ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอสตอนจ้าวมังกรเซฟารีน

    ลำดับตอนที่ #2 : กลับสู่เอดินเบิร์ก

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 49


                เสียงอึกทึกครึกโครมของคนกว่า 18 คนที่เข้ามาพักรวมกันภายในโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่งไม่ห่างจากโรงเรียนพระราชามากนัก   นักเรียนปี 3 ป้อมอัศวินมาใช้โรงแรมแห่งนี้เป็นที่พักก่อนวันเปิดเรียน   ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาจะมาถึงเอดินเบิร์กได้ทันเวลาเปิดเรียน   เพราะในระหว่างเดินทางกลับนั้น   แต่ละคนก็มีความประสงค์จะแวะเที่ยวที่นั่นที่นี่อยู่ตลอดเวลา   แล้วแกนนำในการเที่ยวนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น   เจ้าหญิง 2 แผ่นดินนางฟ้าคนที่ 4 ที่เพิ่งจะมาปรากฏว่ามีอยู่ในป้อมอัศวิน   หลังสงครามเอเดน เดมอส   ท่านหัวหน้าป้อมคนหนึ่งที่มีความกะล่อนอย่างเหลือหลายทีเดียว    เฟริน   เดอเบอโรว์   หรือเจ้าหญิงเฟลิโอน่า   เกรเดเวล   โดยมีท่านหัวหน้าป้อมเจ้าของฉายานักฆ่าแห่งซาเรส   ผู้รักสนุกในทุกสถานการณ์คอยผสมโรงอยู่ด้วย   คอยรับลูกแวะเที่ยวที่โน่นที่นี่อยู่เป็นประจำ   ส่วนหัวหน้าป้อมคนสุดท้ายที่มีความเป็นผู้นำมากที่สุดในป้อม   แต่กับเจ้าหญิงจอมกะล่อนแล้ว   เข้าไปอาจทำหน้าที่อยู่ได้เลย   ทั้งที่กับใครๆเข้าคือเจ้าชายน้ำแข็งผู้มีความเย็นชาอย่างยิ่ง   จนได้รับฉายาใหม่จากเจ้าหญิงคนสำคัญว่าเจ้าชายก้อนน้ำแข็ง   และคงมีแต่เจ้าหญิงเท่านั้นที่ทำหน้าที่ละลายน้ำแข็งได้อยู่เรื่อยๆ


                   
    เสียงที่ดังอยู่ภายในห้องอาหารของโรงแรมขณะนี้ไม่มีใครดังเกินไปกว่าเจ้าหญิงคนสำคัญไปได้   เฟรินเสียงดังนำกว่าใครๆ   โดยมีคนที่ไม่มีเสียงเลยคือเจ้าชายคนสำคัญเจ้าชายคาโลวาเนบลี   เหมือนทั้งคู่จะยกหน้าที่ถนัดให้กับอีกคนผโดยไม่ต้องนัดหมาย   เมื่อเฟรินเป็นบุคคลที่พูดมากที่สุด  คาโลก็เลือกที่จะเงียบเสียงปล่อยให้อีกฝ่ายทำหน้าที่พูดแทนตนเองเสร็จสับ


                   
    เฮ้ย เดี๋ยวกินเสร็จแล้ว   ออกไปเที่ยวข้างยอกกันดีกว่านะพวกเรา


                   
    ไม่ได้เฟริน   วันนี้นายต้องนอนแต่หัวค่ำ   พรุ่งนี้เราต้องไปซื้อหนังสือเรียนสำหรับปีนี้   แล้วถ้านายไม่ตื่นล่ะก็น่าดู


                   
    เสียงห้ามขัดความต้องการเป็นของมาทิลด้า   นางฟ้าที่มีลักษณะผู้นำและเป็นผู้พาผองเพื่อนมาทันการเปิดเรียนอย่างไม่น่าเชื่อ   สายตาของมาทิลด้าที่มองตรงไปยังเฟรินมีประกายบังคับอยู่ในตัว  และมีความหมายว่ามันจะไม่มีทางเปลี่ยนจากที่เธอบอกไปได้   ซึ่งทุกคนในที่นั้นต้องทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข   ที่จริงน่าที่นี้ควรเป็นของหัวหน้าป้อมคนใดคนหนึ่ง   แต่เมื่อเธอหันไปมองหน้าท่านหัวหน้าป้อมทั้ง 3 แล้วก็ได้แต่สายหน้า   ก่อนจะหันมาสำทับอีกครั้งว่า


                   
    ห้ามไปเที่ยวไหนทั้งนั้นนะ   เฟริน   คืนนี้จะมีใครไปเที่ยวไหนไม่ได้ทั้งนั้น


                   
    คำสั่งที่มาพร้อมกำประกายตาดุดัน   ทำให้พวกผู้ชายต่างหวาดกลัวกันทั้งสิ้นว่า   หากพวกตนไม่ทำตามคงต้องเกิดเรื่องเป็นแน่   แต่แม้กระนั้น   เฟรินก็ยังไม่อาจอดปากไว้ได้


                   
    ไม่ไปก็ไม่ไปซิ   ทำอย่างกับเป็นแม่ไปได้


                   
    เสียงที่เจ้าตัวพยายามให้เบาแล้วแต่ก็ยังไม่วายได้ยินไปถึงหูคนถูกพูดถึง   จนเจ้าตัวต้องหันกลับมามองคนพูดด้วยแววตาวาวโรจน์   ก่อความสยดสยองให้กับทุกคนที่เห็น   ไม่เว้นแม้แต่เฟริน   ทุกคนจึงทำได้เพียงแยกย้ายกันไปเข้านอนอย่างรีบด่วน   ก่อนที่จะมีสิ่งของอะไรถูกปามาที่หัวใครคนใดคนหนึ่งขึ้น

     

                    แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามายังเตียงของเจ้าชายคาโล   ปลุกให้เขาตื่นจากนิทราเป็นปกติ   หลังจากลืมตาตื่นสิ่งที่ทำเป็นประจำก็คือการมองไปยังอีก 2 เตียง   เตียงแรกนักฆ่าแห่งซาเรสยังนอนอยู่อย่างสุขสบาย   ส่วนอีกเตียงที่เป็นของหัวขโมยผู้ซึ่งกลายเป็นเจ้าหญิงนี่ซิ   เจ้าของเตียงหายไปเสียแล้ว   เพียงเท่านี้เจ้าชายคนสำคัญก็เย็นวาบตลอดแนวสันหลัง   ด้วยความกลัวว่าเจ้าตัวดีจะหนีไปอีกครั้ง   ไวเท่าความคิดร่างสูงสะบัดตัวลงจากเตียงด้วยความรวดเร็ว   ใจโรจน์ริ่วไปถึงที่เตียงนั้นก่อนตัวจะไปถึงเสียอีก  แต่เมื่อไปถึงสถาพของเตียงบ่งบอกว่าเจ้าของเพิ่งจะลุกจากไปไม่นาน   ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดจากด้านหลังของเขา   ร่างบางของคนที่ทำให้เขาตกใจเดินออกมาในสภาพของคนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ   เพียงเท่านี้เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก   ก่อนจะหันไปถามเจ้าตัวต้นเรื่องว่า


                   
    ทำไมวันนี้นายตื่นเช้าได้เฟริน   ทุกทีนายเป็นต้องตื่นเป็นคนสุดท้ายนี่น่า


                   
    ไม่มีอะไรหรอก   พอดีเมื่อกี้ปวดท้องเลยมาเข้าห้องน้ำ   เห็นเช้าแล้วเลยอาบน้ำมันซะเลย   นายมาอายน้ำซิคาโล   เดี๋ยวฉันปลุกคิลให้เอง


                   
    คาโลทำเพียงแค่พยักหน้ารับ   ก่อนจะเดินสวนคนร่างเล็กเข้าห้องน้ำ   แต่เมื่อมาถึงตัวเฟริน   เจ้าชายคนสำคัญก็ทำอย่างที่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะทำนั่นก็คือ   คว้าตัวร่างบางมาแนบอก   ก่อนจะเชยคางมนขึ้นมาเผชิญหน้ากัน   เจ้าของร่างจะเอ่ยปากประท้วงแต่นั่นเท่ากับเปิดโอกาสให้กับอีกฝ่าย   ฉกริมฝีปากร้อนรุ่มลงมายังริมปีปากบางของอีกฝ่าย   จากแผ่วเบาเริ่มร้อนแรงเรียกร้อง   วินาทีแรกร่างบางดิ้นด้วยความตกใจ   แต่เขาก็ไม่สนจนเวลาผ่านไปร่างนั้นก็ค่อยสงบลงและยอมรับจุมพิตของเขา   ยิ่งทำให้ร่างสูงได้ใจเข้าไปใหญ่   ทั้งคู่ลืมเวลาไปจนได้ยินเสียงกระแอมจากอีกคนหนึ่งที่พักอยู่ในห้องเดียวกัน


                   
    ฮะแอ้ม   เกรงใจกันหน่อยนะเพื่อน   ไม่ได้อยู่กันแค่ 2 คนนะโว้ย   สงสารกันบ้างซิ


                   
    คนต้นเรื่องทั้งคู่ได้แต่หน้าแดงอย่างไม่อาจจะตอบอะไรได้   ก่อนที่เจ้าชายคาโลจะสงบสติอารมได้ก่อน   แล้วสวนกลับไปว่า


                   
    แล้วนายจะรีบตื่นทำไมล่ะ   น่าจะนอนต่ออีกหน่อย   หรือจะเลี่ยงเข้าห้องน้ำก็ได้


                   
    โห   เอางั้นเลย   แต่ไม่ล่ะนี่ดีว่าเป็นฉันนะ   ถ้าเป็นไอ้พวกนั้นไม่รู้จะว่ายังไง


                   
    กล่าวจบร่างของคิลก็วิ่งแวบเข้าห้องน้ำไปในทันที   ทิ้งให้คาโลต้องมานั่งรอทั้งที่ตื่นก่อนอีกฝ่ายนึง   เมื่อคิลออกมาจากห้องน้ำแล้ว   คาโลก็เดินสวนเข้าไปอาบน้ำบ้าง   ในเวลาเดียวกันเฟรินก็แต่งตัวเสร็จในเสื้อผ้าของเด็กผู้ชายเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน  

     

     
                  
    กลุ่มเด็กปี 3 ป้อมอัศวินเดินรวมกันมาตามถนนตรงสู่ร้านขายหนังสือแห่งเดียวในเอดินเบิร์ก  เสียงพูดคุยจอแจมาตลอดทางเรียกสายตาของใครหลายคนให้เหลียวมามอง   คนที่หันมองตามกลุ่มนักเรียนนั้นมีทั้งชายและหญิง  ซึ่งแน่นอนว่าผู้ชายทั้งหนุ่มและแก่เมื่อมองคนกลุ่มนี้สิ่งที่สนใจก็คือ   นางฟ้าทั้ง 4 นั่งเอง   นั่นทำให้ผู้เป็นเจ้าของ 1 ใน 4  นางฟ้าต้องออกมาแสดงตัวอย่างเปิดเผย   เรียกให้อากาศรอบด้านเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ   และนั่นก็เป็นสัญญาณเตือนทุกคนแล้วว่า   ต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่เจ้าชายคนสำคัญจะทำให้หิมะตกก่อนถึงฤดู   พวกนักเรียนชายจึงรีบเข้ามาล้อมบุคคลทั้ง 2 ให้มาอยู่ตรงกลาง   เพื่อบังสายตาของใครต่อใคร   แต่ตัวเจ้าชายคนสำคัญก็ไม่ได้ดูตัวเองเลยว่า   ตนเรียกสายตาสาวๆมากมายเพียงใด   และในเพศที่น่ากลัวที่สุดในเรื่องความรักคงไม่มีใครเกินเพศหญิง   ที่จะมีความพยายามอย่างเหลือล้น


                   
    กว่าที่ทุกคนจะมาถึงร้านขายหนังสือก็หวิดจะต้องแข็งตายเสียหลายครั้ง   แต่เมื่อมาถึงแทนที่จะได้ซื้อหนังสืออย่างสบายใจ   พวกเขากลับต้องมาเจอคนขายอารมเสีย   ที่ในเวลานี้ต่อให้ใครมาบอกบุญนอกจากเจ้าตัวจะปฏิเสธแล้วไอ้เจ้าคนบอกก็คงจะถูกด่ากลับไปด้วยเป็นแน่   ทั้งกลุ่มจึงพร้อมใจกันส่งใบรายการให้คนขายแล้วรีบจรรีออกจากร้านไปยังร้านขายคทาเป็นร้านต่อไป   ซึ่งปีนี้ต้องยอมรับว่าดีไม่น้อยที่เฟรินไม่ต้องเจอเรื่องตื่นเต้นเช่น 2 ปีแรก   ที่ตอนแรกคทาทั้งร้านก็ส่องแสงไปทั่ว   ก่อนจะดับสงบนิ่งเมื่อคนข้างตัวของเขาก้าวเข้ามาในร้าน   ที่จริงเฟรินไม่จำเป็นต้องซื้อคทาใหม่   เพราะราชินีจันทราทรงมอบคทามุกดาให้กับเฟริน   โดยฝากมากับโกโดมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   แต่เฟรินก็รู้สึกว่ามันไม่เหมาะนักที่เธอจะใช้คทาวิเศษนั้น   เธอจึงมองไปทั่วๆร้าน   โดยไม่ได้เจาะจงคทาแบบใดเป็นพิเศษ   โดยแยกจากคาโลออกมาเพียงลำพัง   เพราะเขากำลังสนใจคทาหิมะอันหนึ่งอยู่   เฟรินจึงเดินเลือกคทาออกมาตามลำพัง


                   
    ลึกเข้ามาในร้านเรื่อยๆ   ผู้คนเริ่มบางตาแต่ก็ยังคงมีมากอยู่   คทาอันหนึ่งวางไว้สะดุดตาเฟรินเป็นอย่างมาก   และดูเหมือนมันจะเรียกร้องให้เฟรินเลือกมันไว้ใช้   เฟรินเดินเข้าไปหยุดยืนดูอยู่ข้างหน้ามัน  ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ามากะจะดูใกล้ๆ   แต่มือของใครอีกคนก็มาซ้อนทับมือของเธอพอดี   เฟรินมองไล่ตามมือนั้นขึ้นไปมองเจ้าของ   และได้เห็นบุรุษรูปงาม   เขาเองก็หันมามองเธอเช่นกันและเมื่อได้มองเห็นเจ้าของมือที่ตนเผอิญไปจับเข้าอย่างไม่ตั้งใจ   ก็ต้องตกตะลึงกับความงามของหญิงสาว   จนอึ้งไปหลายนาทีกว่าที่จะรู้สึกตัวกล่าวขอโทษขึ้น


                   
    ขอโทษครับ   ผมไม่ได้ตั้งใจ


                   
    ไม่เป็นไรฮะ


                   
    เออ...  ผมทอม  เซลเลเน่  เดอะพรีท  ออฟ   ลิบรา  คุณชื่ออะไรครับ


                   
    ผม   เฟริน    เดอเบอโรว์   เดอะทีฟ   ออฟบารามอสฮะ


                   
    ไม่ใช่   เธอคือ   เฟลิโอน่า   เกรเดเวล   เดอะปรินเซส ออฟ   บารามอสและเดมอส   คู่หมั้นของฉัน


                   
    เสียงจากเจ้าชายคนสำคัญที่เฟรินไม่รู้ว่ามายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไร   และยิ่งไม่รู้ว่าตัวเองไปตกลงหมั้นกับมันตั้งแต่ตอนไหน   แต่จากสายตาที่เขาหันมาเห็นนั้น   เฟรินบอกได้เลยว่าหากตนเองปฏิเสธว่าไม่ใช่คงเกิดเรื่องแน่   จึงได้แต่เงียบเสียงไว้   คาโลจึงตรงเข้ามาลากเอาสาวที่เขาประกาศว่าคือคู่หมั้นของตนออกจากที่นั่นทันที   แต่มีหรือจะไม่มีเสียงโวยวายจากเฟริน


                   
    เดี๋ยวเฮ้ยเดี๋ยว   ฉันยังไม่ได้ซื้อคทาเลย   เดี๋ยวดิ


                   
    และโดยไม่ต้องรอคำตอบอีกต่อไป   คาโลโยนคทาที่เขาซื้อมาใหม่ 1 ใน 2 อันให้กับเฟรินทันที


                   
    ฉันซื้อมาให้แกแล้ว   ไปได้แล้วเราต้องไปซื้อเสื้อผ้าของแกอีก


                   
    เฟรินถึงกับอึ้งไป   และไม่ต้องแกะออกเขาก็รู้คทานั้นต้องอย่างดี   ไม่อย่างนั้นคาโลคงไม่ซื้อมาให้เขา   แต่ยังไม่ทันที่เฟรินจะคิดอะไรต่อ   เขาก็ถูกลากออกไปพ้นร้านภายใต้สายตาของพวกเพื่อนๆทุกคน   และเมื่อพ้นร้านออกมาไกลพอควรเสียงของคาโลก็ดังขึ้น


                   
    นายไปยุ่งอะไรกับผู้ชายคนนั้นเฟริน


                   
    ฉันเปล่ายุ่งนะ   แค่เผอิญเราเลือกคทาอันเดียวกันเท่านั้น   ไม่มีไรหรอกน่า


                   
    นายน่ะไม่มีอะไร   แต่ไอ้คนนั้นมันไม่คิดอย่างนั้นนี่



                   
    เขาจะคิดยังไงก็ช่างเขาซิ   มาเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ


                   
    พูดจบเฟรินก็หันหลังเดินจากไปร้านตัดเสื้อที่เวลานี้ไอ้เจ้าโกโดมคงไปรออยู่แล้ว   ด้วยเวทย์หายตัวของมันเอง   ที่จะต้องหายตัวไปรอข้างหน้ามากกว่าจะมาเกาะติดเฟรินอยู่ตลอดเวลา

     


                   
    ธงประจำแต่ล่ะปราสาทโบกสะบัดเห็นได้ชัดเจน   เฟรินวันนี้ก็ถูกปลุกโดยฝีมือของคาโลอีกเช่นเคย   ทั้งหมดมาถึงก่อนเวลาที่จะแบ่งปราสาทของเด็กปี  1  เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น   จึงไม่มีเวลาไปเก็บของของตัวเองที่ห้องก่อน   และเฟรินก็ได้รู้ว่าเจ้าโกโดมได้ใช้เวทย์เตรียมห้องให้มันต่างหากห้องนึง   แต่ดูเหมือนเจ้าของห้องจะไม่ต้องการพักในห้องนั้นเพียงคนเดียว   จึงยังพักรวมกับเพื่อนชี้ทั้ง 2 ต่อไป   แล้วเอาห้องนั้นเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า  และให้โกโดมเข้าพักเพียงลำพังไป   และในเมื่อทานจ้าวเอวิเดสไม่อยู่เสียคน   โกโดมจะทำอะไรได้นอกจากทำตามพระประสงค์ของเจ้าหญิงของเขาเท่านั้น

     
                  
    เสียงระฆังบอกเวลาเปิดประตูก็มาถึง   นักเรียนแต่ละคนถูกเรียกออกมาก่อนจะได้รับประกาศว่าตนเองต้องไปอยู่ป้อมไหนกันแน่


                   
    เจ้าหญิง   ครีอา   โคโรเน่   เดอะปรินเซส   ออฟ   แกรนด์ไลน์ -  ปราสาทขุนนาง


                   
    นักเรียนคนแรกของชั้นปีถูกเรียกออกมาเป็นที่รู้จัก   และตามมาด้วยเสียงยินดีของคนจากปราสาทขุนนาง   จากนั้นแต่ละปราสาทก็ได้แสดงความยินดีของตนออกมาบ้าง


                   
    ทอม   เซลเลเน่   เดอะพรีท   ออฟ   ลิบรา - ป้อมอัศวิน


                   
    เสียงประกาศนี้สร้างความดีใจให้กับทุกคนในป้อมอัศวินสำหรับน้องใหม่ปีนี้อีกคน   แต่ไม่ได้รวมคาโลเจ้าชายมาดน้ำแข็งเอาไว้ด้วย   และไม่ทันที่เฟรินจะได้คิดอะไร   ร่างของเธอก็ถูกลากออกจากงานนั้นกลับไปที่ป้อมทันที


                   
    เฮ้ย   อะไรวะคาโล   จะไปไหนน้องยังแยกปราสาทไม่เสร็จเลยนะ


                   
    กลับไปจัดของ   ไม่ต้องอยู่แล้ว


                   
    โดยไม่ฟังเสียงโวยวายของอีกฝ่าย   เฟรินก็ถูกลากไปจนได้   คิลเห็นเพื่อนทั้ง 2 เดินกลับปราสาทไป   เขาจึงต้องวิ่งตามกลับไปด้วย   ด้วยสีหน้าแสดงความสงสัยและมันก็ปิดไม่มิด   เมื่อเขาเข้ามาใกล้ปากก็เลยถามทันทีว่า


                   
    เฮ้ย   จะไปไหนกันน่ะ   งานยังไม่เสร็จเลยนะเฟริน   คาโล


               
    กลับไปจัดของ   ถ้าแกอยากอยู่ร่วมก็กลับไปอยู่ต่อซิคิล   แต่ฉันจะกลับแล้ว


                   
    เฮ้ยแล้วฉันไปเกี่ยวอะไรด้วยวะ   คาโล


                   
    แกต้องกลับกับฉันเฟริน


                   
    คิลหยุดวิ่งตาม   และได้พบว่าตัวเองยืนห่างออกมาจากบริเวณหน้าโรงเรียนมาไกลทีเดียว   ภายในใจก็ได้แต่คิดว่า
    มันหึงอะไรของมันวะ   แต่เมื่อตัวเองยื่นห่างออกมาอย่างนี้   เขาจึงต้องเดินตามกลับไปด้วยอาการของคนที่ไม่เข้าใจอะไรนัก  ด้วยคนที่ไม่มีทางเลือกที่ดีไปกว่าตามพวกมันไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×