คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
แสงดาวพราวพร่างฟ้าในคืนที่ฟ้าไร้จันทร์ ไม่สามารถทำให้มองเห็นอะไรได้มากนัก ในคืนเช่นนี้แสงจากคบเพลิงและกองไฟที่วางไว้เป็นระยะไม่ห่างกันนัก เป็นตัวช่วยอย่างดีสำหรับทหารยามที่ยืนตามจุดต่างๆ และทหารเดินยามที่ถือคบไฟเดินตรวจไปรอบๆ ไม่มีใครสนใจอะไรมากนัก ด้วยคืนน้ก็ยังคงเป็นคืนที่เงียบสงบเช่นทุกๆคืนที่ผ่านมา เพียงสอดส่ายสายตาเพื่อระวังภัยที่อาจจะเกิดจากสัตว์ดุร้ายที่หลงเข้ามาใกล้ยังสถานที่สำคัญๆเท่านั้น ไม่มีใครคิดว่าจะมีเหตุการณือะไรแปลกจากทุกคืน แต่ในทันใดนั้นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดก็เกิดขึ้น แหวกความเงียบชวนนิทราให้ทุกคนต้องลุกขึ้นมาคว้าอาวุธประจำตัวมาถือไว้ด้วยความตกใจ ก่อนจะตั้งใจฟังเสียงที่เกิดนั้นว่าคือเสียงของอะไรกันแน่
เสียงปะทะของขุมพลังเวทย์อันแข็งแกร่งสองขุมกำลังปะทะกันอย่างรุนแรง ผสานกับเสียงดาบปะทะกันดังไปทั่วเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร หลายคนพยายามจะหาที่มาของเสียงนั้น ว่ามาจากทิศทางใดกันแน่ เด็กเล็กหลายคนตกใจร้องไห้กันระงมด้วยไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ไม่ช้าเสียงหนึ่งก็แหวกความสับสนอลหม่านขึ้นด้วยความตกใจยิ่ง
"เสียงจากปราสาทต้องห้าม"
ก่อนที่อีกหลายเสียงจะบอกต่อๆกันไป พร้อมทั้งเสียงฝีเท้าหลายคู่ที่เริ่มตรงไปยังจุดที่เกิดการปะทะนั้น
"ใช่ ปราสาทต้องห้าม รีบไปที่นั่นเร็ว"
"แจ้งสภาสูงด่วน"
"แจ้งท่านจ้าวเร็วเข้า เกิดเรื่องใหญ่แล้ว"
และอีกหลายเสียง ที่บอกข้อความในทำนองเดียวกันนี้ ก่อนที่จะตรงไปยังปราสามต้องห้าม ที่เสียงต่างๆค่อยๆเงียบลงเรื่อยๆ แต่ภายในใจของทุกคนกลับมีแต่ความกังวลที่มากขึ้นเป็นเงาตามตัวกับเสียง ที่ค่อยๆเงียบลงแม้ว่าจะเข้าใกล้สถานที่แห่งนั้นอยู่ทุกขณะ และเมื่อคนกลุ่มแรกไปถึงก็ต้องพบเพียงเศษตุ๊กตาปูนปั้นหลายตัวถูกทำลายกองทิ้งไว้เป็นจุดๆ อยู่ในระยะห่างจากตัวปราสาทที่ภายนอกต่างเห็นว่ามีความวิจิตงดงาม ประดับด้วยรูปปั้นรูปคนในท่าทางต่างๆ ถืออาวุธบ้าง เก็บอาวุธไว้ข้างตัวบ้าง ที่ถูกจัดวางไว้อย่างเพื่อรักษาตัวปราสาท และเพื่อความสวยงามไปในตัว และหากสังเกตุให้ดีจะเป็นร่องลึกเสมือนเคยมีคนฝังอยู่ครึ่งตัวในท่าต่างๆ และเพิ่งจะลุกจากไป จึงปรากฏเป็นร่องรูปร่างตัวคน ซึ่งหากจะมีใครนับร่องนั้นแล้วก็คงจะได้จำนวนเท่ากับเศษตุ๊กตาที่กองอยู่ห่างจากตัวปราสาทพอสมควร
ทุกคนที่มาถึงไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียวที่จะก้าวผ่านรั้วเหล็กดัด ที่ถูกสร้างไว้อย่างสวยงามเพื่อกั้นอาณาเขตที่สวยงามไม่แพ้ตัวปราสาทเข้าไปเลยสักคนเดียว ชั่วไม่นานชายชราท่าทางภูมิฐานก็ปรากฏตัวแหวกฝูงชนเข้าไป จนเป็นคนแรกหน้าฝูงชนทั้งหมด และเมื่อทุกคนเห็นว่าชายผู้นั้นเป็นใครต่างก็ก้มหัวทำความเคารพทันที แต่บุรุษผู้นั้นก็ตกตะลึงกับภาพที่เห็นและไม่รับรู้ถึงการทำความเคารพนั้นแม้แต่น้อย เขาเป็นเพียงผู้เดียวที่ก้าวผ่านรั้วเหล็กงดงามตรงเข้าไปยังตัวปราสาทนั้น แต่เขาก็เดินไปได้เพียงตุ๊กตาปูนตัวแรกสุดเท่านั้นก็มิอาจก้าวต่อไปได้อีกแล้ว ร่างนั้นเซถอยหลังมาสองสามก้าวก่อนจะสามารถตั้งตัวได้อีกครั้ง พลังบางอย่างผลักดันให้เขาออกห่างจากตัวปราสาทออกมา ผู้ที่อยู่เบื้อหลังต่างพึมพำกันด้วยความเป็นห่วง และเริ่มสบายใจอยู่เล็กน้อยว่า ไม่ว่าการปะทะนั้นจะเป็นของใครก็ตาม อย่างน้อยผู้บุกรุกนั้นจะไม่สามารถก้าวเข้าไปในปราสาทต้องห้ามได้
เพราะแม้แต่ประธานสภาสูงผู้มีอำนาจเป็นอันดับสอง ยังไม่อาจผ่านเข้าไปได้หากยังมิได้รับอนุญาตจากท่านจ้าวผู้มีอำนาจสูงสุด และแม้ว่าชายชราจะพยายามอีกหลายครั้งก็ยังไม่อาจก้าวผ่านไปได้มากกว่านี้ และหากจะดื้อดึงเข้าไปให้ได้ก็คงต้องผ่านการต่อสู้เหมือนผู้บุกรุกเป็นแน่ ในที่สุดชายชราจึงประกาศเรียก
"ดอน คาราโอ เจ้าจงไปแจ้งเรื่องต่อรีริ เชรีอา มีผู้บุกรุกปราสาทหมายจันทร์ แต่ทำการไม่สำเร็จ ทุกอย่างยังควบคุมได้ จงเดินทางโดยเร็วที่สุด"
ชายหนุ่มเจ้าของชื่อก้าวเข้ามารับคำสั่งอยู่เบื้องหลัง โดยพยายามไม่ก้าวข้ามผ่านรั้วเหล็กเข้าไป เมื่อคำสั่งสิ้นสุด ชายหนุ่มก็ก้มศีรษะรับคำก่อนจะแหวกผู้คนเดินห่างออกไป ทิ้งให้ผู้ออกคำสั่งและผู้คนที่เหลือเฝ้ามองสถานที่ต่อไป เมื่อชายหนุ่มจากไปได้ไม่นาน ชายชราก็หันกลับมาและประกาศด้วยเสียงดังอีกครั้งว่า
"จากนี้ไปให้เพิ่มเวรยามที่ปราสาทนี้ด้วย ให้ดูแลรอบๆเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้ปราสาทนี้แม้แต่คนเดียว พวกเจ้าไปพักกันได้แล้ว แต่ขอให้ทำตามคำสั่งของข้า จนกว่าท่านจ้าวจะมีคำสั่งใหม่มาถึง"
สิ้นเสียงคำสั่งทุกคนก็พร้อมใจกันก้มหัวรับคำ ส่วนสตรีก็ย่อตัวลงก่อนที่จะแยกย้ายกันไป แต่เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นย่อมเป็นที่แน่นอนว่าผู้คนคงไม่อาจหลับตากันได้ในทันที ชายชราเองก็เช่นเดียวกัน แม้จะออกคำสั่งไปเป็นที่เรียบร้อย แต่เขาก็มิได้กลับไปพักผ่อนต่อ แต่กลับเดินอ้อมวนรออบปราสาทเพื่อหาบางสิ่งบางอย่างต่อไป
ความคิดเห็น