนใช้บ้าๆ นั่นอีก แถมยังมามีเรื่องพวกบ้านี่ไล่ตามเธออีก! เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง (ถึงจะมีความสวยมากกว่าผู้หญิงทั่วๆ ไปก็เถอะ) แต่ทำไมเรื่องบ้าๆ มันต้องมาเกิดกับเธอด้วยนะ ไม่เข้าใจเลย!

     

                    “นั่นเจ้ากำลังทำการใดตรงนั้นรึ?” เสียงของผู้ชายดังขึ้นบนหัวของเธอ..บนหัวของเธอ! นางแบบสาวเงยหน้ามองบนฟ้าแล้วตกใจจนส่งเสียงกรี๊ดออกมาแต่ดีที่ว่ามือของผู้ชายคนนั้นตะครุบปากเธอไว้ทัน!

     

                    “อย่าส่งเสียง..ทหารกำลังจะไปหมดแล้ว” เสียงนั้นกระซิบที่หูของเธออีกครั้งเวยความนุ่มนวล

     

                    นางแบบสาวเงยหน้ามองผู้ชายคนนั้นด้วยความขอบคุณก่อนจะลอบสังเกตผู้ชายคนนี้หน้าตาเธอให้เก้าเต็มสิบ! ส่วนเรื่องคุณสมบัติค่อยว่ากันอีกทีตอนเธอหลุดไปจากสถานการณ์บ้าๆ นี่ได้!

     

     

    แต่ถ้าถามเธอตรงๆ นะ..เธอโคตรจะใจสั่นตอนที่อยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้เลย ให้ตายเถอะ! ฮอโมนเพศหญิงของเธอเริ่มทำงานอีกแล้ว! ผู้ชายบ้าอะไรเซ็กซี่ชะมัด!







    11.2.11, 10.30 PM
    ครบร้อยแล้วววว  -.,-
    แต่งตอนนี้เสร็จแล้วมีความรู้สึกนางเอกโรคจิตวะะ  5555555.
    แล้วเราก็ทิ้งปริศนาไว้อีกแล้วว  ผู้ชายคนนี้เป็นใคร..ลุ้นกันตอนหน้าาาา  ฮิฮิ   XD 
    อยากบอกว่าไรเตอร์โคตรจะโอนเอียงไปทางผู้ชายคนที่มาใหม่ล่ะ
    เขาทำให้่ฮอโมนเพศหญิงไรเตอร์ทำงานเหมือนกัน  555555  (หื่นอีกแล้วอะะ) 
    เอาเป็นว่า..ไว้อ่านแล้วทุกคนก็จะหลงรักเขาเหมือนไรเตอร์!  (จริงๆ นะ  ^O^)  
    เจอกันตอนหน้าจ้าาา  =]


    ปล.ขอบทุกคนทุกวิวและคอมเม้นน้าค้าาา...เขาอ่านทุกเม้นเลยย  -.,- เลิฟคนเม้นจังขอให้สวยๆ หล่อๆ น้าา
    แล้วก็..เข้ามาอ่านแล้วก็อยากให้เม้นหน่อยก็ได้นะค่าาาา  (_ _)  เห็นวิวเยอะแต่เห็นเม้นแล้วใจหายย
    ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะคะ  จากก้นบึ้งของหัวใจเลยย  คิคิ


    แล้วก็อย่าลืม follow มาได้นะ
    VVVVVVV
    VVVVV
    VVVV
    VV
    v


    แล้วก็..เพื่อใครต้องการทวงถามหรือติดตามความเป็นไปของไรเตอร์..
    ว่าตอนนี้หล่อนอยู่ไหน..ทำไมไม่มาอัพนิยาย  follow ทวิตเตอร์ไรเตอร์ได้น้าา  :) 

    twitter.com/FRIGGYzk จ้าาาาา  <3  
    เอาไว้คุยกันได้นะะ..ไรเตอร์ไม่กัด เป็นคนดี สวย ฉีดยาแล้วด้วยย  55555. 


    FRIGG! XD



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×