รัก นิรันดร์
ความรัก ความผิด และการจากไปตลอดการ
ผู้เข้าชมรวม
554
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เสียงคลื่นซัดสาดเข้าหาหากทรายขาวสะอาด ท่ามกลางความสลัวลางของยามเช้า
เสียงคลื่นซัดสาดเข้าหาหากทรายขาวสะอาด ท่ามกลางความสลัวลางของยามเช้า ร่างบางของหญิงสาวคนหนึ่งครึ่งนั่งครึ่งนอนอิ่งอกกว่างของชายหนุ่มที่นั่งประคับประคองไว้ ใบหน้าหวานหลับตาพริ้มอย่งมีความสุข บอกได้ด้วยรอยยิ้มงดงามบนริมฝีปากบางได้รูปสีซีดดั่งคนป่วย ต่อเมื่อสังเกตให้ดีจึงเห็นได้ว่าใบหน้าหวานก็ซีดเซียวปราศจากสีเลือด ชายหนุ่มที่นั่งประคองอยู่นั้นเองแม้จะทอดตามองดูทะเลกว้าง แต่ดวงตาคู่คมก็มีแววห่วงใยอยู่ให้เห็น มือแกร่งโอบกระชับร่างบางแน่นขึ้น เหมือนจะเข้าใจมือบางยกขึ้นสัมผัสหลังมือนั้นอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยคำแม้จะอ่อนแรงว่า
“ชีวิตมีเกิดก็ต้องมีตาย จะห่วงอะไรคะ”
“แต่พี่ไม่อยากเห็นอ้อตาย อ้อยังอายุน้อยแค่นี้เอง ทำไมต้องตายด้วย”
ว่าพร้อมซบหน้าลงกับกลุ่มผมดำยาวนั้น น้ำตาลูกผู้ชายค่อยไหลรินอย่างเงียบๆ ตกลงบนศีรษะของร่างบาง คิ้วของหญิงสาวขมวดเข้าหากันก่อนจะลืมตามองภาพเบื่องหน้า เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมที่อยู่สูงขึ้นไป การขยับตัวนั้นทำให้เขาต้องขยับตาม ดวงตาคู่เล็กสลมองอย่างไม่พอใจกับหยาดน้ำตาที่เห็นอยู่นัก
“ร้องไห้หรือคะ ร้องทำไม”
“อ้อ พี่อยากตายแทนอ้อ” เขากล่าวขึ้น แต่มือบางยกขึ้นมาปิดปากได้รูปของเขาไว้ แต่ไม่นานก็ตกลงอย่งสิ้นแรง ทำได้เพียงพูดด้วยเสียงอ่อนๆว่า
“อย่าค่ะ อย่าพูดแบบนี้อ้อไม่อยากได้ยิน”
“อ้อ พี่ขอโทษ” เขาพูดพร้อมกระชับร่างบางเข้าแนบอก ซบซุกใบหน้าลงกับซอกคอขาวนวล
“เรื่องอะไรคะ” อ้อถามมือพยายามยกขึ้นกอดตอบเขา แต่ก็หาแรงที่จะยกมันขึ้นไม่ได้เลย
“พี่ไม่น่าทิ้งอ้อไปเลย ถ้าตอนนั้นพี่อยู่กับอ้อ อยู่ข้างๆอ้อ อ้อก็คงไม่เป็นแบบนี้”
“เรื่องมันผ่านไปแล้วช่างมันเถอะค่ะ พี่รู้ไหมคะ อ้อไม่คิดว่าจะได้กลับมาที่นี่อีก ตอนที่เราคบกันอ้อเคยคิดว่าจะกลับมาเที่ยวกับพี่ที่นี่อีกหลายๆครั้ง” หญิงสาวชวนเปลี่ยนเรื่อง
“ทำไมล่ะจ้ะ”
“อาจจะเพราะอ้อชอบทะเล แล้วที่นี่ก็เป็นทะเลที่แรกที่เรามาเที่ยวด้วยกัน ตอนนั้นอ้อต้องคิดอะไรหลายอย่าง ระวังหลายเรื่อง อ้อก็เลยอยากมากับพี่ แต่พอ... พี่ไปจากอ้อ อ้อก็เลยสัญญากับตัวเองว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก”
สีหน้าเศร้าสลดของเธอยามพูดยิ่งทำให้เขาเสียใจกับการกระทำของตัวเองมากขึ้น แต่ไม่นานใบหน้าซีดเซียวที่สลดลงก็กลับแย้มยิ้มให้เขาอีกครั้ง เขายิ้มตอบกลับไปเงียบๆ
“แต่ตอนนี้อ้อก็พอใจแล้วค่ะ ที่นี่มีอ้อมีพี่มีทุกคน อยู่ที่นี่ทะเลที่อ้อชอบ สบายจังค่ะ”
เธอสูดลมทะเลเข้าปอดลึกๆ เหมือนจะให้มันติดลมหายใจของเธอไปด้วย แม้การทำเช่นนั้นจะเป็นเรื่องยากลำบากอยู่มากก็ตาม คำพูดของเธอยิ่งทำให้เขารู้สึกแย่ยิ่งขึ้น ความคิดย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงที่เขารู้จัก เริ่มพอใจเธอ การขอคบทั้งที่ตัวเขาเองก็ยังมีแฟนอยู่ แต่เธอก็ให้โอกาสเขา เวลาที่อยู่ร่วมกันทุกตอน สถานที่แห่งนี้เธอและเขาได้เดินจับมือคู่กัน จนถึงการบอกเลิกของเขา หลังจากนั้นเขายังหลอกเธออีกหลายครั้ง เพื่อความพอใจของเขาเอง ยิ่งคิดความเสียใจก็ยิ่งแล่นขึ้นจุกลำคอ เขายังคำได้ร่างนี้เคยสมบูรณ์กว่านี้ แม้จะไม่อ้วนแต่ก็ไม่ผอมจนเหลือแต่กระดูกเช่นนี้ เวลานั้นเขายังจำได้ เธออาจจะดูอ้วนกว่าผู้หญิงร่างเล็กคนอื่นๆ แต่ในความเป็นจริง ร่างกายของเธอไม่ได้อ้วนเลยสักนิด ยิ่งมองร่างในอ้อมแขนเขาก็ยิ่งเสียใจที่ไม่ได้ดูแลเธอให้ดี
“อ้อ ลมแรงมากแล้วนะ เข้าไปนอนในห้องเถอะ”
“ยังหรอกค่ะ อ้อกำลังรู้สึกสบาย อยากจะนอนเล่นอีกหน่อย พี่ดูซิคะ พระอาทิตย์ขึ้นจากทะเลสวยออก” เวลานี้พระอาทิตย์ขึ้นจนจะพ้นทะเลอยู่แล้ว มันเป็นภาพที่ดูสวยพอสมควรเลยทีเดียว แต่กระแสลมที่พัดแรงอย่างนี้ ทำให้เขาเป็นห่วงที่ยิ่งขึ้น
“แต่ลมแรงมากแล้วนะอ้อ พี่ว่าอ้อกลับเขาไปดูจากในห้องดีไหม”
“อีกเดี๋ยว พระอาทิตย์ก็จะขึ้นหมดแล้ว อ้ออยากนอนอยู่ที่นี่มากกว่าค่ะ ขออ้อนอนที่นี่อีกหน่อยนะคะ อ้ออยากนอนดูทะเล ถ้าอ้อตายอ้ออยากอยู่ในทะเลจังค่ะ”
“ไม่เอานะอ้อ พี่ไม่อยากให้อ้อพูดเรื่องตายเลย พี่ไม่ชอบฟัง”
“หนีไม่พ้นหรอกค่ะ พี่ก็รู้พอๆกับอ้อ ไม่อยากฟังวันนี้แต่อีกไม่นานพี่ก็ต้องพบมันจากอ้ออยู่ดี”
“เอาเถอะ ถ้าอ้ออยากนอนตรงนี้อีกหน่อย พี่จะเข้าไปเอาผ้าห่มมาให้ดีกว่า”
แล้วโดยไม่รอฟังคำตอบเขาก็รีบก้าวเข้าไปในห้องพัก ห้องที่มีถึงสองชั้นเหมือนจะเป็นบ้านพักได้เลยทีเดียว ห้องสี่เตียงที่ถูกใช้เพียงสองของเขาและเธอ เขาเลือกที่จะพักห้องที่ใหญ่และมากเกินความจำเป็น เพราะเป็นความต้องการของหญิงสาวที่อยากจะทำทุกอย่างให้เหมือนเวลานั้น เวลาที่เขาและเธอมาพักผ่อนร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆ และห้องนี้คือห้องที่จะมองเห็นทะเลได้ถนัดที่สุด ในสขณะที่ห้องเล็กจะมองไม่เห็นทะเลเลย ทั้งที่ห้องดั่งกล่างมีเตียงพอให้เขาและเธอพักร่วมกันได้อย่างสบาย แต่ในตอนที่จะออกจากห้องนั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล”
ผู้ที่โทรมาก็คือบิดาของหญิงสาวนั่นเอง เขาต้องการถามอาการของเธอดู และชายหนุ่มก็ตอบกลับไป คุยกันอยู่เกือบสามสิบนาที เขาจึงรีบลงไปดูหญิงสาว ร่างบางยังคงนอนอยู่ที่เดิม ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มอย่างคนนอนหลับสนิท ใบหน้าหวานนิ่งสงบเช่นคนนอนหลับทั่วไป เขายิ้มอย่างเอ็นดูเธอ ก้าวเดินตรงไปหาเงียบๆ จนใกล้เขาเพิ่งสังเกตเห็น คราบน้ำตาที่หางตาของเธอ รอยยิ้มนั้นเหือดหายไปทันที เท้าก้าวเร็วตามใจคิด เธอนอนนิ่ง นิ่งเสียจนแทบไม่สามารถมองเห็นการหายใจได้เลย นั่นยิ่งทำให้เขากลัวจับใจ จากเดินเร็วเปลี่ยนเป็นวิ่ง ทั้งที่อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงตัว เขารีบคุกเข่าลงข้างร่างบาง ช้อนเธอให้เข้ามาอยู่ในวงแขน ร่างของเธอเย็นมากจากการโดนลมเย็นๆพัดอยู่นาน เย็นจนทำให้เขายิ่งเป็นห่วง
“อ้อ...อ้อ...อ้อ”
เขาพยายามเรียก แต่ไม่มีอาการใดตอบสนองเสียงของเขาแม้แต่น้อย ความกลัววิ่งเข้าจับทุกเส้นขน มือหนาลนลานจับข้อมือบาง เพื่อจะหาสัญญาณแห่งชีวิต เขาพยายามค้นหาหลายครั้ง จับข้อมือแล้วเปลี่ยนเป็นอังซอกคอ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่มีอะไรบ่งบอกถึงการมีชีวิตอยู่ของร่างในอ้อมกอดเลยแม้แต่น้อย นั่นยิ่งทำให้เขาลนลานมากขึ้น ปากพร่ำเรียกชื่อหญิงสาวไม่หยุด แล้วเขาก็ตัดสินใจช้อนร่างของเธอขึ้น วิ่งตรงสู่รถยนต์ส่วนตัวที่เขาเป็นผู้ขับพาเธอมาที่นี่ ตลอดทางจนถึงโรงพยาบาลเขาจับมือบางไว้แน่น ปากพร่ำเรียกเธอ หวังเพียงให้เธอลืมตาขึ้นมองเขาบ้าง แม้สักนิดก็ยังดี
“อ้อ อ้ออย่าเป็นอะไรนะ อย่าทิ้งพี่ไปนะอ้อ”
รถจอดหน้าโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเท่าที่เขาสำรวจไว้ ความเร็วของรถและการรีบเร่งของคนขับทำให้เจ้าหน้าที่พยาบาลรีบเข้าช่วยเหลือในทันที ร่างไร้สติถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินในทันที เขานั่งคอตกรอข่าวอยู่หน้าห้องนั้น ชายหนุ่มพยายามจะตามเข้าห้องฉุกเฉินไปด้วย แต่ถูกนางพยาบาลห้ามไว้เข้าจึงต้องมานั่งรออยู่หน้าห้อง อย่างไม่อาจทำอะไรได้ดีไปกว่านี้ คำพูดในสมัยก่อนก่อนที่เขาจะคบกับอ้อ จากรุ่นพี่คนหนึ่งในที่ทำงานพูดกับเขาไว้ ตามมาหลอกหลอนถึงความผิดที่เขากระทำอยู่ว่า
“รักอ้อจริงหรือเปล่า ถ้าแค่พอใจล่ะก็อย่างยุ่งกับน้องเขาเลย อ้อยังอ่อนต่อโลกตามใครไม่ทันหรอก ถ้าไม่ได้รักอย่าทำให้น้องเขาเสียใจดีกว่า”
แต่ตอนนั้นเขายังดื่อ ดื่อที่จะคบกับเธอและเพียงไม่นานทุกอย่างก็เป็นไปตามที่รุ่นพี่คนนั้นพูดเอาไว้ เขาทำให้เธอเสียใจ และเวลานี้เขาเองก็เสียใจไม่ต่างกัน กว่าครึ่งชั่วโมงกว่าคุณหมดที่เขาเห็นว่าเร่งร้อนเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินจะเดินออกมา เขากระเด้งตัวลุกด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เข้าประชิดร่างคุณหมอวัยหนุ่มคนนั้น แล้วถามทันทีว่า
“อ้อ อ้อเป็นยังไงบ้างครับ”
“เสียใจด้วยครับ คนไข้มาถึงโรงพยาบาลช้าเกินไป เธอเสียชีวิตก่อนจะมาถึงโรงพยาบาล หมอช่วยเธอไว้ไม่ทันครับ”
เขารู้สึกหมดแรงตั้งแต่ที่คุณหมดกล่าวคำเสียใจกับเขาแล้ว ขาแทบจะไม่มีแรงแม้แต่จะทรงตัวยืนให้ยืนอยู่ได้ ร่างกายสูงใหญ่ของเขาทรวนเซราวกับจะล้มลง ใบหน้าขาวซีดปราศจากสีเลือดดวงตามองไม่เห็นอะไรอีก เขาต้องลงนั่งเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุด ด้วยกลัวตัวเองจะล้มลงตรงนั้น หัวใจตืบตันแห้งผากราวกับไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ ความอึดอัดรัดแน่นอยู่ในอกของเขา หญิงสาวที่เขาทำร้ายจากเขาไปเสียแล้ว เขาเฝ้าโทษตัวเอง หากไม่ทิ้งเธอไปเธออาจจะไม่ตาย เขาคงส่งเธอเข้าโรงพยาบาลได้ทัน คงรักษาชีวิตเธอไว้ได้ แต่เขาก็ทิ้งเธอไว้ปล่อยให้เธอจากเขาไป โดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
เสียงคุณหมอถามเขา เมื่อเห็นอาการของเขาแบบนั้น ชายหนุ่มพูดไม่ออกตอบไม่ได้ ทำได้เพียงส่ายหน้าไปมาเท่านั้น และไม่ช้าคุณหมอก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้เขา กระดาษใบเล็กๆที่พับทบเอาไว้ กระดาษแผ่นนั้นมีรอยยับนิดหน่อย มันถูกยื่นมาตรงหน้าเขา แล้วตามมาด้วยคำพูดของคุณหมอท่านนั้นว่า
“พยาบาลพบมันในกระเป๋าของเธอ คิดว่ามันคงเป็นของคุณ ผมเลยเอามาให้”
เขารับมันมา โดยไม่ได้มองคุณหมอที่ส่งให้เขา เมื่อคุณหมอส่งกระดาษแผ่นนั้นให้เขาเรียบร้อย ก็แยกตัวเดินจากไป ทิ้งให้เขานั่งจมอยู่ที่นั่นเพียงคนเดียว เขาเปิดกระดาษแผ่นนั้นออกดู ข้อความแสนสั้นที่เขียนถึงเขาจริงๆ ข้อความจากรายมือของเธอเขายังพอจะจำได้
“รักนิรันดร์ จะรักพี่ตลอดไปค่ะ”
มันมีแค่นั้น แต่มันช่างแฝงไปด้วยอะไรหลายๆอย่าง ตอนนี้สมองของเขาขาวโพลนไปหมด เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรดี แล้วร่างของเธอก็ถูกบุรุษพยาบาลเข็นออกมา ผ่านหน้าของเขาที่ยังคงอึ้งกับสิ่งที่ได้รับรู้ คลื่นอารมบางอย่างที่เขาอธิบายไม่ได้กำลังถ่าโถมเข้าหาเขาอย่างไม่อาจจะตั้งตัว เขาผวาเข้าหาร่างที่ไร้วิญญาณนั้นอย่างไม่รู้สึกตัว ร่างกายสั่นเทิ้มไม่สามารถควบคุมไว้ได้ น้ำใสใสไหลรื่นขึ้นมาล้นทะลักจากเบ้าตา ดวงตาแดงก่ำมีน้ำใสขังคลอและหยดลงมาตามใบหน้าของเขา โดยที่ไม่คิดจะเช็ดและไม่คิดจะอายใคร ครั้งแรกในชีวิตของเขาที่ต้องเสียน้ำตาให้ใครคนหนึ่ง ไม่เคยมีสาวใดสักคนที่จะรักเขาได้มากเท่ากับเธอ นอกจากมารดาของเขา และไม่เคยมีหญิงใดที่จะทำให้เขาร้องไห้ได้ขนาดนี้ มือใหญ่ของเขาโอบร่างบางที่ปราศจากลมหายใจแล้วอยู่หน้าห้องฉุกเฉินนั่นเอง ปากหนาเม้มเข้าหากันจนเกือบเป็นเส้นตรง แม้กระนั้นก็ยังไม่อาจกลั้นน้ำตาให้ขังอยู่เพียงในดวงตาของเขาได้
เขากดใบหน้าเปื้อนน้ำตาลงกับกลุ่มผมของหญิงสาว โอบร่างของเธอเข้าแนบอกเป็นครั้งสุดท้าย ไม่เหลืออะไรให้เขาทำได้นอกไปจากนี้ ไม่เหลืออะไรที่จะมารอดูการชดใช้ของเขา เขาทำผิดต่อเธอมากมาย แต่อ้อก็ไม่อยู่เพื่อจะรอการชดเชยของเขา น้ำตาทำท่าว่าจะไม่หยุดไหลง่ายๆ เขาอยากตะโกนเรียกเธอให้ก้องโลก แต่ก้ทำไม่ได้ ทำได้เพียงส่งเธออยู่ตรงนี้เฝ้าสำนึกผิดไปอีกนานแสนนาน
ร่างบางของหญิงสาวคนหนึ่งครึ่งนั่งครึ่งนอนอิ่งอกกว่างของชายหนุ่มที่นั่งประคับประคองไว้ ใบหน้าหวานหลับตาพริ้มอย่งมีความสุข บอกได้ด้วยรอยยิ้มงดงามบนริมฝีปากบางได้รูปสีซีดดั่งคนป่วย ต่อเมื่อสังเกตให้ดีจึงเห็นได้ว่าใบหน้าหวานก็ซีดเซียวปราศจากสีเลือด ชายหนุ่มที่นั่งประคองอยู่นั้นเองแม้จะทอดตามองดูทะเลกว้าง แต่ดวงตาคู่คมก็มีแววห่วงใยอยู่ให้เห็น มือแกร่งโอบกระชับร่างบางแน่นขึ้น เหมือนจะเข้าใจมือบางยกขึ้นสัมผัสหลังมือนั้นอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยคำแม้จะอ่อนแรงว่า
“ชีวิตมีเกิดก็ต้องมีตาย จะห่วงอะไรคะ”
“แต่พี่ไม่อยากเห็นอ้อตาย อ้อยังอายุน้อยแค่นี้เอง ทำไมต้องตายด้วย”
ว่าพร้อมซบหน้าลงกับกลุ่มผมดำยาวนั้น น้ำตาลูกผู้ชายค่อยไหลรินอย่างเงียบๆ ตกลงบนศีรษะของร่างบาง คิ้วของหญิงสาวขมวดเข้าหากันก่อนจะลืมตามองภาพเบื่องหน้า เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมที่อยู่สูงขึ้นไป การขยับตัวนั้นทำให้เขาต้องขยับตาม ดวงตาคู่เล็กสลมองอย่างไม่พอใจกับหยาดน้ำตาที่เห็นอยู่นัก
“ร้องไห้หรือคะ ร้องทำไม”
“อ้อ พี่อยากตายแทนอ้อ” เขากล่าวขึ้น แต่มือบางยกขึ้นมาปิดปากได้รูปของเขาไว้ แต่ไม่นานก็ตกลงอย่งสิ้นแรง ทำได้เพียงพูดด้วยเสียงอ่อนๆว่า
“อย่าค่ะ อย่าพูดแบบนี้อ้อไม่อยากได้ยิน”
“อ้อ พี่ขอโทษ” เขาพูดพร้อมกระชับร่างบางเข้าแนบอก ซบซุกใบหน้าลงกับซอกคอขาวนวล
“เรื่องอะไรคะ” อ้อถามมือพยายามยกขึ้นกอดตอบเขา แต่ก็หาแรงที่จะยกมันขึ้นไม่ได้เลย
“พี่ไม่น่าทิ้งอ้อไปเลย ถ้าตอนนั้นพี่อยู่กับอ้อ อยู่ข้างๆอ้อ อ้อก็คงไม่เป็นแบบนี้”
“เรื่องมันผ่านไปแล้วช่างมันเถอะค่ะ พี่รู้ไหมคะ อ้อไม่คิดว่าจะได้กลับมาที่นี่อีก ตอนที่เราคบกันอ้อเคยคิดว่าจะกลับมาเที่ยวกับพี่ที่นี่อีกหลายๆครั้ง” หญิงสาวชวนเปลี่ยนเรื่อง
“ทำไมล่ะจ้ะ”
“อาจจะเพราะอ้อชอบทะเล แล้วที่นี่ก็เป็นทะเลที่แรกที่เรามาเที่ยวด้วยกัน ตอนนั้นอ้อต้องคิดอะไรหลายอย่าง ระวังหลายเรื่อง อ้อก็เลยอยากมากับพี่ แต่พอ... พี่ไปจากอ้อ อ้อก็เลยสัญญากับตัวเองว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก”
สีหน้าเศร้าสลดของเธอยามพูดยิ่งทำให้เขาเสียใจกับการกระทำของตัวเองมากขึ้น แต่ไม่นานใบหน้าซีดเซียวที่สลดลงก็กลับแย้มยิ้มให้เขาอีกครั้ง เขายิ้มตอบกลับไปเงียบๆ
“แต่ตอนนี้อ้อก็พอใจแล้วค่ะ ที่นี่มีอ้อมีพี่มีทุกคน อยู่ที่นี่ทะเลที่อ้อชอบ สบายจังค่ะ”
เธอสูดลมทะเลเข้าปอดลึกๆ เหมือนจะให้มันติดลมหายใจของเธอไปด้วย แม้การทำเช่นนั้นจะเป็นเรื่องยากลำบากอยู่มากก็ตาม คำพูดของเธอยิ่งทำให้เขารู้สึกแย่ยิ่งขึ้น ความคิดย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงที่เขารู้จัก เริ่มพอใจเธอ การขอคบทั้งที่ตัวเขาเองก็ยังมีแฟนอยู่ แต่เธอก็ให้โอกาสเขา เวลาที่อยู่ร่วมกันทุกตอน สถานที่แห่งนี้เธอและเขาได้เดินจับมือคู่กัน จนถึงการบอกเลิกของเขา หลังจากนั้นเขายังหลอกเธออีกหลายครั้ง เพื่อความพอใจของเขาเอง ยิ่งคิดความเสียใจก็ยิ่งแล่นขึ้นจุกลำคอ เขายังคำได้ร่างนี้เคยสมบูรณ์กว่านี้ แม้จะไม่อ้วนแต่ก็ไม่ผอมจนเหลือแต่กระดูกเช่นนี้ เวลานั้นเขายังจำได้ เธออาจจะดูอ้วนกว่าผู้หญิงร่างเล็กคนอื่นๆ แต่ในความเป็นจริง ร่างกายของเธอไม่ได้อ้วนเลยสักนิด ยิ่งมองร่างในอ้อมแขนเขาก็ยิ่งเสียใจที่ไม่ได้ดูแลเธอให้ดี
“อ้อ ลมแรงมากแล้วนะ เข้าไปนอนในห้องเถอะ”
“ยังหรอกค่ะ อ้อกำลังรู้สึกสบาย อยากจะนอนเล่นอีกหน่อย พี่ดูซิคะ พระอาทิตย์ขึ้นจากทะเลสวยออก” เวลานี้พระอาทิตย์ขึ้นจนจะพ้นทะเลอยู่แล้ว มันเป็นภาพที่ดูสวยพอสมควรเลยทีเดียว แต่กระแสลมที่พัดแรงอย่างนี้ ทำให้เขาเป็นห่วงที่ยิ่งขึ้น
“แต่ลมแรงมากแล้วนะอ้อ พี่ว่าอ้อกลับเขาไปดูจากในห้องดีไหม”
“อีกเดี๋ยว พระอาทิตย์ก็จะขึ้นหมดแล้ว อ้ออยากนอนอยู่ที่นี่มากกว่าค่ะ ขออ้อนอนที่นี่อีกหน่อยนะคะ อ้ออยากนอนดูทะเล ถ้าอ้อตายอ้ออยากอยู่ในทะเลจังค่ะ”
“ไม่เอานะอ้อ พี่ไม่อยากให้อ้อพูดเรื่องตายเลย พี่ไม่ชอบฟัง”
“หนีไม่พ้นหรอกค่ะ พี่ก็รู้พอๆกับอ้อ ไม่อยากฟังวันนี้แต่อีกไม่นานพี่ก็ต้องพบมันจากอ้ออยู่ดี”
“เอาเถอะ ถ้าอ้ออยากนอนตรงนี้อีกหน่อย พี่จะเข้าไปเอาผ้าห่มมาให้ดีกว่า”
แล้วโดยไม่รอฟังคำตอบเขาก็รีบก้าวเข้าไปในห้องพัก ห้องที่มีถึงสองชั้นเหมือนจะเป็นบ้านพักได้เลยทีเดียว ห้องสี่เตียงที่ถูกใช้เพียงสองของเขาและเธอ เขาเลือกที่จะพักห้องที่ใหญ่และมากเกินความจำเป็น เพราะเป็นความต้องการของหญิงสาวที่อยากจะทำทุกอย่างให้เหมือนเวลานั้น เวลาที่เขาและเธอมาพักผ่อนร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆ และห้องนี้คือห้องที่จะมองเห็นทะเลได้ถนัดที่สุด ในสขณะที่ห้องเล็กจะมองไม่เห็นทะเลเลย ทั้งที่ห้องดั่งกล่างมีเตียงพอให้เขาและเธอพักร่วมกันได้อย่างสบาย แต่ในตอนที่จะออกจากห้องนั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล”
ผู้ที่โทรมาก็คือบิดาของหญิงสาวนั่นเอง เขาต้องการถามอาการของเธอดู และชายหนุ่มก็ตอบกลับไป คุยกันอยู่เกือบสามสิบนาที เขาจึงรีบลงไปดูหญิงสาว ร่างบางยังคงนอนอยู่ที่เดิม ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มอย่างคนนอนหลับสนิท ใบหน้าหวานนิ่งสงบเช่นคนนอนหลับทั่วไป เขายิ้มอย่างเอ็นดูเธอ ก้าวเดินตรงไปหาเงียบๆ จนใกล้เขาเพิ่งสังเกตเห็น คราบน้ำตาที่หางตาของเธอ รอยยิ้มนั้นเหือดหายไปทันที เท้าก้าวเร็วตามใจคิด เธอนอนนิ่ง นิ่งเสียจนแทบไม่สามารถมองเห็นการหายใจได้เลย นั่นยิ่งทำให้เขากลัวจับใจ จากเดินเร็วเปลี่ยนเป็นวิ่ง ทั้งที่อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงตัว เขารีบคุกเข่าลงข้างร่างบาง ช้อนเธอให้เข้ามาอยู่ในวงแขน ร่างของเธอเย็นมากจากการโดนลมเย็นๆพัดอยู่นาน เย็นจนทำให้เขายิ่งเป็นห่วง
“อ้อ...อ้อ...อ้อ”
เขาพยายามเรียก แต่ไม่มีอาการใดตอบสนองเสียงของเขาแม้แต่น้อย ความกลัววิ่งเข้าจับทุกเส้นขน มือหนาลนลานจับข้อมือบาง เพื่อจะหาสัญญาณแห่งชีวิต เขาพยายามค้นหาหลายครั้ง จับข้อมือแล้วเปลี่ยนเป็นอังซอกคอ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่มีอะไรบ่งบอกถึงการมีชีวิตอยู่ของร่างในอ้อมกอดเลยแม้แต่น้อย นั่นยิ่งทำให้เขาลนลานมากขึ้น ปากพร่ำเรียกชื่อหญิงสาวไม่หยุด แล้วเขาก็ตัดสินใจช้อนร่างของเธอขึ้น วิ่งตรงสู่รถยนต์ส่วนตัวที่เขาเป็นผู้ขับพาเธอมาที่นี่ ตลอดทางจนถึงโรงพยาบาลเขาจับมือบางไว้แน่น ปากพร่ำเรียกเธอ หวังเพียงให้เธอลืมตาขึ้นมองเขาบ้าง แม้สักนิดก็ยังดี
“อ้อ อ้ออย่าเป็นอะไรนะ อย่าทิ้งพี่ไปนะอ้อ”
รถจอดหน้าโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเท่าที่เขาสำรวจไว้ ความเร็วของรถและการรีบเร่งของคนขับทำให้เจ้าหน้าที่พยาบาลรีบเข้าช่วยเหลือในทันที ร่างไร้สติถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินในทันที เขานั่งคอตกรอข่าวอยู่หน้าห้องนั้น ชายหนุ่มพยายามจะตามเข้าห้องฉุกเฉินไปด้วย แต่ถูกนางพยาบาลห้ามไว้เข้าจึงต้องมานั่งรออยู่หน้าห้อง อย่างไม่อาจทำอะไรได้ดีไปกว่านี้ คำพูดในสมัยก่อนก่อนที่เขาจะคบกับอ้อ จากรุ่นพี่คนหนึ่งในที่ทำงานพูดกับเขาไว้ ตามมาหลอกหลอนถึงความผิดที่เขากระทำอยู่ว่า
“รักอ้อจริงหรือเปล่า ถ้าแค่พอใจล่ะก็อย่างยุ่งกับน้องเขาเลย อ้อยังอ่อนต่อโลกตามใครไม่ทันหรอก ถ้าไม่ได้รักอย่าทำให้น้องเขาเสียใจดีกว่า”
แต่ตอนนั้นเขายังดื่อ ดื่อที่จะคบกับเธอและเพียงไม่นานทุกอย่างก็เป็นไปตามที่รุ่นพี่คนนั้นพูดเอาไว้ เขาทำให้เธอเสียใจ และเวลานี้เขาเองก็เสียใจไม่ต่างกัน กว่าครึ่งชั่วโมงกว่าคุณหมดที่เขาเห็นว่าเร่งร้อนเดินเข้าไปในห้องฉุกเฉินจะเดินออกมา เขากระเด้งตัวลุกด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เข้าประชิดร่างคุณหมอวัยหนุ่มคนนั้น แล้วถามทันทีว่า
“อ้อ อ้อเป็นยังไงบ้างครับ”
“เสียใจด้วยครับ คนไข้มาถึงโรงพยาบาลช้าเกินไป เธอเสียชีวิตก่อนจะมาถึงโรงพยาบาล หมอช่วยเธอไว้ไม่ทันครับ”
เขารู้สึกหมดแรงตั้งแต่ที่คุณหมดกล่าวคำเสียใจกับเขาแล้ว ขาแทบจะไม่มีแรงแม้แต่จะทรงตัวยืนให้ยืนอยู่ได้ ร่างกายสูงใหญ่ของเขาทรวนเซราวกับจะล้มลง ใบหน้าขาวซีดปราศจากสีเลือดดวงตามองไม่เห็นอะไรอีก เขาต้องลงนั่งเก้าอี้ตัวที่ใกล้ที่สุด ด้วยกลัวตัวเองจะล้มลงตรงนั้น หัวใจตืบตันแห้งผากราวกับไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ ความอึดอัดรัดแน่นอยู่ในอกของเขา หญิงสาวที่เขาทำร้ายจากเขาไปเสียแล้ว เขาเฝ้าโทษตัวเอง หากไม่ทิ้งเธอไปเธออาจจะไม่ตาย เขาคงส่งเธอเข้าโรงพยาบาลได้ทัน คงรักษาชีวิตเธอไว้ได้ แต่เขาก็ทิ้งเธอไว้ปล่อยให้เธอจากเขาไป โดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
เสียงคุณหมอถามเขา เมื่อเห็นอาการของเขาแบบนั้น ชายหนุ่มพูดไม่ออกตอบไม่ได้ ทำได้เพียงส่ายหน้าไปมาเท่านั้น และไม่ช้าคุณหมอก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้เขา กระดาษใบเล็กๆที่พับทบเอาไว้ กระดาษแผ่นนั้นมีรอยยับนิดหน่อย มันถูกยื่นมาตรงหน้าเขา แล้วตามมาด้วยคำพูดของคุณหมอท่านนั้นว่า
“พยาบาลพบมันในกระเป๋าของเธอ คิดว่ามันคงเป็นของคุณ ผมเลยเอามาให้”
เขารับมันมา โดยไม่ได้มองคุณหมอที่ส่งให้เขา เมื่อคุณหมอส่งกระดาษแผ่นนั้นให้เขาเรียบร้อย ก็แยกตัวเดินจากไป ทิ้งให้เขานั่งจมอยู่ที่นั่นเพียงคนเดียว เขาเปิดกระดาษแผ่นนั้นออกดู ข้อความแสนสั้นที่เขียนถึงเขาจริงๆ ข้อความจากรายมือของเธอเขายังพอจะจำได้
“รักนิรันดร์ จะรักพี่ตลอดไปค่ะ”
มันมีแค่นั้น แต่มันช่างแฝงไปด้วยอะไรหลายๆอย่าง ตอนนี้สมองของเขาขาวโพลนไปหมด เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรดี แล้วร่างของเธอก็ถูกบุรุษพยาบาลเข็นออกมา ผ่านหน้าของเขาที่ยังคงอึ้งกับสิ่งที่ได้รับรู้ คลื่นอารมบางอย่างที่เขาอธิบายไม่ได้กำลังถ่าโถมเข้าหาเขาอย่างไม่อาจจะตั้งตัว เขาผวาเข้าหาร่างที่ไร้วิญญาณนั้นอย่างไม่รู้สึกตัว ร่างกายสั่นเทิ้มไม่สามารถควบคุมไว้ได้ น้ำใสใสไหลรื่นขึ้นมาล้นทะลักจากเบ้าตา ดวงตาแดงก่ำมีน้ำใสขังคลอและหยดลงมาตามใบหน้าของเขา โดยที่ไม่คิดจะเช็ดและไม่คิดจะอายใคร ครั้งแรกในชีวิตของเขาที่ต้องเสียน้ำตาให้ใครคนหนึ่ง ไม่เคยมีสาวใดสักคนที่จะรักเขาได้มากเท่ากับเธอ นอกจากมารดาของเขา และไม่เคยมีหญิงใดที่จะทำให้เขาร้องไห้ได้ขนาดนี้ มือใหญ่ของเขาโอบร่างบางที่ปราศจากลมหายใจแล้วอยู่หน้าห้องฉุกเฉินนั่นเอง ปากหนาเม้มเข้าหากันจนเกือบเป็นเส้นตรง แม้กระนั้นก็ยังไม่อาจกลั้นน้ำตาให้ขังอยู่เพียงในดวงตาของเขาได้
เขากดใบหน้าเปื้อนน้ำตาลงกับกลุ่มผมของหญิงสาว โอบร่างของเธอเข้าแนบอกเป็นครั้งสุดท้าย ไม่เหลืออะไรให้เขาทำได้นอกไปจากนี้ ไม่เหลืออะไรที่จะมารอดูการชดใช้ของเขา เขาทำผิดต่อเธอมากมาย แต่อ้อก็ไม่อยู่เพื่อจะรอการชดเชยของเขา น้ำตาทำท่าว่าจะไม่หยุดไหลง่ายๆ เขาอยากตะโกนเรียกเธอให้ก้องโลก แต่ก้ทำไม่ได้ ทำได้เพียงส่งเธออยู่ตรงนี้เฝ้าสำนึกผิดไปอีกนานแสนนาน
ผลงานอื่นๆ ของ วรกัญญา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ วรกัญญา
ความคิดเห็น