ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอสตอนจ้าวมังกรเซฟารีน

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 6

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 49


                    เสียงหวานขอต่อหน้าคนทั้งชั้นปี 3 ป้อมอัศวิน   อาการอึ้งเกิดกับทุกคนที่ได้ยิน  แม้แต่เฟรินที่ยังคงมีอาการขำอยู่เมื่อครู่ก็ยังนิ่งค้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง   แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบแต่อย่างใด   ส่วนสาวน้อยปี 1 ก็ยังคงยืนรอคำตอบอยู่เช่นนั้น   คาโลรีบดึงใบหน้าประจำขึ้นมาใช้ทันที

     

                    คงไม่ได้   เดี๋ยวบ่ายนี้พวกพี่มีประชุมกัน

     

                    เสียงสวรรค์จากเจ้าชายโรเวนดังขึ้นเบื่องหลังทุกคน   ไม่รู้เลยว่าเจ้าตัวมาถึงตั้งแต่เมื่อไร   และเมื่อหันไปมองดู 2 คู่หูนักบวชหน้าบึ้งกับซาตานหน้าเป็นเดินตามมาอยู่ข้างหลังของเสนาธิการคนสำคัญ   โอลิเวียจึงไม่มีทางใดดีไปกว่ากล่าวลาแล้วจากไป   โดยมีเสียงถอนหายใจจากบรรดารุ่นพี่ปี 3   ที่หวิดเกือบได้อากาศร้อนๆเพิ่มขึ้นมาจากที่ร้อนอยู่แล้วจากคนในห้อง   แต่ไม่นานความสนใจของทุกคนก็มุ่งไปที่รุ่นพี่ทั้ง 3 ที่เดินมาหาพวกเขา

     

                    พวกพี่มีอะไรหรอครับ   ถึงมาหาพวกผมถึงนี่

     

                    ไม่ได้ยินหรอคิลลี่   บ่ายนี้จะมีประชุมน่ะ   เสียงซาตานหน้าเป็นตอบอย่างอารมดีแบบสุดๆ   รุ่นน้องจึงได้แต่งง   เพราะปกติพวกตนต้องรู้ตัวแต่เช้าแล้ว   หรือก่อนหน้านั้นอย่างน้อยก็วันนึง   แต่แบบว่าอีกไม่นานจะประชุมนี่เพิ่งจะเคยเกิดขึ้น   จึงได้แต่อึ้งๆกันไป

     

                    แต่พวกผมไม่เห็นรู้เรื่องเลยนี่ครับ   ครี้ตรีบกล่าวอย่างยังงงไม่หาย

     

                    พอดีเมื่อเช้าพวกฉันมีประชุมกันแต่เช้าน่ะซิ   แล้วเรื่องก็ออกมาตอนนั้นด้วยพวกนายถึงเพิ่งรู้ยังไงล่ะ   คำตอบจากโรเวนทำให้ทุกคนถึงบางอ้อหายงงกันไปได้   ซึ่งในตอนนี้เฟรินได้เดินออกมารวมกับทุกคนเรียบร้อยแล้ว

     

                    ดังนั้นพวกนายรีบไปกินข้าวแล้วไปเจอกันที่ห้องประชุมในอีก 1 ชั่วโมง   คราวนี้นักบวชหน้าบูดเอ่ยขึ้นบ้าง   อย่างคนที่ไม่เคยอารมดี   แล้วพากันเดินจากไป   แต่ยังไม่ทันไปได้เท่าไรเสียงของเฟรินก็ดังขึ้นว่า

     

                    เดี๋ยวดิพวกพี่   บอกก่อนว่าเรื่องอะไรกันฮะ

     

                    เดี๋ยวเข้าประชุมก็รู้เองล่ะเฟรี่   ตอนนี้รีบไปกินข้าวกันก่อนดีกว่า   แล้วทั้งหมดก็เดินจากไปโดยไม่ให้ความกระจ่างอะไรเพิ่มมากขึ้น   ทุกคนจึงทยอยกันลงไปยังโรงอาหารดราก้อนเพื่อที่จะได้ทานข้าวกันทันเวลา   แต่ก่อนลงไปเฟรินก็ตรงไปที่โต๊ะเขียนหนังสือของตัวเอง   ก่อนจะหยิบหนังสือเล่มสำคัญเก็บเขาลิ้นชักพร้อมลงเวทย์ไว้อย่างเรียบร้อย   โดยที่ไม่อาจรอดพ้นสายตาที่คอยจ้องอยู่ตลอดเวลาไปได้   และเพราะการกระทำนั้นทำให้เขานึกออกถึงหนังสือที่เขาเกือบจะลืมไปเสียแล้ว   แต่ดูเหมือนเฟรินจะไม่อยากให้ใครรู้เขาจึงไม่ถาม   เพียงเก็บไว้ก่อนรอเวลาที่จะถามเมื่ออยู่กันตามลำพัง

     

     

                    ที่โรงอาหารดราก้อนนักเรียนปี 3 ประจำป้อมกำลังเร่งรีบกับอาหารมื้อนั้น   ประชุมด่วนที่ถึงแม้หลายคนจะไม่สนใจ   แต่ถ้าไม้รีบเจ้าหญิงนางพญามาทิลด้าต้องกลายร่างเป็นแน่   และแม้แต่เฟรินก็ยังไม่อยากเสียง   เพราะสายตาดุๆของแม่เจ้าประคุณช่างน่ากลัวเสียนี่กระไร   แถมยังฤทธิ์คทาของแองจี้ก็ยังน่ากลัวอย่างยิ่ง   สำหรับสวัสดิภาพของกะบาลหนุ่มๆในป้อม   รวมทั้งกะบาลของผู้หญิงที่ไม่เคยทำตัวให้สมกับความเป็นผู้หญิงเลยสักครั้ง   ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะโดนน้อยลง   แต่ก็ใช่ว่าจะไม่โดน   แล้วโดนแต่ละทีก็เจ็บเหลือหลาย   ทั้งหมดรีบกินอย่างเร็วและคนที่รีบกินผิดวิสัยก็คือคาโล    เพราะข้างๆเขาด้านหนึ่งคือเฟริน   แต่อีกด้านที่ทำให้ต้องรีบก็คือสาวปี 1 โอลิเวียนี่แหละ   แต่เพราะการกินที่มากกว่าคนอื่นถึง 3 เท่าทำให้เขาต้องทนนั่งรอให้เฟรินกินจนเสร็จก่อนจึงจะลุกได้   แต่เมื่อหมดจากที่ 3 เจ้าตัวกำลังจะไปตักจานต่อไป   คาโลก็เกิดหมดความอดทนที่มีมานานลง

     

                    นายจะไปไหนเฟริน

     

                    ก็ไปเอาข้าวไงคาโล

     

                    ไม่ต้องแล้ว   ไปประชุมได้แล้วจะได้เวลาแล้ว

     

                    แล้วก็ลากเจ้าตัวยุ่งออกไปทันที   ตามด้วยเสียงถอนหายใจเบาๆของนักฆ่าเพื่อนซี้นั่นเอง   ทั้ง 3 เป็นกลุ่มสุดท้ายที่เดินไปห้องประชุม   แต่ถ้าจะมีใครสักคนหันกลับมามองที่สาวน้อยที่นั่งอยู่แล้ว   ก็คงจะได้เห็นความไม่เข้าใจในดวงตาของเธอ   เจ้าชายคาโลมาดเท่สูงศักดิ์ทำไมถึงชอบเจ้าหญิงที่ดูเถื่อนๆแบบเฟรินที่มีนิสัยกระเดียดไปทางผู้ชายได้   แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปหาคำตอบได้จากใคร   คนที่ดูจะรู้มากที่สุดก็กลับเป็นเพื่อนของคนทั้งคู่   ซึ่งสาวน้อยก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะได้คำตอบที่ต้องการหรือไม่    จึงทำได้เพียงมองตามไปจนร่างทั้ง 3 ลับตาไป

     

                    เธอสนพี่คาโลใช่ไหม   โอลิเวีย

     

                    เสียงของทอม   เพื่อนร่วมห้องดังขึ้นจากข้างหลังของเธอ   และโดยที่ไม่จำเป็นต้องหันกลับไปมอง   สาวน้อยก็กล่าวออกไปว่า

     

                    นายก็เหมือนกันนั่นหละทอม   ชอบพี่เฟรินล่ะซิ   ฉันรู้นะตั้งแต่วันที่ทาทารัสพาพี่เฟรินไปที่ห้องนั่งเล่นวันนั้นแล้ว   นายมองพี่เขาไม่วางตาเลยนะ

     

                    แล้วถ้าฉันจะบอกว่าใช่ล่ะเธอจะว่ายังไง   จะร่วมมือกับฉันหรือเปล่า

     

                    ร่วมมือ   ร่วมมือยังไง

     

                    ทอมไม่ได้ตอบในทันที่นั้น   แต่เดินออกไปจากโรงอาหารทำให้โอลิเวียเดินตามออกไปด้วยความอยากรู้ที่ถูกเพื่อนจุดขึ้น   ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าทั้งคู่จะทำอะไรกัน   ทาทารัสที่แอบมองอยู่ก็ได้แต่งงงัน   แต่ก็ทำได้เพียงปล่อยให้ผ่านไป

     

     

                    อะไรนะฮะพี่   คุ้มครองของวิเศษไปส่งให้คิงบาโรหรือฮะ   แล้วทำไมต้องเป็นพวกผมด้วยฮะ

     

                    เสียงเฟรินดังขึ้นหลังจากที่ได้ทราบว่า   นักเรียนปี 3 ป้อมอัศวินทั้งหมดพร้อมทั้งรุ่นพี่ทั้ง 3 จะต้องร่วมมือกันนำศิรามายาไปส่งให้กับคิงบาโรที่คาโนวาล   ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก   ศิรามายาเป็นที่ต้องการของคนหลายกลุ่ม   เพราะความวิเศษที่ว่ามันสามารถจะยืดอายุของผู้ครอบครองหรือทำให้ผู้ครอบครองมั่งมีเงินทอง   จนชั่วลูกชั่วหลานก็ไม่อาจกินหมดได้ที่เดียว   แต่จะต้องแลกกับของสำคัญที่สุดของผู้ที่ครอบครองมัน   แม้กระนั้นก็ยังเป็นที่ต้องการของบุคคลทั้งหลายอยู่ดี

     

                    เสี่ยง   เสี่ยงมากที่จะถูกชิง   และเสียงที่จะต้องตายหรือต้องสู้กับใคร

     

                    แล้วนายมีปัญหาหรือไงเฟริน   เลโมธีไม่ได้ให้นายไปคนเดียวซะหน่อย

     

                    ยังแองจี้   เธอไม่สงสัยหรือไงของสำคัญขนาดนี้ทำไมให้พวกเด็กอย่างเราเอาไปส่ง   ทำไมไม่ให้อาจารย์คนใดคนหนึ่งไปส่ง

     

                    ก็เพราะ   ในพวกนายมีคนเก่งหลายคน   และคงไม่มีใครคิดว่าของสำคัญแบบนี่จะมาอยู่ในความดูแลของพวกเด็กๆไงเฟริน

     

                    คำตอบดังมาจากเสธฯคนสำคัญหนึ่งเดียวที่เรียกประชุมครั้งนี้   จากคำตอบทำให้ทุกคนไม่มีคำถามใดอีก   และยิ่งวางใจมากขึ้นเมื่อรุ่นพี่ที่มีฝีมือที่สุดทั้ง 3 คนควบคุมไปด้วย

     

                    ใครมีคำถามอะไรอีกหรือเปล่า   ถ้ามีอะไรจะถามก็ถามซะตอนนี้

     

                    แต่ก็ไม่มีคำถามอะไรที่จะต้องถามอีกแล้ว   โรเวนจึงสรุปการประชุมว่า

     

                    ถ้าไม่มีคำถาม   พรุ่งนี้ 6 โมงเช้าเจอกันที่หน้าป้อม   อย่าสายอย่าเลทโอยเด็ดขาด   เพราะเราต้องออกเดินทางกันแต่เช้า   เลิกประชุมได้

     

                    แล้วรุ่นพี่ก็เดินออกจากห้องประชุมตามกันไปจนหมด   ถัดมาก็คือรุ่นน้องปี 3 ที่ทยอยกันออกไปที่ละกลุ่มๆ   โดยมีเสียงวิภากวิจารย์กันไปตลอดทาง   เหลือเพียง 3 นางฟ้ากับ 3 หัวหน้าป้อมปี 3 เท่านั้นที่ยังอยู่ในห้องประชุม   หน้าของเฟรินยังคงรื่นรมอย่างปกติ   แต่ถ้าใครจะมองลึกในแววตาของเฟรินเหมือนอย่างที่คาโลกับแองจี้มองแล้วล่ะก็   พวกเขาจะได้เห็นความกังวลอย่างมากมายภายในแววตานั้น   แต่ก่อนที่จะมีใครถามอะไรกันขึ้น   เฟรินก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปเป็นคนแรกอย่างเงียบๆ   คนที่เหลือทำได้เพียงมองตามโดยไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น  

     

     

                    แสงอาทิตย์ของวันใหม่เพิ่งพ้นจากขอบฟ้า   หลายคนมาถึงหน้าป้อมที่มีเกวียนคันขนาดกลางจอมอยู่เทียมด้วยม้าสีน้ำตาล 2 ตัว   รุ่นพี่ทั้ง 3 กำลังเดินตรงมาที่รุ่นน้องปี 3 ที่ยืนคอยข้างเกวียนคุยกันเบาๆ   คิลกับคาโลก็ยืนคุยกันอยู่เป็นคู่แรก   แต่กลับไม่มีร่างของเฟรินตัวยุ่งประจำป้อมให้เห็น   โรเวนยืนมองหน้ารุ่นน้องทุกคน   แต่ไม่ว่ายังไงก็หาเฟรินไม่เจออยู่ดี 

     

                    เฟรินอยู่ในคิล   คาโล

     

                    หลับอยู่ในเกวียนแล้วครับ   มันบอกว่ากลัวไม่ตื่นก็เลยมานอนที่เกวียนตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ   คิลเป็นคนตอบด้วยเสียงกลัวหัวเราะ

     

                    เมื่อคืนผมกับคิลก็นอนในเกวียนเหมือนกันครับ

     

                    คาโลตอบด้วยเสียงนิ่งๆมาดนิ่งๆอย่างเคยเป็นตามแบบฉบับของคาโนวาล(ซะละมั้ง)   ซึ่งโรเวนก็ชักจะชินกับมาดมากๆของเจ้าชายคนนี้ซะแล้ว   ก็เลยแค่พยักหน้ารับรู้แล้วหันมาเรียกทุกคนขึ้นเกวียนเตรียมเดินทาง

     

                    เอ้า   ถ้าครบแล้วก็ขึ้นเกวียนกันได้เลย   จะได้ออกเดินทางกันซะที

     

                    แล้วทุกคนก็ทยอยกันขึ้นเกวียนไป   แต่เมื่อขึ้นไปแล้วทุกคนถึงได้รู้   ขนาดของพื้นที่แทบจะเรียกได้ว่ากว้างมหาศาลเลยทีเดียว   แต่ถ้าจะให้เรียกให้ถูกที่สุด   คงต้องเรียกว่าโรงแรมเคลื่อนที่ซะละมาก   เพราะเพียงก้าวเท้าเข้าไปพนักงานต้อนรับก็มารับกระเป๋าของแต่ละคนไปเก็บไว้ตามห้องต่างๆ   ที่ให้น่าสงสัยว่ามาได้ไงก็ไม่รู้   และยิ่งโดยไม่รู้ตัว   เมื่อคนสุดท้ายก้าวเท้าขึ้นมาเรียบร้อยเกวียนก็เคลื่อนที่ในทันที   แทบไม่รู้สึกถึงความสะเทือนเช่นเกวียนทั่วไป   พนักงานต้อนรับคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นว่า

     

                    เชิญท่านทั้งหลายพักผ่อนได้ตามห้องที่จัดเตรียมไว้ให้นะคะ   ที่หน้าห้องทุกห้องมีชื่อของแต่ละท่านเรียบร้อยแล้วค่ะ   และหากท่านใดต้องการอาหารเช้าที่ห้องโปรดแจ้งทางเราด้วยนะคะ

     

                    กล่าวจบพนักงานคนนั้นก็ผายมือเชื้อเชิญทุกคนสู้ห้องชั้นบน   นักเรียนป้อมอัศวินนอกจากคิลกับคาโลแล้วต่างทำหน้าราวกับเห็นผีก็ไม่ปาน   โรเวน   ลูคัสและลอเรนซ์ต่างพากันหันมามองหน้าทั้งคู่อยู่อย่างนั้น

     

                    นี่คืออะไรคิล   คาโล   ไหนพวกนายช่วยอธิบายหน่อยซิ   พวกเราไม่มีเกวียนแบบนี้นี่

     

                    ที่จริง   เดมอสส่งมาเมื่อคืนฮ่ะ   ไม่รู้โกโดมมันรู้ได้ยังไงว่าจะมีการเดินทาง   มันเกิดกลัวเจ้าหญิงของมันจะเดินทางลำบาก   มันก็เลยเอาเกวียนนี้มาให้เมื่อคืนนี้ฮะ 

     

                    คิลเป็นคนชิงตอบเสียเองในคำถามนี้   โรเวนไม่มีทางทำอะไรได้   เขาถูกนำไปสู่ห้องพัก   ที่แน่นอนว่าจะปลอดภัยเมื่ออยู่ภายใน   เกวียนเทียมม้า 2 ตัวเดินทางไปเรื่อยๆหลายคนสงสัยการเดินทางเริ่มหรือยัง   แต่เมื่อมองผ่านบานหน้าต่างออกไป   ภาพวิว 2 ข้างทางก็ผ่านไปเรื่อยๆอย่างเชื่องช้า   ผ่านเขตชนบทท้องทุ้งงดงามอยู่ข้างทาง   เกวียนค่อยๆช้าลงเรื่อยๆ   จนจอดสนิดเสียงประกาศดังด้วยเวทย์จากพนักงานคนเดิม

     

                    เที่ยงนี้เราจะทานอาหารกันที่ทุ่งดอกไม้นี่ค่ะ   ขอเชิญทุกท่านเดินพักผ่อนกันก่อนถึงเวลาอาหารค่ะ   อีก 20 นาทีอาหารจะพร้อมเสริฟค่ะ

     

                    สิ้นเสียงประกาศ   หลายคนที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในห้องหนึ่งเดินลงจากเกวียน    เดินชมดอกไม้ใบหญ้าไปเรื่อย   การเดินทางคุ้มครองของวิเศษดังการเดินทางไปพักผ่อนก็ไม่ปาน   ร่างบางของเจ้าหญิงเฟลิโอน่าเดินลงมาจากเกวียนด้วยใบหน้าที่บูดบึ้งเต็มที่   ก็จะไม่ให้บูดได้ยังไงกัน   ก็ตอนนี้ตัวเองต้องมาอยู่ในร่างของผู้หญิงที่ไม่ค่อยจะชอบสักเท่าไร   ข้างกายคือเพื่อนซี้ทั้งคู่   คิลยังคงมีสีหน้าที่เบิกบานอยู่เช่นเคย   ส่วนคาโลก็ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนไปนอกจากมุมปากถูกยกน้อยๆอย่างถ้าไม่สังเกตก็คงไม่เห็น   มีเพียงสาวน้อยที่มีใบหน้าหงิกงอเกือบหักซึ่งอยู่ในชุดกระโปรงยาวกรอมเท้าสีครีมตัวสวย   แต่เจ้าตัวกลับไม่ทำหน้าให้สวยเหมือนเสื้อผ้าเอาเสียเลย   ครี้ดหันมาเห็นเฟรินก่อนใครก็ผิวปากแซว่า

     

                    เฮ้ย   สวยว่ะ   นางฟ้าที่ไหนมาโปรดวะ

     

                    แค่นั้นสายตาเย็นชาก็ถูกตวัดส่งมาจากร่างสูงตาสีฟ้า   ทำให้คนพูดถึงกับเสียวสันหลังวาบแล้วส่งยิ้มแหยๆไปให้   ก่อนจะรีบเผ่นไปให้ไกลจากจุดเดิมเผื่อจะต้องกลายเป็นน้ำแข็งก่อนกินข้าว   เมื่อครี้ดจากไปแล้วคิลจึงได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะแยกตัวไปหาเรนอน   คนที่เขาไฝ่ใจหาอยู่ตลอดเวลาที่ขณะนี้กำลังเดินเก็บดอกไม้เพลินอยู่ทางด้านหนึ่ง   คาโลจึงพาเฟรินไปเดินเล่นเช่นกัน   ไกลออกจากกลุ่มเพื่อนมาทางธารน้ำเล็กๆ   ระดับน้ำไม่สูงนักสามารถมองเห็นก้อนกรวดหลายขนาดดั่งถูกวางไว้อย่างจงใจเพื่อความสวยงาม   ปลาตัวน้อยๆว่ายทวนน้ำขึ้นไปให้เห็นบ้าง   ธรรมชาติที่งดงามถึงจะทำให้หายอารมเสีย   แต่ก็ยังมีขุ่นมัวอยู่บ้าง   ร่างหนาของเจ้าชายคาโลนั่งอยู่เคียงข้างร่างบางของเฟริน   คาโลหันไปมองรอบข้างเมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเขา   จึงยิ้มกริ่มก่อนจะฉวยความหอมจากพวงแก้มนุ่มของคนข้างตัวเต็มที่   ก่อนจะพูดขึ้นว่า

     

                    ยังไม่หายโกรธอีกหรอ

     

                    นายนี่ทำอะไรน่ะ   เดี๋ยวใครก็เห็นเข้าหรอก   เฟรินหน้าแดงขึ้นมาทันที   ก่อนจะหันไปเฉ่งเอากับคนฉวยโอกาสที่มีโอกาสเป็นไม่ได้    แต่ก่อนที่ใครจะได้กล่าวอะไรออกไปอีก   เงาจากฝั่งตรงข้ามของธารน้ำก็ใกล้เข้ามาเรื่อย   ทำให้ทั้งคู่ต้องเงยหน้าขึ้นมองผู้มาเยือน   ที่แน่นอนว่าต้องไม่ใช่กลุ่มเพื่อนที่มาแอบมองเป็นประจำแน่   ชายชุดดำกว่า 5 คนยืนอย่างมุ่งร้ายตรงมาที่คนทั้งคู่   คาโลกับเฟรินต่างรีบยืนขึ้นรับผู้มาเยือน   ก่อนที่คาโลจะถามออกไป

     

                    พวกแกเป็นใคร   ต้องการอะไร

     

                    พวกเราเป็นใครไม่สำคัญ   ส่งศิรามายามาเดี๋ยวนี้

     

                    พวกเราไม่มีศิรามายา   ไปซะอย่ามายุ่งกับเรา

     

                    เมื่อขอดีๆไม่ให้ก็ต้องตาย

     

                    เท่านั้นชายชุดดำคนหนึ่งก็กระโจนเข้าใส่เฟรินที่เรียกผ่าปฐพีมาทันท่วงที   และรับดาบที่อีกฝ่ายฟาดลงมาอย่างแรงไว้ได้   ส่วนคาโลก็ต้องรับมือกับชายชุดดำที่กระโจนเข้ามาประชิดตัวเขา   เสียงต่อสู้ได้ยินไปไกล   เรียกให้บรรดาเพื่อนทั้งหลายที่เดินอยู่ทั่วทุ่งดอกไม้ต่างรับวิ่งเข้าช่วยเพื่อนทันที   โรเวนรับมือกับชายคนนึ่ง   ที่เมื่อเห็นว่ามีคนมาเพิ่มก็รีบลงมือทันที   ลูคัสกับลอเรนซ์ต่างก็ต้องรับมือกับชายชุดดำที่เหลือ   การต่อสู้ดำเนินไปได้พักหนึ่งและเพราะกระโปรงที่ไม่ค่อยชินนักของเฟรินทำให้เจ้าตัวเคลื่อนไหวไม่ถนัดนัก   เฟรินเหยียบเอาชายกระโปรงอย่างเต็มที่   ลื่นหงายหลังล้มลง   ชายชุดดำที่เป็นคู่ต่อสู้อยู่เห็นเป็นโอกาสที่ดี   จึงเงื้อดาบหมายลำคอขาวระหงของหญิงสาวตรงหน้า   ด้วยความเร็วดุจสายฟ้า   เฟรินตะลึงจนขยับดาบขึ้นรับไม่ทัน   เห็นเพียงเงาที่ฟาดลงมาที่เธอเท่านั้น  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×