คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ( SF ) เธอคือคนนั้นรึเปล่า :partone' tao x kacha
ไม่มีว่าคนคนนั้นมีอะไรพิเศษ ทำไมตาของผมเหมือนสั่งงานอัตโนมัติให้หมองตามอย่างไม่คลาดสายตา
อยากเข้าไปทักทาย อยากเข้าไปคุยด้วย แต่คนมากมายที่ลุมล้อมพี่อยู่ตอนนี้�
มันทำให้ผมรู้ว่าผมควรอยู่ตรงนี้แหละดีแล้ว ตรงที่พี่จะไม่รู้ว่ามีคนคนี้มองพี่อยู่ และ....
มีความรู้สึกดีดีให้พี่มานานแล้ว �
'พี่บาส สวัสดีครับ' �ถ้อยคำเหล่านั้นมันไม่ได้ออกไปจากปากของผมหรอก ผมทำได้ก็แค่
คิดอยู่ในใจ มันก็ดังอยู่ในใจผมเองนั่นแหละ � ผมมองร่างสูงสาวเท้าเดินต่อไปจนอีกคนหันหลังและลับตาไป
พี่บาสเป็นรุ่นพี่ที่คณะผมเองครับ �ขนาดผู้ชายด้วยกันในคณะยังพากันบอกว่าพี่บาสหล่อ หน้าหวานเหมือนผู้หญิง
หน้าตาถือได้ว่าดีมากเลยทีเดียว นั้นก็ไม่แปลกที่ใครๆก็พากันชอบ � ซึ่งรวมถึงผมด้วย....
ผมกำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ อยู่ดีๆก็มีเสียงทุ้มดังขึ้นจากข้างหลังของผม
"ชอบแล้วมัวแต่มอง เดี๋ยวก็มีคนคาบไปแดกหรอกมึง"
"อ่าวไอ่เหี้ยเต๋า แล้วมึงจะให้กูทำยังไงล่ะ เห็นไหมคนชอบพี่เขาเยอะขนาดนั้น"
"นั่นแหละ ถ้ามึงไม่รีบเผล็จศึก ระวังโดนคนอื่นฉวยไป แล้วอย่ามาโทษกูก็แล้วกัน"
"แล้วกูต้องทำยังไงล่ะ"
"หึ " อีกคนหัวเราะในลำคอก่อนจะบอกสิ่งที่ผมควรจะทำ �ไอที่เรียกว่าเผด็จศึกจริงๆคือไม่มีอะไรครับ
มันก็แค่แผนจีบเฉยๆ �ก็มีไปบอกพี่เขาตรงๆ �ตีสนิท แล้วก็ขอคบ �พูดเหมือนง่ายเนอะมึง�
ผมควรจะเริ่มต้นจากตรงไหน �กูผิดไหมที่จีบใครไม่ค่อยเป็น ไม่ได้หน้าม่อเหมือนมึงหนิเต๋า
ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาผมก็ทำตามแผนที่มันบอก ตั้งแต่ไปตีสนิท จนได้เบอร์พี่บาสมา
คือพี่บาสเนี่ยอยู่ชมรมดนตรี �แล้วเขาขาดคนเล่นกลองพอดี �ผมสนิทกับไอ่พี่แจ็ค เลยทำเนียนๆ
ขอมาช่วยเล่น �โชคดีเหมือนบุญหล่นทับ มาซ้อมทุกวันก็ได้เจอพี่บาสทุกวัน จนบางทีผมก็ไปส่งพี่บาส
ผมรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะครับ�
"คชา วันนี้ไปซ้อมด้วยนะไอแจ็คมันบอกมา"
"คร้าบ :)" ผมหันไปตอบอีกคน พร้อมยิ้มหวานส่งไปให้ �วันนี้แหละผมจะบอกทุกสิ่งทุกอย่างกับพี่บาส�
ว่าความรู้สึกของผมน่ะ จะเหมือนกับที่พี่เขารู้สึกกับผมบ้างรึเปล่า�
เสียงดนตรีดังไปทั่วห้องซ้อมของมาวิทยาลัยอย่างไม่มีหยุด �ดนตรีก็เป็นสิ่งที่ผมชอบอีกอย่างนึง
ผมสามารถอยู่กับมันไปทั้งชีวิตเลยล่ะ �มันทำให้ผมรู้สึกมีความสุข ยิ่งได้ทำสิ่งที่ชอบกับคนที่ผมชอบ
ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังหัวใจพองโตอยู่ไม่น้อย �อีกไม่นานแล้วสินะ .
"เออ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะเว้ย ขอบคุณทุกคนมากที่อยู่ซ้อมกันจนดึก กลับบ้านได้แล้วเว้ย"
เสียงของพี่แจ็คประธานชมรมดนตรีดังขึ้นทำเอาผมสะดุ้งไม่น้อย ยอมรับว่าตื่นเต้นพอสมควร�
เอาวะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด!
"พี่บาสครับ กลับบ้านด้วยกันไหม" ผมหันไปถามอีกคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาเก็บของอยู่
"อื้ม �เอาสิ" คำตอบพร้อมกับรอยยิ้มหวานส่งมาให้ผม �
ผมยืนรอพี่บาสเก็บของอยู่สักพักหนึ่งก่อนเราจะร่ำลาเพื่อนๆพี่ๆออกมาได้ก็พักใหญ่อยู่เหมือนกัน
คนในวงก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน � นี่ก็ดึกมากแล้วจึงทำให้ในมหา'ลัยไม่มีคน �ไฟก็เปิดไว้แต่เพียงบางดวง
ไม่มีเสียงรบกวนใดๆ มีเพียงแต่เสียงลมที่พัดเอาไปไม้ไปกระทบกับกิ่งไม้ � เวลานี้แหละ ....
"พี่บาส " ผมหยุดเดินแล้วส่งเสียงเรียบให้อีกคนที่กำลังเดินนำหน้าผมไปอยู่ ทำเอาคนตรงหน้าผมหันกลับมาเลิกคิ้วสูง
"ทำไมหรอ" � ผมมองหน้าอีกคนก่อนเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วเอื้อมมือไปกุมมือของอีกคนเอาไว้หลวมๆ
"ผม... ชอบพี่บาสนะ"
"......." ไม่มีคำตอบจากอีกคน มีเพียงแต่แววตาเรียบเฉย กับสีหน้าตกใจเพียงเล็กน้อย นั่นทำเอาผมใจไม่ดี
"ผมรู้สึกดีเวลาที่อยู่ใกล้พี่นะ �รู้สึกใจมันเต้นเร็วขึ้นทุกครั้งที่เห็นพี่ยิ้ม มีความสุขที่เห็นพี่ แม้พี่จะไม่เห็นผม �แล้วพี่..."
"จะเปิดใจให้ผมบ้างได้ไหม ?" �ผมพยายามควบคุมอารมณ์พูดคำสุดท้ายออกไป�
"คะ ..คชา คือ พี่ .."�
"คือพี่ ขอบคุณนะ ที่คชารู้สึกดีกับพี่ �แต่พี่..."
"พี่มีคนที่ชอบแล้วใช่ไหม" น้ำเสียงสั่นคลอของผมถามขึ้นด้วยอารมณ์ �แต่กลับไม่มีเสียงตอบจากคนตรงหน้าเลย�
แต่กลับพยักหน้าเบาเบา กับสายตาที่ไม่ยอมสบกับผม �ตอนนี้ผมรู้สึกวูบไปทั้งตัว �สมองมันไม่สั่งการอะไร �มันชาไปหมด
เพราะผม... หวังมากไปหรอ �ผมไม่ได้เตรียมใจที่จะผิดหวังมาเลยสินะ หึ �รู้ตัวอีกที ผมก็รู้สึกได้ถึงของเหลวใสที่คลออยู่บริเวณ
ขอบตาของผม �'น้ำตา'�
บ้าเอ้ย ! อ่อนแอชะมัดเลยคชา ใครเขาจะอยากให้แกดูแลปกป้องเขา มาร้องไห้ต่อหน้าเขาแบบนี้
"คชา พี่ขอโทษ "
"พ..พี่ไม่ต้องขอโทษผมหรอก พี่ไม่ได้ผิดสักหน่อย " ผมพูดประโยคสุดท้ายออกไปก่อนที่น้ำอุ่นๆจะไหลลงอาบแก้ม
อีกคนดูตกใจไม่น้อยกับสภาพของผมตอนนี้ที่กำลัง 'ร้องไห้' �
"หึ หน้าสมเพชสินะ" ผมหัวเราะกับตัวเองก่อนจะพูดคำสุดท้ายทิ้งไว้ �หงุดหงิดตัวเองเว้ย ทำไมขี้แยอย่างนีว่ะคชา�
แกมันงี่เง่า �สมแล้วที่ดดนเขาปฎิเสธนะ ! ขาของผมสองข้างสั่งการเองให้วิ่งออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด
ตอนนี้ผมจะไปไหน �กลับบ้านไปสภาพแบบนี้คงโดนถามแน่ๆ �เอาไงดีว่ะ ไอน้ำตาเหี้ยนี่ก็ไหลไม่ยอมหยุด
หยุดซักทีสิเว้ย !
ระหว่างที่ผมวิ่งออกมาสักพักผมเจ้ากรรมก็ดันตกซะงั้น จะตอกย้ำซ้ำเติมกูไปถึงไหน�
แต่ตอนนี้ผมไม่กลัวอะไรอีกแล้ว �เจ็บจนมันชาไปทั่ว �ไม่รู้สึกถึงความหนาวจากหยาดฝน
ที่ตกลงมากระทบกับตัวผมสักนิด�
______________________________________________________________________________________
ผมรู้ตัวอีกทีผมก็มาหยุดอยู่ที่หน้าคอนโดแห่งหนึ่งก่อนจะเคาะประตูสองสามที�
แล้วเจ้าของห้องก็มาเปิดพร้อมด้วยสีหน้าตกใจ �
"เห้ย ชามึงเป็นอะไร เข้ามาก่อน"�
"มึงไปทำอะไรมา ทำไมตัวเปียกแบบนี้ นั่นมึงร้องไห้หรอ"
"เต๋า มึงอย่าพึ่งถามอะไรกูได้ไหม กู....กูไม่อยากพูดถึงตอนนี้" ผมพูดเรียบๆก่อนจะสังเกตเห็นอีกคนลดสีหน้าลง
แล้วเงียบไม่ถามอะไรผมอีกเลย �ก่อนจะโยนผ้าขนหนูผืนเล็กสีฟ้ามาให้ผม�
"อ่ะเช็ดผมซะมึง เดี่ยวไม่สบาย" �ผมรับผ้าขนหนูมาก่อนจะเช็ดผมอย่างช้าๆ พลางคิดทบทวนเรื่องของวันนี้�
ที่ผม... ไม่อยากจะจำ
ผมจัดการอาบน้ำสระผมเรียบร้อยก่อนจะแต่งตัวด้วยชุดของมัน �ผมคุยกับมันแล้วว่ามีเรื่องนิดหน่อย
ไว้ผมสบายใจแล้วผมจะเล่าให้มันฟังเป็นคนแรก �ผมกับเต๋าเป็นเพื่อนกันมานาน
�เวลาผมมีเรื่องไม่สบายใจผมก็จะชอบระบายกับมัน
แต่..เรื่องนี้ไว้รอกูพร้อมก่อนนะ กูเชื่อใจมึง�
ผมทิ้งตัวลงนอนด้วยความรู้สึกล้า รู้สึกแย่จนไม่อยากจะทำอะไร�
อยากจะนอนหลับตาอยู่แบบนี้ �ไม่ต้องคิดถึงสิ่งที่มันพึ่งจะเกิดขึ้น หรือสิ่งที่จะเกิดขึ้น�
รสชาติของความผิดหวัง �มันเป็นอย่างนี้สินะ คชามึงได้ลิ้มลองมันสักครั้งแล้วล่ะ
เป็นยังไง �มันเจ็บเจียนตายเลยใช่ไหมคชา �...
ผมปล่อยความคิดของผมให้มันวนเวียนอยู่ในหัว �ก่อนจะหลับตาแล้วเขาสู้ห้วงนิทรา
ที่ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปได้ในนั้น แต่ไม่เคยจะเกิดในชีวิตจริงได้ �
ฝันเราลิขิตมันได้ แต่มันก็คือฝันไม่ใช่ ชีวิต.
_______________________________________________________________________________________
"ชาชา ชาเว้ย " ผมรู้สึกถึงแรงสะกิดทำให้ผมรู้สึกตัว แล้วพรือตาขึ้น ก็พบว่าร่างสูงของใครสักคนกำลังนั่ง
อยู่ข้างๆเตียงเหมือนเช่นเคยทุกเช้า �ผมมาอยู่ที่คอนโดเต๋าเกือบจะอาทิตย์แล้ว �
ถึงแม้ว่าจะเกรงใจมันอยู่ แต่ก็ไม่อยากกลับบ้าน�
"ตื่นมากินโจ๊ก �กูซื้อมาให้ "
"มึงกินเถอะ กูไม่หิว " คำตอบเดิมตอบคำถามไป �
"มึงไม่หิวมาจะอาทิตย์นึงแล้วนะเว้ย ดูหน้ามึงดิ โทรมจะตายห่า กูขอร้องมึงอย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้"
"มึงไม่รู้หรอกว่ามีใครจะเจ็บเพราะมึงบ้าง" ��
"มึงหมายถึงใคร " คำพูดแบบนั้นมันหมายถึงอะไรกันแน่�
"... เปล่า กินโจ๊กด้วยกูเดี่ยวกูออกไปซื้อของก่อน" ว่าแล้วร่างสูงของอีกคนก็เปิดประตูออกจากห้องไป
� ทิ้งคนบนเตียงให้งงกับคำพูดที่ทิ้งไว้�
'ทำไมไม่พูดให้เคลียร์วะ �กูไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองแล้วรู้ไหม ' ผมเจ็บ �เจ็บจนไม่กล้าอีกแล้วล่ะ
ผมก้าวลงจากเตียงก่อนจะเดินไปที่ห้องครัวแล้วคว้าจานกับถุงโจ๊กมาด้วย �
ก่อนจะตักกินไปได้คำสองคำ �ผมกินไม่ลงจริงๆ �ถือซะว่ากูกินแล้วนะเต๋า �
'ขอบคุณนะ'
�คำที่ผมบรรจงเขียนใส่กระดาษก่อนเอาไปติดที่ตู้เย็น �ต้องขอบคุณมันจริงๆ
ถ้าไม่มีมัน ผมคง..แย่กว่านี้ �มันคอยดูแลผมทุกเรื่องจนบางทีผมก็แอบ..........
ผมทิ้งตัวลงบนที่นอนอีกครั้งก่อนจะนึกรวมรวบเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต�
บางทีผมอาจจะหยุดอยู่ที่เดิมนานเกินไป �ผมควรจะลุกขึ้นแล้วก้าวไปไหมรึเปล่านะ
แต่มันเป็นเพราะ ผม..กลัว �กลัวจะต้องเสียใจอีก ซึ่งถ้าเป็นคนคนนี้ผมคงทนไม่ได้จริงๆ
ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แปลกแฮะ วันนี้มันไม่ได้มาปลุกผมพร้อมถุงโจ๊ก�
ผมใช้สายตากวาดหาไปทั่ว �แต่ก็ไม่มีวี่แววเลยแม้แต่น้อย
�ไปไหนว่ะ ทิ้งกูหรอ!
จนสายตาของผมไปสะดุดกับกระดาษสีส้มที่แปะอยู่บนตู้เย็น �
'กูออกไปเคลียร์งานที่มหาลัยแปปนึง เดี่ยวกูกลับมา โจ็กอยู่บนโต๊ะนะ'
ประโยคสั้นๆบนกระดาษนั่นทำเอาผมเผลอยิ้มออกมาได้ไม่น้อย�
ผมไม่ได้ยิ้มแบบนี้มานานแล้วสินะ �คงถึงเวลากับการ
..เริ่มต้นใหม่
ผมเทโจ็กใส่ถ้วยก่อนจะตักเข้าปาก วันนี้จะพยายามกินให้หมดเลย คอยดู
ติ๊ง -
เสียงใสดังขึ้น มันเป็นเสียงเมจเสจที่ส่งมานั่นเอง ทำไมผมจะไม่รู้ผมก็ใช้ไอโฟนนะครับ �
ผมมองไปรอบๆจนเจอต้นเสียง เป็นโทรศัพท์นั่นเอง�แต่นี่ไม่ใช่โทรศัพท์ของผมนี่
เต๋าคงลืมไว้ละมั้ง �ผมกดคำว่า open บนหน้าจอทัชสกรีน เพื่อเปิดดูเมจเสจว่าใครส่งมา
เพื่อจะมีเรื่องด่วน �
BAS': �คิดถึงแฟนนะ :)
หัวใจผมกระตุกวูบแค่ประโยคสั้นๆ ทำเอาผมรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่จริงใช่ไหม ใครก็ได้หาข้ออ้างมาบอกผมทีว่านี่มันอะไร � เรื่องในหัวผมตีกันยุ่งไปหมด
� � � � � � �น้ำตาที่ผมคุ้นเคยเริ่มไหลออกมาช้าๆ ก่อนความรู้สึกเดิมจะปรากฏ �แต่ไม่สิ
ไม่เหมือนเดิน แต่มันเจ็บกว่าเดิมอีกร้อยเท่า �มึงจะให้กูเจ็บไปถึงไหน �มึงเคบบอกว่าอย่าให้ใครเจ็บเพราะกู
แล้วมึงไม่รู้หรอว่ากูเจ็บแค่ไหน ทำไมมึงทำแบบนี้ � มึงไปคบกับพี่บาสทั้งที่กู... กู !
ผมวิ่งลงมาจากคอนโดพร้อมกับน้ำตาที่ยิ่งไหลหนักกว่าเก่า ก่อนจะโบกแท็กซี่กลับบ้าน�
ผมไม่อยากจะอยู่แล้ว ไม่อยากเจอไอเหี้ยสองคนนั้น �คนที่ผมไว้ใจ..แล้วก็ให้ใจกับมันไป
มันกลับบีบหัวใจดวงนั้นให้แตกสลาย �ทำไมมึงโง่แบบนี้คชา �มือสองข้างของผมปาดน้ำตาที่ค่อยๆ
ทยอยไหลมาอาบแก้มได้ไม่หยุด
หลังจากผมถึงบ้าน โชคดีที่แม่ไม่อยู่ผมก็เก็บข้าวของก่อนจะทิ้งโน็ตไว้ให้แม่ เพื่อแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง
'ชาไปเที่ยวกับเพื่อน เดี่ยวสองสามวันก็กลับแล้ว ดูแลตัวเองด้วยนะครับแม่'
� � � � � � � � � � � � � � � � � � � � � �TO BE CONTINUE �PART TWO
- - - - - - - -�- - - - - - - -�- - - - - - - -�- - - - - - - -�- - - - - - - -�- - - - - - - -�- - - - - - -�
talk talk talk : ติดตามตอนที่2 กันนะจ๊ะ ไรเตอร์สัญญาจะมาอัพให้เร็วที่สุด�
เนื่องจากเรื่องที่แล้วมันสั้น ไรเตอร์เลยจัดเต็มเรื่องนี้ให้ ชอบไม่ชอบเม้นบอกด้วยนะจ๊ะ -3-
�
�
ความคิดเห็น