ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอสตอนจ้าวมังกรเซฟารีน

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 3 (ไม่มีชื่อตอนอีกเช่นกันค่ะ)

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ค. 49


                    แสงแดดอ่อนของยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างบานสูงเข้ามาปลุกให้เจ้าชายคนสำคัญแห่งคาโนวาลรู้สึกตัวตื่นขึ้นเช่นทุกเช้า   แต่วันนี้แปลกออกไป   เมื่อเตียงของเจ้าขี้เซาที่สุดไม่มีร่างของคนตื่นยากอยู่เลย   มีเพียงร่องรอยว่าผ่านการนอนมาแล้วอยู่เท่านั้น   ตั้งแต่เมื่อไรที่ร่างนั้นลุกออกไปโดยที่เขาไม่รู้ตัว   ทั้งที่คนอย่างคาโลจะมีความรู้สึกที่ไวมากอย่างยิ่ง  คิ้วเรียวได้รูปผิดผู้ชายของคาโล  วาเนบลีขมวดเข้าหากัน   ก่อนจะเหลือบไปที่อีกเตียงที่เจ้าตัวไม่มีทีท่าว่าจะตื่นแต่อย่างใด   ผ่านไปยังห้องน้ำเสียงอาบน้ำที่ควรจะมีก็ไม่มี   แล้วเฟรินหายไปไหนคำถามในใจผุดขึ้นมามากมาย   โดยไม่อาจหาคำตอบได้    ก็ไอ้คนต้นปัญหามันไม่อยู่แล้วเขาจะไปเอาคำตอบจากใครเนี่ย   ถ้าจะไปถามอีกคนที่อยู่ในห้องเดียวกันมันก็หลับอยู่เห็นๆ   ถามไปก็คงไม่ได้เรื่อง   เขาจึงเข้าห้องน้ำไปก่อน   แต่เพียงไม่นานก็ออกมาแต่งตัวเรียบร้อย   แล้วรบคว้าของออกจากห้องไป   แต่เหมือนนึกอะไรได้จึงเดินตรงไปที่คนที่หลับอยู่   อีกไม่กี่ก้าวจะถึงเตียงของคิลอยู่แล้ว

     
                  
    ฉันนึกว่านายจะลืมฉันซะแล้วซิ   คาโล   แล้วแกก็ไม่ต้องห่วงว่าเฟรินมันหนีด้วย   เมื่อ2ชั่วโมงก่อนมันออกไปกับแองจี้


                   
    แกรู้ได้ไงคิล


                   
    ก็ฉันเห็นน่ะซิ   ฉันตื่นขึ้นมาพอดี   เห็นเฟรินมันทำท่าย่องๆอยู่   จะทักแล้วล่ะแต่เห็นว่าแองจี้มารออยู่เลยไม่ได้ทักมัน


                   
    แล้วเฟรินไปไหน


                   
    คำถามสั้นๆๆที่ไม่เคยเปลี่ยนของเขา   ได้ใจความครบถ้วนดีแท้


                   
    ใครมันจะไปรู้วะ   ฉันไปอาบน้ำก่อนล่ะ   นายจะไปที่ห้องอาหารดราก้อนก่อนก็ได้   เฟรินอาจจะอยู่ที่นั้นแล้ว


                   
    คาโลพยักหน้าก่อนจะก้าวออกจากห้องไป   แต่ที่นั่นก็ไม่มีร่างของเฟรินอยู่   ไม่ว่าเขาจะมองหาสักเท่าไรก็ไม่เห็นแม้แต่เงา   ผ่านไปนานแต่คาโลก็ยังไม่ไปเลือกอาหาร   แต่ทำทีว่านั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงนั้นแต่คอยชำเลืองว่าเมื่อไรร่างที่เขาหามาตั้งแต่เช้าจะมาให้เห็นสักที   จนในที่สุดคิลก็เดินเข้ามาที่โรงอาหารพร้อมกับร่างที่เขามองหาอยู่   เมื่อทั้งคู่นั่งลงคาโลก็ยิงคำถามมาหาเฟรินทันที


                   
    นายไปไหนมาเฟริน


                   
    ไม่มีอะไรหรอกคาโล   แค่ออกไปดูท้องฟ้านิดหน่อยน่ะ


                   
    ไปกับใคร


                   
    จะไปกับใคร   ดึกขนาดนั้นจะมีใครตื่นอยู่หรือไง   ก็ไปคนเดียวน่ะซิ


                   
    คำตอบของเฟรินเรียกให้เพื่อนทั้ง 2 ต้องมองหน้ากัน  ด้วยไม่เข้าใจว่าทำไมเฟรินต้องปิดบัง   เรื่องที่ตนเองออกไปกับแองจี้ด้วย   ปรกติเฟรินไม่ใช่คนแบบนี้   ทั้งคู่มีความคิดว่าเฟรินต้องมีอะไรปิดบังอยู่แน่ๆ   แต่ก็ไม่ได้ถามถึงเฟรินจะปากเบาแค่ไหน   แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ตัวเองตั้งใจว่าจะไม่พูดก็ไม่เคยมีใครง้างปากไอ้คนปากเบาได้  


                   
    แล้วนี่นายกินข้าวหรือยังคาโล


                   
    ยัง   สั้นๆแต่ได้ใจความอีกเช่นเคย


             
    อะไรวะ   คิลบอกว่านายลงมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ   ทำไมยังไม่กินอีก


                   
    ก็เธอคิดว่าทำไมล่ะเฟริน   เสียงของคนที่มักจะมาปรากฏอยู่ข้างหลังเจ้าตัวยุ่งประจำป้อมอยู่เสมอ   โร   เซวาเรส   เจ้าขอทานกิติมศักดิ์เอ่ยดังขึ้น   ทำให้เจ้าตัวยุ่งได้แต่ถอนใจ   ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างไม่ชอบใจเท่าไรว่า


                   
    เมื่อไรนายจะมาปรากฏตัวแบบคนอื่นเขาบ้างวะ   โร   ชอบมาอยู่ข้างหลังเสียเรื่อยเลย


                   
    เอาน่า   ฉันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วนี่   ว่าแต่นายไม่อยากรู้แล้วหรอว่าทำไมคาโลถึงยังไม่กินข้าว   ทั้งๆที่ลงมาถึงโรงอาหารตั้งนานแล้วแบบนี้


                   
    ถ้านายอยากบอก   นายก็จะบอกโร   นายจะไม่รอให้ถามเลยล่ะ


                   
    แล้วตกลงอยากรู้รึเปล่าล่ะ


                   
    ถามได้อยากซิวะ   ไม่งั้นจะถามมันทำซากอะไร


                   
    อานะ   ก็แค่คาโลมัวแต่มองหาใครบางคนอยู่   ก็เลยยังไม่ได้กินก็แค่นั้น


                   
    คนถูกพูดถึงหน้าแดงระเรื่อ   ก่อนจะงัดเอาหน้าประจำของตัวเองมาใช้  ใบหน้าเฉยสนิทที่ทุกคนเริ่มรู้ว่ามันไม่ได้เฉยตามหน้าแน่นอน   แล้วมันจะบ้างัดมาใช้ทำไมก็ไม่รู้   ทุกคนที่เห็นต่างก็คิดเหมือนกัน   ส่วนอีกคนก็ไม่มีทีท่าเลยว่าจะรู้เรื่องอะไรกับใครๆเขา   พูดโพล่งออกมาว่า


                   
    แล้วนายรอใครล่ะ   คาโล


             
    แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมานอกจากเจ้าตัวจะปิดหนังสือที่ทำเป็นอ่านลงเสียงดัง   และเดินออกจากโต๊ะไปรับอาหารทันที   ทำให้ 2 คนที่มาใหม่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินไปเช่นเดียวกัน   ทิ้งให้โรนั่งเฝ้าโต๊ะ   ด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้มที่ตามมาด้วยเสียงหัวเราะที่กั้นไม่อยู่

     


                   
    วันนี้วิชาแรกเป็นวิชาฟันดาบของลาเวน   ซึ่งต้องออกไปเรียนข้างนอกพร้อมกับพวกป้อมแผ่นดินประชาชน   เฟรินชอบวิชานี้ที่สุดเพราะไม่จำเป็นต้องทำอะไรที่ไม่ถนัด   ทุดคนถูกสั่งให้จับคู่กันซ้อมฟันดาบ   ซึ่งเฟรินก็ทำได้ดีจึงต้องจับคู่กับคนที่ชนะจากคู่อื่นๆต่อไป   ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น    เมื่อมีเสียงแหวกอากาศของอะไรบางอย่างตรงเข้ามา   เฟรินหันกลับไปมอง   เมื่อเห็นว่าเป็นอะไรและรู้ว่ามันตรงเข้ามาหาตัวเอง   ร่างกายขยับจะหลบโดยอัตโนมัติแต่ไม่ทันเสียแล้ว   แต่จากการเบี่ยงตัวลูกธนูจึงถูกบริเวณต้นแขนของเธอ  


                   
    ฉึก
    !!!   เสียงของมีคมแทงโดนเนื้อเสียงดัง   และทุกคนก็หันไปมองผู้เคราะห์ร้ายที่โดนธนูนั้นเข้า   ร่างบางของเฟรินค่อยๆล้มลง   คาโลที่ยืนไม่ห่างนักรีบยื่นมือออกรับก่อนที่ร่างนั้นจะล้มฟาดพื้นลงไปทัน   คิลผู้ได้ชื่อว่านักฆ่าเมื่อเห็นว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว   ด้วยความไวที่มีจึงตรงดิ่งไปยังจุดที่คาดว่าธนูนั้นถูกปล่อยออกมา   แต่เมื่อไปถึง  ไม่มีใครอยู่ที่นั่นอีกแล้วและไม่มีร่อยรอยใดปรากฏอยู่เลย   สร้างความงุนงงให้กับคนเป็นนักฆ่าอย่างยิ่ง   และเมื่อกลับมาร่างของเพื่อนรักทั้งคู่ก็หายไปแล้ว


                   
    เฟรินกับคาโลไปไหนครับเรนอน


             
    คาโลพาเฟรินไปห้องพยาบาลค่ะ   อาจารย์ลาเวนก็ตามไปด้วยค่ะ


                   
    งั้นเดี๋ยวผมขอไปดูเฟรินก่อนนะ


                   
    ทุกคนจึงตามไปด้วย   โดยชั่วโมงนั้นมีเพียงนักเรียนจากป้อมแผ่นดินประชาชนเท่านั้นที่ซ้อมกันต่อไปตามคำสั่งผู้เป็นอาจารย์   พวกปี 3 ป้อมอัศวินมาออกันเต็มหน้าห้องพยาบาล   แต่เสียงที่ดังออกมาข้างหน้าก็ทำให้ผู้หญิงที่สติอ่อนอย่างเรนอนต้องหน้าซีด  เมื่อคนได้รับบาดเจ็บเล่นแหกปากอย่างกับหมาถูกเชือดดั่งออกนอกห้องพยาบาล   ซึ่งถ้าคิลไม่รู้ก่อนว่าห้องนี้คือห้องพยาบาล   เขาคงได้คิดว่าเป็นโรงฆ่าสัตว์ไปแล้วเป็นแน่   แล้วสัตว์ตัวนั้นก็ไม่ใช่ใครเพื่อนเขาเอง   ส่วนอีกคนที่ไม่น่าจะหน้าซีดเลย   ตอนนี้กลับซีดหนักอย่างยิ่ง   แองเจลีน่า   โรมานอฟ  


                   
    นายจะแหกปากทำไมเฟริน   ไม่ได้เจ็บอะไรซะหน่อย

            
    เสียงที่ดังขึ้นด้วยความรำคาญจากเจ้าชายที่เป็นห่วงจัด   จนไม่ยอมออกมารอกับพวกเพื่อน   แต่เมื่อคนที่เขาเป็นห่วงนั้นเล่นร้องอย่างกับจะถูกเชือดเขาก็เลยทนไม่ไหวขึ้นมา


              “
    ไอ้บ้า   แกก็ลองมาโดนเองบ้างดิ   จะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง   แกไม่ได้โดนเองนี่หว่าทำมาพูด


                     เสียงสวนอย่างไม่ยอมแพ้ดังมาจากคนเจ็บ   พี่พวกเพื่อนๆได้แต่ส่ายหน้า   แต่แน่ใจได้ว่าไอ้คนเจ็บมันไม่ได้เป็นอะไรมาก   ไม่อย่างนั้นมันคงไม่มีแรงแหกปากได้ขนาดนี้


               “
    เอ้าเสร็จแล้วจ้ะ   ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม


                      เฟรินรับคำก่อนจะเดินออกจากห้องพยาบาลมาหาเพื่อนๆที่รออยู่ข้างหน้า   เมื่อออกมาแล้วเสียงถามอาการก็ดังไปทั่ว   อย่างตอบไม่ทันเลยทีเดียว   แต่ก่อนที่เฟรินจะตัดบทอะไรออกไป   ลาเวนก็คุกเข่าลงตางหน้า   พร้อมก้มหน้าลง


               “
    กระหม่อมเสียใจ   ทั้งที่กระหม่อมก็อยู่ด้วยแต่องค์หญิงก็ยังได้รับบาดเจ็บ   กระหม่อมเป็นราชองครักษ์   แต่กลับปกป้องพระองค์ไม่ได้


               “
    มันไม่ใช่ความผิดของอาจารย์หรอกฮะ   ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้   ช่างมันเถอะฮะ"


                      คนที่มีแต่ความกะล่อนไม่มีใครคิดว่าจะกล่าวอะไรเช่นนี้ได้   ทุกคนจึงอึ้งๆกันไป   เฟรินจึงพยุงให้ลาเวนลุกขึ้นยืน    ไม่นานพวกผู้คุ้มกฎกับเสธฯทั้ง 2 ก็มาถึง


               “
    มันเกิดอะไรขึ้นเฟริน   มันมีเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน


               “
    ผมก็ไม่รู้ฮะพี่


               “
    แล้วจับคนร้ายได้หรือเปล่า   เฟรี่


              “
    ผมไปดูแล้วครับพี่ลูคัส   แต่ไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลย   ไม่มีร่องรอยอะไรเลยด้วยฮะ   น่าแปลกจริงๆ


               “
    เป็นไปได้ยังไงคิลลี่   จะไม่มีร่องรอยอะไรได้ยังไง


               “
    แล้วจะเอายังไงกัน   ไม่รู้ไอ้คนลงมือมันจะลงมือที่เฟรินอีกหรือเปล่า   หรือจะมุ่งไปที่นักเรียนคนอื่นก็ไม่รู้นะเนี่ย


                 “
    งั้นเราคงต้องให้นักเรียนทุกคนระวังตัวแล้วล่ะ   แจ้งหัวหน้าป้อมทุกป้อมให้บอกคนในป้อมด้วยดีกว่า


                “
    มันจะไม่เป็นเรื่องใหญ่หรอครับพี่   คนที่เงียบมานานเอ่ยขึ้น


                “
    ไม่หรอกคาโล   อย่างน้อยทุกคนจะได้ระวังตัวกันไว้   แล้วพี่ก็ขอบอกให้ทุกคนระวังตัวไว้ด้วย   เพราะเราไม่รู้เลยว่าคนลงมือมันพุ่งเป้าที่ใครเป็นพิเศษหรือเปล่า


                          แล้วพวกรุ่นพี่ก็จากไป   ทิ้งให้คนถูกลุมกลายเป็นคิลไปเสียแล้ว


                 “
    จริงหรอคิล   ที่นายไม่ได้ร่องรอยอะไรเลยน่ะ


                 “
    จริง   คาโลฉันไม่ได้กลิ่นแม้แต่เวทย์มนต์อะไรเลยนะ
               

    ในระหว่างที่ทุกคนกำลังถามกันไปมานั้น   มีเพียง 2 คนที่ไม่ได้เข้าร่วมด้วย   แต่มองตากันนิ่งอยู่เช่นนั้น   แองเจลีน่ากับเฟริน   ซึ่งไม่มีคำพูดใดหลุดมาจากปากของคนทั้งคู่เลย

    ในระหว่างที่ทุกคนกำลังถามกันไปมานั้น   มีเพียง 2 คนที่ไม่ได้เข้าร่วมด้วย   แต่มองตากันนิ่งอยู่เช่นนั้น   แองเจลีน่ากับเฟริน   ซึ่งไม่มีคำพูดใดหลุดมาจากปากของคนทั้งคู่เลย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×