ตอนที่ 7 : ARCI : มายาสีคราม-6-
บทที่6
ในห้องที่มืดสนิท เฉินเหวินฮั่วกำลังกรอกสุรารสขมปร่าลงคอ การจากไปของหญิงคนรักรวดเร็วเกินกว่าที่เขาจะทำใจยอมรับมันได้ ดวงตาคมเลื่อนลอยยังคงมีน้ำตาไหลลงมาเรื่อยๆ อนาคตที่เขาวาดฝันไว้ หายไปกับตา
ภาพของหลันฮวาที่อยู่ในอ้อมกอดของเขายังคงฝังใจ ภาพที่กระบอกปืนสีดำอันนั้นถูกเล็งมาที่คนรัก เขาก็จำได้ติดตา มันราวกับเป็นภาพฝันร้าย ฝันร้าย และฝันร้ายซ้ำไปซ้ำมาในหัวของเขา
เหตุการณ์ที่หลันฮวาถูกลอบยิงเพิ่งผ่านไปได้แค่1วัน แต่มันก็มากพอที่จะทำให้โลกทั้งใบของเขาพังทลาย ดวงตาคมเลื่อนลงไปมองโทรศัพท์ที่กรีดร้องอยู่ หลายชั่วโมงมานี้มันขึ้นชื่อของใครหลายคน ทั้งเฟยหลางจี ทั้งเลขา ทั้งครอบครัวของเขา และยังมีจ้าวอวี้
แต่เขาไม่ยอมรับสายใครทั้งนั้น หลังจากนำร่างของหลันฮวาไปชันสูตรที่โรงพยาบาลเขาก็ปิดตายตัวเองอยู่ในห้องนี้ทันที เฉินเหวินฮั่วซุกใบหน้าลงกับเข่าที่ชันขึ้นมา ซุกซ่อนหยดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด
โลกนี้สำหรับเขา...มันพังทลายลงแล้ว
ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
เขาไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขารักเฟยหลันฮวาขนาดนี้ ขนาดที่พอไม่มีอีกฝ่าย เขาก็ไม่รู้ว่าจะหายใจต่อไปเพื่ออะไร เขาทรมานกับความหนาวเหน็บนี้เหลือเกิน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูรัวๆทำให้เฉินเหวินฮั่วรำคาญ เขาเมินเฉยก่อนจะยกสุราขึ้นดื่มอีกครั้ง เหอะ เละเทะสิ้นดี ทั้งโลกใบนี้ ทั้งตัวเขา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูยังดังไม่หยุด เสียงที่ตะโกนอยู่นอกประตูเป็นเสียงที่เขาคุ้นเคย เฉินเหวินฮั่วตัดสินใจเดินไปเปิดประตู เขามองสบตากับคนตรงหน้า ก่อนที่ร่างสูงจะโผเข้ากอดอีกฝ่ายแน่น คนถูกกอดดันร่างของเฉินเหวินฮั่วเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูลง
“ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับ ฮึก มันหนักเกินไปสำหรับผม ผมเจ็บไปหมดแล้วฮือ”เฉินเหวินฮั่วปล่อยโฮออกมาราวกับเด็กน้อย
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร”คนมาใหม่ตบหลังของเฉินเหวินฮั่วเป็นการปลอบใจ “มันหนักกับพวกเราจริงๆ...อาเฉิน”
“พี่เฟยครับ ผมไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้ว ผมไม่ไหวแล้ว”เฟยหลางจีที่ได้ยินแบบนั้น ก็อาศัยจังหวะที่เฉินเหวินฮั่วมองไม่เห็นยกยิ้มด้วยความสมใจ
“ไม่พูดแบบนั้นสิอาเฉิน หลันฮวาเป็นลูกสาวพี่นะ มันยากสำหรับพี่เหมือนกัน พี่เองก็เกินจะรับไหว”
“ฮึกๆฮือ”
“แต่พี่ยังไปจากโลกนี้ไม่ได้ เพราะอะไรรู้ไหมอาเฉิน”เฟยหลางจีดันตัวของเฉินเหวินฮั่วออก ร่างของคนทั้งสองสบตากัน
“...”
“เพราะว่าพี่ยังต้องทวงความยุติธรรมให้หลันฮวาลูกของพี่ยังไงล่ะ”คำพูดของเขาทำให้เฉินเหวินฮั่วมีท่าทีเปลี่ยนไป
“จริงด้วย หลันฮวาถูกคนลอบยิง พวกมันเป็นใคร พวกมันเป็นใครครับพี่”เฉินเหวินฮั่วคล้ายคนไม่ได้สติ เขาเขย่าแขนเฟยหลางจีอย่างคาดคั้น
ใช่ เขาจะต้องแก้แค้นให้คนรักของเขา คนรักของเขาต้องไม่ตายฟรีแล้วปล่อยให้พวกมันเสวยสุขกัน
“ไม่ยอม ไม่ยอม ไม่ยอม ไม่ยอม พวกแกจะมีควมสุขในขณะที่ฉันต้องทุกทรมานไม่ได้”เขาจะต้องกำจัดพวกมัน ใช่
“ฆ่ามัน ฆ่ามัน ฆ่ามัน”เฉินเหวินฮั่วพึมพำออกมาอย่างไร้สติ สองมือกุมจิกทึ้งเส้นผมคล้ายต่อสู้กับตัวเอง
เฟยหลางจีมองดูท่าทางนั้นด้วยความกระหยิ่ม เฉินเหวินฮั่ว...สมแล้วที่เป็นผลงานที่เขาภาคภูมิใจ
“อาเฉินใจเย็นๆ”เฟยหลางจีจับบ่าทั้งสองข้างของเฉินเหวินฮั่วเพื่อเรียกสติ “เฮ้อ พี่ก็ไม่อยากจะพูดหรอกว่าเป็นฝีมือใคร เพราะพี่ยังไม่มีหลักฐาน”
“พี่รู้สินะครับว่าเป็นใคร พี่บอกผมมาเถอะ ผมจะทำทุกทางเพื่อแก้แค้นให้หลันฮวา”
“ความสัมพันธ์ระหว่างอาเฉินกับลูกสาวพี่มีไม่กี่คนหรอกที่รู้ และคนพวกนั้นก็ไม่มีทางทำร้ายลูกของพี่หรอก...แต่ก็มีอยู่คนนึงไม่ใช่เหรออาเฉิน คนที่ไม่พอใจความสัมพันธ์ของพวกเธอ คนที่รักเธอมานาน คนที่มารู้ความสัมพันธ์ของเธอกับหลันฮวาโดยที่ไม่มีใครบอก เธอว่าเขาน่าสงสัยไหมล่ะ บางทีเขาอาจจะจ้างคนสะกดรอยตามเธอ แล้วถ้าเป็นแบบนั้นมันจะยากอะไร ถ้าเขาเปลี่ยนจากการจ้างคนสะกดรอยตาม...มาเป็นจ้างคนลอบสังหาร”
“...”เฉินเหวินหัวนิ่งไป จริงอย่างที่เฟยหลางจีพูด มีคนเดียวเท่านั้นที่ไม่พอใจกับความสัมพันธ์ของเขากับหลันฮวามากที่สุด ชื่อเดียวที่ปรากฏในความคิดของเขาก็คือ
...เสวี่ยอี้
“แย่แล้วครับโฮสต์”เสี่ยวหลันบินหน้าตื่นมาหาเขา จ้าวอวี้ลุกงัวเงียขึ้นจากเตียง
“มีอะไรเหรอเสี่ยวหลัน”
“ระบบจับสัญญาณแปลกๆได้ครับ พอลองตรวจสอบดู เลยเจอเรื่องใหญ่เข้าแล้วครับ ตอนนี้เฉินเหวินฮั่วooc100%แล้วครับ”คำบอกของเสี่ยวหลันทำให้จ้าวอวี้หน้าตื่น
“เป็นอย่างนี้ได้ยังไง”เขาสับสน “การตายของเฟยหลันฮวา จะต้องเป็นเรื่องนี้แน่ๆ”
ให้ตายเถอะ เขาอุตส่าห์คิดว่าพอหลันฮวาตายไปสักคน เส้นทางของตัวละครจะกลับเข้าที่เข้าทาง กลับกลายเป็นว่าทุกอย่างแย่กว่าเดิมจากที่มันโคตรแย่อยู่แล้ว
เฟยหลันฮวา ยัยผู้หญิงบ้านี่ตอนมีชีวิตอยู่ก็ทำตัวoocจนน่าสงสัย พอตายไปแล้วยังมาทำให้โลกปั่นป่วนกว่าเดิมอีก
“เราคงต้องรีบไปหาประธานเฉินแล้ว”เพราะพระเอกคือบุคคลที่พอoocเต็มตัวแล้ว โลกใบนี้พังทลายแน่ถ้ามันเป็นความต้องการของตัวเอก
จ้าวอวี้รีบวิ่งเข้าอาบน้ำแต่งตัวออกจากห้องด้วยสถิติความเร็วใหม่
แต่พอมาถึงคอนโดของเฉินเหวินฮั่วก็พบว่าอีกฝ่ายออกไปแล้ว จ้าวอวี้รีบต่อสายหาเลขาของชายหนุ่ม เพราะรู้ดีว่าถึงโทรหาประธานเฉินเองก็คงไม่รับ
[สวัสดีค่ะ]
“คุณเลขานี่ผมเองเสวี่ยอี้ ประธานเฉินตอนนี้อยู่ที่ไหน”
[วันนี้ท่านประธานไม่เข้าค่ะ ท่านแจ้งเอาไว้เพียงเท่านี้]
“ขอบใจมาก”จ้าวอวี้กดวางสายก่อนจะถอนหายใจออกมา เขาลองไปหาดูที่โรงพยาบาลซึ่งมีร่างของหลันฮวาอยู่แต่ก็ไม่พบ
จ้าวอวี้ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ของโรงพยาบาล เริ่มเดาไม่ถูกแล้วว่าเรื่องทุกอย่างจะเป็นเช่นไร
“เป็นยังไงบ้างเสี่ยวหลัน หาตัวเขาเจอบ้างไหม”
“ไม่เลยครับโฮสต์ แปลกมา สัญญาณของเฉินเหวินฮั่วหายไปตั้งแต่เช้าแล้วครับ”
“ไม่ใช่ว่าตายไปแล้วนะ”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ระบบแม่คงแจ้งมาแล้วครับ เพราะสมดุลโลกจะเสีย”
จ้าวอวี้ตามหาประธานเฉินไปทั่วทุกที่ที่คิดว่าเขาจะไป แต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งตะวันลับฟ้าเขาจึงทอดถอนหายใจออกมาเป็นครั้งที่ร้อย ขายาวก้าวออกจากรถ ในโรงจอดรถวันนี้มืดผิดปกติ คงจะไปเสียล่ะมั้ง
ร่างโปร่งยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีใครบางคนมาซ้อนด้านหลังพร้อมกับของมีคมเย็นเยียบ
“อยู่นิ่งๆ”เสียงทุ้มที่เขาพอจะจำได้ ทำให้จ้าวอวี้รู้ได้ทันทีว่าคนๆนั้นคือคนที่เขาออกตามหามาทั้งวัน
“ฮะๆ นี่มันอะไรกันครับพี่เฉิน”
“มึงสินะ ที่ฆ่าคนรักของกู”จ้าวอวี้ยกยิ้ม เดาได้เลยว่าต้องเป็นฝีมือบัคตัวนั้นแน่ๆ
“ผมจะทำอย่างนั้นไปทำไมล่ะครับ ทำไปให้พี่มาใช้มีดจี้คอผมแบบนี้รึไง”คำพูดของเขาแม้จะฟังดูสบายๆ แต่ดวงตากลับกลอกไปมาอย่างครุ่นคิด แน่นอนว่าระบบที่รักนอกจากกลิ้งไปกลิ้งมาก็ทำประโยชน์อะไรไม่ได้
ดูอย่างตอนนี้สิ นอกจากทำหน้าจะเป็นจะตายแล้วช่วยอะไรเขาได้บ้างล่ะ
“มึงคงคิดว่ากูไม่รู้ คิดจะใช้ช่วงที่กูล้มมาหลอกใช้กูสินะ”จ้าวอวี้อยากจะหัวเราะ คนที่หลอกใช้ประธานเฉินน่ะไม่ใช่เขาแต่เป็นเจ้าบัคบ้านั่นต่างหาก
ไอ้พระเอกเวรเอ๊ย
แรงกดปลายมีดมากขึ้นกว่าเดิมจนเลือดเริ่มไหลซิบ เขาเองก็อยากจะจบเรื่องๆบ้าๆนี่ซักที
จ้าวอวี้วิ่งหอบหน้าตื่นออกมาจากลานจอดรถ น่าแปลกที่ผู้คนมากมายในเวลาปกติ เวลานี้กลับไม่เห็นสักคน แถมวันนี้ยังเป็นวันที่ฟ้าปิด หน้าคอนโดของเขามืดมากจนแทบมองไม่เห็น
“ใครก็ได้!....ใครก็ช่วยด้วย”จ้าวอวี้ตะโกนออกมาเสียงสั่นน้ำตาไหลอาบแก้ม “ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย”จ้าวอวี้ยังคงวิ่งสุดฝีเท้า วิ่งอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนกระทั่งรู้ตัวอีกที รอบกายของเขาก็กลายเป็นซอยเปลี่ยวที่ไม่รู้จัก
จ้าวอวี้สะดุดก้อนหินล้มจนหน้าคว่ำ ร่างของเขาสั่นระริก
“เจ็บ ฮึกทำไมผมต้องมาเจอโลกบ้าๆนี่ด้วย”จ้าวอวี้ร่ำไห้ กำปั้นทุบลงกับพื้นอย่างเจ็บปวดระคนเคียดแค้น ทันใดนั้นเองสายตาของเขาก็เห็นรองเท้าหนังสีดำของใครบางคนที่เดินมาหยุดตรงหน้าเขา จ้าวอวี้เงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ยืนค้ำหัวของเขา ก่อนที่ร่างเล็กจะยิ้ม
“ประธานเฟย ช่วยผมด้วย ช่วยด้วย ฮึกๆ”จ้าวอวี้ร่ำร้องขอความช่วยเหลืออย่างน่าสงสาร ประธานเฟยย่อตัวลงจนใบหน้าของพวกเขาเสมอกัน มือสากยกขึ้นมาลูบใบหน้าของเขาช้าๆ ดวงตาสีดำจ้องลึกเข้ามาในตาของจ้าวอวี้
“เป็นอะไรไป เสวี่ยอี้”
“ฮึกๆ ประธานเฉินไม่รู้เป็นอะไร เขาใช้มีดมาไล่ฆ่าผม ผมหนีมาได้ ฮือ ผมกลัวมาก กลัวมากเลยครับ”จบประโยคร่างของจ้าวอวี้ก็โผเข้ากอดร่างของประธานเฟย
เฟนหลางจีแสยะยิ้มร้าย...ดูเหมือนคราวนี้เขาจะเป็นฝ่ายชนะแล้วสินะ
ฉึก
ความเจ็บปวดที่หลังทำให้เฟยหลางจีชะงักไป ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างตกใจ ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาลอยมาตามลม
“มันจบแล้ว คุณบัคตัวร้าย J”
แรงกดปลายมีดมากขึ้นกว่าเดิมจนเลือดเริ่มไหลซิบ เขาเองก็อยากจะจบเรื่องๆบ้าๆนี่ซักที
“ยังมีอยู่หนึ่งคำถามที่ผมอยากจะถามพี่ก่อนตาย”
“อะไร”
“อะไรทำให้พี่รักเฟยหลันฮวาจนบ้าคลั่งขนาดนี้”คำถามของจ้าวอวี้ทำให้ประธานเฉินนิ่งไป จ้าวอวี้รู้ได้ทันทีว่าคงเป็นฝีมือบัคตัวนั้นอีกเช่นกัน
เหอะ เก่งจังนะ (╬ಠ益ಠ)
“ตอบไม่ได้งั้นสินะ งั้นผมจะตอบให้...”ยังไม่ทันจบประโยค จ้าวอวี้ก็อาศัยจังหวะที่เฉินเหวินฮั่วเผลอ หันกลับไปเตะข้อมือของอีกฝ่ายจนมีดกระเด็น ประธานเฉินและจ้าวอวี้รีบวิ่งไปแย่ง เป็นจ้าวอวี้ที่เข้าถึงมีดได้ก่อน
“มึงเล่นลูกไม้กับกูสินะ!”ประธานเฉินกัดฟันกรอด กำหมัดแน่นด้วยความแค้นใจ จ้าวอวี้เพิ่งได้เห็นสภาพของอีกคนชัดๆ อย่างกับคนละคนกับตอนแรกที่เขาเจอ
แอบยกย่องเจ้าบัคบ้านั่นไม่น้อย ที่กล้ามาเปลี่ยนแปลงตัวละครภายใต้จมูกของเขา
“ลูกไม้เหรอ ผมไม่มีหรอก”จ้าวอวี้แสยะ “แต่ขอบคุณพี่นะที่ทำให้ผมคิดอะไรดีๆออก”
“กูจะฆ่ามึง!”ดูเหมือนประธานเฉินจะขาดสติไปแล้วจริงๆ ถึงได้ใจกล้าบ้าบิ่นวิ่งมาหวังจะทำร้ายคนถือมีดแบบเขา
“โฮสต์ระวังนะครับ”เสี่ยวหลันลุกลี้ลุกลน คงอยากช่วยอะไรมากกว่านี้
จ้าวอวี้แสยะยิ้ม น่าเสียดายที่ฆ่าพระเอกของโลกนี้ไม่ได้ ไม่งั้นมีดคนกริบเล่มนี้คงได้ลิ้มรสเลือดสดๆ เขาอาศัยความเร็วพุ่งตัวเข้าไปหาประธานเฉิน ก่อนจะใช้กำปั้นทุบไปที่ท้ายทอยของคนตัวสูง ร่างของเฉินเหวินฮั่วสลบไปทันที
“เฮ้อ ดีนะครับที่โฮสต์ไม่เป็นอะไร”เสี่ยวหลันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“เฮ้อ ถึงร่างนี้จะปวกเปียกไปหน่อย แต่นายอย่าลืมสิเสี่ยวหลันว่าผมผ่านโลกมาตั้งเท่าไหร่ ศิลปะป้องกันตัวยังไงก็ต้องดีกว่าประธานเฉินอยู่แล้ว”
“แล้วเราจะเอายังไงต่อไปดีครับโฮสต์ ต่อไปนี้การดำเนินชีวิตในโลกนี้จะยากขึ้นกว่าเดิมแน่”
“หึ ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วล่ะ เพราะพวกเราจะวิ่งไปหาเจ้าบัคบ้านั่นอย่างสุดกำลังเลยล่ะ”จ้าวอวี้แสยะยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะเหน็บมีดเอาไว้ซ่อนจากสายตาคนทั่วไป
“ไปจบเรื่องนี้กันเถอะเสี่ยวหลัน”
________________________
ปั่นรัวๆๆๆๆ พรุ่งนี้ตอนจบของภาคหนึ่ง
โลกต่อไปยังไม่คิดเลยว่าไปไหนดี555
________________________
---------ช่วงเฉลยคนร้าย555----------
------เจ้าบัคนี่มันร้าย อยากให้ลูกฉันกอดล่ะสิ หึ--------
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เอาผิดไมเป็นไรไรท์แต่งสนุกมากคะ
นี่น้องจะไม่ถามหน่อยหรอว่าทำไมว่าที่ผัวน้องถึงตามหาน้องอยู่?