ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอสตอนจ้าวมังกรเซฟารีน

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 49


                    ดวงจันทร์เสี้ยวส่องแสงจางๆลงมายังพื้นดินไม่ทำให้เห็นอะไรมากนัก   ร่างของใคร 2 คนหันหน้าคุยกันเบาๆ   แต่คนหนึ่งนั่งอย่างเคารพอีกคนอย่างสูงสุด   ดวงหน้าเงยมองผู้ที่ยืนตัวตรงใบหน้าก้มลงมาสบตาอีกฝ่าย   ผู้ที่แอบดูอยู่ไกลไม่อาจจะได้ยินที่คนทั้งคู่พูดคุยกันได้   แต่ความสนใจก็ยังไม่หมดไป   2 หนุ่มหัวหน้าป้อมอัศวินเฝ้ามองเพื่อนร่วมห้อง 1 และเพื่อนร่วมรุ่นสาวอีก 1 พูดคุยบางอย่างอยู่

                   

    เฟรินกับแองจี้คุยอะไรกันก็ไม่รู้นะ   คาโล

     

                    คาโลเงียบตามนิสัย   แต่สมองก็คิดอย่างหนัก   ด้วยสาวที่ยืนอยู่นั้นท่าทางผิดจากที่เคย   แล้วยังความเคารพที่อีกคนมีให้มากอย่างผิดสังเกตด้วย   เขายังคงแอบมองคนทั้งคู่อยู่อย่างนั้น   สักพักแองจี้ก็พยักหน้ารับคำก่อนจะทำความเคารพเฟรินอีกครั้งแล้วเดินจากไป   ทิ้งให้เฟรินยืนอยู่ที่นั่นเงยหน้ามองพระจันทร์เสี้ยว    ด้วยสีหน้าที่เขากับคิลไม่เคยเห็น   มือหนึ่งยกขึ้นไร้แผลเป็นใต้ตาตามนิสัยที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังใช้ความคิดกับเรื่องอะไรบางอย่างอยู่   ส่วนมืออีกข้างก็ยกมารองข้อศอกมือที่ไร้แผลเป็นอยู่   ท่าทางถอนหายใจอย่างไม่เคยเป็น   แทบจะทำให้เพื่อนทั้งคู่วิ่งออกจากที่ซ่อนไปถามสาเหตุเลยทีเดียว   แต่คาโลก็ตัดสินใจลากคิลกลับห้องไปอย่างเงียบๆ   คิลกันมาจะถามแต่มือของคาโลก็ปิดปากเขาทันพร้อมสายหน้า   ก่อนจะบุ่ยใบให้คิลตามเขาออกไป

     

     

     

                    คิลตามคาโลมาจนถึงห้องของพวกเขา   ซึ่งเมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงที่แล้วเขาจำต้องตื่นจากนิทราอันแสนสบายด้วยมือของคนเดินนำเสียนี่   เพราะก่อนหน้าที่คาโลจะมาปลุกคิล   คาโลเห็นเฟรินแอบออกจากห้องไปเงียบๆด้วยความเป็นห่วงสาวคนรัก   เขาจึงปลุกคิลไปด้วย   ซึ่งความเป็นห่วงนี้ก็เกิดจากเหตุการณ์เมื่อกลางวันที่ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บนั่นเอง   และเมื่อทั้งคู่ตามไปถึง   สิ่งที่เขาได้เห็นก็คือ   แองเจลีน่า   โรมานอฟ   และเมื่อเฟรินลงไปยินต่อหน้า   แองจี้ก็ทำความเคารพอย่างนบนอบ   และทั้งคู่ก็พูดคุยกันด้วยเสียงเบาๆ   แม้ในความเงียบยังไม่ได้ยินเสียงพูดนั่นเลย   เมื่อพวกเขาเดินกลับมาเจ้าชายน้ำแข็งก็เงียบมาตลอดทาง   เมื่อถึงห้องปิดประตูเรียบร้อย   คิลที่อดปากมานานก็รบเอ่ยปากด้วยความสงสัยว่า

     

                    แกให้ฉันกลับมาทำไมวะคาโล

     

                    ฉันยังไม่อยากให้เฟรินรู้ว่าเราเห็นพวกเธอ

     

                    แล้วแกคิดว่าพวกนั้นคุยอะไรกัน

     

                    ฉันคิดว่าพวกนั้นรู้อะไรบางอย่างจากเหตุการณ์เมื่อกลางวัน   แล้วก็คงพูดกันเรื่องนี้

     

                    ทำไมนายคิดอย่างนั้น

     

                    ท่าทางของพวกนั้น   นายไม่เห็นหรือไงคิล

     

                    อืม   ก็อาจเป็นได้นะ

     

                    แต่ยังไง   ก็อย่าเพิ่งให้เฟรินรู้แล้วกันว่าเราเห็นพวกเขา

     

                    ก็ได้

     

                    ดังนั้นเมื่อเฟรินกลับขึ้นห้องมา   ทั้งคู่จึงพร้อมใจกันแกล้งหลับแล้วมองดูเพื่อนกลับมานอนเครียดต่อไป   แต่เฟรินก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ใครฟังทั้งสิ้น

     

     

     

                    เช้าวันใหม่มาพร้อมกับอากาศที่ออกจะวิปริตไปสักเล็กน้อย  เมื่อเมฆฝนตั้งเค้ามาแต่ไกล   จนแสงอาทิตย์แทบจะผ่านกลุ่มเมฆลงมาไม่ได้   นักเรียนจากป้อมต่างๆยังคงต้องเร่งรีบกับการไปเข้าเรียน   และในวันนี้วิชาแรกก็เป็นวิชาประวัติศาสตร์เอเดน   ที่มีอาจารย์คนใหม่มาสอนแทนอาจารย์เจ้าชายชามัล ฟาโรเวล   เนื่องด้วยขณะนี้อาจารย์เจ้าชายต้องขึ้นปกครองบารามอสแทนไฮคิง   ที่สละราชให้ในระหว่างส่งครามเอเดน เดมอสนั่นเอง   ส่วนอาจารย์คนใหม่ก็โหดไม่แพ้กัน   และเช่นเคยเมื่อวิชานี้เป็นของป้อมอัศวินปี 3 เข้าเรียน   ทั้งหมดก็พร้อมใจกันเตรียมหลับในทันที   แต่สิ่งที่แปลกไปในวันนี้ก็คือ   เฟริน   เดอเบอโรว์ไม่ได้หลับ   แต่เหม่อลอยจนเหมือนหลับเลยทีเดียว   แล้วคนที่ทนไม่ได้ก็ยังคงเป็น   เองเจลีน่าอีกเช่นเคย   เพียงอาจารย์คนใหม่เผลอคทาประจำตัวของเธอก็มาปรากฏอยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว   และเพียงเวทย์ 2 3 คำ   ศีรษะของเฟรินก็เหมือนถูกใครตบอย่างแรง   และมันคงจะแรงเกินไปหน่อยจึงโขกกับโต๊ะเสียงดังสนั่นห้องเลยทีเดียว   ซึ่งเสียงนั้นก็เรียกให้ทุกคนที่ยังตื่นอยู่ให้หันมามองทางต้นเสียง   ที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะเสียที   รวมไปถึงอาจารย์ประจำวิชาคนใหม่ด้วย

     

                    เธอมีปัญหาอะไร   เฟริน   เดอเบอโรว์

     

                    ป่าวครับอาจารย์

     

                    ถ้าอย่างนั้น   ในฐานะที่เธอรบกวนการสอนของฉัน   ไหนเธอลองอธิบายซิว่า   หลังสิ้นสงครามแล้วโรมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง   แล้วสภาพเป็นยังไง

     

                    คำถามที่ทุกคนต้องตกใจ   เพราะมันยังไม่ถึงบทเรียนนี้แน่นอน   และกว่าจะถึงพวกเขาก็ต้องเรียนไปอีกหลายเดือนทีเดียว   ขนาดคาโลที่อ่านหนังสืออยู่ตลอด   ยังได้อ่านบทนี้ไปเพียงไม่เท่าไรเท่านั้น   แล้วคนที่ไม่เคยสนใจในวิชานี้เลยอย่างเฟรินจะตอบได้ไง   แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น

     

                    หลังสิ้นสงครามโรมันซึ่งเสียกษัตริย์ไปในระหว่างสงคราม   ก็มีการคัดเลือกกษัตริย์ใหม่   แต่กษัตริย์ใหม่นั้นใส่ใจแต่ตนเอง   จนละเลยบ้านเมืองทำให้ข้าวยากหมากแพง   ต่อมาราชินีเตือนสติโดยแกล้งปลอมพระองค์ทั้ง 2 เป็นสามัญชนเข้าไปอยู่กับชาวบ้าน   จึงทำให้คิงเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด

     

                    แต่ยังไม่ทันที่เฟรินจะเล่าอะไรต่อ   แองจี้ก็ทำเสียงสำลักเหมือนไม่ได้ตั้งใจขึ้นทันที   จนเฟรินหยุดเล่าแล้วหันไปมองชั่วแวบก่อนหันกลับมาพูดต่อ

     

                    จึงกลับใจมาดูแลบ้านเมืองดีขึ้น   จนเป็นเรื่องเล่าถึงความฉลาดของราชินีครับ

     

                    แล้วยังไงต่อ   ทำไมไม่เล่าต่อล่ะเฟริน

     

                    มันก็เลยเป็นตำนานรักด้วยไงครับ   โถ่อาจารย์เรื่องแบบนี้ผู้ชายหลายคนก็รู้ว่า   ถ้าองค์กษัตริย์ไม่รักราชินีแล้วล่ะก็   พามาลำบากแบบนั้นมีหวัง   ราชินีก็ราชินีเถอะน่า   หัวคงหลุดจากบ่าบ้างล่ะ   แล้วเฟรินก็ใช้ความลื่นของตัวเองเอาตัวรอดไปได้   อาจารย์จึงกลับไปสอนต่ออย่างเคย

     

                    แต่แค่ที่เฟรินเล่ามานั้นก็เหนือความคาดหมายของคนที่อยู่ในห้องมากแล้ว   หลังจากนั้นแม้แต่คาโลก็ยังคอยชำเลืองมองเจ้าตัวยุ่งอยู่หลายครั้ง   เฟรินจึงเลือกที่จะฟุบหลับไปเลยตลอดชั่วโมงนั้น   เมื่อเลิกเรียนแองจี้เป็นคนแรกที่เข้ามาหาเฟรินก่อนใครเพื่อน   แล้วถามด้วยเสียงดังเล็กน้อยเหมือนไม่ตั้งใจว่า

     

                    เฟริน   นายไปรู้เรื่องพวกนั้นได้ไงน่ะ

     

                    ก็ไม่มีไรหรอกแองจี้   ตอนที่เดินทางกับพ่อมาดัสน่ะ   ไปทางโรมด้วยแล้วคนแถวนั้นเคยเล่าให้ฟังก็เลยจำได้น่ะ

     

                    เท่านั้นก็ช่วยคลายข้อสงสัยในใจของใครต่อใครไปได้   ยกเว้นคาโลกับคิลที่ไปเห็นภาพเมื่อคืนกับตาตัวเอง   แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมา   เพียงเฝ้าดูเฟรินที่หลังจากนั้นก็กลับมาทำตัวร่าเริงเหมือนเคย   การกินที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง   และการกวนประสาทคนไปทั่วนั่นก็อีก   จวบจนตอนค่ำเฟรินกับแองจี้ก็นั่งทานข้างกันอยู่บนโต๊ะไม่ห่างกันนัก   ทั้งคู่กินมากกว่าปกติ   ซึ่งอันที่จริงเฟรินก็ไปคนกินเยอะอยู่แล้ว   แต่วันนี้กลับนั่งกินยั่งกับว่าจะไม่ได้กินอีกแล้วยังไงยังงั้น 

     

                    เฟริน   นายกินยังไม่พออีกหรือไง   นี่นายกินมา 5 จานแล้วนะ   ทำยังกับไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน   แองจี้เธอก็เหมือนกัน   วันนี้ทำไมกินเยอะขนาดนี้   เธอก็กินไป 3 จารแล้วนะ

     

                    ก็มันหิวนี่   เป็นคำตอบธรรมดาที่ไม่ธรรมดาจากแองจี้   แล้วทั้งคู่ก็ดันตอบพร้อมกันอีกด้วย   มันอะไรกันเนี่ย   คำถามในใจของทุกคนในป้อม   แล้วทั้งคู่ก็ทำท่าจะกลับไปตักอีกจานซะงั้น 

    มาทิด้าคนถามก็ถึงกับงง  แล้วถามออกไปด้วยใบหน้าที่ว่างงสุดๆ

     

                    นี่ยังจะกินกันอีกหรอเนี่ย   ไม่อิ่มกันบ้างหรือไง

     

                    ยัง   สั้นและได้ใจความ   แล้วทิ้งให้เพื่อนๆนั่งงงกันต่อไป

     

     

     

                    ตัวหนังสือบนหน้ากระดาษเรียงกันเป็นตับ   บอกถึงเรื่องราวต่างๆที่เป็นความรู้   ดึกมากแล้วแต่คาโลก็ยังไม่นอน   เพราะหนังสือตรงหน้ามีเรื่องที่เขากำลังสนใจอยู่พอดี   ประวัติศาสตร์ที่วันนี้เฟรินสามารถบรรยายได้ในชั้นเรียน   แล้วเขาก็อ่านเกือบจะจบอยู่แล้ว  เมื่อสัมผัสได้ถึงไอสังหารที่แผ่มาจากข้างนอกห้อง   ส่งตรงมาถึงจอมยุ่งประจำป้อมแล้วถ้าเขาไม่ได้ตื่นอยู่ก็คงสัมผัสมันไม่ได้แน่   เปลือกตาที่หลับพริ้มอย่างสบายลืมขึ้นทันที   ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วพบว่า

     

                    อ้าว   คาโลนายยังไม่นอนอีกหรอ...

     

                    ยัง   นายรู้สึกใช่ไหม   ใครจะทำร้ายนาย

     

                    คำถามตรงเป้าหมายอย่างไม่คิดจะอ้อมค้อมสักนิด   แต่เฟรินกลับทำหน้างงอย่างยิ่ง  ก่อนจะตอบออกไปว่า

     

                    ฉันจะรู้ไหม   นายก็เห็นฉันเคยมีเรื่องก่ะใครที่ไหน

     

                    แล้วไอ้ที่ส่งไอสังหารมาเนี่ยมันคืออะไร   เสียงคนที่น่าจะหลับไปแล้วดังขึ้นมา   เรียกให้อีก 2 คนที่อยู่ในห้องต้องหันไปมอง

     

                    ฉันนึกว่านายหลับไปแล้วซะอีกคิล   ตื่นอยู่หรอ   แต่เอาไว้ก่อนฉันอยากออกไปดูข้างนอกมากกว่า   ว่าแล้วเจ้าตัวก็คว้าผ่าปฐพีของตนเดินนำทุกคนออกจากห้องไป   ที่ระเบียงชั้น 3 นอกจากพวกเฟรินแล้ว   เหล่านางฟ้าทุกคนก็ออกมายืนดูอยู่ด้วย   ที่ชั้นล่าง 4 ผู้คุ้มกฎที่กำลังต่อสู้กับผู้มาเยือนทั้ง 4 คนอยู่อย่างดุเดือด   พวกเขามาในชุดดำสนิท   ฝีมือแปลกประหลาดแต่ทั้ง 4 ก็ยังคงรับมือได้   ไม่นาน 12 ผู้พิทักษ์ป้อม   3 ขุนพล  และ 2  เสนาธิการก็ปรากฏตัวขึ้นในหลายๆชั้น   3 นางฟ้าที่ไม่รู้ว่าเดินเข้ามาใกล้พวกเฟรินตั้งแต่เมื่อไร  

     

                    พวกนั้นเดินเข้ามาหาเราเองอย่างที่คิดไว้

     

                    ใช่ค่ะ   ฉันก็อยากรู้ว่าเป็นใคร   และเท่าที่ดูก็คงไม่ผิดจากที่เราคิดสักเท่าไร

     

                    อืม   อีกไม่นานพวกนั้นก็จะต้องถอยไป   ฝีมือยังไม่ได้ที่หรอกจะเอาชนะ 4 ผู้คุ้มกฎยังอีกไกล

     

                    เสียงแองจี้กับเฟรินตอบโต้กันไม่ดังนัก   แต่ก็ทำให้คิล  คาโล  กับ 2 นางฟ้าที่เหลือได้ยินชัด   แต่การต่อสู้ตรงหน้าก็น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง   จนไม่มีใครคิดจะพูดคุยกันต่อไป   โรเรียกพลังมาอยู่ที่มือทั้ง 2 ข้าง   ขนาดเท่าลูกฟุตบอลแล้วคว้างใส่คู่ต่อสู้   ชายชุดดำกระเด็นออกไปชนผนังป้อมแล้วทรุดตัวลง   กองอยู่ตรงนั้นอย่างขยับไม่ค่อยไหว   ไม่นานคู่อื่นๆก็จบลงตามการคาดการของเฟริน   ผู้บุกรุกต่างต้องช่วยพยุงกันออกไป  พร้อมกันถอยหนีเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องถูกจับสอบ   และก่อนที่ใครจะมาเรียกเฟรินก็เดินนำทุกคนกลับเข้าห้อง   แยกจากเหล่านางฟ้าตรงนั้นเอง

     

                    นายคาดไว้แล้วใช่ไหมเฟริน   คำถามจากเจ้าชายน้ำแข็ง

     

                    ฉันจะคาดได้ไงกัน   ถ้าเป็นนายก็ไม่แน่จริงป่ะคิล

     

                    แต่ฉันก็ว่านายกับแองจี้คาดการณ์เรื่องนี้เอาไว้แล้ว

     

                    คิดมากไปได้   คนอย่างฉันจะทำได้ไง   ถ้าเป็นพวกนายมันก็อีกเรื่อง   แล้วฉันก็คงไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงด้วย   ถ้าพลาดน่ะถึงตายเชียวนะโ ว้ย

     

                    กล่าวจบเฟรินก็ล้มตัวลงนอนในทันทีเพื่อตัดบทสนทนา   แล้วไอ้คนหลับง่ายก็หลับไปในเวลาไม่นาน   ทิ้งให้เพื่อนทั้ง 2 ต้องมานั่งคุยกันต่อไป

     

                    นายคิดว่าไงคาโล

     

                    แต่คาโลก็ไม่ได้ตอบอะไร   มีเพียงสีหน้าเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวยังคิดไม่ตก   และยังคิดไม่ออกว่าจะเอายังไงดี   หลังจากนั่งคิดอยู่นานจนคิลแทบจะละความพยายามที่จะรอคำตอบจากเจ้าชายน้ำแข็ง   เสียงที่คิดว่าคงไม่มีอีกก็ดังขึ้น

     

                    ยังไม่รู้แน่   แต่ที่รู้คือฝีมือพวกนั้นแปลกออกไปจากพวกเรานิดหน่อย   กับ 4 ผู้คุ้มกฎต้องใช้ฝีมือเต็มที่ถึงจะไล่พวกนั้นไปได้   ฝีมือก็คงไม่ธรรมดา

     

                    เออ   เรื่องนั้นน่ะรู้แล้ว   แต่ที่เฟรินมันรู้ล่ะคืออะไร

     

                    ไม่รู้   สั้นๆแต่ได้ใจความ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×