คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
กรุงเทพมหานคร เวลา 11.00 น.
เมืองแห่งความสับสนด้วยผู้คนและรถรา ท่ามกลางความเร่งรีบแม้จะใกล้เที่ยง คนจำนวนหนี่งได้นำตนเองไปอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยม หน้าจอสี่เหลี่ยม และเสียงอึกทึกเหมือนการต่อสู้ ภาพบนหน้าจอที่แต่ละคนให้ความสนใจแตกต่างกันไป ทุกคนให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ความเย็นของแอร์ไม่ได้ลดความร้อนแรงจากเกมส์ที่อยู่ตรงหน้าของแต่ละคนได้ เด็กสาวคนหนึ่งนั่งเล่นอย่างสบายๆ เกมส์เก่าที่หลายคนไม่ให้ความสนใจอีกแล้ว ภาพสีสดใสตัวละครอาชีพเวทมนตร์กำลังไล่ยิงมอนสเตอร์ตัวหนึ่งอยู่ สายตาเพ่งมองอย่างรอจังหวะ มือขยับอย่างรู้หน้าที่ รักษาเกมส์ให้ตัวเองยังเป็นผู้เล่นและอัพเลเวลของตัวเอง ไม่ช้าก็สามารถเอาชนะได้ พลังชีวิตลดไปเกือบหมดจำต้องนั่งพัก มือคีย์เพื่อดูเวลา
“สิบเอ็ดโมงกว่าแล้วหรอเนี่ย”
เด็กสาวบ่นออกมา ก่อนจะเหลือบดูเวลาในเกมส์ที่ไม่ห่างกันนัก แล้วหันกลับไปหาเพื่อนสาวอีกคนที่เล่นเกมส์เหมือนกันแล้วว่า
“วันนี้กินไรดี”
“เอาไว้ก่อน ยังมันอยู่ขอเล่นก่อน”
เพื่อนสาวตอบกลับตาและมือยังคงอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง กำลังไฟที่ใช้เป็นจำนวนมาก ไม่เคยก่อให้เกิดปัญหากับร้านเกมส์แต่อย่างใด แต่ในวันนี้เมื่ออีกไม่กี่นาทีเวลาเที่ยงวันจะมาถึง หลังจากเด็กสาวตรวจดูเวลาจากเกมส์อีกครั้งก็ต้องพบกับความแปลกใจ
“เอะ แปลกจัง”
“อะไรแปลกของเธอน่ะ”
เพื่อนสาวเอ่ยปากทักเมื่อได้ยินทันที เจ้าตัวจึงหันมาตอบว่า
“เธอลองเช็คเวลาเกมส์ดิ เวลามันไม่เคยตรงกันเลยนะ แต่วันนี้มันตรงกันเปะเลย แถมวิ่งวินาทีก็พร้อมกัน”
“จริงดิ ไหนๆขอดูหน่อยดิ”
ว่าแล้วเจ้าตัวก็เข้าเช็คเวลาจากเครื่องของตัวเองบ้าง
“จริงด้วย เฮ้ยแต่คงไม่มีอะไรหรอกน่า”
ยังไม่ทันที่ใครจะตอบอะไรได้ เวลาเที่ยงตรงก็มาเยือน พร้อมกับเสียงสปาร์กของกำลังไฟดังไปทั่ว ด้วยความตกใจของทุกคนต่างดันเก้าอี้ออกห่างจากโต๊ะคอมฯจนแทบจะชนกันเอง ต่างจ้องมองเครื่องคอมฯ แล้วหันมองกันเองเลิกลัก เสียงจากคอมยังดังอยู่ไม่ช้าภาพทุกจอก็ดับลง เสียงยังคงไม่เงียบลง ผ่านไปไม่ถึงห้าวินาทีหน้าจอทั้งหมดก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ภาพของทุกจอกลับเหมือนกัน ภาพสีสดของเมืองแรกในเกมส์ฟลิฟฟ์ปรากฏให้เห็น
“เฮ้ย!!!!”
ทุกคนต่างร้องอย่างตกใจ ไม่นานก็เกิดเหมือนหลุมดำเล็กๆ พร้อมกำลังลมมหาศาลพัดออกจากหลุมดำนั้น ตรงหน้าของเด็กสาวทั้งสอง ลมพักแรงไปทั่วร้านอย่างบ้าคลั่งความโกลาหลย่อยๆได้เกิดไปทั่ว หลายคนที่นั่งไม่ห่างประตูนักต่างวิ่งหนีเอาตัวรอดออกจากร้าน แต่เด็กสาวสองคนที่อยู่ตรงหน้าหลุมดำพอดีกลับไม่ขยับไปไหน หลุมกว้างขยายขึ้นเรื่อยๆ จนกว้างกว่าหนึ่งเซสติเมตร นอกจากเสียงลมไม่ช้าเสียงร้องอย่างค้างคาวก็ดังผ่านหลุมนั้นออกมาด้วย เหมือนเพิ่งรู้สึกตัว ต่างฉุดกันหลบไม่ห่างนัก
ปลายของอะไรบางอย่างโผล่พ้นหลุมดำออกมาเป็นสีออกน้ำเงิน พร้อมเสียงร้องของค้างคาว เด็กสาวทั้งสองตัวสั่นด้วยความไม่รู้ ไม่ช้าสัตว์ที่มีหน้าตาคล้ายมอนสเตอร์เลเวลหนึ่งในเกมส์ฟลิฟฟ์ที่ตนชอบเล่น ก็บินออกมาเต็มไปหมด ตามติดมาด้วยสัตว์ต่างๆออกมามากมาย ต่างมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ ทุกตัวเมื่อออกมาได้ก็ส่งเสียงคำรามก้องไปทั่ว สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับอีกหลายคนที่ติดอยู่ในร้านไปทั่ว หลายตัวเริ่มอาละวาดพังข้าวของ ก่อนจะเดินออกหน้าร้านไป เสียงกรี๊ดร้องจากภายนอกดังออกมาให้ได้ยิน จนพอจะทราบได้ว่าข้างนอกเป็นเช่นไร แม้จะกลัวแต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ต่างมองหน้ากันอย่างไม่รู้ซึ่งชะตาชีวิตตนเอง
ลมที่ยังคงพัดอย่างรุนแรงเริ่มอ่อนกำลังลง จากพัดออกเริ่มดูดเข้า เศษซากต่างๆปลิ่วห่างออกแล้วเริ่มหมุนวนเข้าสู่หลุมดำ แรงดูดเริ่มมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ แรงดูดเริ่มแรงขึ้นเด็กสาวทั้งสองที่อยู่หน้าสุดเริ่มหาที่เกาะ แต่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรเลย เมื่อแรงดูดนั้นมีมากจนไม่อาจจะทานได้อีก คนอื่นๆต่างไม่อาจช่วยเหลือใครได้ เสียงโวยวายขอความช่วยเหลือกันและกันดังแทรกแรงดึงดูด ไม่ช้ามือของทั้งสองก็หลุดออก ต่างไขว่คว้าได้กันและกันไว้ แรงดูดแรงและเร็วไม่ช้าทั้งคู่ก็หลุดเข้าไปยังหลุมดำกว้างขวางนั้น
ห่างไกลปากหลุมออกไปทุกที ความหวาดกลัวเข้าครอบคลุมจิตใจไปทั่ว มีเพียงมือที่คว้ากันไว้รับรู้ถึงเพื่อนร่วมชะตากรรม ดวงตาสองคู่ปิดลงอย่างไม่อาจห้ามใจได้ รับรู้เพียงกระแสลมที่พัดอยู่รอบตัว พาร่างทั้งสองจมดิ่งลึกลงไป ลึกจนไม่อาจคาดได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด ความกลัวทำให้กอดกระชับกันมากขึ้น คิดเพียงว่าอย่างไรก็มีเพื่อนที่กอดไว้นี้ไปด้วยกัน ต่างกอดกันไว้แนบแน่น ไม่ช้ากลับรู้สึกคล้ายมีมือของใครที่แข็งแรงแยกคนทั้งสองออกจากกัน และรับรู้ได้ว่าร่างตนกำลังต้านกระแสแรงดึงดูด ทวนออกไปยังทางที่เข้ามา แรงลมที่พัดตีสู่ใบหน้าทำให้หายใจได้ลำบากยิ่ง แทบจะทำให้หายใจไม่ออกเลยทีเดียว ความอึดอัดทำให้หาทางหลบหลีก
“อดทนหน่อย เดี๋ยวก็จะออกไปได้แล้ว เกาะเอาไว้ให้แน่นๆก็แล้วกัน”
เสียงหวานเอ่ยปลอบโยนเด็กสาวฝ่ากระแสลมแรงมาเข้าหู ลำแขนโอบกอดร่างเธอให้แน่นเข้า น้ำเสียงอ่อนหวานนุ่มนวลชักชวนให้เด็กสาวเชื่อใจผู้ที่ช่วยเหลือตน ใบหน้าแนบกับบ่าบางของใครคนนั้น แรงลมทำให้ไม่อาจจะลืมตาได้ เด็กสาวอดทนด้วยความหวังที่จะหลุดออกไปจากหลุมดำมืดนี้ ย้อนกลับไปยังที่เดิม และเชื่อว่าสิ่งที่พบเจออยู่นี้คือความฝัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
เอาเรื่องนี้มาเรียกน้ำย่อยไปก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวว่างๆจะเอามาลงเพิ่มให้อีก ขอคำติชมด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ความคิดเห็น